แน่นอนว่านางไม่ได้ฟังพลาดไปแต่เป็นเพราะตอนนั้นหลินยวนยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เฉียวเนี่ยนก็กระโดดลงน้ำมาแล้วหลินยวนมีสีหน้าบิดเบี้ยวขึ้น เฉียวเนี่ยนแอบหัวเราะในใจทำไมถึงเดาออกได้นะ?เดิมที นางไม่ได้อยากจะช่วยชีวิตเซียวชิงหน่วน เพราะอย่างไรเซียวชิงหน่วนก็เป็นคนทำร้ายนางก่อน ที่ตกน้ำก็เพราะนางทำตัวเองแต่ที่หลินยวนพูดต่อมา ทำให้เฉียวเนี่ยนรู้สึกแปลกๆผู้ชายที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนล้วนว่ายน้ำเป็น โดยเฉพาะคนเรือที่ว่ายน้ำเก่งมาก แต่หลินยวนกลับไม่ยอมให้พวกเขาลงน้ำไปช่วยคน เพียงเพราะอยากปกป้องชื่อเสียงของเซียวชิงหน่วนผู้หญิงสองคนที่เหลืออยู่คือนางกับหลินยวน เช่นนั้นคนที่ว่ายน้ำเป็นอย่างนางก็ต้องเป็นคนลงไปช่วยโดยปริยายหากในตอนนั้นหลินยวนทันได้พูดขอร้องออกมา คนที่ลำบากก็จะเป็นนาง คนที่ได้รับความดีความชอบก็จะเป็นหลินยวนดีที่ตอนนี้หลินยวนไม่มีอะไรที่สามารถโต้เถียงได้เลยมีเพียงน้ำตาใสๆ หยดลงมาอย่างน่าสงสารหลินเย่ว์ดึงหลินยวนไปปลอบใจเซียวเหิงขมวดคิ้วมองไปยังเซียวชิงหน่วน "ยวนเอ๋อร์อยากจะขอร้องเฉียวเนี่ยนให้ลงไปช่วยเจ้าจริงๆ เพียงแต่เฉียวเนี่ยนกระโดดลงไปช่วยเจ้าก่อนเท่านั้นเอง เรื่อง
เซียวชิงหน่วนหันหลังและวิ่งออกไปหลังจากพูดจบเมื่อเห็นดังนั้น หลินยวนก็เรียกอย่างร้อนรน "หน่วนหน่วน หน่วนหน่วน!"แต่เซียวชิงหน่วนสนนางที่ไหนกัน?จากนั้น หลินยวนจึงรีบไปดึงแขนเซียวเหิง "ท่านพี่เหิง ท่านตามไปสิ!""ไม่ต้องสนนาง! ปากแบบนาง ต้องทำให้นางรู้สำนึกเสียบ้าง!" เซียวเหิงรู้สึกว่าหากวันนี้เขาไม่อบรบสั่งสอนเซียวชิงหน่วนให้ดี ไม่ช้าก็เร็วนางจะต้องเดือดร้อนเพราะปากของตนเป็นแน่หลินยวนกลับรีบร้อนมากกว่าเดิม "แต่ว่าหน่วนหน่วนจมน้ำและเพิ่งจะฟื้น หากให้นางวิ่งหนีไปเช่นนี้ ข้าก็ไม่สบายใจ! ท่านพี่เหิง ข้าขอร้องล่ะ ท่านลืมไปตามนางเถอะนะ!หลินยวนพูดพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทำให้เซียวเหิงใจอ่อนเขาขมวดคิ้วและเหลือบมองมองเฉียวเนี่ยน จากนั้นก็วิ่งออกไปเมื่อเซียวเหิงจากไป หลินยวนก็ยังคงสะอึกสะอื้นอยู่ที่เดิมหลินเย่ว์ชี้นิ้วไปที่เฉียวเนี่ยน "ดูเรื่องงามหน้าที่เจ้าก่อไว้สิ!"เฉียวเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและมองหลินเย่ว์ "ข้าทำอะไร?""ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ายุแยง แม่นางเซียวจะคิดโทษยวนเอ๋อร์ได้หรือ?" หลินเย่ว์ยกมือชี้หน้าเฉียวเนี่ยน อีกครั้ง "เจ้าอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ให้คนอื่นสบายใจหน่อ
