ยาปราณแท้ถูกหลอมขึ้นจากวัตถุดิบยาอันล้ำค่า และยาแต่ละเม็ดก็มีพลังงานบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ซึ่งจุดนี้ได้ชดเชยข้อบกพร่องของเขาพอดี!ถ้าเขาสามารถดูดซับพลังงานบริสุทธิ์ของยาปราณแท้ทั้งสามเม็ดได้ในเวลาเดียวกัน ความน่าจะเป็นที่เขาจะทะลวงผ่านคอขวดก็จะยิ่งสูงขึ้นมาก!แม้ว่าการใช้ทักษะลับและยาปราณแท้พร้อมกันทั้งสามเม็ดจะมีความเสี่ยงสูง และชีวิตอาจตกอยู่ในอันตรายหากล้มเหลว แต่ก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงเพื่อที่จะทะลวงเข้าสู่ระดับราชาสงคราม!ส่วนตัวเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับโชคและวาสนาของเขาเองแล้ว!"ดีมากจริง ๆ!"“พ่อครับ ถ้าระดับการบ่มเพาะของพ่อสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับราชาสงครามได้จริง ๆ พ่อก็จะกลายเป็นอับดับที่หนึ่งในบรรดาทายาทรุ่นที่สองของเมืองเจียงเฉิงของเราอย่างแน่นอน!”“เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้พ่อต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือซึ่งเป็นผู้อาวุโสรุ่นแรก ๆ ของสี่ตระกูลใหญ่ พ่อก็ยังต่อกรกับพวกเขาได้!”ชายหนุ่มมีความสุขมาก สีหน้าของเขาเองก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้น"ฮ่าฮ่า แกพูดได้ถูกต้องแล้ว!"“รอจนกระทั่งฉันสามารถแข่งขันกับสี่ตระกูลใหญ่ได้ ตระกูลหลิน…เหอะเหอะ…”ชายหน้ากากเหยียนหลัวแค่นเสียงเ
ซูซินเหยาตกตะลึงเธอเข้าใจผิดคิดว่ายาปราณแท้ช่วยให้ระดับการบ่มเพาะของฉินหมิงทะลวงผ่านสองระดับติดต่อกัน แต่ไม่รู้เลยว่าในความเป็นจริงนั้น เป็นเพราะยาสร้างรากฐานที่ช่วยให้ฉินหมิงทะลวงผ่านไปยังขั้นสร้างรากฐาน“บางทีผมคงโชคดี...”ฉินหมิงไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้อีก ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วและพูดว่า "อันที่จริงนี่ไม่นับว่าเป็นอะไร ผมเพียงอาศัยเม็ดยาถึงโชคดีทะลวงระดับได้""ในทางกลับกัน เค่อรุ่ยต่างหากที่เก่ง เธออายุยังน้อยแต่กลับทะลวงระดับไปยังระดับปรมาจารย์ได้ด้วยตนเอง พรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธระดับนี้น่ากลัวมาก!"ฉินหมิงชื่นชมเค่อรุ่ยอย่างมาก จึงยกย่องเค่อรุ่ยอย่างจริงใจ“นั่นสิ!"“พรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธของเธอไม่เพียงแต่น่ากลัวเท่านั้น แต่เธอยังสวยมากอีกด้วย พระเจ้าช่างไม่ยุติธรรมเลย ทำไมสิ่งดี ๆ ทั้งหมดถึงเกิดขึ้นกับเธอ!”ซูซินเหยาพูดด้วยสีหน้าอิจฉาในแง่ของความงาม เธอไม่แพ้เค่อรุ่ยอย่างแน่นอน แต่ในแง่ของพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธ แม้ว่าเธอจะพยายามวิ่งไล่ แต่เธอก็ไม่อาจตามส้นเท้าของเค่อรุ่ยได้!"เธอสวยมากขนาดนี้ แถมยังเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซู ได้รับพรในทุก ๆ ด้าน เ
