Share

บทที่ 17

Penulis: โม่เสียวชี่
พวกเขาต่างพูดมาถึงขั้นนี้แล้ว หากเป็นไปได้ เฉียวเนี่ยนก็แทบอยากหันหลังจากไปทันที

แต่ว่า นางไม่มีเงินติดตัว ข้างนอกก็ไม่มีสหายสักคน หากออกไปตอนนี้ นงก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ใดได้อีก

ที่สำคัญ ท่านย่ายังอยู่ในจวนนี้

นางจะปล่อยให้คนแก่เป็นห่วงได้อย่างไร?

เพราะฉะนั้น แม้ท่านโหวหลินและหลินเย่ว์จะพูดจาไม่เข้าหูสักเพียงใด ยามนี้นางก็ได้แต่ฟังอย่างเดียวและอดทนไว้

สายตาไปอยู่ที่ชามข้าวที่วางอยู่ตรงกลางโต๊ะ เฉียวเนี่ยนรู้แล้วว่าบทสรุปของละครฉากนี้อยู่ตรงที่ใด

ในดวงตาเริ่มมีหยาดน้ำเอ่อขึ้นมา แต่นางก็ฝืนเก็บกักมันเอาไว้

จากนั้นจึงถือตะเกียบคีบเนื้อปลาในชามข้าวขึ้นมา และส่งเข้าปาก

ข้างโสตแว่วเสียงหัวเราะเย้ยหยันของหลินเย่ว์ “ตอนนี้ยอมกินแล้วรึ? เห็นทีว่าฐานะคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวยังมีความน่าสนใจอยู่บ้าง”

เฉียวเนี่ยนปรายตามองดูหลินเย่ว์เล็กน้อย ไม่สนใจคำพูดเย้ยหยันของเขา เพียงมองหน้าท่านโหวหลินแล้วย่อตัวคารวะเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปาก

“ท่านโหวอย่าเพิ่งโกรธ ใช่ว่าข้าถือตัวไม่ยอมกินเนื้อปลาที่ท่านโหวน้อยคีบให้ หากแต่เพราะสองปีก่อนทำงานจนเสียสุขภาพ กินอาหารทะเลครั้งใด ร่างกายจะขึ้นผดผื่น ซ้ำยังมีอาการคัน
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (3)
goodnovel comment avatar
Sita
ติดตามตอนตาอไปค่ะกำลังสนุก
goodnovel comment avatar
Aon Aon
ถ้าชีวิตจะรันทดขนาดนี้ หนีเถอะลูก
goodnovel comment avatar
Lita Lalita
บทนางเอกจะเลิกน่ารำคาญกี่โมงงงง
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 18

    ข้อเสนอกะทันหันเช่นนี้ทำให้เซียวเหิงนึกตกใจเพียงแต่เขายังไม่ทันเอ่ยปาก หมัดของหลินเย่ว์ก็ประเคนเข้าให้ก่อนแล้วดีที่เซียวเหิงมีปฏิกิริยาฉับไว เพียงแค่เอี้ยวตัวก็สามารถหลบหลีกได้หลินเย่ว์พลาดเป้าหมาย ทั้งร่างจึงฟุบลงไปที่โต๊ะ กับแกล้มหลายอย่างร่วงลงพื้นหมดเขาหยิบผักขึ้นมากำมือหนึ่ง พร้อมโยนใส่หน้าเซียวเหิง เซียวเหิงถอยหลังกรูด หลบเลี่ยงเป็นพัลวัน สีหน้าเริ่มมีความไม่พอใจผุดขึ้น “เจ้าเป็นบ้าอะไรขึ้นมา?”เขาจงใจเลี่ยงไม่พูดคำว่าบ้าคลั่ง เหตุเพราะที่ผ่านมา ให้หลินเย่ว์เมาเพียงไหนก็ไม่เคยคลุ้มคลั่งเช่นนี้มาก่อนแต่วันนี้ เหมือนเขามีความในใจแอบแฝงหลินเย่ว์ลุกขึ้นยืน เสื้อผ้าหรูหราได้เปื้อนคราบสกปรกไปไม่น้อยแต่เขากลับไม่สนใจ มีเพียงชี้นิ้วไปทางเซียวเหิง “ขอเตือนให้รู้ หากเจ้ากล้าผิดต่อยวนเอ๋อร์ ก็อย่าโทษว่าข้าไม่เกรงใจ”เซียวเหิงมีสีหน้าเย็นชา พลางปัดคอเสื้อให้เรียบร้อย ก่อนยิ้มเบาๆ “คำพูดประโยคนี้ เมื่อก่อนเจ้าก็เคยพูดไว้”เพียงแต่ตอนนั้นเขาไม่ได้หมายถึงยวนเอ๋อร์ หากแต่เป็นเนี่ยนเนี่ยนหลินเย่ว์สะอึกเล็กน้อย แต่ก็โต้ตอบเร็วพลัน “แต่ตอนนี้คนที่หมั้นหมายกับเจ้าคือยวนเอ๋อร์ เ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 19