แม้ว่าเฉียวเนี่ยนจะแกล้งหมดสติแต่คนอื่นเห็นเหมือนกันว่า นางกับเซียวชิงหน่วนถูกอุ้มมาที่จวนโหว และถูกส่งเข้าไปยังเรือนฟางเหอพร้อมกันนางก็ได้รับการรักษาจากท่านหมอเหมือนกับเซียวชิงหน่วน!แต่ทำไม หลินเย่ว์ถึงได้เอาแต่ห่วงใยหลินยวน กระทั่งเป็นห่วงเซียวชิงหน่วนที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขา ทำไมถึงลืมไปแล้วว่านางก็เคยเป็นน้องสาวของเขา?เขาเคยเอ็นดูนางที่สุดไม่ใช่หรือ?ไม่ใช่ว่าเคยตามหาของที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้เพื่อนางหรือ?ไม่ใช่ว่าเคยต่อยตีกับคนอื่นเพื่อนางตยหัวร้างข้างแตกหรอกหรือ?ทำไมตอนนี้เขาถึงได้เป็นห่วงทุกคน ยกเว้นนางเสียล่ะ?หัวใจของหลินเย่ว์สั่นไหวเล็กน้อยเพราะคำถามของเฉียวเนี่ยนจนเขาไม่กล้าสบตาของเฉียวเนี่ยน ที่ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง และไม่รู้ว่าควรตอบคำถามอย่างไรดีแต่หลินยวนที่อยู่ข้างๆ กลับร้องไห้อย่างหนัก หนักจนร่างกายของนางต้องพิงเขาไว้แล้วสะอึกสะอื้นหลินเย่ว์รู้ว่าวันนี้หลินยวนโดนเข้าใจผิดอย่างหนักเมื่อนึกถึงเมื่อครู่ที่หลินยวนโดนเพื่อนที่รักที่สุดด่าว่าเช่นนั้น ล้วนเป็นเพราะเฉียวเนี่ยน ความรู้สึกผิดต่อเฉียวเนี่ยนของหลินเย่ว์ก็หายไปจนหมดเขา
ขันทีตอบรับและเดินจากไปอย่างว่าง่ายเฉียวเนี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางคิดว่าที่เซียวเหิงมาขวางนางไว้อย่างอาจหาญเช่นนี้ เป็นเพราะเซียวชิงหน่วนหรือเปล่า?หลังจากที่เซียวชิงหน่วนกลับออกไปแล้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?หรือว่าเป็นเพราะหลินยวน?เฉียวเนี่ยนรู้สึกว่า อย่างหลังน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าok'ลดสายตาลงและไม่พูดอะไร เพียงรอให้เซียวเหิงพูดจบแล้วจากไป อย่างไรก็ตาม จู่ๆ รองเท้าบูทคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสายตาของนางบรรยากาศที่คุ้นเคยนั้นห่อหุ้มนาง และเฉียวเนี่ยนสะดุ้งทันที นางเงยหน้าขึ้นมองและตระหนักว่าเซียวเหิงเดินเข้ามาใกล้นางแล้วใกล้มากๆ!ใกล้จนใครอื่นเห็นเข้าก็จะนินทา!นางต้องการรักษาระยะห่างกับเขาโดยสัญชาตญาน จึงรีบถอยหลังไปสองก้าวแต่จู่ๆ ก็มีความเจ็บเหมือนโดนดึงแล่นมาจากติ่งหูของนางเฉียวเนี่ยนนรีบกุมหูของนาง และต้องตกใจเมื่อพบว่ามีต่างหูอยู่ที่หูของนางวันนี้นางเข้ามาในพระราชวังโดยแต่งกายเรียบง่ายและไม่สวมเครื่องประดับใดๆ ที่หูเมื่อครู่นี้เซียวเหิงสวมต่างหูนี้ให้นางหรือ?ความคิดดังกล่าวเข้ามาในใจของนาง และเฉียวเนี่ยนก็ตกตะลึง นางมองไปที่เซียวเหิง และเห็นว่าเข
เซียวเหิงเดินจากไปหลังจากพูดแบบนั้น ราวกับว่าเขาไม่สนใจว่าเฉียวเนี่ยนจะสวมต่างหูหรือไม่แต่เมื่อเฉียวเนี่ยนเห็นขันทีที่นำทางนางก่อนหน้านี้มองนางเป็นครั้งคราวนางก็เข้าใจในทันที ว่าขันทีคนนั้นได้รับคำสั่งมาจากเซียวเหิงเมื่อคิดดีๆ แล้ว ขันทีคนหนึ่งจากตำหนักเต๋อกุ้ยเฟย เมื่อโดนเซียวเหิงขวางไว้กลับหลีกทางอย่างง่ายดาย ไม่มีสีหน้าลำบากใจแม้แต่น้อย!เฮอะ!