แน่นอนว่า เนื่องจากจำนวนยาปราณแท้น้อยนิดเกินไป ราคาแพงจึงกลายเป็นเพียงเรื่องรอง พวกเขาจะโชคดีพอคว้ามันมาได้สักเม็ดหนึ่งหรือไม่นั้น นี่จึงเป็นคำถามที่ใหญ่ที่สุด!!“สหายฉิน มันอาจจะไม่ดีนักที่มาใช้ความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้”“แต่ตระกูลโจวของเราต้องการยาปราณแท้อย่างมาก ฉันหวังว่าเธอจะเห็นแก่มิตรภาพระหว่างเรา ขายยาปราณแท้ให้กับตระกูลโจวของเราหนึ่งเม็ดก่อน”นายท่านโจวพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าครั้งนี้ตระกูลโจวมาที่นี่เพื่อยาปราณแท้โดยเฉพาะ ตราบเท่าที่โจวเจี้ยนได้รับยาปราณแท้ไป ระดับการบ่มเพาะของเขาก็จะทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้อย่างราบรื่น เพื่อโจวเจี้ยน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหน้าลงและขอร้องฉินหมิง"ยังมีฉันอีกคน!"“คุณฉิน ตระกูลเฝิงของเราเองก็ต้องการยาปราณแท้เหมือนกัน ฉันหวังว่าคุณจะพิจารณาพวกเราก่อน…”เฝิงเจิ้นเองก็รีบลุกขึ้นยืนเช่นกันระดับการบ่มเพาะของลูกสาวของเขาเฝิงรั่วซวงมาถึงขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานซึ่งอยู่ไม่ห่างจากขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานแล้ว เขาซื้อยานี้ไว้ก่อนก็เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อการบ่มเพาะของเฝิงรั่วซวงมาถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทาน เธอจะสามารถใช้งานมั
“ได้!”ฉินหมิงพยักหน้า หยิบยาปราณแท้ออกมาแล้วมอบให้กับนายท่านเค่อ"ตระกูลลี่ของเราเองก็ขอเสนอซื้อยาปราณแท้เม็ดถัดไปในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวนเหมือนกัน!"ลี่ตั๋วไห่ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ตะโกนด้วยเสียงทุ้มเห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่นี้ที่เขาไม่เสนอราคาแข่งกับนายท่านเค่อ ไม่เพียงแต่หวาดหวั่นในอำนาจของตระกูลเค่อเท่านั้น เขาเองก็ไม่ต้องการทำให้ตระกูลเค่อขุนเคืองใจด้วยเหมือนกัน“นี่...”การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปความแข็งแกร่งของสองราชาแดนเหนือและใต้เป็นรองเพียงสี่ตระกูลใหญ่เท่านั้น แถมลี่ตั๋วไห่ยังเป็นตัวละครที่โหดเหี้ยมของโลกใต้ดิน เขาทำเลวได้ทุกวิธีเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเองมันคงไม่ฉลาดสำหรับพวกเขาที่จะไปยั่วยุลี่ตั๋วไห่!ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนชั่งน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้"ได้"ฉินหมิงมีความสุขมาก เขาหยิบยาปราณแท้ออกมาอีกเม็ดแล้วมอบให้กับลี่ตั๋วไห่แม้ว่าทั้งตระกูลลี่และตระกูลเค่อเพิ่งจะมีความขัดแย้งกับเขา แต่หมิงเหยากรุ๊ปเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ ในการทำธุรกิจเขาต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกันเพื่อผลประโยชน์จึงเป็นไปไม่ได้สำหร
......“พวกเราต้องการยาหลอมลมปราณระดับสอง สองร้อยเม็ด!”กองกำลังของตระกูลใหญ่เริ่มดำเนินการทันทีเมื่อสักครู่นี้พวกเขาผิดหวังที่ซื้อยาปราณแท้ไม่ได้ไปแล้วตอนนี้มียาหลอมลมปราณเหลืออยู่อีกไม่มากแล้ว พวกเขาจึงไม่กล้าละเลยและรีบลงมือโดยเร็วหลังจากนั้นไม่นานนัก ยาหลอมลมปราณทั้งหมดก็ขายหมด!มาถึงจุดนี้ งานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ปในครั้งนี้ก็จบลงด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม!เนื่องจากยาปราณแท้ที่ถูกหลอมโดยฉินหมิงสามารถช่วยให้ผู้ฝึกยุทธขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ทักษะการหลอมยาของเขาจึงน่าจะไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว!นอกจากนี้เขายังอายุน้อยมาก แต่กลับล้มเหลิ่งหลงเซิงที่ใกล้จะทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงระดับปรมาจารย์ได้ด้วยกระบวนท่าเดียว นี่จึงทำให้เขามีชื่อเสียงในทันที!กองกำลังของตระกูลใหญ่หลายคนยกย่องฉินหมิงว่าเป็นอันดับที่หนึ่งของคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง ซึ่งนี่ทำให้ฉินหมิงโด่งดังโดยสมบูรณ์!นับจากวินาทีนี้ไป ไม่ว่าในจะโลกวรยุทธ์หรือโลกธุรกิจ ฉินหมิงได้ขึ้นมายึดครองตำแหน่งหนึ่งและกลายเป็นดาวดวงใหม่ที่กำลังเติบโตและเป็นที่น่าจับตามองที่สุดในเมื
