Share

บทที่ 62

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
ในที่สุดเจี่ยนอันอันก็หัวเราะออกมาจนพอใจแล้ว นางหยิบกระจกทองแดงออกมาจากห้วงมิติ ก่อนจะส่งให้กับเหวินอิง

ในตอนที่เหวินอิงมองไปยังกระจกทองแดงนั้น ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นทันที

กรอบกระจกทองแดงนี้ประดับล้อมรอบไปด้วยไพลิน เพียงแค่มองก็รู้ว่ามูลค่าไม่อาจประเมินได้

บนกายสาวน้อยคนนี้ กลับหลบซ่อนสมบัติล้ำค่าเช่นนี้เอาไว้

เหวินอิงหยิบกระจกทองแดงไป ก่อนจะชั่งน้ำหนักในมือ ดูเหมือนจะหนักไม่เบาเลย

นางหันกายกลับไป พูดออกมาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “พวกเจ้าทำอะไรกันแน่? เสื้อผ้าของพวกเจ้าดูมีมูลค่า หรือว่าพวกเจ้าล้วนเป็นพ่อค้ากัน?”

เจี่ยนอันอันไม่ได้ตอบคำเหวินอิง แต่พูดเร่งเร้าออกมาต่อ

“รีบจัดการทรงผมเข้า ท่านเจ้าเมืองยังรอพวกเรากันอยู่ในห้องโถง”

เมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันเรียกเจ้าเมืองออกมาทุกคำ เหวินอิงก็ขมวดคิ้วออกมา

นางรู้ว่าท่านเจ้าเมืองที่เจี่ยนอันอันเรียกนั้นก็คือเซิ่งฟาง

เพียงแต่เซิ่งฟางบอกความลับนี้กับนางเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

ภายในฐานที่มั่นมีสามร้อยกว่าคน นอกจากนางแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดรู้ความลับนี้

ทว่าสาวน้อยตรงหน้านี้ กลับเรียกเซิ่งฟางว่าเจ้าเมืองทุกคำ

ตอนนี้พวกเขามีความพันธ์ใด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 63

    ฮูหยินใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างกายเจี่ยนอันอัน ก็รีบตบไปยังแผ่นหลังของเจี่ยนอันอัน เพื่อช่วยให้นางหายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้นฉู่จวินสิงกลับขมวดคิ้วออกมา ก่อนจะพูดกับเจี่ยนอันอันเสียงเบา “เหล้านี้แรงมาก อย่าได้ดื่มอีก”เมื่อกระแอมไปชั่วครู่หนึ่ง ในที่สุดเจี่ยนอันอันถึงได้หยุดลงนางเงยหน้าขึ้นไปมองยังเหวินอิง ก็พบว่านางกำลังมองมายังตนเองด้วยรอยยิ้ม“น้องสาวช่างดื่มเหล้าได้เก่งจริงๆ ข้าขอดื่มให้เจ้าอีกชามหนึ่ง!”เหวินอิงพูดออกมา ก่อนจะรินเหล้าให้ตนเองอีกชามหนึ่ง และดื่มลงไปในไม่กี่อึดใจในชามตรงหน้าของเจี่ยนอันอันเองก็ถูกโจรภูเขารินให้จนเต็มชามใหญ่เหวินอิงยิ้มแล้วพูดกับเจี่ยนอันอัน “เจ้าดูข้าดื่มเหล้าไปจนหมดแล้ว น้องสาวเองก็ควรจะดื่มเหล้าในชามนั้นให้หมดเช่นกันไม่ใช่หรือ?”เจี่ยนอันอันในเวลานี้ บนใบหน้าเล็กมีริ้วแดงๆ ออกมาสองกลุ่มใหญ่แล้วนางรู้สึกได้ว่าศีรษะเริ่มวิงเวียน ก่อนจะรีบส่ายหัวอย่างเร็ว เพื่อที่จะให้ตนเองมีสติขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นว่าเหวินอิงจับจ้องยังตนเองอยู่ตลอดเวลา หากว่านางไม่ยอมดื่มเหล้าถ้วยนี้ เกรงว่าคงจะทำให้อีกฝ่ายขบขันเอาได้เจี่ยนอันอันหยิบชามเหล้าตรงหน้าขึ้นมา และก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 64