ตอนนางอยู่ที่กรมซักล้างก็เคยได้ยินว่าแม่ทัพเซียวมีเส้นสายอยู่ทั่ว แต่ไม่คิดเลยว่าแม้แต่เรือนนอนของนางสนมในวังหลังก็จะมีคนคอยเป็นมือเป็นเท่าให้เขาด้วย!นางสูดลมหายใจเข้าลึก และสวมต่างหูตอนที่ขันทีกำลังจับตาดูนางอยู่เมื่อเห็นดังนั้น ขันทีคนนั้นจึงเดินเข้ามา หลังจากโค้งให้เฉียวเนี่ยนอย่างนอบน้อมแล้ว เขาก็นำทางไปเรือนนอนของเต๋อกุ้ยเฟยต่อดูเหมือนว่าเต๋อกุ้ยเฟยจะรอนางนานแล้วก่อนที่เฉียวเนี่ยนจะทำความเคารพ นางก็ทักทายเฉียวเนี่ยนอย่างกระตือรือร้น "ต่อจากนี้ไปเราก็คือครอบครัวเดียวกันแล้ว เจ้าไม่ต้องพิธีรีตองนักหรอก!"นางดึงเฉียวเนี่ยนให้ลุกขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใยอันอ่อนโยน "ข้าได้ยินเจ๋อเอ๋อร์บอกว่าเมื่อวานเข้าช่วยคนตกน้ำ? เป็นอย
ราวกับว่า เมื่อครู่นี้เรื่องต่างหูเป็นเพียงเรื่องที่เต๋อกุ้ยเฟยพูดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจเท่านั้นเฉียวเนี่ยนรู้สึกสงสัย แต่ไม่ได้พูดอะไรหมิงอ๋องจูงมือนางเดินไปหาเต๋อกุ้ยเฟยอย่างเป็นธรรมชาติ เขามองดูผ้าบนโต๊ะและพลิกมันไปมา "นี่เป็นผ้าที่ดีที่สุดของกรมภูษาอาภรณ์แล้วหรือ?""ไม่ได้ดีที่สุดหรอก แต่ก็กล่าวได้ว่าเป็นผ้าชั้นดี!" เต๋อกุ้ยเฟยพูดจบก็ถอนหายใจ "ลูกคนนี้ ไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้หรืออย่างไร ถึงได้กล้าขอของดีที่สุด?"กำลังจะถูกส่งไปที่ดินในปกครองเป็นท่านอ๋องแค่ในนามแล้ว ยังได้รับของเหล่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว!หมิงอ๋องได้ยินดังนั้นก็ไม่ตอบโต้แต่มือที่จูงมือเฉียวเนี่ยนกลับออกแรงโดยไม่รู้ตัวเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว เขากุมมือที่หลังมือของนางยังบวมช้ำไม่หายดีจนนางเจ็บแต่นางยังคงไม่พูดอะไรดูเหมือนเต๋อกุ้ยเฟยจะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของหมิงอ๋อง จึงเลือกดูผ้าต่อ ทั้งนำมาทาบบนตัวเฉียวเนี่ยน สักพักก็ทาบบนตัวหมิงอ๋อง "ข้าว่าสองผืนนี้ไม่เลวเลย พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร?"หมิงอ๋องตอบเบาๆ "ท่านแม่ตัดสินใจเถิด"เฉียวเนี่ยนเองก็พูดตอบ "พระสนมตัดสินใจเถิดเพคะ""พวกเจ้าเนี่ย!" เต๋อกุ้ยเฟยมองทั้งสองคน
แม้จะยิ้ม แต่เฉียวเนี่ยนได้ยินถึงความไม่พอใจที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างชัดเจนแต่ก็ธรรมดาที่หมิงอ๋องจะโกรธต่างหูคู่นี้มีเรื่องราวระหว่างนางกับเซียวเหิงมากเกินไปเมื่อวานนางโยนมันทิ้งต่อหน้าทุกคน แต่วันนี้มันกลับมาปรากฏที่หูของนางอีกครั้ง ในฐานะคู่หมั้นของนาง เป็นเรื่องปกติที่หมิงอ๋องจะโกรธนางจึงอธิบายตามความจริง "อาจเพราะเมื่อวานหม่อนฉันทิ้งมันต่อหน้าผู้คน ทำให้แม่ทัพเซียวเสียหหน้า เมื่อครู่แม่ทัพเซียวจึงสั่งให้หม่อมฉันสวมมันไว้ หากหม่อมฉันไม่สวม