“ถ้าหานซีรู้ว่าเขาเป็นอย่างนี้ล่ะก็ เธอต้องออกห่างจากเขาแน่นอน! ”ตู้เซียวให้กำลังใจตัวเอง ในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขาและความเศร้าโศกในใจของเขาก็ปลิวหายไปหลังจากเลิกงานหลินหว่านชิงแจ้งผู้บริหารระดับสูงและบุคลากรแผนกที่เกี่ยวข้องในบริษัทเพื่อเตรียมเข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการที่ครั้งนี้กลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปได้ร่วมมือกับบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปไปอย่างราบรื่น ฉินหมิงสมควรได้รับเครดิตเป็นคนแรกตามมาด้วยหานซีนอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ไม่กี่วันก่อนคนในแผนกวางแผนก็ทำโอทีเพื่อออกแบบแผนงานซึ่งเป็นส่วนสำคัญเช่นกันตอนนี้กลุ่มธุรกิจอานิสทรี กรุ๊ปและบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปได้ร่วมมือกันมาถูกทางแล้วเพราะฉะนั้นครั้งนี้หลินหว่านชิงเลยจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองเพื่อให้รางวัลแก่ฉินหมิง หานซีและกลุ่มคนจากแผนกวางแผน…ที่อี้เฉวียนวิลล่าที่นี่เป็นสโมสรระดับสูงที่มีชื่อเสียงมากในเจียงเฉิงสถานที่นี้ผสมผสานการท่องเที่ยว การพักผ่อน โรงแรมที่พัก และบริการจัดเลี้ยง มีสภาพแวดล้อมโดยรอบรื่นตาและทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนและความบันเทิงสำหรับคนรวยและคนดังอี้เฉวี
“คุณผ่านชีวิตมาอย่างยากลำบากโดยไม่มีใครคอยหนุนหลัง แต่คุณสามารถทำให้บริษัทโจวชื่อกรุ๊ปร่วมมือกับเราได้ ดูเหมือนว่าคุณจะมีพรสวรรค์และมีความสามารถพิเศษซะด้วยสิครับ! "เอ้าเฟิงกล่าวด้วยความชื่นชม“เปล่าหรอกครับ ผมแค่โชคดีน่ะครับ… ”ฉินหมิงยิ้มอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ในใจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าเอ้าเฟิงรู้ได้อย่างไรว่าเขานั้นเป็นเด็กกำพร้าอีกทั้งคำพูดยังแปลกพิลึก พอฟังแล้วดูเหมือนไม่ค่อยปกติ แต่ว่าก็บอกไม่ได้ว่าผิดปกติตรงไหน“ที่แท้ฉินหมิงก็เป็นเด็กกำพร้าเหรอนี่!”“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีชีวิตที่น่าเศร้าอย่างนี้! ”“นั่นน่ะสิ ผ่านชีวิตมายากลำบากขนาดนี้ ช่างน่าเห็นใจจริง ๆ”…ผู้บริหารหลายคนที่อยู่รอบตัวเขาต่างฮือฮาและสายตาที่พวกเขามองไปที่ฉินหมิงก็เปลี่ยนไป บางคนมองเขาด้วยความสงสาร ในขณะที่คนอื่น ๆ มองเขาด้วยการเลือกปฏิบัติและดูถูก“เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วน่ะครับ ไม่มีอะไรที่ลำบากอีกแล้วล่ะครับ ”ฉินหมิงตอบด้วยเสียงเรียบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาคุ้นเคยกับสายตาและท่าทีแปลก ๆ ของคนอื่นมานานแล้วและตอนนี้หัวใจของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก เขาไม่ถูกกระทบกระเทือนด้วยเรื่องเล็
