Share

บทที่ 124

Author: โม่เสียวชี่
เซียวเหิงแววตาหม่นลง มองหลินเย่ว์อย่างเย็นชา

บางอย่างแวบเข้ามาในหัวหลินเย่ว์ ทันในนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่า เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องจริงได้

หากคนอื่นคิดว่าเป็นเรื่องจริงเท่านั้นก็พอแล้ว!

เขาแอบตกใจไม่น้อย เหลือบเซียวเหิง เรียวคิ้วขมวดมุ่น "ซ้อมรบออกศึกมานานหลายปี แต่กลับเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าเดิม"

เซียวเหิงถือเสียว่าประโยคนั้นเป็นคำชม มุมปากยกยิ้มร้าย

ทว่าหลินเย่ว์กลับทอดถอนใจ "หากเป็นเช่นนั้นจริง ชาตินี้เนี่ยนเนี่ยนคงเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ!"

แม้แต่ตอนนี้นางยังไม่ยอมเรียกเขาว่าท่านพี่ด้วยซ้ำ หากถึงคราวต้องแต่งงานกับเซียวเหอเข้าจริง เกรงว่าเขาคงกลายเป็นศัตรูไปตลอดชาติ

เซียวเหิงหลุบตายิ้ม "นางรู้อยู่แล้วว่าเจ้าหวังดีกับนาง"

เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเย่ว์กลับฮึดฮีด "แม่นั่นน่ะใจไม้ไส้ระกำ จะไปรู้เรื่องรู้ราวอะไร!"

แต่ถึงจะไม่รู้แล้วอย่างไรเล่า?

เขาเป็นพี่ชายของนาง ทั้งๆ ที่รู้ว่านางจะต้องถูกหมิงอ๋องทำร้ายปางตาย จะให้เขามองนางกระโดดเข้ากองไฟตาปริบๆ หรือ!

ต่อให้นางโกรธเกลียดเขาไปตลอดชีวิต ก็คุ้มกับการที่นางมีชีวิตอยู่ต่อไป!

เมื่อวางแผนแล้ว หลินเย่ว์ก็กระดกเหล้า แววตา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 125

    แต่เกรงว่าจะพาตัวมาไม่ได้น่ะสิหลินยวนปกป้องเสี่ยวชุ่ยขนาดนั้น ทั้งยังรู้ว่าการที่เสี่ยวชุ่ยถูกเรียกมายังเรือนฟางเหอนั้นหมายความอย่างไร แล้วนางจะยอมให้มาได้ง่ายๆ หรือ?แล้วก็เป็นเช่นนั้น เมื่อเฉียวเนี่ยนเดินออกมาจากเรือนของฮูหยินเฒ่า ก็เห็นหนิงซวงยืนหน้าบึ้งตึง ใจในก็พอเดาออกแล้ว"คุณหนูเจ้าคะ..." หนิงซวงกำลังจะอ้าปากฟ้อง แต่ก็ถูกเฉียวเนี่ยนแทรกขึ้น "ไปกัน ไปเรือนลั่วเหมย"นางเอ่ยพลางเดินมุ่งหน้าไปยังเรือนลั่วเหมยหนิงซวงรีบตามไปในทันที "คุณหนูจะไปที่เรือนลั่วเหมยจริงหรือเจ้าคะ? หากถูกนายท่านรู้เข้า...""ก็ให้พวกเขารู้ไปสิ" เฉียวเนี่ยนเชิดคางขึ้นเล็กน้อน มุมปากยกยิ้มบาง "ทางที่ดีให้หลินเย่ว์รู้ด้วย"เมื่อได้ยินดังนั้นหนิงซวงก็เกิดสงสัย ไม่รู้ว่าคุณหนูหมายความว่าอย่างไร แต่ก็ส่งสัญญาณบอกสาวใช้ที่เหลือ ให้พวกนางส่งข่าวเรื่องนี่คุณหนูกำลังจะไปที่เรือนลั่วเหมยยามนี้เป็นต้นวสันต์ ดอกเหมยในเรือนลั่วเหมยนั้นร่วงโรยหมดแล้ว เหลือเพียงไม่กี่ดอกที่ชูช่ออยู่บนกิ่งไม้บรรยากาศนั้นดูเงียบเหงากว่าเรือนฟางเหอนักเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนมาเยือน ท่าที่ของทั้งนายและบ่าวเรือนลั่วเหมยนั้นเหมือนดั่งพ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 126

