Share

บทที่ 268

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
กวนซินพูดขึ้น แล้วดึงมือของตนเองกลับมา

เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นดวงตาของกวนซินกะพริบไปมา ราวกับว่ากำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง

ทันใดนั้นนางก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ โน้มตัวไปยังริมใบหูของกวนซิน แล้วพูดออกมาเสียงเบา

“หากว่าเจ้าได้ยินมาว่าสามีของข้าเป็นนักโทษที่สมคบคิดกับศัตรูทรยศแคว้นแล้ว เช่นนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเชื่อ”

“สามีของข้ากระทำการตรงไปตรงมาโดยตลอด เขาเพียงแต่ประสบความสำเร็จมากจนเกินไป”

“ถึงได้ทำให้ฉู่ชางเหยียน ตั้งข้อกล่าวหาว่าสามีของข้าเป็นนักโทษสมคบคิดกับศัตรู”

“พวกเราเองก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นกัน ไม่เพียงแต่ถูกยึดจวน ยังถูกเนรเทศมาที่นี่อีก”

เมื่อเจี่ยนอันอันพูดจบ ก็มองไปยังกวนซินอย่างจริงจัง

กวนซินไม่คิดเลยว่า เจี่ยนอันอันจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ ถึงขั้นกล้าเรียกชื่อฉู่ชางเหยียนออกมาโดยตรง

หากว่าคำนี้ถูกคนนอกได้ยินเข้า จะต้องลอยไปถึงหูของฉู่ชางเหยียนแน่

กวนซินคำนึงถึงเจี่ยนอันอันที่มีบุญคุณช่วยชีวิตเอาไว้

นางละความคับข้องในใจ แล้วพูดกับเจี่ยนอันอันเสียงแผ่วเบา

“เจ้าอย่าเชื่อคำของคนด้านนอกเหล่านั้น ในหมู่พวกเรามีสายสอดแนมของฮ่องเต้อยู่”

“ฮ่องเต้ส่งพวกเขามา นอกจากค
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 269

    นางไม่อยากอาศัยอยู่เรือนด้านข้าง จึงนำฉู่ตั๋วตั่ว กุมตรงบาดแผล เดินเข้าไปในห้องที่ติดอักษรมงคลสีแดงเอาไว้ส่วนคนอื่นนั้น ก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการห้องกันเอาเองรถม้าที่เจี่ยนอันอันนั่งอยู่ กำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางของที่ว่าการอำเภอเจี่ยนอันอันนั่งอยู่บนรถม้า ขมวดคิ้วแน่นฉู่จวินสิงสังเกตได้ว่าเจี่ยนอันอันดูแปลกไป เขาจึงได้ถามออกมาเสียงเบา “เป็นอะไรไป?”เจี่ยนอันอันย้อนคิดไปถึงคำของกวนซินอยู่ตลอดเวลานางพบว่าในเด็กรับใช้ทั้งหลายนั้น มีสองคนที่มีบาดแผลเบาที่สุดหนึ่งในนั้นคือหญิงชราคนนั้น อีกคนหนึ่งก็เป็นเด็กรับใช้คนที่เอะอะโวยวายให้พวกเขาปล่อยคุณหนูของเขาไปทั้งสองคนอย่างมากก็เป็นเพียงบาดแผลภายนอกเท่านั้น ไม่เหมือนกันคนอื่นที่บาดแผลค่อนข้างสาหัสโดยเฉพาะกวนซินที่ได้รับบาดเจ็บไปจนถึงไตโชคดีที่นางมาได้ทันเวลา และป้อนยารักษาบาดแผลพิเศษให้กับกวนซินตอนนี้ดูเหมือนว่า ทั้งสองคนนั้นที่ได้รับบาดเจ็บเพียงภายนอกนั้น ก็คงจะเป็นคนที่กวนซินพูดออกมาว่าเป็นคนที่ฉู่ชางเหยียนส่งมาสอดแนมอยู่ข้างกายนางเจี่ยนอันอันนำคำของกวนซินพูดให้ฉู่จวินสิงฟังฉู่จวินสิงพูดออกมาอย่างเย็นชา “รอจนเมื่อจัดการเร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 270

