Share

บทที่ 15

Author: โม่เสียวชี่
เฉียวเนี่ยนแอบรู้สึกตกใจ จนแม้แต่นางกำนัลผู้นั้นก็กวาดสายตามองดูเฉียวเนี่ยนและเซียวเหิงด้วยความฉงน ก่อนตอบรับสั้นๆ ว่า “เจ้าค่ะ”

หลังจากนั้น นางกำนัลก็จากไปทันที

เซียวเหิงกลับเดินมาผายมือต่อเฉียวเนี่ยนอย่างเปิดเผย “แม่นางเฉียว เชิญ”

เมื่อหมดหนทาง เฉียวเนี่ยนจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินตามเซียวเหิงออกจากวังไป

เพียงแต่วันนี้รู้สึกทางเดินออกจากวังยาวไกลกว่าปกติ เฉียวเนี่ยนพยายามมองไปข้างหน้าเป็นระยะ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นประตูบานใหญ่ของวังหลวงเสียที

ทั้งคู่ต่างไม่พูดไม่จา

เงียบงันเสียจนได้ยินเสียงพื้นรองเท้าเสียดสีกับพื้นทรายด้านล่าง

ซึ่งสภาพการณ์เช่นนี้ หากเป็นแต่ก่อนจะไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก

เพราะเท่าที่เซียวเหิงจำได้ นางเป็นหญิงที่ช่างพูดช่างจา วันๆ มักจะบ่นโน่นบ่นนี่ไม่หยุดหย่อน

และความเงียบในเวลานี้ ทำให้เขาไม่คุ้นชิน

ในที่สุดจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน “เรื่องพี่ชายเจ้า ข้าได้ยินมาแล้ว ฝ่าบาทอาจจะทรงกริ้วบ้าง แต่มิใช่เรื่องใหญ่อันใด เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล”

เฉียวเนี่ยนไม่เคยคิดว่าเซียวเหิงจะพูดกับนางเช่นนี้ นี่หมายความว่ากระไร?

ปลอบใจกระนั้นรึ?

แต่ว่า นางมิได้กังวลอะไรเลย

นางยังคง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 16

    เฉียวเนี่ยนไม่นึกว่าฮูหยินเฒ่าจู่ๆ จะถามเช่นนี้ เมื่อดูความคาดหวังจากสายตาของนาง ทำให้เฉียวเนี่ยนเข้าใจโดยพลัน ว่าฮูหยินเฒ่าต้องการเป็นแม่สื่อให้นางกับเซียวเหิงนั่นเองแม้เมื่อวานนางจะพูดชัดเจนแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับเซียวเหิงอีก แต่ในสายตาของฮูหยินเฒ่า ทั้งคู่โตมาด้วยกัน อีกทั้งเซียวเหิงก็เป็นคนโปรดของฮ่องเต้ เหมาะที่เฉียวเนี่ยนจะฝากชีวิตไว้ในภายภาคหน้าแต่ว่า เมื่อก่อนความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซียวเหิงมักจะเข้าทำนองดอกไม้มีใจแต่สายน้ำไหลผ่าน มาวันนี้เขากับหลินยวนได้รักใคร่ชอบพอ นางจึงไม่มีเหตุผล อีกทั้งไม่มีแก่ใจจะไปยุ่งเกี่ยวด้วยอีกจึงรีบส่ายหน้าเร็วพลัน “ท่านย่า วันนี้แม่ทัพเซียวยังได้ฝากขนมมาทางข้าเพื่อมอบให้หลินยวน พวกเขาต่างหากถึงเป็นคู่สร้างคู่สม ต่อไปท่านก็อย่าคิดเรื่องนี้อีกเลย”ฮูหยินเฒ่าเป็นคนดื้อแพ่งไม่น้อย จึงได้ถอนหายใจ “เฮ่ย ย่าเพียงแต่เห็นว่าแต่ก่อนเจ้ากับเด็กหนุ่มตระกูลเซียวสนิทสนมกันดี แล้วต้องมาขาดกันเช่นนี้ ช่างน่าเสียดายนัก”เฉียวเนี่ยนฉีกยิ้มเล็กน้อย พลางซบศีรษะลงบนไหล่ฮูหยินเฒ่า “ต่อไปข้าคิดแต่จะอยู่กับท่านย่า จริงนะเจ้าคะ”นางรู้ดีว่าตนกับเซียวเหิงรู้จักม