    "ฮูหยินเจ้าคะ จู่ๆ คุณหนูก็จับไข้ เกรงว่าจะท่านจะติดไข้เอา ท่านอย่าเข้าใกล้นักเลยเจ้าค่ะ"ขืนอยู่ใกล้ก็ความแตกกันพอดีเมื่อได้ยินดังนั้นฮูหยินหลินจึงหยุดฝีเท้าลง มองอยู่ห่างๆ "ยังดีๆ อยู่เลยเหตุใดถึงป่วยได้?"เสี่ยวชุ่ยไม่ตอบ หลินยวนที่แสร้งหลับอยู่บนเตียงก็ไม่พูดมีเพียงเสียงอ่อนโยนของเฉียวเนี่ยนปลอบประโลม "ฮูหยินวางใจเถิดเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวหมอประจำจวนก็มาแล้ว"เมื่อได้ยินว่าหมอประจำจวนจะมา เสี่ยวชุ่ยก็พลันร้อนรนแต่ก็ยังก้มหน้าไม่พูดไม่จาส่วนหลินเย่ว์กลับจดจ่ออยู่ที่เฉียวเนี่ยน "ยวนเอ๋อร์ป่วย เหตุใดเจ้าถึงเป็นห่วงปานนี้?"ผิดปกตินักทว่าเฉียวเนี่ยนกลับหัวเราะ "ข้าไม่ได้มาเพราะเป็นห่วงคุณหนูหลินหรอกเจ้าค่ะ แต่วันนั้นคุณหนูหลินพูดเองต่อหน้าโถงบรรพบุรุษว่า วันหน้าหากข้าอยากลงโทษเสี่ยวชุ่ยเมื่อใดก็ให้พาตัวเสี่ยวชุ่ยไปได้ทุกเมื่อ ข้ามาเพราะเหตุนี้"เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเย่ว์ก็ยิ่งขมวดคิ้ว "ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่ได้หวังดี!"คำด่าทอของหลินเย่ว์ เฉียวเนี่ยนชินชาเสียแล้วนางยกยิ้มมุมปาก "แต่ตอนนั้นตกลงกันต่อหน้าโถงบรรพบุรุษตระกูลหลินแล้วนี่เจ้าคะ ทำไมกัน คนตระกูลหลินจะคืนคำหรือ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 127

    ประโยคนั้นทำเอาหลินยวนชะงักไปนางมองเฉียวเนี่ยนด้วยความประหลาดใจ ในแววตาแฝงไปด้วยความตื่นตระหนก สลับสน ทั้งยัง...หวาดกลัว?เฉียวเนี่ยนไม่เข้าใจ นางแค่ถามสาวใช้ข้างกาย เหตุใดหลินยวนถึงได้ตื่นกลัวปานนั้นถึงขนาดลืมร้องไห้ นิ่งอึ้งไปเสียอย่างนั้น ไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียวทว่าหลินเย่ว์กลับทนเห็นต่อไปไม่ไหวเขาเดินเข้ามา เบียดเฉียวเนี่ยนไปอีกทาง ก้มตัวลงพยุงหลินยวนให้ลุกขึ้น "เสี่ยวชุ่ยกับยวนเอ๋อร์โตมาด้วยกัร พวกนางเข้าใจกันประหนึ่งพี่สาวน้องสาว เจ้าคิดว่าคนอื่นจะเลือดเย็นไร้หัวใจเหมือนเจ้าทั้งนั้นหรือ"แม้แต่ฮูหยินหลินยังต้องเอ่ยปากพูด "เนี่ยนเนี่ยน แม่รู้ว่าเจ้าคงกังวลว่าจะมีคนคิดร้ายแฝงกายอยู่ใกล้ตัวน้องสาวเจ้า แต่เจ้าวางใจเถิด เดิมทีตอนยวนเอ๋อร์กลับมาอยู่ที่จวน พวกเราส่งคนไปสืบมาแล้ว เสี่ยวชุ่ยเป็น...เป็นลูกสาวของเพื่อนบ้านของพ่อแม่แท้ๆ ของเจ้า ดังนั้นจึงสนิทกับยวนเอ๋อร์นัก"ฮูหยินหลินจงใจเอ่ยถึงพ่อแม่ที่แท้จริงของเฉียวเนี่ยนในวินาทีนั้น ไม่รู้เพราะฟอกขาวตัวตนของเสี่ยวชุ่ย หรือว่าเพราะข่มเหงเฉียวเนี่ยนทว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนไปเฉียวเนี่ยนนั้นไม่สนใจลมปากของคนในจวนโหวมาตั้งนานแล้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 128

