แต่ฉินหมิงสามารถเอาชนะกว่านโม๋ที่อยู่ในขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานเพียงหมัดเดียวได้ ความแข็งแกร่งของเขาย่อมไม่ได้ง่ายดายแค่ขั้นต้นระดับสวรรค์ประทานแน่นอน!“นายน้อยจวิ้น ผมรับประกันได้เลยว่าครั้งที่แล้วความแข็งแกร่งของเขายังอยู่ในขั้นต้นระดับสวรรค์ประทานจริง ๆ!”“เขาสามารถเอาชนะผมได้ด้วยกระบวนท่าเดียว นี่ต้องใช้วิธีที่น่ารังเกียจบางอย่างแน่…”กว่านโม๋จ้องฉินหมิงอย่างดุร้ายเนื่องจากครั้งที่แล้วเขาถูกลอบโจมตีและเล่นงานโดยฉินหมิง เขาจึงตระหนักได้ว่าฉินหมิงนั้นเจ้าเล่ห์มาก ในครั้งนี้เองเขาก็คงใช้วิธีการบางอย่าง ไม่อย่างนั้นฉินหมิงจะเอาชนะเขาด้วยการโจมตีครั้งเดียวได้ยังไง!“ไร้สาระ!”“พวกนายสองคนต่อสู้กันอย่างเปิดเผย เขาจะใช้วิธีการที่น่ารังเกียจอะไรได้”“และถ้าเขาใช้วิธีการที่น่ารังเกียจจริง ๆ พวกเรามีกันเยอะแยะขนาดนี้ มันจะรอดพ้นจากสายตาของพวกเราทุกคนได้เหรอ”เหลิ่งจวิ้นดุเขาอย่างไม่พอใจ“นี่...”กว่านโม๋พูดไม่ออก“ในความเห็นของผม นายน้อยจวิ้น เป็นไปได้ว่ากว่านโม๋เพิ่งจะทะลวงด่าน ระดับการบ่มเพาะยังไม่มั่นคงชั่วคราว ก็เลยเสียเปรียบ…”“ได้โปรดอนุญาตให้ผมออกไปสู้สักครั้ง ให้ผมได้ลอง
“อย่างไรก็ตาม บนร่างกายแกไม่มีพลังปราณ น่าจะเป็นปรมาจารย์กังฟูสายนอกคนหนึ่ง!”“ทักษะของกังฟูสายนอกนั้นระเบิดพลังได้รุนแรงในช่วงต้น ทว่าช่วงหลัง ๆ จะไร้เรี่ยวแรง ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าแกจะขยับได้อีกสักกี่ครั้ง!”เหลิ่งจวิ้นพูดด้วยสีหน้าเยาะเย้ยเขาไม่เคยสังเกตเห็นความผันผวนของพลังปราณจากร่างของฉินหมิงเลย จึงคิดและเข้าใจว่าฉินนั้นหมิงเป็นเพียงปรมาจารย์กังฟูสายนอกคนหนึ่งเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าใครสามารถฝึกฝนกังฟูสายนอกจนมีระดับสูงเทียบเท่ากับขั้นสูงระดับสวรรค์ประทานได้ แต่ฉินหมิงกลับทำได้ นี่นับว่าเป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้ที่หาได้ยากคนหนึ่ง!อย่างไรก็ตาม กังฟูสายนอกนั้นไม่มีพลังปราณ ย่อมไม่อาจต่อสู้ในสงครามยืดเยื้อได้ เพราะปราศจากการสนับสนุนจากพลังปราณอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของฉินหมิงเองก็ด้อยกว่าเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาประเมินว่าอย่างมากสุด ตัวเองจะจัดการกับฉินหมิงในกระบวนท่าที่สามหรือไม่ก็สี่!ราวกับจะยืนยันการคาดเดาของเขาใบหน้าของฉินหมิงซีดลง จากนั้นเขาค่อยก็ ๆ เริ่มสูญเสียกำลัง ถูกเขาทุบตีจนล่าถอยไป สถานการณ์อันตรายอย่างมาก“ไอ้หนู มันจบแล้ว!”“ล้ม
