ราวกับว่า เมื่อครู่นี้เรื่องต่างหูเป็นเพียงเรื่องที่เต๋อกุ้ยเฟยพูดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจเท่านั้นเฉียวเนี่ยนรู้สึกสงสัย แต่ไม่ได้พูดอะไรหมิงอ๋องจูงมือนางเดินไปหาเต๋อกุ้ยเฟยอย่างเป็นธรรมชาติ เขามองดูผ้าบนโต๊ะและพลิกมันไปมา "นี่เป็นผ้าที่ดีที่สุดของกรมภูษาอาภรณ์แล้วหรือ?""ไม่ได้ดีที่สุดหรอก แต่ก็กล่าวได้ว่าเป็นผ้าชั้นดี!" เต๋อกุ้ยเฟยพูดจบก็ถอนหายใจ "ลูกคนนี้ ไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้หรืออย่างไร ถึงได้กล้าขอของดีที่สุด?"กำลังจะถูกส่งไปที่ดินในปกครองเป็นท่านอ๋องแค่ในนามแล้ว ยังได้รับของเหล่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว!หมิงอ๋องได้ยินดังนั้นก็ไม่ตอบโต้แต่มือที่จูงมือเฉียวเนี่ยนกลับออกแรงโดยไม่รู้ตัวเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว เขากุมมือที่หลังมือของนางยังบวมช้ำไม่หายดีจนนางเจ็บแต่นางยังคงไม่พูดอะไรดูเหมือนเต๋อกุ้ยเฟยจะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของหมิงอ๋อง จึงเลือกดูผ้าต่อ ทั้งนำมาทาบบนตัวเฉียวเนี่ยน สักพักก็ทาบบนตัวหมิงอ๋อง "ข้าว่าสองผืนนี้ไม่เลวเลย พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร?"หมิงอ๋องตอบเบาๆ "ท่านแม่ตัดสินใจเถิด"เฉียวเนี่ยนเองก็พูดตอบ "พระสนมตัดสินใจเถิดเพคะ""พวกเจ้าเนี่ย!" เต๋อกุ้ยเฟยมองทั้งสองคน
แม้จะยิ้ม แต่เฉียวเนี่ยนได้ยินถึงความไม่พอใจที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างชัดเจนแต่ก็ธรรมดาที่หมิงอ๋องจะโกรธต่างหูคู่นี้มีเรื่องราวระหว่างนางกับเซียวเหิงมากเกินไปเมื่อวานนางโยนมันทิ้งต่อหน้าทุกคน แต่วันนี้มันกลับมาปรากฏที่หูของนางอีกครั้ง ในฐานะคู่หมั้นของนาง เป็นเรื่องปกติที่หมิงอ๋องจะโกรธนางจึงอธิบายตามความจริง "อาจเพราะเมื่อวานหม่อนฉันทิ้งมันต่อหน้าผู้คน ทำให้แม่ทัพเซียวเสียหหน้า เมื่อครู่แม่ทัพเซียวจึงสั่งให้หม่อมฉันสวมมันไว้ หากหม่อมฉันไม่สวม ก็เกรงว่าจะไปพูดอะไรกับท่านย่า,,,"หมิงอ๋องรู้ว่าสุขภาพของท่านย่านางไม่สู้ดีนัก"อย่างนี้นี่เอง" หมิงอ๋องแสดงท่าทีเข้าใจในทันที "ข้าก็นึกว่าเนี่ยนเนี่ยนชอบต่างหูนี้มาก ก็เลยเก็บมาเสียอีก ที่แท้แม่ทัพเซียวก็เก็บมาให้นี่เอง"ในตอนท้ายของคำพูด ความมืดมนในดวงตาของหมิงอ๋องก็ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย "ฝ่าบาทวางใจเถิด กลับไปหม่อมฉันจะพูดกับแม่ทัพเซียวให้ชัดเจน ว่าหม่อนฉันจะไม่สวมต่างหูคู่นี้อีก""เช่นนั่นหรือ?" เขาพูดเบาๆ น้ำเสียงเสียดสีเล็กน้อย "หากเขาเอาท่านย่าของเขามาข่มขู่อีกล่ะ?"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป นางไม่ไ
เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนไม่ตอบ รอยยิ้มของหมิงอ๋องก็ดูกระด้างขึ้น "ข้าแค่ถามเล่นๆ เนี่ยนเนี่ยนไม่จำเป็นต้องใส่ใจ"แม้จะพูดเช่นนั้น แต่เขากลับถามต่อ "เนี่ยนเนี่ยนชอบแม่ทัพเซียวตรงไหนหรือ?"และครั้งนี้ เขาไม่รอคำตอบของเฉียวเนี่ยนเขาเริ่มพูดกับตัวเองแทน "ชอบที่เขาหล่อเหลา หรือชอบที่เขามีทักษะศิลปะการต่อสู้สูง กล้าหาญ และมีไหวพริบ? หรือจะชอบทุกอย่าง?""เซียวเหิงเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หายากจริงๆ ไม่ใช่แค่เนี่ยนเนี่ยนหรอก แม้แต่ซูหยวนก็ชอบเขาเช่นกัน เพราะอย่างนั้นตอนที่เจ้าทำชามเคลือบแตก นางถึงได้จงใจทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่และส่งเจ้าไปกรมซักล้าง"ซูหยวนเป็นชื่ออันสูงส่งที่ห้ามเอ่ยถึงขององค์หญิงใหญ่ในปัจจุบันเฉียวเนี่ยนตกใจมาก นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้วเช่นนี้ไม่น่าแปลกใจเลยที่องค์หญิงซูหยวนสั่งลงโทษนางให้ไปกรมซักล้าง และยังสั่งให้นางบ่าวกลั่นแกล้งนางตลอดสามปี...แต่ตอนนี้ สิ่งที่นางกังวลไม่ใช่องค์หญิงซูหยวน แต่เป็นหมิงอ๋อง!นางสูดลมหายใจและเอ่ยปากถาม "ท่านอ๋องจงใจพูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเพราะเหตุใจหรือเพคะ?"หมิงอ๋องไม่สนใจทั้งยังพ
"มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่า ตลอดสามปีที่ผ่านมา ฮูหยินเฒ่าแห่งตระกูลหลิน มักจะขอร้องฮองเฮาให้ปล่อยเฉียวเนี่ยนหากมีโอกาสที่เหมาะสม?สำหรับเฉียวเนี่ยน คนที่นางใส่ใจมากที่สุดก็คือฮูหยินเฒ่าตระกูลหลินรู้วิธีใช้ฮูหยินเฒ่าเพื่อควบคุมเฉียวเนี่ยน ส่วนเซียวเหิงรู้วิธีใช้ฮูหยินเฒ่าพื่อข่มขู่เฉียวเนี่ยนเช่นนั้นแล้ว หมิงอ๋องก็ต้องรู้ด้วยเหมือนกันเป็นดังที่คิดไว้ เฉียวเนี่ยนที่กำลังดิ้นรนอยู่ก่อนหน้านี้ พอได้ยินคำพูดของหมิงอ๋องก็พลันหยุดนิ่งไปทันทีปากที่อ้ากว้างเพราะหายใจไม่ออกพลันปิดสนิทลงอย่างแรง มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่ยังคงจ้องมองหมิงอ๋องอย่างแน่วแน่ไม่ละสายตาหมิงอ๋องไม่คาดคิดเลยว่า เพียงแค่คำพูดประโยคเดียวจะทำให้เฉียวเนี่ยนยอมเลิกต่อต้านหลังจากความตกใจในชั่วขณะนั้น ความตื่นเต้นที่ไม่เคยมีมาก่อนก็พลันถาโถมเข้าสู่หัวใจจู่ๆ เขาก็ผละออกจากเฉียวเนี่ยน แล้วตะโกนออกไปนอกรถม้าอย่างร้อนรนด้วยเสียงกร้าวว่า "ถึงหรือยัง!""ท่านอ๋อง ใกล้ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"คำตอบจากภายนอกรถม้าช่วยระงับความโกรธของหมิงอ๋องได้ชั่วคราวเขานั่งกลับไปที่ตำแหน่งของตัวเอง พิงศีรษะไปข้างหนึ่ง สายตาคมกริบจากบมองเฉียวเนี่ยนตั
ก็เพราะไม่สามารถเอาชีวิตของนางได้ เขาถึงได้ใช้ท่านย่าของนางมาข่มขู่ให้นางไม่แพร่งพรายอะไรออกไป!เฉียวเนี่ยนสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า "หากท่านอ๋องไม่ต้องการชีวิตของข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว"นางไม่ได้เห็นเครื่องมือทรมานใดๆ ในห้องนี้ สิ่งเดียวที่เหมือนเครื่องมือทรมานก็คือแส้ในมือหมิงอ๋องช่วงสามปีที่อยู่ในกรมซักล้าง นางถูกตีไม่รู้ตั้งกี่ครั้งสามปีที่ผ่านมานั้นนางรอดมาได้ วันนี้ นางก็เชื่อว่านางจะต้องทนผ่านมันไปได้เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่กลัวตายของนางเช่นนี้ ความตื่นเต้นในใจหมิงอ๋องแทบจะระเบิดออกจากดวงตาของเขาเขาค่อยๆ ลุกขึ้นเดินไปทางเฉียวเนี่ยน "ข้าเคยบอกแล้วว่าชอบท่าทางแบบนี้ของเจ้าที่สุด"เขาพูดพลางยกมือขึ้นลูบเส้นผมของเฉียวเนี่ยนที่ตกลงมาใกล้หู แล้วเกี่ยวมันไปข้างหลังเหมือนที่เคยทำในวังเพียงแต่ว่าครั้งนี้ เขากระชากต่างหูจากหูเฉียวเนี่ยนอย่างแรง และดึงมันออกมา“อ้าก!”เฉียวเนี่ยนร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดทันที แล้วยกมือขึ้นกุมหูของตัวเอง มือของนางชุ่มไปด้วยความร้อนจากเลือดที่ไหลออกมาขณะที่หมิงอ๋องมองต่างหูในมือของเขา ซึ่งมีเลือดหยดออกมาในอกเขาก็เริ่มเต้น
ฟ้าเริ่มมืดแล้วเฉียวเนี่ยนที่ฟุบอยู่บนพื้นแล้วค่อยๆ ฟื้นคืนสติ พลางมองไปยังเทียนที่ใกล้จะดับบนผนังโดยรอบ คิดว่าเวลาคงผ่านไปนานแล้วแต่ผ่านไปนานเท่าไหร่นางก็ไม่รู้รู้เพียงว่า แส้ของหมิงอ๋องฟาดลงบนหลังของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งหมิงอ๋องหมดเรี่ยวแรงไปเอง ถึงได้หยุดมือในที่สุดนางยังคงจำเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสะใจของหมิงอ๋องในตอนที่จากไปได้อย่างชัดเจน...มันช่างเหมือนกับปีศาจร้ายแห่งนรก ที่หลังจากกระทำความโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุดแล้วมักหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแผ่นหลังของนางปวดแสบปวดร้อนนางไม่กล้าขยับตัวเลือดสดที่ซึมออกมาผสมกับเสื้อผ้าจนติดกันแน่น เพียงแค่ขยับเล็กน้อย ความเจ็บปวดจากการดึงรั้งและเสียดสีก็ทำให้นางรู้สึกเหมือนหัวใจถูกฉีกกระชากเจ็บเหลือเกิน...เจ็บจริงๆ!เจ็บยิ่งกว่าตอนที่ถูกมามาจากกรมซักล้างเฆี่ยนตีเสียอีก!แต่ฝีมือของเขากลับแม่นยำอย่างน่าประหลาด ทั้งมือและใบหน้าของนางไม่มีรอยแผลเลยแม้แต่น้อยยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่เขาจะลงแส้ เขายังสั่งให้นางถอดเสื้อคลุมออกด้วยโชคดีที่ถอดออกไปไม่อย่างนั้น หากนางกลับจวนพร้อมร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลเช่นนี้ ย่อมต้องถูก
กลิ่นสุราฉุนๆ ทำให้เฉียวเนี่ยนเกือบจะหมดสติ แต่โชคดีที่ความเจ็บปวดแสบๆ ร้าวๆ ที่หลังทำให้นางยังคงตั้งสติได้หลินยวนวิ่งตามมาจากด้านหลังของหลินเย่ว์ พูดเสียงนุ่มนวลเพื่อปลอบโยน "ท่านพี่อย่าโกรธไปเลย พี่สาวกลับมาช้าเพราะไปเที่ยวกับหมิงอ๋อง หากจะไว้หน้าหมิงอ๋อง ก็ไม่ควรทำให้พี่สาวลำบากใจ""ไว้หน้าหมิงอ๋องงั้นหรือ?" หลินเย่ว์หัวเราะเยาะ "นั่นสิ ข้าควรให้เกียรติหมิงอ๋องหน่อย ดูสิ เขาทำดีกับเจ้าแค่ไหน พาเจ้าไปเที่ยวทะเลสาบ! ข้าคิดว่า คนอย่างเจ้าควรจะถูกพาไปที่เฉิงซีเลยดีกว่า!"ใบหน้าของเฉียวเนี่ยนที่เดิมทีไร้ความรู้สึกกลับเต็มไปด้วยความตกใจทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของหลินเย่ว์"ท่าน...