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 17

    พวกเขาต่างพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว หากเป็นไปได้ เฉียวเนี่ยนก็แทบอยากหันหลังจากไปทันทีแต่ว่า นางไม่มีเงินติดตัว ข้างนอกก็ไม่มีสหายสักคน หากออกไปตอนนี้ นงก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ใดได้อีกที่สำคัญ ท่านย่ายังอยู่ในจวนนี้นางจะปล่อยให้คนแก่เป็นห่วงได้อย่างไร?เพราะฉะนั้น แม้ท่านโหวหลินและหลินเย่ว์จะพูดจาไม่เข้าหูสักเพียงใด ยามนี้นางก็ได้แต่ฟังอย่างเดียวและอดทนไว้สายตาไปอยู่ที่ชามข้าวที่วางอยู่ตรงกลางโต๊ะ เฉียวเนี่ยนรู้แล้วว่าบทสรุปของละครฉากนี้อยู่ตรงที่ใดในดวงตาเริ่มมีหยาดน้ำเอ่อขึ้นมา แต่นางก็ฝืนเก็บกักมันเอาไว้จากนั้นจึงถือตะเกียบคีบเนื้อปลาในชามข้าวขึ้นมา และส่งเข้าปากข้างโสตแว่วเสียงหัวเราะเย้ยหยันของหลินเย่ว์ “ตอนนี้ยอมกินแล้วรึ? เห็นทีว่าฐานะคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวยังมีความน่าสนใจอยู่บ้าง”เฉียวเนี่ยนปรายตามองดูหลินเย่ว์เล็กน้อย ไม่สนใจคำพูดเย้ยหยันของเขา เพียงมองหน้าท่านโหวหลินแล้วย่อตัวคารวะเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปาก“ท่านโหวอย่าเพิ่งโกรธ ใช่ว่าข้าถือตัวไม่ยอมกินเนื้อปลาที่ท่านโหวน้อยคีบให้ หากแต่เพราะสองปีก่อนทำงานจนเสียสุขภาพ กินอาหารทะเลครั้งใด ร่างกายจะขึ้นผดผื่น ซ้ำยังมีอาการคัน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 18

    ข้อเสนอกะทันหันเช่นนี้ทำให้เซียวเหิงนึกตกใจเพียงแต่เขายังไม่ทันเอ่ยปาก หมัดของหลินเย่ว์ก็ประเคนเข้าให้ก่อนแล้วดีที่เซียวเหิงมีปฏิกิริยาฉับไว เพียงแค่เอี้ยวตัวก็สามารถหลบหลีกได้หลินเย่ว์พลาดเป้าหมาย ทั้งร่างจึงฟุบลงไปที่โต๊ะ กับแกล้มหลายอย่างร่วงลงพื้นหมดเขาหยิบผักขึ้นมากำมือหนึ่ง พร้อมโยนใส่หน้าเซียวเหิง เซียวเหิงถอยหลังกรูด หลบเลี่ยงเป็นพัลวัน สีหน้าเริ่มมีความไม่พอใจผุดขึ้น “เจ้าเป็นบ้าอะไรขึ้นมา?”เขาจงใจเลี่ยงไม่พูดคำว่าบ้าคลั่ง เหตุเพราะที่ผ่านมา ให้หลินเย่ว์เมาเพียงไหนก็ไม่เคยคลุ้มคลั่งเช่นนี้มาก่อนแต่วันนี้ เหมือนเขามีความในใจแอบแฝงหลินเย่ว์ลุกขึ้นยืน เสื้อผ้าหรูหราได้เปื้อนคราบสกปรกไปไม่น้อยแต่เขากลับไม่สนใจ มีเพียงชี้นิ้วไปทางเซียวเหิง “ขอเตือนให้รู้ หากเจ้ากล้าผิดต่อยวนเอ๋อร์ ก็อย่าโทษว่าข้าไม่เกรงใจ”เซียวเหิงมีสีหน้าเย็นชา พลางปัดคอเสื้อให้เรียบร้อย ก่อนยิ้มเบาๆ “คำพูดประโยคนี้ เมื่อก่อนเจ้าก็เคยพูดไว้”เพียงแต่ตอนนั้นเขาไม่ได้หมายถึงยวนเอ๋อร์ หากแต่เป็นเนี่ยนเนี่ยนหลินเย่ว์สะอึกเล็กน้อย แต่ก็โต้ตอบเร็วพลัน “แต่ตอนนี้คนที่หมั้นหมายกับเจ้าคือยวนเอ๋อร์ เ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 19

