Share

บทที่ 260

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
คนผู้นั้นไม่มีเวลามาสะอิดสะเอียด เขารีบคายมูลสุนัขในปากทิ้งแล้วลุกขึ้นวิ่งต่อ

ในตอนนี้เอง เขาได้ยินเสียงหัวเราะ “หึๆ ๆ” ดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง

เสียงหัวเราะนี้ชวนให้ขนหัวลุกเป็นพิเศษ

เจี่ยนอันอันถีบเข้าที่เอวของคนผู้นั้นให้เขาล้มลง

คนผู้นั้นรีบหันศีรษะไปมองแต่กลับพบเพียงพื้นดินที่มืดสนิท ไม่มีผู้ใดทั้งนั้น

เขากลัวจนปัสสาวะราดกางเกงและร้องไห้ออกมา

ลมหนาวระลอกหนึ่งพัดผ่าน ทำให้เขาหลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัว

ปากร้องอ้อนวอนขอความเมตตาว่า “ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!”

เจี่ยนอันอันไปที่ด้านข้างคนผู้นั้นและจับให้เขาลุกขึ้น

“พูดมา เหตุใดใต้เท้าของเจ้าต้องทำร้ายครอบครัวเยียนอ๋องด้วย?”

คนผู้นั้นลืมตาขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียง

ทว่ากลับพบว่าเบื้องหน้าไม่มีแม้แต่เงาผู้ใด เขากลัวจนเข่าอ่อนคุกเข่าลงพื้นดังตุบ

ปากร้องขอความเมตตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ข้ายอมบอกท่านทุกอย่าง ขอเพียงไว้ชีวิตข้าสักแห่ง”

เจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็น “อะไร ถึงเวลานี้แล้วเจ้ายังกล้าต่อรองเงื่อนไขกับข้าอีกงั้นรึ?”

“มิกล้า ข้าน้อยมีกล้าต่อรองเงื่อนไขกับนายหญิงน้อย”

คนผู้นั้นกลัวจนน้ำมูกและน้ำตาไหลนองทั่วหน้า

เขาคำนับศีรษะให้เจี่ย
Locked Chapter
Patuloy ang Pagbabasa sa GoodNovel
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 261

    ซ่างตงเยว่กำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าเจ็บปวด บริเวณอกมีโลหิตไหลออกมาไม่หยุดเวลานี้นางหลับตาแน่นและหายใจรวยรินข้างกายมีคนชุดดำจำนวนหนึ่งนอนอยู่คนผู้นั้นถูกฉู่จวินสิงสังหารตายในกระบี่เดียวหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันเวลา เกรงว่าจะไม่รอดชีวิตเจี่ยนอันอันรีบบอกฉู่จวินสิง “รีบอุ้มนางเข้าไปในลานบ้าน”ฉู่จวินสิงเก็บกระบี่แล้วอุ้มซ่างตงเยว่เข้าไปในลานบ้าน“เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น ซ่างตงเยว่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”เจี่ยนอันอันตรวจดูบาดแผลของซ่างตงเยว่ไปด้วย ถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นไปด้วยฉู่จวินสิงตอบด้วยเสียงลึกทุ้ม “หลังจากที่เจ้าไปก็มีคนอีกกลุ่มบุกเข้ามาลอบสังหาร”“ซ่างตงเยว่คงจะเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้า นางเพิ่งจะวิ่งมาถึงที่นี่ก็ถูกแทงบาดเจ็บ”เจี่ยนอันอันฟังแล้วขมวดคิ้วแน่น เดิมทีนางคิดว่าตัวเองทำการจัดการนักฆ่าทั้งหมดให้กลายเป็นน้ำหนองไปแล้วเสียอีกคิดไม่ถึงว่าจะมีคนอีกกลุ่มบุกมาลอบสังหารที่นี่ เจี่ยนอันอันไม่มีเวลามาพูดอะไรมาก นางให้ฉู่จวินสิงอุ้มซ่างตงเยว่เข้าไปในบ้านหลังจากที่ฉู่จวินสิงออกไป นางก็รีบปิดประตูห้องให้สนิทและถอดเสื้อของซ่างตงเยว่ออกโลหิตยังคงไหลออกม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 262

