แม้ว่าเธอจะไม่ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ป แต่เธอก็รู้ถึงความสำคัญของศาสตร์การหลอมยาที่มีต่อเหล่าตระกูลหลักของเมืองเจียงเฉิงนอกจากนี้ ด้วยอายุของฉินหมิง ระดับการบ่มเพาะของเขากลับไปถึงขั้นสูงระดับปรมาจารย์แล้ว นี่เขาจะต้องเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกวรยุทธที่หาได้ยากในรอบร้อยปีในหมู่คนรุ่นเยาว์ของเมืองเจียงเฉิงอย่างแน่นอน!เธออดไม่ได้ที่จะลอบยินดีในใจ ต้องขอบคุณตัวเองที่ในครั้งที่แล้วเธอเข้าไปแทรกกลางเรื่องนี้และทำให้นายท่านหลินบังคับแยกหลินหว่านชิงและฉินหมิงออกจากกันมิฉะนั้น เมื่อฉินหมิงกลายมาเป็นลูกเขยของตระกูลหลิน ด้วยความสามารถที่โดดเด่นของฉินหมิง มันจะเป็นภัยคุกคามต่อลูกชายของเธอในการขึ้นสืบทอดกิจการทั้งหมดของตระกูลหลินในอนาคตอย่างแน่นอน!“เหตุผลที่หว่านชิงเลิกกับฉินหมิง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นความรับผิดชอบของเราทั้งคู่”“อย่างไรก็ตาม เมื่อสักครู่นี้พ่อเพิ่งจะโน้มน้าวให้หว่านชิงกลับไปคืนดีกับฉินหมิงอีกครั้งและเธอจะไปหาเขาในวันพรุ่งนี้”“ฉันหวังว่าเรื่องนี้จะผ่านไปด้วยดี ไม่อย่างนั้นเราทั้งคู่จะซวยอย่างแน่นอน…”หลินเถิงฮุ่ยถอนหายใจ“คืนดีกันเหรอ?”“ทำไมต้องกลับไปคืนดีกันด
แสงเย็นในดวงตาของไป่จิ้งวาบผ่านไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็รีบปกปิดมันไว้อย่างรวดเร็ว……เช้าวันรุ่งขึ้นหลินหว่านชิงขับรถไปทางหมิงเหยากรุ๊ปเพียงลำพังเดิมทีเธอต้องการโทรหาฉินหมิงและขอให้ฉินหมิงออกมาพบ แต่เมื่อพิจารณาว่าเธอทำร้ายฉินหมิงอย่างลึกซึ้งเพียงใด เธอก็รู้สึกว่ามันจะเป็นการจริงใจมากกว่าหากเธอไปหาฉินหมิงด้วยตัวเองมาถึงด้านนอกตึกหมิงเหยากรุ๊ปหลินหว่านชิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยแม้ว่าเธอจะตัดสินใจเลือกกลับมาคืนดีกับฉินหมิงเมื่อวานนี้ แต่เมื่อเธอกำลังจะได้พบกับเขา ในใจของเธอก็กังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็อาย กลัวว่าฉินหมิงจะปฏิเสธเธอด้วยหลังจากเดินกลับไปกลับมา ลังเลอยู่สักพักในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าและเดินไปหายามที่เฝ้าประตูตึกหมิงเหยากรุ๊ปอยู่ในห้องทำงานของประธานก๊อกก๊อกก๊อก!มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น และเมื่อได้รับอนุญาตจากซูซินเหยา เลขาหลี่ก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปเมื่อเห็นว่าฉินหมิงไม่ได้อยู่ในห้องทำงาน และด้านหลังโต๊ะทำงานมีเพียงซูซินเหยานั่งอยู่เท่านั้น เลขาหลี่ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก "ประธานซูคะ ประธานฉินไม่อยู่เหรอคะ?"“อ้อ ฉินหมิงติดธุระเช้านี