รู้จักเฉิงซีงั้นหรือ?" นางเปิดปากถามในที่สุด แต่เสียงแหบแห้งของนางทำให้หลินเย่ว์ชะงักไปเล็กน้อย แม้แต่ฤทธิ์ของสุราก็ยังค่อยๆ หายไปบ้างเขาจ้องมองเฉียวเนี่ยน สายตาของเขาฉายความสงสัย ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปที่ติ่งหูของเฉียวเนี่ยนรอยเลือดแห้งไปแล้ว แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่าติ่งหูของนางได้รับบาดเจ็บมิน่า เขาถึงได้กลิ่นคาวเลือดโชยมาในตอนแรกแต่ว่าแค่บาดแผลเล็กน้อยขนาดนี้ ทำไมถึงมีกลิ่นเลือดรุนแรงนัก?หลินเย่ว์ตก
ท่านโหวหลินถูกถามจนพูดไม่ออก คำตอบติดค้างอยู่ที่ลำคอ รู้สึกเหมือนพูดไม่ออกในทันทีทว่าฮูหยินหลินที่ได้ยินเข้าก็รีบเดินเข้ามา และช่วยประคองเฉียวเนี่ยนลุกขึ้นพร้อมทั้งกระซิบปลอบโยน "เนี่ยนเนี่ยน อย่ากังวลไปเลย พ่อของเจ้าก็เป็นถึงท่านโหว อีกทั้งเต๋อกุ้ยเฟยกับแม่ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน เราต้องให้เกียรติกันอยู่แล้ว หมิงอ๋องไม่กล้าทำอะไรเจ้าแน่..."ยังพูดไม่ทันจบ ฮูหยินหลินก็รู้สึกร้อนๆ ที่ฝ่ามือเมื่อก้มดูก็เห็นว่ามือเต็มไปด้วยเลือดตาของนางก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ มองมือของตัวเองด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะถอยหลังไปสองก้าวขณะที่ทุกคนรอบข้างก็อึ้งจนพูดไม่ออกมีเพียงเฉียวเนี่ยนที่จ้องมองพวกเขาทีละคน แล้วจดจำใบหน้าของทุกคนไว้ในใจ พร้อมกับยิ้มเย็นชาอย่างเหยียดหยาม "ที่แท้ ฮูหยินหลินก็รู้เหมือนกันสินะ...""ที่แท้ พวกท่านทั้งครอบครัวก็รู้กันอยู่แล้ว แต่กลับปิดบังข้า..."ที่แท้พวกเขาทั้งหมดรู้อยู่แล้วว่า หมิงอ๋องเป็นคนที่ชอบทรมานผู้หญิงอย่างวิปริต แต่พวกเขาทุกคนกลับปิดบังนางเอาไว้ ถึงขั้นไม่รอช้าที่จะผลักนางไปให้หมิงอ๋องเอง!เมื่อพูดจบ หยดน้ำตาก็ไหลลงมาจากตาของเฉียวเนี่ยนเดิมทีนางก็อยากจะกลั้นเ
"ยวนเอ๋อร์ พี่รู้ว่าเจ้าเป็นคนจิตใจงดงาม และเชื่อด้วยว่าครั้งนี้เจ้ามีเจตนาดีจริงๆ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าทําเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยทําครั้งหนึ่ง และถูกเนี่ยนเนี่ยนกดลงบนพื้นสั่งสอนไปครั้งหนึ่งแล้ว ทําไมครั้งนี้ถึงยังไม่จําอีก? เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่า ในจวนโหวตอนนี้ ท่านย่าเป็นคนเดียวที่เนี่ยนเนี่ยนใส่ใจ หากเจ้าแตะต้องท่านย่า นางจะต้องสู้ตายกับเจ้าแน่!"หลินยวนก้มหน้า น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มไม่หยุด แต่แววตากลับฉายแววอํามหิตใช่ นางจะไม่รู้ได้ยังไง?ฮูหยินเฒ่านับเป็นจุดอ่อนของเฉียวเนี่ยน ตราบใดที่ฮูหยินเฒ่านี่ยังมีชีวิตอยู่ เฉียวเนี่ยนก็จะไม่มีวันออกจากจวนโหวได้!หนังสือตัดขาดความสัมพันธ์เหรอ?เหอะ! หยุดพูดเล่นได้แล้ว!หากเฉียวเนี่ยนสามารถตัดขาดกับจวนโหวได้จริง หลังจากถูกหมิงอ๋องตีจนปางตายก็คงตัดขาดไปนานแล้ว!ไม่สิ ไม่ถูก!มันควรจะตัดขาดตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว!แต่จนถึงวันนี้ เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว!นางมีสิทธิ์อะไร?ตัวนางเองต่างหากที่เป็นบุตรสาวของภรรยาเอกของจวนโหว!ทําไมนางต้องโดนเฉียวเนี่ยนควบคุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทําไมต้องโดนนางข่มขู่ด้วย?