    เพิ่งจะข้ามสะพานหิน หนิงซวงก็พลันเตะข้อพับหัวเข่าของเสี่ยวชุ่ย ตวาดลั่น "คุกเข่า!"สาวใช้นางหนึ่งช่างหัวไวนัก เห็นดังนั้นก็รีบยกเก้าอี้มาให้เฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ หนิงซวงยื่นแก้วชาร้อนให้ เฉียวเนี่ยนรับไปแล้วเผยอเปิดฝาถ้วยเพื่อกรองใบชาที่ลอยอยู่ด้านบนออกทำอยู่อย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าเสียงฝาถ้วยกระทบกับถ้วยชาดังกังวาน แต่กลับแหลมคมปานใบมีด ปาดลึกถึงหัวใจของเสี่ยวชุ่ยทั้งแล้วทั้งเล่าเสี่ยวชุ่ยคุกเข่าลง ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไร้ซึ่งท่าทีกำเริบเสิบสาน พูดจาชัดถ้อยชัดคำเหมือนยามที่ป้ายสีนางเมื่อสามปีก่อนเฉียวเนี่ยนเพิ่งยกชาขึ้นจิบ ก่อนจะยิ้มบาง "คิดหรือไม่ว่าวันหนึ่งจะตกอยู่ใต้เงื้อมือข้า?"คำพูดนั้นเหมือนจี้จุดบางอย่างบนตัวของเสี่ยวชุ่ย นางคลานเข่าเข้ามาหา จับข้อเท้าของเฉียวเนี่ยนแล้วร้องขออ้อนวอน "คุณหนูใหญ่ไว้ชีวิตข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าผิดไปแล้ว! ยามนั้นข้าหน้ามืดตามัว ข้าไม่นึกเลยว่าคุณหนูใหญ่จะถูกจับส่งไปเป็นบ่าวที่กรมซักล้างถึงสามปี! สามปีมานี้ ข้ารู้สึกมาตลอด ข้าผิดเอง ข้าขอกราบเท้าท่าน!"ว่าจบก็ก้มหัวโขกพื้นกราบเฉียวเนี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงดังก้อ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 129

    วันต่อมา เฉียวเนี่ยนเข้าวังพร้อมกับฮูหยินหลินเต๋อกุ้ยเฟยรออยู่ก่อนหน้าแล้วเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยน เต๋อกุ้ยเฟยก็รีบเข้ามารับ น้ำตาร้อนผ่าวคลอเบ้า "เนี่ยนเนี่ยนเจ้ามาแล้วหรือ! ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่มาพบข้าอีกแล้วเสียอีก!""เป็นเช่นนั้นได้อย่างไรเพคะ" เฉียวเนี่ยนตอบกลับ ราวกับคนสุขสบายดีเต๋อกุ้ยเฟยดีใจยิ่ง เหลือบตามองฮูหยินหลินอย่างอดไม่ได้จากนั้นก็ได้ยินเสียงฮูหยินหลินเอ่ย "ข้าบอกท่านแล้ว เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้เก็บเรื่องนั้นมาใส่ใจ ท่านดันไม่เชื่อ"เมื่อได้ยินดังนั้น เต๋อกุ้ยเฟยก็พยักหน้ารัว "นั่นสิ ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆ... โธ่ เข้ามาข้างในก่อนเถิด!"เต๋อกุ้ยเฟยพูดพลางจูงเฉียวเนี่ยนเดินเข้าไปทว่าครั้นก้าวเข้าประตูมา ฝีเท้าของเฉียวเนี่ยนก็พลันหยุดลงนั่นเป็นเพราะว่าภายในห้องนั้นมีคนคุกเข่าอยู่เห็๋นเพียงแค่แผ่นหลังก็รู้ว่านั่นคือหมิงอ๋องสีหน้าของเฉียวเนี่ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เต๋อกุ้ยเฟยรีบเอ่ยแก้ต่าง "เจ้าเด็กคนนี้สารเลว วันนี้ข้าจะสั่งสอนเขาต่อหน้าเนี่ยนเนี่ยนเอง ดูซิว่าวันหน้าเขาจะกล้ารังแกเจ้าอีกหรือไม่!"เต๋อกุ้ยเฟยว่าพลางรับไม้เรียวจากนางบ่าว ก่อนจะฟาดลงบนหลังของหมิงอ๋องอย่างแรง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 130

    แววตาเมื่อครู่ของหมิงอ๋อง แทบจะอยากเฆี่ยนตีนางให้เป็นแผลจนไม่เหลือชิ้นดีเสียตรงนั้น เอาให้ครึ่งเป็นครึ่งตายถึงจะสาแก่ใจด้วยซ้ำด้วยซ้ำเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนไม่พูด ในหัวเต๋อกุ้ยเฟยก็พลันว่างเปล่านางครุ่นคิดก่อนจะส่งสายให้กับหัวหน้านางบ่าวของตนหัวหน้านางบ่าวพยักหน้าในทันใด เดินนำนางบ่าวและขันทีออกไปนอกห้องภายในห้องเหลือเพียงเต๋อกุ้ยเฟย ฮูหยินหลิน และเฉียวเนี่ยนฮูหยินหลินประหลาดใจ เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ "กุ้ยเฟยจะ..."ทว่ากลับเห็นภาพเต๋อกุ้ยเฟยกุมมือเฉียวเนี่ยน เอ่ยเสียงอ่อน "เจ้ารอสักครู่"ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง ไม่นานก็ออกมาในมือถือโฉนดที่ดินฉบับหนึ่ง"นี่คือกิจการนอกวังของข้า เป็นร้านขายเสื้อผ้า เจ้ารับไว้เสีย"ขณะพูดนั้นนางก็ยัดโฉนดที่ดินใส่มือเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจไม่น้อย อันที่จริงวันนี้นางมาเพื่อหมิงอ๋อง ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับสิ่งใดจากเต๋อกุ้ยเฟยแม้แต่ฮูหยินหลินเองก็ตกตะลึง "นี่คือสินเดิมของท่านนะเพคะ ราคาสูงเกินไป! ไม่ได้เด็ดขาดเพคะ!""ประเดี๋ยวเนี่ยนเนี่ยนก็จะเป็นสะใภ้ของข้าแล้ว เหตุใดจะไม่ได้?" เต๋อกุ้ยเฟยเอ่ย เมื่อเห็นว่าท่าทีว่าเฉียวเนี่ยนจะไม่ยอมร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 131

