ซูห่าวดุด้วยความโกรธเขารู้ดีว่าถ้าน้องสาวของเขาไม่ปะทะกับฉินหมิงเมื่อครู่ ฉินหมิงก็คงจะไม่ปฏิเสธอย่างหนักแน่นขนาดนี้เวลาแก้ปม คนเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ มีเพียงน้องสาวของเขาเท่านั้นที่จะสามารถร้องขอการให้อภัยจากฉินหมิง เรื่องนี้อาจจะมีโอกาสแก้ไขได้อยู่!“พี่อยากให้ฉันคุกเข่าให้เขาเนี่ยนะ?”"ไม่มีทางซะหรอก!"“พี่จะบ้าก็บ้าไปคนเดียว ฉันไม่บ้าไปกับพี่หรอก!”ซูซินเหยากัดฟันขาวของเธอแล้วพูด"เธอ…"“เธอรู้ไหมว่าสถานการณ์ปัจจุบันของคุณย่าวิกฤตมาก และชีวิตของคุณย่าก็สามารถตกอยู่ในอันตรายได้ตลอดเวลา ถ้าหากคุณฉินไม่รับปากจะรักษาให้ เธอก็น่าจะรู้ถึงผลที่ตามมานี่!”“เธออยากเป็นคนฆ่าคุณย่าใช่ไหม?”ซูห่าวจ้องมอง เกือบจะทนไม่ไหวกับความเอาแต่ใจของน้องสาวตัวเอง"ฉัน…"ซูซินเหยารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางใจเธอมักจะหยิ่งผยองและเอาแต่ใจมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจอยู่เสมออีกด้วยแต่ตอนนี้หลังจากที่พี่ชายเตือนสติ สุดท้ายเธอก็ตระหนักได้ว่าชีวิตของคุณย่าอยู่ในน้ำมือของฉินหมิงหากคุณย่าต้องสูญเสียโอกาสเดียวในการได้รับการรักษาไปเพราะความเอาแต่ใจของเธอ วันข้างหน้าเธอจะกล้าสู้หน้ากั
ฉินหมิงลังเล ก่อนจะพูดขึ้น"ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่คุณพยายามสุดความสามารถ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ตระกูลซูของเราจะจะไม่มีวันลืมความเมตตาของคุณแน่นอน!"นายซูพูดอย่างจริงจังแม้ว่าเขาจะกังวลเกี่ยวกับอาการของภรรยาของเขามาก แต่ฉินหมิงก็บอกเองกับปากว่าเขามั่นใจประมาณ หกสิบถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ในแง่ของการแพทย์ ความมั่นใจในระดับสูงเช่นนี้ไม่น่าจะทำให้เกิดปัญหาอะไร“จะอยู่หรือตายล้วนถูกสวรรค์กำหนดไว้แล้วไม่ว่าจะได้รับการรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเถอะ”“ฉินหมิง เพียงแค่เริ่มรักษาได้ทุกทุกวิธีที่นายต้องการเถอะ ไม่จำเป็นต้องกดดันอะไรมากนัก”ถังเฟิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้มใจดีตอนนี้เธออายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว เธอใช้ชีวิตมาอย่างยาวนานและประเมินความตายต่ำเกินไป แต่ต่อให้เธอจะรักษาไม่หาย ก็ถือว่าใช้ชีวิตมามากพอแล้ว“เอาล่ะ ไม่ต้องกังวล ผมจะทำให้ดีที่สุด!”ฉินหมิงยิ้ม จากนั้นเขาก็โบกมือให้ถังเฟิ่งเพื่อยืดข้อมือออกและสัมผัสชีพจรของเธออย่างระมัดระวังการแพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับ "การดู การดมกลิ่น การฟัง และความรู้สึก" เขาสัมผัสได้ถึงอาการเจ็บป่วยของถังเฟิ่งโดยประมาณแล้ว
