“ฉันอยากจะทำข้อตกลงกับคุณ!”"ฉันสามารถให้ยาปราณแท้ทั้งหมดกับคุณฟรี ๆ ได้ แต่ฉันจะเอายาหลอมลมปราณทั้งหมดกลับไป!"เจิ้งอวี่พูดอย่างเย็นชาสำหรับตระกูลเจิ้ง ยาหลอมลมปราณมากกว่าแปดพันเม็ดมีความสำคัญมากกว่ายาปราณแท้ทั้งสามเม็ดทั้งในแง่ของมูลค่าและผลประโยชน์ทางการค้า ฯลฯตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เพื่อที่จะรักษายาหลอมลมปราณเอาไว้ เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมสละยาปราณแท้“แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ?”ชายหน้ากากเหยียนหลัวพูดอย่างใจเย็น“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะทำลายเม็ดยาเหล่านี้ ส่วนเราไม่ตายไม่เลิกรา ใครก็อย่าได้คิดที่จะคว้าสิ่งใดไป!”เจิ้งอวี่แค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา“ถ้าแกกล้าทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าฉันจะฆ่าแกเหรอ?”เสียงของชายหน้ากากเหยียนหลัวเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง กลิ่นอายสังหารพวยพุ่งออกมารอบกายอย่างข้นคลั่ก พุ่งตรงไปที่เจิ้งอวี่ทันที“ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเลย!”เจิ้งอวี่ยิ้มอย่างเหยียดหยามแม้ว่าตระกูลเจิ้งจะไม่ใช่กองกำลังหลักของเมืองเจียงเฉิง แต่ตระกูลเจิ้งเองก็มียอดฝีมือระดับครึ่งก้าวราชาสงครามอยู่หลายคน นี่ยังไม่รวมผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์อีกมากมาย แม้แต่ยอ
“หรือไม่ เอาแบบนี้?”“เจิ้งจวิน แกพาคนสองคนนำยาหลอมลมปราณออกไป ส่วนฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องคุณชายใหญ่”“ถ้าหลังจากที่อีกฝ่ายได้รับยาปราณแท้แล้วกลับคำพูด ต่อให้ฉันต้องเอาชีวิตแก่ ๆ นี้เข้าแลก ฉันก็จะดึงพวกมันหลายคนไปด้วย!”เจิ้งหงเซิงพูดอย่างเด็ดขาด“นี่…ก็ได้ครับ”เจิ้งจวินพยักหน้า จากนั้นเขาและยอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์อีกสองคนก็รับยาหลอมลมปราณไป ทิ้งเจิ้งหงเซิงและบอดี้การ์ดส่วนตัวอีกสองคนให้อยู่ที่นี่คอยติดตามเจิ้งอวี่ก่อนออกเดินทาง เจิ้งจวินมองไปที่ชายหน้ากากเหยียนหลัวด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดว่า "ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร ถ้ากล้าทำร้ายเจิ้งอวี่แล้วผิดสัญญา พวกเราตระกูลเจิ้งจะขุดคุ้ยทุกอย่างที่เกี่ยวกับแกไม่ว่าจะยากแค่ไหน แล้วสับร่างนี้ให้เป็นชิ้น ๆ!”หลังจากทิ้งคำพูดที่โหดร้ายนี้ไว้ เจิ้งจวินและยอดฝีมือขั้นสูงระดับปรมาจารย์สองคนก็ขับรถออกไปพร้อมกับยาหลอมลมปราณหลายพันเม็ดผ่านไปประมาณสิบนาทีชายหน้ากากเหยียนหลัวก็เร่งเร้า "คุณชายใหญ่เจิ้ง ตอนนี้คนของแกก็ไปไกลแล้ว มอบยาปราณแท้มาให้ฉันได้หรือยัง?""รอเดี๋ยวก่อน!"เจิ้งอวี่พูดด้วยใบหน้าเรียบสนิทผ่านไปอีกราวสิบนาทีชายหน้า
