“ฉินหมิง นายน้อยโหวคนนี้หัวแตกแล้ว เขาคงรู้ถึงความผิดของตัวเองแล้วล่ะค่ะ”“เรื่องนี้เราพอแค่นี้กันเถอะ?”หลี่เจียฮุ่ยเดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ ฉินหมิงและขอร้องแทนนายน้อยโหว“อืม ได้ครับ”ฉินหมิงลังเลเล็กน้อยและพูดเดิมทีเขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะบีบนายน้อยโหวให้ตายอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อหลี่เจียฮุ่ยออกหน้าขอร้องเอง เขาจึงตอบตกลง“นายน้อยเฝิง ขอบคุณมากจริง ๆ นะครับสำหรับเรื่องนี้ ผมจดจำหนี้น้ำใจของคุณในครั้งนี้ไว้แล้ว”“อย่างไรก็ตาม ให้อภัยได้ก็ให้อภัยไป ตามความเห็นผม นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ครั้งนี้เราไว้ชีวิตเขาสักครั้งเถอะ”ฉินหมิงกล่าวแม้ว่านี่จะเป็นเหมือนการฉีกหน้าเฝิงหลุนเล็กน้อย แต่เขาก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าเขายอมรับน้ำใจนี้ของเขาแล้ว ดังนั้นเฝิงหลุนคงไม่ถึงกับโกรธเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้“ได้ครับ งั้นก็ทำตามที่นายน้อยฉินว่าก็แล้วกัน”เฝิงหลุนตรงไปตรงมามากจุดประสงค์หลักของเขาก็คือการทำให้ฉินหมิงติดหนี้น้ำใจเขา ในเมื่อฉินหมิงรับหนี้น้ำใจนี้ไปแล้ว สิ่งอื่น ก็ล้วนไม่สำคัญ“เอาล่ะ แกไสหัวไปได้แล้ว!”เฝิงหลุนมองไปที่นายน้อยโหวแล้วตวาดอย่างเย็นชา“ครับ ครับ ขอบคุณนายน้อยฉิน
ครั้งที่แล้ว เขาแค่รักษาอาการบาดเจ็บที่ซ่อนเร้นอยู่ในเส้นลมปราณของเนี่ยอู๋ ลมปราณที่สะสมอยู่ในร่างกายของเนี่ยอู๋เป็นเวลาหลายปีก็ระเบิดออกมา เขาจึงสามารถทะลวงผ่านสองระดับในคราวเดียวได้แต่เฝิงหลุนไม่มีอาการบาดเจ็บแอบแฝง แล้วเขาจะช่วยให้เฝิงหลุนทะลวงระดับได้ยังไงนอกจากนี้ ระดับการบ่มเพาะของเขานั้นก็ยังอยู่แค่ขั้นกลางระดับมานะสร้างเท่านั้น ด้อยกว่าเฝิงหลุนซึ่งอยู่ในขั้นต้นระดับสวรรค์ประทานมากแม้ว่าเขาอยากจะให้คำปรึกษาแก่เฝิงหลุน แต่เขาก็ไม่มีความสามารถนั้น“เป็นแบบนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าผมจะคิดมากเกินไป...”เฝิงหลุนรู้สึกผิดหวังในความเป็นจริง เขารู้ดีอยู่แล้วว่าการฝึกฝนวรยุทธนั้นจำเป็นต้องค่อย ๆ ฝึกไปทีละขั้นอย่างมั่นคง มันไม่มีทางลัดครั้งก่อนที่ฉินหมิงชี้แนะเนี่ยอู๋ทำให้เขาทะลวงระดับได้นั้น กว่าครึ่งน่าจะมีเรื่องที่คนอื่นไม่รู้แอบแฝงอยู่ สิ่งนี้ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้มิฉะนั้น ถ้าฉินหมิงสามารถชี้แนะทุกคนให้ทะลวงระดับได้ตามแต่ที่ต้องการจริง ๆ นั่นมันก็น่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว!เมื่อเห็นท่าทางผิดหวังอย่างมากของเฝิงหลุน ฉินหมิงก็ทนไม่ไหวยังไงซะอีกฝ่ายเพิ่งช่วยเขา ตอนนี้เขากลับไม่ส