    หลังจากที่เจี่ยนอันอันทำการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย นางก็พันผ้าพันแผลให้กับบาดแผลของซ่างตงเยว่จากนั้นเดินไปฟังความเคลื่อนไหวด้านนอกที่ประตูไม่นาน ฉู่จวินสิงก็กลับมาและพูดกับคนทั้งสามที่อยู่ในลานบ้านว่า “คนด้านนอกถูกข้าสังหารหมดแล้ว”เจี่ยนอันอันได้ยินดังนี้ก็ค่อยเปิดประตูออกไปฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันออกมาก็ถามด้วยสีหน้าจริงจัง “ซ่างตงเยว่เป็นอย่างไรบ้าง?”เจี่ยนอันอันเช็ดเหงื่อที่หน้าผากก่อนจะตอบเสียงเบา “ตอนนี้ปลอดภัยดีแล้ว”“แต่อาการบาดเจ็บของนางค่อนข้างสาหัส คงไม่ฟื้นในเร็วๆ นี้”เจี่ยนอันอันพูดจบก็พิจารณาฉู่จวินสิงโดยละเอียดครั้นเห็นว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บก็ค่อยโล่งใจในที่สุดฉู่อันเจ๋ออดถามไม่ได้ว่า “พวกเขาเป็นผู้ใดกันแน่ เหตุใดจึงมีคนมาลอบสังหารเยอะขนาดนี้?”ฉู่จวินสิงนำป้ายคำสั่งที่ค้นเจอจากพวกนักฆ่ามาโยนให้ฉู่อันเจ๋อ“พวกเขาเป็นคนของผู้ว่ามณฑลจงโจว”“กระไรนะ เป็นแค่ผู้ว่ามณฑลจงโจวแต่กลับกล้าส่งคนจำนวนมากขนาดนี้มาลอบสังหาร”“นี่ผู้ว่ามณฑลจงโจวไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรือไร?”ฉู่อันเจ๋อพูดด้วยความโมโหเดือดดาลตอนนี้พวกเขาเป็นเสือร่วงพื้นราบสุนัขรังแกโดยแท้ แม้แต่ผู้ว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 263

    ฮูหยินใหญ่เดินไปหาพวกฉู่จวินด้วยสีหน้าร้อนใจและถามด้วยความเป็นห่วง “พวกเจ้าปลอดภัยดีหรือไม่?”เจี่ยนอันอันไม่อยากให้ฮูหยินใหญ่เป็นห่วงจึงตอบด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ พวกข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”ฮูหยินรองมองฉู่อันเจ๋อ ครั้นเห็นว่าเขาปลอดภัยจริงๆ ก็เบาใจลงในที่สุดนางถามด้วยความสงสัย “พวกคนเมื่อครู่เป็นผู้ใดกัน เหตุใดต้องปองร้ายครอบครัวของเราด้วย?”ฉู่จวินสิงตอบด้วยสีหน้าราบเรียบ “พวกเขาเป็นคนของผู้ว่ามณฑลจงโจว”ถ้อยคำของฉู่จวินสิงทำให้สมาชิกในครอบครัวทั้งหมดมีอาการตกใจมากพวกเขาเพิ่งจะมาอยู่เมืองอินเป่ยได้ไม่นาน ไม่ได้รู้จักกับผู้ว่ามณฑลจงโจวอะไรนั่นเหตุใดอีกฝ่ายต้องปองร้ายพวกเขาด้วย?เจี่ยนอันอันไม่ได้เล่าเรื่องราวที่ได้ยินมาจากคนกลุ่มนั้นให้ทุกคนฟังนางตั้งใจว่าจะบอกเรื่องนี้กับพวกฉู่จวินสิงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ เห็นศพที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมนอนกองกันในลานบ้านแต่ละคนต่างมีสีหน้าหวาดกลัวในอากาศมีกลิ่นของหนังหมูย่างลอยคละคลุ้งคิดว่าคงต้องใช้เวลาหนึ่งคืนกว่ากลิ่นจะหายไปฉู่จวินสิงมองพ่อบ้านหลิว “พ่อบ้านหลิว ท่านพาคนมาลากศพพวกนี้ไปฝัง”พ่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 264

    เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันก็ถามฉู่จวินสิง “ร่างของพวกนักฆ่ากลุ่มสุดท้ายอยู่ที่ใด?”ฉู่จวินสิงเข้าใจความหมายของเจี่ยนอันอัน เขาจับมือนางพร้อมกับพูดว่า “ตามข้ามา”ทั้งสองคนเดินออกจากลานบ้านไปเพียงไม่ไกลก็พบกับศพสิบกว่าร่างที่นอนกระจัดกระจายบนพื้นเจี่ยนอันอันนำถุงมือแบบพิเศษจากในห้วงมิติออกมาสวม ตามด้วยโปรยผงสลายศพกำหนึ่งลงบนศพศพเหล่านั้นละลายเป็นน้ำหนองภายในชั่วพริบตาซ่างตงเยว่ถูกพาไปนอนพักรักษาตัวที่ห้องของเหยียนเซ่าส่วนเหยียนเซ่าต้องไปพักอยู่ห้องเดียวกันกับฉู่อันเจ๋อเจี่ยนอันอันพูดกับเหยียนเซ่าด้วยความเกรงใจเมื่อต้องทำแบบนี้ “คงต้องลำบากให้ท่านนอนกับอันเจ๋อสักสองสามวันแล้ว”เหยียนเซ่าส่ายมือตอบอย่างไม่ยี่หระ “ไม่ได้ลำบากอะไร สมัยที่อยู่ค่ายทหารก็เคยนอนกับคนหลายสิบเป็นประจำ”เจี่ยนอันอันประทับใจในตัวเหยียนเซ่าไม่น้อยเลย แม้เขาจะพูดน้อยแต่ก็มีคุณธรรมดีมากฉู่อันเจ๋อไม่ได้มีปัญหาอะไรเช่นกัน ความจริงแล้วเขาก็ค่อนข้างชอบคบค้าสมาคมกับเหยียนเซ่าค่ำคืนนี้ ไม่มีผู้ใดนอนหลับสนิทเจี่ยนอันอันพลิกตัวไปมาอย่างไรก็นอนไม่หลับในหัวเอาแต่คิดว่าผู้ใดกันที่ต้องการสังหารนางมากถึงเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 265