หลังจากหลินเย่ว์เดินจากไปได้ช่วงหนึ่งก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ทว่าเมื่อครู่ท่านหมอกำชับไว้แล้ว ห้ามขยับตัวมาก ไม่เช่นนั้น เขาต้องซัดจิ่งเหยียนไปสักหมัด เพื่อคลายโทสะเป็นแน่ไม่ง่ายนักที่จะกลับมาถึงจวน หลินเย่ว์จึงมุ่งไปยังเรือนลั่วเหมยหนึ่ง เพื่อดูว่าอาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างสอง เพื่อให้หมอประจำจวนดูบาดแผลเขาสักหน่อยหมอที่อยู่ด้านนอกห้ามเลือดพอได้ ทว่ารักษานั้น อย่างไรก็เชื่อไม่ได้แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่ถึงหน้าประตูเรือนลั่วเหมย ก็ปะทะเข้ากับหมอประจำจวนที่กำลังออกมาครั้นเห็นหลินเย่ว์ หมอประจำจวนกุมมือคำนับ "คารวะท่านโหวน้อย"หลินเย่ว์รีบทอดมองเข้าไปในเรือน ก่อนถาม "อาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนตอบตามความเป็นจริง "อาการบาดเจ็บของคุณหนูรองไม่เป็นไรมากแล้ว ดาบนั้นคุณหนูใหญ่แทงได้แม่นยำมาก ไม่ทำให้ถึงตายขอรับ ส่วนบาดแผลตกหน้าอกก็ไม่ถือว่าลึกมาก ข้าน้อยได้สั่งยาให้สาวใช้เรียบร้อยแล้วขอรับ"ได้ยินดังนี้ หลินเย่ว์ถึงได้ขมวดคิ้วหนัก นึกถึงดาบนั้นเมื่อก่อนเขาเป็นคนสอนเฉียวเนี่ยนเองเพียงแต่ตอนนั้น เขาสอนนางเพื่อให้นางจัดการกับพวกเด็กเหลื
หรือจะเกี่ยวข้องกับเนี่ยนเนี่ยน?เช่นนั้นเนี่ยนเนี่ยนคงไม่เป็นไรใช่ไหม?เดิมทีหลินเย่ว์อารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นจิ่งเหยียนเข้า ก็อดเดือดเป็นฟืนเป็นไฟไม่ได้แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านหมอ เขาก็ไม่กล้าขยับตัวอะไรมาก ได้แค่กล่าวเสียงเย็น "เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"ขณะกล่าว ก็มุ่งตรงไปทางจวนโหวจิ่งเหยียนไม่ยอมแพ้ ตามไปด้วย "เนี่ยนเนี่ยนล่ะ? ทั้งๆ ที่จวนโหวมีหมอประจำจวนอยู่แล้ว ท่านโหวน้อยกลับมาดูหมอข้างนอก หรือหมอประจำจวนกำลังรีบรักษาให้เนี่ยนเนี่ยนอยู่?"เห็นหลินเย่ว์เอาแต่ไม่ตอบ จิ่งเหยียนเลยก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ขวางหลินเย่ว์ไว้ "หลินเย่ว์ เจ้าทำอะไรกับเนี่ยนเนี่ยนกันแน่!"หากไม่ใช่เพราะในมือถือยาสองห่อไว้ หลินเย่ว์ต้องซัดหมัดใส่เป็นแน่!เห็นสีหน้าร้อนรนเจือเต็มหน้าจิ่งเหยียน หลินเย่ว์ยิ่งรู้สึกกราดเกรี้ยวมากขึ้น "เรื่องในจวนโหวข้า รองแม่ทัพตัวเล็กๆ อย่างเจ้าเข้ามาสอดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"จิ่งเหยียนหาได้ยอมแพ้ "ข้าไม่ได้เข้าไปยุ่งจวนโหว เพียงแค่ถามถึงเนี่ยนเนี่ยนเท่านั้น!""เจ้า!" เห็นจิ่งเหยียนไม่คิดแม้แต่จะหลีกทางให้ หลินเย่ว์รู้ หากวันนี้ไม่คุยกับเขาชัดเจน เขาไม