“พรวด...”เหลิ่งจวิ้นกระอักเลือดออกมา ร่างของเขาลอยกระเด็นออกไปหลายเมตรก่อนจะกระแทกลงกับพื้นอย่างแรงเมื่อเห็นฉากนี้แล้วกว่านโม๋ได้แต่ตกตะลึงลูกน้องคนอื่น ๆ ของเหลิ่งจวิ้นเองก็ตกตะลึงเหมือนกันแม้แต่หลินเถิงฮุ่ยที่มองเหตุการณ์นี้จากด้านหลังก็ยังทำอะไรไม่ถูก !เหลิ่งจวิ้นเป็นผู้นำของกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง แม้ว่าชื่อเสียงในฐานะเพลย์บอยของเขาจะทำให้เขามีภาพลักษณ์ไม่ดี แต่ความสามารถด้านการต่อสู้และการบ่มเพาะของเขานั้นแข็งแกร่งมากจนคนในรุ่นราวคราวเดียวกันแทบไม่มีใครเทียบกับเขาได้ต่อให้ซูห่าวและเค่ออั๋งจะเผชิญหน้ากับเหลิ่งจวิ้นพร้อมกัน พวกเขาก็ไม่อาจเอชนะเขาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเอาชนะเหลิ่งจวิ้นเลยแต่ฉินหมิงเด็กหนุ่มที่ไร้ชื่อเสียงคนนี้ ไม่เพียงแต่เอาชนะเหลิ่งจวิ้นได้เท่านั้น เขายังทำให้เหลิ่งจวิ้นได้รับบาดเจ็บด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวด้วยความตกใจในใจของพวกเขานั้น ใครก็ยากที่จะจินตนาการได้จริง ๆ!โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลินเถิงฮุ่ย เขาตกใจมากจนกรามของเขาแทบจะรวงลงมากับพื้น!เขารู้ภูมิหลังของฉินหมิงดี เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ผ่านการหย่าร้างมาก่อน ไร้ซึ่งภูมิหลังแล
“ฉินหมิง นายยอดเยี่ยมมาก!”หลินหว่านชิงรู้สึกประหลาดใจมากอาจเป็นเพราะเมื่อสักครู่นี้เธอกังวลและกลัวมากเกินไป ตอนนี้เมื่อรู้สึกผ่อนคลายแล้ว เธอไม่สามารถระงับความสุขในหัวใจของเธอได้อีกต่อไป จึงเป็นฝ่ายริเริ่มโผเข้าไปในอ้อมกอดของฉินหมิง แขนสองข้างกอดฉินหมิงไว้แน่น!เหลิ่งจวิ้นคือผู้นำกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเมืองเจียงเฉิง วรยุทธของเขาไร้คู่ต่อกรมาโดยตคลอดฉินหมิงสามารถล้มเหลิ่งจวิ้นได้ นี่ค่อนข้างเกินความคาดหมายของเธอจริง ๆทันใดนั้น เธอก็ค้นพบว่าฉินหมิงทรงพลังมากกว่าที่เธอคิดไว้มาก อย่างน้อยระดับการบ่มเพาะของฉินหมิงก็มาถึงระดับที่สูงมากแล้วสิ่งนี้ทำให้เธอมั่นใจในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินหมิงมากขึ้น!เธอเชื่อว่าตราบเท่าที่ฉินหมิงมีเวลามากพอ เขาจะได้รับการยอมรับจากปู่และคนตระกูลหลินไม่ช้าก็เร็ว!ข้างหลังเมื่อเห็นว่าลูกสาวของตัวเองริเริ่มโผเข้าไปในอ้อมแขนของฉินหมิงก่อน หลินเถิงฮุ่ยก็ใบหน้าถมึงทึง เขากำหมัดแน่น อยากสับฉินหมิงให้เป็นชิ้น ๆ!แต่ทว่าเมื่อนึกถึงบุญคุณที่ฉินหมิงมีต่อตระกูลหลิน ในที่สุดเขาก็บังคับตัวเองให้สงบลง หันหลังกลับและเดินจากไปสำหรับการสังเกตการณ์และการจากไปของห