    เมื่อเห็นบนใบหน้าว่าเฉียวเนี่ยนไม่มีท่าทีหวาดกลัวต่อเฉิงซีแม้แต่น้อย หมิงอ๋องก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเฉียวเนี่ยนตั้งใจจะพาเขาไปที่ใดกันแน่ในตอนนั้นเขาก็พยักหน้าเล็กน้อย รอยยิ้มที่มุมปากเต็มไปด้วยความดูแคลนเขาไม่คิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะสามารถหนีรอดจากกำมือของเขาได้คนที่พ่อแม่ส่งตัวมาให้เขาเองถึงหน้าประตู จะหลุดมือเขาไปได้อย่างไร?เพียงแต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือ เฉียวเนี่ยนพาเขาไปยังโรงน้ำชาหยวนไหลซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาเคยตกลงนัดพบกันในตอนแรก แต่กลับถูกหลินเย่ว์สับเปลี่ยนจดหมาย ทำให้สุดท้ายทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันโรงน้ำชามีทั้งหมดสองชั้น ชั้นล่างจะมีห้องโถงใหญ่ตรงกลางซึ่งมีเวทีเล็กๆ บนเวทีนั้นจะมีนักร้องหญิงขึ้นร้องเพลงเสมอ และบางครั้งก็จะมีการแสดงการเล่นกลด้วยแต่วันนี้บนเวทีนั้นกลับเป็นนักเล่าเรื่องคนหนึ่งเรื่องราวดูเหมือนจะน่าสนใจมาก ลูกค้าในโรงชาต่างก็ฟังอย่างตั้งใจเฉียวเนี่ยนกับหมิงอ๋องนั่งลงตรงที่ที่เด็กรับใช้ในโรงน้ำชาแนะนำแต่เมื่อเด็กรับ้รินน้ำชาเสร็จ สีหน้าของหมิงอ๋องก็เปลี่ยนไปทันทีเพราะว่านักเล่าเรื่องที่กำลังเล่าไม่ได้เล่าเรื่องของคนอื่น แต่เป็นเรื่องของเขาเอง!ถึ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 132

    หากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันหมดแล้ว อย่าพูดถึงแค่การแต่งงานระหว่างหมิงอ๋องกับจวนโหวเลย แม้แต่การแต่งงานกับตระกูลเสนาบดีที่มีอำนาจในราชสำนักเขาก็ไม่มีสิทธิ์ และเขาก็ไม่มีทางกลับเข้าเมืองหลวงได้อีกตลอดชีวิต!และในตอนนั้น สำหรับหมิงอ๋อง การกลับเข้าเมืองหลวงไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้วสิ่งที่สำคัญคือศักดิ์ศรีของเขา คือเกียรติของเขาในฐานะบุรุษคนหนึ่ง!ความบกพร่องทางร่างกายของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครรู้เป็นอันขาด!หมิงอ๋องสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความโกรธถูกเขาระงับไว้แน่นที่อก ไม่กล้าปล่อยมันออกมาแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังคงสงสัย "เจ้า...รู้ได้อย่างไร?"เรื่องที่เขามีความบกพร่องทางร่างกายมีเพียงไม่กี่คนที่รู้!เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบ แต่หมิงอ๋องก็คิดอะไรบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว "เป็นนางบ่าวจากกรมซักล้างที่ถูกย้ายไปดูแลท่านแม่ของข้าหรือ? ชื่ออะไรนะ หลิ่วเหนียงใช่ไหม?"เขาคิดว่า คงมีแค่คนใกล้ชิดท่านแม่ของเขาเท่านั้นที่อาจจะได้ยินเรื่องราวบางอย่างของเขา!เฉียวเนี่ยนแอบสะดุ้งเล็กน้อยนางไม่สามารถให้หลิ่วเหนียงต้องมาเกี่ยวข้องได้ใบหน้าของนางกลับไม่แสดงอาการใดๆ และพูดว่า "หลิ่วเหนียงเป็นแค่นาง