    มาเยี่ยมนางเวลานี้?เห็นทีคงไม่ใช่การเยี่ยมธรรมดากระมัง?เฉียวเนี่ยนลุกขึ้นพร้อมออกไปต้อนรับ เมื่อพบฮูหยินหลินก็โน้มกายลงคารวะ “คารวะฮูหยินเจ้าค่ะ”เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนยังไม่คิดเรียกนางว่าท่านแม่ ฮูหยินหลินก็แอบเสียใจอยู่ลึกๆแต่ต่อหน้าเฉียวเนี่ยน นางไม่ต้องการแสดงออกให้เห็น จึงเดินไปจับมือเฉียวเนี่ยนไว้ พาไปนั่งลงด้านข้าง “แม่กลัวว่าเจ้าจะเสียใจ จึงมาดูเสียหน่อย”เฉียวเนี่ยนหลุบตาลงต่ำ ไม่ได้ตอบกลับมีเพียงดึงมือตนกลับคืนเบาๆฮูหยินหลินรู้สึกถึงได้ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมแอบถอนหายใจก่อนจะกล่าวต่อ “ที่ผ่านมาท่านย่ารักเจ้าที่สุด แม้จะรู้ว่าเจ้าไม่ใช่สายเลือดตระกูลหลินโดยแท้ แต่ในใจนาง ยังคงเป็นหลานรักเสมอ”ข้อนี้เฉียวเนี่ยนเห็นชอบด้วยใครดีต่อนาง ใครจริงใจต่อนาง นางย่อมแยกแยะออกได้ท่านย่ารู้ตัวว่าสุขภาพไม่ไหวแล้ว ยังใช้เป็นข้ออ้างไปทูลขอฮองเฮาให้ปล่อยนางออกจากวังมา ลำพังเพียงแค่ข้อนี้ ก็นับเป็นบุญคุณใหญ่หลวงที่เฉียวเนี่ยนไม่อาจตอบแทนได้หมดเปลือกตาที่หลุบต่ำสั่นไหวเบาๆ นางพยายามไม่ให้ฮูหยินหลินได้เห็นว่ามีน้ำตาคลออยู่แต่อย่างไรฮูหยินหลินก็เป็นมารดาของเฉียวเนี่ยนมาถึงสิบห

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 20

    เฉียวเนี่ยนรู้จักหมิงอ๋องเป็นอย่างดีเพราะเต๋อกุ้ยเฟยกับฮูหยินหลินเป็นเพื่อนสนิทมานาน ลูกๆ ของพวกนางจึงเคยเล่นหัวมาแต่เล็ก แต่เนื่องจากหมิงอ๋องเป็นองค์ชาย ฐานะสูงส่ง เวลาเด็กๆ เล่นด้วยกันก็จะมีความระมัดระวังบ้างต่อมาทุกคนต่างเติบใหญ่ หมิงอ๋องต้องเรียนหนัก ไม่ค่อยได้กลับวังบ่อยนัก การไปหามาสู่จึงค่อยๆ ลดลงเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่นับว่าสนิทมาก เพียงแค่เคยรู้จักเท่านั้นตอนเฉียวเนี่ยนไปอยู่กรมซักล้างยังเคยได้พบหมิงอ๋องครั้งหนึ่ง เพียงแต่ตอนนั้นนางสวมชุดประจำตำแหน่งนางกำนัล ตามหลังมามาคุกเข่าอยู่ที่พื้น หมิงอ๋องจึงไม่ทันสังเกตเห็นนางแต่ยามนี้หมิงอ๋องนั่งอยู่ด้านข้างเต๋อกุ้ยเฟยแล้ว แต่งกายด้วยชุดผ้าไหมเรียบง่ายทำให้มีบุคลิกสง่างามยิ่งทั้งยังมีรูปร่างสูงใหญ่ แม้นั่งอยู่ยังดูสูงกว่าเต๋อกุ้ยเฟยเกือบหนึ่งช่วงหัวพระพักตร์ดูคล้ายกับฮ่องเต้ เครื่องหน้าดูขึงขัง มีเพียงดวงตาที่คล้ายเต๋อกุ้ยเฟย มองดูผู้ใดก็ล้วนเต็มไปด้วยความอ่อนโยน บางครั้งยังแฝงความเมตตาสงสารต่อผู้นั้นอีกและในยามนี้เมื่อเขาเห็นเฉียวเนี่ยน ความเห็นใจในดวงตาแทบเอ่อล้นออกมาเสียด้วยซ้ำเฉียวเนี่ยนไม่ชอบดวงตาเช่นนี้เลย เพราะ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 21

