แชร์

บทที่ 20

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
เฉียวเนี่ยนรู้จักหมิงอ๋องเป็นอย่างดี

เพราะเต๋อกุ้ยเฟยกับฮูหยินหลินเป็นเพื่อนสนิทมานาน ลูกๆ ของพวกนางจึงเคยเล่นหัวมาแต่เล็ก แต่เนื่องจากหมิงอ๋องเป็นองค์ชาย ฐานะสูงส่ง เวลาเด็กๆ เล่นด้วยกันก็จะมีความระมัดระวังบ้าง

ต่อมาทุกคนต่างเติบใหญ่ หมิงอ๋องต้องเรียนหนัก ไม่ค่อยได้กลับวังบ่อยนัก การไปหามาสู่จึงค่อยๆ ลดลง

เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่นับว่าสนิทมาก เพียงแค่เคยรู้จักเท่านั้น

ตอนเฉียวเนี่ยนไปอยู่กรมซักล้างยังเคยได้พบหมิงอ๋องครั้งหนึ่ง เพียงแต่ตอนนั้นนางสวมชุดประจำตำแหน่งนางกำนัล ตามหลังมามาคุกเข่าอยู่ที่พื้น หมิงอ๋องจึงไม่ทันสังเกตเห็นนาง

แต่ยามนี้หมิงอ๋องนั่งอยู่ด้านข้างเต๋อกุ้ยเฟยแล้ว แต่งกายด้วยชุดผ้าไหมเรียบง่ายทำให้มีบุคลิกสง่างามยิ่ง

ทั้งยังมีรูปร่างสูงใหญ่ แม้นั่งอยู่ยังดูสูงกว่าเต๋อกุ้ยเฟยเกือบหนึ่งช่วงหัว

พระพักตร์ดูคล้ายกับฮ่องเต้ เครื่องหน้าดูขึงขัง มีเพียงดวงตาที่คล้ายเต๋อกุ้ยเฟย มองดูผู้ใดก็ล้วนเต็มไปด้วยความอ่อนโยน บางครั้งยังแฝงความเมตตาสงสารต่อผู้นั้นอีก

และในยามนี้เมื่อเขาเห็นเฉียวเนี่ยน ความเห็นใจในดวงตาแทบเอ่อล้นออกมาเสียด้วยซ้ำ

เฉียวเนี่ยนไม่ชอบดวงตาเช่นนี้เลย เพราะ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 21

    อาจเป็นความเย็นชาในน้ำเสียงที่ฟังดูคุ้นเคยยิ่ง พาให้เฉียวเนี่ยนตกใจ จนต้องถอยหลังกรูดไปสองก้าวแต่เพราะรีบร้อนเกินเหตุจึงทำให้เข่าอ่อน ร่างกายคล้ายจะทรุดลงพื้นดีที่หมิงอ๋องมือไวและตาไว รีบฉุดตัวนางขึ้นมาก่อนเพียงแต่การฉุดนี้ ทำให้ระยะห่างของพวกเขาเข้าใกล้มากยิ่งขึ้น หากมองจากไกลๆ จะดูคล้ายหมิงอ๋องกำลังโอบเฉียวเนี่ยนอยู่สายตาคมกริบของเซียวเหิงจ้องเขม็งไปยังมือหมิงอ๋องที่จับแขนเฉียวเนี่ยนแน่นอยู่ พร้อมแววตาดุดันมากยิ่งขึ้น“ไม่เป็นไรนะ?” หมิงอ๋องถามเสียงอ่อนโยนเฉียวเนี่ยนส่ายหน้า เกิดความรู้สึกร้อนตัวอย่างไร้เหตุผลมีเรื่องอันใดต้องร้อนตัวด้วย?อย่าว่าแต่นางกับเซียวเหิงแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก หรือต่อให้มี นั่นก็เป็นเพียง ‘ญาติในนาม’ เท่านั้นนางจะอยู่กับผู้ใด คิดทำสิ่งใดบ้าง ล้วนไม่ใช่ธุระของเขาทั้งที่จริงแล้ว เซียวเหิงอาจจะไม่สนใจด้วยซ้ำเพราะนางคิดมากไปเองต่างหากพลางสูดลมหายใจเข้าลึก เฉียวเนี่ยนระงับอารมณ์ที่สับสนปนเปในใจ โน้มกายลงคารวะต่อเซียวเหิงที่อยู่ไม่ไกลนัก “คารวะท่านแม่ทัพเซียว”หมิงอ๋องหันไปทางเซียวเหิง “แม่ทัพเซียวมาเข้าเฝ้าอีกแล้วรึ?”คำว่า ‘อีกแล้ว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 22