    และในตอนที่ทั้งสามคนพูดกันอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ทางการคนหนึ่งก็เดินเข้ามาเขากระซิบพูดบางอย่างข้างหูเซิ่งฟาง เซิ่งฟางขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย“เขามาทำไมกัน? ไม่พบ!”เซิ่งฟางพูดเสียงขรึม แล้วโบกมือออกมา เพื่อบอกให้เจ้าหน้าที่ทางการคนนั้นออกไปเจ้าหน้าที่ทางการรับคำสั่งแล้วออกไป ผ่านไปไม่นานนัก ก็กลับเข้ามาใหม่“ใต้เท้า เขาบอกว่าไม่ว่าจะยังไงก็จะพบท่าน ท่านว่า...” เจ้าหน้าที่ทางการมองไปยังเซิ่งฟางด้วยสีหน้าลำบากใจยังไม่ทันได้รอให้เซิ่งฟางได้พูดออกมา เจี่ยนอันอันก็ถามขึ้น “พี่เซิ่ง ใครกันที่อยากพบท่าน?”เซิ่งฟางส่งเสียงเย็นชาออกมา แล้วพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก “ยังจะเป็นใครไปอีก ก็เจ้าเมืองคนนั้นที่อยากจะมาพบข้า และก็ไม่รู้ว่าเขามีความตั้งใจอะไรกัน ถึงยังไม่ยอมจากไป”เจี่ยนอันอันคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าเมืองคนนั้นในเมื่อยืนกรานจะพบเซิ่งฟาง เช่นนั้นก็ต้องทำดีกับเขาไว้เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันก็พูดออกมา “พี่เซิ่ง ไม่สู้ให้เขาเข้ามาที่นี่ ข้าอยากจะดูว่าเขามาหาท่านเพราะเรื่องอะไรกันแน่”เจ้าหน้าที่ทางการมองไปยังเซิ่งฟาง รอเพียงแค่คำของเขาเซิ่งฟางโบกมือแล้วพูดขึ้น “ไปพาเขามา”“ขอรับ ใต

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 271

    เจ้าเมืองตานมองไปยังฉู่จวินสิงทั้งสามคน ก็พบว่าพวกเขากำลังมองมายังเขาด้วยใบหน้าเฉยเมยเจ้าเมืองตานไม่มีทางเลือกแล้ว จึงพูดออกมาเสียงดัง “เป็นข้าที่เข้าใจท่านผิดไป”“ในปีนั้นเรื่องการสังหารหมู่ ท่านไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเมืองอินเป่ยเลย ทั้งหมดนี่เป็นเพราะใต้เท้าจงโจวที่เป็นคนจัดการทั้งหมด”คำของเจ้าเมืองตาน เป็นเหมือนกับสายฟ้าฟาด ดังขึ้นในใจของเซิ่งฟางเขาไม่คิดเลยว่า คนที่ตัวเองให้ความสำคัญมากในปีนั้น แต่ในตอนที่เกิดการสังหารหมู่ในเมืองนั้น จะทรยศเขาได้ไม่เพียงแต่เท่านี้ ผู้ว่าการมณฑลจงโจวคนนั้น ยังวางแผนใส่ร้ายเขาอีกด้วยเซิ่งฟางก้าวขึ้นมาไม่กี่ก้าว แล้วคว้าคอเสื้อของเจ้าเมืองตานขึ้นมา“ท่านพูดออกมาให้ชัด ว่าตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”เจ้าเมืองตานเมื่อเห็นว่าเซิ่งฟางโกรธขึ้นมาแล้วจริงๆ เขาก็ตื่นตกใจเสียจนตัวสั่นเทาเขายกมือขึ้นอย่างจะจับมือของเซิ่งฟางที่จับเขาออก ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายจับแน่นยิ่งขึ้นเหยียนเซ่าที่ไม่พูดอะไรออกมาตลอดนั้น พูดขึ้นมา “พี่เซิ่ง ท่านปล่อยเขาเสียก่อน”“ทำให้เขาตกใจ ก็ไม่ได้คำตอบที่ต้องการแน่”เซิ่งฟางส่งเสียงเย็นชาออกมา แล้วถึงได้ปล่อยคอเสื้อขอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 272

