พวกเขาทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าระดับการบ่มเพาะของฉินหมิงถึงขั้นสูงระดับปรมาจารย์แล้ว แต่ละคนจึงตกใจอย่างมากกับพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธที่น่ากลัวของฉินหมิง!บวกกับศาสตร์แห่งการปรุงยาอันน่าทึ่งที่ฉินหมิงครอบครองอยู่และพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุด เกรงว่าภายในไม่กี่ปีเมืองเจียงเฉิงทั้งหมดจะสั่นสะท้านเพราะฉินหมิงอย่างแน่นอน!“ก่อนหน้านี้มีคำพูดหนึ่งแพร่สะพัดไปในเมืองเจียงเฉิง ถ้าตระกูลไหนสามารถดึงตัวปรมาจารย์นักปรุงยาที่อยู่เบื้องหลังตระกูลซูมาเข้าร่วมด้วยได้ ตระกูลนั้นก็จะเป็นผู้ชนะและได้ครอบครองเมืองเจียงเฉิงทั้งหมด!”ตอนนี้ดูเหมือนว่าคำพูดนี้จะไม่ได้พูดเกินจริงเลย!เฝิงเจิ้นและนายท่านโจวต่างก็สั่นสะท้าน และแอบอิจฉาที่ตระกูลซูโชคดีได้อัจฉริยะบุคคลที่โดดเด่นเช่นฉินหมิงไป!“ฮ่าฮ่า...”“ดูเหมือนว่าสวรรค์เข้าข้างตระกูลซูของพวกเราจริง ๆ!”นายท่านซูหัวเราะดังลั่น แม้ว่าเขาจะสงบและเงียบขรึมมาโดยตลอด แต่ในเวลานี้เขาเองก็อดตื่นเต้นไม่ได้จริง ๆเขากระทั่งลอบวางแผนจับคู่ซูซินเหยาและฉินหมิงอย่างลับ ๆ ให้ทั้งคู่ลงเอยกันโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้คนที่โดดเด่นเช่นฉินหมิงถูกค
ไม่อย่างนั้น ถ้าฉินหมิงและหลินหว่านชิงลงเอยกัน หลังจากที่ทั้งสองแต่งงานกันอย่างเป็นทางการ ถึงตอนนั้นตระกูลหลินมีเขยที่โดดเด่นอย่างฉินหมิงอยู่ การจะขึ้นมาปกครองเมืองเจียงเฉิงก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว!น่าเสียดาย แต่เขามาเสียใจภายหลังตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว!“ฉินหมิง ในที่สุดคุณก็เติบโตขึ้น…”จมูกของหลินหว่านชิงแสบร้อน หัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดและก็อึดอัดมากเธอรู้มานานแล้วว่าฉินหมิงมีความสามารถมาก ตราบเท่าที่เขาได้รับเวลามากขึ้น ฉินหมิงจะสามารถสร้างผลงานที่น่าทึ่งได้ในไม่ช้าก็เร็ว!อย่างไรก็ตาม เธอและฉินหมิงถูกกำหนดมาให้ต้องแยกจากกัน มีชะตาแต่ไร้วาสนา ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการเติบโตของฉินหมิง เธอไม่อาจไม่จากฉินหมิงไป…"เยี่ยม ฉินหมิงนายยอดเยี่ยมมาก!"ใบหน้าของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เธอเป็นคนเดียวที่ปรบมือและตะโกนเชียร์ฉินหมิง!บนเวที“ฉินหมิง แกชนะแล้ว ฉันยอมรับความพ่ายแพ้”ใบหน้าของเหลิ่งหลงเซิงดูน่าเกลียดเขารู้ว่าตัวเองไม่อาจสู้ฉินหมิงได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเชื่อฟังคำสั่งของนายท่านเหลิ่ง ยอมรับความพ่ายแพ้และก้าวลงจากเวที“ฉินหมิง นายอา
เจิ้งอวี่ลุกขึ้นยืนเป็นคนแรกหมิงเหยากรุ๊ปขายยาปราณแท้เพียงสิบเม็ด หลังจากที่ซูห่าวใช้ไปหนึ่งเม็ด ปัจจุบันจึงเหลืออีกเพียงเก้าเม็ดเท่านั้นยาเก้าเม็ดนี้ ราคารวมคือสี่ร้อยห้าสิบล้านหยวนก่อนหน้านี้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง เจิ้งอวี่ไม่ลังเลใจเลยที่จะทุ่มเงินสามร้อยล้านหยวนเพื่อประมูลวัตถุดิบหลักที่ไร้ประโยชน์นั่น เงินเพียงสี่ร้อยห้าสิบล้านหยวนนี้ไม่นับว่าเป็นอะไรสำหรับเขา!“ตระกูลเจิ้งต้องการเหมาหมดเหรอ? นี่จะได้ยังไงกัน!”“ไม่ได้ ฉันคัดค้าน!”“พวกเราเองก็คัดค้านเหมือนกัน!”......ทุกคนจากกองกำลังของตระกูลใหญ่ต่างตกตะลึง แต่ละคนเริ่มลนลานแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อร่วมงานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ปเป็นพิเศษ ประการแรกเพื่อชิงตัวฉินหมิง และประการที่สองก็เพื่อชิงยาปราณแท้เมื่อสักครู่นี้ทุกคนได้เห็นผลของยาปราณแท้กับตาแล้ว ไม่ว่าตระกูลใหญ่หรือกองกำลังใด ๆ ต่างก็ต้องการได้รับมันสักสองหรือสามเม็ดถ้าเจิ้งอวี่เหมายาปราณแท้ไปทั้งหมดเก้าเม็ดจริง ๆ แล้วพวกเขาจะทำอย่างไร?“นายน้อยเจิ้ง ต้องขอโทษด้วย เนื่องจากปริมาณของยาปราณแท้มีจำกัด แต่ละตระกูลจึงจำกัดการซื้ออยู่ที่ตระกูลละหนึ่งเม็