ก็เกรงว่าจะไปพูดอะไรกับท่านย่า,,,"หมิงอ๋องรู้ว่าสุขภาพของท่านย่านางไม่สู้ดีนัก"อย่างนี้นี่เอง" หมิงอ๋องแสดงท่าทีเข้าใจในทันที "ข้าก็นึกว่าเนี่ยนเนี่ยนชอบต่างหูนี้มาก ก็เลยเก็บมาเสียอีก ที่แท้แม่ทัพเซียวก็เก็บมาให้นี่เอง"ในตอนท้ายของคำพูด ความมืดมนในดวงตาของหมิงอ๋องก็ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย "ฝ่าบาทวางใจเถิด กลับไปหม่อมฉันจะพูดกับแม่ทัพเซียวให้ชัดเจน ว่าหม่อนฉันจะไม่สวมต่างหูคู่นี้อีก""เช่นนั่นหรือ?" เขาพูดเบาๆ น้ำเสียงเสียดสีเล็กน้อย "หากเขาเอาท่านย่าของเขามาข่มขู่อีกล่ะ?"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป นางไม่ไ
เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนไม่ตอบ รอยยิ้มของหมิงอ๋องก็ดูกระด้างขึ้น "ข้าแค่ถามเล่นๆ เนี่ยนเนี่ยนไม่จำเป็นต้องใส่ใจ"แม้จะพูดเช่นนั้น แต่เขากลับถามต่อ "เนี่ยนเนี่ยนชอบแม่ทัพเซียวตรงไหนหรือ?"และครั้งนี้ เขาไม่รอคำตอบของเฉียวเนี่ยนเขาเริ่มพูดกับตัวเองแทน "ชอบที่เขาหล่อเหลา หรือชอบที่เขามีทักษะศิลปะการต่อสู้สูง กล้าหาญ และมีไหวพริบ? หรือจะชอบทุกอย่าง?""เซียวเหิงเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หายากจริงๆ ไม่ใช่แค่เนี่ยนเนี่ยนหรอก แม้แต่ซูหยวนก็ชอบเขาเช่นกัน เพราะอย่างนั้นตอนที่เจ้าทำชามเคลือบแตก นางถึงได้จงใจทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่และส่งเจ้าไปกรมซักล้าง"ซูหยวนเป็นชื่ออันสูงส่งที่ห้ามเอ่ยถึงขององค์หญิงใหญ่ในปัจจุบันเฉียวเนี่ยนตกใจมาก นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้วเช่นนี้ไม่น่าแปลกใจเลยที่องค์หญิงซูหยวนสั่งลงโทษนางให้ไปกรมซักล้าง และยังสั่งให้นางบ่าวกลั่นแกล้งนางตลอดสามปี...แต่ตอนนี้ สิ่งที่นางกังวลไม่ใช่องค์หญิงซูหยวน แต่เป็นหมิงอ๋อง!นางสูดลมหายใจและเอ่ยปากถาม "ท่านอ๋องจงใจพูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเพราะเหตุใจหรือเพคะ?"หมิงอ๋องไม่สนใจทั้งยังพ
เมื่อได้ยินดังว่า เฉียวเนี่ยนกลับแค่นหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ถ้านี่ถือเป็นความผิด เช่นนั้นสามปีก่อน พวกท่านแต่ละคนก็ทำผิดหมดมิใช่หรือ?”ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทุกคนในห้องโถงพลันชะงักค้างทันใดราวกับฮูหยินหลินโดนกระตุ้นบางอย่างเข้า ยืนขึ้นซวนเซ ถอยหลังไปสองก้าว “เจ้า เจ้า......”เฉียวเนี่ยนปราดตามองนาง เงียบงันไร้เสียงทว่าฮูหยินหลินปาดน้ำตาออก “ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้ายังโทษพวกเราอยู่! แต่ว่านะเนี่ยนเนี่ยน นี่มันไม่เหมือนกัน! เรื่องนั้นกระทันหันมาก มันเป็นอุบัติเหตุ! ทว่าวันนี้ เจ้าจงใจวางแผนทำร้ายยวนเอ๋อร์! สองเรื่องนี้ จะมาพูดปนกันได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนหัวเราะเสียงต่ำ “จงใจ วางแผนทำร้าย......