คนผู้นั้นไม่มีเวลามาสะอิดสะเอียด เขารีบคายมูลสุนัขในปากทิ้งแล้วลุกขึ้นวิ่งต่อในตอนนี้เอง เขาได้ยินเสียงหัวเราะ “หึๆ ๆ” ดังขึ้นข้างหูอีกครั้งเสียงหัวเราะนี้ชวนให้ขนหัวลุกเป็นพิเศษเจี่ยนอันอันถีบเข้าที่เอวของคนผู้นั้นให้เขาล้มลงคนผู้นั้นรีบหันศีรษะไปมองแต่กลับพบเพียงพื้นดินที่มืดสนิท ไม่มีผู้ใดทั้งนั้นเขากลัวจนปัสสาวะราดกางเกงและร้องไห้ออกมาลมหนาวระลอกหนึ่งพัดผ่าน ทำให้เขาหลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัวปากร้องอ้อนวอนขอความเมตตาว่า “ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!”เจี่ยนอันอันไปที่ด้านข้างคนผู้นั้นและจับให้เขาลุกขึ้น“พูดมา เหตุใดใต้เท้าของเจ้าต้องทำร้ายครอบครัวเยียนอ๋องด้วย?”คนผู้นั้นลืมตาขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงทว่ากลับพบว่าเบื้องหน้าไม่มีแม้แต่เงาผู้ใด เขากลัวจนเข่าอ่อนคุกเข่าลงพื้นดังตุบปากร้องขอความเมตตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ข้ายอมบอกท่านทุกอย่าง ขอเพียงไว้ชีวิตข้าสักแห่ง”เจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็น “อะไร ถึงเวลานี้แล้วเจ้ายังกล้าต่อรองเงื่อนไขกับข้าอีกงั้นรึ?”“มิกล้า ข้าน้อยมีกล้าต่อรองเงื่อนไขกับนายหญิงน้อย”คนผู้นั้นกลัวจนน้ำมูกและน้ำตาไหลนองทั่วหน้าเขาคำนับศีรษะให้เจี่ย
ซ่างตงเยว่กำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าเจ็บปวด บริเวณอกมีโลหิตไหลออกมาไม่หยุดเวลานี้นางหลับตาแน่นและหายใจรวยรินข้างกายมีคนชุดดำจำนวนหนึ่งนอนอยู่คนผู้นั้นถูกฉู่จวินสิงสังหารตายในกระบี่เดียวหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันเวลา เกรงว่าจะไม่รอดชีวิตเจี่ยนอันอันรีบบอกฉู่จวินสิง “รีบอุ้มนางเข้าไปในลานบ้าน”ฉู่จวินสิงเก็บกระบี่แล้วอุ้มซ่างตงเยว่เข้าไปในลานบ้าน“เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น ซ่างตงเยว่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”เจี่ยนอันอันตรวจดูบาดแผลของซ่างตงเยว่ไปด้วย ถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นไปด้วยฉู่จวินสิงตอบด้วยเสียงลึกทุ้ม “หลังจากที่เจ้าไปก็มีคนอีกกลุ่มบุกเข้ามาลอบสังหาร”“ซ่างตงเยว่คงจะเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้า นางเพิ่งจะวิ่งมาถึงที่นี่ก็ถูกแทงบาดเจ็บ”เจี่ยนอันอันฟังแล้วขมวดคิ้วแน่น เดิมทีนางคิดว่าตัวเองทำการจัดการนักฆ่าทั้งหมดให้กลายเป็นน้ำหนองไปแล้วเสียอีกคิดไม่ถึงว่าจะมีคนอีกกลุ่มบุกมาลอบสังหารที่นี่ เจี่ยนอันอันไม่มีเวลามาพูดอะไรมาก นางให้ฉู่จวินสิงอุ้มซ่างตงเยว่เข้าไปในบ้านหลังจากที่ฉู่จวินสิงออกไป นางก็รีบปิดประตูห้องให้สนิทและถอดเสื้อของซ่างตงเยว่ออกโลหิตยังคงไหลออกม