“พวกแกเป็นใคร?”“แต่ละคนแสร้งทำเป็นผีออกมาหลอกลวงคนกลางวันแสก ๆ ทำไมต้องรั้งพวกเราเอาไว้ด้วย?”เจิ้งอวี่ตะโกนอย่างดุเดือดท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้เขายังดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้นำตระกูล ดังนั้นเขาจึงไม่ตื่นตระหนกมากนักแม้จะถูกคนดักให้หยุดกลางทางก็ตาม"แกคิดว่ายังไงล่ะ?"ชายหน้ากากเหยียนหลัวยิ้มอย่างเย็นชา บนตัวของเขาแผ่อำนาจของผู้ที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงมาเป็นเวลานาน แม้จะไม่ได้โกรธเกรี้ยว แต่ออร่ารอบตัวของเขานั้นก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนคนนี้เป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างมาก“หรือว่าเป้าหมายของพวกแกก็คือปล้นชิงยาปราณแท้และยาหลอมลมปราณ?”สีหน้าของเจิ้งอวี่มืดครึ้ม เขาตระหนักได้ในทันทีตระกูลเจิ้งเป็นกองกำลังที่ทรงพลังอย่างมากในเมืองหลัวไห่ พวกเขาเองก็ไม่เคยสร้างศัตรูในเมืองเจียงเฉิง ยิ่งไม่มีศัตรูทางธุรกิจแต่ตอนนี้เขากลับถูกสกัดกั้นโดยใครบางคนในถิ่นของเมืองเจียงเฉิง อีกฝ่ายไม่น่าจะมาเพื่อแก้แค้น ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายกว่าครึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามาเพื่อยาปราณแท้และยาหลอมลมปราณ!"ถูกต้อง แกฉลาดมาก!"“คุณชายใหญ่เจิ้ง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วฉันจะไม่ขออ้อมค้อมก็แล้วกัน รู้สถานการณ์หน่อย มอบยาปราณแท
ตู้ม!หลังจากสิ้นเสียงปะทะกันอย่างรุนแรง ร่างของชายหน้ากากเหยียนหลัวคนนั้นไม่ขยับสักนิดในทางกลับกัน เจิ้งจวินถูกซัดออกไปด้วยพลังของชายหน้ากากเหยียนหลัวราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่หลังจากร่วงกระแทกพื้น เจิ้งจวินก็ถอยหลังไปห้าหรือหกก้าวติดต่อกันโชคดีที่เพื่อนอีกคนหนึ่งในขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว จึงรีบดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว พลังปราณแท้จริงอันอ่อนโยนได้ปกป้องเจิ้งจวินจากพลังที่เหลืออยู่ของชายหน้ากากเหยียนหลัว!อย่างไรก็ตาม กระนั้นก็ยังมีพลังกลุ่มหนึ่งซัดเข้าที่หน้าอกของเจิ้งจวิน ทำให้ใบหน้าของเขาก็ซีดขาว"ครึ่งก้าว...ราชาสงคราม!!"เจิ้งจวินตกใจกลัวและรับรู้ความแข็งแกร่งของชายหน้ากากเหยียนหลัวทันทีระดับที่สูงกว่าระดับปรมาจารย์ ก็คือระดับราชาสงคราม!ระดับราชาสงครามนั้น เป็นธรณีประตูที่สองบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธ์ และมันก็ยากยิ่งกว่าการก้าวข้ามธรณีประตูแรกหรือก็คือระดับปรมาจารย์หลายเท่า!โดยปกติทั่วไปแล้ว ถ้าผู้ฝึกยุทธ์ต้องการทะลวงผ่านไปยังระดับปรมาจารย์ จะต้องใช้เวลาบ่มเพาะอย่างน้อยสี่หรือห้าปี และก็ต้องอดทนบ่มเพาะทุกวันไม่ให้ขาดแต่ถ