    แม้ในใจเฉียวเนี่ยนจะคิดเช่นนี้ แต่ปากมิได้พูดออกมา ซึ่งในสายตาเซียวเหิงก็เท่ากับยอมรับกลายๆมือที่ไพล่อยู่ข้างหลังกำแน่นเป็นหมัด เขามองหน้าเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาเย็นชา “เมืองกูเฉิงอยู่ไกลถึงเจียงหนาน วัฒนธรรมความเป็นอยู่ต่างจากเมืองหลวงเป็นอย่างมาก แม่นางเฉียวคิดดีแล้วรึ?”เฉียวเนี่ยนคิดในใจ เซียวเหิงอาจคิดเตือนสตินางว่าไม่เหมาะกับสภาพอากาศที่เมืองกูเฉิง จึงมีสีหน้าจริงจังขณะเอ่ยปากตอบเขา “ท่านอ๋องบอกว่าฤดูหนาวที่เจียงหนานไม่หนาวเย็นเท่ากับเมืองหลวง ข้าคิดว่า ขอเพียงไม่หนาวเกินไป ข้าน่าจะพอปรับตัวได้”เพราะนางกลัวความหนาวจริงๆไม่ว่าจะเป็นความหนาวเย็นเข้าถึงกระดูกขณะมือทั้งคู่แช่อยู่ในน้ำ หรือค่ำคืนถูกขังอยู่นอกเรือนให้ตากลมหนาว นางล้วนไม่ต้องการจะประสบเข้าอีกเซียวเหิงถูกเฉียวเนี่ยนย้อนกลับเสียจนไม่รู้จะตอบอย่างไรดีได้แต่จ้องเขม็งไปที่นาง ความเยียบเย็นในดวงตาผุดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า จนแม้กระทั่งเฉียวเนี่ยนไม่ได้มองหน้าเซียงเหิงโดยตรง ก็รับรู้ได้ถึงโทสะอันร้อนแรงของเขาเซียวเหิงโกรธเข้าแล้วจริงๆแต่เพราะเหตุใดจึงโกรธเช่นนี้?เพราะนางจะแต่งงานกับหมิงอ๋องรึ?ไม่น่าเป็นไปได้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 23

    หมิงอ๋องซึ่งเดิมทีคิดซ้ำเติมเซียวเหิงอีก แต่กลับเป็นฝ่ายสีหน้าเปลี่ยนเสียเองเมื่อเห็นดังนี้ เซียวเหิงก็พลันเลิกคิ้วขึ้นสูง น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงด้วยอารมณ์เย้ยหยัน “แสดงว่าคงจะไม่รู้ เมื่อเป็นเช่นนี้ มิเท่ากับเป็นการหลอกแต่งงานเหมือนที่ชาวบ้านพูดกันหรอกรึ?”“บังอาจ” หมิงอ๋องตะคอกเสียงต่ำ พลางจ้องหน้าเซียวเหิงเขม็ง “เซียวเหิง อย่านึกว่าพอมีผลงานหน่อย ทุกวันนี้เป็นคนโปรดของเสด็จพ่อก็จะมาข้ามหน้าข้ามตาข้าได้ เรื่องของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย!”“ท่านอ๋องอย่าได้โกรธเคืองมากนัก” มุมปากเซียวเหิงผุดรอยยิ้มออกมา แต่แววตาแฝงความดูหมิ่นจนคล้ายจะเหยียบย่ำศักดิ์สิทธิ์ของหมิงอ๋องให้จมดินเสียในขณะที่หมิงอ๋องละทิ้งความสุภาพอ่อนโยนก่อนหน้าไปหมดสิ้น ใบหน้าหล่อเหลียวแฝงด้วยความบูดบึ้ง พลางกล่าวเสียงต่ำ น้ำเสียงดูเจ้าเล่ห์ “ถึงจะหลอกแต่งงานแล้วเป็นอย่างไร เซียวเหิง เจ้าก็หลอกได้เช่นกัน แต่นางจะสนใจเจ้าหรือไม่?”ดวงตาดำขลับของเซียวเหิงเปล่งประกายแห่งการสังหาร รอยยิ้มก็ค้างอยู่ที่มุมปากได้ยินแต่เสียงฮึดฮัดของหมิงอ๋อง แกมด้วยความสะใจ “สรุปก็คือหลินเนี่ยน...อ้อ ไม่ใช่ คือเฉียวเนี่ยน ข้าจะแต่งงานกับน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 24