สองคำนี้ ใช้ได้ดีนี่!”"แล้วไม่ใช่หรือไร?" หลินเย่ว์เข้ามาถาม “เจ้ากล้าพูดไหม ว่าเจ้าไม่ได้ทำตามคำสั่งองค์หญิง จงใจยุยงให้ยวนเอ๋อร์เข้าวัง?”“ข้าทำตามคำสั่งองค์หญิง ให้พานางเข้าวังจริง” เฉียวเนี่ยนตอบรับอย่างสง่า เสียงดังก้อง ไร้ซึ่งท่าทีหวาดผวาสายตานางมองตรง ไม่มองใครในห้องโถงสักคน เพียงบอกสาธยายความจริงด้วยความสงบนิ่งเท่านั้น “แต่ ชุดที่หลินยวนสวมนั้น เซียวเหิงเอามาให้ข้าจริงๆ”ได้ยินดัง
เมื่อได้ยิน เซียวชิงหน่วนยกมือถูน้ำตาที่เกือบไหลเต็มที อดถามขึ้นอีกไม่ได้ “ตอนนั้นเฉียวเนี่ยนคิดใส่ร้ายหลินยวนจริงหรือ?”เซียวเหิงพยักหน้าตอนนั้นยามเขาเร่งไปถึง ถ้วยแก้วก็แตกไปแล้วเฉียวเนี่ยนกำลังคุกเข่าบนพื้น ชี้นิ้วใส่หลินยวนพูดทั้งน้ำตาว่าหลินยวนเป็นคนทำถ้วยแก้วแตกทว่าตอนนั้น สายตาเหง้าตระกูลหลินอยู่ตรงนั้นมากมาย ไหนเลยจะปล่อยให้นางถูกใส่ความได้!เพราะนางคิดทำร้ายผู้อื่นก่อน ได้รับโทษไปก็สมควรแล้วแต่เขาไม่คาดคิดว่า สามปีจะเนิ่นนานขนาดนี้......เซียวชิงหน่วนสูดจมูก “วันนี้นางก็เป็นคนทำร้ายหลินยวนก่อน” พูดไปเซียวชิงหน่วนก็อดกล่าวโทษเซียวเหิงไปทีเสียไม่ได้ “แต่ พี่ใหญ่ก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย ท่านเอาชุดมอบให้นางไป? อย่าลืมสิ ว่าตอนนี้ท่านเป็นคู่หมั้นของหลินยวน!”เซียวเหิงไม่เคยโดนเซียวชิงหน่วนสั่งสอนมาก่อน เลิกคิ้วทันควัน มองเซียวเหิงด้วยสายตาคุกคามทรงอำนาจ “ต้องให้เจ้าเตือนด้วยหรือ?”เซียวชิงหน่วนเผลลอถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่ปากยังเอ่ยต่อ “ข้ากลัวท่านสับสน ในเมื่อรู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นคนแบบนั้น เช่นนั้นก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับนางมาก ใครจะรู้ว่าต่อไปนางจะทำร้ายใครอี
เซียวชิงหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองความขมขื่นบนหน้าเฉียวเนี่ยน หัวใจพลันเกิดความรู้สึกไม่สบายแต่เมื่อนึกได้ว่าทุกอย่างที่หลินยวนประสบในวันนี้ล้วนเป็นฝีมือเฉียวเนี่ยนแล้ว นางก็อดเอ่ยเสียงเข้มขึ้นอีกครั้งเสียไม่ได้ “แม้เจ้ากับข้าจะทะเลาะกันมาแต่เด็ก ขวางหูขวางตากันมาตลอด แต่ข้ารู้ว่านิสัยแท้จริงเจ้ามิใช่คนเลวร้าย ไม่ว่าอย่างไร เรื่องตอนนั้น หลินยวนมิได้ทำผิด เจ้าทำร้ายนางเช่นนี้ ระวังท้ายสุดจะย้อนมาทำร้ายตัวเจ้าเองล่ะ”พูดประโยคนี้จบ เซียวชิงหน่วนก็เดินไปด้านข้าง พูดคุยกับเหล่าคุณหนูที่คุ้นเคยหากแต่ สายตาของนางยังคงมองไปยังเฉียวเนี่ยนอยู่เสมอนางเห็นเฉียวเนี่ยนเดินไปยังมุมลับสายตาด้วยสีหน้าเหงาซึม เชยชมดอกไม้ที่ไม่สวยงามนักดอกหนึ่ง ทว่าสายตากลับหม่นหมองไร้แสงงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูปีนี้ เป็นเพราะองค์หญิงไม่พึงใจทั้งยังจากไป งานจึงเลิกราเร็วยิ่งยามเซียวชิงหน่วนกลับถึงจวนเซียว ฟ้าก็มืดไม่เห็นแสงแล้วเซียวเหิงกลับมาถึงจวนนานแล้ว ตอนเซียวชิงหน่วนตามเขาเจอ เขาก็ฝึกดาบในลานเรือนของตนแล้วด้วยเหตุนี้ เซียวชิงหน่วนจึงยืนมองอยู่ข้างๆ มิได้เข้าไปรบกวน คอยกระทั่งเซียวเหิงเก็บพลังแล้ว นางถึงรับ
