แน่นอนว่า เนื่องจากจำนวนยาปราณแท้น้อยนิดเกินไป ราคาแพงจึงกลายเป็นเพียงเรื่องรอง พวกเขาจะโชคดีพอคว้ามันมาได้สักเม็ดหนึ่งหรือไม่นั้น นี่จึงเป็นคำถามที่ใหญ่ที่สุด!!“สหายฉิน มันอาจจะไม่ดีนักที่มาใช้ความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้”“แต่ตระกูลโจวของเราต้องการยาปราณแท้อย่างมาก ฉันหวังว่าเธอจะเห็นแก่มิตรภาพระหว่างเรา ขายยาปราณแท้ให้กับตระกูลโจวของเราหนึ่งเม็ดก่อน”นายท่านโจวพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้าครั้งนี้ตระกูลโจวมาที่นี่เพื่อยาปราณแท้โดยเฉพาะ ตราบเท่าที่โจวเจี้ยนได้รับยาปราณแท้ไป ระดับการบ่มเพาะของเขาก็จะทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้อย่างราบรื่น เพื่อโจวเจี้ยน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหน้าลงและขอร้องฉินหมิง"ยังมีฉันอีกคน!"“คุณฉิน ตระกูลเฝิงของเราเองก็ต้องการยาปราณแท้เหมือนกัน ฉันหวังว่าคุณจะพิจารณาพวกเราก่อน…”เฝิงเจิ้นเองก็รีบลุกขึ้นยืนเช่นกันระดับการบ่มเพาะของลูกสาวของเขาเฝิงรั่วซวงมาถึงขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานซึ่งอยู่ไม่ห่างจากขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานแล้ว เขาซื้อยานี้ไว้ก่อนก็เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อการบ่มเพาะของเฝิงรั่วซวงมาถึงขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทาน เธอจะสามารถใช้งานมั
“ได้!”ฉินหมิงพยักหน้า หยิบยาปราณแท้ออกมาแล้วมอบให้กับนายท่านเค่อ"ตระกูลลี่ของเราเองก็ขอเสนอซื้อยาปราณแท้เม็ดถัดไปในราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านหยวนเหมือนกัน!"ลี่ตั๋วไห่ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ตะโกนด้วยเสียงทุ้มเห็นได้ชัดว่าเมื่อสักครู่นี้ที่เขาไม่เสนอราคาแข่งกับนายท่านเค่อ ไม่เพียงแต่หวาดหวั่นในอำนาจของตระกูลเค่อเท่านั้น เขาเองก็ไม่ต้องการทำให้ตระกูลเค่อขุนเคืองใจด้วยเหมือนกัน“นี่...”การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปความแข็งแกร่งของสองราชาแดนเหนือและใต้เป็นรองเพียงสี่ตระกูลใหญ่เท่านั้น แถมลี่ตั๋วไห่ยังเป็นตัวละครที่โหดเหี้ยมของโลกใต้ดิน เขาทำเลวได้ทุกวิธีเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเองมันคงไม่ฉลาดสำหรับพวกเขาที่จะไปยั่วยุลี่ตั๋วไห่!ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนชั่งน้ำหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้"ได้"ฉินหมิงมีความสุขมาก เขาหยิบยาปราณแท้ออกมาอีกเม็ดแล้วมอบให้กับลี่ตั๋วไห่แม้ว่าทั้งตระกูลลี่และตระกูลเค่อเพิ่งจะมีความขัดแย้งกับเขา แต่หมิงเหยากรุ๊ปเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ ในการทำธุรกิจเขาต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกันเพื่อผลประโยชน์จึงเป็นไปไม่ได้สำหร
......“พวกเราต้องการยาหลอมลมปราณระดับสอง สองร้อยเม็ด!”กองกำลังของตระกูลใหญ่เริ่มดำเนินการทันทีเมื่อสักครู่นี้พวกเขาผิดหวังที่ซื้อยาปราณแท้ไม่ได้ไปแล้วตอนนี้มียาหลอมลมปราณเหลืออยู่อีกไม่มากแล้ว พวกเขาจึงไม่กล้าละเลยและรีบลงมือโดยเร็วหลังจากนั้นไม่นานนัก ยาหลอมลมปราณทั้งหมดก็ขายหมด!มาถึงจุดนี้ งานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ปในครั้งนี้ก็จบลงด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม!เนื่องจากยาปราณแท้ที่ถูกหลอมโดยฉินหมิงสามารถช่วยให้ผู้ฝึกยุทธขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ทักษะการหลอมยาของเขาจึงน่าจะไปถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว!นอกจากนี้เขายังอายุน้อยมาก แต่กลับล้มเหลิ่งหลงเซิงที่ใกล้จะทะลวงเข้าสู่ขั้นสูงระดับปรมาจารย์ได้ด้วยกระบวนท่าเดียว นี่จึงทำให้เขามีชื่อเสียงในทันที!กองกำลังของตระกูลใหญ่หลายคนยกย่องฉินหมิงว่าเป็นอันดับที่หนึ่งของคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง ซึ่งนี่ทำให้ฉินหมิงโด่งดังโดยสมบูรณ์!นับจากวินาทีนี้ไป ไม่ว่าในจะโลกวรยุทธ์หรือโลกธุรกิจ ฉินหมิงได้ขึ้นมายึดครองตำแหน่งหนึ่งและกลายเป็นดาวดวงใหม่ที่กำลังเติบโตและเป็นที่น่าจับตามองที่สุดในเมื