    เป็นคำพูดที่น่าขำเช่นนี้อีกแล้วเฉียวหว่านนึกอยากหัวเราะ แต่ในใจกลับขมขื่นมากกว่า สุดท้ายจึงหัวเราะไม่ออกฮูหยินหลินกุมมือของนางไว้ ท่าทีอ่อนโยนยิ่ง “จริงอยู่ ฐานะจวนโหวเราทุกวันนี้ไม่อาจเทียบเท่าในอดีต แต่ภาษิตว่าเรืออับปางก็ยังมีเศษตะปูอีกสามพัน วันหน้าหากหมิงอ๋องคิดกลับมาเมืองหลวงอีก ก็ต้องพึ่งพาจวนโหวของเรา”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฮูหยินหลินยังคงถอนหายใจอีกเฮือกหนึ่ง “จริงอยู่ การทำเช่นนี้แม่เองก็เห็นแก่ตัว เซียวเหิงเป็นเด็กหนุ่มที่เก่งกล้า สร้างผลงานสู้รบไว้ไม่น้อย ปัจจุบันตระกูลเซียวยิ่งเรืองอำนาจอยู่ในราชสำนัก และเจ้าก็รู้ว่าฝ่าบาทไม่สู้พอพระทัยต่อจวนโหวนัก เพราะฉะนั้น หากต้องการให้ยวนเอ๋อร์ได้แต่งเข้าตระกูลเซียวอย่างราบรื่น เจ้าก็ไม่อาจหาคู่ครองที่มีอิทธิพลเทียบเท่าได้ และหมิงอ๋อง...ก็นับว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว”เฉียวเนี่ยนเข้าใจในที่สุดว่าไปแล้ว การแต่งงานของนางขึ้นอยู่กับการประเมินผลประโยชน์ที่ลงตัวของหลายฝ่ายจวนโหวต้องพึ่งพาตระกูลเซียว หมิงอ๋องต้องอาศัยอิทธิพลของจวนโหว เช่นนั้นการเลือกคู่ของนางจึงไม่มีความสำคัญใดๆ อีก“เช่นนี้นี่เอง” นางเอ่ยปากเบาๆ คล้ายกับรู้สึกโล่งอกห

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 25

    เฉียวเนี่ยนเคยรักพี่ชายของนางเป็นที่สุด เพราะพี่ชายมักช่วยนางขับไล่อันธพาลที่มาพูดจาแทะโลมตน ทั้งยังชอบสรรหาของอร่อยหลายอย่างมาให้นางกิน หรือแม้แต่ไข่มุกราตรีที่หายาก เขาก็สามารถสรรหามาให้นางได้ครั้งหนึ่งในสายตาของเฉียวเนี่ยน มองว่าหลินเย่ว์เป็นคนที่เก่งกล้าสามารถ เป็นพี่ชายที่ร้ายกาจนักแต่นับแต่หลินยวนกลับมา พี่ชายคนเก่งของนางก็ได้อันตรธานหายไปด้วยเหลือเพียงคนโง่ที่วันๆ เอาแต่กล่าวหานาง ใส่ร้ายป้ายสีสารพัด ทำสิ่งใดไม่รู้จักใช้หัวคิด มีแต่วู่วามสถานเดียว!อย่างเช่นวันนี้เป็นต้นเฉียวเนี่ยนถูกเขาบีบแขนจนรู้สึกเจ็บ คิ้วยิ่งขมวดมุ่นไม่ทันรอให้นางเอ่ยปาก ฮูหยินหลินอยู่ด้านข้างก็ตีเข้าที่หลังมือหลินเย่ว์ “เจ้าทำอะไรกัน? ยังไม่รีบปล่อยมือน้องอีก”“ท่านแม่ ทำไมต้องเข้าข้างนางอีก ในรถม้ามีแต่ท่านกับนางเพียงสองคน นางกล้าบอกว่าไม่ได้ทำให้ท่านร้องไห้รึ?” หลินเย่ว์หน้าตาขึงขัง จ้องมองเฉียวเนี่ยนด้วยความดุดัน “ขอเตือนให้รู้ แม้ข้าจะมีเรื่องผิดต่อเจ้าก็ไม่เกี่ยวกับท่านแม่ เจ้าอย่ามาเล่นละครต่อหน้านาง ถ้าทำให้ท่านแม่ร้องไห้อีก ข้าจะไม่ละเว้นเจ้า”กล่าวจบ หลินเย่ว์ก็ผลักร่างเฉียวเนี่ยนออก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 26

    หลินเย่ว์ตามฮูหยินหลินไปที่เรือนลั่วเหมย ภายใต้การดูแลของหมอในจวนอาการของหลินยวนดีขึ้นมากแล้ว นอกจากไอเป็นบางหนก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว ในระหว่างที่ฮูหยินหลินกับหลินเย่ว์มา นางกำลังชมดอกเหมยอยู่ในลานบ้าน เห็นนางสวมเสื้อผ้าบาง ฮูหยินหลินก็ขมวดคิ้ว “ป่วยยังไม่หายดีเลยไยถึงออกมาเล่า? แถมยังสวมเสื้อผ้าบางอีก เร็ว รีบเข้าห้อง!” นางโอบหลินยวนเข้าไปในห้อง พร้อมทั้งเรียกเสี่ยวชุ่ยเทน้ำร้อนเข้ามา ก่อนจะล้วงขวดยาเล็กออกมาจากในอก “พระสนมได้ยินว่าเจ้าไอหนัก จึงตั้งใจสั่งคนไปนำยาลูกกลอนจากในโรงหมอมา บอกว่าได้มาจากสำนักราชาโอสถ ฮองเฮาองค์ก่อนไอมาครึ่งเดือน กินสิ่งนี้ไปดีขึ้นเลย” หลินเย่ว์มองฮูหยินหลินป้อนยาให้หลินยวนด้วยตัวเอง ก็เข้าใจทันทีว่าเหตุใดฮูหยินหลินรีบมาหาหลินยวนทันทีที่กลับมาถึงจวน เขาย่อมเป็นห่วงหลินยวนอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นสีหน้าของหลินยวนปกติดีแล้ว ทั้งยังไม่ได้ยินเสียงไอเลยตั้งแต่เมื่อครู่จวบจนตอนนี้ น่าจะไม่เป็นอะไรมากแล้ว ฉะนั้นที่เขากังวลตอนนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง“ท่านแม่ ท่านยังไม่ได้บอกเลยว่า ท่านกับเนี่ยนเนี่ยนมีปัญหาอะไรกันแน่? เหตุใดท่านถึงร้องห่มร้องไห้อยู่ในรถม้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 27