    มาเยี่ยมนางเวลานี้?เห็นทีคงไม่ใช่การเยี่ยมธรรมดากระมัง?เฉียวเนี่ยนลุกขึ้นพร้อมออกไปต้อนรับ เมื่อพบฮูหยินหลินก็โน้มกายลงคารวะ “คารวะฮูหยินเจ้าค่ะ”เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนยังไม่คิดเรียกนางว่าท่านแม่ ฮูหยินหลินก็แอบเสียใจอยู่ลึกๆแต่ต่อหน้าเฉียวเนี่ยน นางไม่ต้องการแสดงออกให้เห็น จึงเดินไปจับมือเฉียวเนี่ยนไว้ พาไปนั่งลงด้านข้าง “แม่กลัวว่าเจ้าจะเสียใจ จึงมาดูเสียหน่อย”เฉียวเนี่ยนหลุบตาลงต่ำ ไม่ได้ตอบกลับมีเพียงดึงมือตนกลับคืนเบาๆฮูหยินหลินรู้สึกถึงได้ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมแอบถอนหายใจก่อนจะกล่าวต่อ “ที่ผ่านมาท่านย่ารักเจ้าที่สุด แม้จะรู้ว่าเจ้าไม่ใช่สายเลือดตระกูลหลินโดยแท้ แต่ในใจนาง ยังคงเป็นหลานรักเสมอ”ข้อนี้เฉียวเนี่ยนเห็นชอบด้วยใครดีต่อนาง ใครจริงใจต่อนาง นางย่อมแยกแยะออกได้ท่านย่ารู้ตัวว่าสุขภาพไม่ไหวแล้ว ยังใช้เป็นข้ออ้างไปทูลขอฮองเฮาให้ปล่อยนางออกจากวังมา ลำพังเพียงแค่ข้อนี้ ก็นับเป็นบุญคุณใหญ่หลวงที่เฉียวเนี่ยนไม่อาจตอบแทนได้หมดเปลือกตาที่หลุบต่ำสั่นไหวเบาๆ นางพยายามไม่ให้ฮูหยินหลินได้เห็นว่ามีน้ำตาคลออยู่แต่อย่างไรฮูหยินหลินก็เป็นมารดาของเฉียวเนี่ยนมาถึงสิบห

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 20

    เฉียวเนี่ยนรู้จักหมิงอ๋องเป็นอย่างดีเพราะเต๋อกุ้ยเฟยกับฮูหยินหลินเป็นเพื่อนสนิทมานาน ลูกๆ ของพวกนางจึงเคยเล่นหัวมาแต่เล็ก แต่เนื่องจากหมิงอ๋องเป็นองค์ชาย ฐานะสูงส่ง เวลาเด็กๆ เล่นด้วยกันก็จะมีความระมัดระวังบ้างต่อมาทุกคนต่างเติบใหญ่ หมิงอ๋องต้องเรียนหนัก ไม่ค่อยได้กลับวังบ่อยนัก การไปหามาสู่จึงค่อยๆ ลดลงเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่นับว่าสนิทมาก เพียงแค่เคยรู้จักเท่านั้นตอนเฉียวเนี่ยนไปอยู่กรมซักล้างยังเคยได้พบหมิงอ๋องครั้งหนึ่ง เพียงแต่ตอนนั้นนางสวมชุดประจำตำแหน่งนางกำนัล ตามหลังมามาคุกเข่าอยู่ที่พื้น หมิงอ๋องจึงไม่ทันสังเกตเห็นนางแต่ยามนี้หมิงอ๋องนั่งอยู่ด้านข้างเต๋อกุ้ยเฟยแล้ว แต่งกายด้วยชุดผ้าไหมเรียบง่ายทำให้มีบุคลิกสง่างามยิ่งทั้งยังมีรูปร่างสูงใหญ่ แม้นั่งอยู่ยังดูสูงกว่าเต๋อกุ้ยเฟยเกือบหนึ่งช่วงหัวพระพักตร์ดูคล้ายกับฮ่องเต้ เครื่องหน้าดูขึงขัง มีเพียงดวงตาที่คล้ายเต๋อกุ้ยเฟย มองดูผู้ใดก็ล้วนเต็มไปด้วยความอ่อนโยน บางครั้งยังแฝงความเมตตาสงสารต่อผู้นั้นอีกและในยามนี้เมื่อเขาเห็นเฉียวเนี่ยน ความเห็นใจในดวงตาแทบเอ่อล้นออกมาเสียด้วยซ้ำเฉียวเนี่ยนไม่ชอบดวงตาเช่นนี้เลย เพราะ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 21

    อาจเป็นความเย็นชาในน้ำเสียงที่ฟังดูคุ้นเคยยิ่ง พาให้เฉียวเนี่ยนตกใจ จนต้องถอยหลังกรูดไปสองก้าวแต่เพราะรีบร้อนเกินเหตุจึงทำให้เข่าอ่อน ร่างกายคล้ายจะทรุดลงพื้นดีที่หมิงอ๋องมือไวและตาไว รีบฉุดตัวนางขึ้นมาก่อนเพียงแต่การฉุดนี้ ทำให้ระยะห่างของพวกเขาเข้าใกล้มากยิ่งขึ้น หากมองจากไกลๆ จะดูคล้ายหมิงอ๋องกำลังโอบเฉียวเนี่ยนอยู่สายตาคมกริบของเซียวเหิงจ้องเขม็งไปยังมือหมิงอ๋องที่จับแขนเฉียวเนี่ยนแน่นอยู่ พร้อมแววตาดุดันมากยิ่งขึ้น“ไม่เป็นไรนะ?” หมิงอ๋องถามเสียงอ่อนโยนเฉียวเนี่ยนส่ายหน้า เกิดความรู้สึกร้อนตัวอย่างไร้เหตุผลมีเรื่องอันใดต้องร้อนตัวด้วย?อย่าว่าแต่นางกับเซียวเหิงแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก หรือต่อให้มี นั่นก็เป็นเพียง ‘ญาติในนาม’ เท่านั้นนางจะอยู่กับผู้ใด คิดทำสิ่งใดบ้าง ล้วนไม่ใช่ธุระของเขาทั้งที่จริงแล้ว เซียวเหิงอาจจะไม่สนใจด้วยซ้ำเพราะนางคิดมากไปเองต่างหากพลางสูดลมหายใจเข้าลึก เฉียวเนี่ยนระงับอารมณ์ที่สับสนปนเปในใจ โน้มกายลงคารวะต่อเซียวเหิงที่อยู่ไม่ไกลนัก “คารวะท่านแม่ทัพเซียว”หมิงอ๋องหันไปทางเซียวเหิง “แม่ทัพเซียวมาเข้าเฝ้าอีกแล้วรึ?”คำว่า ‘อีกแล้ว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 22

