อีกทั้งเขาไม่ใช่คนรักของหลินหว่านชิง หากส่งของขวัญที่มีค่ามากขนาดนี้ให้กับเธอ เขากังวลว่าลุกล้ำเธอมากเกินไป!เขาเข้าใจเธอดี หลินหว่านชิงคงไม่รับของขวัญนี้ง่าย ๆ แน่ถ้าเขาเอาสร้อยเส้นนี้มอบให้เธอแล้วหลินหว่านชิงเข้าใจผิดว่าเขามีเจตนาไม่ดี พอถึงตอนนั้นพวกเขาสองคนอาจจะไม่หลงเหลือความเป็นเพื่อนเลยก็ได้ สิ่งนี้เขาจะไม่ยอมเกิดขึ้นเด็ดขาด“ฉินหมิง ทำไมนายถึงจ้องมองพื้นเหม่อยังงั้นล่ะ?”“จริงสิ นายทานข้าวเย็นมาแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ทาน ฉันจะได้ให้ป้าหลิวทำกับข้าวใหม่ให้นาย”เมื่อได้ยินเสียงใส ๆ ของหลินหว่านชิง จิตใจฉินหมิงก็ล่องลอยหลุดไป“ไม่ ไม่ต้องหรอกครับ ผมทานจากข้างนอกมาแล้ว”“หว่านชิง นี่มันก็ดึกแล้ว งั้นผมกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนนะครับ”ฉินหมิงหัวเราะแห้ง ๆ ในที่สุดเขาก็เก็บสร้อยไว้อย่างเงียบ ๆ แล้วกลับเข้าไปในห้อง“ฉินหมิงวันนี้นายเป็นอะไรหรือเปล่า ดูแปลก ๆ ไปนะ…”เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของฉินหมิง หลินหว่านชิงรู้สึกงุนงงมากสัญชาตญาณของผู้หญิงบอกเธอว่าอาการของฉินหมิงนั้นผิดปกติ แต่สาเหตุคืออะไรเธอเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน จากนั้นเธอก็ส่ายหัวและละทิ้งความสงสัยแล้วกลับขึ้นไปชั้นบนเ
ใบหน้าหานซีแดงเล็กน้อย เธอกล่าวขอบคุณฉินหมิงด้วยอย่างจริงใจเมื่อวานหลังเธอถึงบ้านก็ได้กินยาตามใบสั่งยาที่ฉินหมิงออกให้ อาการที่เคยเจ็บปวดก็หายเป็นปลิดทิ้ง ร่างกายก็รู้สึกสบายขึ้นยิ่งทำให้เธอเลื่อมใสทักษะการแพทย์ของฉินหมิงมากขึ้น“มิน่าล่ะครับวันนี้อารมณ์ของคุณถึงได้ดีขนาดนี้ ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง!”พอฉินหมิงเข้าใจสถานการณ์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ…ในห้องสำนักงานรองประธานเอ้าเฟิงได้โทรหาตู้เซียวให้เข้ามาหา“ผู้อำนวยการตู้ครับ เรื่องเมื่อวานที่คุณวานให้ผมไปสืบพื้นเพของฉินหมิง ตอนนี้ได้ข้อมูลแล้วนะครับ!”เอ้าเฟิงทำหน้าแปลก ๆแต่สีหน้าตู้เซียวกลับดีใจ “รองประธานเอ้าครับ ผมไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใครหรือพื้นเพเขาเป็นยังไง… ”“พื้นเพเหรอครับ?”“พื้นเพเขาห่วยแตกมากครับ!”ในที่สุดเอ้าเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขำ“ทำไมล่ะครับ เขาธรรมดามากและไม่มีคนหนุ่นหลังอะไรเลยเหรอ?”ตู้เซียวถึงกับแปลกใจเขาจำได้แม่นว่าเมื่อไม่กี่วันฉินหมิงได้รับสิทธิ์ในการร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปทำเอาทุกคนอึ้งกันเป็นแถบ ๆ เนื่องจากฉินหมิงสามารถสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลโจวได้ เขาน่าจะมีความสามารถหรือคนหนุน