“ฉินหมิงล่ะ เขาอยู่ที่ไหน?”หลินหว่านชิงเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบเมื่อเห็นว่าฉินหมิงดูเหมือนจะไม่อยู่ เดิมทีเธออยากจะหันหลังกลับและจากไปทันทีอย่างไรก็ตาม ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าที่จะมาขอคืนดีกับฉินหมิงในวันนี้ เธอจึงไม่เต็มใจเล็กน้อยที่จะทำแบบนั้น ตราบเท่าที่ยังไม่มีผลลัพธ์อะไร“เธอไม่ต้องสนหรอกว่าฉินหมิงอยู่ที่ไหน ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอกับเขาเลิกกันมาตั้งนานแล้ว เธอมาหาเขาที่นี่ทำไม?”ซูซินเหยาพูดอย่างระวังตัว“ฉันมาหาเขาทำไม? เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?”หลินหว่านชิงพูดอย่างเย็นชา เธอฟื้นท่าทีที่สูงส่งและเยือกเย็นของเธอกลับมาอีกครั้ง“หลินหว่านชิงอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเธอคืออะไร ถ้าฉันเดาถูก เธอคงมาหาฉินหมิงเพื่อที่จะขอกลับมาคืนดีกับเขาสินะ?”ซูซินเหยาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชามากในงานเปิดตัวขาย ตระกูลใหญ่หลายตระกูลในเมืองเจียงเฉิงแย่งกันเพื่อเอาชนะใจฉินหมิง ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงตระกูลหลินด้วยตระกูลหลินเพิ่งสูญเสียผลประโยชน์ไป จากนั้นในพริบตาหลินหว่านชิงเป็นฝ่ายแจ้นมาหาฉินหมิงถึงบริษัท จุดประสงค์ของเธอมันก็ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว ถ้าไม่มาเพื่อดึงตัวคน ก็มา
เพื่อที่จะปัดเป่าความคิดของหลินหว่านชิงที่จะกลับมาคืนดีกับฉินหมิงและเพื่อทำให้หลินหว่านชิงยอมแพ้โดยสิ้นเชิง เธอจึงกดหมายเลขโทรศัพท์ของฉินหมิงอย่างเงียบ ๆ หลังจากเชื่อมต่อสายแล้ว เธอก็กดปุ่มเปิดลำโพง“เฮ้ ซินเหยา คุณต้องการอะไรจากผมเหรอ?”เสียงของฉินหมิงมาจากโทรศัพท์“ฉินหมิง คุณยังจำครั้งก่อนที่เราสองคนเช็คอินที่โรงแรมในเมืองหลัวไห่ และนอนด้วยกันบนเตียงเดียวกันในคืนนั้นได้หรือเปล่า?”ซูซินเหยาถามอย่างคลุมเครือ เธอจงใจเน้นคำว่า 'นอนเตียงเดียวกัน' เพื่อให้หลินหว่านชิงได้ยินชัดเจนยิ่งขึ้น“จำได้ คุณ...ทำไมจู่ ๆ ถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?”เสียงของฉินหมิงดังขึ้นขณะนี้เขากำลังหลอมยามังกรซ่อนอยู่บนภูเขาด้านหลังตระกูลซู คำถามที่คลุมเคลือของซูซินเหยาทำให้เขาสับสนมาก เขาจึงตอบสนองไม่ได้เล็กน้อยยิ่งไปกว่านั้น การที่เขานอนเตียงเดียวกับซูซินเหยาตลอดทั้งคืนในโรงแรมในเมืองหลัวไห่เป็นข้อเท็จจริงและเขาไม่อาจปฏิเสธได้เปิดห้อง? นอนด้วยกันเหรอ?หลินหว่านชิงเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดลงมาบนหัว จิตใจของเธอระเบิดและฉับพลันมันก็เป็นความว่างเปล่านี่ยังไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือเธอได้ยินฉินหมิงยอมรับกับหู