“พวกแกเป็นใคร?”“แต่ละคนแสร้งทำเป็นผีออกมาหลอกลวงคนกลางวันแสก ๆ ทำไมต้องรั้งพวกเราเอาไว้ด้วย?”เจิ้งอวี่ตะโกนอย่างดุเดือดท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้เขายังดำรงตำแหน่งรักษาการแทนผู้นำตระกูล ดังนั้นเขาจึงไม่ตื่นตระหนกมากนักแม้จะถูกคนดักให้หยุดกลางทางก็ตาม"แกคิดว่ายังไงล่ะ?"ชายหน้ากากเหยียนหลัวยิ้มอย่างเย็นชา บนตัวของเขาแผ่อำนาจของผู้ที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงมาเป็นเวลานาน แม้จะไม่ได้โกรธเกรี้ยว แต่ออร่ารอบตัวของเขานั้นก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนคนนี้เป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างมาก“หรือว่าเป้าหมายของพวกแกก็คือปล้นชิงยาปราณแท้และยาหลอมลมปราณ?”สีหน้าของเจิ้งอวี่มืดครึ้ม เขาตระหนักได้ในทันทีตระกูลเจิ้งเป็นกองกำลังที่ทรงพลังอย่างมากในเมืองหลัวไห่ พวกเขาเองก็ไม่เคยสร้างศัตรูในเมืองเจียงเฉิง ยิ่งไม่มีศัตรูทางธุรกิจแต่ตอนนี้เขากลับถูกสกัดกั้นโดยใครบางคนในถิ่นของเมืองเจียงเฉิง อีกฝ่ายไม่น่าจะมาเพื่อแก้แค้น ถ้าอย่างนั้นเป้าหมายกว่าครึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามาเพื่อยาปราณแท้และยาหลอมลมปราณ!"ถูกต้อง แกฉลาดมาก!"“คุณชายใหญ่เจิ้ง ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วฉันจะไม่ขออ้อมค้อมก็แล้วกัน รู้สถานการณ์หน่อย มอบยาปราณแท
ตู้ม!หลังจากสิ้นเสียงปะทะกันอย่างรุนแรง ร่างของชายหน้ากากเหยียนหลัวคนนั้นไม่ขยับสักนิดในทางกลับกัน เจิ้งจวินถูกซัดออกไปด้วยพลังของชายหน้ากากเหยียนหลัวราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่หลังจากร่วงกระแทกพื้น เจิ้งจวินก็ถอยหลังไปห้าหรือหกก้าวติดต่อกันโชคดีที่เพื่อนอีกคนหนึ่งในขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว จึงรีบดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว พลังปราณแท้จริงอันอ่อนโยนได้ปกป้องเจิ้งจวินจากพลังที่เหลืออยู่ของชายหน้ากากเหยียนหลัว!อย่างไรก็ตาม กระนั้นก็ยังมีพลังกลุ่มหนึ่งซัดเข้าที่หน้าอกของเจิ้งจวิน ทำให้ใบหน้าของเขาก็ซีดขาว"ครึ่งก้าว...ราชาสงคราม!!"เจิ้งจวินตกใจกลัวและรับรู้ความแข็งแกร่งของชายหน้ากากเหยียนหลัวทันทีระดับที่สูงกว่าระดับปรมาจารย์ ก็คือระดับราชาสงคราม!ระดับราชาสงครามนั้น เป็นธรณีประตูที่สองบนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธ์ และมันก็ยากยิ่งกว่าการก้าวข้ามธรณีประตูแรกหรือก็คือระดับปรมาจารย์หลายเท่า!โดยปกติทั่วไปแล้ว ถ้าผู้ฝึกยุทธ์ต้องการทะลวงผ่านไปยังระดับปรมาจารย์ จะต้องใช้เวลาบ่มเพาะอย่างน้อยสี่หรือห้าปี และก็ต้องอดทนบ่มเพาะทุกวันไม่ให้ขาดแต่ถ
