ความเร็วในการพัฒนาความสัมพันธ์นี้ เร็วกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก ซึ่งเกินความคาดหมายของเขาอย่างมากชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเกลียดชังฉินหมิงมากขึ้นไปอีกถ้าเมื่อสักครู่นี้เขาแค่อยากให้เหลิ่งจวิ้นสั่งสอนบทเรียนให้กับฉินหมิงสักยก ตอนนี้เขาอยากให้เหลิ่งจวิ้นฆ่าฉินหมิงให้ตาย ๆ ไปเสียจะได้จบเรื่อง!“หลินหว่านชิง คนอื่นอาจจะกลัวตระกูลหลินของเธอ แต่ฉันเหลิ่งจวิ้นไม่กลัว!”“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเขาจะเป็นแฟนของเธอหรือเปล่า สรุปง่าย ๆ คือเขาทำลายเรื่องดี ๆ ของฉันเมื่อครั้งที่แล้ว ดังนั้นวันนี้ฉันจะไม่ปล่อยเขาไปเด็ดขาด!”“ถ้าเธอยังเกะกะไม่เลิก อย่าหาว่าฉันหยาบคายกับเธอก็แล้วกัน!”เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชามากไม่ต้องพูดถึงว่าฉินหมิงเป็นแค่แฟนของหลินหว่านชิง แม้ว่าฉินหมิงจะเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลิน และสถานะของเขาก็ทัดเทียมกับเขามากที่สุด เขาก็ไม่กลัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไอ้หนูนี่ในตอนนี้เลย เขาไม่เห็นฉินหมิงอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ!“ฉันไม่…”หลินหว่านชิงกำลังจะหักล้างคำพูดของเขา แต่ก็ถูกฉินหมิงขัดจังหวะก่อนที่เธอจะพูดอะไร“หว่านชิง เรื่องนี้มีต้นเหตุมาจากฉัน เพราะงั้นให้ฉันจัดการเถอะ”ฉินหมิงก้าวขึ้น
“หว่านชิง วางใจเถอะ ผมไม่เป็นไรหรอกเชื่อสิ!”ฉินหมิงตบมือของหลินหว่านชิงแล้วเอ่ยปลอบใจให้เธอสบายใจก่อนเดินออกไปหลินหว่านชิงรู้สึกจนปัญญามาก เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ไม่มีที่ว่างสำหรับทั้งสองฝ่ายที่จะหวนกลับอีกแล้วเธอไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วนอกจากต้องเชื่อใจฉินหมิง“ไอ้หนู แกคงไม่คิดว่าจะมีวันนี้ใช่ไหม”“ครั้งที่แล้วที่แกลอบโจมตีฉัน ทำให้ฉันต้องนอนพักฟื้นนานกว่าครึ่งเดือน”“วันนี้ฉันจะใช้เลือดของแกล้างความอัปยศในครั้งนั้น!”กว่านโม๋จ้องเขาเขม็ง“ตาแก่ อย่าได้ไม่รู้ดีชั่ว ไม่เห็นน้ำใจของคนอื่น!”“ครั้งที่แล้วฉันอุตส่าห์มีเมตตา ไว้ชีวิตของแก”“แต่ครั้งนี้แกจะไม่โชคดีแบบนั้นอีกแล้ว!”ฉินหมิงพูดอย่างสงบ เขายกมือขึ้นไพล่หลังราวกับว่าเป็นปรมาจารย์ ดวงตาที่เข้มงวดของทั้งสองข้างมองไปที่กว่านโม๋ราวกับว่ากำลังมองดูมดปลวกตัวหนึ่ง“ผายลม!”“ไอ้หนู แกกำลังรนหาที่ตาย!”กว่านโม๋โกรธมาก กลิ่นอายที่ทรงพลังพวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา จากนั้นเขาก็หยุดพูดไร้สาระ โจมตีไปที่หน้าอกของฉินหมิงอย่างรวดเร็วด้วยหมัดที่ทรงพลังพอที่จะทำให้รูปปั้นหินแหลกเป็นชิ้น ๆ“ฉินหมิง ระวัง…”ใบหน้าที่สวยงามของ