"อะไรกัน......"นายท่านซูรู้สึกราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่า ฝีเท้าของเขาโซเซ และอารมณ์ของเขาชาหนึบราวกับตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็ง"ไอ้สารเลว!"“แกมันนักต้มตุ๋น แกฆ่าคุณย่าฉัน ฉันจะฆ่าแกซะ…”ซูซินเหยารู้สึกโศกเศร้า หมายจะโจมตีฉินหมิงด้วยฝ่ามือที่บ้าคลั่ง“ซินเหยา หยุด!”“อย่าเสียมารยาท!”เสียงของนายท่านซูแหบแห้ง และเขาก็อ้าปากเพื่อหยุดซูซินเหยาได้ทันเวลา“คุณปู่ เขาเป็นคนฆ่าคุณย่า เราจะปล่อยเขาไว้ไม่ได้...”ซูซินเหยาร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศก“มันไม่ใช่ความผิดของเขา...”“คุณย่าบอกเองนี่ว่า ความเป็นความตายขึ้นอยู่กับสวรรค์ ทุกสิ่งล้วนเป็นโชคชะตา...”นายท่านซูน้ำตาไหลและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งนั่นน่าสะเทือนใจมากทุกคนรู้อยู่เต็มอกว่าเขาคือคนที่เศร้าโศกยิ่งกว่าซูซินเหยาเสียอีก“พวกคุณ... เป็นบ้าอะไรกัน นายหญิงซู เธอ... ยังมีชีวิตอยู่ เธอ... เธอเกือบจะหายดีแล้วด้วยซ้ำ…”ฉินหมิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เสียงของเขาแหบแห้งอย่างหนัก และแทบจะไม่สามารถบังคับให้ตัวเองพูดออกมาเพียงสองสามคำได้เลยด้วยซ้ำคำพูดเหล่านี้ไม่ได้ดังอะไร แต่นั่นดังราวกับระเบิดสำหรับนายท่านซูและ
"ความจริงแล้วผมอยากจะบอกอะไรกับคุณให้ชัดเจนหน่อย แม้ว่าอาการของนายหญิงซูจะเกือบเป็นปกติแล้ว แต่เธอยังไม่หายขาดเสียทีเดียว"ฉินหมิงยิ้มอย่างเชื่องช้าเนื่องจากครั้งนี้เขามั่นใจเพียงหกสิบถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ และไม่สามารถควบคุมอาการได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างการรักษาขึ้น“ยังไม่หายขาด?”“หรือจะเป็นเพราะคราวนี้เป็นการรักษาตามอาการไม่ใช่ที่ต้นสายปลายเหตุ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดซ้ำอีกในอนาคต?”นายท่านซูสะดุ้ง และความสุขในใจก็ลดลงอย่างช่วยไม่ได้สองพี่น้อง ซูห่าวและซูซินเหยาเองก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเช่นกัน"ไม่ใช่แบบนั้นเลย!"“ผมทำการรักษาอาการติดเชื้อในสมองของนายหญิงซูได้แล้ว ปกติแล้วมันไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ที่อาการเช่นนี้จะหวนกลับมาได้อีก”“แต่ทว่าทักษะของผมยังคงตื้นเขิน ทำให้ผมไม่อาจช่วยนายหญิงซูซ่อมแซมเส้นประสาทที่เสียหายไปแล้วได้ ทำให้เธออาจจะต้องนั่งรถเข็นหรือใช้ไม้ค้ำยันไปตลอดชีวิต…”ฉินหมิงพูดด้วยความอับอายตามบันทึกในหนังสือทางการแพทย์ที่อยู่ในจิตของเขา หากการบ่มเพาะของเขาก้าวหน้าเพียงพอ เขาจะสามารถใช้พลังวิญญาณซ่อมแซมเส้นประสาทที่เสียหายของ
