“ซินเหยา รีบสั่งให้คนเตรียมอาหารเย็นเร็ว!”“ฉินหมิง นี่ก็ฟ้ามืดแล้ว นายก็อยู่ทานข้าวกับฉันที่นี่ดีไหมล่ะ?”นายท่านซูกล่าวด้วยรอยยิ้ม“เอ่อ ได้ครับ อย่างนั้นผมรบกวนด้วยนะครับ”ฉินหมิงพยักหน้ายิ้มตอบ ยุ่งมาจะครึ่งวันแล้ว จริง ๆ เขาเองก็หิวแล้วเหมือนกัน“คุณฉี คุณก็อยู่ทานด้วยกันสักมื้อสิครับ”นายท่านซูพูดเชื้อเชิญคุณฉี“ไม่ล่ะครับ พอดีผมมีธุระ อย่างนั้นผมไปก่อนนะครับ”“นายท่านซู คุณฉินหมิง แล้วเจอกันครั้งหน้านะครับ”คุณฉีโค้งคำนับและกล่าวคำอำลา จากนั้นก็พาผู้ช่วยเดินออกไปหลังจากเห็นร่างของคุณฉีลับตาไป ซูห่าวเหมือนคิดออกอะไรบางอย่าง “คุณปู่ครับ เกี่ยวกับเรื่องคุณฉิน ผมคิดวิธีอะไรบางอย่างได้แล้วครับ”“วิธีอะไรล่ะ?”นายท่านซูถามอย่างสงสัย“ตระกูลซูของพวกเราทำธรุกิจเกี่ยวกับยา ทักษะการแพทย์ของคุณฉินก็สูงขนาดนี้ หากเราสามารถร่วมมือในด้านการแพทย์ได้ มันจะเป็นโครงการที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอนเลยนะครับ”แววตาชาญฉลาดส่องประกายในดวงตาของซูห่าวนายท่านซูคิดอยู่สักพัก ไม่นานก็เข้าใจในสิ่งที่หลายชายตนพูด หลังจากนั้นก็มองไปที่ฉินหมิงแล้วกล่าวด้วยร้อยยิม“นี่ฉินหมิง ทักษะการแพท
อีกทั้งเขาไม่ใช่คนรักของหลินหว่านชิง หากส่งของขวัญที่มีค่ามากขนาดนี้ให้กับเธอ เขากังวลว่าลุกล้ำเธอมากเกินไป!เขาเข้าใจเธอดี หลินหว่านชิงคงไม่รับของขวัญนี้ง่าย ๆ แน่ถ้าเขาเอาสร้อยเส้นนี้มอบให้เธอแล้วหลินหว่านชิงเข้าใจผิดว่าเขามีเจตนาไม่ดี พอถึงตอนนั้นพวกเขาสองคนอาจจะไม่หลงเหลือความเป็นเพื่อนเลยก็ได้ สิ่งนี้เขาจะไม่ยอมเกิดขึ้นเด็ดขาด“ฉินหมิง ทำไมนายถึงจ้องมองพื้นเหม่อยังงั้นล่ะ?”“จริงสิ นายทานข้าวเย็นมาแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ทาน ฉันจะได้ให้ป้าหลิวทำกับข้าวใหม่ให้นาย”เมื่อได้ยินเสียงใส ๆ ของหลินหว่านชิง จิตใจฉินหมิงก็ล่องลอยหลุดไป“ไม่ ไม่ต้องหรอกครับ ผมทานจากข้างนอกมาแล้ว”“หว่านชิง นี่มันก็ดึกแล้ว งั้นผมกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนนะครับ”ฉินหมิงหัวเราะแห้ง ๆ ในที่สุดเขาก็เก็บสร้อยไว้อย่างเงียบ ๆ แล้วกลับเข้าไปในห้อง“ฉินหมิงวันนี้นายเป็นอะไรหรือเปล่า ดูแปลก ๆ ไปนะ…”เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของฉินหมิง หลินหว่านชิงรู้สึกงุนงงมากสัญชาตญาณของผู้หญิงบอกเธอว่าอาการของฉินหมิงนั้นผิดปกติ แต่สาเหตุคืออะไรเธอเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน จากนั้นเธอก็ส่ายหัวและละทิ้งความสงสัยแล้วกลับขึ้นไปชั้นบนเ