แต่ฉินหมิงสามารถเอาชนะกว่านโม๋ที่อยู่ในขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานเพียงหมัดเดียวได้ ความแข็งแกร่งของเขาย่อมไม่ได้ง่ายดายแค่ขั้นต้นระดับสวรรค์ประทานแน่นอน!“นายน้อยจวิ้น ผมรับประกันได้เลยว่าครั้งที่แล้วความแข็งแกร่งของเขายังอยู่ในขั้นต้นระดับสวรรค์ประทานจริง ๆ!”“เขาสามารถเอาชนะผมได้ด้วยกระบวนท่าเดียว นี่ต้องใช้วิธีที่น่ารังเกียจบางอย่างแน่…”กว่านโม๋จ้องฉินหมิงอย่างดุร้ายเนื่องจากครั้งที่แล้วเขาถูกลอบโจมตีและเล่นงานโดยฉินหมิง เขาจึงตระหนักได้ว่าฉินหมิงนั้นเจ้าเล่ห์มาก ในครั้งนี้เองเขาก็คงใช้วิธีการบางอย่าง ไม่อย่างนั้นฉินหมิงจะเอาชนะเขาด้วยการโจมตีครั้งเดียวได้ยังไง!“ไร้สาระ!”“พวกนายสองคนต่อสู้กันอย่างเปิดเผย เขาจะใช้วิธีการที่น่ารังเกียจอะไรได้”“และถ้าเขาใช้วิธีการที่น่ารังเกียจจริง ๆ พวกเรามีกันเยอะแยะขนาดนี้ มันจะรอดพ้นจากสายตาของพวกเราทุกคนได้เหรอ”เหลิ่งจวิ้นดุเขาอย่างไม่พอใจ“นี่...”กว่านโม๋พูดไม่ออก“ในความเห็นของผม นายน้อยจวิ้น เป็นไปได้ว่ากว่านโม๋เพิ่งจะทะลวงด่าน ระดับการบ่มเพาะยังไม่มั่นคงชั่วคราว ก็เลยเสียเปรียบ…”“ได้โปรดอนุญาตให้ผมออกไปสู้สักครั้ง ให้ผมได้ลอง
“อย่างไรก็ตาม บนร่างกายแกไม่มีพลังปราณ น่าจะเป็นปรมาจารย์กังฟูสายนอกคนหนึ่ง!”“ทักษะของกังฟูสายนอกนั้นระเบิดพลังได้รุนแรงในช่วงต้น ทว่าช่วงหลัง ๆ จะไร้เรี่ยวแรง ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าแกจะขยับได้อีกสักกี่ครั้ง!”เหลิ่งจวิ้นพูดด้วยสีหน้าเยาะเย้ยเขาไม่เคยสังเกตเห็นความผันผวนของพลังปราณจากร่างของฉินหมิงเลย จึงคิดและเข้าใจว่าฉินนั้นหมิงเป็นเพียงปรมาจารย์กังฟูสายนอกคนหนึ่งเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าใครสามารถฝึกฝนกังฟูสายนอกจนมีระดับสูงเทียบเท่ากับขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานได้ แต่ฉินหมิงกลับทำได้ นี่นับว่าเป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้ที่หาได้ยากคนหนึ่ง!อย่างไรก็ตาม กังฟูสายนอกนั้นไม่มีพลังปราณ ย่อมไม่อาจต่อสู้ในสงครามยืดเยื้อได้ เพราะปราศจากการสนับสนุนจากพลังปราณอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของฉินหมิงเองก็ด้อยกว่าเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาประเมินว่าอย่างมากสุด ตัวเองจะจัดการกับฉินหมิงในกระบวนท่าที่สามหรือไม่ก็สี่!ราวกับจะยืนยันการคาดเดาของเขาใบหน้าของฉินหมิงซีดลง จากนั้นเขาค่อยก็ ๆ เริ่มสูญเสียกำลัง ถูกเขาทุบตีจนล่าถอยไป สถานการณ์อันตรายอย่างมาก“ไอ้หนู มันจบแล้ว!”“ล้ม