หลินหว่านชิงพูดอย่างใจเย็นมากยังไงซะ ตอนนี้เธอก็ยอมรับการจีบของฉินหมิงแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเธอจึงบอกเอ้าเฟิงโดยตรง เพื่อที่จากนี้ไปเอ้าเฟิงจะได้ไม่มาสร้างปัญหาต่อหน้าเธออีก“ว่าไงนะ?”“เขาเป็นแฟนของคุณเหรอ?”“นี่...เป็นไปได้ยังไง?!”เอ้าเฟิงตะลึงงันอยู่อย่างนั้น เขายืนนิ่งราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงมาเขาเป็นหนึ่งในคนที่ตามจีบหลินหว่านชิงซึ่งภักดีต่อเธอมากที่สุด และติดตามหลินหว่านชิงมานานกว่าสองปีแล้วเดิมทีเขาคิดว่าตราบเท่าที่เขาพยายามต่อไป เขาจะสามารถเอาชนะใจหลินหว่านชิงได้ไม่ช้าก็เร็วแต่ทว่า สิ่งที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนก็คือ ตัวเองยังไม่ทันได้สมดังปรารถนา เทพธิดาสุดที่รักของเขาจะถูกฉินหมิงแย่งชิงไปแล้วใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความรู้สึกที่เขามรในตอนนี้ได้!“ประธานหลิน คุณถูกคำพูดหวาน ๆ ของฉินหมิงหลอกเข้าแล้วหรือเปล่า?”“คุณก็รู้สถานการณ์ของเขาดี เขาเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไม่มีภูมิหลังดีเด่อะไร แถมยังไร้ความสามารถ ซ้ำยังเคยผ่านการหย่าร้างมาแล้วด้วยซ้ำ”“ขยะไร้ประโยชน์แบบเขานั้น เลวร้ายยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปเสียอีก เขาจะคู่ควรกับคุณที่มีสถาน
ใบหน้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงแดงก่ำ เธอพยักหน้าเบา ๆหานซีเป็นเพื่อนสนิทของเธอ พวกเธอเป็นเหมือนพี่สาวน้องสาวกัน เธอจึงไม่มีอะไรต้องปิดบังจากหานซี แถมนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายด้วย เธอยิ่งไม่จำเป็นต้องซ่อนเรื่องนี้“นี่...”หานซีตกใจมากเรื่องนี้มันกะทันหันมากเกินไปหน่อย แม้ว่าเมื่อสักครู่นี้เธอจะได้ยินมันอย่างคลุมเครือแล้วจากด้านนอกประตู แต่เธอก็ยังตกใจเมื่อได้ยินหลินหว่านชิงยอมรับเรื่องนี้ด้วยตนเอง!“เป็นเพราะฉินหมิงช่วยชีวิตเธอไว้ก่อนหน้านี้ เธอก็เลยยอมรับการจีบของเขาหรือเปล่า?”หานซีดูเหมือนจะเข้าใจบางอย่างได้“อื้ม นั่นก็เป็นส่วนหนึ่ง”“ตอนนั้นที่เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยฉัน ฉันรู้สึกประทับใจในตัวเขามาก”“ต่อมาเมื่อเราได้อยู่ด้วยกันและผ่านเรื่องราวต่าง ๆ รวมกันมากขึ้น ฉันก็รู้สึกว่าเขาดีมากในทุก ๆ ด้าน จึงค่อย ๆ ตกหลุมรักเขาโดยไม่รู้ตัว…”หลินหว่านชิงพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำเมื่อนึกย้อนไปถึงทุกรายละเอียดระหว่างเธอและฉินหมิงในตอนที่อยู่ด้วยกัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเขาพบกัน จนถึงคำสารภาพรักของฉินหมิงและจูบที่แสนเผด็จการของเขาเมื่อสองวันก่อน ฯลฯทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนเป็นความทรงจ