    เขาไม่คิดเลยว่าอ๋องเจ็ดที่มาทำการสังหารหมู่ในปีนั้น จะสมคบคิดกันกับผู้ว่ามณฑลจงโจวส่วนอ๋องเจ็ดคนนั้น ตอนนี้ก็กลายฮ่องเต้ของแคว้นไท่ยวนแล้วในใจของเจ้าเมืองตานเต้นรัวเขาไม่รู้ว่าควรจะเคาะประตูดีหรือไม่ แล้วนำเรื่องที่เซิ่งฟางกลับมาแล้ว แถมยังกลายเป็นนายอำเภอบอกกับท่านผู้ว่าการมณฑลจงโจวไปคนในห้องโถงทั้งสองคน ไม่รู้เลยว่ายังมีคนแอบฟังอยู่ด้านนอกอีกคนผู้ว่ามณฑลจงโจวให้ทหารองค์รักษ์ออกไป ก็เพราะว่าไม่อยากให้คนนอกมาได้ยินเขาพูดคุยอยู่กับแขกนอกจากนี้แล้วแขกลึกลับคนนั้น บางทีอาจจะอาศัยสถานะที่สูงส่งกว่าตน ไม่ได้เห็นคนในที่ว่าการอยู่ในสายตาเลยหากว่ามีคนกล้าลอบฟัง เขาจะต้องตัดลิ้นของอีกฝ่ายทิ้งเป็นแน่ รวมทั้งตัดแขนขา ให้คนที่แอบฟังนั้น ทั้งชาตินี้เขียนไม่ได้พูดไม่ได้ไปตลอด!ไม่นานนัก เสียงของท่านผู้ว่ามณฑลจงโจวก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าเมืองเซิ่งฟางในปีนั้น ช่างไม่รู้ทันสถานการณ์เลย”“หากว่าเขานำของสมบัติของเมืองอินเป่ยมอบให้แล้ว เขาเองก็คงไม่ถึงขั้นถูกจับเช่นนี้”เมื่อผู้ว่ามณฑลจงโจวพูดมาถึงตรงนี้ ก็เย้ยหยันออกมาอย่างน่าหวาดกลัว คนลึกลับผู้นั้นก็พูดเย้ยหยันขึ้นมา “ยังเป็นตาเฒ่าเช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 650

    จนกระทั่งม้าที่เจี่ยนอันอันขี่อยู่ได้กลิ่นควันของกระดาษเงินกระดาษทองที่กำลังเผา มันอดไม่ได้ที่จะจามออกมาเสียงดังชายหนุ่มพลันคว้ากระบี่ข้างกายขึ้นมาด้วยสีหน้าตื่นตัว หันมองไปยังเบื้องหลังทว่าไม่มีผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียว ในศาลบรรพชนแห่งนี้ นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีแม้แต่เงาของผู้ใดชายหนุ่มลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยก็ไม่มีทหารที่ถูกส่งมาไล่ล่าทว่าในตอนที่เขาหันหน้ามานั้น เจี่ยนอันอันกลับต้องสะดุ้งในใจเมื่อได้เห็นใบหน้าของเขาครึ่งหนึ่งบนใบหน้าของชายหนุ่ม ผิวหนังส่วนหนึ่งหลอมละลายจนติดกันบางจุดยังมีน้ำหนองไหลออกมา ดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งนักเจี่ยนอันอันคิดในใจว่า ชายผู้นี้คงเคยถูกไฟคลอกมาก่อน และไม่ได้รับการรักษาอย่างทันทวงทีเขาคุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชนด้วยใบหน้าเช่นนี้ เกรงว่าหากบิดามารดาในโลงศพของเขาได้เห็นเข้าก็คงจะตกใจจนสะดุ้งลุกขึ้นมาเป็นแน่เมื่อฉู่จวินสิงเห็นใบหน้าของชายผู้นี้ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นกว่าเดิมบัดนี้ ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังคงอยู่ในสภาวะล่องหนทำให้ชายหนุ่มไม่อาจล่วงรู้ถึงการมาของพวกเขา“เหตุใดจึงเป็นเขา?” ฉู่จวินสิงเผลอพึมพำออกมาเจี่ยนอันอันมอง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 649

