ครั้งที่แล้ว เขาแค่รักษาอาการบาดเจ็บที่ซ่อนเร้นอยู่ในเส้นลมปราณของเนี่ยอู๋ ลมปราณที่สะสมอยู่ในร่างกายของเนี่ยอู๋เป็นเวลาหลายปีก็ระเบิดออกมา เขาจึงสามารถทะลวงผ่านสองระดับในคราวเดียวได้แต่เฝิงหลุนไม่มีอาการบาดเจ็บแอบแฝง แล้วเขาจะช่วยให้เฝิงหลุนทะลวงระดับได้ยังไงนอกจากนี้ ระดับการบ่มเพาะของเขานั้นก็ยังอยู่แค่ขั้นกลางระดับมานะสร้างเท่านั้น ด้อยกว่าเฝิงหลุนซึ่งอยู่ในขั้นต้นระดับสวรรค์ประทานมากแม้ว่าเขาอยากจะให้คำปรึกษาแก่เฝิงหลุน แต่เขาก็ไม่มีความสามารถนั้น“เป็นแบบนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าผมจะคิดมากเกินไป...”เฝิงหลุนรู้สึกผิดหวังในความเป็นจริง เขารู้ดีอยู่แล้วว่าการฝึกฝนวรยุทธนั้นจำเป็นต้องค่อย ๆ ฝึกไปทีละขั้นอย่างมั่นคง มันไม่มีทางลัดครั้งก่อนที่ฉินหมิงชี้แนะเนี่ยอู๋ทำให้เขาทะลวงระดับได้นั้น กว่าครึ่งน่าจะมีเรื่องที่คนอื่นไม่รู้แอบแฝงอยู่ สิ่งนี้ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้มิฉะนั้น ถ้าฉินหมิงสามารถชี้แนะทุกคนให้ทะลวงระดับได้ตามแต่ที่ต้องการจริง ๆ นั่นมันก็น่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว!เมื่อเห็นท่าทางผิดหวังอย่างมากของเฝิงหลุน ฉินหมิงก็ทนไม่ไหวยังไงซะอีกฝ่ายเพิ่งช่วยเขา ตอนนี้เขากลับไม่ส
ฉินหมิงส่ายหัวและปฏิเสธอย่างสุภาพยาหลอมลมปราณบนตัวเขา เป็นยาหลอมลมปราณขั้นสูงสุดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเขาต้องการเก็บยานี้ไว้ใช้เองและมอบให้กับหลินหว่านชิงและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขายให้กับคนอื่นเมื่อสักครู่นี้ที่เขาเต็มใจมอบให้กับเฝิงหลุนหนึ่งเม็ด ก็เพื่อตอบแทนน้ำใจของเฝิงหลุน“ขายให้สักนิดไม่ได้เลยเหรอครับ?”“ความต้องการของผมไม่ได้สูงมาก แค่สามหรือห้าเม็ดก็พอแล้ว…”เฝิงหลุนพูดอย่างไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าฉินหมิงได้รับยาหลอมลมปราณมาจากที่ใด แต่เขารู้ว่ายาหลอมลมปราณเหล่านี้เป็นสิ่งที่วิเศษมากสำหรับผู้ฝึกยุทธ และจะต้องเป็นของหายากและล้ำค่ามาก เป็นเรื่องปกติที่ฉินหมิงจะไม่ขายมันอย่างไรก็ตาม เมื่อสักครู่นี้เขาเห็นลาง ๆ แล้วว่ามียาหลอมลมปราณอย่างน้อยหลายสิบเม็ดในขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวหยกของฉินหมิงตราบเท่าที่ฉินหมิงเต็มใจขายยาให้เขาสองสามเม็ด เพียงพอให้เขาทะลวงระดับไปได้อย่างราบรื่นและโดยเร็วที่สุด เขาเองก็ไม่กล้าเรียกร้องมากเกินไป“นายน้อยเฝิง คุณไม่ต้องใจร้อนไปหรอกครับ ถ้าคุณอยากได้ยาหลอมลมปราณจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก”“ตระกูลซูเพิ่งก่อตั