    ถึงอย่างไรซ่างตงเยว่ก็อายุแค่หกขวบแต่กลับต้องเผชิญความยากลำบากมากมายขนาดนี้ความเจ็บปวดที่หน้าอกทำให้นางต้องกัดริมฝีปากแน่นนางไม่ได้เปล่งเสียงร้องไห้ เพียงแต่ปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาเจี่ยนอันอันผลักประตูเข้ามาก็พบกับภาพที่สองพ่อลูกกำลังร้องไห้นางไม่ได้รบกวนพ่อลูกคู่นี้ แต่ถอยออกไปและปิดประตูให้อย่างแผ่วเบาเจี่ยนอันอันไปหาฉู่จวินสิงและบอกเขาว่าตัวเองต้องการไปมณฑลจงโจวเพื่อคิดบัญชีกับผู้ว่าคนนั้นฉู่จวินสิงต้องการที่จะทำแบบนั้นเช่นกัน ต่อให้เจี่ยนอันอันไม่ไป เขาก็คิดที่จะใช้กระบี่ปลิดชีพผู้ว่ามณฑลจงโจวอยู่แล้วแต่ก่อนที่จะทำแบบนั้น พวกเขาต้องไปหาเซิ่งฟางที่ที่ว่าการอำเภอก่อนมีเพียงเซิ่งฟางที่รู้ตำแหน่งที่ตั้งของมณฑลจงโจวหลังจากที่ทั้งสองคนกินมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางไปที่ว่าการอำเภอรอบนี้ฉู่อันเจ๋อกับเหยียนเซ่าต่างก็โวยวายที่จะตามไปด้วยแม้แต่พี่ใหญ่อย่างฉู่จวินหลุนก็ยังอยากตามมาด้วยเช่นกันเจี่ยนอันอันรู้สึกว่า หากไม่ทิ้งผู้ที่มีศิลปะการต่อสู้ไว้ที่บ้านสักคนเกิดว่ามีคนบุกมารอบสังหารอีกรอบ เกรงว่าจะไม่มีผู้ใดปกป้องสมาชิกคนอื่นในครอบครัวได้นางมองฉู่จวินสิงแล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 266

    เหยียนเซ่าทำหน้าเย็นชา แต่น้ำเสียงที่พูดออกมากลับอ่อนโยนอย่างยิ่ง“เด็กดี อย่าได้ขยับไปทั่ว หากว่าลงไปจะกระแทกได้”เด็กหญิงตัวน้อยไม่ได้ฟังคำของเหยียนเซ่าเลย ยังคงพยายามดิ้นรนอย่างแรงเหยียนเซ่าน้อยนักที่จะมีความอดทนไปเกลี้ยกล่อมเด็กน้อยทว่าครั้งนี้ เขากลับมีความอดทนอย่างแปลกประหลาด“เชื่อฟัง พวกเราล้วนแต่ไม่ใช่คนเลว ไม่มีทางทำอะไรแม่ของเจ้า”เด็กหญิงตัวน้อยถึงได้ฟังคำของเหยียนเซ่า นางกะพริบดวงตาคู่โตที่เปียกชื้น แล้วมองไปยังเหยียนเซ่าด้วยเสียงสะอื้นไห้โชคดีในที่สุดเด็กหญิงตัวน้อยถึงได้หยุดร้องตะโกนออกมา และก็ทำให้ข้างหูของเหยียนเซ่าถึงได้เงียบสงบลงมากเจี่ยนอันอันให้ฉู่จวินสิงคอยมองดูคนเหล่านั้น ไม่ให้พวกเขาเข้ามาใกล้นางลดม่านรถลง แล้วดึงเสื้อผ้าหยาบๆ บนกายหญิงสาวคนนั้นออกเสียงฉีกเสื้อผ้าออกนั้น ดังลอยออกมาจากรถม้าคนที่นอนอยู่บนพื้นเหล่านั้น พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดบนร่างกาย แล้วคลานไปยังรถม้ามือของฉู่จวินสิงถือดาบยาวเอาไว้ ยืนอยู่ด้านหน้าของรถม้าใบหน้าของเขาดูเย็นชา ใช้สายตาเย็นเยียบจ้องมองไปยังคนทั้งหลาย“พวกเจ้าอย่ามาเตะต้องคุณหนูของข้า รีบปล่อยนางเสีย”เด็กรั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 267