    ฉู่จวินสิงเอ่ยว่า “พวกเขามีนามว่าหม่าลู่ เฉินเช่อ เจียงหลิว ลู่ซาน และหลิ่วหยวน”เจี่ยนอันอันจดจำชื่อของทั้งห้าคนไว้ในใจนางให้ฉู่จวินสิงจับบังเหียนม้าให้แน่น เช่นนี้แล้วพวกเขาจะได้เคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาไปถึงจุดหมายพร้อมกับม้าที่ขี่อยู่ได้ทั้งสองตั้งจิตแน่วแน่ นึกถึงชื่อของเหล่าทหารใต้บัญชาพวกนั้น ในชั่วพริบตาพวกเขาก็อันตรธานหายไปจากที่เดิมเมื่อปรากฏกายขึ้นอีกครา ก็พบว่าตนมาอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งบ้านเรือนโดยรอบล้วนปิดประตูสนิท ไม่อาจรู้ได้ว่าคนที่พวกเขาตามหาจะอยู่ที่นี่หรือไม่เจี่ยนอันอันกระตุกมุมปากเล็กน้อย คิดในใจว่าคุณสมบัติของยาเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาว่ายังไม่สมบูรณ์พอเห็นทีว่าจะเป็นเพราะเมื่อตอนนางหลอมยา นางรีบร้อนเกินไป หากมีเวลาเพิ่มอีกสักหน่อย นางคงจะหลอมยาเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาที่สมบูรณ์แบบกว่านี้ได้บัดนี้ต้องหาทางพัฒนาประสิทธิภาพของยาให้มากขึ้น มิฉะนั้น หากต้องใช้การเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาอีกครั้ง ก็ไม่รู้เลยว่าจะถูกส่งไปยังที่ใดอีกแต่ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี หรือจะให้พวกเขาเดินเคาะประตูไปทีละบ้าน ถามชาวบ้านว่ามีผู้ใดพบเห็นคนที่พวกเขาตามหาบ้างหรือไม่กระนั้นหรือ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 648

    เจี่ยนอันอันไม่เคยบอกฉู่จวินสิงเกี่ยวกับภารกิจของมิตินางจึงแต่งเรื่องโกหกขึ้นมา “ข้าไม่เคยแปลงโฉมมาก่อน พอได้คิดว่ากลับไปถึงเมืองจิงโจวแล้วจะได้ลองดูแปลงโฉมดู ข้าก็ตื่นเต้นขึ้นมา”คิ้วของฉู่จวินสิงที่ขมวดมุ่นอยู่ก่อนหน้านี้ ค่อย ๆ คลายลงเล็กน้อยสำหรับเขาวิชาแปลงโฉมง่ายดายไม่ต่างจากการกินข้าวแต่สำหรับเจี่ยนอันอัน กลับเป็นสิ่งแปลกใหม่และน่าตื่นเต้น“ในโลกของเจ้า ไม่มีผู้ใดที่รู้วิชาแปลงโฉมหรือ?”ฉู่จวินสิงพลันรู้สึกสงสัย โลกของเจี่ยนอันอันเป็นเช่นไรกันแน่?เจี่ยนอันอันส่ายศีรษะเบา ๆ “วิชาแปลงโฉมข้าเคยเห็นแค่ในละครเท่านั้น แต่ก็เป็นของปลอม”“ศาสตร์แปลงโฉมที่แท้จริง สูญหายไปนานแล้ว”เจี่ยนอันอันกล่าวถึงตรงนี้ ก็นึกถึงการแสดงเปลี่ยนหน้ากากเสฉวนขึ้นมาได้นางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมขึ้นว่า “แต่ในโลกของข้าก็มีศาสตร์แปลกใหม่เช่นกัน เรียกว่าวิชาเปลี่ยนหน้า”ฉู่จวินสิงเกิดความสนใจขึ้นมาทันที เขาอยากรู้ว่าวิชาเปลี่ยนหน้าที่นางพูดถึง จะเหมือนกับวิชาแปลงโฉมของเขาหรือไม่เขาไม่ได้ถามออกมา เพียงรอให้เจี่ยนอันอันเล่าต่อไปเองเจี่ยนอันอันกล่าวต่อด้วยความตื่นเต้นว่า “วิชาเปลี่ยนหน้าของพวกเราก็