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 191

    เมื่อได้ยินดังว่า เฉียวเนี่ยนกลับแค่นหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “ถ้านี่ถือเป็นความผิด เช่นนั้นสามปีก่อน พวกท่านแต่ละคนก็ทำผิดหมดมิใช่หรือ?”ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทุกคนในห้องโถงพลันชะงักค้างทันใดราวกับฮูหยินหลินโดนกระตุ้นบางอย่างเข้า ยืนขึ้นซวนเซ ถอยหลังไปสองก้าว “เจ้า เจ้า......”เฉียวเนี่ยนปราดตามองนาง เงียบงันไร้เสียงทว่าฮูหยินหลินปาดน้ำตาออก “ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้ายังโทษพวกเราอยู่! แต่ว่านะเนี่ยนเนี่ยน นี่มันไม่เหมือนกัน! เรื่องนั้นกระทันหันมาก มันเป็นอุบัติเหตุ! ทว่าวันนี้ เจ้าจงใจวางแผนทำร้ายยวนเอ๋อร์! สองเรื่องนี้ จะมาพูดปนกันได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนหัวเราะเสียงต่ำ “จงใจ วางแผนทำร้าย......สองคำนี้ ใช้ได้ดีนี่!”"แล้วไม่ใช่หรือไร?" หลินเย่ว์เข้ามาถาม “เจ้ากล้าพูดไหม ว่าเจ้าไม่ได้ทำตามคำสั่งองค์หญิง จงใจยุยงให้ยวนเอ๋อร์เข้าวัง?”“ข้าทำตามคำสั่งองค์หญิง ให้พานางเข้าวังจริง” เฉียวเนี่ยนตอบรับอย่างสง่า เสียงดังก้อง ไร้ซึ่งท่าทีหวาดผวาสายตานางมองตรง ไม่มองใครในห้องโถงสักคน เพียงบอกสาธยายความจริงด้วยความสงบนิ่งเท่านั้น “แต่ ชุดที่หลินยวนสวมนั้น เซียวเหิงเอามาให้ข้าจริงๆ”ได้ยินดัง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 190

    เมื่อได้ยิน เซียวชิงหน่วนยกมือถูน้ำตาที่เกือบไหลเต็มที อดถามขึ้นอีกไม่ได้ “ตอนนั้นเฉียวเนี่ยนคิดใส่ร้ายหลินยวนจริงหรือ?”เซียวเหิงพยักหน้าตอนนั้นยามเขาเร่งไปถึง ถ้วยแก้วก็แตกไปแล้วเฉียวเนี่ยนกำลังคุกเข่าบนพื้น ชี้นิ้วใส่หลินยวนพูดทั้งน้ำตาว่าหลินยวนเป็นคนทำถ้วยแก้วแตกทว่าตอนนั้น สายตาเหง้าตระกูลหลินอยู่ตรงนั้นมากมาย ไหนเลยจะปล่อยให้นางถูกใส่ความได้!เพราะนางคิดทำร้ายผู้อื่นก่อน ได้รับโทษไปก็สมควรแล้วแต่เขาไม่คาดคิดว่า สามปีจะเนิ่นนานขนาดนี้......เซียวชิงหน่วนสูดจมูก “วันนี้นางก็เป็นคนทำร้ายหลินยวนก่อน” พูดไปเซียวชิงหน่วนก็อดกล่าวโทษเซียวเหิงไปทีเสียไม่ได้ “แต่ พี่ใหญ่ก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย ท่านเอาชุดมอบให้นางไป? อย่าลืมสิ ว่าตอนนี้ท่านเป็นคู่หมั้นของหลินยวน!”เซียวเหิงไม่เคยโดนเซียวชิงหน่วนสั่งสอนมาก่อน เลิกคิ้วทันควัน มองเซียวเหิงด้วยสายตาคุกคามทรงอำนาจ “ต้องให้เจ้าเตือนด้วยหรือ?”เซียวชิงหน่วนเผลลอถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่ปากยังเอ่ยต่อ “ข้ากลัวท่านสับสน ในเมื่อรู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นคนแบบนั้น เช่นนั้นก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับนางมาก ใครจะรู้ว่าต่อไปนางจะทำร้ายใครอี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 189

    เซียวชิงหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองความขมขื่นบนหน้าเฉียวเนี่ยน หัวใจพลันเกิดความรู้สึกไม่สบายแต่เมื่อนึกได้ว่าทุกอย่างที่หลินยวนประสบในวันนี้ล้วนเป็นฝีมือเฉียวเนี่ยนแล้ว นางก็อดเอ่ยเสียงเข้มขึ้นอีกครั้งเสียไม่ได้ “แม้เจ้ากับข้าจะทะเลาะกันมาแต่เด็ก ขวางหูขวางตากันมาตลอด แต่ข้ารู้ว่านิสัยแท้จริงเจ้ามิใช่คนเลวร้าย ไม่ว่าอย่างไร เรื่องตอนนั้น หลินยวนมิได้ทำผิด เจ้าทำร้ายนางเช่นนี้ ระวังท้ายสุดจะย้อนมาทำร้ายตัวเจ้าเองล่ะ”พูดประโยคนี้จบ เซียวชิงหน่วนก็เดินไปด้านข้าง พูดคุยกับเหล่าคุณหนูที่คุ้นเคยหากแต่ สายตาของนางยังคงมองไปยังเฉียวเนี่ยนอยู่เสมอนางเห็นเฉียวเนี่ยนเดินไปยังมุมลับสายตาด้วยสีหน้าเหงาซึม เชยชมดอกไม้ที่ไม่สวยงามนักดอกหนึ่ง ทว่าสายตากลับหม่นหมองไร้แสงงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูปีนี้ เป็นเพราะองค์หญิงไม่พึงใจทั้งยังจากไป งานจึงเลิกราเร็วยิ่งยามเซียวชิงหน่วนกลับถึงจวนเซียว ฟ้าก็มืดไม่เห็นแสงแล้วเซียวเหิงกลับมาถึงจวนนานแล้ว ตอนเซียวชิงหน่วนตามเขาเจอ เขาก็ฝึกดาบในลานเรือนของตนแล้วด้วยเหตุนี้ เซียวชิงหน่วนจึงยืนมองอยู่ข้างๆ มิได้เข้าไปรบกวน คอยกระทั่งเซียวเหิงเก็บพลังแล้ว นางถึงรับ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 188

    คำพูดเอ่ยเพียงเท่านี้ เซียวเหิงก็เข้าใจแล้ว วันนี้องค์หญิงซูหยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแน่ยิ่งไปกว่านั้น ขันทีน้อยข้างๆยังคลานเบื้องหน้าองค์หญิง ร้องไห้รายงานเรื่องราว “องค์หญิง นางทับดอกถานฮวาของท่านเสียหายแล้วพะยะค่ะ!”องค์หญิงซูหยวนมองตามปลายนิ้วขันทีน้อย ก่อนตะโกนกร้าวด้วยความกริ้วโกรธทันใด “บังอาจ! ริอ่านทำลายดอกถามฮวาที่ข้ารักที่สุดลง! หลินยวน! เจ้าคงรู้สินะว่าดอกถานฮวาพวกนี้ล้ำค่าขนาดไหน!”หลินยวนโดนองค์หญิงซูหยวนตะคอกใส่ รีบหลับในอ้อมอกเซียวเหิงตัวสั่นรุนแรงทว่าไม่ทันให้นางได้เอ่ยปาก หลินเย่ว์กุมมือคารวะเอ่ย “ทูลฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ ยวนเอ๋อร์มิได้ตั้งใจทำลายของรักขององค์หญิง ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ขอองค์หญิงโปรดมองให้กระจ่างแจ้ง”“บังอาจ!” นางกำนัลหลวงข้างกายองค์หญิงต่างทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป “ในเมื่อทำลายของรักขององค์หญิง ถือเป็นโทษทั้งสิ้น! ท่านโหวน้อยเอ่ยอ้างเช่นนี้ จะบอกว่าองค์หญิงไม่แยกแยะถูกผิดอย่างนั้นหรือ?”“กระหม่อมมมิบังอาจ!” หลินเย่ว์รีบคำนับ “หากแต่ยวนเอ๋อร์เกิดอุบัติเหตุล้มใส่จริงพะยะค่ะ เรื่องนี้ทุกคนล้วนเป็นพยานได้”เมื่อได้ยินดังนั้น องค์หญิงซูหย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 187