    อีกด้านหนึ่ง เฉียวเนี่ยนไม่สนใจเลยสักนิดว่าหลินเย่ว์จะพูดอะไรกับฮูหยินหลินบ้างนางรีบร้อนจะไปเยี่ยมฮูหยินเฒ่าเทียบกับเมื่อวาน อาการของฮูหยินเฒ่าดีขึ้นไม่น้อย ในระหว่างที่เฉียวเนี่ยนมา ฮูหยินเฒ่ากำลังดื่มยาที่แม่นมซูป้อนให้ยานั่นน่าจะขมมาก ฮูหยินเฒ่าดื่มลงไปจนอวัยวะบิดขึ้นมา ครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน นางก็จงใจแย้มยิ้มผ่อนคลาย “เนี่ยนเนี่ยนมาแล้วหรือ!”“ท่านย่า” เฉียวเนี่ยนคำนับแล้วเข้าไปหา นั่งลงข้างเตียงฮูหยินเฒ่า “วันนี้ท่านย่ารู้สึกอย่างไรบ้าง?”“ดีขึ้นบ้างแล้ว” ฮูหยินเฒ่ายิ้ม พลางยื่นมือไปลูบแก้มเฉียวเนี่ยนอย่างอ่อนโยน “ตกใจแย่เลยสินะ?”เฉียวเนี่ยนส่ายหน้ารัว “ท่านย่าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”เห็นขอบตานางแดงก่ำ ฮูหยินเฒ่าปวดใจจริงๆ แต่ครั้นนึกถึงสิ่งที่ฮูหลินหลินพูดเมื่อวาน ก็ถามขึ้นมา “นี่เจ้าเพิ่งกลับมาจากวังหรือ?”เฉียวเนี่ยนคิดไม่ถึงเลยว่าฮูหยินเฒ่าจะรู้เรื่องนี้ด้วย จึงอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนพยักหน้าด้วยความเงียบทว่าฮูหยินเฒ่ากลับพูดว่า “เจ้ามิต้องกังวลเรื่องอื่น หากเจ้าไม่ยินดี อย่าว่าแต่หมิงอ๋องเลย ต่อให้พระสนมเต๋อมาด้วยตัวเอง ย่าก็ช่วยเจ้าขัดขวางไว้ได้”ไม่ว่าอะไรท่านย่าล้วนลำเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 28

    เฉียวเนี่ยนถอนหายใจอย่างระอา ก่อนจัดแจงเก็บกวาดครู่หนึ่ง แล้วไปเจอหลินยวนไม่นาน หนิงซวงก็เข้ามาพร้อมกับหลินยวนเห็นหนิงซวงเดินตามติดหลินยวนไม่ห่างจริง เฉียวเนี่ยนเกือบจะส่งเสียงหัวเราะออกมาหลินยวนเข้ามาในห้องแล้วคำนับเฉียวเนี่ยน เห็นเฉียวเนี่ยนยิ้มมุมปาก ก็คิดว่าวันนี้นางอารมณ์ค่อนข้างดี ความกังวลก่อนมาพลันลดฮวบไปไม่น้อยนางส่งยิ้มให้เฉียวเนี่ยน “ข้ามาแต่เช้า คงไม่ได้รบกวนพี่หรอกใช่ไหม?”เฉียวเนี่ยนชะงักไป ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าหลินยวนจะมาไม้ไหน จึงถอนหายใจเบาๆ แล้วถาม “มีเรื่องอะไรหรือ?”“ข้ามาชวนพี่หญิงไปวัดฝ่าหัวด้วยกัน”หลินยวนดูค่อนข้างจะสนใจอย่างมากเฉียวเนี่ยนเองก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้คือวันที่แปด เดือนหนึ่ง หรือก็คือวันสมโภชนักบุญของวัดฝ่าหัวเล่ากันว่า ในวันสมโภชขอเพียงขอพรด้วยใจจริงต่อหน้าพระพุทธรูป ไม่ว่าจะขออะไร ก็สัมฤทธิ์ผลปีที่แล้วๆ มา ทุกวันสมโภชนางจะไปวัดฝ่าหัวทุกวัน หนึ่งเพื่อขอให้ครอบครัวสงบสุขราบรื่น สองเพื่อเจอกับเซียวเหิงทว่าบัดนี้ไม่ได้ไปมาสามปีแล้ว นางย่อมไม่คิดจะขอให้ครอบครัวสุขสงบ และยิ่งไม่อยากเจอเซียวเหิงแต่ว่า เพื่อฮูหยินเฒ่านางไปอีกสักครั้งไ