    แม้ในใจเฉียวเนี่ยนจะคิดเช่นนี้ แต่ปากมิได้พูดออกมา ซึ่งในสายตาเซียวเหิงก็เท่ากับยอมรับกลายๆมือที่ไพล่อยู่ข้างหลังกำแน่นเป็นหมัด เขามองหน้าเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาเย็นชา “เมืองกูเฉิงอยู่ไกลถึงเจียงหนาน วัฒนธรรมความเป็นอยู่ต่างจากเมืองหลวงเป็นอย่างมาก แม่นางเฉียวคิดดีแล้วรึ?”เฉียวเนี่ยนคิดในใจ เซียวเหิงอาจคิดเตือนสตินางว่าไม่เหมาะกับสภาพอากาศที่เมืองกูเฉิง จึงมีสีหน้าจริงจังขณะเอ่ยปากตอบเขา “ท่านอ๋องบอกว่าฤดูหนาวที่เจียงหนานไม่หนาวเย็นเท่ากับเมืองหลวง ข้าคิดว่า ขอเพียงไม่หนาวเกินไป ข้าน่าจะพอปรับตัวได้”เพราะนางกลัวความหนาวจริงๆไม่ว่าจะเป็นความหนาวเย็นเข้าถึงกระดูกขณะมือทั้งคู่แช่อยู่ในน้ำ หรือค่ำคืนถูกขังอยู่นอกเรือนให้ตากลมหนาว นางล้วนไม่ต้องการจะประสบเข้าอีกเซียวเหิงถูกเฉียวเนี่ยนย้อนกลับเสียจนไม่รู้จะตอบอย่างไรดีได้แต่จ้องเขม็งไปที่นาง ความเยียบเย็นในดวงตาผุดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า จนแม้กระทั่งเฉียวเนี่ยนไม่ได้มองหน้าเซียงเหิงโดยตรง ก็รับรู้ได้ถึงโทสะอันร้อนแรงของเขาเซียวเหิงโกรธเข้าแล้วจริงๆแต่เพราะเหตุใดจึงโกรธเช่นนี้?เพราะนางจะแต่งงานกับหมิงอ๋องรึ?ไม่น่าเป็นไปได้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 23

    หมิงอ๋องซึ่งเดิมทีคิดซ้ำเติมเซียวเหิงอีก แต่กลับเป็นฝ่ายสีหน้าเปลี่ยนเสียเองเมื่อเห็นดังนี้ เซียวเหิงก็พลันเลิกคิ้วขึ้นสูง น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงด้วยอารมณ์เย้ยหยัน “แสดงว่าคงจะไม่รู้ เมื่อเป็นเช่นนี้ มิเท่ากับเป็นการหลอกแต่งงานเหมือนที่ชาวบ้านพูดกันหรอกรึ?”“บังอาจ” หมิงอ๋องตะคอกเสียงต่ำ พลางจ้องหน้าเซียวเหิงเขม็ง “เซียวเหิง อย่านึกว่าพอมีผลงานหน่อย ทุกวันนี้เป็นคนโปรดของเสด็จพ่อก็จะมาข้ามหน้าข้ามตาข้าได้ เรื่องของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย!”“ท่านอ๋องอย่าได้โกรธเคืองมากนัก” มุมปากเซียวเหิงผุดรอยยิ้มออกมา แต่แววตาแฝงความดูหมิ่นจนคล้ายจะเหยียบย่ำศักดิ์สิทธิ์ของหมิงอ๋องให้จมดินเสียในขณะที่หมิงอ๋องละทิ้งความสุภาพอ่อนโยนก่อนหน้าไปหมดสิ้น ใบหน้าหล่อเหลียวแฝงด้วยความบูดบึ้ง พลางกล่าวเสียงต่ำ น้ำเสียงดูเจ้าเล่ห์ “ถึงจะหลอกแต่งงานแล้วเป็นอย่างไร เซียวเหิง เจ้าก็หลอกได้เช่นกัน แต่นางจะสนใจเจ้าหรือไม่?”ดวงตาดำขลับของเซียวเหิงเปล่งประกายแห่งการสังหาร รอยยิ้มก็ค้างอยู่ที่มุมปากได้ยินแต่เสียงฮึดฮัดของหมิงอ๋อง แกมด้วยความสะใจ “สรุปก็คือหลินเนี่ยน...อ้อ ไม่ใช่ คือเฉียวเนี่ยน ข้าจะแต่งงานกับน