    คล้อยหลังเสียงกรีดร้อง ขันทีน้อยอายุราวสิบที่คอยเฝ้ามองรีบปรี่เข้ามาข้างกายหลินยวน ก่อนดึงให้หลินยวนลุกขึ้นทว่า สายเกินไปแล้วแปลงดอกไม้ถูกหลินยวนทับใส่ไม่เหลือชิ้นดี ดอกไม้น่าสงสารหลายต้นโดนทับจนจมดิน ไม่เหลือซึ่งความงดงามดังเดิมขันทีเห็นภาพตรงหน้า พลันทรุดตัวนั่งทันใด “แย่แล้ว จบสิ้นหมดแล้ว......”พูดไป ทันใดนั้นขันทีน้อยนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงคว้าหมับเข้าชายกระโปรงหลินยวน “เป็นเพราะเจ้า! นี่เป็นสิ่งที่องค์หญิงรับสั่งให้ไปรับจากชมพูทวีปมาด้วยราคาสูง! ข้ากับอาจารย์ทุ่มเทความพยายามยิ่งกว่าจะปลูกสองดอกนี้ได้ อีกไม่กี่เดือนก็ผลิดอกบานแล้ว แต่ตอนนี้ถูกเจ้าทับเละแล้ว! เจ้าต้องชดใช้!”ขันทีน้อยพูดไปพลางร้องไห้ดังลั่น ดึงดูดให้ฝูงชนล้อมวงเข้ามาชุดของหลินยวนเปรอะเปื้อนดินไม่น้อยเพราะล้มใส่แปลงดอก มองตัวเองกลายเป็นตัวตลกที่ฝูงชนหัวเราะเยาะอีกครั้ง จิตใจร้อนรนทนไม่ไหว จึงรีบดึงชุดตนเองกลับมา “เจ้า รีบปล่อยมือ!”“ข้าไม่ปล่อย! เจ้าต้องชดใช้ดอกถามฮวาให้ข้า!” ขันทีน้อยตัดสินใจแล้วว่าวันนี้ต้องทำให้หลินยวนพูดแถลงให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อยเมื่อเห็นเหตุการณ์ หลินเย่ว์รีบเข้ามาพูดโน้ม

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 186

    นางเงยหน้ามองเซียวเหิงอย่างประหลาดใจ ริ้วแดงยังไม่จางหาย หากแต่ดวงตากลับแดงก่ำ "นี่ นี่ไม่ใช่ท่านพี่เหิงส่งมาให้หรอกหรือ?"เขาส่งให้?สีหน้าเซียวเหิงคร่ำเคร่งลง ก่อนหันมองเฉียวเนี่ยนทันใดสายตาเย็นเยียบคู่นั้นกวาดมองฝูงชน ก่อนหยุดสายตาตรงกวงหน้าเฉียวเนี่ยนอย่างแม่นยำเฉียวเนี่ยนตะลึงงัน จากนั้นรีบหลบสายตาไปนางไม่อยากข้องเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาแต่ไม่คาดคิดว่าพวกหัวไวบางคน จะเห็นถึงความผิดปกติได้ในแวบเดียว “เอ๋ คนข้างกายแม่นางเซียว คือคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวใช่หรือไม่?”ครั้นคนผู้นั้นเอ่ย สายตาเหล่าธารกำนัลที่เหลือก็ปราดมองมายังเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนไม่ชอบความรู้สึกเป็นเป้าสายตาคนมากมายเช่นนี้ คิ้วขมวดมุ่นทันควันทว่ากลับมีเสียงคนเอ่ยเบาๆ “ที่แม่ทัพเซียวเอ่ยเมื่อครู่ คงมิใช่ว่าชุดนี้เป็นของคุณหนูผู้นั้นใช่ไหม?”“เมื่อครู่ข้าเองก็รู้สึกประหลาดใจ ชุดสวยๆเช่นนี้ ไฉนถึงได้ทำแขนเสื้อมายาวนัก อย่างกับชุดเล่นงิ้ว!”เฉียวเนี่ยนสูงกว่าหลินยวนอยู่บ้าง แขนย่อมยาวกว่า ประกอบกับตอนสั่งตัดเซียวเหิงกำชับเป็นพิเศษว่าแขนเสื้อต้องยาวอีกหน่อย เพื่อปกปิดรอยแผลเป็นบนข้อมือเฉียวเนี่ยนดังนั้น แขน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 185

    พริบตาเดียว ก็ถึงวันงานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูแล้วในอุทยานหลวง หลินยวนสวมชุดผ้าไหมท้องฟ้านั้น และใส่คู่กับเครื่องประดับที่หลินเย่ว์เพิ่งซื้อให้นางเมื่อวาน เมื่อปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาของทุกคนเหล่าคุณหนูที่รู้จักนางรีบเข้าไปต้อนรับทันที และชมการแต่งตัวของนางวันนี้อย่างไม่ขาดปากเมื่อเทียบกันแล้ว เฉียวเนี่ยนได้สวมชุดที่เรียบง่ายกว่ามากอีกทั้งคุณหนูคุณชายในนั้นล้วนรู้แค่ว่าเฉียวเนี่ยนคือลูกเลี้ยงจวนโหว แม้แต่หมิงอ๋องที่เป็นที่พึ่งเดียวของนางก็ยังตายเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นคนที่เข้ามาคุยกับนางย่อมไม่มีแม้แต่คนเดียวเฉียวเนี่ยนก็มีความสุขจนผ่อนคลายอิสระ และเดินไปอยู่ตรงมุมหนึ่งอย่างไม่สนใจใครแต่ไม่คิดเลยว่า ยังมีคนเข้ามาต้อนรับ"เฉียวเนี่ยน"คือเซียวชิงหน่วนเฉียวเนี่ยนไม่คิดเลยว่าเซียวชิงหน่วนจะมาทักทายตนเอง อย่างไรเสีย ต่อให้ครั้งก่อนช่วยเซียวชิงหน่วนเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของหลินยวน พวกนางก็ยังเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่เด็กจนโตดังนั้น นางเลิกคิ้วขึ้น ตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย “มีเรื่องอะไร?”“ชุดนั้น”เซียวชิงหน่วนเหลือบมองหลินยวนที่อยู่ไกลๆ แล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “นั่นพี่ใหญ่ซื้อให้เจ้า เหต