    อาจเป็นความเย็นชาในน้ำเสียงที่ฟังดูคุ้นเคยยิ่ง พาให้เฉียวเนี่ยนตกใจ จนต้องถอยหลังกรูดไปสองก้าวแต่เพราะรีบร้อนเกินเหตุจึงทำให้เข่าอ่อน ร่างกายคล้ายจะทรุดลงพื้นดีที่หมิงอ๋องมือไวและตาไว รีบฉุดตัวนางขึ้นมาก่อนเพียงแต่การฉุดนี้ ทำให้ระยะห่างของพวกเขาเข้าใกล้มากยิ่งขึ้น หากมองจากไกลๆ จะดูคล้ายหมิงอ๋องกำลังโอบเฉียวเนี่ยนอยู่สายตาคมกริบของเซียวเหิงจ้องเขม็งไปยังมือหมิงอ๋องที่จับแขนเฉียวเนี่ยนแน่นอยู่ พร้อมแววตาดุดันมากยิ่งขึ้น“ไม่เป็นไรนะ?” หมิงอ๋องถามเสียงอ่อนโยนเฉียวเนี่ยนส่ายหน้า เกิดความรู้สึกร้อนตัวอย่างไร้เหตุผลมีเรื่องอันใดต้องร้อนตัวด้วย?อย่าว่าแต่นางกับเซียวเหิงแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก หรือต่อให้มี นั่นก็เป็นเพียง ‘ญาติในนาม’ เท่านั้นนางจะอยู่กับผู้ใด คิดทำสิ่งใดบ้าง ล้วนไม่ใช่ธุระของเขาทั้งที่จริงแล้ว เซียวเหิงอาจจะไม่สนใจด้วยซ้ำเพราะนางคิดมากไปเองต่างหากพลางสูดลมหายใจเข้าลึก เฉียวเนี่ยนระงับอารมณ์ที่สับสนปนเปในใจ โน้มกายลงคารวะต่อเซียวเหิงที่อยู่ไม่ไกลนัก “คารวะท่านแม่ทัพเซียว”หมิงอ๋องหันไปทางเซียวเหิง “แม่ทัพเซียวมาเข้าเฝ้าอีกแล้วรึ?”คำว่า ‘อีกแล้ว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 22

    แม้ในใจเฉียวเนี่ยนจะคิดเช่นนี้ แต่ปากมิได้พูดออกมา ซึ่งในสายตาเซียวเหิงก็เท่ากับยอมรับกลายๆมือที่ไพล่อยู่ข้างหลังกำแน่นเป็นหมัด เขามองหน้าเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาเย็นชา “เมืองกูเฉิงอยู่ไกลถึงเจียงหนาน วัฒนธรรมความเป็นอยู่ต่างจากเมืองหลวงเป็นอย่างมาก แม่นางเฉียวคิดดีแล้วรึ?”เฉียวเนี่ยนคิดในใจ เซียวเหิงอาจคิดเตือนสตินางว่าไม่เหมาะกับสภาพอากาศที่เมืองกูเฉิง จึงมีสีหน้าจริงจังขณะเอ่ยปากตอบเขา “ท่านอ๋องบอกว่าฤดูหนาวที่เจียงหนานไม่หนาวเย็นเท่ากับเมืองหลวง ข้าคิดว่า ขอเพียงไม่หนาวเกินไป ข้าน่าจะพอปรับตัวได้”เพราะนางกลัวความหนาวจริงๆไม่ว่าจะเป็นความหนาวเย็นเข้าถึงกระดูกขณะมือทั้งคู่แช่อยู่ในน้ำ หรือค่ำคืนถูกขังอยู่นอกเรือนให้ตากลมหนาว นางล้วนไม่ต้องการจะประสบเข้าอีกเซียวเหิงถูกเฉียวเนี่ยนย้อนกลับเสียจนไม่รู้จะตอบอย่างไรดีได้แต่จ้องเขม็งไปที่นาง ความเยียบเย็นในดวงตาผุดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า จนแม้กระทั่งเฉียวเนี่ยนไม่ได้มองหน้าเซียงเหิงโดยตรง ก็รับรู้ได้ถึงโทสะอันร้อนแรงของเขาเซียวเหิงโกรธเข้าแล้วจริงๆแต่เพราะเหตุใดจึงโกรธเช่นนี้?เพราะนางจะแต่งงานกับหมิงอ๋องรึ?ไม่น่าเป็นไปได้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 23

