“งั้นเหรอ? งั้นเราก็มารอดูกัน!”“ฉันอยากจะเห็นจริง ๆ ว่าอาศัยร่างเล็ก ๆ ของเขา จะรับหมัดของนายท่านหงได้ยังไง!”นายน้อยโหวเยาะเย้ยเจียงหลานและคนอื่น ๆ เองก็พยักหน้าเห็นด้วยพวกเขาทั้งหมดได้เห็นกับตาตัวเองเมื่อสักครู่นี้แล้วว่าฝ่ามือของจ้าวหงเซิงนั้นทรงพลังมากแค่ไหน ท้ายที่สุดร่างกายของฉินหมิงก็ถูกสร้างขึ้นจากเลือดและเนื้อ ไม่ว่าจะถูกต่อยตรงจุดใด อย่างน้อยเขาก็น่าจะกระดูกหัก!นอกเสียจากจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นฉินหมิงไม่มีทางสกัดกั้นหมัดของจ้าวหงเซิงได้!อย่างไรก็ตาม ไม่ทันรอให้พวกเขาได้คิดจนจบ ฉากต่อมาก็ทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้านเห็นเพียงว่าฉินหมิงไม่เคลื่อนตัวจากจุดที่ยืนอยู่เลย เพียงยื่นมือไปข้างหน้าและคว้าหมัดของจ้าวหงเซิงไว้ด้วยมือของเขาไม่ว่าจ้าวหงเซิงจะพยายามอย่างหนักแค่ไหน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะการออกแรง เขาก็ไม่อาจชักมือกลับจากมือของฉินหมิงได้!“สี่พยัคฆ์แห่งโลกใต้ดินที่แท้ก็แค่นี้!”ฉินหมิงยิ้มเยาะเบา ๆ บิดตัวแล้วยกเท้าเตะไปที่หน้าอกของจ้าวหงเซิง ร่างของจ้าวหงเซิงก็กระเด็นปลิวออกไปโดยตรงตู้ม!ร่างของจ้าวหงเซิงกระแทกเข้ากับโต๊ะอย่างแรง โต๊ะไม
จ้าวหงเซิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เขามองออกลาง ๆ ว่าฉินหมิงดูระแวดระวัง จึงยิ่งรู้สึกมั่นใจมากขึ้น “พูดได้ดี!”“ไม่ว่าแกจะเป็นใคร กล้าต่อต้านพ่อของฉัน นั่นเท่ากับกำลังรนหาที่ตาย!”ในขณะนี้เอง ก็มีเสียงเยาะเย้ยเสียงหนึ่งดังขึ้นหลังจากนั้น ชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบสามหรือยี่สิบสี่ปีก็เดินเข้ามาในห้องส่วนตัวจากด้านนอกพร้อมกับลูกน้องสองสามคนชายหนุ่มคนนี้ หล่อเหลาและดูสง่างามมาก ดูจากภายนอกเหมือนจะเป็นคนอ่อนโยน แต่บรรยากาศที่แผ่ออกมารอบตัวเขานั้นกลับคมกริบและดุร้ายเหมือนดาบที่ชักออกมาจากฝัก ทั้งคมและยากที่จะต้านทานได้เขาคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือเฝิงหลุน ลูกชายของราชาแดนใต้“นายน้อยเฝิง คุณมาได้จับจังหวะดีจริง ๆ!”จ้าวหงเซิงใบหน้าแสดงออกว่ามีความสุขมาก รีบก้าวไปข้างหน้า โค้งคำนับและทักทายเขาด้วยความเคารพ“นายเป็นใคร?”ฉินหมิงมองไปที่เฝิงหลุน สีหน้าดูสับสน“ไอ้หนู เงี่ยหูของแกแล้วตั้งใจฟังให้ดี นี่คือลูกชายสายตรงของราชาแดนใต้ของเรา นายน้อยเฝิงหลุน!”จ้าวหงเซิงพูดอย่างภาคภูมิใจ“ลูกชายของราชาแดนใต้?”ฉินหมิงรู้สึกประหลาดใจมากคนอื่น ๆ อย่างนายน้อยโหวและเจียงหลานเองก็ตกใจไม่แพ้กัน