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 440

    กลิ่นอายที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยนั้นจู่โจมเข้ามา ทําให้คิ้วของเฉียวเนี่ยนขมวดแน่นเฉียวเนี่ยนกลัวระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้เกินไป จึงไม่ได้หันกลับมา เพียงจ้องมองชั้นวางหนังสือตรงหน้า ถามเสียงเย็นชาว่า "มาแก้แค้นให้เมียเจ้างั้นหรือ?"เซียวเหิงยืนอยู่ข้างหลังนาง จ้องมองข้ามวยของนาง ขมวดคิ้วแน่นกําหมัดแน่น แต่เสียงกลับแหบแห้งหลังจากจงใจระงับ "เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่สนใจนาง""ข้าไม่รู้" เฉียวเนี่ยนตอบอย่างเย็นชาว่า"ทุกอย่างเกี่ยวกับแม่ทัพเซียว ข้าไม่อยากรู้เลย""เนี่ยนเนี่ยน..." เสียงด้านหลังสั่นเทิ้มเล็กน้อย แต่กลับสูดหายใจเข้าลึกๆ เหมือนคิดอะไรออกแล้ว แม้แต่น้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความโล่งใจ "ไม่เป็นไร ต่อไปข้าจะค่อยๆ เล่าให้เจ้าฟัง ไม่ว่าเจ้าอยากรู้หรือไม่อยากรู้ ข้าก็ค่อยๆ เล่าได้"แต่คําพูดนี้กลับทําให้เฉียวเนี่ยนแค่นหัวเราะอย่างเย็นชาต่อไป?"ข้ากับแม่ทัพเซียว ไม่มีอนาคตหรอก"นางบอกว่านางไม่ต้องการเขามานานแล้วความโกรธที่อดกลั้นของเซียวเหิง ราวกับถูกจุดขึ้นอย่างเงียบๆ ในขณะนี้ "แล้วเจ้าอยากมีอนาคตกับใคร?"คําถามนี้เต็มไปด้วยความหึงหวงอย่างเห็นได้ชัด เฉียวเนี่ยนรู้สึกว่าไม่จําเป็น

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 439

    เมื่อหลินยวนพูดจบ กลับเห็นผู้ชายสองคนในห้องไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นางจึงตระหนักว่าไม้นี้ของนางไม่ได้ผลแล้วเมื่อก่อน ไม่ว่ายังไง ขอเพียงตนหลั่งน้ำตา คนของจวนโหวก็จะมาล้อมตนไว้ ปลอบโยนนาง ดูแลนางแม้แต่เซียวเหิงก็ไม่เว้นแต่ตอนนี้ เซียวเหิงกลับทําเป็นไม่ได้ยินนางรู้ว่าเซียวเหิงเกลียดนางแล้วแต่ว่า...แม้แต่ความเห็นอกเห็นใจเล็กๆ น้อยๆ นั้นก็ไม่มีแล้วหรือ?เฉียวเนี่ยนมองตามสายตาของหลินยวน และอดไม่ได้ที่จะมองเข้าไปในห้องเมื่อเห็นใบหน้าด้านข้างที่ละเอียดอ่อนของเซียวเหิงยังคงมีความเย็นชาเหมือนเคย หัวใจของนางก็อดไม่ได้ที่จะหนักอึ้งแต่เซียวเหิงก็เป็นแบบนี้มาตลอด ไม่ใช่หรือ?ยามที่ปกป้องนาง ก็จะแก้แค้นไล่ตามคนไปทั่วเมืองหลวงแทนนางต่อมาเมื่อไม่ได้ปกป้องนางอีกต่อไป แม้แต่คนแปลกหน้าก็สู้ไม่ได้เฉียวเนี่ยนหันหน้ากลับมา มองหลินยวนด้วยสายตาเย็นชา "จําไว้นะ เจ้าเป็นคนที่ไม่มีคุณสมบัติจะมาโอ้อวดต่อหน้าข้ามากที่สุดในโลกนี้ ข้าไม่เถียงกับเจ้า เพราะข้าไม่อยาก ไม่ใช่ข้ากลัวเจ้า สงบเสงี่ยมหน่อย เป็นนายหญิงน้อยรองของเจ้าให้ดี อย่ามาหาเรื่องข้า ไม่งั้น เจ้าจะไม่มีชีวิตที่ดีแน่"พูดจบ เฉียวเนี่ยนก็