“ถ้าหานซีรู้ว่าเขาเป็นอย่างนี้ล่ะก็ เธอต้องออกห่างจากเขาแน่นอน! ”ตู้เซียวให้กำลังใจตัวเอง ในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขาและความเศร้าโศกในใจของเขาก็ปลิวหายไปหลังจากเลิกงานหลินหว่านชิงแจ้งผู้บริหารระดับสูงและบุคลากรแผนกที่เกี่ยวข้องในบริษัทเพื่อเตรียมเข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการที่ครั้งนี้กลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปได้ร่วมมือกับบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปไปอย่างราบรื่น ฉินหมิงสมควรได้รับเครดิตเป็นคนแรกตามมาด้วยหานซีนอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ไม่กี่วันก่อนคนในแผนกวางแผนก็ทำโอทีเพื่อออกแบบแผนงานซึ่งเป็นส่วนสำคัญเช่นกันตอนนี้กลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปและบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปได้ร่วมมือกันมาถูกทางแล้วเพราะฉะนั้นครั้งนี้หลินหว่านชิงเลยจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองเพื่อให้รางวัลแก่ฉินหมิง หานซีและกลุ่มคนจากแผนกวางแผน…ที่อี้เฉวียนวิลล่าที่นี่เป็นสโมสรระดับสูงที่มีชื่อเสียงมากในเจียงเฉิงสถานที่นี้ผสมผสานการท่องเที่ยว การพักผ่อน โรงแรมที่พัก และบริการจัดเลี้ยง มีสภาพแวดล้อมโดยรอบรื่นตาและทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนและความบันเทิงสำหรับคนรวยและคนดังอี้เฉวี
“คุณผ่านชีวิตมาอย่างยากลำบากโดยไม่มีใครคอยหนุนหลัง แต่คุณสามารถทำให้บริษัทโจวชื่อกรุ๊ปร่วมมือกับเราได้ ดูเหมือนว่าคุณจะมีพรสวรรค์และมีความสามารถพิเศษซะด้วยสิครับ! "เอ้าเฟิงกล่าวด้วยความชื่นชม“เปล่าหรอกครับ ผมแค่โชคดีน่ะครับ… ”ฉินหมิงยิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ในใจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าเอ้าเฟิงรู้ได้อย่างไรว่าเขานั้นเป็นเด็กกำพร้าอีกทั้งคำพูดยังแปลกพิลึก พอฟังแล้วดูเหมือนไม่ค่อยปกติ แต่ว่าก็บอกไม่ได้ว่าผิดปกติตรงไหน“ที่แท้ฉินหมิงก็เป็นเด็กกำพร้าเหรอนี่!”“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีชีวิตที่น่าเศร้าอย่างนี้! ”“นั่นน่ะสิ ผ่านชีวิตมายากลำบากขนาดนี้ ช่างน่าเห็นใจจริง ๆ”…ผู้บริหารหลายคนที่อยู่รอบตัวเขาต่างฮือฮาและสายตาที่พวกเขามองไปที่ฉินหมิงก็เปลี่ยนไป บางคนมองเขาด้วยความสงสาร ในขณะที่คนอื่น ๆ มองเขาด้วยการเลือกปฏิบัติและดูถูก“เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วน่ะครับ ไม่มีอะไรที่ลำบากอีกแล้วล่ะครับ ”ฉินหมิงตอบด้วยเสียงเรียบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาคุ้นเคยกับสายตาและท่าทีแปลก ๆ ของคนอื่นมานานแล้วและตอนนี้หัวใจของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก เขาไม่ถูกกระทบกระเทือนด้วยเรื่องเล็