หลังจากที่เจี่ยนอันอันทำการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย นางก็พันผ้าพันแผลให้กับบาดแผลของซ่างตงเยว่จากนั้นเดินไปฟังความเคลื่อนไหวด้านนอกที่ประตูไม่นาน ฉู่จวินสิงก็กลับมาและพูดกับคนทั้งสามที่อยู่ในลานบ้านว่า “คนด้านนอกถูกข้าสังหารหมดแล้ว”เจี่ยนอันอันได้ยินดังนี้ก็ค่อยเปิดประตูออกไปฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันออกมาก็ถามด้วยสีหน้าจริงจัง “ซ่างตงเยว่เป็นอย่างไรบ้าง?”เจี่ยนอันอันเช็ดเหงื่อที่หน้าผากก่อนจะตอบเสียงเบา “ตอนนี้ปลอดภัยดีแล้ว”“แต่อาการบาดเจ็บของนางค่อนข้างสาหัส คงไม่ฟื้นในเร็วๆ นี้”เจี่ยนอันอันพูดจบก็พิจารณาฉู่จวินสิงโดยละเอียดครั้นเห็นว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บก็ค่อยโล่งใจในที่สุดฉู่อันเจ๋ออดถามไม่ได้ว่า “พวกเขาเป็นผู้ใดกันแน่ เหตุใดจึงมีคนมาลอบสังหารเยอะขนาดนี้?”ฉู่จวินสิงนำป้ายคำสั่งที่ค้นเจอจากพวกนักฆ่ามาโยนให้ฉู่อันเจ๋อ“พวกเขาเป็นคนของผู้ว่ามณฑลจงโจว”“กระไรนะ เป็นแค่ผู้ว่ามณฑลจงโจวแต่กลับกล้าส่งคนจำนวนมากขนาดนี้มาลอบสังหาร”“นี่ผู้ว่ามณฑลจงโจวไปกินดีหมีหัวใจเสือมาหรือไร?”ฉู่อันเจ๋อพูดด้วยความโมโหเดือดดาลตอนนี้พวกเขาเป็นเสือร่วงพื้นราบสุนัขรังแกโดยแท้ แม้แต่ผู้ว
ฮูหยินใหญ่เดินไปหาพวกฉู่จวินด้วยสีหน้าร้อนใจและถามด้วยความเป็นห่วง “พวกเจ้าปลอดภัยดีหรือไม่?”เจี่ยนอันอันไม่อยากให้ฮูหยินใหญ่เป็นห่วงจึงตอบด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ พวกข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”ฮูหยินรองมองฉู่อันเจ๋อ ครั้นเห็นว่าเขาปลอดภัยจริงๆ ก็เบาใจลงในที่สุดนางถามด้วยความสงสัย “พวกคนเมื่อครู่เป็นผู้ใดกัน เหตุใดต้องปองร้ายครอบครัวของเราด้วย?”ฉู่จวินสิงตอบด้วยสีหน้าราบเรียบ “พวกเขาเป็นคนของผู้ว่ามณฑลจงโจว”ถ้อยคำของฉู่จวินสิงทำให้สมาชิกในครอบครัวทั้งหมดมีอาการตกใจมากพวกเขาเพิ่งจะมาอยู่เมืองอินเป่ยได้ไม่นาน ไม่ได้รู้จักกับผู้ว่ามณฑลจงโจวอะไรนั่นเหตุใดอีกฝ่ายต้องปองร้ายพวกเขาด้วย?เจี่ยนอันอันไม่ได้เล่าเรื่องราวที่ได้ยินมาจากคนกลุ่มนั้นให้ทุกคนฟังนางตั้งใจว่าจะบอกเรื่องนี้กับพวกฉู่จวินสิงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ เห็นศพที่ถูกเผาจนไหม้เกรียมนอนกองกันในลานบ้านแต่ละคนต่างมีสีหน้าหวาดกลัวในอากาศมีกลิ่นของหนังหมูย่างลอยคละคลุ้งคิดว่าคงต้องใช้เวลาหนึ่งคืนกว่ากลิ่นจะหายไปฉู่จวินสิงมองพ่อบ้านหลิว “พ่อบ้านหลิว ท่านพาคนมาลากศพพวกนี้ไปฝัง”พ่