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 100

    เมื่อเห็นว่าเฉียวเนี่ยนไม่ตอบ รอยยิ้มของหมิงอ๋องก็ดูกระด้างขึ้น "ข้าแค่ถามเล่นๆ เนี่ยนเนี่ยนไม่จำเป็นต้องใส่ใจ"แม้จะพูดเช่นนั้น แต่เขากลับถามต่อ "เนี่ยนเนี่ยนชอบแม่ทัพเซียวตรงไหนหรือ?"และครั้งนี้ เขาไม่รอคำตอบของเฉียวเนี่ยนเขาเริ่มพูดกับตัวเองแทน "ชอบที่เขาหล่อเหลา หรือชอบที่เขามีทักษะศิลปะการต่อสู้สูง กล้าหาญ และมีไหวพริบ? หรือจะชอบทุกอย่าง?""เซียวเหิงเป็นคนมีพรสวรรค์ที่หายากจริงๆ ไม่ใช่แค่เนี่ยนเนี่ยนหรอก แม้แต่ซูหยวนก็ชอบเขาเช่นกัน เพราะอย่างนั้นตอนที่เจ้าทำชามเคลือบแตก นางถึงได้จงใจทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่และส่งเจ้าไปกรมซักล้าง"ซูหยวนเป็นชื่ออันสูงส่งที่ห้ามเอ่ยถึงขององค์หญิงใหญ่ในปัจจุบันเฉียวเนี่ยนตกใจมาก นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้วเช่นนี้ไม่น่าแปลกใจเลยที่องค์หญิงซูหยวนสั่งลงโทษนางให้ไปกรมซักล้าง และยังสั่งให้นางบ่าวกลั่นแกล้งนางตลอดสามปี...แต่ตอนนี้ สิ่งที่นางกังวลไม่ใช่องค์หญิงซูหยวน แต่เป็นหมิงอ๋อง!นางสูดลมหายใจและเอ่ยปากถาม "ท่านอ๋องจงใจพูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเพราะเหตุใจหรือเพคะ?"หมิงอ๋องไม่สนใจทั้งยังพ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 99

    แม้จะยิ้ม แต่เฉียวเนี่ยนได้ยินถึงความไม่พอใจที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างชัดเจนแต่ก็ธรรมดาที่หมิงอ๋องจะโกรธต่างหูคู่นี้มีเรื่องราวระหว่างนางกับเซียวเหิงมากเกินไปเมื่อวานนางโยนมันทิ้งต่อหน้าทุกคน แต่วันนี้มันกลับมาปรากฏที่หูของนางอีกครั้ง ในฐานะคู่หมั้นของนาง เป็นเรื่องปกติที่หมิงอ๋องจะโกรธนางจึงอธิบายตามความจริง "อาจเพราะเมื่อวานหม่อนฉันทิ้งมันต่อหน้าผู้คน ทำให้แม่ทัพเซียวเสียหหน้า เมื่อครู่แม่ทัพเซียวจึงสั่งให้หม่อมฉันสวมมันไว้ หากหม่อมฉันไม่สวม ก็เกรงว่าจะไปพูดอะไรกับท่านย่า,,,"หมิงอ๋องรู้ว่าสุขภาพของท่านย่านางไม่สู้ดีนัก"อย่างนี้นี่เอง" หมิงอ๋องแสดงท่าทีเข้าใจในทันที "ข้าก็นึกว่าเนี่ยนเนี่ยนชอบต่างหูนี้มาก ก็เลยเก็บมาเสียอีก ที่แท้แม่ทัพเซียวก็เก็บมาให้นี่เอง"ในตอนท้ายของคำพูด ความมืดมนในดวงตาของหมิงอ๋องก็ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย "ฝ่าบาทวางใจเถิด กลับไปหม่อมฉันจะพูดกับแม่ทัพเซียวให้ชัดเจน ว่าหม่อนฉันจะไม่สวมต่างหูคู่นี้อีก""เช่นนั่นหรือ?" เขาพูดเบาๆ น้ำเสียงเสียดสีเล็กน้อย "หากเขาเอาท่านย่าของเขามาข่มขู่อีกล่ะ?"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป นางไม่ไ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 98