“เอ้าเฟิง ตู้เซียว พวกคุณสองคนวุ่นวายกันจบแล้วหรือยัง!”หลินหว่านชิงตบโต๊ะ เธอจ้องมองไปที่เอ้าเฟิงและตู้เซียวด้วยความโกรธเรื่องของฉินหมิงเธอเองนั้นรู้ดี เธอไม่คิดไม่ฝันว่าเอ้าเฟิงกับตู้เซียวจะเอาเรื่องนี้มาป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ ทำให้ฉินหมิงเกิดความอับอาย นี่มันมากเกินไปแล้ว!“ประธานหลินครับ คุณอย่าโกรธเลยนะครับ ผมกับรองประธานเอ้าก็แค่หยอกล้อกับเลขาฉินเท่านั่นเอง ไม่ได้มีความหมายแอบแฝงอะไรสักหน่อยครับ…”ตู้เซียวรีบขอโทษด้วยรอยยิ้ม แต่เขาภูมิใจมากที่ในที่สุดเขาก็พูดเรื่องพวกนี้ออกมาได้!“นั่นน่ะสิครับประธานหลิน ผมกับผู้อำนวยการตู้ไม่ได้คิดร้ายอะไรกันสักหน่อย”“อีกทั้งเลขาฉินก็เอ่ยปากพูดเองว่าเรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้ว”“เขาใจกว้างออกครับ ผมกับผู้อำนวยการตู้แค่หยอกเล่นกับเขาก็เท่านั้น ผมคิดว่าเขาคงไม่ถือสาหรอก”“ใช่ไหมล่ะครับ เลขาฉิน!”เอ้าเฟิงถามฉินหมิงด้วยรอยยิ้ม“นี่มันไม่ตลกเอาซะเลยนะครับ…”ฉินหมิงฝืนยิ้มแต่ใจของเขาแอบสั่นสะท้านและเขาก็เริ่มระวังเอ้าเฟิงเอ้าเฟิงแค่พูดประโยคง่าย ๆ ไม่กี่คำ แต่กลับทำให้เขาร้อนเป็นไฟได้!นี่มันตัวอันตรายชัด ๆ นี่เป็นรอยยิ้มของเสือที่จะตะคร
“อื้ม รองประธานเอ้า คุณตั้งใจจริง ๆ ขอบคุณนะคะ… ”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากของเธอ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยและความอบอุ่นที่ไม่อาจอธิบายได้พุ่งเข้ามาในหัวใจของเธอเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างพ่อเธอรวมไปถึงแม่เธอนั่นไม่ดีสักเท่าไร หลังจากหลินหว่านชิงย้ายมาอยู่คนเดียว ก็สองปีแล้วที่เธอไม่เคยจัดงานฉลองวันเกิดบางครั้งคุณปู่และคุณน้าที่จำวันเกิดเธอได้ ก็จะโทรมาอวยพรเธอไม่ก็ส่งของขวัญมาให้ตลอดสองปีที่ผ่านวันเกิดมา เธออยู่คนเดียวเสมอ และเธอก็รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวแต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึง จู่ ๆ เอ้าเฟิงก็จำวันเกิดเธอได้อีกทั้งยังเตรียมเซอร์ไพรส์ให้กับเธออีก เธอประทับใจกับความจริงใจของเอ้าเฟิงจริง ๆ “คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะเป็นวันเกิดประธานหลิน…”“ประธานหลิน พวกเราทุกคนขออวยพรวันเกิดให้มีความสุขนะคะ…”…ผู้บริหารของบริษัทหลายคนที่อยู่โต๊ะเดียวกันได้สติกลับมาอย่างรวดเร็วและรีบอวยพรหลินหว่านชิงทุกคนที่โต๊ะอื่นก็ยืนขึ้นเช่นกัน จากนั้นร่วมกันอวยพรหลินหว่านชิงภาพนี้ช่างอบอุ่นและอลังการมาก!“ขอบคุณคำอวยพรของทุกคนนะคะ…”หลินหว่านชิงยิ้มทั้งน้ำตา วันเกิดปีนี้ดีเป็นพิเศษ เธอชอบมั