แน่นอนว่า เนื่องจากจำนวนยาปราณแท้น้อยนิดเกินไป ราคาแพงจึงกลายเป็นเพียงเรื่องรอง พวกเขาจะโชคดีพอคว้ามันมาได้สักเม็ดหนึ่งหรือไม่นั้น นี่จึงเป็นคำถามที่ใหญ่ที่สุด!!“สหายฉิน มันอาจจะไม่ดีนักที่มาใช้ความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้”“แต่ตระกูลโจวของเราต้องการยาปราณแท้อย่างมาก ฉันหวังว่าเธอจะเห็นแก่มิตรภาพระหว่างเรา ขายยาปราณแท้ให้กับตระกูลโจวของเราหนึ่งเม็ดก่อน”นายท่านโจวพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าครั้งนี้ตระกูลโจวมาที่นี่เพื่อยาปราณแท้โดยเฉพาะ ตราบเท่าที่โจวเจี้ยนได้รับยาปราณแท้ไป ระดับการบ่มเพาะของเขาก็จะทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้อย่างราบรื่น เพื่อโจวเจี้ยน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหน้าลงและขอร้องฉินหมิง"ยังมีฉันอีกคน!"“คุณฉิน ตระกูลเฝิงของเราเองก็ต้องการยาปราณแท้เหมือนกัน ฉันหวังว่าคุณจะพิจารณาพวกเราก่อน…”เฝิงเจิ้นเองก็รีบลุกขึ้นยืนเช่นกันระดับการบ่มเพาะของลูกสาวของเขาเฝิงรั่วซวงมาถึงขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานซึ่งอยู่ไม่ห่างจากขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานแล้ว เขาซื้อยานี้ไว้ก่อนก็เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อการบ่มเพาะของเฝิงรั่วซวงมาถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทาน เธอจะสามารถใช้งานมั
“ได้!”ฉินหมิงพยักหน้า หยิบยาปราณแท้ออกมาแล้วมอบให้กับนายท่านเค่อ"ตระกูลลี่ของเราเองก็ขอเสนอซื้อยาปราณแท้เม็ดถัดไปในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวนเหมือนกัน!"ลี่ตั๋วไห่ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ตะโกนด้วยเสียงทุ้มเห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่นี้ที่เขาไม่เสนอราคาแข่งกับนายท่านเค่อ ไม่เพียงแต่หวาดหวั่นในอำนาจของตระกูลเค่อเท่านั้น เขาเองก็ไม่ต้องการทำให้ตระกูลเค่อขุนเคืองใจด้วยเหมือนกัน“นี่...”การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปความแข็งแกร่งของสองราชาแดนเหนือและใต้เป็นรองเพียงสี่ตระกูลใหญ่เท่านั้น แถมลี่ตั๋วไห่ยังเป็นตัวละครที่โหดเหี้ยมของโลกใต้ดิน เขาทำเลวได้ทุกวิธีเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเองมันคงไม่ฉลาดสำหรับพวกเขาที่จะไปยั่วยุลี่ตั๋วไห่!ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนชั่งน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้"ได้"ฉินหมิงมีความสุขมาก เขาหยิบยาปราณแท้ออกมาอีกเม็ดแล้วมอบให้กับลี่ตั๋วไห่แม้ว่าทั้งตระกูลลี่และตระกูลเค่อเพิ่งจะมีความขัดแย้งกับเขา แต่หมิงเหยากรุ๊ปเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ ในการทำธุรกิจเขาต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกันเพื่อผลประโยชน์จึงเป็นไปไม่ได้สำหร