“เอ้าเฟิง ตู้เซียว พวกคุณสองคนวุ่นวายกันจบแล้วหรือยัง!”หลินหว่านชิงตบโต๊ะ เธอจ้องมองไปที่เอ้าเฟิงและตู้เซียวด้วยความโกรธเรื่องของฉินหมิงเธอเองนั้นรู้ดี เธอไม่คิดไม่ฝันว่าเอ้าเฟิงกับตู้เซียวจะเอาเรื่องนี้มาป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ ทำให้ฉินหมิงเกิดความอับอาย นี่มันมากเกินไปแล้ว!“ประธานหลินครับ คุณอย่าโกรธเลยนะครับ ผมกับรองประธานเอ้าก็แค่หยอกล้อกับเลขาฉินเท่านั่นเอง ไม่ได้มีความหมายแอบแฝงอะไรสักหน่อยครับ…”ตู้เซียวรีบขอโทษด้วยรอยยิ้ม แต่เขาภูมิใจมากที่ในที่สุดเขาก็พูดเรื่องพวกนี้ออกมาได้!“นั่นน่ะสิครับประธานหลิน ผมกับผู้อำนวยการตู้ไม่ได้คิดร้ายอะไรกันสักหน่อย”“อีกทั้งเลขาฉินก็เอ่ยปากพูดเองว่าเรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้ว”“เขาใจกว้างออกครับ ผมกับผู้อำนวยการตู้แค่หยอกเล่นกับเขาก็เท่านั้น ผมคิดว่าเขาคงไม่ถือสาหรอก”“ใช่ไหมล่ะครับ เลขาฉิน!”เอ้าเฟิงถามฉินหมิงด้วยรอยยิ้ม“นี่มันไม่ตลกเอาซะเลยนะครับ…”ฉินหมิงฝืนยิ้มแต่ใจของเขาแอบสั่นสะท้านและเขาก็เริ่มระวังเอ้าเฟิงเอ้าเฟิงแค่พูดประโยคง่าย ๆ ไม่กี่คำ แต่กลับทำให้เขาร้อนเป็นไฟได้!นี่มันตัวอันตรายชัด ๆ นี่เป็นรอยยิ้มของเสือที่จะตะคร
“อื้ม รองประธานเอ้า คุณตั้งใจจริง ๆ ขอบคุณนะคะ… ”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากของเธอ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยและความอบอุ่นที่ไม่อาจอธิบายได้พุ่งเข้ามาในหัวใจของเธอเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างพ่อเธอรวมไปถึงแม่เธอนั่นไม่ดีสักเท่าไร หลังจากหลินหว่านชิงย้ายมาอยู่คนเดียว ก็สองปีแล้วที่เธอไม่เคยจัดงานฉลองวันเกิดบางครั้งคุณปู่และคุณน้าที่จำวันเกิดเธอได้ ก็จะโทรมาอวยพรเธอไม่ก็ส่งของขวัญมาให้ตลอดสองปีที่ผ่านวันเกิดมา เธออยู่คนเดียวเสมอ และเธอก็รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวแต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึง จู่ ๆ เอ้าเฟิงก็จำวันเกิดเธอได้อีกทั้งยังเตรียมเซอร์ไพรส์ให้กับเธออีก เธอประทับใจกับความจริงใจของเอ้าเฟิงจริง ๆ “คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะเป็นวันเกิดประธานหลิน…”“ประธานหลิน พวกเราทุกคนขออวยพรวันเกิดให้มีความสุขนะคะ…”…ผู้บริหารของบริษัทหลายคนที่อยู่โต๊ะเดียวกันได้สติกลับมาอย่างรวดเร็วและรีบอวยพรหลินหว่านชิงทุกคนที่โต๊ะอื่นก็ยืนขึ้นเช่นกัน จากนั้นร่วมกันอวยพรหลินหว่านชิงภาพนี้ช่างอบอุ่นและอลังการมาก!“ขอบคุณคำอวยพรของทุกคนนะคะ…”หลินหว่านชิงยิ้มทั้งน้ำตา วันเกิดปีนี้ดีเป็นพิเศษ เธอชอบมั