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 438

    เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบนาง แต่พึมพําต่อไปว่า "ตอนนั้นเจ้าเห็นข้า น้ำตาก็ไหลลงมา แม้ยังน่ารําคาญเหมือนตอนนี้ แต่ข้ารู้ว่าน้ำตาของเจ้าในตอนนั้น อย่างน้อยครึ่งหนึ่งมาจากใจจริง""ข้าเคยถามเจ้าว่าผิดตรงไหน คําตอบของเจ้าในตอนนั้นข้าไม่พอใจ เพราะสิ่งที่เจ้าผิดไม่ใช่แค่การทําชามแก้วแตกเท่านั้น แต่ยังเป็นการนิ่งเงียบด้วย เห็นข้าถูกใส่ร้ายแต่ก็เงียบมาตลอด จุดนี้ แม้แต่ตอนที่หลินเย่ว์ใส่ร้ายข้าว่าผลักเจ้าลงน้ํา เจ้าก็ยังไม่เปลี่ยนเลย""แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ตอนนั้นข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าโหดร้าย แต่ตอนนี้ล่ะ? หลินยวน ตอนนี้ในมือของเจ้ามีกี่ชีวิตกัน เจ้าเคยนับบ้างไหม? เมื่อถึงตอนเที่ยงคืน พวกเขาไม่เคยมาหาเจ้าเลยหรือ?"ฮูหยินเฒ่า ขอทานเหล่านั้น เสี่ยวชุ่ย...หลินยวนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาซ่อนความหวาดกลัวไว้อย่างชัดเจน แต่น้ำตาในดวงตาคู่นั้นกลับไม่ยอมไหลออกมานางไม่ใช่หลินยวนคนเดิมอีกต่อไปแล้วหลินยวนในอดีตไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้เฉียวเนี่ยนหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นยืน เดินช้าๆ ไปตรงหน้าหลินยวน "เสี่ยวชุ่ยตายเพราะถูกมีดสั้นแทงทะลุหน้าอก ก็คือตําแหน่งนี้"เฉียวเนี่ยนพูดพลางยื่นนิ้วหนึ่งไปกดที่หน้าอก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 437

    เซียวเหิงถึงค่อยมีปฏิกิริยาขึ้นมา หลุบตามองเซียวเหอ "ขาทั้งสองข้างของพี่ใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง?"สิ่งที่เขาสนใจเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องนี้เซียวเหอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในใจ จึงเอ่ยเพียงว่า "ยังดีอยู่"พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าเซียวเหิงกับหลินยวนรู้กาลเทศะ ก็ควรจะไปได้แล้วแต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงไม่รู้จักกาลเทศะ"ข้าไม่ได้เดินหมากล้อมกับพี่ใหญ่มานานแล้ว วันนี้ว่างพอดี มาแข่งสักรอบดีไหม?"ความคิดในใจของเขา ใครๆ ต่างก็รู้ดีเซียวเหอกําลังจะปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่คิดว่าหลินยวนจะพูดว่า "ก็ดี ข้าก็อยากคุยกับพี่สะใภ้ดีๆ เหมือนกัน"คําว่า 'ดีๆ' นั้นเน้นเสียงเป็นพิเศษเฉียวเนี่ยนถึงเงยหน้ามองหลินยวนก็เห็นหลินยวนยังคงรักษาความอ่อนโยนตามแบบฉบับของนางไว้ แต่ดวงตาคู่นั้นกําลังบอกเฉียวเนี่ยนอย่างชัดเจนว่านางมีเรื่องจะคุยด้วยท่าทีนี้ค่อนข้างแข็งไปหน่อยแล้วเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าท่าทางและกลิ่นอายของหลินยวนในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทําผิดควรมีเลยงั้นนางจะสอนนางสักหน่อยว่า คนที่ทําผิดควรมีท่าทางอย่างไร!จึงได้ยิ้มเล็กน้อยพลันเอ่ยตอบ "ได้สิ!"ในเมื่อหลินยวนอยู่ต่อเพื่อคุยธุระกั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 436