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันก็ถามฉู่จวินสิง “ร่างของพวกนักฆ่ากลุ่มสุดท้ายอยู่ที่ใด?”ฉู่จวินสิงเข้าใจความหมายของเจี่ยนอันอัน เขาจับมือนางพร้อมกับพูดว่า “ตามข้ามา”ทั้งสองคนเดินออกจากลานบ้านไปเพียงไม่ไกลก็พบกับศพสิบกว่าร่างที่นอนกระจัดกระจายบนพื้นเจี่ยนอันอันนำถุงมือแบบพิเศษจากในห้วงมิติออกมาสวม ตามด้วยโปรยผงสลายศพกำหนึ่งลงบนศพศพเหล่านั้นละลายเป็นน้ำหนองภายในชั่วพริบตาซ่างตงเยว่ถูกพาไปนอนพักรักษาตัวที่ห้องของเหยียนเซ่าส่วนเหยียนเซ่าต้องไปพักอยู่ห้องเดียวกันกับฉู่อันเจ๋อเจี่ยนอันอันพูดกับเหยียนเซ่าด้วยความเกรงใจเมื่อต้องทำแบบนี้ “คงต้องลำบากให้ท่านนอนกับอันเจ๋อสักสองสามวันแล้ว”เหยียนเซ่าส่ายมือตอบอย่างไม่ยี่หระ “ไม่ได้ลำบากอะไร สมัยที่อยู่ค่ายทหารก็เคยนอนกับคนหลายสิบเป็นประจำ”เจี่ยนอันอันประทับใจในตัวเหยียนเซ่าไม่น้อยเลย แม้เขาจะพูดน้อยแต่ก็มีคุณธรรมดีมากฉู่อันเจ๋อไม่ได้มีปัญหาอะไรเช่นกัน ความจริงแล้วเขาก็ค่อนข้างชอบคบค้าสมาคมกับเหยียนเซ่าค่ำคืนนี้ ไม่มีผู้ใดนอนหลับสนิทเจี่ยนอันอันพลิกตัวไปมาอย่างไรก็นอนไม่หลับในหัวเอาแต่คิดว่าผู้ใดกันที่ต้องการสังหารนางมากถึงเพ
ถึงอย่างไรซ่างตงเยว่ก็อายุแค่หกขวบแต่กลับต้องเผชิญความยากลำบากมากมายขนาดนี้ความเจ็บปวดที่หน้าอกทำให้นางต้องกัดริมฝีปากแน่นนางไม่ได้เปล่งเสียงร้องไห้ เพียงแต่ปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาเจี่ยนอันอันผลักประตูเข้ามาก็พบกับภาพที่สองพ่อลูกกำลังร้องไห้นางไม่ได้รบกวนพ่อลูกคู่นี้ แต่ถอยออกไปและปิดประตูให้อย่างแผ่วเบาเจี่ยนอันอันไปหาฉู่จวินสิงและบอกเขาว่าตัวเองต้องการไปมณฑลจงโจวเพื่อคิดบัญชีกับผู้ว่าคนนั้นฉู่จวินสิงต้องการที่จะทำแบบนั้นเช่นกัน ต่อให้เจี่ยนอันอันไม่ไป เขาก็คิดที่จะใช้กระบี่ปลิดชีพผู้ว่ามณฑลจงโจวอยู่แล้วแต่ก่อนที่จะทำแบบนั้น พวกเขาต้องไปหาเซิ่งฟางที่ที่ว่าการอำเภอก่อนมีเพียงเซิ่งฟางที่รู้ตำแหน่งที่ตั้งของมณฑลจงโจวหลังจากที่ทั้งสองคนกินมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางไปที่ว่าการอำเภอรอบนี้ฉู่อันเจ๋อกับเหยียนเซ่าต่างก็โวยวายที่จะตามไปด้วยแม้แต่พี่ใหญ่อย่างฉู่จวินหลุนก็ยังอยากตามมาด้วยเช่นกันเจี่ยนอันอันรู้สึกว่า หากไม่ทิ้งผู้ที่มีศิลปะการต่อสู้ไว้ที่บ้านสักคนเกิดว่ามีคนบุกมารอบสังหารอีกรอบ เกรงว่าจะไม่มีผู้ใดปกป้องสมาชิกคนอื่นในครอบครัวได้นางมองฉู่จวินสิงแล
เหยียนเซ่าทำหน้าเย็นชา แต่น้ำเสียงที่พูดออกมากลับอ่อนโยนอย่างยิ่ง“เด็กดี อย่าได้ขยับไปทั่ว หากว่าลงไปจะกระแทกได้”เด็กหญิงตัวน้อยไม่ได้ฟังคำของเหยียนเซ่าเลย ยังคงพยายามดิ้นรนอย่างแรงเหยียนเซ่าน้อยนักที่จะมีความอดทนไปเกลี้ยกล่อมเด็กน้อยทว่าครั้งนี้ เขากลับมีความอดทนอย่างแปลกประหลาด“เชื่อฟัง พวกเราล้วนแต่ไม่ใช่คนเลว ไม่มีทางทำอะไรแม่ของเจ้า”เด็กหญิงตัวน้อยถึงได้ฟังคำของเหยียนเซ่า นางกะพริบดวงตาคู่โตที่เปียกชื้น