ใบหน้าหานซีแดงเล็กน้อย เธอกล่าวขอบคุณฉินหมิงด้วยอย่างจริงใจเมื่อวานหลังเธอถึงบ้านก็ได้กินยาตามใบสั่งยาที่ฉินหมิงออกให้ อาการที่เคยเจ็บปวดก็หายเป็นปลิดทิ้ง ร่างกายก็รู้สึกสบายขึ้นยิ่งทำให้เธอเลื่อมใสทักษะการแพทย์ของฉินหมิงมากขึ้น“มิน่าล่ะครับวันนี้อารมณ์ของคุณถึงได้ดีขนาดนี้ ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง!”พอฉินหมิงเข้าใจสถานการณ์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ…ในห้องสำนักงานรองประธานเอ้าเฟิงได้โทรหาตู้เซียวให้เข้ามาหา“ผู้อำนวยการตู้ครับ เรื่องเมื่อวานที่คุณวานให้ผมไปสืบพื้นเพของฉินหมิง ตอนนี้ได้ข้อมูลแล้วนะครับ!”เอ้าเฟิงทำหน้าแปลก ๆแต่สีหน้าตู้เซียวกลับดีใจ “รองประธานเอ้าครับ ผมไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใครหรือพื้นเพเขาเป็นยังไง… ”“พื้นเพเหรอครับ?”“พื้นเพเขาห่วยแตกมากครับ!”ในที่สุดเอ้าเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขำ“ทำไมล่ะครับ เขาธรรมดามากและไม่มีคนหนุ่นหลังอะไรเลยเหรอ?”ตู้เซียวถึงกับแปลกใจเขาจำได้แม่นว่าเมื่อไม่กี่วันฉินหมิงได้รับสิทธิ์ในการร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปทำเอาทุกคนอึ้งกันเป็นแถบ ๆ เนื่องจากฉินหมิงสามารถสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลโจวได้ เขาน่าจะมีความสามารถหรือคนหนุน
“ถ้าหานซีรู้ว่าเขาเป็นอย่างนี้ล่ะก็ เธอต้องออกห่างจากเขาแน่นอน! ”ตู้เซียวให้กำลังใจตัวเอง ในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขาและความเศร้าโศกในใจของเขาก็ปลิวหายไปหลังจากเลิกงานหลินหว่านชิงแจ้งผู้บริหารระดับสูงและบุคลากรแผนกที่เกี่ยวข้องในบริษัทเพื่อเตรียมเข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการที่ครั้งนี้กลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปได้ร่วมมือกับบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปไปอย่างราบรื่น ฉินหมิงสมควรได้รับเครดิตเป็นคนแรกตามมาด้วยหานซีนอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ไม่กี่วันก่อนคนในแผนกวางแผนก็ทำโอทีเพื่อออกแบบแผนงานซึ่งเป็นส่วนสำคัญเช่นกันตอนนี้กลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปและบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปได้ร่วมมือกันมาถูกทางแล้วเพราะฉะนั้นครั้งนี้หลินหว่านชิงเลยจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองเพื่อให้รางวัลแก่ฉินหมิง หานซีและกลุ่มคนจากแผนกวางแผน…ที่อี้เฉวียนวิลล่าที่นี่เป็นสโมสรระดับสูงที่มีชื่อเสียงมากในเจียงเฉิงสถานที่นี้ผสมผสานการท่องเที่ยว การพักผ่อน โรงแรมที่พัก และบริการจัดเลี้ยง มีสภาพแวดล้อมโดยรอบรื่นตาและทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนและความบันเทิงสำหรับคนรวยและคนดังอี้เฉวี