    หมิงอ๋องซึ่งเดิมทีคิดซ้ำเติมเซียวเหิงอีก แต่กลับเป็นฝ่ายสีหน้าเปลี่ยนเสียเองเมื่อเห็นดังนี้ เซียวเหิงก็พลันเลิกคิ้วขึ้นสูง น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงด้วยอารมณ์เย้ยหยัน “แสดงว่าคงจะไม่รู้ เมื่อเป็นเช่นนี้ มิเท่ากับเป็นการหลอกแต่งงานเหมือนที่ชาวบ้านพูดกันหรอกรึ?”“บังอาจ” หมิงอ๋องตะคอกเสียงต่ำ พลางจ้องหน้าเซียวเหิงเขม็ง “เซียวเหิง อย่านึกว่าพอมีผลงานหน่อย ทุกวันนี้เป็นคนโปรดของเสด็จพ่อก็จะมาข้ามหน้าข้ามตาข้าได้ เรื่องของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย!”“ท่านอ๋องอย่าได้โกรธเคืองมากนัก” มุมปากเซียวเหิงผุดรอยยิ้มออกมา แต่แววตาแฝงความดูหมิ่นจนคล้ายจะเหยียบย่ำศักดิ์สิทธิ์ของหมิงอ๋องให้จมดินเสียในขณะที่หมิงอ๋องละทิ้งความสุภาพอ่อนโยนก่อนหน้าไปหมดสิ้น ใบหน้าหล่อเหลียวแฝงด้วยความบูดบึ้ง พลางกล่าวเสียงต่ำ น้ำเสียงดูเจ้าเล่ห์ “ถึงจะหลอกแต่งงานแล้วเป็นอย่างไร เซียวเหิง เจ้าก็หลอกได้เช่นกัน แต่นางจะสนใจเจ้าหรือไม่?”ดวงตาดำขลับของเซียวเหิงเปล่งประกายแห่งการสังหาร รอยยิ้มก็ค้างอยู่ที่มุมปากได้ยินแต่เสียงฮึดฮัดของหมิงอ๋อง แกมด้วยความสะใจ “สรุปก็คือหลินเนี่ยน...อ้อ ไม่ใช่ คือเฉียวเนี่ยน ข้าจะแต่งงานกับน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 24

    เป็นคำพูดที่น่าขำเช่นนี้อีกแล้วเฉียวหว่านนึกอยากหัวเราะ แต่ในใจกลับขมขื่นมากกว่า สุดท้ายจึงหัวเราะไม่ออกฮูหยินหลินกุมมือของนางไว้ ท่าทีอ่อนโยนยิ่ง “จริงอยู่ ฐานะจวนโหวเราทุกวันนี้ไม่อาจเทียบเท่าในอดีต แต่ภาษิตว่าเรืออับปางก็ยังมีเศษตะปูอีกสามพัน วันหน้าหากหมิงอ๋องคิดกลับมาเมืองหลวงอีก ก็ต้องพึ่งพาจวนโหวของเรา”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินยังคงถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่ง “จริงอยู่ การทำเช่นนี้แม่เองก็เห็นแก่ตัว เซียวเหิงเป็นเด็กหนุ่มที่เก่งกล้า สร้างผลงานสู้รบไว้ไม่น้อย ปัจจุบันตระกูลเซียวยิ่งเรืองอำนาจอยู่ในราชสำนัก และเจ้าก็รู้ว่าฝ่าบาทไม่สู้พอพระทัยต่อจวนโหวนัก เพราะฉะนั้น หากต้องการให้ยวนเอ๋อร์ได้แต่งเข้าตระกูลเซียวอย่างราบรื่น เจ้าก็ไม่อาจหาคู่ครองที่มีอิทธิพลเทียบเท่าได้ และหมิงอ๋อง...ก็นับว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว”เฉียวเนี่ยนเข้าใจในที่สุดว่าไปแล้ว การแต่งงานของนางขึ้นอยู่กับการประเมินผลประโยชน์ที่ลงตัวของหลายฝ่ายจวนโหวต้องพึ่งพาตระกูลเซียว หมิงอ๋องต้องอาศัยอิทธิพลของจวนโหว เช่นนั้นการเลือกคู่ของนางจึงไม่มีความสำคัญใดๆ อีก“เช่นนี้นี่เอง” นางเอ่ยปากเบาๆ คล้ายกับรู้สึกโล่งอกห