“ส่วนยาปราณแท้ทั้งสามเม็ดนี้จากตระกูลเจิ้งเป็นฉันที่จะใช้!”“ทั้งสองไม่ได้ขัดแย้งกัน”ชายหน้ากากเหยียนหลัวพูดอย่างใจเย็นหัวใจของชายหนุ่มสั่นไหว เขาเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือแล้ว จากนั้นเขาก็พูดด้วยความตกใจว่า "พ่อครับ หรือว่าพ่อวางแผนที่จะใช้ยาปราณแท้นี้เพื่อทะลวงเข้าสู่ระดับราชาสงคราม?""อืม ถูกต้อง!"“ฉินหมิงระบุไว้อย่างชัดเจนในงานเปิดตัวขายแล้วว่าตราบเท่าที่ผู้ฝึกยุทธ์มีระดับการบ่มเพาะต่ำกว่าขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์ ยาปราณแท้ก็จะสามารถเพิ่มความน่าจะเป็นในการช่วยให้ทะลวงผ่านไปยังระดับที่สูงกว่าได้ ซึ่งนี่เองก็รวมถึงขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์เองด้วย!”“การบ่มเพาะของฉันอยู่ในขั้นครึ่งก้าวราชาสงคราม ซึ่งก็ยังอยู่ในขั้นสูงสุดระดับปรมาจารย์ ยาหลอมลมปราณจึงไม่มีผลใด ๆ กับฉัน แต่ยาปราณแท้นี้จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกับฉันอย่างแน่นอน!""บางทียาปราณแท้นี้อาจจะช่วยให้ฉันทะลวงเข้าสู่ระดับราชาสงครามได้สำเร็จก็เป็นได้!"เสียงชายหน้ากากเหยียนหลัวฟังดูตื่นเต้นเล็กน้อย"คำพูดนี้พูดได้ไม่ผิด!"“อย่างไรก็ตาม ระดับราชาสงครามเป็นธรณีประตูที่สองบนเส้นทางการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธ์ มันยากมากที่จะ
ยาปราณแท้ถูกหลอมขึ้นจากวัตถุดิบยาอันล้ำค่า และยาแต่ละเม็ดก็มีพลังงานบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ซึ่งจุดนี้ได้ชดเชยข้อบกพร่องของเขาพอดี!ถ้าเขาสามารถดูดซับพลังงานบริสุทธิ์ของยาปราณแท้ทั้งสามเม็ดได้ในเวลาเดียวกัน ความน่าจะเป็นที่เขาจะทะลวงผ่านคอขวดก็จะยิ่งสูงขึ้นมาก!แม้ว่าการใช้ทักษะลับและยาปราณแท้พร้อมกันทั้งสามเม็ดจะมีความเสี่ยงสูง และชีวิตอาจตกอยู่ในอันตรายหากล้มเหลว แต่ก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อที่จะทะลวงเข้าสู่ระดับราชาสงคราม!ส่วนตัวเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับโชคและวาสนาของเขาเองแล้ว!"ดีมากจริง ๆ!"“พ่อครับ ถ้าระดับการบ่มเพาะของพ่อสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับราชาสงครามได้จริง ๆ พ่อก็จะกลายเป็นอับดับที่หนึ่งในบรรดาทายาทรุ่นที่สองของเมืองเจียงเฉิงของเราอย่างแน่นอน!”“เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้พ่อต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือซึ่งเป็นผู้อาวุโสรุ่นแรก ๆ ของสี่ตระกูลใหญ่ พ่อก็ยังต่อกรกับพวกเขาได้!”ชายหนุ่มมีความสุขมาก สีหน้าของเขาเองก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้น"ฮ่าฮ่า แกพูดได้ถูกต้องแล้ว!"“รอจนกระทั่งฉันสามารถแข่งขันกับสี่ตระกูลใหญ่ได้ ตระกูลหลิน…เหอะเหอะ…”ชายหน้ากากเหยียนหลัวแค่นเสียงเ