คำพูดเอ่ยเพียงเท่านี้ เซียวเหิงก็เข้าใจแล้ว วันนี้องค์หญิงซูหยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแน่ยิ่งไปกว่านั้น ขันทีน้อยข้างๆยังคลานเบื้องหน้าองค์หญิง ร้องไห้รายงานเรื่องราว “องค์หญิง นางทับดอกถานฮวาของท่านเสียหายแล้วพะยะค่ะ!”องค์หญิงซูหยวนมองตามปลายนิ้วขันทีน้อย ก่อนตะโกนกร้าวด้วยความกริ้วโกรธทันใด “บังอาจ! ริอ่านทำลายดอกถามฮวาที่ข้ารักที่สุดลง! หลินยวน! เจ้าคงรู้สินะว่าดอกถานฮวาพวกนี้ล้ำค่าขนาดไหน!”หลินยวนโดนองค์หญิงซูหยวนตะคอกใส่ รีบหลับในอ้อมอกเซียวเหิงตัวสั่นรุนแรงทว่าไม่ทันให้นางได้เอ่ยปาก หลินเย่ว์กุมมือคารวะเอ่ย “ทูลฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ ยวนเอ๋อร์มิได้ตั้งใจทำลายของรักขององค์หญิง ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ขอองค์หญิงโปรดมองให้กระจ่างแจ้ง”“บังอาจ!” นางกำนัลหลวงข้างกายองค์หญิงต่างทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป “ในเมื่อทำลายของรักขององค์หญิง ถือเป็นโทษทั้งสิ้น! ท่านโหวน้อยเอ่ยอ้างเช่นนี้ จะบอกว่าองค์หญิงไม่แยกแยะถูกผิดอย่างนั้นหรือ?”“กระหม่อมมมิบังอาจ!” หลินเย่ว์รีบคำนับ “หากแต่ยวนเอ๋อร์เกิดอุบัติเหตุล้มใส่จริงพะยะค่ะ เรื่องนี้ทุกคนล้วนเป็นพยานได้”เมื่อได้ยินดังนั้น องค์หญิงซูหย
คล้อยหลังเสียงกรีดร้อง ขันทีน้อยอายุราวสิบที่คอยเฝ้ามองรีบปรี่เข้ามาข้างกายหลินยวน ก่อนดึงให้หลินยวนลุกขึ้นทว่า สายเกินไปแล้วแปลงดอกไม้ถูกหลินยวนทับใส่ไม่เหลือชิ้นดี ดอกไม้น่าสงสารหลายต้นโดนทับจนจมดิน ไม่เหลือซึ่งความงดงามดังเดิมขันทีเห็นภาพตรงหน้า พลันทรุดตัวนั่งทันใด “แย่แล้ว จบสิ้นหมดแล้ว......”พูดไป ทันใดนั้นขันทีน้อยนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงคว้าหมับเข้าชายกระโปรงหลินยวน “เป็นเพราะเจ้า! นี่เป็นสิ่งที่องค์หญิงรับสั่งให้ไปรับจากชมพูทวีปมาด้วยราคาสูง! ข้ากับอาจารย์ทุ่มเทความพยายามยิ่งกว่าจะปลูกสองดอกนี้ได้ อีกไม่กี่เดือนก็ผลิดอกบานแล้ว แต่ตอนนี้ถูกเจ้าทับเละแล้ว! เจ้าต้องชดใช้!”ขันทีน้อยพูดไปพลางร้องไห้ดังลั่น ดึงดูดให้ฝูงชนล้อมวงเข้ามาชุดของหลินยวนเปรอะเปื้อนดินไม่น้อยเพราะล้มใส่แปลงดอก มองตัวเองกลายเป็นตัวตลกที่ฝูงชนหัวเราะเยาะอีกครั้ง จิตใจร้อนรนทนไม่ไหว จึงรีบดึงชุดตนเองกลับมา “เจ้า รีบปล่อยมือ!”“ข้าไม่ปล่อย! เจ้าต้องชดใช้ดอกถามฮวาให้ข้า!” ขันทีน้อยตัดสินใจแล้วว่าวันนี้ต้องทำให้หลินยวนพูดแถลงให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อยเมื่อเห็นเหตุการณ์ หลินเย่ว์รีบเข้ามาพูดโน้ม