    นางไม่สนใจความเจ็บปวดของร่างกาย ทันใดนั้นก็คุกเข่าลงต่อหน้าของเจี่ยนอันอัน“ข้าขอร้องพวกเจ้า ปล่อยตั๋วตั่วของข้าไปเถิด นางยังมีอายุเพียงแค่สามขวบเท่านั้น”“ข้าตายไปไม่เป็นไร อย่าให้ตั๋วตั่วของข้าถูกฝังไปพร้อมกับข้าได้หรือไม่?”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าหญิงสาวคิดคำนึงถึงลูกของนางเช่นนี้ ก็ถอนหายใจออกมาอย่างทำอะไรไม่ได้นางหันไปเปิดม่านรถ แล้วพูดออกมากับเหยียนเซ่า “พี่เหยียนนำเด็กน้อยมานี่เถอะ”เหยียนเซ่าอุ้มตั๋วตั่วไปยังรถม้าอย่างเชื่อฟังตั๋วตั่วเมื่อเห็นว่าตนเองออกจากอ้อมแขนของอีกฝ่ายแล้ว ก็รีบวิ่งไปยังเบื้องหน้าของหญิงสาว แล้วพุ่งเข้าในอ้อมแขนนางหญิงสาวเองก็เอื้อมมือออกไป อย่างจะรับเด็กน้อยเอาไว้ทว่ามือของทั้งสองยังไม่ทันได้แตะกัน ตั๋วตั่วของเจี่ยนอันอันก็ถูกดึงเอาไว้“บนกายแม่ของเจ้ายังมีบาดแผลอยู่ หากว่าเจ้ากระโจนเข้าไป จะต้องทำให้นางบาดเจ็บยิ่งขึ้น”ตั๋วตั่วมองไปยังบาดแผลของหญิงสาว ตรงนั้นกำลังมีคราบเลือดเปื้อนแดงฉานตั๋วตั่วตกใจเสียจนไม่กล้าเข้าใกล้ ปล่อยให้เจี่ยนอันอันจับนางเอาไว้“แม่ของข้าจะตายหรือไม่?” ตั๋วตั่วพูดออกมา น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลลงมาเจี่ยนอันอันไม่อยากทำใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 268

    กวนซินพูดขึ้น แล้วดึงมือของตนเองกลับมาเจี่ยนอันอันเมื่อเห็นดวงตาของกวนซินกะพริบไปมา ราวกับว่ากำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นนางก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ โน้มตัวไปยังริมใบหูของกวนซิน แล้วพูดออกมาเสียงเบา“หากว่าเจ้าได้ยินมาว่าสามีของข้าเป็นนักโทษที่สมคบคิดกับศัตรูทรยศแคว้นแล้ว เช่นนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเชื่อ”“สามีของข้ากระทำการตรงไปตรงมาโดยตลอด เขาเพียงแต่ประสบความสำเร็จมากจนเกินไป”“ถึงได้ทำให้ฉู่ชางเหยียน ตั้งข้อกล่าวหาว่าสามีของข้าเป็นนักโทษสมคบคิดกับศัตรู”“พวกเราเองก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นกัน ไม่เพียงแต่ถูกยึดจวน ยังถูกเนรเทศมาที่นี่อีก”เมื่อเจี่ยนอันอันพูดจบ ก็มองไปยังกวนซินอย่างจริงจังกวนซินไม่คิดเลยว่า เจี่ยนอันอันจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ ถึงขั้นกล้าเรียกชื่อฉู่ชางเหยียนออกมาโดยตรงหากว่าคำนี้ถูกคนนอกได้ยินเข้า จะต้องลอยไปถึงหูของฉู่ชางเหยียนแน่กวนซินคำนึงถึงเจี่ยนอันอันที่มีบุญคุณช่วยชีวิตเอาไว้นางละความคับข้องในใจ แล้วพูดกับเจี่ยนอันอันเสียงแผ่วเบา“เจ้าอย่าเชื่อคำของคนด้านนอกเหล่านั้น ในหมู่พวกเรามีสายสอดแนมของฮ่องเต้อยู่”“ฮ่องเต้ส่งพวกเขามา นอกจากค