ซูซินเหยาตกตะลึงเธอเข้าใจผิดคิดว่ายาปราณแท้ช่วยให้ระดับการบ่มเพาะของฉินหมิงทะลวงผ่านสองระดับติดต่อกัน แต่ไม่รู้เลยว่าในความเป็นจริงนั้น เป็นเพราะยาสร้างรากฐานที่ช่วยให้ฉินหมิงทะลวงผ่านไปยังขั้นสร้างรากฐาน“บางทีผมคงโชคดี...”ฉินหมิงไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้อีก ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วและพูดว่า "อันที่จริงนี่ไม่นับว่าเป็นอะไร ผมเพียงอาศัยเม็ดยาถึงโชคดีทะลวงระดับได้""ในทางกลับกัน เค่อรุ่ยต่างหากที่เก่ง เธออายุยังน้อยแต่กลับทะลวงระดับไปยังระดับปรมาจารย์ได้ด้วยตนเอง พรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธระดับนี้น่ากลัวมาก!"ฉินหมิงชื่นชมเค่อรุ่ยอย่างมาก จึงยกย่องเค่อรุ่ยอย่างจริงใจ“นั่นสิ!"“พรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธของเธอไม่เพียงแต่น่ากลัวเท่านั้น แต่เธอยังสวยมากอีกด้วย พระเจ้าช่างไม่ยุติธรรมเลย ทำไมสิ่งดี ๆ ทั้งหมดถึงเกิดขึ้นกับเธอ!”ซูซินเหยาพูดด้วยสีหน้าอิจฉาในแง่ของความงาม เธอไม่แพ้เค่อรุ่ยอย่างแน่นอน แต่ในแง่ของพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธ แม้ว่าเธอจะพยายามวิ่งไล่ แต่เธอก็ไม่อาจตามส้นเท้าของเค่อรุ่ยได้!"เธอสวยมากขนาดนี้ แถมยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซู ได้รับพรในทุก ๆ ด้าน เ
“สรุปก็คือตราบเท่าที่คุณบ่มเพาะทักษะนี้ ย่อมดีกว่าที่คุณบ่มเพาะทักษะของตระกูลซูอย่างแน่นอน!”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้ม“ดีกว่าทักษะบ่มเพาะของตระกูลซูของเราอีกอย่างนั้นเหรอ นี่เป็นไปไม่ได้!”“ทักษะบ่มเพาะที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลซูนั้นอยู่ในระดับเหนือมนุษย์ขั้นสูง ในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ ก็มีเพียงตระกูลหลิน ตระกูลเคอ และตระกูลเหลิ่งสามตระกูลใหญ่เท่านั้นที่มีในครอบครอง แต่ถ้าให้เทียบกับทักษะยุทธ์ของตระกูลซูของเรา ก็ยังด้อยกว่าเล็กน้อย!”“ถ้าฉันเรียนต้องรู้ทักษะระดับต่ำจากคุณ ไม่สู้ฉันกลับไปบ่มเพาะทักษะวรยุทธของบรรพบุรุษของตระกูลตัวเองต่อ!”ซูซินเหยาเยาะเย้ยหนักมากเธอคิดว่าฉินหมิงจงใจหยอกเย้าให้เธออารมณ์ดี จึงอดไม่ได้กรอกตาใส่ฉินหมิงไปทีหนึ่งทักษะวรยุทธไล่จากสูงไปต่ำ โดยแบ่งออกเป็นสี่ระดับได้แก่สวรรค์ ปฐพี เหนือมนุษย์ และทองคำ โดยในกลุ่มนี้ทักษะระดับสวรรค์เป็นทักษะระดับสูงที่สุด และทักษะระดับทองคำคือทักษะระดับต่ำที่สุดแต่ละระดับยังแบ่งออกเป็นขั้นสูง กลาง ต่ำ ลดหลั่นกันลงไปทักษะของบรรพบุรุษของตระกูลซูนั้น อยู่ที่ระดับระดับเหนือมนุษย์ขั้นสูง ซึ่งถือได้ว่าเป็นทักษะที่ค่อนข้างร
เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเคยชี้แนะหลินหว่านชิงและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยให้บ่มเพาะทักษะนี้ ตอนนี้ฉินหมิงจึงคล่องแคล่ว อธิบายรายละเอียดได้อย่างไม่มีติดขัดภายใต้การแนะนำอย่างระมัดระวังของเขาซูซินเหยาสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าพลังปราณที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งล้นทะลักขึ้นจากตันเถียนของเธอ และค่อย ๆ เคลื่อนไปตามเส้นลมปราณของเธอทักษะของบรรพบุรุษที่ซูซินเหยาบ่มเพาะก่อนหน้านี้ ไม่เหมาะกับร่างของผู้หญิงมากจริง ๆ พลังปราณที่อยู่ในร่างกายของเธอจึงมีสิ่งสกปรกแฝงอยู่พอสมควร สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะของเธอช้าลงเท่านั้น มันยังไปขัดขวางการทะลวงคอขวดของเธอ ทำให้เธอเลื่อนระดับได้ยากขึ้นแต่ตอนนี้ ปาฏิหาริย์ได้บังเกิดขึ้นแล้ว!หลังจากที่พลังปราณที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งนี้ปรากฏขึ้น มันก็ค่อย ๆ หลอมเข้ากับพลังปราณแท้จริงที่มีอยู่แต่เดิม คัดกรองและกำจัดสิ่งสกปรกทั้งหมดภายในเส้นลมปราณ จากนั้นระเหยออกไปผ่านทางเหงื่อจนไร้ร่องรอยไม่นานนัก หลังจากโคจรพลังครบหนึ่งรอบพลังปราณแท้จริงในร่างกายของซูซินเหยาก็บริสุทธิ์ขึ้นมาก แถมระดับการบ่มเพาะของเธอเองก็ได้รับการปรับปรุงและกระเตื้องขึ้นอย่างมากเพราะเหตุนี
อย่างไรก็ตามวิชาเทพียุทธ์ค่อนข้างพิเศษ อาจเป็นเพราะมันเหมาะสำหรับให้ผู้หญิงฝึกเท่านั้น บรรพบุรุษตระกูลฉินจึงไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นทักษะในระดับปฐพีหรือระดับสวรรค์กันแน่แต่สิ่งที่บรรพบุรุษตระกูลฉินเก็บรักษาเอาไว้ อย่างไรก็ต้องไม่มีทางต่ำกว่าระดับปฐพีขั้นกลาง!“มันควรจะเป็นระดับปฐพีขั้นกลาง…”ไม่ทันรอให้ซูซินเหยาพูดจบ ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เปลี่ยนไปทันที "ไม่ดีแล้ว ฉินหมิง พลังปราณแท้ของฉันจริงจู่ ๆ ก็ผันผวน ดูเหมือนว่าฉันกำลังจะทะลวงระดับแล้ว..."“อะไรนะ?”“ถ้าอย่างนั้นคุณรีบกินยาหลอมลมปราณเร็วเข้า แล้วดูว่าพอจะทะลวงระดับไปในคราวเดียวได้ไหม!”ฉินหมิงผงะและรีบหยิบยาหลอมลมปราณคุณภาพสูงออกมาแล้วป้อนให้ซูซินเหยาเม็ดยาละลายในปากทันที กลายเป็นกระแสพลังงานบริสุทธิ์ที่ไหลเข้าสู่เส้นลมปราณซูซินเหยารวบรวมพลังปราณแท้จริงของเธอทันที และด้วยพลังงานของยาหลอมลมปราณที่เข้ามาเสริม เธอเริ่มโคจรพลังเพื่อทะลวงผ่านคอขวดครั้งแล้วครั้งเล่า!ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วบูม!ร่างกายที่บอบบางของซูซินเหยาสั่นไหว ออร่าแผ่ออกมาจากร่างของเธออย่างต่อเนื่อง เธอทะลวงจากขั้นกลางระดับสวรรค์ประทานไปสู่
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