ฉินหมิงส่ายหัวและปฏิเสธอย่างสุภาพยาหลอมลมปราณบนตัวเขา เป็นยาหลอมลมปราณขั้นสูงสุดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเขาต้องการเก็บยานี้ไว้ใช้เองและมอบให้กับหลินหว่านชิงและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขายให้กับคนอื่นเมื่อสักครู่นี้ที่เขาเต็มใจมอบให้กับเฝิงหลุนหนึ่งเม็ด ก็เพื่อตอบแทนน้ำใจของเฝิงหลุน“ขายให้สักนิดไม่ได้เลยเหรอครับ?”“ความต้องการของผมไม่ได้สูงมาก แค่สามหรือห้าเม็ดก็พอแล้ว…”เฝิงหลุนพูดอย่างไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าฉินหมิงได้รับยาหลอมลมปราณมาจากที่ใด แต่เขารู้ว่ายาหลอมลมปราณเหล่านี้เป็นสิ่งที่วิเศษมากสำหรับผู้ฝึกยุทธ และจะต้องเป็นของหายากและล้ำค่ามาก เป็นเรื่องปกติที่ฉินหมิงจะไม่ขายมันอย่างไรก็ตาม เมื่อสักครู่นี้เขาเห็นลาง ๆ แล้วว่ามียาหลอมลมปราณอย่างน้อยหลายสิบเม็ดในขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวหยกของฉินหมิงตราบเท่าที่ฉินหมิงเต็มใจขายยาให้เขาสองสามเม็ด เพียงพอให้เขาทะลวงระดับไปได้อย่างราบรื่นและโดยเร็วที่สุด เขาเองก็ไม่กล้าเรียกร้องมากเกินไป“นายน้อยเฝิง คุณไม่ต้องใจร้อนไปหรอกครับ ถ้าคุณอยากได้ยาหลอมลมปราณจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก”“ตระกูลซูเพิ่งก่อตั
“ฉินหมิง?”หลี่เจียฮุ่ยชะงักกึก ถึงตอนนี้เธอถึงเพิ่งจำได้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองใช้ฉินหมิงเป็นโล่กำบัง“แม่คะ แม่เข้าใจผิดแล้ว ฉินหมิงเป็นเพื่อนของหนูเอง เขาไม่ใช่แฟนของหนู…”“เมื่อกี้นี้หนูแค่ขอให้เขาเล่นบทแฟนเพื่อยกเลิกการหมั้นหมาย”หลี่เจียฮุ่ยยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน“อะไรนะ?”“เขาไม่ใช่แฟนของลูกเหรอ?”เจียงหลานราวกับถูกฟ้าผ่า รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อทันที“แม่คะ แม่เป็นอะไรไป?”หลี่เจียฮุ่ยถามอย่างสงสัย“ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้!”“เมื่อกี้เขายอมรับอย่างชัดเจนว่าเป็นแฟนลูก นี่จะเป็นการแอบอ้างได้ยังไง!”เจียงหลานส่ายหัวอย่างแรง เธอไม่สามารถยอมรับความจริงที่โหดร้ายนี้ได้“หนูก็บอกแล้วไม่ใช่หรอคะว่าเขาแค่ร่วมมือแสดงละครกับหนู เขาไม่ใช่แฟนของหนูจริง ๆ”หลี่เจียฮุ่ยอธิบายเมื่อเห็นว่าลูกสาวของเธอไม่ได้โกหก อารมณ์ของเจียงหลานก็จมดิ่งลงสู่ก้นบึ้ง เธอไม่อาจไม่ยอมรับเรื่องนี้“เจียฮุ่ย อย่าโง่!”“ไม่ว่าเสี่ยวฉินจะเป็นแฟนของลูกหรือเปล่า เมื่อกี้นี้เขาไม่ได้ปฏิเสธตรง ๆ หมายความว่าในใจเขาต้องสนใจลูกอยู่บ้าง”“ต่อให้ตอนนี้เขาจะไม่ใช่แฟนของลูกแล้ว ลูกก็ต้องรีบคว้าโอกาสไว้ พยายามทำใ