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 647

    ฉู่จวินสิงถือหน้ากากหนังมนุษย์สองผืนไว้ในมือ ก่อนยิ้มบาง ๆ “พวกเราปลอมตัวเป็นพวกมันแล้วกลับเข้าเมืองจิงโจวกันเถิด”เจี่ยนอันอันมองดูหน้ากากหนังมนุษย์ทั้งสองแผ่น แล้วเข้าใจถึงจุดประสงค์ของฉู่จวินสิงทันทีนางเคยเห็นในละครหรืออ่านในนิยายว่า มีคนในยุคโบราณไม่น้อยที่เชี่ยวชาญวิชาแปลงโฉมนางไม่คาดคิดเลยว่าฉู่จวินสิงก็มีความสามารถด้านการแปลงโฉมนี่เป็นศาสตร์ที่นางหลงใหลมาโดยตลอดสายตาของเจี่ยนอันอันที่มองฉู่จวินสิง เปล่งประกายไปด้วยความชื่มชมฉู่จวินสิงจัดเก็บหน้ากากหนังมนุษย์อย่างระมัดระวัง แล้วส่งให้เจี่ยนอันอัน ให้นางช่วยเก็บไว้ในมิติก่อนเจี่ยนอันอันรับหน้ากากหนังมนุษย์มาเก็บเข้าไปในมิติ หลังล้างทำความสะอาดแล้วก็นำไปแช่ในน้ำพุวิญญาณ“แล้วจากนี้พวกเราควรทำเช่นไรต่อ?”“ในเมื่อจะปลอมตัวเป็นอิ่นเจียงกับหน่วยกล้าตายเพื่อแฝงตัวเข้าไปในเมืองจิงโจว ก็ไม่ควรกลับไปเร็วเกินไปนัก”“พวกเราจะขี่ม้าไปอย่างช้า ๆ เมื่อใกล้ถึงเมืองจิงโจว ข้าจะช่วยเจ้าแปลงโฉมเอง”ฉู่จวินสิงเอ่ยพลางเดินไปเลือกม้าที่ดีที่สุดสองตัวเขาถอดอานม้าที่เหลืออีกสี่ตัวออก ก่อนจะฟาดลงบนบั้นท้ายของพวกมันอย่างแรงม้าทั้งสี่ร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 646

    เขาพยายามเพ่งมองใบหน้าของเจี่ยนอันอันให้ชัดเจน ทว่าโลหิตทำให้ดวงตาพร่ามัวจนเขามองอะไรไม่ชัดเลยมองเห็นแค่ร่างหญิงสาวบอบบางผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขาเสียงของเจี่ยนอันอันไพเราะเสนาะหู ทว่าคำที่นางพูดออกมากลับทำให้ผู้คนขนลุกไปถึงปลายเท้า“ท่านพี่ ท่านลงมือถลกหนังหน้าเขาแล้ว ข้าว่าถลกหนังมันทั้งตัวไปเลยดีหรือไม่”“ข้าไม่เคยเห็นการถลกหนังคนทั้งเป็นมาก่อน คิดดูแล้วน่าตื่นเต้นไม่น้อย”หน่วยกล้าตายได้ยินก็รู้สึกขนลุกทันที สตรีผู้นี้เหตุใดจึงโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้นางยังเป็นสตรีอยู่หรือไม่?หน่วยกล้าตายกัดฟันแน่น ดวงตาสีเลือดซึ่งไร้เปลือกตาจ้องเขม็งไปที่เจี่ยนอันอันด้วยแรงอาฆาตฉู่จวินสิงกระชับวงแขนที่โอบรัดเอวของเจี่ยนอันอันแน่นขึ้น หญิงสาวผู้นี้ช่างกล้าพูดเสียจริงเจี่ยนอันอันหันมายิ้มกว้างให้ฉู่จวินสิงแล้วกล่าวว่า “ข้าพูดเล่นเท่านั้น การถลกหนังทั้งเป็นมันนองเลือดเกินไป ข้ากลัวว่าเห็นมากเกินไปแล้วจะฝันร้ายเอาได้”หน่วยกล้าตายที่ได้ยินเช่นนั้นแอบถอนหายใจโล่งอกบัดนี้เขาเพียงหวังให้ตนตายอย่างรวดเร็ว ไม่อยากทนรับความเจ็บปวดอันแสนทรมานนี้อีกต่อไปเจี่ยนอันอันมองดูสภาพของหน่วยกล้าตายที่ก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 645