    เหวินอิงประคองเจี่ยนอันอัน มายังที่ห่างไกลจากค่ายที่นั่นมีเรือนมุงจากตั้งตระหง่านอยู่ ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องน้ำเจี่ยนอันอันไม่ได้ให้เหวินอิงตามเข้ามาด้วยนางเดินเข้าไป รีบเปิดยาแก้เมาค้างแล้วดื่มเข้าคำโตหลังจากที่ดื่มยาแก้เมาค้างแล้ว ไม่นานนัก นางก็เหมือนว่าจะสร่างเมาขึ้นมานางออกมาจากในห้องน้ำ ก็พบว่าเหวินอิงยืนอยู่สถานที่ไกลออกจากห้องน้ำไปเจี่ยนอันอันเดินก้าวใหญ่ออกมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เดิมทีเหวินอิงที่ก้มหน้าลง ก็พบเจี่ยนอันอันเดินตรงมาทางนางนางมองเห็นท่าทีของเจี่ยนอันอันที่เดินมา ก็ไม่โซเซเหมือนกับก่อนหน้านั้นมุมปากของเหวินอิงยกโค้งงดงามขึ้น“ดูเหมือนว่าเจ้าตอนนี้คงจะสร่างเมาแล้ว ไป พวกเราสองคนกลับไปดื่มกันต่ออีกสักเล็กน้อยเถอะ”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินว่ายังจะดื่มอีก นางก็รีบโบกไม้โบกมือพูดออกมา “ไม่ดื่มแล้วๆ เหล้าของพวกเจ้าแรงเกินไป ข้าไม่ไหวจริงๆ”เหวินอิงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆเหล้าในค่ายนั้นแรงจริงๆ นั่นไม่ใช่ของที่หญิงสาวทั่วไปจะดื่มได้หากไม่ใช่ว่านางเกิดมาแล้วดื่มเหล้าพันแก้วไม่เมาแล้ว เกรงว่านางก็คงจะทนเหล้ารุนแรงเช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 65

    เซิ่งฟางเมื่อเห็นว่าเหวินอิงกลับมา เขาก็เอื้อมมือออกไปคว้ามือของเหวินอิงเอาไว้เหวินอิงมองไปยังเซิ่งฟางด้วยความสงสัย นางกำลังจะดึงมือกลับมา กลับถูกอีกฝ่ายกุมเอาไว้แน่นเซิ่งฟางมองไปยังเหวินอิงด้วยสายตาลึกซึ้ง แล้วก็มีท่าทีลังเลที่จะพูดออกมาเหวินอิงเกลียดท่าทีเช่นนี้ของเซิ่งฟางมากที่สุด นางรีบพูดออกมา “รีบพูดมาว่าตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น หากว่าไม่พูดออกมา ข้าก็จะไม่อยู่กับท่านแล้ว”เซิ่งฟางเมื่อได้ยินคำนี้แล้ว ก็รีบร้อนพูดออกมา “เหวินอิง หากว่าเจ้าได้ยินคำพูดของข้าหลังจากนี้แล้ว ห้ามโมโหเป็นอันขาดนะ”เมื่อเหวินอิงได้ยินคำนี้เข้า ก็ยิ่งร้อนรนเข้าไปอีกนางดึงมือออกมา แล้วจ้องเขม็งไปยังเซิ่งฟาง“ท่านมีอะไรก็รีบพูดออกมา ข้ารำคาญผู้ชายตัวใหญ่ที่พูดจาอ้ำๆ อึ้งๆ มากที่สุด ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ”เซิ่งฟางมองเห็นว่าในมือของตนเองว่างเปล่า ก็ถอนหายใจออกมาเงียบๆท้ายที่สุดแล้วเขาก็พูดความคิดในใจออกมา“พวกเราสองคนอาจจะต้องแยกจากกันระยะหนึ่ง!”เหวินอิงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทันใดนั้นก็โกรธขึ้นมานางผุดลุกยืนขึ้นมาทันทีนางคว้าคอของเซิ่งฟางขึ้นมาโดยไม่สนใจคนอื่นๆ ที่อยู่ด้วย“เซิ่งฟาง ท่านพูด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 66