นางเงยหน้ามองเซียวเหิงอย่างประหลาดใจ ริ้วแดงยังไม่จางหาย หากแต่ดวงตากลับแดงก่ำ "นี่ นี่ไม่ใช่ท่านพี่เหิงส่งมาให้หรอกหรือ?"เขาส่งให้?สีหน้าเซียวเหิงคร่ำเคร่งลง ก่อนหันมองเฉียวเนี่ยนทันใดสายตาเย็นเยียบคู่นั้นกวาดมองฝูงชน ก่อนหยุดสายตาตรงกวงหน้าเฉียวเนี่ยนอย่างแม่นยำเฉียวเนี่ยนตะลึงงัน จากนั้นรีบหลบสายตาไปนางไม่อยากข้องเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาแต่ไม่คาดคิดว่าพวกหัวไวบางคน จะเห็นถึงความผิดปกติได้ในแวบเดียว “เอ๋ คนข้างกายแม่นางเซียว คือคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวใช่หรือไม่?”ครั้นคนผู้นั้นเอ่ย สายตาเหล่าธารกำนัลที่เหลือก็ปราดมองมายังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนไม่ชอบความรู้สึกเป็นเป้าสายตาคนมากมายเช่นนี้ คิ้วขมวดมุ่นทันควันทว่ากลับมีเสียงคนเอ่ยเบาๆ “ที่แม่ทัพเซียวเอ่ยเมื่อครู่ คงมิใช่ว่าชุดนี้เป็นของคุณหนูผู้นั้นใช่ไหม?”“เมื่อครู่ข้าเองก็รู้สึกประหลาดใจ ชุดสวยๆเช่นนี้ ไฉนถึงได้ทำแขนเสื้อมายาวนัก อย่างกับชุดเล่นงิ้ว!”เฉียวเนี่ยนสูงกว่าหลินยวนอยู่บ้าง แขนย่อมยาวกว่า ประกอบกับตอนสั่งตัดเซียวเหิงกำชับเป็นพิเศษว่าแขนเสื้อต้องยาวอีกหน่อย เพื่อปกปิดรอยแผลเป็นบนข้อมือเฉียวเนี่ยนดังนั้น แขน
พริบตาเดียว ก็ถึงวันงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูแล้วในอุทยานหลวง หลินยวนสวมชุดผ้าไหมท้องฟ้านั้น และใส่คู่กับเครื่องประดับที่หลินเย่ว์เพิ่งซื้อให้นางเมื่อวาน เมื่อปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาของทุกคนเหล่าคุณหนูที่รู้จักนางรีบเข้าไปต้อนรับทันที และชมการแต่งตัวของนางวันนี้อย่างไม่ขาดปากเมื่อเทียบกันแล้ว เฉียวเนี่ยนได้สวมชุดที่เรียบง่ายกว่ามากอีกทั้งคุณหนูคุณชายในนั้นล้วนรู้แค่ว่าเฉียวเนี่ยนคือลูกเลี้ยงจวนโหว แม้แต่หมิงอ๋องที่เป็นที่พึ่งเดียวของนางก็ยังตายเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นคนที่เข้ามาคุยกับนางย่อมไม่มีแม้แต่คนเดียวเฉียวเนี่ยนก็มีความสุขจนผ่อนคลายอิสระ และเดินไปอยู่ตรงมุมหนึ่งอย่างไม่สนใจใครแต่ไม่คิดเลยว่า ยังมีคนเข้ามาต้อนรับ"เฉียวเนี่ยน"คือเซียวชิงหน่วนเฉียวเนี่ยนไม่คิดเลยว่าเซียวชิงหน่วนจะมาทักทายตนเอง อย่างไรเสีย ต่อให้ครั้งก่อนช่วยเซียวชิงหน่วนเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของหลินยวน พวกนางก็ยังเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่เด็กจนโตดังนั้น นางเลิกคิ้วขึ้น ตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย “มีเรื่องอะไร?”“ชุดนั้น”เซียวชิงหน่วนเหลือบมองหลินยวนที่อยู่ไกลๆ แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “นั่นพี่ใหญ่ซื้อให้เจ้า เหต