Pinakabagong kabanata

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 638

    ใบหน้ากู้มั่วหลีผุดรอยยิ้มราวกับคนกระหายเลือดเขาพลิกตัวกลับ นอนทับบนร่างเจี่ยนหลิงเยว่แทนมือข้างหนึ่งจับสองมือนางกดไว้เหนือศีรษะ ส่วนอีกข้างเร่งรีบปลดเปลื้องเสื้อผ้านางออกจากตัว“จงบอกข้ามา เจ้าเจ็บตรงไหนบ้าง? ตรงนี้ หรือว่าตรงนี้?”มือของกู้มั่วหลีเหมือนดั่งงูตัวเล็ก เลื้อยไปทั่วร่างกายเจี่ยนหลิงเยว่ฝ่ามือเขาทำให้เจี่ยนหลิงเยว่หวั่นไหวไปทั่ว ร่างกายสั่นระริกยิ่งคำพูดของเขา ทำให้นางรู้สึกประหนึ่งมีสายฟ้าผ่าลงที่กลางหัวใจ“คุณชายกู้ ข้า...”“ชู่ อย่าพูดมาก เพียงแค่เสพสุขก็พอ”น้ำเสียงกู้มั่วหลีเหมือนดั่งเสียงปีศาจ ทำให้เจี่ยนหลิงเยว่ต้องหุบปากโดยพลันไม่นานนางเริ่มรู้สึกเนื้อตัวหนาวเย็น เมื่อก้มหน้าลงไปดู จึงเห็นเสื้อตัวนอกถูกถอดไปเสียแล้ว เหลือเพียงตัวในซึ่งเป็นผ้าแพรบางเจี่ยนหลิงเยว่เขินอายจนหน้าแดงอีกครั้ง นางหลับตาลง ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อยนางกำลังรอคอยให้กู้มั่วหลีประทับริมฝีปากลงมาแต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆ กลับรู้สึกว่าคนที่ทับร่างนางอยู่ เขาได้ถอยห่างออกไปกู้มั่วหลีลุกขึ้นแล้วยืนที่ข้างเตียง นัยน์ตาส่อแววรังเกียจการให้ท่าของเจี่ยนหลิงเยว่ ทำให้เขานึกถึงมารดาขอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 637

    ฮูหยินรองเห็นฮูหยินใหญ่มีสีหน้ากลัดกลุ้ม แต่นางก็ไม่รู้จะปลอบใจอย่างไรเพราะหากตอนนี้เป็นนาง ก็คงห่วงใยความปลอดภัยของฉู่อันเจ๋อเช่นกันดีที่การไปเมืองจิงโจวครั้งนี้ ฉู่อันเจ๋อไม่คิดติดตามไปด้วยข้อนี้จึงทำให้ฮูหยินถอนหายใจโล่งอกหน่อยเจี่ยนอันอันกลับมาที่ห้อง และแวะไปดูห้วงมิติเห็นยาวิเศษสามเม็ดนั้นยังคงอยู่ในระหว่างเพิ่มสรรพคุณอยู่และตอนนี้ดูแล้ว ปุบปับคงยังไม่อาจปรุงได้สำเร็จเมื่อครู่หลังจากกินข้าวเสร็จ นางนำยาถอนพิษที่ปรุงออกมาวันนี้ แจกจ่ายให้แก่ทุกคนพร้อมบอกทุกคนว่า ถ้ากู้มั่วหลีคิดมาวางยาพวกเขาอีก ก็ให้กินยาถอนพิษที่อยู่ในขวดเสียและยาตัวนี้จะกินมากก็ไม่ได้ ครั้งละหนึ่งเม็ดก็เพียงพอกินมากไปจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพมากกว่า......ยามนี้กู้มั่วหลีกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง รอยแผลที่หน้าผากได้ตกสะเก็ดแล้วใบหน้าอันหล่อเหลานั้น เพราะมีรอยแผลนี้ จึงกลายเป็นตำหนิที่ทำให้ไม่สมบูรณ์แบบค่ำคืนเงียบสงัด มีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรนอกหน้าต่างเท่านั้นไม่นานพลันได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบา และมีเงาคนปรากฏที่หน้าประตู“คุณชายกู้ ข้าเข้าไปได้หรือไม่?”ร่างกายเจี่ยนหลิงเยว่เพิ่งได