......“พวกเราต้องการยาหลอมลมปราณระดับสอง สองร้อยเม็ด!”กองกำลังของตระกูลใหญ่เริ่มดำเนินการทันทีเมื่อสักครู่นี้พวกเขาผิดหวังที่ซื้อยาปราณแท้ไม่ได้ไปแล้วตอนนี้มียาหลอมลมปราณเหลืออยู่อีกไม่มากแล้ว พวกเขาจึงไม่กล้าละเลยและรีบลงมือโดยเร็วหลังจากนั้นไม่นานนัก ยาหลอมลมปราณทั้งหมดก็ขายหมด!มาถึงจุดนี้ งานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ปในครั้งนี้ก็จบลงด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม!เนื่องจากยาปราณแท้ที่ถูกหลอมโดยฉินหมิงสามารถช่วยให้ผู้ฝึกยุทธขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ทักษะการหลอมยาของเขาจึงน่าจะไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว!นอกจากนี้เขายังอายุน้อยมาก แต่กลับล้มเหลิ่งหลงเซิงที่ใกล้จะทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงระดับปรมาจารย์ได้ด้วยกระบวนท่าเดียว นี่จึงทำให้เขามีชื่อเสียงในทันที!กองกำลังของตระกูลใหญ่หลายคนยกย่องฉินหมิงว่าเป็นอันดับที่หนึ่งของคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง ซึ่งนี่ทำให้ฉินหมิงโด่งดังโดยสมบูรณ์!นับจากวินาทีนี้ไป ไม่ว่าในจะโลกวรยุทธ์หรือโลกธุรกิจ ฉินหมิงได้ขึ้นมายึดครองตำแหน่งหนึ่งและกลายเป็นดาวดวงใหม่ที่กำลังเติบโตและเป็นที่น่าจับตามองที่สุดในเมื
“พวกแกเป็นใคร?”“แต่ละคนแสร้งทำเป็นผีออกมาหลอกลวงคนกลางวันแสก ๆ ทำไมต้องรั้งพวกเราเอาไว้ด้วย?”เจิ้งอวี่ตะโกนอย่างดุเดือดท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้เขายังดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้นำตระกูล ดังนั้นเขาจึงไม่ตื่นตระหนกมากนักแม้จะถูกคนดักให้หยุดกลางทางก็ตาม"แกคิดว่ายังไงล่ะ?"ชายหน้ากากเหยียนหลัวยิ้มอย่างเย็นชา บนตัวของเขาแผ่อำนาจของผู้ที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงมาเป็นเวลานาน แม้จะไม่ได้โกรธเกรี้ยว แต่ออร่ารอบตัวของเขานั้นก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนคนนี้เป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างมาก“หรือว่าเป้าหมายของพวกแกก็คือปล้นชิงยาปราณแท้และยาหลอมลมปราณ?”สีหน้าของเจิ้งอวี่มืดครึ้ม เขาตระหนักได้ในทันทีตระกูลเจิ้งเป็นกองกำลังที่ทรงพลังอย่างมากในเมืองหลัวไห่ พวกเขาเองก็ไม่เคยสร้างศัตรูในเมืองเจียงเฉิง ยิ่งไม่มีศัตรูทางธุรกิจแต่ตอนนี้เขากลับถูกสกัดกั้นโดยใครบางคนในถิ่นของเมืองเจียงเฉิง อีกฝ่ายไม่น่าจะมาเพื่อแก้แค้น ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายกว่าครึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามาเพื่อยาปราณแท้และยาหลอมลมปราณ!"ถูกต้อง แกฉลาดมาก!"“คุณชายใหญ่เจิ้ง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วฉันจะไม่ขออ้อมค้อมก็แล้วกัน รู้สถานการณ์หน่อย มอบยาปราณแท
ตู้ม!หลังจากสิ้นเสียงปะทะกันอย่างรุนแรง ร่างของชายหน้ากากเหยียนหลัวคนนั้นไม่ขยับสักนิดในทางกลับกัน เจิ้งจวินถูกซัดออกไปด้วยพลังของชายหน้ากากเหยียนหลัวราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่หลังจากร่วงกระแทกพื้น เจิ้งจวินก็ถอยหลังไปห้าหรือหกก้าวติดต่อกันโชคดีที่เพื่อนอีกคนหนึ่งในขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว จึงรีบดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว พลังปราณแท้จริงอันอ่อนโยนได้ปกป้องเจิ้งจวินจากพลังที่เหลืออยู่ของชายหน้ากากเหยียนหลัว!อย่างไรก็ตาม กระนั้นก็ยังมีพลังกลุ่มหนึ่งซัดเข้าที่หน้าอกของเจิ้งจวิน ทำให้ใบหน้าของเขาก็ซีดขาว"ครึ่งก้าว...ราชาสงคราม!!"เจิ้งจวินตกใจกลัวและรับรู้ความแข็งแกร่งของชายหน้ากากเหยียนหลัวทันทีระดับที่สูงกว่าระดับปรมาจารย์ ก็คือระดับราชาสงคราม!ระดับราชาสงครามนั้น เป็นธรณีประตูที่สองบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธ์ และมันก็ยากยิ่งกว่าการก้าวข้ามธรณีประตูแรกหรือก็คือระดับปรมาจารย์หลายเท่า!โดยปกติทั่วไปแล้ว ถ้าผู้ฝึกยุทธ์ต้องการทะลวงผ่านไปยังระดับปรมาจารย์ จะต้องใช้เวลาบ่มเพาะอย่างน้อยสี่หรือห้าปี และก็ต้องอดทนบ่มเพาะทุกวันไม่ให้ขาดแต่ถ