แล้วมองไปยังเหยียนเซ่าด้วยเสียงสะอื้นไห้โชคดีในที่สุดเด็กหญิงตัวน้อยถึงได้หยุดร้องตะโกนออกมา และก็ทำให้ข้างหูของเหยียนเซ่าถึงได้เงียบสงบลงมากเจี่ยนอันอันให้ฉู่จวินสิงคอยมองดูคนเหล่านั้น ไม่ให้พวกเขาเข้ามาใกล้นางลดม่านรถลง แล้วดึงเสื้อผ้าหยาบๆ บนกายหญิงสาวคนนั้นออกเสียงฉีกเสื้อผ้าออกนั้น ดังลอยออกมาจากรถม้าคนที่นอนอยู่บนพื้นเหล่านั้น พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดบนร่างกาย แล้วคลานไปยังรถม้ามือของฉู่จวินสิงถือดาบยาวเอาไว้ ยืนอยู่ด้านหน้าของรถม้าใบหน้าของเขาดูเย็นชา ใช้สายตาเย็นเยียบจ้องมองไปยังคนทั้งหลาย“พวกเจ้าอย่ามาเตะต้องคุณหนูของข้า รีบปล่อยนางเสีย”เด็กรั
นางไม่สนใจความเจ็บปวดของร่างกาย ทันใดนั้นก็คุกเข่าลงต่อหน้าของเจี่ยนอันอัน“ข้าขอร้องพวกเจ้า ปล่อยตั๋วตั่วของข้าไปเถิด นางยังมีอายุเพียงแค่สามขวบเท่านั้น”“ข้าตายไปไม่เป็นไร อย่าให้ตั๋วตั่วของข้าถูกฝังไปพร้อมกับข้าได้หรือไม่?”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าหญิงสาวคิดคำนึงถึงลูกของนางเช่นนี้ ก็ถอนหายใจออกมาอย่างทำอะไรไม่ได้นางหันไปเปิดม่านรถ แล้วพูดออกมากับเหยียนเซ่า “พี่เหยียนนำเด็กน้อยมานี่เถอะ”เหยียนเซ่าอุ้มตั๋วตั่วไปยังรถม้าอย่างเชื่อฟังตั๋วตั่วเมื่อเห็นว่าตนเองออกจากอ้อมแขนของอีกฝ่ายแล้ว ก็รีบวิ่งไปยังเบื้องหน้าของหญิงสาว แล้วพุ่งเข้าในอ้อมแขนนางหญิงสาวเองก็เอื้อมมือออกไป อย่างจะรับเด็กน้อยเอาไว้ทว่ามือของทั้งสองยังไม่ทันได้แตะกัน ตั๋วตั่วของเจี่ยนอันอันก็ถูกดึงเอาไว้“บนกายแม่ของเจ้ายังมีบาดแผลอยู่ หากว่าเจ้ากระโจนเข้าไป จะต้องทำให้นางบาดเจ็บยิ่งขึ้น”ตั๋วตั่วมองไปยังบาดแผลของหญิงสาว ตรงนั้นกำลังมีคราบเลือดเปื้อนแดงฉานตั๋วตั่วตกใจเสียจนไม่กล้าเข้าใกล้ ปล่อยให้เจี่ยนอันอันจับนางเอาไว้“แม่ของข้าจะตายหรือไม่?” ตั๋วตั่วพูดออกมา น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลลงมาเจี่ยนอันอันไม่อยากทำใ
ว่านจื้อหมิงตกใจมากเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันปรากฏตัวอย่างฉับพลันนางเข้ามาอยู่ในที่ว่าการมณฑลจงโจวตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดจึงไม่เห็นนางอยู่ในการตะลุมบอนเมื่อครู่?เจี่ยนอันอันเห็นว่านจื้อหมิงไม่ตอบก็กดมีดลึกกว่าเดิมคมจากมีดสั้นจมลึกเข้าไปในผิวของว่านจื้อหมิงและกรีดคอเขาความเจ็บปวดรวดร้าวปกคลุมเข้ามา ว่านจื้อหมิงไม่กล้าชักช้า เขารีบเอ่ยตอบ “ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูด สาส์นลับอะไร?”