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 636

    “พี่รอง ท่านคิดกลับไปเมืองจิงโจวจริงรึ? แต่พวกเราถูกเนรเทศมาอยู่เมืองอินเป่ย จะไม่อาจไปไหนได้อีก แล้วท่านจะกลับไปได้อย่างไร?”“อีกอย่างฮ่องเต้ต้องส่งทหารมาเฝ้าประตูเมืองจิงโจวไว้ หากท่านกลับไปเช่นนี้ อาจถูกคนของฮ่องเต้พบเห็นเข้า”“แล้วถึงตอนนั้น ท่านอาจไม่ได้รอดชีวิตกลับมาอีก”ฉู่อันเจ๋อเพิ่งกล่าวจบ กลับถูกฉู่จวินหลุนตบเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง“อย่าพูดเหลวไหล พี่รองเจ้าไม่ตายง่ายๆ หรอก”ฉู่อันเจ๋อกุมท้ายทอยที่ถูกตีจนเจ็บ พลางก้มหน้าก้มตาไม่กล้าพูดจาอีกฟางอิ๋งนึกถึงเมื่อคืนวันก่อน ฉู่จวินสิงไปที่ห้องของนางกับฉู่จวินหลุนคาดว่าสองคนคงจะหารือเรื่องนี้กระมังตอนนั้นฉู่จื่อซีได้นอนหลับไปแล้ว จึงไม่ได้ยินการพูดคุยของพวกเขาส่วนฟางอิ๋งก็ออกจากห้องไปอย่างรู้กาลเทศะ ไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยเช่นกันที่แท้ฉู่จวินหลุนรู้แต่แรกแล้วว่า ฉู่จวินสิงมีความคิดจะกลับไปเมืองจิงโจวอีกซึ่งนอกจากเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงเองแล้ว ผู้อื่นล้วนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ฉู่จวินหลุนก็เป็นห่วงว่าการไปของฉู่จวินสิงครั้งนี้ จะเสี่ยงเกินไปหรือไม่แต่เขาก็รู้นิสัยฉู่จวินสิงดี สิ่งที่เขาคิดจะทำ อย่างไรก็ต้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 635

    งูดำอีกตัวเตรียมจะพุ่งเข้าฉกร่างกายของฉู่จวินสิง แต่กลับถูกเขาจับเข้าที่ตำแหน่งหัวใจของมันงูดำไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน ได้แต่ปล่อยให้ฉู่จวินสิงจับตัวไว้ พร้อมฟาดกับพื้นรุนแรงซ้ำผลก็คืองูตัวที่สามก็ขดตัวเป็นวงกลมเช่นกัน และแน่นิ่งไร้การขยับเขยื้อนอีกจนถึงเวลานี้ เจี่ยนอันอันจึงกล้าเดินมาใกล้นางก้มลงไปพิจารณางูดำทั้งสามตัว จึงพบว่าพวกมันล้วนตายด้วยน้ำมือฉู่จวินสิงทั้งสิ้นสายตาที่นางจ้องมองฉู่จวินสิงจึงเพิ่มความชื่นชมขึ้นมาอีกปกติเจี่ยนอันอันไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่กลัวงูตัวใหญ่สีดำประเภทนี้ที่สุดหากไม่เพราะมีฉู่จวินสิงตามมาด้วย ป่านนี้นางคงกลัวจนยืนตัวแข็งไปแล้วเจี่ยนอันอันจับงูดำขึ้นมาตัวหนึ่ง พร้อมบีบที่หัวมัน บังคับให้อ้าปากกว้างเขี้ยวแหลมคมสองซี่ปรากฏออกมาในบัดดล ดูแล้วยังคล้ายเคลือบด้วยพิษร้ายแรงอีกเจี่ยนอันอันกำลังคิดหนักอยู่ว่าจะหาอะไรมาปรุงยาพิษดี เขี้ยวพิษของงูสามตัวนี้ มาได้จังหวะเหมาะมาก“วันนี้มาเจอสามีของข้า นับว่าพวกเจ้าเคราะห์ร้ายเอง”เจี่ยนอันอันกล่าว พลางดึงเขี้ยวพิษของงูออกมา ใส่ลงในขวดเล็กและใช้วิธีเดียวกัน ถอนเขี้ยวพิษจากงูอีกสองตัว ใส่ลงในขวดก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 634

    เจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “ผ้าพวกนั้นล้วนได้มาจากจวนกั๋วกง”“ท่านพ่อไร้ยางอายของข้าให้ข้าออกเรือนแทนน้องสาว แม้แต่ผ้าสักผืนยังไม่ยอมให้ข้า”“ท่านก็รู้นิสัยข้าดี ผู้ใดดีต่อข้า ข้าจะตอบแทนเป็นร้อยเท่า แต่หากผู้ใดทำไม่ดี ข้าจะเอาคืนเป็นพันเท่าเช่นกัน”“ผ้าเหล่านี้จึงถือเป็นสินสมรสของข้า ในเมื่อท่านพ่อไร้ยางอายไม่ยอมให้ข้าสักผืน ถ้าเช่นนั้นข้าจึงขนมาทั้งหมด”สายตาที่ฉู่จวินสิงมองเจี่ยนอันอัน ยิ่งเพิ่มความรักมากขึ้นอีกนิสัยบุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระของนาง ในสายตาฉู่จวินสิงช่างน่ารักเป็นที่สุดและเจี่ยนกั๋วกงในสายตาของฉู่จวินสิง ก็ไม่เคยมีภาพลักษณ์ที่ดีเลยสมัยก่อนเจี่ยนกั๋วกงทำตัวสนิทสนมใกล้ชิดกับฉู่ชางเหยียนเป็นอย่างมาก ซ้ำยังมุ่งมั่นหนุนให้เขาได้ขึ้นครองราชย์บัดนี้ฉู่ชางเหยียนได้บรรลุเป้าหมายแล้ว คาดว่าเจี่ยนกั๋วกงน่าจะได้ผลตอบแทนไม่น้อยแต่เจี่ยนกั๋วกงก็ได้ทำความดีอยู่เรื่องหนึ่ง ก็คือยกเจี่ยนอันอันให้แต่งงานกับเขาฉู่จวินสิงเห็นปากบางของเจี่ยนอันอันยังคงเจื้อยแจ้วไม่หยุด จึงรีบดึงตัวนางมาเข้าใกล้โดยไม่สนใจรอบข้าง พร้อมประทับจุมพิตลงไป“อึ้ม...”เจี่ยนอันอันยังพูดไม่จบดี กลั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 633

    เหยียนอวี่คิดด้วยความตื้นตัน เจี่ยนอันอันช่างดีต่อพวกเขาสองพี่น้องนักหญิงสาวที่ดีเลิศถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงได้แต่งงานเร็วนักนะ?หากมาแต่งงานกับเขาแทน คงจะดีไม่น้อยเจี่ยนอันอันปรายตามองดูเหยียนอวี่ พลางกล่าวสัพยอก “เจ้าอ้าปากกว้างมากกว่านี้ คางคงยื่นถึงพื้นแล้วกระมัง”เหยียนอวี่เพิ่งตั้งสติกลับมา แล้วรีบหุบปากเร็วพลันแต่สายตาที่จ้องมองเจี่ยนอันอันนั้นมีความแน่วแน่มากขึ้นความตั้งใจที่อยากแต่งงานกับนางก็มากขึ้นเป็นทวีคูณยามนี้เขารอเพียงเมื่อใดเจี่ยนอันอันจะมองเห็นความดีของเขา แล้วเลิกรากับฉู่จวินสิง จากนั้นก็มาแต่งงานกับเขาแทนเจี่ยนอันอันไม่รู้ทันความคิดของเหยียนอวี่ แต่หากนางรู้เข้า คงได้หัวเราะจนฟันร่วงแน่เพราะนางเห็นเหยียนอวี่เป็นเพียงอดีตผู้ป่วยคนหนึ่ง ไม่ได้คิดเลยเถิดกับเขาแม้แต่น้อยเหยียนซวงตั้งสติกลับมา พลางรีบขอบคุณเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมาก“อันอัน เจ้าช่างดีต่อข้าและเหยียนอวี่นัก จนข้าไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดี”เหยียนซวงไม่เคยคาดคิดว่า เงินที่หามาได้จะต้องแบ่งหกสี่กับเจี่ยนอันอันนางรู้เพียงหาเงินได้ครบห้าสิบตำลึงเมื่อใด เอาไปคืนให้ถังหมิงเซวียนก็เพียงพอแล้วหลั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 632

    เหยียนซวงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้าจะรีบไปหาเงิน แล้วนำห้าสิบตำลึงชดใช้คืนให้ถังหมิงเซวียน”เจี่ยนอันอันไม่คิดก้าวก่าย เพราะถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเหยียนซวง ปล่อยให้นางจัดการเองจะดีกว่าส่วนพี่ใหญ่นั้น นางย่อมรู้นิสัยของเขาดีพี่ใหญ่ไม่นิยมใกล้ชิดอิสตรี หญิงสาวโดยทั่วไปแทบไม่เคยอยู่ในสายตาเขาเลยเจี่ยนอันอันมองดูใบหน้าแน่วแน่ของเหยียนซวง จึงได้แต่ยิ้มและไม่พูดอะไรอีกเหยียนซวงเป็นคนเถรตรง ว่าไปก็นับว่าถูกชะตากับนางอีกทั้งเหยียนซวงพอรู้วรยุทธ์ เวลาทำงานไม่เคยอิดออด ข้อนี้นับว่าเหนือกว่าเจียงหว่านเอ๋อร์มากนักตอนนี้ก็ดูเพียงว่าเหยียนซวงจะเอาชนะความเย็นชาของพี่ใหญ่ได้หรือไม่?เจี่ยนอันอันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าวันหน้าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ในแง่ไหนส่วนถังหมิงเซวียนนั้น นางกลับคิดว่าเขายังไม่เป็นผู้ใหญ่พอจึงดูไม่คู่ควรกับเหยียนซวงเมื่อนึกถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันจึงได้ถาม “เจ้าคิดจะใช้วิธีใดไปหาเงิน?”นางเป็นห่วงเรื่องนี้มากกว่า เพราะยามนี้เหยียนซวงยังพำนักอยู่ในหมู่บ้านชิงสุ่ยหากนางคิดหาเงินจริง ก็ต้องไปอำเภอไถหยางระยะทางไปกลับค่อนข้างไกลอยู่ ดีที่นางได้ซื้อรถม้าไว้ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 631