    “เรื่องที่เจ้าพูดมาพวกนี้ ข้าคาดเดาได้แต่แรกแล้ว”คำพูดของฉู่จวินสิงทำให้หัวใจอิ่นเจียงพลันกระตุกวูบนี่หมายความว่าข้อมูลที่เขาให้ไปยังไม่สามารถทำให้ฉู่จวินสิงพอใจได้น่ะสิ?อิ่นเจียงเค้นสมองคิดหาวิธีเอาชีวิตรอดแต่แม้เขาจะเป็นคนของฉู่ชางเหยียน แต่เรื่องที่รู้กลับมีไม่มากนักหากไม่ใช่เพราะฉู่ชางเหยียนส่งพวกเขามาสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงที่เมืองอินเป่ย เกรงว่าเขาก็คงไม่รู้เรื่องนี้ละเอียดเช่นนี้เหมือนกันฉู่จวินสิงมองอิ่นเจียงด้วยสีหน้าเย็นชา “ถ้าเจ้าไม่มีข้อมูลอย่างอื่นอีก ข้าจะลงมือแล้วนะ”ฉู่จวินสิงว่าพลาง มีดสั้นในมือก็แทงมายังใบหน้าอิ่นเจียงอีกครั้งอิ่นเจียงตกใจจนหัวใจแทบกระดอนออกมาจากคอหอยในที่สุดเขาก็นึกถึงความลับที่สำคัญกว่านั้นขึ้นมาได้จึงโพล่งออกมาว่า “เยียนอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้ายังรู้อีกเรื่อง”ฉู่จวินสิงหยุดมือ มองอิ่นเจียงด้วยสายตาเย็นเฉียบ รอให้อีกฝ่ายพูดต่อไปอิ่นเจียงรีบพูดออกมาว่า “หลังจากรัชทายาทถูกทำลายวรยุทธ์ก็ถูกคุมขังอยู่ในคุกหลวง”“แต่ครึ่งเดือนก่อน อยู่ดีๆ รัชทายาทก็เสียสติ บัดเดี๋ยวร้องไห้บัดเดี๋ยวหัวเราะอยู่ในคุกหลวงทั้งวัน ทั้งยังใช้ศีรษะโขกกำแพง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 644

    มือฉู่จวินสิงหยุดชะงัก อิ่นเจียงเข้าใจว่าฉู่จวินสิงถูกเขาโน้มน้าวได้แล้วเขารีบคุกเข่าลงตรงหน้าฉู่จวินสิง โขกศีรษะอย่างหนักหน่วงสามครั้งเลือดสดๆ ไหลลงมาตามปากแผล หยดลงบนสาบเสื้อ“ขอเพียงเยียนอ๋องยอมละเว้นข้า ข้าจะบอกความลับทุกอย่างต่อเยียนอ๋อง”อิ่นเจียงโขกศีรษะพลางพร่ำพูดอ้อนวอนฉู่จวินสิงไม่ได้คิดจะเถือหนังหน้าอิ่นเจียงเร็วปานนั้นเขารู้ว่าอิ่นเจียงอยู่ข้างกายฉู่ชางเหยียนมานานปีย่อมรู้ความลับเกี่ยวกับฉู่ชางเหยียนมากมายหลายเรื่องเขาจะรอจนอิ่นเจียงบอกความลับทั้งหมดออกมาแล้วค่อยเถือหนังหน้าของอีกฝ่ายฉู่จวินสิงกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ทางที่ดีเจ้าจงบอกข้ามาทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเจ้าก็รู้ฝีมือข้าดี”คราวนี้อิ่นเจียงไม่กล้าปิดบังอีกแล้ว บอกแผนการของฉู่ชางเหยียนออกมาจนหมดเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ทหารรักษาพระองค์ที่ควบคุมครอบครัวฉู่จวินสิงมาแดนเนรเทศกลับไปถึงเมืองจิงโจวฉู่ชางเหยียนรู้จากปากหานซื่อว่า ที่แท้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ถูกหมีดำกัดตายระหว่างทางส่งตัวนักโทษเนรเทศพวกเขายังได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเพราะเหตุนี้ ส่วนฉู่จวินสิงเสียชีวิตกะทันหันระหว่างทางฉู่ชางเหยียนพอใจอย่างมาก ตกร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 643