    เซียวเหิงมองสํารวจหลินยวนด้วยสายตาเย็นชา เขารู้ว่าหลินยวนไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็นภายนอกตอนนี้ก็คงมีความคิดอย่างอื่นอยู่แน่นอนแต่ ไม่สําคัญหรอกจุดประสงค์ที่เขากลับมาก็เพื่อขัดขวางการพัฒนาต่อไปของเฉียวเนี่ยนและเซียวเหอดังนั้น แม้ว่าจะใช้ข้ออ้างนี้ไปสักครั้ง แล้วยังไงล่ะ?จึงตอบตกลงด้วยสีหน้าเย็นชาและในขณะนี้ เซียวเหอกําลังสอนเฉียวเนี่ยนยิงหินอยู่เมื่อเทียบกับหนึ่งเดือนก่อน เฉียวเนี่ยนมีความก้าวหน้าไปไม่น้อย ตอนนี้ห่างจากต้นอู๋ถงประมาณสิบก้าว ก็สามารถตีถึงลําต้นได้ทุกอันแล้วแค่ความแม่นยํายังแย่ไปหน่อยดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงนั่งลงบนบันได เซียวเหอจับมือของเฉียวเนี่ยนและปรับท่าทางของนางแต่เมื่อจะเล็งไปที่กลางเป้า เซียวเหอต้องเอนตัวพิงแก้มของเฉียวเนี่ยนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะได้รู้ว่านางฟังเขาหรือไม่ เล็งไปที่เป้าหมายแล้วหรือเปล่าตอนที่เซียวเหิงเข้ามา สิ่งที่เห็นก็คือภาพแบบนี้ตาซ้ายของเฉียวเนี่ยนปิดสนิท ตาขวาจ้องหินในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนแก้มของเซียวเหอ อีกนิดเดียวก็จะแนบกับใบหน้าของนางแล้วชั่วพริบตาเดียว ก็มีคําคำหนึ่งแทรกเข้ามาในสมองของเซียวเหิง ติดหนึบเหมือน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 435

    แม่เซียวพาหลินยวนกลับมาที่จวนสำเร็จอย่างสมใจ แต่กลับไม่คาดคิดว่า เซียวเหิงจะกลับมาด้วยนางคิดว่าเซียวเหิงรู้ว่าหลินยวนกลับมาถึงได้กลับมาตาม จึงดีใจเล็กน้อย "สองสามีภรรยามีอะไรก็พูดคุยกันให้เข้าใจก็ดีแล้ว มีหรือจะทะเลาะกันนานเช่นนี้"ขณะแม่เซียวกล่าว ก็ผลักหลินยวนไปอยู่ข้างหน้าเซียวเหิง "เอาล่ะ คนนี้แม่พากลับมาให้เจ้าแล้ว ห้ามทะเลาะกันอีก พวกเจ้าไม่ได้เจอกันมานาน คุยกันดีๆ ล่ะ แม่ออกไปก่อน"ว่าจบ แม่เซียวก็หมุนตัวเดินจากไป คิดแค่ว่าให้พวกเขาได้มีเวลาคุยกันตามลำพังหลินยวนถูกแม่เซียวผลัก จนเแทบจะโถมเข้าไปในอ้อมกอดของเซียวเหิงแต่นางรู้สึกถึงการต่อต้านของเซียวเหิง จึงหยุดชะงักฝีเท้าไว้ และยืนอยู่ข้างเซียวเหิงอย่างเชื่อฟังระยะห่างใกล้กันมาก ใกล้กันจนมือของนางเหมือนจะสัมผัสโดนหลังมือของเขา ใจอดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้ได้แค่ก้มหน้าลง เรียงด้วยเสียงอ้อนแอ้น "ท่านพี่เหิง...""อย่ามาเสแสร้งกับข้า"น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นดวงตาคู่นั้นของเซียวเหิงมองหลินยวนด้วยสายตาเยือกเย็นและเย้ยหยันดวงตาลุ่มลึกของเขา มองท่าทางภายนอกที่ดูอ่อนแอของนางออก ทำให้ตอนนี้ เขาพูดอย่างไม่เกรงใจออกมาได้“ช่วงนี้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 434

    แม่เซียวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย "ให้ข้าไปรับกลับมาแล้วอย่างไร? เหิงเอ๋อร์ก็ไม่กลับมาอยู่อยู่ดี!"“เช่นนั้นก็คิดหาวิธีให้เขากลับมาอยู่สิ!” พ่อเซียวโกรธเกรี้ยวจัด ถลึงตาจ้องแม่เซียว “สองสามีภรรยา ทะเลาะกันไม่นานก็ดีกัน หากไม่ใช่เพราะเป็นอย่างทุกวันนี้ เอาแต่แยกกันอยู่ จะดีกันได้เมื่อใด?”ขณะว่า ก็มองไปที่แผ่นหลังของเซียวเหอกับเฉียวเนี่ยนอีกครั้ง “เจ้าดูเหอเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนสิ ตอนนี้รักกันขนาดไหน”แม่เซียวมองตามแผ่นหลังของเซียวเหอกับเฉียวเนี่ยนด้วยเช่นกันพบว่า แม้เฉียวเนี่ยนจะเข็นเก้าอี้ล้อ แต่บางครั้งก็โน้มตัวไปข้างหน้า พูดคุยกับเซียวเหอเซียวเหอเองก็หันหน้ามา พูดอะไรบางอย่างกับเฉียวเนี่ยนการแสดงออกบนใบหน้า ไม่ถือว่าชอบมากนัก ทว่ามันดูผ่อนคลายและสบายใจมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่ขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งวันโดยไม่พบใคร ไม่รู้ว่าดีขึ้นกว่าเดิมตั้งเท่าไหร่แล้ว!ในหนึ่งเดือนมานี้ แม้จะบอกว่าเซียวเหอยังคงกักตัวไม่ออกมาเหมือนเดิม ทว่าอย่างน้อยก็ได้อยู่กับเฉียวเนี่ยนอยู่ที่เรือนความรู้สึกของทั้งสอง เกรงว่าคงเพิ่มไปอีกขั้นหนึ่งแล้วเมื่อคิดเช่นนี้ แม่เซียวก็รู้สึกว่าที่พ่อ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 433