ว่านจื้อหมิงรู้ตั้งแต่ตอนที่เจี่ยนอันอันพูดคำว่าสาส์นลับแล้วว่าในหมู่คนที่เขาส่งไปมีคนทรยศอยู่เจี่ยนอันอันเห็นว่านจื้อหมิงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องก็ยิ้มเยาะและออกแรงที่มือหนักกว่าเดิมว่านจื้อหมิงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ลำคออีกครั้ง เขากลัวว่าจะถูกเชือดคอในคราเดียว กลัวจนมีเหงื่อตกบริเวณหน้าผากเจี่ยนอันอันชำเลืองมองพวกฉู่จวินสิงทั้งสามคนที่กำลังต่อสู้ปราดหนึ่ง พบว่าพวกเขาสังหารทหารไปแล้วเกินครึ่งนางยิ้มเยาะว่า “เจ้าคงยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้สินะ”“ถ้าเช่นนั้นข้าจะช่วยบอกให้ พวกคนที่เจ้าส่งไปเมื่อคืนถูกฆ่าตายหมดแล้ว”“และข้าก็คือเจี่ยนอันอันที่สาส์นลับสั่งให้เอาชีวิต”ว่านจื้อหมิงได้ยินว่าหญิงสาวนางนี้ค
ตอนนี้พวกเขาทั้งหิวทั้งง่วง นอกจากนี้ยังวิงเวียนศีรษะเพราะตากแดดมาทั้งวันพวกทหารเอาแต่พร่ำบ่น ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลังพวกตัวเองเมื่อครู่นี้ พวกฉู่จวินสิงทั้งสี่คนได้เปลี่ยนมาสวมชุดท่องราตรีที่เจี่ยนอันอันนำออกมาฉู่จวินสิงอุ้มเจี่ยนอันอันและใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นไปบนหลังคาส่วนเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าแยกกันไปที่หลังคาอีกสองแห่งเนื่องจากท้องฟ้ามืดมาก อีกทั้งเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าต่างก็เก็บซ่อนกลิ่นอายของตัวเองทหารเหล่านี้จึงมองไม่เห็นทั้งสองคนเจี่ยนอันอันยังคงอยู่ในสภาวะล่องหน นางยืนอยู่ด้านหลังทหารเหล่านี้ ฟังพวกเขาบ่นถึงผู้ว่ามณฑลจงโจวมุมปากของนางยกโค้งเป็นรอยยิ้มเหี้ยมโหดหลังจากที่ฉู่จวินสิงส่งสัญญาณมือให้เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่า ทั้งสามคนก็ชักกระบี่แทงใส่เหล่าทหารเบื้องหน้าทหารพวกนั้นได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวและรู้สึกถึงความผิดปกติในที่สุดพวกเขารีบหันตัวกลับไปก็พบว่าด้านหลังมีคนในชุดสีดำและสวมผ้าคลุมหน้าสีดำยืนอยู่เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าลอบสังหารทหารไปหลายนายเช่นกัน ทันใดนั้นเอง เกิดความวุ่นวายขึ้นบนหลังคา “มีนักฆ่า!”ไม่รู้ว่าผู้ใดที่ตะโกนเสีย
เจี่ยนอันอันไม่ได้ไล่ตามไป นางท่องชื่อสมุนไพรพวกนี้ในใจแล้วต้องตกใจสมุนไพรพวกนี้ล้วนแต่มีพิษร้ายแรงแต่ไม่นาน นางก็เข้าใจได้ว่าพิษร้ายในตัวเวินอี๋ต้องถอนด้วยการใช้พิษต้านพิษและสมุนไพรเหล่านี้ก็มีสรรพคุณในการช่วยถอนพิษเช่นกันเจี่ยนอันอันจำชื่อของสมุนไพรเหล่านี้ นางนึกขึ้นได้ว่านอกกำแพงมีปืนพกกระบอกนั้นหากถูกผู้อื่นหยิบไป ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันก็รีบกระโดดขึ้นกำแพงลานบ้านนางยืนอยู่บนกำแพง เห็นว่ากู้มั่วหลีกำลังมองมาทางนางจากบนหลังคาที่อยู่ไกลออกไปมิหนำซ้ำเขายังทำท่าส่งจูบให้นางเจี่ยนอันอันรู้สึกเหมือนกินแมลงวัน