หลังจากนั้น เจิ้งหงเซิงก็แอบส่งสายตาให้กับเจิ้งอวี่อย่างเงียบ ๆ แล้วหันไปขยิบตาให้กับเจิ้งจวิน ทั้งสามคนเข้าใจกันอย่างรวดเร็ว“ฉันกับเจิ้งจวินจะร่วมมือกันสกัดยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวราชาสงครามคนนี้ไว้!”“พวกนายคุ้มกันคุณชายใหญ่และไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”เจิ้งหงเซิงตะโกนเสียงดังลั่น จากนั้นเขากับเจิ้งจวินก็กระโดดขึ้นมาพร้อมกัน พุ่งเข้าโจมตีชายหน้ากากเหยียนหลัวบอดี้การ์ดสองคนของตระกูลเจิ้งซึ่งอยู่ในขั้นสูงระดับปรมาจารย์ตอบสนองในทันที พวกเขาทั้งสองคนร่วมมือกับองครักษ์ส่วนตัวอีกสองคนของเจิ้งอวี่ พยายามปกป้องเจิ้งอวี่และรีบพุ่งออกไปจากวงล้อมของชายหน้ากากผีหลายสิบคน!“คิดหนีเหรอ?”"มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เสียงเยาะเย้ยดังขึ้น จากนั้นก็มีชายหกคนที่สวมหน้ากากผีเป็นฝ่ายเริ่มรุกเจิ้งอวี่และคนอื่น ๆ คนที่เหลืออยู่อีกราวหกหรือเจ็ดคนยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้านหลังเพื่อปิดกั้นเส้นทางหลบหนี ป้องกันไม่ให้พวกเจิ้งอวี่หลุดออกจากวงล้อมและหนีไปได้“ขั้นสูงระดับปรมาจารย์? ขั้นกลางระดับปรมาจารย์?”เจิ้งอวี่รู้สึกหวาดกลัวแล้วขณะที่ทั้งสองฝ่ายเริ่มเปิดฉากสู้กัน เจิ้งอวี่ก็สังเกตเห็นว่าศัตรูทั้งหกคนนี้ ถ
“ฉันอยากจะทำข้อตกลงกับคุณ!”"ฉันสามารถให้ยาปราณแท้ทั้งหมดกับคุณฟรี ๆ ได้ แต่ฉันจะเอายาหลอมลมปราณทั้งหมดกลับไป!"เจิ้งอวี่พูดอย่างเย็นชาสำหรับตระกูลเจิ้ง ยาหลอมลมปราณมากกว่าแปดพันเม็ดมีความสำคัญมากกว่ายาปราณแท้ทั้งสามเม็ดทั้งในแง่ของมูลค่าและผลประโยชน์ทางการค้า ฯลฯตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อที่จะรักษายาหลอมลมปราณเอาไว้ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมสละยาปราณแท้“แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ?”ชายหน้ากากเหยียนหลัวพูดอย่างใจเย็น“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะทำลายเม็ดยาเหล่านี้ ส่วนเราไม่ตายไม่เลิกรา ใครก็อย่าได้คิดที่จะคว้าสิ่งใดไป!”เจิ้งอวี่แค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา“ถ้าแกกล้าทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าฉันจะฆ่าแกเหรอ?”เสียงของชายหน้ากากเหยียนหลัวเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง กลิ่นอายสังหารพวยพุ่งออกมารอบกายอย่างข้นคลั่ก พุ่งตรงไปที่เจิ้งอวี่ทันที“ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเลย!”เจิ้งอวี่ยิ้มอย่างเหยียดหยามแม้ว่าตระกูลเจิ้งจะไม่ใช่กองกำลังหลักของเมืองเจียงเฉิง แต่ตระกูลเจิ้งเองก็มียอดฝีมือระดับครึ่งก้าวราชาสงครามอยู่หลายคน นี่ยังไม่รวมผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์อีกมากมาย แม้แต่ยอ
“หรือไม่ เอาแบบนี้?”“เจิ้งจวิน แกพาคนสองคนนำยาหลอมลมปราณออกไป ส่วนฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องคุณชายใหญ่”“ถ้าหลังจากที่อีกฝ่ายได้รับยาปราณแท้แล้วกลับคำพูด ต่อให้ฉันต้องเอาชีวิตแก่ ๆ นี้เข้าแลก ฉันก็จะดึงพวกมันหลายคนไปด้วย!”เจิ้งหงเซิงพูดอย่างเด็ดขาด“นี่…ก็ได้ครับ”เจิ้งจวินพยักหน้า จากนั้นเขาและยอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์อีกสองคนก็รับยาหลอมลมปราณไป ทิ้งเจิ้งหงเซิงและบอดี้การ์ดส่วนตัวอีกสองคนให้อยู่ที่นี่คอยติดตามเจิ้งอวี่ก่อนออกเดินทาง เจิ้งจวินมองไปที่ชายหน้ากากเหยียนหลัวด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดว่า "ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร ถ้ากล้าทำร้ายเจิ้งอวี่แล้วผิดสัญญา พวกเราตระกูลเจิ้งจะขุดคุ้ยทุกอย่างที่เกี่ยวกับแกไม่ว่าจะยากแค่ไหน แล้วสับร่างนี้ให้เป็นชิ้น ๆ!”หลังจากทิ้งคำพูดที่โหดร้ายนี้ไว้ เจิ้งจวินและยอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์สองคนก็ขับรถออกไปพร้อมกับยาหลอมลมปราณหลายพันเม็ดผ่านไปประมาณสิบนาทีชายหน้ากากเหยียนหลัวก็เร่งเร้า "คุณชายใหญ่เจิ้ง ตอนนี้คนของแกก็ไปไกลแล้ว มอบยาปราณแท้มาให้ฉันได้หรือยัง?""รอเดี๋ยวก่อน!"เจิ้งอวี่พูดด้วยใบหน้าเรียบสนิทผ่านไปอีกราวสิบนาทีชายหน้า
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