ในเวลานี้เอง จู่ ๆ ชายคนหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านหลังของเฝิงหลุนชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือพยัคฆ์ภูเขาเนี่ยอู๋!“นายน้อยเฝิง ได้โปรดใจเย็น ๆ ก่อนเถอะครับ”“ผมขอแนะนำให้คุณรู้จัก นี่คือนายน้อยฉิน เขาก็คือนายน้อยฉินหมิงคนนั้นที่ผมพูดถึงก่อนหน้านี้!”“เขาไม่เพียงแต่เป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์เท่านั้น ยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลซูซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่อีกด้วย”“คุณชายใหญ่ของตระกูลซูซูห่าวและคุณหนูใหญ่ซูซินเหยา ล้วนเป็นเพื่อนของเขา” เนี่ยอู๋แนะนำ“ว่าไงนะ?”“เขาก็คือนายน้อยฉินคนนั้น!”เฝิงหลุนตกใจมากหลายคนรู้ดีว่าระดับลมปราณของเนี่ยอู๋ก่อนหน้านี้อยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับมานะสร้างเท่านั้น แต่ครั้งก่อนที่เขาขัดแย้งกับเสือมีปีกหลัวซื่อฉง ระดับลมปราณของเขากลับพุ่งพรวดขึ้นมา เลื่อนขึ้นไปอยู่ในขั้นกลางระดับสวรรค์ประทานแล้วในเวลาเพียงไม่กี่วัน ระดับการบ่มเพาะของเนี่ยอู๋ก็ทะลวงขึ้นมาถึงสองขั้นติด นี่เป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากสำหรับผู้ฝึกยุทธ!หลังจากที่เฝิงหลุนรับรู้เรื่องนี้ เขาก็เริ่มสนใจทันทีเขาโทรหาเนี่ยอู๋อย่างไม่รอช้าเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากคำบอกเล่าของเนี่ยอู๋ เขารู
นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว?อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงคำพูดของเนี่ยอู๋ที่เพิ่งใช้แนะนำ พวกเขาก็ได้สติขึ้นมา เมื่อกี้นี้เนี่ยอู๋พูดอย่างชัดเจนแล้วว่าฉินหมิงเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลซูนายน้อยโหว เจียงหลาน และคนอื่น ๆ ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ ย่อมไม่เข้าใจว่าระดับปรมาจารย์นั้นหมายถึงอะไร แต่ตระกูลซูซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ เป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของเมืองเจียงเฉิน พวกเขามีชื่อเสียงมานานมากแล้ว!ฉินหมิงถึงกับปีนขึ้นไปเกาะตระกูลซูได้ เขาจะยังไร้ค่าและเป็นขยะในสายตาของพวกตนอีกเหรอ!เป็นไปได้ไหมว่า...จริง ๆ แล้วฉินหมิงคนนี้คือบุคคลที่ทรงอำนาจมากคนหนึ่ง?นายน้อยโหว เจียงหลาน และคนอื่น ๆ ตกตะลึง ในที่สุดพวกเขาก็ได้สติกลับมา แต่ละคนตกใจและโง่งมไปโดยสิ้นเชิง!“นายน้อยเฝิง คุณ...คุณสุภาพมากเกินไปแล้วครับ ผมไม่กล้ารับหรอก”ฉินหมิงไม่คิดว่าเฝิงหลุนจะก้มหัวและขอโทษเขา เขาจึงลนลานนิดหน่อยแต่เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเฝิงหลุนมีเจตนาที่จะแสดงความเป็นมิตรต่อเขา ไม่คิดที่จะเป็นศัตรูกับเขาอีกต่อไปนี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการพอดี!“นายน้อยฉิน ได้รู้จักกับบุคค
“นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย คุณไม่จำเป็นต้องคุกเข่าทำให้เรื่องใหญ่โตขนาดนี้”“แต่ผมอยากจะขอเตือนคุณสักคำ หวังว่าคุณจะไม่ทำตัวเผด็จการขนาดนี้อีกในอนาคต” ฉินหมิงพูดเขาไม่ใช่คนใจแคบ ยิ่งไม่มีความคิดที่จะเอาเรื่องจ้าวหงเซิงยิ่งไปกว่านั้น คำขอโทษของจ้าวหงเซิงนั้นจริงใจมาก เขายิ่งไม่มีทางเอาเรื่องอีกฝ่าย“ขอบคุณครับ ขอบคุณนายน้อยฉินที่ใจกว้าง…”จ้าวหงเซิงเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม ตอนนี้ถึงกล้าลุกขึ้นยืน“จ้าวหงเซิง พูดมาสิ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”“ทำไมนายถึงขัดแย้งกับนายน้อยฉินได้?”เฝิงหลุนถามอย่างใจเย็นแม้ว่าฉินหมิงจะให้อภัยจ้าวหงเซิงแล้ว แต่เขาก็ยังอยากรู้ให้แน่ชัดว่ามันเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดจ้าวหงเซิงทำอะไรที่ผิดจรรยาบรรณและชั่วร้ายลงไป แม้ว่าฉินหมิงจะให้อภัยจ้าวหงเซิง แต่เขาจะไม่ปล่อยจ้าวหงเซิงไปง่าย ๆ แน่นอน!“เรื่องเป็นแบบนี้ครับ…”จ้าวหงเซิงไม่กล้าปิดบัง เล่าทุกอย่างออกมาจนหมดตั้งแต่ต้น รวมถึงความขัดแย้งระหว่างฉินหมิงและนายน้อยโหวด้วยเมื่อสักครู่นี้นายน้อยโหวเพิ่งบอกเขาว่า เป็นเพราะลูกน้องของนายน้อยโหวกับฉินหมิงขัดแย้งกัน ถึงได้ทำให้ประตูห้องส่วนตัวพัง“โหวเอนเตอ
ทั้งหมดนี้ ตีเกราะป้องกันทางจิตใจที่เปราะบางของเขาจนพ่ายแพ้ยับเยิน“อ่อนแอซะจริง!”“ต่อให้แกโขกจนหัวแตกมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก!”เฝิงหลุนมองนายน้อยโหวด้วยสายตาเย็นชา สีหน้ามีแต่ความดูถูกเหยียดหยามในตอนแรกเขาคิดว่านายน้อยโหวกล้าหาญมากถึงได้กล้าที่จะมีเรื่องกับฉินหมิง กว่าครึ่งคงเป็นตัวตนประเภทยอมหักแต่ไม่ยอมงอ อย่างน้อยก็น่าจะหยิ่งในศักดิ์ศรีแต่ต่อให้เขาฝัน เขาก็ไม่คิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายกลับเป็นเพียงคนขี้ขลาด!ในโลกใต้ดิน แต่ไหนแต่ไรมาก็เคารพลูกผู้ชายที่มีจิตใจแข็งแกร่ง ถ้านายน้อยโหวจิตใจเข้มแข็งมากกว่านี้อีกสักนิด เขาอาจจะมองในแง่ดีมากขึ้นแต่นายน้อยโหวไม่สมกับเป็นลูกผู้ชายขนาดนี้ มีแต่จะทำให้เขาดูถูกดูแคลน!เมื่อเห็นว่าเฝิงหลุนไม่สะทกสะท้าน นายน้อยโหวก็หนาวสั่นไปทั้งหัวใจอย่างไรก็ตาม สติปัญญาบังเกิดขึ้นท่ามกลางความร้อนรน เขาตระหนักถึงปมสำคัญของเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว ครั้งนี้เฝิงหลุนออกหน้าแทนฉินหมิง ถ้างั้นคนที่จะกำหนดความเป็นความตายของโหวเอนเตอร์ไพรส์ของพวกเขาที่แท้จริงก็คือฉินหมิง!“นายน้อยฉิน เมื่อกี้นี้เป็นผมที่มีตาแต่ไร้แวว ล่วงเกินคุณหลายต่อหลายครั้ง ผมขอโทษครับ…”“ค
อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งตกลงที่จะให้เฝิงหลุนช่วยจัดการกับเรื่องนี้ ถ้าเขากลับกลับคำในตอนนี้ มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้เฝิงหลุนเสียหน้า ซึ่งไม่ค่อยเหมาะสมเลยเมื่อเห็นว่าฉินหมิงดูเหมือนจะพูดง่ายกว่าเฝิงหลุนมาก นายน้อยโหวย่อมไม่ละทิ้งโอกาสนี้ ในขณะที่เขาขอร้องอย่างไม่ลดละ เขาก็ลอบขยิบตาให้เฉิงซิ่งอย่างเงียบ ๆ หวังว่าเฉิงซิ่งจะช่วยขอร้องแทนเขาด้วยเฉิงซิ่งเข้าใจในทันทีว่านายน้อยโหวหมายถึงอะไรแม้ว่าเขาอยากจะปกป้องตัวเอง ไม่อยากเข้าไปย่ำในบ่อน้ำโคลนนี้ แต่โหวเอนเตอร์ไพรส์เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของตระกูลเขา บริษัทเล็ก ๆ ของเขายังจำเป็นต้องพึ่งพาโหวเอนเตอร์ไพรส์เพื่อความอยู่รอดถ้ากิจการของโหวเอนเตอร์ไพรส์ถูกเฝิงหลุนทำลายจริง ๆ บริษัทเล็ก ๆ ของเขาก็จะจบสิ้นไปด้วย!ในทางกลับกัน ถ้าเขาสามารถช่วยนายน้อยโหวให้ผ่านพ้นจากความยากลำบากในครั้งนี้ วันข้างหน้านายน้อยโหวจะไม่ปฏิบัติต่อเขาอย่างเลวร้ายแน่นอน และด้วยความช่วยเหลือจากโหวเอนเตอร์ไพรส์ การที่บริษัทเล็ก ๆ ของเขาจะเจริญรุ่งเรืองก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น!เพื่อผลกำไร เฉิงซิ่งกัดฟันและตัดสินใจลองสักตั้ง!“เยี่ยนเยี่ยน เธอช่วยขอร้อง
“ฉินหมิง นายน้อยโหวคนนี้หัวแตกแล้ว เขาคงรู้ถึงความผิดของตัวเองแล้วล่ะค่ะ”“เรื่องนี้เราพอแค่นี้กันเถอะ?”หลี่เจียฮุ่ยเดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ ฉินหมิงและขอร้องแทนนายน้อยโหว“อืม ได้ครับ”ฉินหมิงลังเลเล็กน้อยและพูดเดิมทีเขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะบีบนายน้อยโหวให้ตายอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อหลี่เจียฮุ่ยออกหน้าขอร้องเอง เขาจึงตอบตกลง“นายน้อยเฝิง ขอบคุณมากจริง ๆ นะครับสำหรับเรื่องนี้ ผมจดจำหนี้น้ำใจของคุณในครั้งนี้ไว้แล้ว”“อย่างไรก็ตาม ให้อภัยได้ก็ให้อภัยไป ตามความเห็นผม นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ครั้งนี้เราไว้ชีวิตเขาสักครั้งเถอะ”ฉินหมิงกล่าวแม้ว่านี่จะเป็นเหมือนการฉีกหน้าเฝิงหลุนเล็กน้อย แต่เขาก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าเขายอมรับน้ำใจนี้ของเขาแล้ว ดังนั้นเฝิงหลุนคงไม่ถึงกับโกรธเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้“ได้ครับ งั้นก็ทำตามที่นายน้อยฉินว่าก็แล้วกัน”เฝิงหลุนตรงไปตรงมามากจุดประสงค์หลักของเขาก็คือการทำให้ฉินหมิงติดหนี้น้ำใจเขา ในเมื่อฉินหมิงรับหนี้น้ำใจนี้ไปแล้ว สิ่งอื่น ก็ล้วนไม่สำคัญ“เอาล่ะ แกไสหัวไปได้แล้ว!”เฝิงหลุนมองไปที่นายน้อยโหวแล้วตวาดอย่างเย็นชา“ครับ ครับ ขอบคุณนายน้อยฉิน
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