สะอิดสะเอียนจนอยากอาเจียนนางถลึงตาใส่กู้มั่วหลีแล้วกระโดดลงจากกำแพงไปเก็บปืนพกเข้าสู่ห้วงมิติบัดนี้นางเข้าใจทุกอย่างในที่ว่าการมณฑลจงโจวอย่างแจ่มแจ้งฉู่จวินสิงกำลังรอนางอยู่ นางจะมัวชักช้าไม่ได้ รีบท่องตำแหน่งของฉู่จวินสิงในใจไม่นาน นางก็มาปรากฏตัวเบื้องหน้าฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้วก็โล่งใจเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าไม่ได้สังเกตเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้วพวกเขายังคงมองไปทางที
เจี่ยนอันอันเสมือนอ่านใจกู้มั่วหลีได้ นางเอ่ยเสียงเย็นว่า “ในเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อตอนนั้น เจ้าวางยาใส่เวินอี๋”“หากยังไม่มอบยาถอนพิษให้อีก ข้าจะทำให้เจ้าหายไปจากโลกนี้!”เจี่ยนอันอันว่าแล้วก็สวมถุงมือแบบพิเศษนางนำผงสลายศพกำหนึ่งออกมาจากห้วงมิติและทำทีจะสาดใส่กู้มั่วหลี กู้มั่วหลีมองผงสลายศพปราดหนึ่งก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นนึกไม่ถึงว่าหญิงนางนี้จะชอบเล่นกับยาพิษเฉกเช่นเดียวกันกับเขาส่วนเรื่องเวินอี๋อะไรนั่น กู้มั่วหลีไม่ได้สนใจเขาเกิดความสนใจในตัวเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมากในตอนที่เจี่ยนอันอันกำลังจะสาดผงสลายศพนี้เอง กู้มั่วหลีก็รีบร้องว่า“ข้าไม่มียาถอนพิษ แต่ข้าสามารถบอกวิธีถอนพิษให้กับเจ้าได้”รอยยิ้มเกียจคร้านปรากฏขึ้นที่มุมปากกู้มั่วหลีอีกครั้งเขากดจุดฝังเข็มสองจุดบนร่างตัวเองเพื่อหยุดยั้งการกระจายของพิษเจี่ยนอันอันหยุดการกระทำของตัวเอง นางถลึงตามองกู้มั่วหลี รอให้เขาบอกวิธีถอนพิษกู้มั่วหลีเอนตัวพิงกำแพงอย่างเกียจคร้านและพูดด้วยสุ้มเสียงเหลาะแหละ “ข้าผู้นี้เคยวางยาคนมาไม่รู้ตั้งเท่าไร”“เจ้าคนแซ่เวินที่เจ้าพูดถึงมีอาการอย่างไรหลังจากถูกวางยา?”“หากเจ้าไม่อธิบายให้
“แม่นางน้อย เอะอะก็ฆ่าแกงกันแบบนี้ไม่สมกับเป็นผู้หญิงเลยนะ”ขณะที่กู้มั่วหลีพูด คนก็ก้าวมาข้างหน้าหลายก้าวเจี่ยนอันอันเห็นอย่างนั้นก็รีบถอยหลัง ดึงระยะห่างออกจากกู้มั่วหลีกู้มั่วหลียิ่งรู้สึกว่าสตรีตรงหน้าน่าสนใจมากเขาไม่ชอบสตรีที่เป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าหาก่อนมาแต่ไหนแต่ไรสตรีแบบเจี่ยนอันอันที่เปิดฉากต่อสู้โดยไม่พูดพร่ำทำเพลงกลับตรงจริตเขามากทีเดียว“แม่นางน้อย เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?”“เจ้าติดตามเยียนอ๋องผู้นั้นไปตกระกำลำบาก ต้องใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวนทั้งวันแบบนั้น น่าเศร้าจะตาย”“ข้าว่า มิสู้เจ้ามาติดตามข้า รับรองว่าเจ้าจะมีกินมีใช้ไม่ขาดมือ”กู้มั่วหลีหยุดฝีเท้า มองเจี่ยนอันอันด้วยแววตาหยอกเย้าเจี่ยนอันอันถ่มน้ำลายลงข้างๆ ตวาดกลับกู้มั่วหลีว่า “หยุดพูดไร้สาระ ส่งยาถอนพิษมาเดี๋ยวนี้”“ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”เจี่ยนอันอันพูดอยู่ คนก็พุ่งเข้าไปหากู้มั่วหลีอย่างรวดเร็วนางเคลื่อนไหวเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวก็มาถึงเบื้องหน้ากู้มั่วหลีปืนสั้นเก็บเสียงกระบอกหนึ่งปรากฏขึ้นในมือนาง ปลายกระบอกปืนสีดำสนิทจ่ออยู่บนหน้าผากกู้มั่วหลีแค่เพียงนางลั่นไก บุรุษตรงหน้าก