“สรุปก็คือตราบเท่าที่คุณบ่มเพาะทักษะนี้ ย่อมดีกว่าที่คุณบ่มเพาะทักษะของตระกูลซูอย่างแน่นอน!”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้ม“ดีกว่าทักษะบ่มเพาะของตระกูลซูของเราอีกอย่างนั้นเหรอ นี่เป็นไปไม่ได้!”“ทักษะบ่มเพาะที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลซูนั้นอยู่ในระดับเหนือมนุษย์ขั้นสูง ในเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ ก็มีเพียงตระกูลหลิน ตระกูลเคอ และตระกูลเหลิ่งสามตระกูลใหญ่เท่านั้นที่มีในครอบครอง แต่ถ้าให้เทียบกับทักษะยุทธ์ของตระกูลซูของเรา ก็ยังด้อยกว่าเล็กน้อย!”“ถ้าฉันเรียนต้องรู้ทักษะระดับต่ำจากคุณ ไม่สู้ฉันกลับไปบ่มเพาะทักษะวรยุทธของบรรพบุรุษของตระกูลตัวเองต่อ!”ซูซินเหยาเยาะเย้ยหนักมากเธอคิดว่าฉินหมิงจงใจหยอกเย้าให้เธออารมณ์ดี จึงอดไม่ได้กรอกตาใส่ฉินหมิงไปทีหนึ่งทักษะวรยุทธไล่จากสูงไปต่ำ โดยแบ่งออกเป็นสี่ระดับได้แก่สวรรค์ ปฐพี เหนือมนุษย์ และทองคำ โดยในกลุ่มนี้ทักษะระดับสวรรค์เป็นทักษะระดับสูงที่สุด และทักษะระดับทองคำคือทักษะระดับต่ำที่สุดแต่ละระดับยังแบ่งออกเป็นขั้นสูง กลาง ต่ำ ลดหลั่นกันลงไปทักษะของบรรพบุรุษของตระกูลซูนั้น อยู่ที่ระดับระดับเหนือมนุษย์ขั้นสูง ซึ่งถือได้ว่าเป็นทักษะที่ค่อนข้างร
เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเคยชี้แนะหลินหว่านชิงและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยให้บ่มเพาะทักษะนี้ ตอนนี้ฉินหมิงจึงคล่องแคล่ว อธิบายรายละเอียดได้อย่างไม่มีติดขัดภายใต้การแนะนำอย่างระมัดระวังของเขาซูซินเหยาสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าพลังปราณที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งล้นทะลักขึ้นจากตันเถียนของเธอ และค่อย ๆ เคลื่อนไปตามเส้นลมปราณของเธอทักษะของบรรพบุรุษที่ซูซินเหยาบ่มเพาะก่อนหน้านี้ ไม่เหมาะกับร่างของผู้หญิงมากจริง ๆ พลังปราณที่อยู่ในร่างกายของเธอจึงมีสิ่งสกปรกแฝงอยู่พอสมควร สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะของเธอช้าลงเท่านั้น มันยังไปขัดขวางการทะลวงคอขวดของเธอ ทำให้เธอเลื่อนระดับได้ยากขึ้นแต่ตอนนี้ ปาฏิหาริย์ได้บังเกิดขึ้นแล้ว!หลังจากที่พลังปราณที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งนี้ปรากฏขึ้น มันก็ค่อย ๆ หลอมเข้ากับพลังปราณแท้จริงที่มีอยู่แต่เดิม คัดกรองและกำจัดสิ่งสกปรกทั้งหมดภายในเส้นลมปราณ จากนั้นระเหยออกไปผ่านทางเหงื่อจนไร้ร่องรอยไม่นานนัก หลังจากโคจรพลังครบหนึ่งรอบพลังปราณแท้จริงในร่างกายของซูซินเหยาก็บริสุทธิ์ขึ้นมาก แถมระดับการบ่มเพาะของเธอเองก็ได้รับการปรับปรุงและกระเตื้องขึ้นอย่างมากเพราะเหตุนี