หลังจากนั้น เจิ้งหงเซิงก็แอบส่งสายตาให้กับเจิ้งอวี่อย่างเงียบ ๆ แล้วหันไปขยิบตาให้กับเจิ้งจวิน ทั้งสามคนเข้าใจกันอย่างรวดเร็ว“ฉันกับเจิ้งจวินจะร่วมมือกันสกัดยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวราชาสงครามคนนี้ไว้!”“พวกนายคุ้มกันคุณชายใหญ่และไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”เจิ้งหงเซิงตะโกนเสียงดังลั่น จากนั้นเขากับเจิ้งจวินก็กระโดดขึ้นมาพร้อมกัน พุ่งเข้าโจมตีชายหน้ากากเหยียนหลัวบอดี้การ์ดสองคนของตระกูลเจิ้งซึ่งอยู่ในขั้นสูงระดับปรมาจารย์ตอบสนองในทันที พวกเขาทั้งสองคนร่วมมือกับองครักษ์ส่วนตัวอีกสองคนของเจิ้งอวี่ พยายามปกป้องเจิ้งอวี่และรีบพุ่งออกไปจากวงล้อมของชายหน้ากากผีหลายสิบคน!“คิดหนีเหรอ?”"มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เสียงเยาะเย้ยดังขึ้น จากนั้นก็มีชายหกคนที่สวมหน้ากากผีเป็นฝ่ายเริ่มรุกเจิ้งอวี่และคนอื่น ๆ คนที่เหลืออยู่อีกราวหกหรือเจ็ดคนยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้านหลังเพื่อปิดกั้นเส้นทางหลบหนี ป้องกันไม่ให้พวกเจิ้งอวี่หลุดออกจากวงล้อมและหนีไปได้“ขั้นสูงระดับปรมาจารย์? ขั้นกลางระดับปรมาจารย์?”เจิ้งอวี่รู้สึกหวาดกลัวแล้วขณะที่ทั้งสองฝ่ายเริ่มเปิดฉากสู้กัน เจิ้งอวี่ก็สังเกตเห็นว่าศัตรูทั้งหกคนนี้ ถ
“ฉันอยากจะทำข้อตกลงกับคุณ!”"ฉันสามารถให้ยาปราณแท้ทั้งหมดกับคุณฟรี ๆ ได้ แต่ฉันจะเอายาหลอมลมปราณทั้งหมดกลับไป!"เจิ้งอวี่พูดอย่างเย็นชาสำหรับตระกูลเจิ้ง ยาหลอมลมปราณมากกว่าแปดพันเม็ดมีความสำคัญมากกว่ายาปราณแท้ทั้งสามเม็ดทั้งในแง่ของมูลค่าและผลประโยชน์ทางการค้า ฯลฯตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อที่จะรักษายาหลอมลมปราณเอาไว้ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมสละยาปราณแท้“แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ?”ชายหน้ากากเหยียนหลัวพูดอย่างใจเย็น“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะทำลายเม็ดยาเหล่านี้ ส่วนเราไม่ตายไม่เลิกรา ใครก็อย่าได้คิดที่จะคว้าสิ่งใดไป!”เจิ้งอวี่แค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา“ถ้าแกกล้าทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าฉันจะฆ่าแกเหรอ?”เสียงของชายหน้ากากเหยียนหลัวเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง กลิ่นอายสังหารพวยพุ่งออกมารอบกายอย่างข้นคลั่ก พุ่งตรงไปที่เจิ้งอวี่ทันที“ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเลย!”เจิ้งอวี่ยิ้มอย่างเหยียดหยามแม้ว่าตระกูลเจิ้งจะไม่ใช่กองกำลังหลักของเมืองเจียงเฉิง แต่ตระกูลเจิ้งเองก็มียอดฝีมือระดับครึ่งก้าวราชาสงครามอยู่หลายคน นี่ยังไม่รวมผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์อีกมากมาย แม้แต่ยอ
“หรือไม่ เอาแบบนี้?”“เจิ้งจวิน แกพาคนสองคนนำยาหลอมลมปราณออกไป ส่วนฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องคุณชายใหญ่”“ถ้าหลังจากที่อีกฝ่ายได้รับยาปราณแท้แล้วกลับคำพูด ต่อให้ฉันต้องเอาชีวิตแก่ ๆ นี้เข้าแลก ฉันก็จะดึงพวกมันหลายคนไปด้วย!”เจิ้งหงเซิงพูดอย่างเด็ดขาด“นี่…ก็ได้ครับ”เจิ้งจวินพยักหน้า จากนั้นเขาและยอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์อีกสองคนก็รับยาหลอมลมปราณไป ทิ้งเจิ้งหงเซิงและบอดี้การ์ดส่วนตัวอีกสองคนให้อยู่ที่นี่คอยติดตามเจิ้งอวี่ก่อนออกเดินทาง เจิ้งจวินมองไปที่ชายหน้ากากเหยียนหลัวด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดว่า "ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร ถ้ากล้าทำร้ายเจิ้งอวี่แล้วผิดสัญญา พวกเราตระกูลเจิ้งจะขุดคุ้ยทุกอย่างที่เกี่ยวกับแกไม่ว่าจะยากแค่ไหน แล้วสับร่างนี้ให้เป็นชิ้น ๆ!”หลังจากทิ้งคำพูดที่โหดร้ายนี้ไว้ เจิ้งจวินและยอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์สองคนก็ขับรถออกไปพร้อมกับยาหลอมลมปราณหลายพันเม็ดผ่านไปประมาณสิบนาทีชายหน้ากากเหยียนหลัวก็เร่งเร้า "คุณชายใหญ่เจิ้ง ตอนนี้คนของแกก็ไปไกลแล้ว มอบยาปราณแท้มาให้ฉันได้หรือยัง?""รอเดี๋ยวก่อน!"เจิ้งอวี่พูดด้วยใบหน้าเรียบสนิทผ่านไปอีกราวสิบนาทีชายหน้า