“คุณผ่านชีวิตมาอย่างยากลำบากโดยไม่มีใครคอยหนุนหลัง แต่คุณสามารถทำให้บริษัทโจวชื่อกรุ๊ปร่วมมือกับเราได้ ดูเหมือนว่าคุณจะมีพรสวรรค์และมีความสามารถพิเศษซะด้วยสิครับ! "เอ้าเฟิงกล่าวด้วยความชื่นชม“เปล่าหรอกครับ ผมแค่โชคดีน่ะครับ… ”ฉินหมิงยิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ในใจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าเอ้าเฟิงรู้ได้อย่างไรว่าเขานั้นเป็นเด็กกำพร้าอีกทั้งคำพูดยังแปลกพิลึก พอฟังแล้วดูเหมือนไม่ค่อยปกติ แต่ว่าก็บอกไม่ได้ว่าผิดปกติตรงไหน“ที่แท้ฉินหมิงก็เป็นเด็กกำพร้าเหรอนี่!”“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีชีวิตที่น่าเศร้าอย่างนี้! ”“นั่นน่ะสิ ผ่านชีวิตมายากลำบากขนาดนี้ ช่างน่าเห็นใจจริง ๆ”…ผู้บริหารหลายคนที่อยู่รอบตัวเขาต่างฮือฮาและสายตาที่พวกเขามองไปที่ฉินหมิงก็เปลี่ยนไป บางคนมองเขาด้วยความสงสาร ในขณะที่คนอื่น ๆ มองเขาด้วยการเลือกปฏิบัติและดูถูก“เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วน่ะครับ ไม่มีอะไรที่ลำบากอีกแล้วล่ะครับ ”ฉินหมิงตอบด้วยเสียงเรียบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาคุ้นเคยกับสายตาและท่าทีแปลก ๆ ของคนอื่นมานานแล้วและตอนนี้หัวใจของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก เขาไม่ถูกกระทบกระเทือนด้วยเรื่องเล็
“เอ้าเฟิง ตู้เซียว พวกคุณสองคนวุ่นวายกันจบแล้วหรือยัง!”หลินหว่านชิงตบโต๊ะ เธอจ้องมองไปที่เอ้าเฟิงและตู้เซียวด้วยความโกรธเรื่องของฉินหมิงเธอเองนั้นรู้ดี เธอไม่คิดไม่ฝันว่าเอ้าเฟิงกับตู้เซียวจะเอาเรื่องนี้มาป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ ทำให้ฉินหมิงเกิดความอับอาย นี่มันมากเกินไปแล้ว!“ประธานหลินครับ คุณอย่าโกรธเลยนะครับ ผมกับรองประธานเอ้าก็แค่หยอกล้อกับเลขาฉินเท่านั่นเอง ไม่ได้มีความหมายแอบแฝงอะไรสักหน่อยครับ…”ตู้เซียวรีบขอโทษด้วยรอยยิ้ม แต่เขาภูมิใจมากที่ในที่สุดเขาก็พูดเรื่องพวกนี้ออกมาได้!“นั่นน่ะสิครับประธานหลิน ผมกับผู้อำนวยการตู้ไม่ได้คิดร้ายอะไรกันสักหน่อย”“อีกทั้งเลขาฉินก็เอ่ยปากพูดเองว่าเรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้ว”“เขาใจกว้างออกครับ ผมกับผู้อำนวยการตู้แค่หยอกเล่นกับเขาก็เท่านั้น ผมคิดว่าเขาคงไม่ถือสาหรอก”“ใช่ไหมล่ะครับ เลขาฉิน!”เอ้าเฟิงถามฉินหมิงด้วยรอยยิ้ม“นี่มันไม่ตลกเอาซะเลยนะครับ…”ฉินหมิงฝืนยิ้มแต่ใจของเขาแอบสั่นสะท้านและเขาก็เริ่มระวังเอ้าเฟิงเอ้าเฟิงแค่พูดประโยคง่าย ๆ ไม่กี่คำ แต่กลับทำให้เขาร้อนเป็นไฟได้!นี่มันตัวอันตรายชัด ๆ นี่เป็นรอยยิ้มของเสือที่จะตะคร