เจี่ยนอันอันใช้เข็มเงินปลดล็อกแม่กุญแจออกก็พบว่าในหีบคือเงินทองของล้ำค่าและผ้าไหมแพรพรรณรอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเจี่ยนอันอันนางย่อมกวาดทรัพย์สมบัติเหล่านี้เข้ามิติโดยไม่เหลือไว้แม้แต่ชิ้นเดียวอยู่แล้วหลังจากขนสมบัติจากทุกหีบจนเกลี้ยง เจี่ยนอันอันก็ออกมาจากคลังสมบัติอย่างมีความสุขนางไม่ได้รีบร้อนไปจากจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจว แต่เดินเตร่อยู่ข้างในรอบหนึ่งเหมือนกับที่นางคิดไว้ตอนแรก ที่นี่วางกำลังทหารไว้จำนวนมากแม้แต่บนหลังคาก็วางมือธนูไว้จำนวนมากถ้าพวกเขาบุกเข้ามาอย่างซึ่งหน้าแต่แรกก็คงถูกธนูยิงทะลุร่างจนกลายเป็นเม่นอย่างรวดเร็วเจี่ยนอันอันสำรวจสภาพภูมิประเทศและกำลังทหารในนั้นเสร็จก็จะจากไปในเวลานั้นเอง น้ำเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็พลันดังขึ้นจากข้างหลัง“เจ้าจะจากไปเร็วขนาดนี้เลยหรือ ไม่เดินสำรวจจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวต่ออีกสักหน่อยเล่า?”เจี่ยนอันอันหันกลับไปก็เห็นบุรุษสวมหน้ากากเงินผู้หนึ่งยืนอยู่บริเวณไม่ไกลจากนางมุมปากของเขามีรอยยิ้มประดับอยู่ สายตาจับจ้องมาทางนางเจี่ยนอันอันใจหายวูบ นางคิดไม่ถึงว่าวิชาล่องหนของตนเองจะถูกคนผู้นี้มองเห็นได้เจี่ยนอันอันขมวดคิ้ว
เจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว มิน่าเล่าผู้ว่าการมณฑลจงโจวจึงมีกองทัพนับพันอยู่ในครอบครองที่แท้ในจวนของเขาก็ซุกซ่อนป้ายคำสั่งพยัคฆ์เอาไว้นี่เองเจี่ยนอันอันย่อมไม่ปล่อยให้ป้ายคำสั่งนี้อยู่ที่นี่ต่อไปนางเก็บป้ายคำสั่งนั้นไว้ในมิติแล้วหยิบป้ายคำสั่งขนาดเท่ากันออกมาชิ้นหนึ่งบนป้ายคำสั่งนั้นสลักรูปเฮลโลคิตตี้ที่กอดหมีน้อยเอาไว้ตัวหนึ่งเจี่ยนอันอันวางป้ายคำสั่งนั้นลงในกล่องไม้แล้วกดช่องลับเบาๆ กล่องไม้นั้นก็เด้งกลับเข้าไปเพื่อไม่ให้ผู้ว่าการมณฑลจงโจวสังเกตเห็นว่าตรงนี้มีคนเคยแตะต้องเจี่ยนอันอันซื้อของเลียนแบบภาพพู่กันโบราณจากร้านค้าในมิติออกมาจำนวนหนึ่งยามนี้นางยังไม่อยากให้ผู้ว่าการมณฑลจงโจวตายเร็วขนาดนั้นนางอยากเห็นว่าหลังจากที่ผู้ว่าการมณฑลจงโจวพบว่าป้ายคำสั่งของตนถูกสลับไปแล้วจะมีท่าทางเช่นไรแค่คิดถึงท่าทางน่าสมเพชตอนที่ผู้ว่าการมณฑลจงโจวหยิบป้ายคำสั่งปลอมขึ้นมา นางก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา หลังทำทุกอย่างเสร็จ เจี่ยนอันอันก็ออกมาจากห้องลับเจี่ยนอันอันกลับมาที่ศาลาอีกครั้งก็เห็นว่านจื้อหมิงผู้ว่าการมณฑลจงโจวกำลังนั่งจิบชาอยู่เขาดูไปแล้วเหมือนอาย