ถ้าเธอปฏิเสธเอ้าเฟิงต่อหน้าทุกคน มันจะทำให้เอ้าเฟิงเสียหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่ก็จะดูไร้มนุษยธรรมเกินไปหน่อยแต่สร้อยคอที่เอ้าเฟิงมอบให้นั้นก็มีราคาแพงมากและคงไม่เหมาะสมถ้าเธอจะรับของขวัญราคาแพงเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผลในเวลานี้เธอรู้สึกลำบากใจมาก ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี“ประธานหลินครับ ไหน ๆ รองประธานเอ้ามีน้ำใจและเจตนาดีขนาดนี้ คุณรับไว้เถอะครับ!”“นั่นน่ะสิครับ สร้อยคอเส้นนี้มีค่าและทำเป็นพิเศษ เหมาะกับนิสัยของคุณมาก มีเพียงคุณเท่านั้นที่คู่ควรกับสร้อยคอที่สูงส่งอย่างนี้… ” …คนที่นั่งโต๊ะเดียวกันหลังจากได้รับสายตาจากเอ้าเฟิง ผู้บริหารระดับสูงก็รีบพูดโน้มน้าวอย่างรวดเร็วเพื่อนร่วมงานในโต๊ะอื่น ๆ รอบตัวเขาก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ และพวกเขาทั้งหมดพูดสนับสนุนเอ้าเฟิงโดยหวังว่าหลินหว่านชิงจะยอมรับสร้อยคอนี้“อย่างนั้น…ก็ได้ค่ะ ฉันจะรับไว้ละกันนะคะ!”“รองประธานเอ้า ขอบคุณมากเลยนะคะ”หลินหว่านชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าทุกคนส่งเสริม เธอไม่อยากทำลายความสนใจของทุกคนและไม่อยากจะหักหน้าเอ้าเฟิง ดังนั้นเธอเลยตกลงที่จะรับสร้อยคอเส้นนี้ไว้แต่เธอแอบตัดสินใจไวัว่าจะขอให้ฝ่ายก
เขาไม่ยอมให้ใครแย่งหลินหว่านชิงไปจากเขาง่าย ๆ หรอก!นี่คือความพากเพียรในใจและความเชื่อของเขา!แต่ว่าไม่นานเขาก็ตื่นขึ้นมาเจอความจริง หลินหว่านชิงที่เพิ่งจะรับของขวัญจากเอ้าเฟิงไปหมาด ๆ ราวกับว่ามีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเอ้าเฟิงอีกทั้งตอนนี้เอ้าเฟิงก็ขโมยซีนเด่นไปเต็ม ๆ เขาถูกเหยียบย่ำอย่างหนักในใต้ฝ่าเท้าของหมอนั่น และกำลังของเอ้าเฟิงในทุกด้านก็บดขยี้เขาจนหมดสิ้นแล้วเขาจะเอาอะไรไปสู้เอ้าเฟิงได้?“ทำอย่างไรดี หรือว่าเราจะยอมให้คนอื่นแย่งผู้หญิงที่ตัวเองรักไปต่อหน้าต่อตาอย่างนั้นเหรอ…”ดวงตาของฉินหมิงเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความกังวลในขณะที่สิ้นหวังก็ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของเขา ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงสร้อยดาวเหมันต์สมุทรเดิมทีเขากังวลว่าจะไม่รู้ว่าจะใช้เหตุผลอะไรในการมอบสร้อยดาวเหมันต์สมุทรนี้ให้กับหลินหว่านชิงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าโอกาสจะมาถึงตอนนี้วันนี้เป็นวันเกิดของหลินหว่านชิง ในเมื่อหลินหว่านชิงไม่ปฏิเสธรับของขวัญจากเอ้าเฟิง ก็คงไม่ปฏิเสธของ ๆ เขาเช่นกัน!“รอเดี๋ยวครับ!”ฉินหมิงมีความขึ้นมาทันที ทันใดนั้นก็ลุกขึ้น“เลขาฉินคุณเป็นอะไรไปครับ หรือว่าคุณอยากจะมาแสดงความยินดีก