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 25

    เฉียวเนี่ยนเคยรักพี่ชายของนางเป็นที่สุด เพราะพี่ชายมักช่วยนางขับไล่อันธพาลที่มาพูดจาแทะโลมตน ทั้งยังชอบสรรหาของอร่อยหลายอย่างมาให้นางกิน หรือแม้แต่ไข่มุกราตรีที่หายาก เขาก็สามารถสรรหามาให้นางได้ครั้งหนึ่งในสายตาของเฉียวเนี่ยน มองว่าหลินเย่ว์เป็นคนที่เก่งกล้าสามารถ เป็นพี่ชายที่ร้ายกาจนักแต่นับแต่หลินยวนกลับมา พี่ชายคนเก่งของนางก็ได้อันตรธานหายไปด้วยเหลือเพียงคนโง่ที่วันๆ เอาแต่กล่าวหานาง ใส่ร้ายป้ายสีสารพัด ทำสิ่งใดไม่รู้จักใช้หัวคิด มีแต่วู่วามสถานเดียว!อย่างเช่นวันนี้เป็นต้นเฉียวเนี่ยนถูกเขาบีบแขนจนรู้สึกเจ็บ คิ้วยิ่งขมวดมุ่นไม่ทันรอให้นางเอ่ยปาก ฮูหยินหลินอยู่ด้านข้างก็ตีเข้าที่หลังมือหลินเย่ว์ “เจ้าทำอะไรกัน? ยังไม่รีบปล่อยมือน้องอีก”“ท่านแม่ ทำไมต้องเข้าข้างนางอีก ในรถม้ามีแต่ท่านกับนางเพียงสองคน นางกล้าบอกว่าไม่ได้ทำให้ท่านร้องไห้รึ?” หลินเย่ว์หน้าตาขึงขัง จ้องมองเฉียวเนี่ยนด้วยความดุดัน “ขอเตือนให้รู้ แม้ข้าจะมีเรื่องผิดต่อเจ้าก็ไม่เกี่ยวกับท่านแม่ เจ้าอย่ามาเล่นละครต่อหน้านาง ถ้าทำให้ท่านแม่ร้องไห้อีก ข้าจะไม่ละเว้นเจ้า”กล่าวจบ หลินเย่ว์ก็ผลักร่างเฉียวเนี่ยนออก

Bab terbaru

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 288

    นั่นมันต้องเจ็บขนาดไหนกัน!เนี่ยนเนี่ยนของนางต้องเจ็บขนาดไหนกัน!ฮูหยินเฒ่าแค่คิด ก็รู้สึกปวดใจแทบขาดแล้วย่าอย่างนาง ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!นางเอาแต่อยู่ในจวนนี้ทั้งวันทั้งคืน ไยแม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ยังไม่ได้รับ?หากนางรู้เร็วกว่านี้ว่าหมิงอ๋องคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นางคงไม่มีทางให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าวังหรอกหากนางรู้ว่าหลินเย่ว์ไอ้สารเลวนั่นทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นางคงตีเขาให้ตายแน่!หาก...หากนางจากไปเร็วกว่านี้ เนี่ยนเนี่ยนของนางคงไม่ต้องลำบาก ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม! อยู่ที่จวนโหวมาตลอดขนาดนี้!เป็นนางเองที่ไร้ประโยชน์!เป็นเพราะนางแก่แล้ว ทนได้ไม่ไหวแล้ว ไม่เพียงแต่ปกป้องเนี่ยนเนี่ยนของนางไม่ได้ ยังกลายเป็นภาระของนางด้วย!พวกเขายังให้นางกินน้ำล้างจานด้วย!หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักทะนุทะนอมมาตั้งแต่เด็ก!พวกเขากล้าให้นางกินน้ำล้างจานได้อย่างไรกัน!ฮูหยินเฒ่ายิ่งคิด ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนสุดท้าย ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงโหยหวนและแก่ชราที่ดังเรื่อยๆ นั้น แฝงไปด้วยความเสียใจมากมายและช่วยอะไรไม่ได้นางถึงขนาดที่ไม่รู้แล้วว่า ให้เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 287

    เฉียวเนี่ยนวิ่งไปด้วย เช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย นางจะให้ท่านย่าเห็นสภาพนางกระอักเลือดไม่ได้!เมื่อมาถึงนอกห้องฮูหยินเฒ่า ก็เห็นซูมามากับหมอประจำจวนรออยู่หน้าประตูห้องก่อนแล้วครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็คำนับเฉียวเนี่ยนรีบไถ่ถาม "เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านย่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนถึงได้ตอบ "คุณหนูใหญ่ ร่างกายของฮูหยินเฒ่าเสียหายอย่างรุนแรง แม้ข้าน้อยจะฝังเข็มรักษาชีพจรหัวใจของฮูหยินเฒ่าไว้มั่นได้ แต่ เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่เกินสิบวัน"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป พลางส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย "ไม่ ไม่จริง ซูมามาบอกว่า วันนี้สภาพท่านย่าไม่เลว แถมยังลุกจากเตียงได้อยู่เลยมิใช่หรือ... "เหตุใดแม้แต่สิบวันก็ทนไม่ไหวแล้วเล่า?ซูมามาปาดน้ำตาไร้สุ้มเสียงแต่หมอประจำจวนกลับถอนหายใจเล็กน้อย กล่าว "หากไม่เคยได้รับการกระตุ้น บางทีฮูหยินเฒ่าอาจทนได้สองสามเดือน เฮ้อ!"ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเฉียวเนี่ยนพลันไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่ลมหายใจก็สับสนไปชั่วขณะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของนางที่ทำร้ายฮูหยินเฒ่า!เมื่อครู่นางควรตวัดดาบจบหลินยวนไปเสีย!ซูมามารีบเข้ามาเช็ดน้ำตาให้นาง และกล่าวโน้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 286