“ไม่…ไม่มีอะไร…”หลี่เจียฮุ่ยหน้าแดงก่ำ เธอไม่กล้ามองเข้าไปในดวงตาของฉินหมิงก่อนหน้านี้เธออาจใกล้ชิดกับฉินหมิงบ้างเป็นครั้งคราว ทว่าก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติแต่ตอนนี้แม่และลูกพี่ลูกน้องของเธอต่างก็พยายามเกลี้ยกล่อมเธอให้คบหากับฉินหมิงอย่างเต็มที่ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกเล็กน้อยตอนนี้ฉินหมิงมานั่งลงข้าง ๆ เธอ เธอก็สัมผัสถึงกลิ่นอายความเป็นชายที่แข็งแกร่งจากตัวฉินหมิงได้อย่างชัดเจนสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจตัวเองที่ผิดปกติไป“เสี่ยวฉิน พวกเรากำลังพูดเรื่องของเธอกัน”เจียงหลานพูดอย่างไม่ปกปิดแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังกับฉินหมิงมากมาย แต่ฉินหมิงดูเหมือนจะไม่ขุ่นเคืองและไม่มีความตั้งใจที่จะเอาเรื่องใด ๆสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกสบายใจมาก ขณะเดียวกันเธอก็ชื่นชมในความมีน้ำใจของฉินหมิงมากขึ้น เธอรู้สึกเหมือนเป็นแม่สามีที่กำลังมองดูลูกเขยตัวเอง ยิ่งมองเขามากเท่าไร เธอก็ยิ่งพึงพอใจมากขึ้นเท่านั้น“พูดเรื่องอะไรของผมเหรอครับ”ฉินหมิงแปลกใจมาก“เสี่ยวฉิน ตอนนี้เธอมีแฟนหรือยัง?”เจียงหลานถามมองดูลูกสาวของตัวเองไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย เธอก็แอบร้อนรน
เจียงหลานพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ“อืม ที่แม่ของลูกพูดมีเหตุผล เสี่ยวฉินยอดเยี่ยมมากในทุกด้านจริง ๆ…”หลี่เหวินไห่พยักหน้า แสดงออกว่ายอมรับในตัวฉินหมิงเช่นกันฉินหมิงมีอำนาจ แต่กลับไม่เย่อหยิ่งและบ้าอำนาจเหมือนนายน้อยโหว ตรงกันข้ามเขาถ่อมตัวและสุภาพ ไม่อวดดีหรือเอาตัวเองเป็นใหญ่มากเกินไปนี่ถึงจะเป็นผู้ชายที่ดีที่คู่ควรจะฝากทั้งชีวิตของลูกสาวไว้กับเขา!“พ่อคะ แม่คะ เราเปลี่ยนเรื่องพูดไม่ได้เหรอ?”หลี่เจียฮุ่ยปวดหัวมากหลังจากกลับมาจากโรงแรม แม่ของเธอก็เอาแต่ดุเธอจนในหัวเธอยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว“ท่าทีแบบนี้ของลูกหมายความว่ายังไง!”“พูดยังไงลูกก็ไม่ฟัง จะทำให้แม่โกรธตายให้ได้เลยใช่ไหม”เจียงหลานตวาดเธอด้วยความโกรธ“ลืมมันไปซะเถอะ หนูออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะดีกว่า…”หลี่เจียฮุ่ยทนแรงกดดันจากแม่ของเธอไม่ไหวจริง ๆ จึงหาข้ออ้างออกไปข้างนอก อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ สักพักบางทีอาจเป็นเพราะถูกแม่ของเธอกระตุ้นมากเกินไป ความคิดของเธอเริ่มได้รับผลกระทบเล็กน้อยแล้วทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าตัวเองสมควรพิจารณาคำแนะนำของแม่ของเธอ และลองออกเดทกับฉินหมิงสักระยะหนึ่งแม้ว่าเธอจะไม่มีความรู้สึกใจเ