“ฉัน...ฉันได้ยินแล้ว...”“ฉัน...ขอให้พวกเธอทั้งคู่มีความสุขนะ...”หลินหว่านชิงมาถึงจุดที่ใกล้จะพังทลาย แต่เธอก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอก็ยังเป็นอันดับที่หนึ่งของสี่สาวงามแห่งเมืองเจียงเฉิง แถมยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลินอีกด้วย เธอยังมีความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่ด้วยความเย่อหยิ่งของเธอ แม้ว่าจะพ่ายแพ้ซูซินเหยา เธอก็จะไม่แสดงด้านที่อ่อนแอของตนต่อหน้าซูซินเหยาสำหรับฉินหมิง เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้ไป ตอนนี้เมื่อฉินหมิงคบหากับซูซินเหยาแล้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่นจริง ๆ นอกจากยอมแพ้ดังเช่นที่ซูซินเหยาพูด การที่บุคคลที่สามเข้าไปแทรกแซงความสัมพันธ์ของผู้อื่นนั้นถือเป็นเรื่องผิดศีลธรรมอย่างยิ่งด้วยสถานะและความเย่อหยิ่งของเธอ เธอไม่อาจลดตัวไปเป็นเมียน้อยและทำลายความรู้สึกของคนอื่นได้อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นทั้งเธอและตระกูลหลินทั้งหมดจะกลายเป็นตัวตลกให้คนทั้งเมืองเจียงเฉิงหัวเราะเยาะ!หลังจากที่พยายามฝืนความรู้สึกขมขื่นจากอาการอกหักในหัวใจ เธอก็หันหลังและจากไปโดยไม่หันกลับมามองทันทีที่เธอเดินออกจากออฟฟิศ เธอก็ไม่สามารถควบคุมน้ำตาได้อีกต่อไป น้ำต
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือนายท่านหลินเชื่อในความบริสุทธิ์ของเขาแล้วและถึงกับโน้มน้าวให้หลินหว่านชิงกลับมาคืนดีกับเขาด้วยซ้ำน่าเสียดายที่วันนี้เขาติดธุระและไม่ได้เข้าบริษัท ดังนั้นเขาจึงคลาดกับหลินหว่านชิง!บางทีนี่อาจเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการกลั่นแกล้งผู้คน!……บลูมูน บาร์ที่นี่คือถิ่นที่เป็นดั่งฐานใหญ่ของเนี่ยอู๋ ฉินหมิงนัดพบกับเนี่ยอู๋ในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งด้านหลังบาร์“นายน้อยฉิน ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ล่ะครับ?”“เชิญนั่งลงก่อนครับ”เนี่ยอู๋รู้สึกประหลาดใจมากและก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนโค้งคำนับด้วยความเคารพจากนั้นผายมือเชิญให้ฉินหมิงนั่งลง“นายน้อยฉิน ผมได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเปิดตัวขายเมื่อวานนี้จากปากของนายน้อยเฝิงแล้ว”“ที่แท้คุณก็คือประธานตัวจริงของหมิงเหยากรุ๊ป แถมยังเอาชนะเหลิ่งหลงเซิงปรมาจารย์ระดับสูงซึ่งเป็นอันดับต้น ๆ ของทายาทรุ่นที่สองของตระกูลเหลิ่งต่อหน้าสาธารณชนด้วยกระบวนท่าเดียวอีกด้วย คุณนี่มันยอดเยี่ยมมาก!”“ผมรู้สึกนับถือคุณมากจริง ๆ ครับ!”เนี่ยอู๋พูดด้วยความตื่นเต้นเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฉินหมิง ยิ่งฉินหมิงแข็งแกร่งและมีชื่อเ