อีกด้านหนึ่ง จิ่งเหยียนไปที่จวนเซียวตอนเขามา เซียวเหิงกำลังอ่านตำราพิชัยสงครามอยู่ในห้องหนังสือครั้งเห็นในมือจิ่งเหยียนถือเหล้ามาสองไห ตำราพิชัยสงครามในมือก็ถูกวางลงตาม นัยน์ตาลุ่มลึดทอดมองออกไป เห็นจิ่งเหยียนหยักยิ้ม "ข้าน้อยมาดื่มกับท่านแม่ทัพ"สิ้นเสียง เหล้าไหหนึ่งก็โยนที่ทางเซียวเหิงเซียวเหิงยกมือขึ้นรับ และดึมลงไปหนึ่งอึกรสแสบร้อนลงสู่ปาก ผ่านคอหอยเซียวเหิงอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ "จิ่วถานฉุนชั้นยอดของหอจุ้ยเซียง" ระหว่างสนทนา มุมปากก็ยกขึ้นยิ้ม "รองแม่ทัพจิ่งได้ลาภลอยมาหรือ?"เหล้าไหนี้ ราคาไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้น จิ่งเหยียนถือมาสองขวดจิ่งเหยียนก้าวเข้ามาย้ายเก้าอี้ และนั่งลงตรงข้ามเซียวเหิง พลางยกไหเหล้าในมือตัวเองขึ้นดื่ม "ไหของข้าน้อยไม่ใช่"ของเขาเป็นแค่เหล้าขาวธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเซียวเหิงมองไปที่จิ่งเหยียนอย่างไม่เข้าใจ และเห็นจิ่งเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าปกติ "วันนี้ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่งนัก"ได้ยินเช่นนี้ เซียวเหิงกลับยิ้มเยาะ "ผู้ที่ไปกู้หน้าให้คือพี่ใหญ่ข้า แต่เจ้ากลับมาขอบคุณข้า?"ขณะว่า ก็แหงนหน้ายกเหล้าขึ้นดื่มจิ่งเหยียนแค่ดื่มไปอึกหนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยรอ
นั่นมันต้องเจ็บขนาดไหนกัน!เนี่ยนเนี่ยนของนางต้องเจ็บขนาดไหนกัน!ฮูหยินเฒ่าแค่คิด ก็รู้สึกปวดใจแทบขาดแล้วย่าอย่างนาง ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!นางเอาแต่อยู่ในจวนนี้ทั้งวันทั้งคืน ไยแม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ยังไม่ได้รับ?หากนางรู้เร็วกว่านี้ว่าหมิงอ๋องคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นางคงไม่มีทางให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าวังหรอกหากนางรู้ว่าหลินเย่ว์ไอ้สารเลวนั่นทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นางคงตีเขาให้ตายแน่!หาก...หากนางจากไปเร็วกว่านี้ เนี่ยนเนี่ยนของนางคงไม่ต้องลำบาก ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม! อยู่ที่จวนโหวมาตลอดขนาดนี้!เป็นนางเองที่ไร้ประโยชน์!เป็นเพราะนางแก่แล้ว ทนได้ไม่ไหวแล้ว ไม่เพียงแต่ปกป้องเนี่ยนเนี่ยนของนางไม่ได้ ยังกลายเป็นภาระของนางด้วย!พวกเขายังให้นางกินน้ำล้างจานด้วย!หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักทะนุทะนอมมาตั้งแต่เด็ก!พวกเขากล้าให้นางกินน้ำล้างจานได้อย่างไรกัน!ฮูหยินเฒ่ายิ่งคิด ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนสุดท้าย ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงโหยหวนและแก่ชราที่ดังเรื่อยๆ นั้น แฝงไปด้วยความเสียใจมากมายและช่วยอะไรไม่ได้นางถึงขนาดที่ไม่รู้แล้วว่า ให้เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง
เฉียวเนี่ยนวิ่งไปด้วย เช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย นางจะให้ท่านย่าเห็นสภาพนางกระอักเลือดไม่ได้!เมื่อมาถึงนอกห้องฮูหยินเฒ่า ก็เห็นซูมามากับหมอประจำจวนรออยู่หน้าประตูห้องก่อนแล้วครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็คำนับเฉียวเนี่ยนรีบไถ่ถาม "เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านย่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนถึงได้ตอบ "คุณหนูใหญ่ ร่างกายของฮูหยินเฒ่าเสียหายอย่างรุนแรง แม้ข้าน้อยจะฝังเข็มรักษาชีพจรหัวใจของฮูหยินเฒ่าไว้มั่นได้ แต่ เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่เกินสิบวัน"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป พลางส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย "ไม่ ไม่จริง ซูมามาบอกว่า วันนี้สภาพท่านย่าไม่เลว แถมยังลุกจากเตียงได้อยู่เลยมิใช่หรือ... "เหตุใดแม้แต่สิบวันก็ทนไม่ไหวแล้วเล่า?ซูมามาปาดน้ำตาไร้สุ้มเสียงแต่หมอประจำจวนกลับถอนหายใจเล็กน้อย กล่าว "หากไม่เคยได้รับการกระตุ้น บางทีฮูหยินเฒ่าอาจทนได้สองสามเดือน เฮ้อ!"ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเฉียวเนี่ยนพลันไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่ลมหายใจก็สับสนไปชั่วขณะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของนางที่ทำร้ายฮูหยินเฒ่า!เมื่อครู่นางควรตวัดดาบจบหลินยวนไปเสีย!ซูมามารีบเข้ามาเช็ดน้ำตาให้นาง และกล่าวโน้
แต่ในเวลานี้เอง ร่างๆหนึ่งปรี่เข้ามาในห้อง ผลักเฉียวเนี่ยนออกและเพราะการกระแทกนี้ ทำให้ดาบยาวทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวตรงหน้าอกหลินยวนหลินเย่ว์ตกใจหน้าถอดสี รีบอุ้มหลินยวนไปข้างนอกทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนไล่ตามออกมาเหมือนกับคนบ้า ถือดาบยาวตวัดฟันลงบนหลังของหลินเย่ว์หลินเย่ว์หลบไม่ทัน หลังรับดาบเฉียวเนี่ยนไปเต็มๆ สองมือไร้เรี่ยวแรงทันที และล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับหลินยวนท่านโหวหลินที่เร่งตามาเห็นภาพนี้ ก็ปรี่เข้ามาจับสองมือของเฉียวเนี่ยนไว้ทันที พลางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”หากไม่ใช่เพราะทหารองครักษ์ที่ถูกแย่งดาบไปรีบมารายงาน เกรงว่าเมื่อพวกเขามาถึง หลินยวนคงตายภายใต้ดาบของนางไปแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนแทบจะตะโกนเดือดดาลอย่างบ้าบิ่น “ใช่ข้าบ้าไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปพูดไร้สาระต่อหน้าท่านย่า ท่านย่าก็คงจะไม่เป็นไร! วันนี้ข้าจะต้องตัดลิ้นนางให้ได้ ข้าจะดูว่าต่อไปเจ้าจะเอาอะไรออกมาทำร้ายท่านย่าอีก!”ท่านโหวหลินเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าจู่ๆ ที่ฮูหยินเฒ่าอาการกำเริบเกิดมาจากหลินยวน จึงมองไปที่หลินยวนด้วยสีหน้าตกตะลึงทันทีเห็นเพียงอีกฝ้ายหมอบอยู่