“ฉินหมิง?”หลี่เจียฮุ่ยชะงักกึก ถึงตอนนี้เธอถึงเพิ่งจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองใช้ฉินหมิงเป็นโล่กำบัง“แม่คะ แม่เข้าใจผิดแล้ว ฉินหมิงเป็นเพื่อนของหนูเอง เขาไม่ใช่แฟนของหนู…”“เมื่อกี้นี้หนูแค่ขอให้เขาเล่นบทแฟนเพื่อยกเลิกการหมั้นหมาย”หลี่เจียฮุ่ยยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน“อะไรนะ?”“เขาไม่ใช่แฟนของลูกเหรอ?”เจียงหลานราวกับถูกฟ้าผ่า รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อทันที“แม่คะ แม่เป็นอะไรไป?”หลี่เจียฮุ่ยถามอย่างสงสัย“ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้!”“เมื่อกี้เขายอมรับอย่างชัดเจนว่าเป็นแฟนลูก นี่จะเป็นการแอบอ้างได้ยังไง!”เจียงหลานส่ายหัวอย่างแรง เธอไม่สามารถยอมรับความจริงที่โหดร้ายนี้ได้“หนูก็บอกแล้วไม่ใช่หรอคะว่าเขาแค่ร่วมมือแสดงละครกับหนู เขาไม่ใช่แฟนของหนูจริง ๆ”หลี่เจียฮุ่ยอธิบายเมื่อเห็นว่าลูกสาวของเธอไม่ได้โกหก อารมณ์ของเจียงหลานก็จมดิ่งลงสู่ก้นบึ้ง เธอไม่อาจไม่ยอมรับเรื่องนี้“เจียฮุ่ย อย่าโง่!”“ไม่ว่าเสี่ยวฉินจะเป็นแฟนของลูกหรือเปล่า เมื่อกี้นี้เขาไม่ได้ปฏิเสธตรง ๆ หมายความว่าในใจเขาต้องสนใจลูกอยู่บ้าง”“ต่อให้ตอนนี้เขาจะไม่ใช่แฟนของลูกแล้ว ลูกก็ต้องรีบคว้าโอกาสไว้ พยายามทำใ
“ไม่…ไม่มีอะไร…”หลี่เจียฮุ่ยหน้าแดงก่ำ เธอไม่กล้ามองเข้าไปในดวงตาของฉินหมิงก่อนหน้านี้เธออาจใกล้ชิดกับฉินหมิงบ้างเป็นครั้งคราว ทว่าก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติแต่ตอนนี้แม่และลูกพี่ลูกน้องของเธอต่างก็พยายามเกลี้ยกล่อมเธอให้คบหากับฉินหมิงอย่างเต็มที่ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกเล็กน้อยตอนนี้ฉินหมิงมานั่งลงข้าง ๆ เธอ เธอก็สัมผัสถึงกลิ่นอายความเป็นชายที่แข็งแกร่งจากตัวฉินหมิงได้อย่างชัดเจนสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจตัวเองที่ผิดปกติไป“เสี่ยวฉิน พวกเรากำลังพูดเรื่องของเธอกัน”เจียงหลานพูดอย่างไม่ปกปิดแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังกับฉินหมิงมากมาย แต่ฉินหมิงดูเหมือนจะไม่ขุ่นเคืองและไม่มีความตั้งใจที่จะเอาเรื่องใด ๆสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกสบายใจมาก ขณะเดียวกันเธอก็ชื่นชมในความมีน้ำใจของฉินหมิงมากขึ้น เธอรู้สึกเหมือนเป็นแม่สามีที่กำลังมองดูลูกเขยตัวเอง ยิ่งมองเขามากเท่าไร เธอก็ยิ่งพึงพอใจมากขึ้นเท่านั้น“พูดเรื่องอะไรของผมเหรอครับ”ฉินหมิงแปลกใจมาก“เสี่ยวฉิน ตอนนี้เธอมีแฟนหรือยัง?”เจียงหลานถามมองดูลูกสาวของตัวเองไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย เธอก็แอบร้อนรน
เจียงหลานพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ“อืม ที่แม่ของลูกพูดมีเหตุผล เสี่ยวฉินยอดเยี่ยมมากในทุกด้านจริง ๆ…”หลี่เหวินไห่พยักหน้า แสดงออกว่ายอมรับในตัวฉินหมิงเช่นกันฉินหมิงมีอำนาจ แต่กลับไม่เย่อหยิ่งและบ้าอำนาจเหมือนนายน้อยโหว ตรงกันข้ามเขาถ่อมตัวและสุภาพ ไม่อวดดีหรือเอาตัวเองเป็นใหญ่มากเกินไปนี่ถึงจะเป็นผู้ชายที่ดีที่คู่ควรจะฝากทั้งชีวิตของลูกสาวไว้กับเขา!“พ่อคะ แม่คะ เราเปลี่ยนเรื่องพูดไม่ได้เหรอ?”หลี่เจียฮุ่ยปวดหัวมากหลังจากกลับมาจากโรงแรม แม่ของเธอก็เอาแต่ดุเธอจนในหัวเธอยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว“ท่าทีแบบนี้ของลูกหมายความว่ายังไง!”“พูดยังไงลูกก็ไม่ฟัง จะทำให้แม่โกรธตายให้ได้เลยใช่ไหม”เจียงหลานตวาดเธอด้วยความโกรธ“ลืมมันไปซะเถอะ หนูออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะดีกว่า…”หลี่เจียฮุ่ยทนแรงกดดันจากแม่ของเธอไม่ไหวจริง ๆ จึงหาข้ออ้างออกไปข้างนอก อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ สักพักบางทีอาจเป็นเพราะถูกแม่ของเธอกระตุ้นมากเกินไป ความคิดของเธอเริ่มได้รับผลกระทบเล็กน้อยแล้วทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าตัวเองสมควรพิจารณาคำแนะนำของแม่ของเธอ และลองออกเดทกับฉินหมิงสักระยะหนึ่งแม้ว่าเธอจะไม่มีความรู้สึกใจเ
หลี่เหวินไห่ตกตะลึง เขารู้ว่าภรรยาของเขาไม่ได้โกหก จึงอดไม่ได้ที่จะร้อนใจขึ้นมา“ไม่ต้องสนใจว่าใครเป็นคนทำ รีบแจ้งความด่วนเลย!”เจียงหลานรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอ เตรียมจะกดโทรหาตำรวจ“ไม่ได้ คุณแจ้งตำรวจไม่ได้!”หลี่เหวินไห่ตกใจและรีบหยุดภรรยาของเขาอย่างรวดเร็ว“ทำไมจะโทรแจ้งตำรวจไม่ได้ล่ะ”“ลูกสาวของฉันถูกพวกคนร้ายลักพาตัว ยิ่งช้า ทุกนาทีเธอก็จะยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น”“ในฐานะพ่อแท้ ๆ หรือคุณจะเอาแต่มองดู เพิกเฉยและไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”เจียงหลานโกรธมาก เธอแทบอดไม่ไหวตบหน้าหลี่เหวินไห่“เจียงหลาน คุณใจเย็น ๆ ก่อน”“ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนร้ายอย่างที่คุณพูดจริง ๆ ทันทีที่เราโทรแจ้งตำรวจ จะเท่ากับกระตุ้นพวกเขา ถึงตอนนั้นสถานการณ์ของเจียฮุ่ยก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น!”หลี่เหวินไห่อธิบายอย่างรวดเร็วท้ายที่สุดเขาเป็นผู้ชาย สงบและใจเย็นกว่าเจียงหลานในเรื่องแบบนี้และค่อนข้างมองไกล"นี่..."เจียงหลานตกตะลึง เธอรู้ว่าสิ่งที่สามีของเธอพูดเป็นเรื่องจริงในภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่อง หลังจากที่พวกคนร้ายลักพาตัวตัวประกัน เพราะมีการแจ้งตำรวจ สุดท้ายพวกเขาจนตรอกไม่มีทางไป จึงได้ฆ่าตัวป