“เรื่องนี้อาจทำให้ตระกูลอื่น ๆ อับจนหนทาง แต่นั่นทำอะไรพวกเขาไม่ได้หรอก!” “โอ้? จริงเหรอ เช่นนั้นก็เข้าใจแล้ว”ฉินหมิงรู้สึกประหลาดใจแล้วก็เข้าใจในที่สุด“ฉินหมิง บอกตามตรง ปัจจุบันตระกูลซูของเรามีโสมป่าอายุมากกว่าสามร้อยหกสิบปีอยู่ด้วย!”“สำหรับวัตถุดิบยาล้ำค่าอื่น ๆ ถ้านายอยากได้อะไรเพิ่มเติม บอกมาเลยฉันจะให้คนจัดเตรียมให้ทันที” นายท่านซูกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ตกลง ผมจะเขียนใบสั่งยาให้คุณเดี๋ยวนี้เลย”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็หยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาจดใบสั่งยาแล้วยื่นให้นายท่านซูนอกจากนี้เขายังขอให้นายท่านซูหาหม้อปรุงอาหารมาให้เขาใช้ต้มยา รวมถึงถ่านไฟและสิ่งอื่น ๆ อีกในเวลาไม่นานนักซูห่าวใช้ให้ยามหลายคนนำวัสดุยาและสิ่งของที่ฉินหมิงต้องการมาทั้งหมด รวมถึงโสมป่าที่มีอายุมากกว่าสามร้อยปีของเขาด้วยฉินหมิงวางหม้อปรุงอาหารลงบนถ่าน ส่งสัญญาณให้ซูห่าวจุดไฟ จากนั้นเขาก็เริ่มต้มยาให้ถังเฟิ่งเองตามความทรงจำของตำราการแพทย์ในความทรงจำของเขา ฉินหมิงโยนวัตถุดิบทางยาลงในหม้อปรุงอาหารอย่างเป็นขั้นตอนจากนั้น เขาก็ระดมพลังวิญญาณในร่างกาย พุ่งไปตามนิ้ว ก่อนที่จะเทพลังวิญญาณลงในหม้อปรุงอา
“นี่เป็นทักษะการเล่นแร่แปรธาตุโบราณนี่!”“วันนี้ฉันได้เปิดหูเปิดตาหลายอย่างเลยทีเดียว!”นายท่านซูหัวเราะและมองดูฉินหมิงด้วยความชื่นชมเช่นเดียวกับ ซูห่าวและซูซินเหยาวันนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาได้เห็นทักษะการเล่นแร่แปรธาตุลึกลับ สามารถจินตนาการถึงความตื่นเต้นในใจของพวกเขาได้!“พวกคุณเอ่ยชมกันเกินไปแล้ว มันเป็นเพียงทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีอะไรให้น่าพูดถึงหรอก…”ใบหน้าของฉินหมิงเปลี่ยนเป็นสีแดงและเขารู้สึกละอายใจเล็กน้อยหลังจากได้รับคำชมเป็นอย่างที่ทุกคนคาดเดาเมื่อครู่เขาไม่ได้ต้มยา แต่กำลังกลั่นยาอายุวัฒนะต่างหากเมื่อเปรียบเทียบกับยาต้มทั่วไป ผลที่ได้จากการเล่นแร่แปรธาตุนับว่าดีกว่าหลายเท่า และสามารถสกัดคุณสมบัติทางยาจากวัตถุดิบเหล่านั้นได้ดีกว่าอย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เขาลองเล่นแร่แปรธาตุจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่มีประสบการณ์และยังไม่อาจควบคุมความร้อนได้ดีนัก จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุที่เตาระเบิดก่อนหน้านี้โชคดีที่ยาอายุวัฒนะเหล่านี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้วและวัสดุยาอันล้ำค่ามากมายก็ไม่ได้ถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า ไม่เช่นนั้นเขาคงต้องอับอายมากแน่ ๆ!“นายหญิงซู เก