    ราวกับว่า เมื่อครู่นี้เรื่องต่างหูเป็นเพียงเรื่องที่เต๋อกุ้ยเฟยพูดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจเท่านั้นเฉียวเนี่ยนรู้สึกสงสัย แต่ไม่ได้พูดอะไรหมิงอ๋องจูงมือนางเดินไปหาเต๋อกุ้ยเฟยอย่างเป็นธรรมชาติ เขามองดูผ้าบนโต๊ะและพลิกมันไปมา "นี่เป็นผ้าที่ดีที่สุดของกรมภูษาอาภรณ์แล้วหรือ?""ไม่ได้ดีที่สุดหรอก แต่ก็กล่าวได้ว่าเป็นผ้าชั้นดี!" เต๋อกุ้ยเฟยพูดจบก็ถอนหายใจ "ลูกคนนี้ ไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้หรืออย่างไร ถึงได้กล้าขอของดีที่สุด?"กำลังจะถูกส่งไปที่ดินในปกครองเป็นท่านอ๋องแค่ในนามแล้ว ยังได้รับของเหล่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว!หมิงอ๋องได้ยินดังนั้นก็ไม่ตอบโต้แต่มือที่จูงมือเฉียวเนี่ยนกลับออกแรงโดยไม่รู้ตัวเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว เขากุมมือที่หลังมือของนางยังบวมช้ำไม่หายดีจนนางเจ็บแต่นางยังคงไม่พูดอะไรดูเหมือนเต๋อกุ้ยเฟยจะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของหมิงอ๋อง จึงเลือกดูผ้าต่อ ทั้งนำมาทาบบนตัวเฉียวเนี่ยน สักพักก็ทาบบนตัวหมิงอ๋อง "ข้าว่าสองผืนนี้ไม่เลวเลย พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร?"หมิงอ๋องตอบเบาๆ "ท่านแม่ตัดสินใจเถิด"เฉียวเนี่ยนเองก็พูดตอบ "พระสนมตัดสินใจเถิดเพคะ""พวกเจ้าเนี่ย!" เต๋อกุ้ยเฟยมองทั้งสองคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 97

    เซียวเหิงเดินจากไปหลังจากพูดแบบนั้น ราวกับว่าเขาไม่สนใจว่าเฉียวเนี่ยนจะสวมต่างหูหรือไม่แต่เมื่อเฉียวเนี่ยนเห็นขันทีที่นำทางนางก่อนหน้านี้มองนางเป็นครั้งคราวนางก็เข้าใจในทันที ว่าขันทีคนนั้นได้รับคำสั่งมาจากเซียวเหิงเมื่อคิดดีๆ แล้ว ขันทีคนหนึ่งจากตำหนักเต๋อกุ้ยเฟย เมื่อโดนเซียวเหิงขวางไว้กลับหลีกทางอย่างง่ายดาย ไม่มีสีหน้าลำบากใจแม้แต่น้อย!เฮอะ!ตอนนางอยู่ที่กรมซักล้างก็เคยได้ยินว่าแม่ทัพเซียวมีเส้นสายอยู่ทั่ว แต่ไม่คิดเลยว่าแม้แต่เรือนนอนของนางสนมในวังหลังก็จะมีคนคอยเป็นมือเป็นเท่าให้เขาด้วย!นางสูดลมหายใจเข้าลึก และสวมต่างหูตอนที่ขันทีกำลังจับตาดูนางอยู่เมื่อเห็นดังนั้น ขันทีคนนั้นจึงเดินเข้ามา หลังจากโค้งให้เฉียวเนี่ยนอย่างนอบน้อมแล้ว เขาก็นำทางไปเรือนนอนของเต๋อกุ้ยเฟยต่อดูเหมือนว่าเต๋อกุ้ยเฟยจะรอนางนานแล้วก่อนที่เฉียวเนี่ยนจะทำความเคารพ นางก็ทักทายเฉียวเนี่ยนอย่างกระตือรือร้น "ต่อจากนี้ไปเราก็คือครอบครัวเดียวกันแล้ว เจ้าไม่ต้องพิธีรีตองนักหรอก!"นางดึงเฉียวเนี่ยนให้ลุกขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใยอันอ่อนโยน "ข้าได้ยินเจ๋อเอ๋อร์บอกว่าเมื่อวานเข้าช่วยคนตกน้ำ? เป็นอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 96