ฉู่จวินสิงมุ่นคิ้ว “ตอนนี้ข้างในเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ เจ้าบุกเข้าไปแบบนี้อันตรายเกินไป ข้าไม่เห็นด้วย”ฉู่จวินสิงไม่อยากให้เจี่ยนอันอันเข้าไปเสี่ยงอันตรายตามลำพังเซิ่งฟางก็พูดเสริมว่า “น้องหญิงอันอัน ถ้าเจ้าจะเข้าไปตอนนี้ให้ได้ ข้าจะเข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”เจี่ยนอันอันไม่อยากให้มีคนตามไปด้วย อย่างไรเสียนางสามารถล่องหนได้ แต่คนอื่นทำไม่ได้นางยิ้มให้พวกฉู่จวินสิงพลางเอ่ย “พวกท่านรออยู่ในนี้อย่างวางใจเถอะ”นางกล่าวจบก็ขยิบตาให้ฉู่จวินสิง“อย่าลืมสิ ข้าล่องหนได้นะ”ฉู่จวินสิงได้เจี่ยนอันอันเอ่ยเตือนเช่นนี้ค่อยนึกออกว่านางสามารถล่องหนได้เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าได้ยินดังนั้นก็ต้องเบิกตาโพลงอย่างอดไม่อยู่พวกเขามองเจี่ยนอันอันอย่างแตกตื่น ไม่แน่ใจว่านางกำลังพูดเล่นกับพวกตนอยู่หรือเปล่าเจี่ยนอันอันอธิบายเพราะไม่อยากให้คนทั้งสองคิดอะไรเหลวไหล “ความจริงข้ามีชุดสุดล้ำค่าอยู่ชุดหนึ่ง ขอเพียงสวมชุดนี้ ข้าก็จะสามารถล่องหนได้”เจี่ยนอันอันพูดพลางซื้อเสื้อกันฝนธรรมดาของยุคปัจจุบันชุดหนึ่งจากร้านค้าในมิตินางสวมเสื้อกันฝนนั้น ในใจท่องคาถาล่องหนเงียบๆในไม่ช้า นางก็พลันหายตัวไปต่อหน้าต่อตา
เจี่ยนอันอันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้วจึงก้าวยาวๆ ออกไปข้างนอกคนทั้งสี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วตรงไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวไม่ได้อยู่ในอำเภอไถหยาง แต่อยู่ในเมืองหลักระหว่างทางพวกเจี่ยนอันอันรู้สึกหิว แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวในร้านอาหารเลยสักนิดเจี่ยนอันอันซื้อขนมปังกับน้ำจากร้านค้าในมิติแล้วแจกจ่ายให้พวกฉู่จวินสิงสามคนพวกเขาไม่เคยเห็นขนมปังมาก่อน ต่างมองห่อขนมปังอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรเจี่ยนอันอันบอกพวกเขาว่าต้องฉีกซองออกเสียก่อนจึงจะสามารถกินอาหารที่อยู่ข้างในได้คนทั้งสามฉีกซองขนมปังโดยเลียนแบบท่าทางของเจี่ยนอันอันกลิ่นหอมของขนมปังลอยเข้าจมูก ประกอบกับคนทั้งสี่กำลังหิวจึงรีบกัดกินคำโตเซิ่งฟางกินพลางถามว่า “อันอัน นี่คืออะไรหรือ เหตุใดจึงนุ่มอร่อยเช่นนี้?”เจี่ยนอันอันดื่มน้ำคำหนึ่ง กลืนขนมปังในปากลงไป“นี่คือของว่างที่ข้าทำขึ้นมาในบ้าน ข้าตั้งชื่อให้มันว่าขนมปัง”“ที่ข้ายังมีอีกเยอะ พวกท่านกินให้เต็มที่”“ขนมปังค่อนข้างติดคอ พวกท่านกินน้ำตามไปด้วย”ฉู่จวินสิงเคยเห็นน้ำแร่มาก่อน เขารู้ว่าควรเปิดของสิ่งนี้อย่างไรเขาหมุน