“อื้ม รองประธานเอ้า คุณตั้งใจจริง ๆ ขอบคุณนะคะ… ”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากของเธอ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยและความอบอุ่นที่ไม่อาจอธิบายได้พุ่งเข้ามาในหัวใจของเธอเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างพ่อเธอรวมไปถึงแม่เธอนั่นไม่ดีสักเท่าไร หลังจากหลินหว่านชิงย้ายมาอยู่คนเดียว ก็สองปีแล้วที่เธอไม่เคยจัดงานฉลองวันเกิดบางครั้งคุณปู่และคุณน้าที่จำวันเกิดเธอได้ ก็จะโทรมาอวยพรเธอไม่ก็ส่งของขวัญมาให้ตลอดสองปีที่ผ่านวันเกิดมา เธออยู่คนเดียวเสมอ และเธอก็รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวแต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึง จู่ ๆ เอ้าเฟิงก็จำวันเกิดเธอได้อีกทั้งยังเตรียมเซอร์ไพรส์ให้กับเธออีก เธอประทับใจกับความจริงใจของเอ้าเฟิงจริง ๆ “คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะเป็นวันเกิดประธานหลิน…”“ประธานหลิน พวกเราทุกคนขออวยพรวันเกิดให้มีความสุขนะคะ…”…ผู้บริหารของบริษัทหลายคนที่อยู่โต๊ะเดียวกันได้สติกลับมาอย่างรวดเร็วและรีบอวยพรหลินหว่านชิงทุกคนที่โต๊ะอื่นก็ยืนขึ้นเช่นกัน จากนั้นร่วมกันอวยพรหลินหว่านชิงภาพนี้ช่างอบอุ่นและอลังการมาก!“ขอบคุณคำอวยพรของทุกคนนะคะ…”หลินหว่านชิงยิ้มทั้งน้ำตา วันเกิดปีนี้ดีเป็นพิเศษ เธอชอบมั
ถ้าเธอปฏิเสธเอ้าเฟิงต่อหน้าทุกคน มันจะทำให้เอ้าเฟิงเสียหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่ก็จะดูไร้มนุษยธรรมเกินไปหน่อยแต่สร้อยคอที่เอ้าเฟิงมอบให้นั้นก็มีราคาแพงมากและคงไม่เหมาะสมถ้าเธอจะรับของขวัญราคาแพงเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผลในเวลานี้เธอรู้สึกลำบากใจมาก ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี“ประธานหลินครับ ไหน ๆ รองประธานเอ้ามีน้ำใจและเจตนาดีขนาดนี้ คุณรับไว้เถอะครับ!”“นั่นน่ะสิครับ สร้อยคอเส้นนี้มีค่าและทำเป็นพิเศษ เหมาะกับนิสัยของคุณมาก มีเพียงคุณเท่านั้นที่คู่ควรกับสร้อยคอที่สูงส่งอย่างนี้… ” …คนที่นั่งโต๊ะเดียวกันหลังจากได้รับสายตาจากเอ้าเฟิง ผู้บริหารระดับสูงก็รีบพูดโน้มน้าวอย่างรวดเร็วเพื่อนร่วมงานในโต๊ะอื่น ๆ รอบตัวเขาก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ และพวกเขาทั้งหมดพูดสนับสนุนเอ้าเฟิงโดยหวังว่าหลินหว่านชิงจะยอมรับสร้อยคอนี้“อย่างนั้น…ก็ได้ค่ะ ฉันจะรับไว้ละกันนะคะ!”“รองประธานเอ้า ขอบคุณมากเลยนะคะ”หลินหว่านชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าทุกคนส่งเสริม เธอไม่อยากทำลายความสนใจของทุกคนและไม่อยากจะหักหน้าเอ้าเฟิง ดังนั้นเธอเลยตกลงที่จะรับสร้อยคอเส้นนี้ไว้แต่เธอแอบตัดสินใจไวัว่าจะขอให้ฝ่ายก
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