    ขันทีตอบรับและเดินจากไปอย่างว่าง่ายเฉียวเนี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางคิดว่าที่เซียวเหิงมาขวางนางไว้อย่างอาจหาญเช่นนี้ เป็นเพราะเซียวชิงหน่วนหรือเปล่า?หลังจากที่เซียวชิงหน่วนกลับออกไปแล้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?หรือว่าเป็นเพราะหลินยวน?เฉียวเนี่ยนรู้สึกว่า อย่างหลังน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าok'ลดสายตาลงและไม่พูดอะไร เพียงรอให้เซียวเหิงพูดจบแล้วจากไป อย่างไรก็ตาม จู่ๆ รองเท้าบูทคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสายตาของนางบรรยากาศที่คุ้นเคยนั้นห่อหุ้มนาง และเฉียวเนี่ยนสะดุ้งทันที นางเงยหน้าขึ้นมองและตระหนักว่าเซียวเหิงเดินเข้ามาใกล้นางแล้วใกล้มากๆ!ใกล้จนใครอื่นเห็นเข้าก็จะนินทา!นางต้องการรักษาระยะห่างกับเขาโดยสัญชาตญาน จึงรีบถอยหลังไปสองก้าวแต่จู่ๆ ก็มีความเจ็บเหมือนโดนดึงแล่นมาจากติ่งหูของนางเฉียวเนี่ยนนรีบกุมหูของนาง และต้องตกใจเมื่อพบว่ามีต่างหูอยู่ที่หูของนางวันนี้นางเข้ามาในพระราชวังโดยแต่งกายเรียบง่ายและไม่สวมเครื่องประดับใดๆ ที่หูเมื่อครู่นี้เซียวเหิงสวมต่างหูนี้ให้นางหรือ?ความคิดดังกล่าวเข้ามาในใจของนาง และเฉียวเนี่ยนก็ตกตะลึง นางมองไปที่เซียวเหิง และเห็นว่าเข

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 95

    แม้ว่าเฉียวเนี่ยนจะแกล้งหมดสติแต่คนอื่นเห็นเหมือนกันว่า นางกับเซียวชิงหน่วนถูกอุ้มมาที่จวนโหว และถูกส่งเข้าไปยังเรือนฟางเหอพร้อมกันนางก็ได้รับการรักษาจากท่านหมอเหมือนกับเซียวชิงหน่วน!แต่ทำไม หลินเย่ว์ถึงได้เอาแต่ห่วงใยหลินยวน กระทั่งเป็นห่วงเซียวชิงหน่วนที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขา ทำไมถึงลืมไปแล้วว่านางก็เคยเป็นน้องสาวของเขา?เขาเคยเอ็นดูนางที่สุดไม่ใช่หรือ?ไม่ใช่ว่าเคยตามหาของที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้เพื่อนางหรือ?ไม่ใช่ว่าเคยต่อยตีกับคนอื่นเพื่อนางตยหัวร้างข้างแตกหรอกหรือ?ทำไมตอนนี้เขาถึงได้เป็นห่วงทุกคน ยกเว้นนางเสียล่ะ?หัวใจของหลินเย่ว์สั่นไหวเล็กน้อยเพราะคำถามของเฉียวเนี่ยนจนเขาไม่กล้าสบตาของเฉียวเนี่ยน ที่ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง และไม่รู้ว่าควรตอบคำถามอย่างไรดีแต่หลินยวนที่อยู่ข้างๆ กลับร้องไห้อย่างหนัก หนักจนร่างกายของนางต้องพิงเขาไว้แล้วสะอึกสะอื้นหลินเย่ว์รู้ว่าวันนี้หลินยวนโดนเข้าใจผิดอย่างหนักเมื่อนึกถึงเมื่อครู่ที่หลินยวนโดนเพื่อนที่รักที่สุดด่าว่าเช่นนั้น ล้วนเป็นเพราะเฉียวเนี่ยน ความรู้สึกผิดต่อเฉียวเนี่ยนของหลินเย่ว์ก็หายไปจนหมดเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 94

    เซียวชิงหน่วนหันหลังและวิ่งออกไปหลังจากพูดจบเมื่อเห็นดังนั้น หลินยวนก็เรียกอย่างร้อนรน "หน่วนหน่วน หน่วนหน่วน!"แต่เซียวชิงหน่วนสนนางที่ไหนกัน?จากนั้น หลินยวนจึงรีบไปดึงแขนเซียวเหิง "ท่านพี่เหิง ท่านตามไปสิ!""ไม่ต้องสนนาง! ปากแบบนาง ต้องทำให้นางรู้สำนึกเสียบ้าง!" เซียวเหิงรู้สึกว่าหากวันนี้เขาไม่อบรบสั่งสอนเซียวชิงหน่วนให้ดี ไม่ช้าก็เร็วนางจะต้องเดือดร้อนเพราะปากของตนเป็นแน่หลินยวนกลับรีบร้อนมากกว่าเดิม "แต่ว่าหน่วนหน่วนจมน้ำและเพิ่งจะฟื้น หากให้นางวิ่งหนีไปเช่นนี้ ข้าก็ไม่สบายใจ! ท่านพี่เหิง ข้าขอร้องล่ะ ท่านลืมไปตามนางเถอะนะ!หลินยวนพูดพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ทำให้เซียวเหิงใจอ่อนเขาขมวดคิ้วและเหลือบมองมองเฉียวเนี่ยน จากนั้นก็วิ่งออกไปเมื่อเซียวเหิงจากไป หลินยวนก็ยังคงสะอึกสะอื้นอยู่ที่เดิมหลินเย่ว์ชี้นิ้วไปที่เฉียวเนี่ยน "ดูเรื่องงามหน้าที่เจ้าก่อไว้สิ!"เฉียวเนี่ยนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและมองหลินเย่ว์ "ข้าทำอะไร?""ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ายุแยง แม่นางเซียวจะคิดโทษยวนเอ๋อร์ได้หรือ?" หลินเย่ว์ยกมือชี้หน้าเฉียวเนี่ยน อีกครั้ง "เจ้าอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ให้คนอื่นสบายใจหน่อ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 93