อย่างไรก็ตามวิชาเทพียุทธ์ค่อนข้างพิเศษ อาจเป็นเพราะมันเหมาะสำหรับให้ผู้หญิงฝึกเท่านั้น บรรพบุรุษตระกูลฉินจึงไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นทักษะในระดับปฐพีหรือระดับสวรรค์กันแน่แต่สิ่งที่บรรพบุรุษตระกูลฉินเก็บรักษาเอาไว้ อย่างไรก็ต้องไม่มีทางต่ำกว่าระดับปฐพีขั้นกลาง!“มันควรจะเป็นระดับปฐพีขั้นกลาง…”ไม่ทันรอให้ซูซินเหยาพูดจบ ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เปลี่ยนไปทันที "ไม่ดีแล้ว ฉินหมิง พลังปราณแท้ของฉันจริงจู่ ๆ ก็ผันผวน ดูเหมือนว่าฉันกำลังจะทะลวงระดับแล้ว..."“อะไรนะ?”“ถ้าอย่างนั้นคุณรีบกินยาหลอมลมปราณเร็วเข้า แล้วดูว่าพอจะทะลวงระดับไปในคราวเดียวได้ไหม!”ฉินหมิงผงะและรีบหยิบยาหลอมลมปราณคุณภาพสูงออกมาแล้วป้อนให้ซูซินเหยาเม็ดยาละลายในปากทันที กลายเป็นกระแสพลังงานบริสุทธิ์ที่ไหลเข้าสู่เส้นลมปราณซูซินเหยารวบรวมพลังปราณแท้จริงของเธอทันที และด้วยพลังงานของยาหลอมลมปราณที่เข้ามาเสริม เธอเริ่มโคจรพลังเพื่อทะลวงผ่านคอขวดครั้งแล้วครั้งเล่า!ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วบูม!ร่างกายที่บอบบางของซูซินเหยาสั่นไหว ออร่าแผ่ออกมาจากร่างของเธออย่างต่อเนื่อง เธอทะลวงจากขั้นกลางระดับสวรรค์ประทานไปสู่
“ฉัน...ฉันไม่ได้กำลังฝันไปใช่ไหม...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น เธอตกใจมากจนแทบจะหมดสติไป!ทักษะระดับสวรรค์มีค่าและหาได้ยากยิ่งกว่าทักษะระดับปฐพีหลายสิบเท่า เรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนล้วนใฝ่ฝัน!เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะโชคดีพอ ได้เห็นทักษะระดับสวรรค์ซึ่งเป็นดั่งสมบัตินี้กับตา แถมยังมีคุณสมบัติได้เรียนรู้มันอีกด้วย!นี่จะเรียกว่าปาฏิหาริย์ก็ไม่เกินจริงไปเลย!เมื่อนึกถึงว่าเมื่อสักครู่นี้ตัวเองเพิ่งจะสงสัยและดูถูกวิชาเทพียุทธ์และฉินหมิงอย่างไร ใบหน้าที่สวยงามก็ร้อนผ่าว ตอนนี้เองเธอถึงได้รู้ว่าตัวเองโง่มาก เกือบจะพลาดทักษะระดับสวรรค์ที่ใครก็เอื้อมไม่ถึงไปแล้ว!โชคดีที่ฉินหมิงเกลี้ยกล่อมให้เธอบ่มเพาะซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่อย่างนั้นถ้าเธอพลาดโอกาสนี้ไปจริงๆ เธอจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน!“ซินเหยาเป็นอะไรไป? โอเคหรือเปล่า?”เมื่อเห็นซูซินเหยายืนนิ่ง ฉินหมิงก็รู้สึกประหลาดใจมาก เขายื่นมือออกไปโบกต่อหน้าซูซินเหยาเบา ๆ พยายามเรียกสติของซูซินเหยากลับมา“ฉัน…”“ฉินหมิง ฉัน...ฉันรักคุณมาก!”หลังจากที่ซูซินเหยาตอบสนองกลับมาไ