    แต่ในเวลานี้เอง ร่างๆหนึ่งปรี่เข้ามาในห้อง ผลักเฉียวเนี่ยนออกและเพราะการกระแทกนี้ ทำให้ดาบยาวทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวตรงหน้าอกหลินยวนหลินเย่ว์ตกใจหน้าถอดสี รีบอุ้มหลินยวนไปข้างนอกทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนไล่ตามออกมาเหมือนกับคนบ้า ถือดาบยาวตวัดฟันลงบนหลังของหลินเย่ว์หลินเย่ว์หลบไม่ทัน หลังรับดาบเฉียวเนี่ยนไปเต็มๆ สองมือไร้เรี่ยวแรงทันที และล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับหลินยวนท่านโหวหลินที่เร่งตามาเห็นภาพนี้ ก็ปรี่เข้ามาจับสองมือของเฉียวเนี่ยนไว้ทันที พลางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”หากไม่ใช่เพราะทหารองครักษ์ที่ถูกแย่งดาบไปรีบมารายงาน เกรงว่าเมื่อพวกเขามาถึง หลินยวนคงตายภายใต้ดาบของนางไปแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนแทบจะตะโกนเดือดดาลอย่างบ้าบิ่น “ใช่ข้าบ้าไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปพูดไร้สาระต่อหน้าท่านย่า ท่านย่าก็คงจะไม่เป็นไร! วันนี้ข้าจะต้องตัดลิ้นนางให้ได้ ข้าจะดูว่าต่อไปเจ้าจะเอาอะไรออกมาทำร้ายท่านย่าอีก!”ท่านโหวหลินเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าจู่ๆ ที่ฮูหยินเฒ่าอาการกำเริบเกิดมาจากหลินยวน จึงมองไปที่หลินยวนด้วยสีหน้าตกตะลึงทันทีเห็นเพียงอีกฝ้ายหมอบอยู่

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 285

    เรือนลั่วเหมย ประตูใหญ่ปิดสนิทเฉียวเนี่ยนถีบประตูเปิด ย่างสามขุมเข้าไปในเรือนลั่วเหมยคนรับใช้ สาวใช้ภายในเรือน แต่ละคนเตรียมพร้อมรออยู่ ราวกับคาดเดาได้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมาแต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะถือดาบเข้ามาด้วย!กระนั้น แม้พวกเขาจะเคยเห็นความดุร้ายของเฉียวเนี่ยน ทว่ากลับไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนฆ่าคน จึงคิดว่าเฉียวเนี่ยนแค่มาขู่ก็เท่านั้นมีคนรับใช้ใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาพูดโน้มน้าว “คุณหนูใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ รอท่านโหวมา…อ๊าก!”ไม่รอให้คนรับใช้คนนั้นพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ฟัดดาบลงไป คนรับใช้คนนั้นถูกฟันเข้าที่แขนทันที เลือดแดงสดไหลลงมาดวงตาสองข้างของเฉียวเนี่ยนแดงก่ำ ตะโกนเสียงดัง “หลินยวน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้น เหลือบมองกลุ่มคนรับใช้สาวใช้ที่ยังขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตะคอกเสียงเย็น “ใครกล้าขวางข้า!”เหล่าสาวใช้ที่ขี้ขลาดบางส่วนรีบวิ่งหนีเตลิดกันหมด ทว่ายังพอมีใจกล้าอยู่บ้าง ขวางอยู่ข้างหน้าเฉียวเนี่ยน “คุณหนูใหญ่ใจเย็นก่อนๆ หากฆ่าคุณหนูรองจริง ท่านโหวจะปล่อยคุณหนูไปได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจ้องคนรับใช้คนนั้นเขม็ง พลางกดเสียงต่ำ “รนหาที่ตาย!”ดาบยา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 284

    เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูมามาก็ห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้แล้ว “ฮู ฮูหยินเฒ่ารู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่จะตัดขาดท่านโหว จึงบีบเค้นถามบ่าว บ่าวไม่กล้าพูดมาก ฮูหยินเฒ่าจึงบีบให้นังพวกใจสกปรกเหล่านี้พูด…”“ฮูหยินเฒ่าไม่เพียงรู้เรื่องที่คุณหนูตัดขาดจวนโหว ยังรู้เรื่องก่อนหน้าที่คุณหนูเกือบถูกหมิงอ๋องตีตาย รู้ว่าท่านโหวน้อยรังแกคุณหนูอย่างไร ดังนั้นฮูหยินเฒ่าก็เลย ก็เลย…”พูดมาถึงตอนท้าย ซูมามาร่ำไห้จนพูดออกมาไม่ได้แล้วส่วนเฉียวเนี่ยน เดือดดาลจนสั่นเทาไปทั่วร่างนางมีสีหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินไปทางสาวใช้พวกนั้นพวกสาวใช้แต่ละคนต่างหลุบตาต่ำก้มหน้า จิตใจกระวนกระวาย ไม่กล้าเหลือบมองเฉียวเนี่ยนได้ยินเพียงสุ้มเสียงสั่นเทาของเฉียวเนี่ยนดังออกมา และเจือไปด้วยโทสะ “ข้ากำชับหลายครั้งหลายหนแล้วว่าห้ามเปิดเผยเรื่องของข้าให้ท่านย่าฟัง พวกเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ถึงกล้าเอ่ยถึงข้าในเรือนของท่านย่า!”เหล่าสาวใช้ต่างตกใจพากันร่ำไห้โขกหัว “บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณหนูใหญ่ยกโทษให้ด้วย!”“บ่าวรู้ความผิดแล้ว บ่าวไม่กล้าทำอีกแล้ว!”ทว่าสายตาของเฉียวเนี่ยน กลับถูกสาวใช้หนึ่งในนั้นดึงดูดไปนางขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “เ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 283