ถ้าเธอปฏิเสธเอ้าเฟิงต่อหน้าทุกคน มันจะทำให้เอ้าเฟิงเสียหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่ก็จะดูไร้มนุษยธรรมเกินไปหน่อยแต่สร้อยคอที่เอ้าเฟิงมอบให้นั้นก็มีราคาแพงมากและคงไม่เหมาะสมถ้าเธอจะรับของขวัญราคาแพงเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผลในเวลานี้เธอรู้สึกลำบากใจมาก ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี“ประธานหลินครับ ไหน ๆ รองประธานเอ้ามีน้ำใจและเจตนาดีขนาดนี้ คุณรับไว้เถอะครับ!”“นั่นน่ะสิครับ สร้อยคอเส้นนี้มีค่าและทำเป็นพิเศษ เหมาะกับนิสัยของคุณมาก มีเพียงคุณเท่านั้นที่คู่ควรกับสร้อยคอที่สูงส่งอย่างนี้… ” …คนที่นั่งโต๊ะเดียวกันหลังจากได้รับสายตาจากเอ้าเฟิง ผู้บริหารระดับสูงก็รีบพูดโน้มน้าวอย่างรวดเร็วเพื่อนร่วมงานในโต๊ะอื่น ๆ รอบตัวเขาก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ และพวกเขาทั้งหมดพูดสนับสนุนเอ้าเฟิงโดยหวังว่าหลินหว่านชิงจะยอมรับสร้อยคอนี้“อย่างนั้น…ก็ได้ค่ะ ฉันจะรับไว้ละกันนะคะ!”“รองประธานเอ้า ขอบคุณมากเลยนะคะ”หลินหว่านชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าทุกคนส่งเสริม เธอไม่อยากทำลายความสนใจของทุกคนและไม่อยากจะหักหน้าเอ้าเฟิง ดังนั้นเธอเลยตกลงที่จะรับสร้อยคอเส้นนี้ไว้แต่เธอแอบตัดสินใจไวัว่าจะขอให้ฝ่ายก
เขาไม่ยอมให้ใครแย่งหลินหว่านชิงไปจากเขาง่าย ๆ หรอก!นี่คือความพากเพียรในใจและความเชื่อของเขา!แต่ว่าไม่นานเขาก็ตื่นขึ้นมาเจอความจริง หลินหว่านชิงที่เพิ่งจะรับของขวัญจากเอ้าเฟิงไปหมาด ๆ ราวกับว่ามีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเอ้าเฟิงอีกทั้งตอนนี้เอ้าเฟิงก็ขโมยซีนเด่นไปเต็ม ๆ เขาถูกเหยียบย่ำอย่างหนักในใต้ฝ่าเท้าของหมอนั่น และกำลังของเอ้าเฟิงในทุกด้านก็บดขยี้เขาจนหมดสิ้นแล้วเขาจะเอาอะไรไปสู้เอ้าเฟิงได้?“ทำอย่างไรดี หรือว่าเราจะยอมให้คนอื่นแย่งผู้หญิงที่ตัวเองรักไปต่อหน้าต่อตาอย่างนั้นเหรอ…”ดวงตาของฉินหมิงเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความกังวลในขณะที่สิ้นหวังก็ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของเขา ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงสร้อยดาวเหมันต์สมุทรเดิมทีเขากังวลว่าจะไม่รู้ว่าจะใช้เหตุผลอะไรในการมอบสร้อยดาวเหมันต์สมุทรนี้ให้กับหลินหว่านชิงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าโอกาสจะมาถึงตอนนี้วันนี้เป็นวันเกิดของหลินหว่านชิง ในเมื่อหลินหว่านชิงไม่ปฏิเสธรับของขวัญจากเอ้าเฟิง ก็คงไม่ปฏิเสธของ ๆ เขาเช่นกัน!“รอเดี๋ยวครับ!”ฉินหมิงมีความขึ้นมาทันที ทันใดนั้นก็ลุกขึ้น“เลขาฉินคุณเป็นอะไรไปครับ หรือว่าคุณอยากจะมาแสดงความยินดีก