    นางหันกลับไปมองฉู่จวินสิง ก็พบว่าเขามีใบหน้าเรียบเฉยสงบนิ่งไม่ได้แสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจเพราะคำพูดของเซิ่งฟางเลยสักนิดเจี่ยนอันอันมองไปยังหานซื่อและทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ อีกครั้งก็พบว่าพวกเขากำลังหยิบถ้วยเหล้าขึ้นมา แล้วดื่มกันอย่างเงียบๆบรรยากาศดูจะแปลกประหลาดจนเกินไปอย่างไรเสียพวกหานซื่อก็ล้วนแต่เป็นทหารรักษาพระองค์ของราชวงศ์ เซิ่งฟางพูดออกมาต่อหน้าพวกเขา บอกว่าต้องการจับฮ่องเต้มาทรมานหากว่าคำพูดนี้ได้ยินเข้าหูของฮ่องเต้แล้ว จะต้องถูกประหารถึงเก้าชั่วโคตรทีเดียวเจ้าเมืองอินเป่ยคนก่อนหน้าผู้นี้ ไม่รู้ถึงผลดีผลเสียบ้างหรืออย่างไร?เหวินอิงไม่ได้คิดไกลถึงเพียงนั้นเมื่อนางได้ยินเซิ่งฟางพูดอธิบายสิ่งเหล่านี้ออกมาแล้ว ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาหากว่าเซิ่งฟางจะติดตามไปยังเมืองอินเป่ยกับตระกูลของเยียนอ๋องแล้วจริงๆเกรงว่าพวกนางต่อให้ต้องการจะพบหน้ากับอีกครั้ง ก็คงจะเป็นเรื่องยากลำบากอย่างมากทว่านางเองก็รู้ว่าในใจของเซิ่งฟาง ไม่ได้อยู่ในค่ายโจรแห่งนี้เรื่องที่ใจเขาคิดจะกลับไปยังเมืองอินเป่ย เหวินอิงก็รู้ดีเรื่องที่ทั้งสองคนพูดคุยกันมากที่สุด ก็เป็นเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 67

    หานซื่อเดิมทีก็ชื่นชมในความกล้าหาญและศิลปะการต่อสู้ของฉู่จวินสิงบวกกับตอนนี้อำนาจการตัดสินใจทุกอย่าง ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับเขาหานซื่อลุกขึ้นแล้วกล่าว “ในเมื่อทุกคนต่างก็สนับสนุนข้าเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็ขอพูดความคิดเห็นของข้าออกมาแล้ว”เหล่าทหารรักษาพระองค์พากันมองไปยังหานซื่อโดยไม่เลื่อนสายตาไปที่ใด รอคำพูดต่อไปของเขามุมปากของเจี่ยนอันอันค่อยๆ ยกขึ้นเล็กน้อยนางพอจะคาดเดาได้ หานซื่อจะต้องนำเรื่องนี้ไปบอกกับฮ่องเต้สุนัขนั่นหานซื่อเปิดปากพูดออกมา “ข้าหานซื่อ ถึงแม้ว่าจะเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ แต่ทว่าข้าเองก็รู้ดี ว่าเรื่องนี้ควรจะทำเช่นไรถึงจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ขอให้เยียนอ๋องได้โปรดวางใจ เรื่องนี้ต่อให้ข้าจะต้องตายก็ไม่มีทางที่จะรายงานแก่ฮ่องเต้ หากว่าทุกคนต่างก็มีความเห็นเช่นเดียวกับข้า ก็ขอให้ดื่มเหล้าในชามนี้เสียให้หมด”เมื่อหานซื่อพูดจบ ก็หยิบเหล้าบนโต๊ะขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมดทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นเมื่อเห็นเข้า ก็ต่างทยอยกันลุกขึ้นยืนพวกเขาหยิบเหล้าบนโต๊ะขึ้นมา ไม่พูดพล่ามอะไรก็พากันดื่มจนหมดเมื่อเห็นว่าทุกคนต่างแสดงออกมาอย่างเงียบเชียบว่าพวกเขาไม่มีทางนำเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 68

    เซิ่งฟางเกาหัวไปมา มองไปยังเหวินอิงด้วยสายตาเป็นประกายเขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี เกรงว่าหากว่าพูดผิดไปจะไปยั่วยุให้อีกฝ่ายไม่สบอารมณ์เอาได้เหวินอิงพูดออกมาด้วยความโกรธ “เหอะ ใครไปมีความสัมพันธ์กับเขากัน รอเขาจากไปเมื่อไรข้าก็จะไปจากค่ายนี่ ผู้ใดจะยินดีเป็นรองหัวหน้านี่ ให้ใครก็ได้เป็นไป อย่างไรเสียข้าก็ไม่เป็นแล้ว”เจี่ยนอันอันถูกคำพูดนี้ของเหวินอิงทำให้ส่งเสียงหัวเราะออกมาในฐานะที่เป็นหญิงสาว แน่นอนว่าเจี่ยนอันอันรู้ว่าคำพูดนี้ของเหวินอัน ล้วนแต่เป็นคำพูดตรงกันข้ามนางเองก็มองออก ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมาจนถึงขั้นที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะแยกจากกันได้แล้วแต่คำพูดของเหวินอิง กลับทำให้หัวใจของเซิ่งฟางเป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้งเซิ่งฟางคว้าข้อมือของเหวินอิงเอาไว้ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา “ไม่ได้ เจ้าจะไปจากค่ายไม่ได้ เจ้าคิดจะให้ข้ามีชีวิตอยู่เพียงลำพังอย่างนั้นหรือ!”คำพูดของเซิ่งฟางทำให้เหวินอิงโกรธขึ้นมาอีกครั้ง“ทำไม มีเพียงแค่ท่านที่ออกไปจากค่ายแล้วไปเป็นเจ้าเมืองอินเป่ยของท่านได้ แต่ข้ากลับต้องคอยเฝ้าอยู่ที่ค่ายนี้เพียงคนเดียวจนตาย ไปที่ใดก็ไม่ได้อย่างนั้นหรือ ข้ายังอายุน้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 69

    นางเคยได้ยินเซิ่งฟางพูดมาก่อนว่าต่อไปจะต้องทำให้นางได้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นเขาบอกว่าตนเองไม่อยากจะเป็นโจรภูเขาไปตลอดชีวิต ยิ่งไม่อยากจะให้ผู้หญิงที่ตนเองรักเป็นโจรภูเขาไปกับเขาตลอดชีวิตด้วยเหวินอิงในตอนนั้นก็เคยวาดฝันถึงกับเขามาก่อนเช่นกันหากว่าต่อไปเซิ่งฟางได้กลับไปยังเมืองอินเป่ย ไปเป็นเจ้าเมืองอีกครั้งเช่นนั้นนางก็จะเป็นฮูหยินท่านเจ้าเมืองแต่นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าเซิ่งฟางจะใช้วิธีการเช่นนี้ เพื่อกลับไปยังเมืองอินเป่ยนางไม่อยากแยกออกจากเซิ่งฟางแล้วอยู่กันคนละที่โดยเฉพาะเมืองอินเป่ยในตอนนี้ ยังอยู่ในสถานการณ์อันน่าอนาถนางยากที่รับรองได้ว่า หลังจากที่ทั้งสองแยกจากกันแล้ว เซิ่งฟางจะไม่เปลี่ยนใจไปจากนางเจี่ยนอันอันมองออกว่าเหวินอิงกำลังกังวลเรื่องใดนางพูดเกลี้ยกล่อมออกมาอีกครั้ง “ข้ารู้สึกว่าหัวหน้าใหญ่ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจ ข้าดูออกว่าหัวหน้าใหญ่รักเจ้ามาก เพียงแต่เขาเป็นคนหยาบกระด้าง จะรู้วิธีการปลอบประโลมผู้อื่นได้อย่างไรกัน ตรงจุดนี้รองหัวหน้าก็คงจะรู้เช่นกัน”เมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันพูด เหวินอิงก็พยักหน้าออกมาเจี่ยนอันอันพูดไม่ผิด ถึงแม้ว่าเซิ่งฟางจะเคยเป็นเจ้าเม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 70

    ในตอนที่เหวินอิงพูดคำว่า ‘คลังเก็บอาวุธ’ ออกมานั้น ในที่สุดเจี่ยนอันอันถึงได้เข้าใจขึ้นมามิน่าเล่า ในตอนแรกที่นางพูดว่าต้องการจะไปเดินเล่น เหวินอิงถึงได้แสดงท่าทีป้องกันเอาไว้ที่แท้นางก็ระวังในเรื่องนี้เพียงแค่อาวุธโจมตีเล็กน้อยเท่านั้น เจี่ยนอันอันไม่ได้มองเห็นอาวุธพวกนี้อยู่ในสายตาเลยเพราะอย่างไรแล้วในห้องมิติของนาง ยังมีคลังเก็บอาวุธสมัยใหม่เอาไว้ที่นั่นไม่เพียงมีอาวุธโจมตีเท่านั้น ยังมีปืนของยุคสมัยใหม่อีกด้วยเจี่ยนอันอันพูดออกมาด้วยใบหน้าเหนื่อยหน่าย “ข้ายังคิดว่ารองหัวหน้าเป็นอะไรไป จู่ ๆ ถึงได้ใช้มีดกับข้า ที่แท้ก็เพราะกลัวว่าข้าจะขโมยอาวุธในค่ายโจรไป”เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจนัก เหวินอิงก็ขมวดคิ้วยิ่งลึกขึ้นอาวุธเหล่านี้ พวกเขารวบรวมเก็บไว้ด้วยความยากลำบากเซิ่งฟางเก็บรวบรวมอาวุธไว้มากถึงขนาดนี้ ล้วนแต่เพื่อไว้ใช้ในตอนที่จำเป็นต้องโจมตีเมืองอินเป่ยภายในภาคหน้าเหวินอิงพูดด้วยความโกรธ “เจ้าเสแสร้งกับข้าให้มันน้อยๆ หน่อย รีบพูดออกมา พวกเจ้าตกลงแล้วเป็นใครกันแน่? เยียนอ๋องอะไรกัน ข้าว่าพวกเจ้าล้วนแต่ปลอมตัวเป็นคนในครอบครัวเยียนอ๋องนั่นม

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 821

    แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 820

    เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 819

    แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 818

    “นี่คือสัญญาฉบับใหม่ที่ข้าเพิ่งเขียนขึ้นมา ทั้งเฝิงซานกวงและเฉียวซื่อต่างได้ลงชื่อเรียบร้อย”“จึงอยากให้ท่านเจ้าเมืองได้ลงชื่ออีกคน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วันหน้าเฝิงซานกวงจะได้ไม่กล้าบิดพลิ้วไปล่วงเกินเฉียวซื่ออีก”เจ้าเมืองตานมองดูข้อความในสัญญาฉบับใหม่ เห็นเนื้อหาล้วนสมเหตุสมผลดีอีกทั้งเรื่องนี้ก็ถือเป็นความผิดของเฝิงซานกวงก่อน จึงยอมรับพู่กันมา พร้อมทั้งเขียนชื่อตนเองลงไปเจี่ยนอันอันยิ้มๆ พร้อมนำแป้นประทับตรา มอบให้เจ้าเมืองตานได้ประทับลายนิ้วอีกซ้ำอีกสัญญาชุดเดียวกันแต่มีสองแผ่น เจี่ยนอันอันจึงแบ่งให้เจ้าเมืองตานและเฝิงซานกวงต่างถือไว้คนละแผ่น“มีเจ้าเมืองตานเป็นพยานอีกคน หากวันหน้าเฝิงซานกวงกล้าไปล่วงเกินเฉียวซื่อสองแม่ลูกอีก ให้ข้ารู้เข้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้”เฝิงซานกวงแค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นึกอยากหักคอเจี่ยนอันอันให้ตายคามือไปเสียเยียนอ๋องพระชายาบ้าบออันใดกัน ยามนี้ล้วนถูกฮ่องเต้ปลดเป็นสามัญชนทั้งสิ้น ซ้ำยังถูกเนรเทศมาอยู่เมืองอินเป่ยต่างหากบัดนี้ฐานะของพวกเขา จะต่างจากเขาที่ตรงไหน?แต่พอมาอยู่นี่แล้ว ยังกล้ามาทำเหิมเกริมอีกรอให้เรื่องนี้จบสิ้นเมื่อใด ต้องหาวิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 817

    แต่หากเป็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง เขาในฐานะอารอง ก็จะไม่ละเว้นผู้ทำร้ายเฝิงซานกวงเช่นกันแต่ไม่คาดคิดว่า เพียงลงจากรถม้า ก็ได้เห็นเยียนอ๋องและพระชายาอยู่ที่นี่ด้วยเจ้าเมืองตานนึกหวั่นใจขึ้น คงไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงไปทำความผิดอันใดเข้าอีกหรอกนะเจี่ยนอันอันใบหน้าแฝงรอยยิ้ม พร้อมนำสัญญาเผด็จการที่เฝิงซานกวงและเฉียวซื่อทำไว้ฉบับแรกให้เจ้าเมืองตานได้ดูเจ้าเมืองตานดูแล้วจึงเกิดความสงสัย “ในสัญญาได้ลงชื่อทั้งสองฝ่ายไว้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจ แล้วจะผิดอย่างไร?”แม้ว่าเงื่อนไขที่ระบุไว้จะมีแต่ความเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็มิได้บ่งบอกถึงสิ่งใดไฉนจึงต้องบาดหมางจนให้เขามาด้วยตนเอง?และเจ้าเมืองตานก็เห็นลูกน้องของเฝิงซานกวง ต่างถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเขามองหน้าเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางกับฉู่จวินสิงจึงต้องทำร้ายลูกน้องเฝิงซานกวงเช่นนี้เจี่ยนอันอันดึงตัวแม่ลูกตระกูลเฉียวมาเข้าใกล้ พลางกล่าวต่อเจ้าเมืองตาน “เจ้าเมืองตาน คนนี้ก็คือผู้ทำสัญญากับเฝิงซานกวง”“นางไม่รู้หนังสือ ข้อความในสัญญาล้วนเป็นเฝิงซานกวงอ่านให้ฟังทั้งสิ้น”“แต่เท่าที่ข้ารู้ เฝิงซานกวงมิได้อ่านเนื้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 816