“ขอบคุณนะ…”“ฉันเองก็ขออวยพรให้เธอเจอแฟนในอุดมคติเร็ว ๆ เหมือนกัน”หลินหว่านชิงพูดด้วยรอยยิ้ม“เรื่องของความรู้สึกแบบนี้ ขึ้นอยู่กับโชคชะตา อยากจะหาคนที่ใช่ จะง่ายขนาดนั้นได้ยังไง…?”หานซีฟุ้งซ่านเล็กน้อย เธออดนึกภาพใบหน้าของฉินหมิงในใจไม่ได้ รวมถึงภาพที่เขาดันเธอให้ไปอยู่ข้างหลังเขาและปกป้องเธอเอาไว้อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่หลังจากผ่านมาหลายปี ไม่ง่ายเลยกว่าจะพบผู้ชายที่ทำให้เธอใจเต้น แต่เขากลับกลายเป็นแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิทของเธอนี่จะต้องเป็นการเล่นตลกของพระเจ้าแน่ ๆ ในใจของเธออดไม่ได้รู้สึกตัดพ้อต่อว่าในที่สุดหลินหว่านชิงก็สังเกตเห็นบางสิ่งแปลก ๆ เกี่ยวกับหานซี เธออดไม่ได้ถามด้วยน้ำเสียงสับสนว่า "ซีซี เธอเป็นอะไรไป? กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?"“อ๋อ ไม่มีอะไร…”“พอดีฉันกำลังคิดถึงเรื่องงานอยู่น่ะ เรามาคุยเรื่องงานกันดีกว่า”หลังจากที่หานซีรู้สึกตัวแล้ว เธอก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว……ในอีกด้านหนึ่งหลังจากที่ฉินหมิงออกจากบริษัท เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตรงไปที่บลูมูน บาร์บาร์แห่งนี้เป็นถิ่นของเนี่ยอู๋ ภายใต้การนำของลูกน้องหลายคนของเขา ในที่สุดฉินหมิงก็ได้พบกับเนี่ยอู
อย่างไรก็ตาม ปริมาณเม็ดยาหลอมลมปราณชุดแรกที่หลอมโดยหมิงเหยากรุ๊ปนั้นมีจำกัด ท้ายที่สุดแม้แต่คนใหญ่คนโตมากมายก็ยังทำได้เพียงกลับบ้านไปมือเปล่า โอกาสที่จะหลุดมาถึงเขานั้นยิ่งน้อยไปกันใหญ่ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะเข้าร่วมหรือไม่จึงไม่มีความหมายเลยแม้แต่น้อยส่วนเฝิงหลุน ได้ยินมาว่าครั้งนี้เขาซื้อยาหลอมลมปราณได้เป็นจำนวนมาก จึงกลับบ้านไปพร้อมกับของเต็มไม้เต็มมือน่าเสียดายที่เขาไม่ใช่ลูกน้องของราชาแดนใต้แต่ถึงแม้ราชาแดนใต้จะแจกจ่ายเม็ดยาหลอมลมปราณเหล่านี้ ก็ตกไม่ถึงมือเขาอยู่ดี!ความหวังเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือหมิงเหยากรุ๊ปสามารถหลอมยาหลอมลมปราณชุดที่สองโดยเร็วที่สุด ถึงตอนนั้นเขาอาจจะมีโอกาสซื้อมันได้บ้าง“วางใจเถอะ ยาส่วนของนายฉันเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว!”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้ม หยิบขวดบรรจุยาหลอมลมปราณออกมาขวดหนึ่งแล้วมอบให้เนี่ยอู๋“นายน้อยฉิน เป็นไปได้ไหมว่า...นี่คือยาหลอมลมปราณ?”เนี่ยอู๋เปิดฝาขวดกระเบื้องเคลือบและมองดูยาสีขาวที่อยู่ข้างใน สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ“ถูกต้อง มียาหลอมลมปราณระดับหนึ่งทั้งหมดหนึ่งร้อยเม็ดในนี้ ฉันเตรียมไว้ให้นายโดยเฉพาะ”ฉินหมิงยิ้มและพยักหน้