หลังจากที่ซูซินเหยาก่อเรื่องแบบนี้ ฉินหมิงก็ค่อย ๆ ลืมไปแล้วว่าเมื่อสักครู่นี้ซูซินเหยาจูบเขาอย่างร้อนแรงแค่ไหนอันที่จริงไม่ใช่ว่าเขาลืม เพียงแต่เรื่องนี้ค่อนข้างน่าอายและเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร จึงเลือกปล่อยมันไปทั้งแบบนี้เมื่อเห็นฉินหมิงเงียบและไม่ยกเรื่องเมื่อกี้นี้ขึ้นมาพูดอีก ซูซินเหยาก็รู้สึกมีความสุขมากที่ได้เห็นผลลัพธ์ดังกล่าว เธอพูดมากขึ้น แลบลิ้นออกมาเล็กน้อยอย่างทะเล้น และรู้สึกได้ใจอยู่นิดหน่อยตอนนี้เธอได้ใช้เวลาร่วมกับฉินหมิงทุกวัน ฉินหมิงดูเหมือนจะค่อยๆ คุ้นเคยกับพฤติกรรมใกล้ชิดเป็นครั้งคราวของเธอแล้ว นี่นับว่าเป็นสัญญาณที่ดี!เธอมีความสุขมากจริง ๆ!แม้ว่าเธอเองก็รู้ดีว่าฉินหมิงยังไม่ลืมหลินหว่านชิงไปอย่างสิ้นเชิง แต่ตราบเท่าที่เธอยังคงพยายามต่อไป เธอเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วเธอจะสามารถก้าวเข้าไปยืนอยู่ในตำแหน่งนั้นในหัวใจของฉินหมิงที่หลินหว่านชิงที่เคยยืนอยู่ได้!“ยังไงก็เถอะ ซินเหยา ฉันหวังว่าเธอจะเก็บเรื่องวิชาเทพียุทธ์นี้ไว้เป็นความลับ อย่าบอกคนอื่นเด็ดขาด!”ฉินหมิงฉุกคิดบางอย่างได้และเตือนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม สีหน้าของเขาดูจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนคนไม
เจิ้งอวี่บอกถึงจุดประสงค์ของเขาแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเลขทะเบียนอาจเป็นของปลอม แต่เขาก็ยังอยากตรวจสอบมันอย่างละเอียด จึงส่งเลขทะเบียนรถยนต์หลายคันให้กับฉินหมิง โดยหวังว่าฉินหมิงและตระกูลซูจะช่วยเขาหาเบาะแสที่เป็นประโยชน์ได้“ได้ครับ ผมจะทำอย่างเต็มที่”ฉินหมิงพยักหน้าและตอบตกลง เขาหยิบปากกาและกระดาษขึ้นมาหนึ่งแผ่น จดเลขทะเบียนรถที่เจิ้งอวี่ให้มาหลังจากเห็นทั้งสองฝ่ายวางสายไปแล้วซูซินเหยาก็อดไม่ได้แล้วถามว่า "ฉินหมิง เกิดอะไรขึ้นเหรอ? สีหน้าของคุณเคร่งเครียดมาก เกิดอะไรขึ้น?"“เรื่องเป็นแบบนี้…”ฉินหมิงถอนหายใจและเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ดักปล้นเจิ้งอวี่อย่างละเอียด“ว่ายังไงนะ?”“มีเรื่องแบบนี้ด้วย!”ซูซินเหยาตกใจมาก พอ ๆ กับที่ฉินหมิงแสดงออกก่อนหน้านี้ เธอไม่คิดเลยว่าจะมีคนใจกล้าไปดักปล้นเจิ้งอวี่กลางทางจริง ๆ!ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังชิงเพียงยาปราณแท้ที่มีเพียงสามเม็ด แต่ละทิ้งยาหลอมลมปราณซึ่งมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านหยวนไปพฤติกรรมนี้ไม่แปลกเกินไปหน่อยเหรอ?เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น!“ซินเหยา คุณเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซู น่าจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับตระกูล