Share

บทที่ 66

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
นางหันกลับไปมองฉู่จวินสิง ก็พบว่าเขามีใบหน้าเรียบเฉยสงบนิ่ง

ไม่ได้แสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจเพราะคำพูดของเซิ่งฟางเลยสักนิด

เจี่ยนอันอันมองไปยังหานซื่อและทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ อีกครั้ง

ก็พบว่าพวกเขากำลังหยิบถ้วยเหล้าขึ้นมา แล้วดื่มกันอย่างเงียบๆ

บรรยากาศดูจะแปลกประหลาดจนเกินไป

อย่างไรเสียพวกหานซื่อก็ล้วนแต่เป็นทหารรักษาพระองค์ของราชวงศ์ เซิ่งฟางพูดออกมาต่อหน้าพวกเขา บอกว่าต้องการจับฮ่องเต้มาทรมาน

หากว่าคำพูดนี้ได้ยินเข้าหูของฮ่องเต้แล้ว จะต้องถูกประหารถึงเก้าชั่วโคตรทีเดียว

เจ้าเมืองอินเป่ยคนก่อนหน้าผู้นี้ ไม่รู้ถึงผลดีผลเสียบ้างหรืออย่างไร?

เหวินอิงไม่ได้คิดไกลถึงเพียงนั้น

เมื่อนางได้ยินเซิ่งฟางพูดอธิบายสิ่งเหล่านี้ออกมาแล้ว ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา

หากว่าเซิ่งฟางจะติดตามไปยังเมืองอินเป่ยกับตระกูลของเยียนอ๋องแล้วจริงๆ

เกรงว่าพวกนางต่อให้ต้องการจะพบหน้ากับอีกครั้ง ก็คงจะเป็นเรื่องยากลำบากอย่างมาก

ทว่านางเองก็รู้ว่าในใจของเซิ่งฟาง ไม่ได้อยู่ในค่ายโจรแห่งนี้

เรื่องที่ใจเขาคิดจะกลับไปยังเมืองอินเป่ย เหวินอิงก็รู้ดี

เรื่องที่ทั้งสองคนพูดคุยกันมากที่สุด ก็เป็นเรื่อง
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
ศศิกุลภัทร จุทะมิตร
กิจกรรมรับโบนัสน้อยมากๆๆ อยากให้เพิ่มและปรับปรุง
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 67

    หานซื่อเดิมทีก็ชื่นชมในความกล้าหาญและศิลปะการต่อสู้ของฉู่จวินสิงบวกกับตอนนี้อำนาจการตัดสินใจทุกอย่าง ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับเขาหานซื่อลุกขึ้นแล้วกล่าว “ในเมื่อทุกคนต่างก็สนับสนุนข้าเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็ขอพูดความคิดเห็นของข้าออกมาแล้ว”เหล่าทหารรักษาพระองค์พากันมองไปยังหานซื่อโดยไม่เลื่อนสายตาไปที่ใด รอคำพูดต่อไปของเขามุมปากของเจี่ยนอันอันค่อยๆ ยกขึ้นเล็กน้อยนางพอจะคาดเดาได้ หานซื่อจะต้องนำเรื่องนี้ไปบอกกับฮ่องเต้สุนัขนั่นหานซื่อเปิดปากพูดออกมา “ข้าหานซื่อ ถึงแม้ว่าจะเป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ แต่ทว่าข้าเองก็รู้ดี ว่าเรื่องนี้ควรจะทำเช่นไรถึงจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ขอให้เยียนอ๋องได้โปรดวางใจ เรื่องนี้ต่อให้ข้าจะต้องตายก็ไม่มีทางที่จะรายงานแก่ฮ่องเต้ หากว่าทุกคนต่างก็มีความเห็นเช่นเดียวกับข้า ก็ขอให้ดื่มเหล้าในชามนี้เสียให้หมด”เมื่อหานซื่อพูดจบ ก็หยิบเหล้าบนโต๊ะขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมดทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นเมื่อเห็นเข้า ก็ต่างทยอยกันลุกขึ้นยืนพวกเขาหยิบเหล้าบนโต๊ะขึ้นมา ไม่พูดพล่ามอะไรก็พากันดื่มจนหมดเมื่อเห็นว่าทุกคนต่างแสดงออกมาอย่างเงียบเชียบว่าพวกเขาไม่มีทางนำเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 68

    เซิ่งฟางเกาหัวไปมา มองไปยังเหวินอิงด้วยสายตาเป็นประกายเขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี เกรงว่าหากว่าพูดผิดไปจะไปยั่วยุให้อีกฝ่ายไม่สบอารมณ์เอาได้เหวินอิงพูดออกมาด้วยความโกรธ “เหอะ ใครไปมีความสัมพันธ์กับเขากัน รอเขาจากไปเมื่อไรข้าก็จะไปจากค่ายนี่ ผู้ใดจะยินดีเป็นรองหัวหน้านี่ ให้ใครก็ได้เป็นไป อย่างไรเสียข้าก็ไม่เป็นแล้ว”เจี่ยนอันอันถูกคำพูดนี้ของเหวินอิงทำให้ส่งเสียงหัวเราะออกมาในฐานะที่เป็นหญิงสาว แน่นอนว่าเจี่ยนอันอันรู้ว่าคำพูดนี้ของเหวินอัน ล้วนแต่เป็นคำพูดตรงกันข้ามนางเองก็มองออก ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมาจนถึงขั้นที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะแยกจากกันได้แล้วแต่คำพูดของเหวินอิง กลับทำให้หัวใจของเซิ่งฟางเป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้งเซิ่งฟางคว้าข้อมือของเหวินอิงเอาไว้ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา “ไม่ได้ เจ้าจะไปจากค่ายไม่ได้ เจ้าคิดจะให้ข้ามีชีวิตอยู่เพียงลำพังอย่างนั้นหรือ!”คำพูดของเซิ่งฟางทำให้เหวินอิงโกรธขึ้นมาอีกครั้ง“ทำไม มีเพียงแค่ท่านที่ออกไปจากค่ายแล้วไปเป็นเจ้าเมืองอินเป่ยของท่านได้ แต่ข้ากลับต้องคอยเฝ้าอยู่ที่ค่ายนี้เพียงคนเดียวจนตาย ไปที่ใดก็ไม่ได้อย่างนั้นหรือ ข้ายังอายุน้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 69

    นางเคยได้ยินเซิ่งฟางพูดมาก่อนว่าต่อไปจะต้องทำให้นางได้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นเขาบอกว่าตนเองไม่อยากจะเป็นโจรภูเขาไปตลอดชีวิต ยิ่งไม่อยากจะให้ผู้หญิงที่ตนเองรักเป็นโจรภูเขาไปกับเขาตลอดชีวิตด้วยเหวินอิงในตอนนั้นก็เคยวาดฝันถึงกับเขามาก่อนเช่นกันหากว่าต่อไปเซิ่งฟางได้กลับไปยังเมืองอินเป่ย ไปเป็นเจ้าเมืองอีกครั้งเช่นนั้นนางก็จะเป็นฮูหยินท่านเจ้าเมืองแต่นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าเซิ่งฟางจะใช้วิธีการเช่นนี้ เพื่อกลับไปยังเมืองอินเป่ยนางไม่อยากแยกออกจากเซิ่งฟางแล้วอยู่กันคนละที่โดยเฉพาะเมืองอินเป่ยในตอนนี้ ยังอยู่ในสถานการณ์อันน่าอนาถนางยากที่รับรองได้ว่า หลังจากที่ทั้งสองแยกจากกันแล้ว เซิ่งฟางจะไม่เปลี่ยนใจไปจากนางเจี่ยนอันอันมองออกว่าเหวินอิงกำลังกังวลเรื่องใดนางพูดเกลี้ยกล่อมออกมาอีกครั้ง “ข้ารู้สึกว่าหัวหน้าใหญ่ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจ ข้าดูออกว่าหัวหน้าใหญ่รักเจ้ามาก เพียงแต่เขาเป็นคนหยาบกระด้าง จะรู้วิธีการปลอบประโลมผู้อื่นได้อย่างไรกัน ตรงจุดนี้รองหัวหน้าก็คงจะรู้เช่นกัน”เมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันพูด เหวินอิงก็พยักหน้าออกมาเจี่ยนอันอันพูดไม่ผิด ถึงแม้ว่าเซิ่งฟางจะเคยเป็นเจ้าเม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 70

    ในตอนที่เหวินอิงพูดคำว่า ‘คลังเก็บอาวุธ’ ออกมานั้น ในที่สุดเจี่ยนอันอันถึงได้เข้าใจขึ้นมามิน่าเล่า ในตอนแรกที่นางพูดว่าต้องการจะไปเดินเล่น เหวินอิงถึงได้แสดงท่าทีป้องกันเอาไว้ที่แท้นางก็ระวังในเรื่องนี้เพียงแค่อาวุธโจมตีเล็กน้อยเท่านั้น เจี่ยนอันอันไม่ได้มองเห็นอาวุธพวกนี้อยู่ในสายตาเลยเพราะอย่างไรแล้วในห้องมิติของนาง ยังมีคลังเก็บอาวุธสมัยใหม่เอาไว้ที่นั่นไม่เพียงมีอาวุธโจมตีเท่านั้น ยังมีปืนของยุคสมัยใหม่อีกด้วยเจี่ยนอันอันพูดออกมาด้วยใบหน้าเหนื่อยหน่าย “ข้ายังคิดว่ารองหัวหน้าเป็นอะไรไป จู่ ๆ ถึงได้ใช้มีดกับข้า ที่แท้ก็เพราะกลัวว่าข้าจะขโมยอาวุธในค่ายโจรไป”เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจนัก เหวินอิงก็ขมวดคิ้วยิ่งลึกขึ้นอาวุธเหล่านี้ พวกเขารวบรวมเก็บไว้ด้วยความยากลำบากเซิ่งฟางเก็บรวบรวมอาวุธไว้มากถึงขนาดนี้ ล้วนแต่เพื่อไว้ใช้ในตอนที่จำเป็นต้องโจมตีเมืองอินเป่ยภายในภาคหน้าเหวินอิงพูดด้วยความโกรธ “เจ้าเสแสร้งกับข้าให้มันน้อยๆ หน่อย รีบพูดออกมา พวกเจ้าตกลงแล้วเป็นใครกันแน่? เยียนอ๋องอะไรกัน ข้าว่าพวกเจ้าล้วนแต่ปลอมตัวเป็นคนในครอบครัวเยียนอ๋องนั่นม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 71

    เหวินอิงเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันไม่ยอมพูดถึงเรื่องป้ายคำสั่งพยัคฆ์ออกมาแล้ว นางก็ไม่อยากจะถามอะไรออกมาให้มากนักในตอนที่ทั้งสองคนกำลังกลับไปยังเส้นทางเดิมนั้น เจี่ยนอันอันก็ไม่ได้ลืมจุดประสงค์สำคัญที่สุดในการที่มายังค่ายโจรครั้งนี้นางถาม “รองหัวหน้า ในค่ายโจรของพวกเจ้า อาหารและพืชผักทั้งหลายเก็บไว้ที่ใดกัน?”เหวินอิงเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันถามนางถึงเรื่องนี้ นางจึงพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก“ค่ายโจรของพวกเรามีห้องใต้ดินอยู่ อาหารและพืชผักเหล่านั้น และยังมีสัตว์บนเขาที่ล่ามาได้ ล้วนแต่เก็บเอาไว้ในห้องใต้ดิน”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินว่าค่ายโจรมีห้องใต้ดิน ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมาทันที“รองหัวหน้า พอจะนำข้าไปดูห้องใต้ดินได้หรือไม่?”เหวินอิงไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันมีจุดประสงค์อะไรกันแน่นางหยุดฝีเท้าลง แล้วมองไปยังเจี่ยนอันอันด้วยใบหน้าระแวดระวัง“เจ้าคิดจะทำอะไรกัน? อย่าบอกข้านะว่า เจ้าคิดจะขโมยอาหารของพวกเราไป”เจี่ยนอันอันยิ้มให้กับเหวินอิง ก่อนที่จะหยิบแท่งทองคำออกมาแท่งหนึ่ง“รองหัวหน้า ข้าอยากจะซื้ออาหารและพืชผักของพวกท่าน หากว่ามีเนื้อแล้วล่ะก็ เช่นนั้นก็ยิ่งดี ท่านเองก็รู้ หา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 72

    เมื่อเห็นว่าเหวินอิงเข้าไปถ้ำแล้ว เจี่ยนอันอันก็รีบก้าวตามไปเพิ่งจะเดินเข้าไปในถ้ำ ความหนาวเย็นก็ปะทะใบหน้าเข้ามาเจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นมา คิดในใจว่าถ้ำนี้ช่างหนาวจริงๆในถ้ำนี้มีทางแยกอยู่หลายทาง หากว่าเจี่ยนอันอันไม่ตามติดเหวินอิงไป ก็อาจจะหลงทางได้ไม่นานนักทั้งสองคนก็มาถึงยังห้องใต้ดินเหวินอิงย่อกายลง ก่อนจะเคาะที่พื้นดินจนเสียง ‘ตึง’ ดังขึ้นมานางยืนขึ้น ก่อนจะกดลงไปบนพนังไม่นานนักแผ่นหินบนพื้นแผ่นหนึ่งก็เปิดออกเหวินอิงพูดกับเจี่ยนอันอัน “เจ้าตามข้าลงมา ธัญพืชและพืชผักต่างก็อยู่ที่นี่”เหวินอิงพูดออกมา พร้อมเดินก้าวใหญ่ลงบันไดไปเจี่ยนอันอันรีบตามติดมา ทั้งสองคนเดินมาไกล ในที่สุดถึงได้มาถึงชั้นล่างสุดเหวินอิงจุดคบเพลิงด้านใน ทำให้ทั่วทั้งห้องใต้ดินสว่างขึ้นมาเจี่ยนอันอันมองไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่ด้านในนั้น ตรงด้านข้างพนังนั้นล้วนแต่วางพืชผักธัญพืชเรียงรายเอาไว้อาหารเหล่านั้นล้วนแต่บรรจุเอาไว้ในถุงกระสอบเจี่ยนอันอันนับคร่าวๆ อย่างน้อยก็มีอาหารมากกว่าหนึ่งร้อยกระสอบที่นี่ทั้งหนาวเย็นและแห้งมาก เป็นเหมือนกับตู้เย็นตามธรรมชาติพืชผักและธัญพืชมากมายเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 73

    เหวินอิงนำเอาทองแท่งคืนให้เจี่ยนอันอัน “ช่างเถิด ข้าไม่เอาทองแท่งก้อนนี้ของเจ้าดีกว่า เจ้าอยากซื้อเนื้อ เช่นนั้นก็ตามข้ามา”เหวินอิงว่าพลางผลักประตูศิลาให้เปิดออกเจี่ยนอันอันเห็นว่าด้านหลังของประตูศิลาเป็นพื้นที่ว่างแห่งหนึ่งหลังจากเดินตามเหวินอิงเข้ามาแล้ว เจี่ยนอันอันก็ถูกลมหนาวจากภายในโอบล้อมเสียจนหนาวยะเยือก หลังจากเหวินอิงจุดคบเพลิง ก็ส่องสว่างไปทั่วอาณาบริเวณภายใน เจี่ยนอันอันจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าภายในนี้บรรจุผลึกน้ำแข็งเอาไว้มากมาย มิน่าข้างในจึงได้หนาวเย็นถึงเพียงนี้ เจี่ยนอันอันจามออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ นางตระกองแขนเข้าหากัน เดินตามเหวินอิงเข้ามาจนถึงจุดที่เก็บสัตว์ป่าเอาไว้ เหวินอิงชี้ไปยังสัตว์ป่าบนพื้นแล้วเอ่ยขึ้น “สัตว์ป่าทั้งหมดของค่ายเราล้วนอยู่ที่นี่หมด เจ้าชอบกินสัตว์ป่าชนิดไหนก็เอาไปเถิด” เจี่ยนอันอันเห็นว่าสัตว์ป่าพวกนั้นมีอย่างน้อยสามสิบกว่าตัว ในจำนวนนั้นมีกระต่ายป่าและไก่ภูเขาอยู่มากที่สุด ยังมีเนื้อวัว แพะ และหมาป่าอีกจำนวนหนึ่งเจี่ยนอันอันเองก็ไม่ได้คิดจะนำสัตว์ป่าของผู้อื่นไปมากจนเกินไป นางชี้นิ้วไปทางกระต่ายป่าและไก่ฟ้าไม่กี่ตัว“ข

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 74

    เหวินอิงเห็นว่าเจี่ยนอันอันดึงดันเช่นนี้ นางก็ไม่อาจพูดสิ่งใดได้นางกล่าวกับพวกโจรภูเขาด้วยความเอือมระอาพลางโบกไม้โบกมือ “ยืนนิ่งกันอยู่ทำไม ยังไม่รีบไปเอากระต่ายป่ากับไก่ฟ้ามาอีก!” พวกโจรภูเขายกเนื้อวัวเนื้อแพะขึ้นด้วยความเบิกบานใจ รีบนำกลับไปเก็บยังชั้นใต้ดิน ผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็ยกเอากระต่ายป่าและไก่ฟ้าสิบกว่าตัว สาวเท้าก้าวใหญ่เดินออกมาเจี่ยนอันอันมองเสบียงอาหารบนพื้น มุมปากก็ยกขึ้นน้อยๆ นางอยากนำเอาเสบียงอาหารเหล่านี้ใส่เข้าในมิติเต็มแก่ แต่ทว่าไม่อาจทำเช่นนั้นต่อหน้าคนอื่นๆ ได้ในที่สุดจึงนึกวิธีหนึ่งออกมาได้ นางเอ่ยถามเหวินอิง “รองหัวหน้า ข้าคลับคล้ายคลับคลาว่าในค่ายมีรถม้า เจ้าขายให้ข้าสักคันได้หรือไม่?” เหวินอิงเข้าใจความหมายของเจี่ยนอันอันอย่างรวดเร็ว นางมองทองแท่งสองก้อนแสนหนักอึ้งในมือ มือเล็กๆ ก็โบกไปทางโจรภูเขาทีหนึ่งพลางพูดขึ้น“พวกเจ้ารีบไปเอารถม้ามา นำเสบียงอาหารขนขึ้นรถม้าเสีย”พวกโจรภูเขาต่างก็เห็นทองแท่งในมือของเหวินอิงแล้ว พวกเขาคาดเดาว่าทองแท่งสองก้อนนี้จะต้องเป็นสิ่งที่เจี่ยนอันอันให้มาแน่ ทั้งหมดจึงรีบเอ่ยปากรับคำ ไปลากเอารถม้ามาอย่าง

Pinakabagong kabanata

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 823

    เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 822

    ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 821

    แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 820

    เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 819

    แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 818

    “นี่คือสัญญาฉบับใหม่ที่ข้าเพิ่งเขียนขึ้นมา ทั้งเฝิงซานกวงและเฉียวซื่อต่างได้ลงชื่อเรียบร้อย”“จึงอยากให้ท่านเจ้าเมืองได้ลงชื่ออีกคน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว วันหน้าเฝิงซานกวงจะได้ไม่กล้าบิดพลิ้วไปล่วงเกินเฉียวซื่ออีก”เจ้าเมืองตานมองดูข้อความในสัญญาฉบับใหม่ เห็นเนื้อหาล้วนสมเหตุสมผลดีอีกทั้งเรื่องนี้ก็ถือเป็นความผิดของเฝิงซานกวงก่อน จึงยอมรับพู่กันมา พร้อมทั้งเขียนชื่อตนเองลงไปเจี่ยนอันอันยิ้มๆ พร้อมนำแป้นประทับตรา มอบให้เจ้าเมืองตานได้ประทับลายนิ้วอีกซ้ำอีกสัญญาชุดเดียวกันแต่มีสองแผ่น เจี่ยนอันอันจึงแบ่งให้เจ้าเมืองตานและเฝิงซานกวงต่างถือไว้คนละแผ่น“มีเจ้าเมืองตานเป็นพยานอีกคน หากวันหน้าเฝิงซานกวงกล้าไปล่วงเกินเฉียวซื่อสองแม่ลูกอีก ให้ข้ารู้เข้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้”เฝิงซานกวงแค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นึกอยากหักคอเจี่ยนอันอันให้ตายคามือไปเสียเยียนอ๋องพระชายาบ้าบออันใดกัน ยามนี้ล้วนถูกฮ่องเต้ปลดเป็นสามัญชนทั้งสิ้น ซ้ำยังถูกเนรเทศมาอยู่เมืองอินเป่ยต่างหากบัดนี้ฐานะของพวกเขา จะต่างจากเขาที่ตรงไหน?แต่พอมาอยู่นี่แล้ว ยังกล้ามาทำเหิมเกริมอีกรอให้เรื่องนี้จบสิ้นเมื่อใด ต้องหาวิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 817

    แต่หากเป็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง เขาในฐานะอารอง ก็จะไม่ละเว้นผู้ทำร้ายเฝิงซานกวงเช่นกันแต่ไม่คาดคิดว่า เพียงลงจากรถม้า ก็ได้เห็นเยียนอ๋องและพระชายาอยู่ที่นี่ด้วยเจ้าเมืองตานนึกหวั่นใจขึ้น คงไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงไปทำความผิดอันใดเข้าอีกหรอกนะเจี่ยนอันอันใบหน้าแฝงรอยยิ้ม พร้อมนำสัญญาเผด็จการที่เฝิงซานกวงและเฉียวซื่อทำไว้ฉบับแรกให้เจ้าเมืองตานได้ดูเจ้าเมืองตานดูแล้วจึงเกิดความสงสัย “ในสัญญาได้ลงชื่อทั้งสองฝ่ายไว้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจ แล้วจะผิดอย่างไร?”แม้ว่าเงื่อนไขที่ระบุไว้จะมีแต่ความเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็มิได้บ่งบอกถึงสิ่งใดไฉนจึงต้องบาดหมางจนให้เขามาด้วยตนเอง?และเจ้าเมืองตานก็เห็นลูกน้องของเฝิงซานกวง ต่างถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเขามองหน้าเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางกับฉู่จวินสิงจึงต้องทำร้ายลูกน้องเฝิงซานกวงเช่นนี้เจี่ยนอันอันดึงตัวแม่ลูกตระกูลเฉียวมาเข้าใกล้ พลางกล่าวต่อเจ้าเมืองตาน “เจ้าเมืองตาน คนนี้ก็คือผู้ทำสัญญากับเฝิงซานกวง”“นางไม่รู้หนังสือ ข้อความในสัญญาล้วนเป็นเฝิงซานกวงอ่านให้ฟังทั้งสิ้น”“แต่เท่าที่ข้ารู้ เฝิงซานกวงมิได้อ่านเนื้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 816

    เจี่ยนอันอันแม้ถูกด่าว่าก็หาโกรธเคืองไม่ กลับกลายเป็นฉู่จวินสิงที่เดินขึ้นหน้า พลางต่อยเข้าที่ปากเฝิงซานกวงหนึ่งหมัด“เจ้ากล้าด่าเหนียงจื่อของข้า เห็นทีอยากถูกเลาะฟันออกจากปากเสียแล้ว”หมัดนี้ของฉู่จวินสิงหนักหน่วงยิ่ง ถึงขั้นทำให้ฟันหน้าของเฝิงซานกวงร่วงสองซี่ในบัดดลแต่เพราะเฝิงซานกวงถูกผ้าพันแผลปิดหน้าไว้หมด ฟันหน้าจึงค้างอยู่ในปาก จะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้ กลืนลงคอก็ไม่กล้าอีกฟันหน้าถูกค่อยจนร่วง ริมฝีปากก็ยังแตกซ้ำความเจ็บปวดในปากนั้น แทบทำให้เฝิงซานกวงอยากด่าไปถึงบุพการีแต่ภายหลังได้ลิ้มลองหมัดของฉู่จวินสิง เขากลับไม่กล้าใช้คำพูดดุเดือดออกมาอีกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นเอง มีเสียงรถม้าแว่วมาแต่ไกลทุกคนหันมองไปตามเสียงนั้น จึงเห็นรถม้าของทางการวิ่งตรงมาคันหนึ่งและผู้ที่ไปส่งข่าวยังจวนเจ้าเมืองตาน ก็วิ่งตามหลังรถม้ามาเจี่ยนอันอันผุดรอยยิ้มที่มุมปาก ดูท่าเจ้าเมืองตานมาได้รวดเร็วดีแท้รถม้ามาหยุดที่เบื้องหน้าทุกคนเร็วพลัน โดยมีเจ้าเมืองตานเปิดผ้าม่านแล้วก้าวเดินลงมาทันทีที่เห็นเฝิงซานกวงใบหน้าห่อด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ ซ้ำมุมปากยังมีคราบโลหิตซึมออกมา“เจ้าไปก่อกรรมทำเข็ญเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status