    เซียวเหิงจากไปแบบนี้ ทำให้พ่อเซียวโมโหไม่น้อยเขาทรุดตัวนั่งลงที่เดิมอย่างแรง ชี้เซียวเหิงที่หายลับไปแล้ว พลางกล่าวด้วยความโกรธจัด“ไอ้เด็กเวร! ไปแล้วก็ดี!แน่จริงไปแล้วก็อย่ากลับมาอีก!”แม่เซียวรีบเข้าไปหา ลูบแผ่นหลังพ่อเซียว ทว่าน้ำเสียงกลับตำหนิ "ดูท่านสิ เอาแต่พูดจาด้วยอารมณ์! ท่านรอเขาตั้งเดือนกว่ากว่าเขาจะกลับมา ตอนนี้เขาไปแล้ว ท่านไม่ต้องมารออีกหรอกหรือ!"พ่อเซียวโดนพูดแทงใจ โมโหจนกลอกตาไปมาเซียวเหิงไม่เคยกลับจวนมาหนึ่งเดือนแล้ว เมื่อส่งคนไปถาม เขาก็บอกว่ามีงานในกองทัพ แต่ตอนนี้ไม่มีสงครามเสียหน่อย ในกองทัพที่ไหนจะมีงานมากมายที่ทำให้เขาต้องเอาแต่อยู่ข้างนอกกัน?ไม่ง่ายนักที่ใช้งานวันเกิดพ่อเซียวหนนี้ เรียกเขากลับมาแต่ไม่คิดเลยว่า จะแยกจากไปอย่างไม่สบอารมณ์แบบนี้อีกเมื่อเห็นภาพนี้ เซียวชิงหน่วนอดพูดปลอบขึ้นมาไม่ได้ "แต่อย่างน้อย ทางด้านพี่ใหญ่ก็เป็นข่าวดีนะ! ส่วนพี่รอง...บางที เราควรให้เวลาเขามากกว่านี้อีกสักหน่อย!"ได้ยินคำพูดนี้ แม่เซียวพยักหน้ารัว พ่อเซียวมีสีหน้าขรึมลง ไม่พูดอะไรออกมาอีกสักประโยคบรรยากาศของสามคนนี้ก็ยังคงหม่นหมองลงเพราะการจากไปของเซียวเหิงส่วนเซี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 432

    เซียวชิงหน่วนรีบลุกขึ้นยืน ไปขวางหน้าพ่อเซียวเอาไว้ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความยินดี "ท่านพ่อดีใจจนเลอะเลือนแล้ว! ขาของพี่ใหญ่ดีขึ้นได้ก็เพราะพี่สะใภ้เป็นคนฝังเข็มรักษา จะไปเรียกหมอคนอื่นมาทำไมกัน?"เมื่อถูกนางเตือนสติ พ่อเซียวก็พยักหน้ารัวๆ “ใช่ๆ เป็นเนี่ยนเนี่ยนที่รักษา ต้องขอบคุณเนี่ยนเนี่ยนจริงๆ !”แม้แต่เซียวเหิงที่เดิมมีสีหน้าเคร่งขรึมก็ยังอ่อนลงไปไม่น้อยเขาไม่เคยคิดเลยว่า ขาของพี่ใหญ่จะกลับมามีความรู้สึกได้อีกครั้งสำหรับตระกูลเซียวแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องมงคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!ในเวลานี้ ทุกคนในตระกูลเซียวต่างพากันหันมามองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาเต็มไปด้วยความขอบคุณ ราวกับว่าที่มองเฉียวเนี่ยนด้วยสีหน้าไม่พอใจเมื่อครู่ ไม่ใช่พวกเขาอย่างไรอย่างนั้นโชคดีที่เฉียวเนี่ยนไม่ได้ใส่ใจช้าเร็วนางก็ต้องไปจากตระกูลเซียว ดังนั้นตระกูลเซียวจะมีท่าทีอย่างไรกับนาง นางก็ไม่สนใจขอเพียงแค่ขาของเซียวเหอหายเหมือนปกติได้ นางก็พอใจแล้วนางแอบคิดในใจ ต้องไปปรึกษาหมอประจำจวนเพื่อหาวิธีรักษาขั้นต่อไปแต่ไม่ทันไร แม่เซียวกลับคว้ามือนางไว้ฉับพลัน น้ำตาหลั่งไหลนองหน้า "เนี่ยนเนี่ยน แม่ แม่ไม่รู้จะพูดอะไรถ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status