    หลังจากเฉียวเนี่ยนก้มกราบเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืน กล่าวกับคนรับใช้ที่คอยปรนนิบัติอยู่นอกห้องโถง “ไปเอากระดาษ พู่กันมา”คนรับใช้ไหนเลยจะกล้าขยับ พลางมองไปที่ท่านโหวหลินด้วยความลำบากใจแต่กลับพบว่า ท่านโหวหลินกำลังหายใจแรง คล้ายว่าถูกยั่วโมโหสุดขีดแล้วส่วนฮูหยินหลินปาดน้ำตาไม่หยุด พูดไม่ออกเลยสักคำมีเพียงหลินเย่ว์ที่ยังพูดออกมาได้ในตอนนี้ “เฉียวเนี่ยน เจ้าคิดให้ดีนะ ไม่มีจวนโหว…”“ข้าคิดดีแล้ว” เฉียวเนี่ยนขัดคำพูดหลินเย่ว์อย่างไม่แยแส จากนั้นสายตาก็มาหยุดอยู่ที่ท่านโหวหลินอย่างเย็นชา น้ำเสียงเจือไปด้วยความถากถาง “บัดนี้พวกท่านบอกปัดด้วยข้ออ้างต่างๆเช่นนี้ เหมือนกับว่าจวนโหวขาดข้าไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น”ไม่ใช่ว่ายืนยันแล้วหรอกหรือว่าจวนโหวเอาแต่ใช้ประโยชน์นางมาตลอด?ได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดท่านโหวหลินก็โมโหจนขาดสติ และตะคอกขึ้นมาด้วยโทสะทันที “ไปเอากระดาษกับพู่กันมา!”จวนโหวขาดนางไม่ได้?พูดเรื่องตลกอะไร!เรือพังยังมีตะปูสามพัน ต่อให้จวนโหวเขาไม่ดีแค่ไหน ก็ไม่มีวันตกต่ำถึงขั้นต้องพึ่งพาเฉียวเนี่ยนที่เป็นสตรีคนหนึ่งหรอก!เขาคำนึงถึงอนาคตทึกอย่างเพื่อนาง นางไม่รับน้ำใจก็ช่าง ตอนนี้กลับ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 282

    น้ำเสียง ดูเย็นชาเป็นพิเศษแต่กลับทำให้หลินเย่ว์โมโหไม่น้อย "ไม่ขัดขวาง? เฉียวเนี่ยน เจ้ามองตัวเองสำคัญเกินไปแล้ว? ที่พ่อแม่สนใจเรื่องแต่งงานของเจ้า เป็นเพราะพวกเขายังยอมรับเจ้าเป็นลูกสาว! หากตัดขาดกัน จวนโหวจะสนใจเจ้าอีกได้อย่างไร!"ได้ยินวาจานี้ จู่ๆ เฉียวเนี่ยนพลันหัวเราะขึ้นมา ก่อนกล่าว "ดังนั้น ข้าจะตัดขาดความสัมพันธ์"สิ่งที่หลินเย่ว์พูดเมื่อครู่ เหล่านนั้น คือเหตุผลที่นางอยากตัดขาดความสัมพันธ์!หลินเย่ว์นิ่งอึ้งรู้สึกแต่ว่าเฉียวเนี่ยนถูกผีเข้าสิงขณะกำลังคิดว่าควรจะด่าเตือนนางอย่างไร กลับไม่คาดคิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน"ท่านโหวหลินดูออกหรือไม่ว่าตราประทับนั้นเป็นของปลอม?"เสียงของนางอ่อนเบา ไม่เจือไปด้วยโทสะแม้แต่น้อยราวกับว่าแค่ถามเรื่องที่ปกติมากๆเรื่องหนึ่ง เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับนางแต่คำพูดนี้กลับทำให้หลินเย่ว์และฮูหยินหลินขมวดคิ้วสองข้าง "ตราประทับปลอมอะไร? เจ้าว่าตราประทับราชครูนั่นเป็นของปลอมหรือ?"เฉียวเนี่ยนไม่ตอบ ดวงตาคู่หนึ่งมองไปที่ท่านโหวหลินอย่างสงบนิ่งมากพบว่าท่านโหวหลินตาเป็นประกาย กล่าวอย่างปากแข็ง "นั่น นั่นมันเป็นตราประทับของรา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 281