หลี่เหวินไห่ตกตะลึง เขารู้ว่าภรรยาของเขาไม่ได้โกหก จึงอดไม่ได้ที่จะร้อนใจขึ้นมา“ไม่ต้องสนใจว่าใครเป็นคนทำ รีบแจ้งความด่วนเลย!”เจียงหลานรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอ เตรียมจะกดโทรหาตำรวจ“ไม่ได้ คุณแจ้งตำรวจไม่ได้!”หลี่เหวินไห่ตกใจและรีบหยุดภรรยาของเขาอย่างรวดเร็ว“ทำไมจะโทรแจ้งตำรวจไม่ได้ล่ะ”“ลูกสาวของฉันถูกพวกคนร้ายลักพาตัว ยิ่งช้า ทุกนาทีเธอก็จะยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น”“ในฐานะพ่อแท้ ๆ หรือคุณจะเอาแต่มองดู เพิกเฉยและไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”เจียงหลานโกรธมาก เธอแทบอดไม่ไหวตบหน้าหลี่เหวินไห่“เจียงหลาน คุณใจเย็น ๆ ก่อน”“ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนร้ายอย่างที่คุณพูดจริง ๆ ทันทีที่เราโทรแจ้งตำรวจ จะเท่ากับกระตุ้นพวกเขา ถึงตอนนั้นสถานการณ์ของเจียฮุ่ยก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น!”หลี่เหวินไห่อธิบายอย่างรวดเร็วท้ายที่สุดเขาเป็นผู้ชาย สงบและใจเย็นกว่าเจียงหลานในเรื่องแบบนี้และค่อนข้างมองไกล"นี่..."เจียงหลานตกตะลึง เธอรู้ว่าสิ่งที่สามีของเธอพูดเป็นเรื่องจริงในภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่อง หลังจากที่พวกคนร้ายลักพาตัวตัวประกัน เพราะมีการแจ้งตำรวจ สุดท้ายพวกเขาจนตรอกไม่มีทางไป จึงได้ฆ่าตัวป
นอกจากนี้เขายังเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่เด็กจึงมีญาติและเพื่อนฝูงเพียงไม่กี่คน หลี่เจียฮุ่ยนับเป็นญาติครึ่งหนึ่งของเขา!ในใจของเขา สถานะของหลี่เจียฮุ่ยเป็นอันดับสองรองลงมาจากหลินหว่านชิงเท่านั้น!ตอนนี้หลี่เจียฮุ่ยตกอยู่ในอันตราย ไม่ว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนเท่าไร เขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้หลี่เจียฮุ่ยได้รับอันตรายเด็ดขาด!หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว เมื่อเห็นสีหน้าของฉินหมิงดูแย่อย่างมาก หลินหว่านชิงก็อดไม่ได้ถามไปว่า "ฉินหมิง เป็นอะไรไป? เกิดอะไรขึ้นเหรอ?".“เพื่อนสนิทคนหนึ่งของผมถูกพวกคนร้ายลักพาตัวไป…”ฉินหมิงพูดด้วยความโกรธ อธิบายสถานการณ์ทั้งหมดโดยย่อจากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ "หว่านชิงครับ ผมต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณตระกูลหลิน หวังว่าคุณจะสามารถใช้เส้นสายของคุณช่วยผมค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายได้"“โอเคค่ะ ไม่มีปัญหา ฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้”หลินหว่านชิงพยักหน้า แล้วลากเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยออกไปก่อนจากนั้นฉินหมิงก็โทรหาซูห่าว เฝิงหลุนและเนี่ยอู๋ตามลำดับ ขอให้ทั้งสามคนช่วยค้นหาที่อยู่ของคนร้ายด้วยคราวนี้เพื่อช่วยเหลือหลี่เจียฮุ่ย เขาได้ใช้กำลังท