ตอนนี้ฉินหมิงก็มอบของขวัญให้เธอได้ทันเวลา ซึ่งถือได้ว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาสำหรับเธอขอแค่ให้เธอยอมรับของขวัญของเขา ความเข้าใจผิดของทุกคนจะถูกกำจัดไปสักทีเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ที่กำลังดี ๆ กำลังจะถูกทำลายโดยฉินหมิง เอ้าเฟิงก็เริ่มวิตกกังวล“หว่านชิง คุณดูดี ๆ สิครับ จี้บนสร้อยคอนี้ต้องเป็นสินค้าแผงลอยริมถนนที่ผลิตแบบไม่ได้มาตรฐานแน่ ๆ มีราคาสูงสุดก็เพียงไม่กี่พันเท่านั้นล่ะครับ!“”ของราคาถูกอย่างนี้ จะเหมาะกับคุณได้อย่างไรกันล่ะครับ! ”เอ้าเฟิงกล่าวและรีบขยิบตาไปให้ยังตู้เซียวและผู้บริหารระดับสูงไม่กี่คน“ใช่แล้วครับ ประธานหลิน สินค้าแผงลอยริมถนนแบบนี้เป็นการดูถูกฐานะอันสูงส่งของคุณนะครับ! ”““เลขาฉินพยายามใช้ประโยชน์จากคุณอย่างชัดเจน เขาไม่มีความจริงใจเอาซะเลย คุณต้องไม่ยอมรับของจากเขานะครับ…”…ตู้เซียวและผู้บริหารระดับสูงไม่กี่คนรีบผสมโรงพูด“ฉินหมิง นี่คุณกล้ามากนะ!”“แม้ว่าคุณคิดอยากจะมอบของขวัญให้กับฉินประธานหลิน ก็ควรที่จะมอบของขวัญที่เหมาะสมกับเธอหน่อยได้ไหมล่ะ!”“แต่คุณกลับส่งของราคาถูก ๆ ชั้นต่ำให้กับประธานหลิน นี่คุณมีเจตนาไม่ดีใช่ไหม! ”“คุณนี่ดูถูกประธานหลินมากเ
แม้ครั้งนี้ฉินหมิงจะไม่ได้มอบของขวัญที่มีค่ามากมายให้กับเธอ แต่ขอให้ฉินหมิงให้ด้วยใจจริงก็เพียงพอแล้ว อย่างอื่นก็ไม่สำคัญ“นี่มัน…”ฉินหมิงตกตะลึงเขาคิดไม่ถึงว่าสร้อยคอหยกเขียวจักรพรรดิที่ตัวเองตั้งใจเตรียมมา กลับกลายเป็นสินค้าแผงลอยริมถนนมูลค่าไม่กี่พันบาทไปซะอย่างนั้นแต่เขาก็ยังเถียงไม่ได้!“หว่านชิง ฉินหมิงไม่ได้พูดเล่นนะ! ”“สิ่งที่พูดมามันเป็นความจริง นี่มันเป็นสร้อยคอหยกเขียวจักรพรรดิที่มีมูลค่าสูงและหายากมาก!”จู่ ๆ หานซีก็ลุกยืนขึ้น เธอมองดูสร้อยคอนั้น และมองไปที่ฉินหมิงอย่างแปลกใจหลินหว่านชิงชะงัก สงสัยว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า “ซีซี นี่เธอทำอะไรอยู่ ฉินหมิงเป็นบ้าไปคนเดียวก็พอแรงอยู่แล้ว นี่เธอยังไปผสมโรงบ้าเป็นเพื่อนเขาอีกเหรอ?”“ฉันไม่ได้บ้านะ!”“ฉันเป็นพยานให้เขาได้ สร้อยคอเส้นนี้ไม่เพียงแต่เป็นหยกเขียวจักรพรรดิ และมันถูกแกะสลักโดยอาจารย์หานเชียนผู้ที่เป็นปรมาจารญ์ด้านแกะสลักหยกผู้โด่งดัง! "หานซีพูดอย่างมั่นใจ“อะไรนะ?”“นี่เป็นผลงานของอาจารย์หานเหรอ? เธอล้อเล่นอะไรกัน!”“อาจารย์หานท่านเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในการแกะสลักหยกโบราณในเจียงเฉิง และทักษะอันแปลกป