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 184

    “เรื่องอะไร?”เฉียวเนี่ยนถามกลับ “เรื่องที่ให้โจรภูเขาลักพาตัวข้า หรือวางยาปลุกกำหนัดข้า และพาข้าไปนอนบนเตียงผู้ชายคนอื่น?“เฉียวเนี่ยนคิดว่า แค่เรื่องคาดไม่ถึงสองเรื่องนี้ ก็เพียงพอให้หลินเย่ว์หุบปากแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า อกเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง และยังแก้ตัวให้ตัวเองอีก “เรื่องยาปลุกกำหนัดเป็นอุบัติเหตุ ข้าคิดว่ามันเป็นแค่ยาสลบธรรมดา…”“มีอะไรแตกต่างหรือ?” เฉียวเนี่ยนจ้องหลินเย่ว์เขม็ง “ท่านโหวน้อยถึงขั้นทำร้ายคู่หมั้นข้าทางอ้อม ท่านทำเรื่องร้ายแรงขัดต่อฟ้าดินมากมาย บัดนี้กลับมาว่าข้ามีเจตนาร้ายแอบแฝง ท่านรู้สึกว่ามันน่าขันไหม?”เรื่องไม่ดีเหล่านั้น หลินเย่ว์ยอมรับดังนั้นตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจดโต้กลับอย่างไรดี หลังสูดหายใจลึกสองหน สุดท้ายก็เบาเสียงลง“ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า แต่พวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับยวนเอ๋อร์ เจ้าอยากแก้แค้น ก็มาลงแค่ที่ข้า”เฉียวเนี่ยนพ่นเสียงเย็นออกมา “แต่ที่ข้าเดินมาถึงวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะหลินยวนสร้างขึ้นมา”หลินเย่ว์กดเสียงต่ำ เหมือนจะโน้มน้าวด้วยความจริงจัง “นั่นเพราะสาวใช้ของนางไม่รู้ความ ยวนเอ๋อร์นางไม่เคยทำร้ายเจ้า”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าอย่างเห็นด้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 183

    เมื่อได้รับการยืนยัน ในใจหลินยวนเบิกบานสุดขีด ก่อนหมุนตัวเดินไปอยู่ข้างๆ ท่านโหวหลินแล้วคุกเข่าลง แนบหัวกับเข่าทั้งสองข้างของท่านโหวหลิน พลางกล่าวออดอ้อน "ท่านพ่อ ท่านให้ข้าไปเถิดนะ! วันหน้ายวนเอ๋อร์จะต้องออกเรือนกับท่านพี่เหิง ช้าเร็วก็ต้องเข้าวัง หากถึงตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทำให้ท่านพี่เหิงขายหน้าจะทำอย่างไร?"เมื่อได้ยินวาจานี้ ท่านโหวหลินกับฮูหยินหลินอดเหลือบมองกันไม่ได้นั่นสิ วันหน้าหลินยวนต้องกลายเป็นนายหญิงตระกูลเซียว ตอนนี้พวกเขาปกป้องนางอย่างดีเช่นนี้ ไม่แน่อาจจะกลับกลายเป็นทำร้ายนางฮูหยินหลินยังคงกังวล ทว่าน้ำเสียงอ่อนลงแล้ว "เช่นนั้นเจ้าเข้าวังไปแล้ว ห้ามเตร็ดเตร่ไปทั่วเด็ดขาด ต้องตามติดพี่เจ้าให้ดี รู้ไหม?"ได้ยินฮูหยินหลินเห็นด้วยเช่นนี้ หลินยวนดีใจแทบบ้า รีบกล่าว "ขอบคุณท่านแม่เจ้าคะ!"จากนั้น ก็เงยหน้าขึ้นมองท่านโหวหลิน ใบหน้าจิ้มลิ้มทำให้คนรู้สึกเอ็นดูเป็นพิเศษ "ท่านพ่อ...""เอาเถิดๆ ตามใจเจ้าเถิด!"ท่านโหวหลินก็จำใจเห็นด้วย ทว่าก็กล่าวเตือน "อย่าลืมพูดจาระวัง กระทำการรอบคอบ งานเลี้ยงบุปผาวสันตฤดูจบแล้วรีบกลับจวนทันที ห้ามอ้อยอิ่งอยู่ในวัง!""ยวนเอ๋อร์เข้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status