    เจี่ยนอันอันแม้ถูกด่าว่าก็หาโกรธเคืองไม่ กลับกลายเป็นฉู่จวินสิงที่เดินขึ้นหน้า พลางต่อยเข้าที่ปากเฝิงซานกวงหนึ่งหมัด“เจ้ากล้าด่าเหนียงจื่อของข้า เห็นทีอยากถูกเลาะฟันออกจากปากเสียแล้ว”หมัดนี้ของฉู่จวินสิงหนักหน่วงยิ่ง ถึงขั้นทำให้ฟันหน้าของเฝิงซานกวงร่วงสองซี่ในบัดดลแต่เพราะเฝิงซานกวงถูกผ้าพันแผลปิดหน้าไว้หมด ฟันหน้าจึงค้างอยู่ในปาก จะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้ กลืนลงคอก็ไม่กล้าอีกฟันหน้าถูกค่อยจนร่วง ริมฝีปากก็ยังแตกซ้ำความเจ็บปวดในปากนั้น แทบทำให้เฝิงซานกวงอยากด่าไปถึงบุพการีแต่ภายหลังได้ลิ้มลองหมัดของฉู่จวินสิง เขากลับไม่กล้าใช้คำพูดดุเดือดออกมาอีกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นเอง มีเสียงรถม้าแว่วมาแต่ไกลทุกคนหันมองไปตามเสียงนั้น จึงเห็นรถม้าของทางการวิ่งตรงมาคันหนึ่งและผู้ที่ไปส่งข่าวยังจวนเจ้าเมืองตาน ก็วิ่งตามหลังรถม้ามาเจี่ยนอันอันผุดรอยยิ้มที่มุมปาก ดูท่าเจ้าเมืองตานมาได้รวดเร็วดีแท้รถม้ามาหยุดที่เบื้องหน้าทุกคนเร็วพลัน โดยมีเจ้าเมืองตานเปิดผ้าม่านแล้วก้าวเดินลงมาทันทีที่เห็นเฝิงซานกวงใบหน้าห่อด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ ซ้ำมุมปากยังมีคราบโลหิตซึมออกมา“เจ้าไปก่อกรรมทำเข็ญเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 814

    ยามนี้เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่ไม่ควรกล่าวถึงท่านอารองออกมาเร็วถึงเพียงนั้นแต่บัดนี้ลูกน้องไปเชิญท่านอามาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฝิงซานกวงรีบกล่าวต่อลูกน้องอีกคน “เจ้าไปบอกให้อู่เฉียงกลับมา”ลูกน้องผู้นั้นรับคำสั่งกำลังจะรีบวิ่งไปแต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว พลันถูกฉู่จวินสิงขวางหน้าไว้ก่อน“ผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน ข้าจะให้ผู้นั้นเลือดนองอาบพื้นดินในบัดดล”ลูกน้องผู้นั้นได้แต่หวาดกลัวจนชะงักงัน พร้อมหันไปมองเฝิงซานกวง“ลูกพี่...”เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ไปก็ไม่ได้อยู่ต่อก็มีความผิดเฝิงซานกวงโกรธจนกำหมัดแน่น เสียงขบฟันดังกรอดจนได้ยินชัด“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”เขาเริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ตนน่าจะเจอจิ้งจอกเขี้ยวลากดินเข้าให้แล้วดูท่าหากไม่ต้อนรับขับสู้พวกเขาให้ดี เกรงว่าอีกประเดี๋ยวจะมีจุดจบที่ไม่สู้งามนักเจี่ยนอันอันเห็นว่าเฝิงซานกวงน่าจะอับจนปัญญา จึงเอาสัญญาที่เฉียวซื่อมอบให้นางออกมา“เฝิงซานกวง นี่คือสัญญาที่เจ้าทำไว้กับเฉียวซื่อ ในนี้มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าอาจต้องแก้ไขเล็กน้อย”เฝิงซานกวงกัดฟันกรอดอีกครั้ง บันดาลโทสะเสียจนใบหน้าที่อยู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status