“ซินเหยา รีบสั่งให้คนเตรียมอาหารเย็นเร็ว!”“ฉินหมิง นี่ก็ฟ้ามืดแล้ว นายก็อยู่ทานข้าวกับฉันที่นี่ดีไหมล่ะ?”นายท่านซูกล่าวด้วยรอยยิ้ม“เอ่อ ได้ครับ อย่างนั้นผมรบกวนด้วยนะครับ”ฉินหมิงพยักหน้ายิ้มตอบ ยุ่งมาจะครึ่งวันแล้ว จริง ๆ เขาเองก็หิวแล้วเหมือนกัน“คุณฉี คุณก็อยู่ทานด้วยกันสักมื้อสิครับ”นายท่านซูพูดเชื้อเชิญคุณฉี“ไม่ล่ะครับ พอดีผมมีธุระ อย่างนั้นผมไปก่อนนะครับ”“นายท่านซู คุณฉินหมิง แล้วเจอกันครั้งหน้านะครับ”คุณฉีโค้งคำนับและกล่าวคำอำลา จากนั้นก็พาผู้ช่วยเดินออกไปหลังจากเห็นร่างของคุณฉีลับตาไป ซูห่าวเหมือนคิดออกอะไรบางอย่าง “คุณปู่ครับ เกี่ยวกับเรื่องคุณฉิน ผมคิดวิธีอะไรบางอย่างได้แล้วครับ”“วิธีอะไรล่ะ?”นายท่านซูถามอย่างสงสัย“ตระกูลซูของพวกเราทำธรุกิจเกี่ยวกับยา ทักษะการแพทย์ของคุณฉินก็สูงขนาดนี้ หากเราสามารถร่วมมือในด้านการแพทย์ได้ มันจะเป็นโครงการที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอนเลยนะครับ”แววตาชาญฉลาดส่องประกายในดวงตาของซูห่าวนายท่านซูคิดอยู่สักพัก ไม่นานก็เข้าใจในสิ่งที่หลายชายตนพูด หลังจากนั้นก็มองไปที่ฉินหมิงแล้วกล่าวด้วยร้อยยิม“นี่ฉินหมิง ทักษะการแพท
อีกทั้งเขาไม่ใช่คนรักของหลินหว่านชิง หากส่งของขวัญที่มีค่ามากขนาดนี้ให้กับเธอ เขากังวลว่าลุกล้ำเธอมากเกินไป!เขาเข้าใจเธอดี หลินหว่านชิงคงไม่รับของขวัญนี้ง่าย ๆ แน่ถ้าเขาเอาสร้อยเส้นนี้มอบให้เธอแล้วหลินหว่านชิงเข้าใจผิดว่าเขามีเจตนาไม่ดี พอถึงตอนนั้นพวกเขาสองคนอาจจะไม่หลงเหลือความเป็นเพื่อนเลยก็ได้ สิ่งนี้เขาจะไม่ยอมเกิดขึ้นเด็ดขาด“ฉินหมิง ทำไมนายถึงจ้องมองพื้นเหม่อยังงั้นล่ะ?”“จริงสิ นายทานข้าวเย็นมาแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ทาน ฉันจะได้ให้ป้าหลิวทำกับข้าวใหม่ให้นาย”เมื่อได้ยินเสียงใส ๆ ของหลินหว่านชิง จิตใจฉินหมิงก็ล่องลอยหลุดไป“ไม่ ไม่ต้องหรอกครับ ผมทานจากข้างนอกมาแล้ว”“หว่านชิง นี่มันก็ดึกแล้ว งั้นผมกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนนะครับ”ฉินหมิงหัวเราะแห้ง ๆ ในที่สุดเขาก็เก็บสร้อยไว้อย่างเงียบ ๆ แล้วกลับเข้าไปในห้อง“ฉินหมิงวันนี้นายเป็นอะไรหรือเปล่า ดูแปลก ๆ ไปนะ…”เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของฉินหมิง หลินหว่านชิงรู้สึกงุนงงมากสัญชาตญาณของผู้หญิงบอกเธอว่าอาการของฉินหมิงนั้นผิดปกติ แต่สาเหตุคืออะไรเธอเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน จากนั้นเธอก็ส่ายหัวและละทิ้งความสงสัยแล้วกลับขึ้นไปชั้นบนเ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