“พรวด...”เหลิ่งจวิ้นกระอักเลือดออกมา ร่างของเขาลอยกระเด็นออกไปหลายเมตรก่อนจะกระแทกลงกับพื้นอย่างแรงเมื่อเห็นฉากนี้แล้วกว่านโม๋ได้แต่ตกตะลึงลูกน้องคนอื่น ๆ ของเหลิ่งจวิ้นเองก็ตกตะลึงเหมือนกันแม้แต่หลินเถิงฮุ่ยที่มองเหตุการณ์นี้จากด้านหลังก็ยังทำอะไรไม่ถูก !เหลิ่งจวิ้นเป็นผู้นำของกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง แม้ว่าชื่อเสียงในฐานะเพลย์บอยของเขาจะทำให้เขามีภาพลักษณ์ไม่ดี แต่ความสามารถด้านการต่อสู้และการบ่มเพาะของเขานั้นแข็งแกร่งมากจนคนในรุ่นราวคราวเดียวกันแทบไม่มีใครเทียบกับเขาได้ต่อให้ซูห่าวและเค่ออั๋งจะเผชิญหน้ากับเหลิ่งจวิ้นพร้อมกัน พวกเขาก็ไม่อาจเอชนะเขาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเอาชนะเหลิ่งจวิ้นเลยแต่ฉินหมิงเด็กหนุ่มที่ไร้ชื่อเสียงคนนี้ ไม่เพียงแต่เอาชนะเหลิ่งจวิ้นได้เท่านั้น เขายังทำให้เหลิ่งจวิ้นได้รับบาดเจ็บด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวด้วยความตกใจในใจของพวกเขานั้น ใครก็ยากที่จะจินตนาการได้จริง ๆ!โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลินเถิงฮุ่ย เขาตกใจมากจนกรามของเขาแทบจะรวงลงมากับพื้น!เขารู้ภูมิหลังของฉินหมิงดี เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ผ่านการหย่าร้างมาก่อน ไร้ซึ่งภูมิหลังแล
“ฉินหมิง นายยอดเยี่ยมมาก!”หลินหว่านชิงรู้สึกประหลาดใจมากอาจเป็นเพราะเมื่อสักครู่นี้เธอกังวลและกลัวมากเกินไป ตอนนี้เมื่อรู้สึกผ่อนคลายแล้ว เธอไม่สามารถระงับความสุขในหัวใจของเธอได้อีกต่อไป จึงเป็นฝ่ายริเริ่มโผเข้าไปในอ้อมกอดของฉินหมิง แขนสองข้างกอดฉินหมิงไว้แน่น!เหลิ่งจวิ้นคือผู้นำกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง วรยุทธของเขาไร้คู่ต่อกรมาโดยตคลอดฉินหมิงสามารถล้มเหลิ่งจวิ้นได้ นี่ค่อนข้างเกินความคาดหมายของเธอจริง ๆทันใดนั้น เธอก็ค้นพบว่าฉินหมิงทรงพลังมากกว่าที่เธอคิดไว้มาก อย่างน้อยระดับการบ่มเพาะของฉินหมิงก็มาถึงระดับที่สูงมากแล้วสิ่งนี้ทำให้เธอมั่นใจในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินหมิงมากขึ้น!เธอเชื่อว่าตราบเท่าที่ฉินหมิงมีเวลามากพอ เขาจะได้รับการยอมรับจากปู่และคนตระกูลหลินไม่ช้าก็เร็ว!ข้างหลังเมื่อเห็นว่าลูกสาวของตัวเองริเริ่มโผเข้าไปในอ้อมแขนของฉินหมิงก่อน หลินเถิงฮุ่ยก็ใบหน้าถมึงทึง เขากำหมัดแน่น อยากสับฉินหมิงให้เป็นชิ้น ๆ!แต่ทว่าเมื่อนึกถึงบุญคุณที่ฉินหมิงมีต่อตระกูลหลิน ในที่สุดเขาก็บังคับตัวเองให้สงบลง หันหลังกลับและเดินจากไปสำหรับการสังเกตการณ์และการจากไปของห