    แน่นอนว่านางไม่ได้ฟังพลาดไปแต่เป็นเพราะตอนนั้นหลินยวนยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เฉียวเนี่ยนก็กระโดดลงน้ำมาแล้วหลินยวนมีสีหน้าบิดเบี้ยวขึ้น เฉียวเนี่ยนแอบหัวเราะในใจทำไมถึงเดาออกได้นะ?เดิมที นางไม่ได้อยากจะช่วยชีวิตเซียวชิงหน่วน เพราะอย่างไรเซียวชิงหน่วนก็เป็นคนทำร้ายนางก่อน ที่ตกน้ำก็เพราะนางทำตัวเองแต่ที่หลินยวนพูดต่อมา ทำให้เฉียวเนี่ยนรู้สึกแปลกๆผู้ชายที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนล้วนว่ายน้ำเป็น โดยเฉพาะคนเรือที่ว่ายน้ำเก่งมาก แต่หลินยวนกลับไม่ยอมให้พวกเขาลงน้ำไปช่วยคน เพียงเพราะอยากปกป้องชื่อเสียงของเซียวชิงหน่วนผู้หญิงสองคนที่เหลืออยู่คือนางกับหลินยวน เช่นนั้นคนที่ว่ายน้ำเป็นอย่างนางก็ต้องเป็นคนลงไปช่วยโดยปริยายหากในตอนนั้นหลินยวนทันได้พูดขอร้องออกมา คนที่ลำบากก็จะเป็นนาง คนที่ได้รับความดีความชอบก็จะเป็นหลินยวนดีที่ตอนนี้หลินยวนไม่มีอะไรที่สามารถโต้เถียงได้เลยมีเพียงน้ำตาใสๆ หยดลงมาอย่างน่าสงสารหลินเย่ว์ดึงหลินยวนไปปลอบใจเซียวเหิงขมวดคิ้วมองไปยังเซียวชิงหน่วน "ยวนเอ๋อร์อยากจะขอร้องเฉียวเนี่ยนให้ลงไปช่วยเจ้าจริงๆ เพียงแต่เฉียวเนี่ยนกระโดดลงไปช่วยเจ้าก่อนเท่านั้นเอง เรื่อง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 92

    เมื่อได้ยินที่เฉียวเนี่ยนพูด สิ่งที่เซียวชิงหน่วนสนใจก็ไม่ใช่เรื่องของหลินยวนอีกต่อไปนางขมวดคิ้วพลางมองเฉียวเนี่ยน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็า "เจ้าจะแต่งงานกับหมิงอ๋องจริงหรือ?"เฉียวเนี่ยนไม่คาดคิดว่าเซียวชิงหน่วนจะถามแบบนี้ นางจึงอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งตัวตรง "มีการออกพระราชกฤษฎีกาให้แต่งงานแล้ว ข้าก็ต้องทำตามนั้น""แต่พี่ชายข้าเคยเตือนเจ้าแล้วนี่" เซียวชิงหน่วนเม้มริมฝีปากแล้วพลิกตัวลงจากเตียง "พี่ชายข้าบอกว่าเจ้าอยากแต่งงานกับหมิงอ๋องใจจะขาด อย่าคิดว่าเจ้าได้ปีนขึ้นไปในที่สูงแล้วล่ะ หมิงอ๋องนั่นไม่ใช่คนดี! เขาปกป้องเจ้าต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น เจ้าคิดว่าคนอื่นจะอิจฉาหรือไง? ที่จริงทุกคนล้วนแอบหัวเราะและเวทนาเจ้าทั้งนั้น!"เซียวชิงหน่วนพูดพลางก้าวไปด้านนอก ตอนที่นางเดินผ่านเฉียวเนี่ยน นางก็ชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย "เจ้าไม่อยากให้ข้ากลายเป็นคนโง่ ข้าเองก็ไม่อยากให้เจ้าถูกขังอยู่ในความมืดมิดเช่นกัน เฉียวเนี่ยน หากวันใดขาวจะพาเจ้าไปเฉิงซี จำไว้ว่าห้ามไปเด็ดขาด"เฉิงซี?เฉียวเนี่ยนไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เซียวชิงหน่วนไม่ได้พูดต่อ นางเปิดประตูและเดินออกไปทันทีทว่าหลินยวนและคนอื่นๆ บังเอิญมา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status