เรือนลั่วเหมย ประตูใหญ่ปิดสนิทเฉียวเนี่ยนถีบประตูเปิด ย่างสามขุมเข้าไปในเรือนลั่วเหมยคนรับใช้ สาวใช้ภายในเรือน แต่ละคนเตรียมพร้อมรออยู่ ราวกับคาดเดาได้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมาแต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะถือดาบเข้ามาด้วย!กระนั้น แม้พวกเขาจะเคยเห็นความดุร้ายของเฉียวเนี่ยน ทว่ากลับไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนฆ่าคน จึงคิดว่าเฉียวเนี่ยนแค่มาขู่ก็เท่านั้นมีคนรับใช้ใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาพูดโน้มน้าว “คุณหนูใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ รอท่านโหวมา…อ๊าก!”ไม่รอให้คนรับใช้คนนั้นพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ฟัดดาบลงไป คนรับใช้คนนั้นถูกฟันเข้าที่แขนทันที เลือดแดงสดไหลลงมาดวงตาสองข้างของเฉียวเนี่ยนแดงก่ำ ตะโกนเสียงดัง “หลินยวน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้น เหลือบมองกลุ่มคนรับใช้สาวใช้ที่ยังขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตะคอกเสียงเย็น “ใครกล้าขวางข้า!”เหล่าสาวใช้ที่ขี้ขลาดบางส่วนรีบวิ่งหนีเตลิดกันหมด ทว่ายังพอมีใจกล้าอยู่บ้าง ขวางอยู่ข้างหน้าเฉียวเนี่ยน “คุณหนูใหญ่ใจเย็นก่อนๆ หากฆ่าคุณหนูรองจริง ท่านโหวจะปล่อยคุณหนูไปได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจ้องคนรับใช้คนนั้นเขม็ง พลางกดเสียงต่ำ “รนหาที่ตาย!”ดาบยา
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูมามาก็ห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้แล้ว “ฮู ฮูหยินเฒ่ารู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่จะตัดขาดท่านโหว จึงบีบเค้นถามบ่าว บ่าวไม่กล้าพูดมาก ฮูหยินเฒ่าจึงบีบให้นังพวกใจสกปรกเหล่านี้พูด…”“ฮูหยินเฒ่าไม่เพียงรู้เรื่องที่คุณหนูตัดขาดจวนโหว ยังรู้เรื่องก่อนหน้าที่คุณหนูเกือบถูกหมิงอ๋องตีตาย รู้ว่าท่านโหวน้อยรังแกคุณหนูอย่างไร ดังนั้นฮูหยินเฒ่าก็เลย ก็เลย…”พูดมาถึงตอนท้าย ซูมามาร่ำไห้จนพูดออกมาไม่ได้แล้วส่วนเฉียวเนี่ยน เดือดดาลจนสั่นเทาไปทั่วร่างนางมีสีหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินไปทางสาวใช้พวกนั้นพวกสาวใช้แต่ละคนต่างหลุบตาต่ำก้มหน้า จิตใจกระวนกระวาย ไม่กล้าเหลือบมองเฉียวเนี่ยนได้ยินเพียงสุ้มเสียงสั่นเทาของเฉียวเนี่ยนดังออกมา และเจือไปด้วยโทสะ “ข้ากำชับหลายครั้งหลายหนแล้วว่าห้ามเปิดเผยเรื่องของข้าให้ท่านย่าฟัง พวกเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ถึงกล้าเอ่ยถึงข้าในเรือนของท่านย่า!”เหล่าสาวใช้ต่างตกใจพากันร่ำไห้โขกหัว “บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณหนูใหญ่ยกโทษให้ด้วย!”“บ่าวรู้ความผิดแล้ว บ่าวไม่กล้าทำอีกแล้ว!”ทว่าสายตาของเฉียวเนี่ยน กลับถูกสาวใช้หนึ่งในนั้นดึงดูดไปนางขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “เ