“เรื่องอะไร?”เฉียวเนี่ยนถามกลับ “เรื่องที่ให้โจรภูเขาลักพาตัวข้า หรือวางยาปลุกกำหนัดข้า และพาข้าไปนอนบนเตียงผู้ชายคนอื่น?“เฉียวเนี่ยนคิดว่า แค่เรื่องคาดไม่ถึงสองเรื่องนี้ ก็เพียงพอให้หลินเย่ว์หุบปากแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า อกเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง และยังแก้ตัวให้ตัวเองอีก “เรื่องยาปลุกกำหนัดเป็นอุบัติเหตุ ข้าคิดว่ามันเป็นแค่ยาสลบธรรมดา…”“มีอะไรแตกต่างหรือ?” เฉียวเนี่ยนจ้องหลินเย่ว์เขม็ง “ท่านโหวน้อยถึงขั้นทำร้ายคู่หมั้นข้าทางอ้อม ท่านทำเรื่องร้ายแรงขัดต่อฟ้าดินมากมาย บัดนี้กลับมาว่าข้ามีเจตนาร้ายแอบแฝง ท่านรู้สึกว่ามันน่าขันไหม?”เรื่องไม่ดีเหล่านั้น หลินเย่ว์ยอมรับดังนั้นตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจดโต้กลับอย่างไรดี หลังสูดหายใจลึกสองหน สุดท้ายก็เบาเสียงลง“ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า แต่พวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับยวนเอ๋อร์ เจ้าอยากแก้แค้น ก็มาลงแค่ที่ข้า”เฉียวเนี่ยนพ่นเสียงเย็นออกมา “แต่ที่ข้าเดินมาถึงวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะหลินยวนสร้างขึ้นมา”หลินเย่ว์กดเสียงต่ำ เหมือนจะโน้มน้าวด้วยความจริงจัง “นั่นเพราะสาวใช้ของนางไม่รู้ความ ยวนเอ๋อร์นางไม่เคยทำร้ายเจ้า”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าอย่างเห็นด้
เมื่อได้รับการยืนยัน ในใจหลินยวนเบิกบานสุดขีด ก่อนหมุนตัวเดินไปอยู่ข้างๆ ท่านโหวหลินแล้วคุกเข่าลง แนบหัวกับเข่าทั้งสองข้างของท่านโหวหลิน พลางกล่าวออดอ้อน "ท่านพ่อ ท่านให้ข้าไปเถิดนะ! วันหน้ายวนเอ๋อร์จะต้องออกเรือนกับท่านพี่เหิง ช้าเร็วก็ต้องเข้าวัง หากถึงตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทำให้ท่านพี่เหิงขายหน้าจะทำอย่างไร?"เมื่อได้ยินวาจานี้ ท่านโหวหลินกับฮูหยินหลินอดเหลือบมองกันไม่ได้นั่นสิ วันหน้าหลินยวนต้องกลายเป็นนายหญิงตระกูลเซียว ตอนนี้พวกเขาปกป้องนางอย่างดีเช่นนี้ ไม่แน่อาจจะกลับกลายเป็นทำร้ายนางฮูหยินหลินยังคงกังวล ทว่าน้ำเสียงอ่อนลงแล้ว "เช่นนั้นเจ้าเข้าวังไปแล้ว ห้ามเตร็ดเตร่ไปทั่วเด็ดขาด ต้องตามติดพี่เจ้าให้ดี รู้ไหม?"ได้ยินฮูหยินหลินเห็นด้วยเช่นนี้ หลินยวนดีใจแทบบ้า รีบกล่าว "ขอบคุณท่านแม่เจ้าคะ!"จากนั้น ก็เงยหน้าขึ้นมองท่านโหวหลิน ใบหน้าจิ้มลิ้มทำให้คนรู้สึกเอ็นดูเป็นพิเศษ "ท่านพ่อ...""เอาเถิดๆ ตามใจเจ้าเถิด!"ท่านโหวหลินก็จำใจเห็นด้วย ทว่าก็กล่าวเตือน "อย่าลืมพูดจาระวัง กระทำการรอบคอบ งานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูจบแล้วรีบกลับจวนทันที ห้ามอ้อยอิ่งอยู่ในวัง!""ยวนเอ๋อร์เข้