    อิ่นเจียงเบิกตามองหนังหน้าของหน่วยกล้าตายผู้นั้นถูกฉู่จวินสิงเถือออกมาหัวใจเขาเต้นกระหน่ำกล่าวกันว่าเยียนอ๋องโหดเหี้ยมอำมหิต ปฏิบัติต่อศัตรูโดยไม่เลือกวิธีการแต่การได้มาเห็นภาพนี้ด้วยตาตัวเองทำให้หนังศีรษะของอิ่นเจียงชาหนึบเจี่ยนอันอันที่ยืนอยู่บนต้นไม้เห็นภาพตรงหน้าแล้วก็ต้องนึกเลื่อมใสฉู่จวินสิงในใจนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นด้านที่โหดร้ายเช่นนี้ของฉู่จวินสิงคิดไม่ถึงว่าพอฉู่จวินสิงจะโหดขึ้นมา เทียบกับนางแล้วยังโหดกว่าเสียอีกฉู่จวินสิงถือหนังหน้าที่สมบูรณ์ดีแผ่นนั้นพลางก้าวยาวๆ มาทางอิ่นเจียงอิ่นเจียงตกใจถอยหลังกรูด เขากล่าวอย่างลนลานว่า “เจ้าจะทำอะไร เจ้าอย่าเข้ามานะ”ฉู่จวินสิงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดชะงักฝีเท้าแม้แต่น้อย เขาเดินมาถึงตรงหน้าอิ่นเจียง ก้มตัวลงจ้องมองอีกฝ่าย“ถ้าเจ้ายังไม่พูดความจริงอีกก็จะมีจุดจบเหมือนเขา”อิ่นเจียงมองหน่วยกล้าตายที่ถูกถลกหนังหน้าพร้อมกับรู้สึกหนังศีรษะชาวาบลักษณะที่เลือดเนื้อเลอะเลือนแบบนั้น ถึงจะเป็นอิ่นเจียงที่โหดเหี้ยมอำมหิตก็ยังหวาดกลัวจนทำใจมองตรงๆ ไม่ลงหน่วยกล้าตายอีกสามคนเห็นอย่างนั้นก็ล้วนตกใจกลัวจนตัวสั่นความตายหาได้น่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 642

    ฉู่จวินสิงหยิบกระบี่บนพื้นขึ้นมาแล้วก้าวเท้ายาวๆ ตรงมาหาอิ่นเจียงอิ่นเจียงกัดฟันตวาดว่า “ฉู่จวินสิง เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าฝ่าบาททรงทราบจะต้องไม่ปล่อยเจ้ากับครอบครัวเจ้าไปแน่!”ฉู่จวินสิงหัวเราะเสียงเย็น กระบี่ในมือชี้ไปยังใบหน้าอิ่นเจียง“เจ้าคิดว่าฉู่ชางเหยียนจะรู้ว่าเจ้าถูกข้าสังหารงั้นรึ?”“อย่าลืมสิว่าตอนที่เจ้าทรมานข้า ในสายตาฉู่ชางเหยียน ข้าเป็นคนที่ใกล้จะตายแล้ว”อิ่นเจียงถูกคำพูดของฉู่จวินสิงทำให้โมโหจนกระอักเลือดออกมาคำหนึ่งฉู่จวินสิงพูดถูก ตอนนั้นเขาถูกทรมานจนเหลือแค่ลมหายใจสุดท้ายประกอบกับความลำบากตรากตรำจากการเดินทาง หากพิจารณาจากสภาพของฉู่จวินสิงในยามนั้น เกรงว่าคงตายไปตั้งแต่ระหว่างทางแล้วส่วนที่เขานำหน่วยกล้าตายมาเมืองอินเป่ยในครั้งนี้ก็เป็นคำสั่งของฉู่ชางเหยียนฉู่ชางเหยียนให้พวกเขามาที่เมืองอินเป่ยอย่างลับๆ เพื่อสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงฉู่ชางเหยียนไม่คิดจะปล่อยให้ครอบครัวของฉู่จวินสิงรอดไปแม้แต่คนเดียวอยู่แล้ว แต่เขาไม่อยากถูกครหาว่าสังหารพี่น้องร่วมสายเลือดตั้งแต่เพิ่งขึ้นครองราชย์ครอบครัวฉู่จวินสิงถูกเนรเทศมาที่เมืองอินเป่ยนานปานนี้ ต่อให้พ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status