    จวบจนรถม้านั่นขับออกไปไกลแล้ว จิ่งเหยียนถึงได้โบกมือ สั่งเหล่าทหารที่อยู่ด้านหลังกลับไปจากนั้นก้มตัวลงไปเก็บปิ่นปักผมที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เดินอ้อมไปอยู่ด้านหลังเฉียวเนี่ยนและม้วยมวลผมที่ง่ายที่สุดให้นางในระหว่างที่ทำผมให้นางเขาถึงได้พบว่า มือขวาของตัวเองยังออกแรงไม่ได้จนถึงตอนนี้นึกถึงเซียวเหอแม้เขาจะกักตัวมาตลอดห้าปี กระนั้นฝีมือการต่อสู้กลับยังคงเก่งกาจเหมือนเดิม จิ่งเหยียนอดหัวเราะเสียงเบาออกมาไม่ได้ครั้นได้ยินเสียงหัวเราะที่มาจกความจริงใจภายใน เฉียวเนี่ยนก็อดสงสัยไม่ได้ "เป็นอะไรหรือ?"จิ่งเหยียนเก็บความคิดไว้ และส่ายหัวเล็กน้อย "ไม่มีอะไร"ระหว่างสนทนา เขาปรายตามองแผ่นป้ายสูงจวนราชครูนั้น แววตาทมึนถึงลง ก่อนกล่าว "ข้าจะส่งเจ้ากลับ"เฉียวเนี่ยนถึงได้สูดหายใจเข้าลึก และพยักหน้าอย่างช้าๆถึงเวลาควรกลับแล้วไม่นาน เฉียวเนี่ยนก็กลับมาถึงจวนแต่คาดไม่ถึงว่า จะบังเอิิญเจอท่านโหวหลินกับหลินเย่ว์ที่กำลังออกมาจากจวนพอดีเห็นเฉียวเนี่ยนตามจิ่งเหยียนมา ท่านโหวหลินกับหลินเย่ว์ต่างก็ตกตะลึงเดิมทีพวกเขากำลังจะไปจวนราชครู แต่ไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะกลับมาก่อนก้าวหนึ่งท่านโหวหลิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 280

    แต่ไม่คิดเลยว่า จู่ๆบนหลังมือของจิ่งเหยียนเกิดความเจ็บแปลบอย่างรุนแรงขึ้นมา ทำให้ไม่อาจถือแม้แต่ปิ่นปักผมไว้ได้ปิ่นปักผมร่วงลงบนพื้น เกิดเสียงกระทบดังออกมาและที่ร่วงมาพร้อมกันนั้น ยังมีหินกลมก้อนหนึ่งด้วยนี่มัน...ทั่วบริเวณ เงียบสงัดไปชั่วขณะทว่ามีเสียงเกือกม้าค่อยๆดังเข้ามาทุกคนทอกมองไปทางต้นเสียง เห็นไม่ไกลนัก มีรถม้าคันหนึ่งมุ่งตรงมาที่จวนราชครูคือรถม้าของตระกูลเซียว!เฉียวเนี่ยนตกใจ จับมือจิ่งเหยียนไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว ก่อนคิ้วงามขมวดขึ้นเล็กน้อยเซียวเหิงมาได้อย่างไร?แต่ที่ไม่คาดคิดคือ รถม้ามาหยุดอยู่นอกจวนราชครู มือขาวเรียวยาวข้างหนึ่งแหวกผ้าม่านรถออก เสียงเย็นยะเยือกดังออกมา "ราชครูชิว ไม่เจอกันนานเลย"เฉียวเนี่ยนตกใจอีกครา สุ้มเสียงนี้ หาใช่เซียวเหิง!นางมองไปทางรถม้าทันที เห็นใบหน้าขาวที่แทบจะเหมือนป่วยภายใต้ม่านรถที่ถูกเปิดออกนั้น บนใบหน้าที่ซูบผอม หูตาคอจมูกดูดุดัน ออร่าแม่ทัพใหญ่ที่เลือนรางนั้นไม่ลดลงไปเลยแม้แต่น้อยเป็นเซียวเหอ!จิ่งเหยียนเองก็คาดไม่ถึงว่าผู้มาจะเป็นเซียวเหอ จึงอุทานอย่างตกใจออกมา "ท่านแม่ทัพ!"เขาเคยเป็นผู้นำทัพแนวหน้าใต้บัญชาเซียวเห

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status