    เมื่อเจี่ยนอันอันเห็นเหยียนซวงและเหยียนอวี่เดินมา จึงยิ้มเล็กน้อยแล้วชี้ไปทางชามด้านข้าง“พวกเจ้าช่วยหยิบชามมาอีกสองใบ”เดิมงานเช่นนี้ให้ฉู่จวินสิงทำก็ได้ แต่บังเอิญสองคนนี้ยืนอยู่ข้างโต๊ะนางจึงให้พวกเขาช่วยเหลือเล็กน้อยเหยียนซวงดีใจยิ่งที่จะได้ทำอะไรเพื่อเจี่ยนอันอันบ้าง นางจึงรีบไปเอาชามสองใบมาให้เจี่ยนอันอันทันทีเหยียนอวี่ก็กำลังคิดจะไปหยิบ แต่ถูกพี่สาวชิงตัดหน้าเสียก่อนเขาจึงชักมือกลับ ยืนอยู่ด้านข้างไม่พูดจา สายตายังคงจับจ้องที่ร่างของเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันรับเอาชามมา พร้อมเอาเตาต้มยามาอยู่ใกล้ แล้วรินยาในนั้นออกมาบอกให้เหยียนซวงนำชามไปวางไว้มุมหนึ่ง รอผึ่งให้เย็นเหยียนซวงกำลังจะรับชามยา ครั้งนี้เหยี่ยนอวี่รีบยื่นมือออกไป ชิงรับไปเสียก่อนมุมปากเหยียดขึ้นเล็กน้อย การได้ทำงานเพื่อเจี่ยนอันอัน เป็นสิ่งที่เขายินดีอย่างยิ่งเหยียนอวี่เดินไปที่ห้องครัว วางชามยาลงที่โต๊ะหินหันกลับมากล่าว “แม่นางเจี่ยน หากมีอะไรให้ข้ารับใช้อีก เชิญสั่งมาได้เลย”เจี่ยนอันอันโบกมือ “ตอนนี้ยังไม่มีสิ่งใดให้ทำ พวกเจ้าไปรอข้าที่เรือนก่อน”เดิมเหยียนอวี่ยังคิดว่าจะได้อยู่รับใช้เจี่ยนอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 630

    ไม่รู้ว่าเจ้าคนบ้าคนนั้นจะใช้วิธีการอะไรมาจัดการกับคนในตระกูลฉู่อีกครั้งนี้ นางมิใช่เพียงต้องปรุงยาวิเศษที่สามารถเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาเท่านั้น แต่ยังต้องเตรียมยาถอนพิษไว้ให้ทุกคนด้วยกู้มั่วหลีถนัดการใช้พิษ หากนางกับฉู่จวินสิงเดินทางไปแล้ว กู้มั่วหลีมาวางยาคนในตระกูลฉู่อีก นั่นย่อมเป็นปัญหาเพราะนอกจากนางแล้ว ที่นี่ไม่มีผู้ใดสามารถทำยาแก้พิษได้เจี่ยนอันอันรีบไปยังห้องครัว หยิบเตาหลอมยาสองเตาออกมานางตั้งใจปรุงยาเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาและยาถอนพิษไปพร้อม ๆ กันขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังจดจ่อกับการหลอมยา เหยียนซวงและเหยียนอวี่ก็มาถึงบ้านตคระกูลฉู่เดิมทีทั้งสองตั้งใจจะมาชวนเจี่ยนอันอันไปตลาดเพื่อขายผักด้วยกัน แต่รออยู่นานก็ไม่เห็นนางออกจากลานเรือนเสียทีสุดท้ายสองพี่น้องจึงต้องมาหาเจี่ยนอันอันถึงที่นี่นางอยากเล่าให้เจี่ยนอันอันฟังเกี่ยวกับเรื่องที่นางเจอเสิ่นจือเจิ้งเมื่อวาน หลังจากพวกนางกลับถึงบ้าน เหยียนซวงก็ลงมือก่อไฟทำอาหารตั้งแต่ตอนที่พวกนางอาศัยอยู่ที่อำเภอไถหยาง ได้ซื้อตุนข้าวสารไว้จำนวนหนึ่งซึ่งยังเหลืออยู่เมื่อย้ายมาที่หมู่บ้านชิงสุ่ย เหยียนซวงก็นำข้าวสารเหล่านั้

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status