ยิ่งระดับของทักษะที่ใช้บ่มเพาะสูงมากเท่าไร การบ่มเพาะก็จะยิ่งรวดเร็วขึ้น ความสำเร็จในอนาคตเองก็จะยิ่งสูงมากขึ้นตาม!ด้วยระดับของทักษะบ่มเพาะของเขาในปัจจุบัน ถ้าเขาได้รับทักษะระดับเหนือมนุษย์ขั้นกลางหรือขั้นต่ำมา มันจะช่วยให้เขาบุกทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้ง่ายขึ้นมากในอนาคตสำหรับเขาแค่ได้กลายเป็นปรมาจารย์แค่นี้ก็ถือว่าบรรลุความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว!“ตั้งใจฟังให้ดีล่ะ…”ฉินหมิงไพล่มือไว้ด้านหลังและถ่ายทอดทักษะปราบอสูรอเวจีให้กับเนี่ยอู๋ผ่านทางจิตโดยตรงเนี่ยอู๋สงบใจลงและพุ่งสมาธิไปที่การจดจำทักษะปราบอสูรอเวจีอย่างรวดเร็ว“เอาล่ะ ตอนนี้นายลองโคจรพลังปราณในร่างรอบหนึ่งก่อน ฉันจะคอยชี้แนะอยู่ข้าง ๆ”“ถ้ามีปัญหาอะไร จะได้ช่วยนายแก้ไขได้ทันเวลา”ฉินหมิงพูดนี่เป็นครั้งแรกที่เนี่ยอู๋บ่มเพาะทักษะปราบอสูรอเวจี ภายใต้การชี้แนะของเขา มันจะง่ายกว่าสำหรับเนี่ยอู๋ที่จะเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้อง“ครับ”เนี่ยอู๋รับคำ จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิบนพื้นและเริ่มบ่มเพาะขณะที่กำลังโคจรพลังปราณด้วยทักษะใหม่อยู่ กระแสพลังงานบริสุทธิ์ก็พวยพุ่งออกมาจากจุดตันเถียน ความเร็วในการบ่
ดังนั้นจุดนี้เขาจึงต้องพูดกับเนี่ยอู๋ให้ชัดเจน“ว่าไงนะครับ?”“ปฐพี...ทักษะปราบอสูรอเวจีเป็นทักษะระดับปฐพีขั้นกลางอย่างนั้นเหรอ?”“ผม...นี่ผมไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม?”เนี่ยอู๋ตกตะลึงกับข่าวนี้มาก เขาตัวแข็งทื่อ นิ่งงันอยู่ตรงนั้นและตอบสนองไม่ได้เป็นเวลานาน “นายได้ยินถูกต้องแล้ว”ฉินหมิงพยักหน้า"นี่..."เนี่ยอู๋ตกใจมาก ราวมีคลื่นลูกใหญ่ถาโถมเข้ามาในหัวใจของเขาอย่างบ้าคลั่งเขารู้ว่าฉินหมิงจะไม่โกหกเขา แถมเมื่อสักครู่นี้เขาได้สัมผัสกับทักษะปราบอสูรอเวจีโดยตรงผ่านการบ่มเพาะแล้ว ด้วยประสิทธิภาพของทักษะปราบอสูรอเวจี อย่างน้อย ๆ มันก็ต้องเป็นทักษะระดับปฐพีขั้นต่ำอย่างแน่นอน!ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพียงพอที่จะอธิบายว่าทักษะปราบอสูรอเวจีคือระดับปฐพีขั้นกลางอย่างแท้จริง!อย่างไรก็ตาม ในความรู้ที่ค่อนข้างจำกัดของเขา ทักษะระดับสูงที่สุดในเมืองเจียงเฉิงยังอยู่แค่ระดับเหนือมนุษย์ขั้นสูงเองไม่ใช่เหรอ ดังนั้นในตอนแรกเขาจึงคิดว่าฉินหมิงจะถ่ายทอดทักษะระดับเหนือมนุษย์ขั้นต่ำหรือไม่ก็ขั้นกลางให้กับเขา ซึ่งแค่นี้ก็นับว่าดีมากแล้ว แต่เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าฉินหมิงถึงกับยอมถ่ายทอดทักษะระดับปฐพีขั้นกล
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