หลินหว่านชิงพูดอย่างใจเย็นมากยังไงซะ ตอนนี้เธอก็ยอมรับการจีบของฉินหมิงแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเธอจึงบอกเอ้าเฟิงโดยตรง เพื่อที่จากนี้ไปเอ้าเฟิงจะได้ไม่มาสร้างปัญหาต่อหน้าเธออีก“ว่าไงนะ?”“เขาเป็นแฟนของคุณเหรอ?”“นี่...เป็นไปได้ยังไง?!”เอ้าเฟิงตะลึงงันอยู่อย่างนั้น เขายืนนิ่งราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงมาเขาเป็นหนึ่งในคนที่ตามจีบหลินหว่านชิงซึ่งภักดีต่อเธอมากที่สุด และติดตามหลินหว่านชิงมานานกว่าสองปีแล้วเดิมทีเขาคิดว่าตราบเท่าที่เขาพยายามต่อไป เขาจะสามารถเอาชนะใจหลินหว่านชิงได้ไม่ช้าก็เร็วแต่ทว่า สิ่งที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนก็คือ ตัวเองยังไม่ทันได้สมดังปรารถนา เทพธิดาสุดที่รักของเขาจะถูกฉินหมิงแย่งชิงไปแล้วใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความรู้สึกที่เขามรในตอนนี้ได้!“ประธานหลิน คุณถูกคำพูดหวาน ๆ ของฉินหมิงหลอกเข้าแล้วหรือเปล่า?”“คุณก็รู้สถานการณ์ของเขาดี เขาเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไม่มีภูมิหลังดีเด่อะไร แถมยังไร้ความสามารถ ซ้ำยังเคยผ่านการหย่าร้างมาแล้วด้วยซ้ำ”“ขยะไร้ประโยชน์แบบเขานั้น เลวร้ายยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปเสียอีก เขาจะคู่ควรกับคุณที่มีสถาน
ใบหน้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงแดงก่ำ เธอพยักหน้าเบา ๆหานซีเป็นเพื่อนสนิทของเธอ พวกเธอเป็นเหมือนพี่สาวน้องสาวกัน เธอจึงไม่มีอะไรต้องปิดบังจากหานซี แถมนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายด้วย เธอยิ่งไม่จำเป็นต้องซ่อนเรื่องนี้“นี่...”หานซีตกใจมากเรื่องนี้มันกะทันหันมากเกินไปหน่อย แม้ว่าเมื่อสักครู่นี้เธอจะได้ยินมันอย่างคลุมเครือแล้วจากด้านนอกประตู แต่เธอก็ยังตกใจเมื่อได้ยินหลินหว่านชิงยอมรับเรื่องนี้ด้วยตนเอง!“เป็นเพราะฉินหมิงช่วยชีวิตเธอไว้ก่อนหน้านี้ เธอก็เลยยอมรับการจีบของเขาหรือเปล่า?”หานซีดูเหมือนจะเข้าใจบางอย่างได้“อื้ม นั่นก็เป็นส่วนหนึ่ง”“ตอนนั้นที่เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยฉัน ฉันรู้สึกประทับใจในตัวเขามาก”“ต่อมาเมื่อเราได้อยู่ด้วยกันและผ่านเรื่องราวต่าง ๆ รวมกันมากขึ้น ฉันก็รู้สึกว่าเขาดีมากในทุก ๆ ด้าน จึงค่อย ๆ ตกหลุมรักเขาโดยไม่รู้ตัว…”หลินหว่านชิงพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำเมื่อนึกย้อนไปถึงทุกรายละเอียดระหว่างเธอและฉินหมิงในตอนที่อยู่ด้วยกัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน จนถึงคำสารภาพรักของฉินหมิงและจูบที่แสนเผด็จการของเขาเมื่อสองวันก่อน ฯลฯทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนเป็นความทรงจ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