นอกจากนี้เขายังเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่เด็กจึงมีญาติและเพื่อนฝูงเพียงไม่กี่คน หลี่เจียฮุ่ยนับเป็นญาติครึ่งหนึ่งของเขา!ในใจของเขา สถานะของหลี่เจียฮุ่ยเป็นอันดับสองรองลงมาจากหลินหว่านชิงเท่านั้น!ตอนนี้หลี่เจียฮุ่ยตกอยู่ในอันตราย ไม่ว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนเท่าไร เขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้หลี่เจียฮุ่ยได้รับอันตรายเด็ดขาด!หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว เมื่อเห็นสีหน้าของฉินหมิงดูแย่อย่างมาก หลินหว่านชิงก็อดไม่ได้ถามไปว่า "ฉินหมิง เป็นอะไรไป? เกิดอะไรขึ้นเหรอ?".“เพื่อนสนิทคนหนึ่งของผมถูกพวกคนร้ายลักพาตัวไป…”ฉินหมิงพูดด้วยความโกรธ อธิบายสถานการณ์ทั้งหมดโดยย่อจากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ "หว่านชิงครับ ผมต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณตระกูลหลิน หวังว่าคุณจะสามารถใช้เส้นสายของคุณช่วยผมค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายได้"“โอเคค่ะ ไม่มีปัญหา ฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้”หลินหว่านชิงพยักหน้า แล้วลากเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยออกไปก่อนจากนั้นฉินหมิงก็โทรหาซูห่าว เฝิงหลุนและเนี่ยอู๋ตามลำดับ ขอให้ทั้งสามคนช่วยค้นหาที่อยู่ของคนร้ายด้วยคราวนี้เพื่อช่วยเหลือหลี่เจียฮุ่ย เขาได้ใช้กำลังท
“ถ้าคุณอยากเล่นสนุกก็ไม่เป็นไร!”“แต่ผมขอเตือนคุณไว้ก่อนว่า ต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อยหลังจากเล่นเสร็จ อย่าได้ทิ้งหลักฐานใด ไว้เป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นหากเรื่องนี้ถึงตำรวจจะไม่เป็นผลดีต่อเราทั้งสองแน่นอน!”หลัวซื่อฉงไม่ลืมที่จะเตือนทุกวันนี้สังคมอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตและสื่อเองก็พัฒนาไปไกลมาก ต่อให้เป็นสี่ตระกูลใหญ่และสองราชา ก็ไม่อาจปิดท้องฟ้าด้วยมือข้างเดียวได้!ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาและซุนกวนชง!ถ้าซุนกวนชงทิ้งหลักฐานการก่ออาชญากรรมไว้เพราะความใคร่ที่เขามีต่อผู้หญิง ผลลัพธ์ที่ตามมาคงเรียกได้คำเดียวว่าหายนะ!“คุณวางใจเถอะ ผมคิดแผนเอาไว้แล้ว สัญญาว่าจะไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ ไว้…”ซุนกวนชงตบหน้าอกของเขา บอกแผนของเขากับหลัวซื่อฉงคร่าว ๆ“เป็นความคิดที่ดี!”“ถ้างั้นฉันจะไม่รบกวนคุณแล้ว คุณไปเล่นสนุกให้เต็มที่เถอะ!”หลัวซื่อฉงหัวเราะฮ่าฮ่า ยกนิ้วให้กับซุนกวนชงและชมเขาสองสามคำ จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นรับเงินจากผู้อื่นก็ต้องช่วยผู้อื่นขจัดภัยพิบัติ ในครั้งนี้เขารับเงินจากตระกูลซุน เป้าหมายก็เพื่อจัดการกับฉินหมิงสำหรับหลี่เจียฮุ่ย ไม่สำคัญว่าซุน
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