Share

บทที่ 23 二十三

Author: PinkyPaw
last update Last Updated: 2024-12-17 11:07:51

ค่ำคืนหวนกลับมาอีกครา..

อสูรรับใช้ทั้งสองรับหน้าที่ทำอาหารและงานบ้านทั้งหมด ส่วนซีจงจวินเก็บตัวหลังจากกลับถึงบ้าน ไม่ยอมออกจากห้องที่ความหดหู่ฝังอยู่ทั่วทุกอณูอากาศ 

"นายท่านขอรับ" เสียงชิงเหลียงเอ่ยเบาๆตรงหน้าห้อง พร้อมกับเลื่อนประตูเปิดเข้ามา ในมือมีถาดสำรับง่ายๆซึ่งเหลือไม่มากแล้ว

"นายท่านกินอะไ.."

"ข้าไม่หิว เอาออกไป" ซีจงจวินพูดตัดบท ชิงเหลียงได้แต่ยืนนิ่งมองถาดในมือสลับกับคนบนเตียง

"แต่นายท่านไม่กินอะไรมาหลายวันแล้ว ข้าน้อยคิดว่าสมควรกินสักนิดนะขอรับ"

"ข้าไม่อยากกิน" ซีจงจวินพูดเสียงเข้มขึ้น ต่อให้ถูกเอามายัดเยียดถึงปากก็ไม่ยอมกินหรอก

สุดท้ายชิงเหลียงจึงต้องเอาออกไป พอดีกับที่มี่ฮวาเดินออกมาจากห้องน้ำ

"เจ้าเอาถาดข้าวมาทำอะไรตรงนี้"

เสียงหวานเอ่ยถามไม่ไกลจากหน้าห้องของซีจงจวิน ทำให้หูของคนประสาทรับเสียงดีกระดิกเล็กน้อย

"ข้าน้อยเห็นว่านายท่านยังไม่กินอะไรเลยจัดมาให้ขอรับ และช่วงนี้นายท่านก็กินน้อย เกรงจะทำให้ป่วยได้ขอรับ"

เจ้าครึ่งงูดูเป็นห่วงเอามากๆ ไม่เสียแรงที่ซีจงจวินช่วยเหลือมันเอาไว้เมื่อสามร้อยปีก่อน

"นายหญิงขอรับ นายท่านอาจจะกำลังไม่สบายอยู่ก็ได้ ข้าน้อยว่านายหญิงลองเข้าไปคุยหน่อยดีหรือไม่ขอรับ"

คราวนี้เจ้าครึ่งนกเอ่ยบ้าง มันเองก็เป็นห่วงเจ้านายไม่แพ้กัน

ในความเงียบงันนั้น ซีจงจวินกำลังนั่งรอฟังคำตอบใจเต้นลุ้นระทึก

อยากให้นางเป็นห่วงเขาบ้างเหลือเกิน...

ในทางกลับกัน คนถูกขอร้องกลอกตาอย่างระอา คิดว่าคนในห้องกำลังเรียกร้องความสนใจ

เรื่องอะไรนางจะยอมตกหลุมพรางโง่ๆนี่กัน..

"แล้วข้าห้ามไม่ให้กินเมื่อไหร่เล่า ต่อให้อดข้าวจนป่วยตายมันก็เรื่องของเจ้านั่น หาใช่ธุระกงการของข้า"

มี่ฮวาตอบน้ำเสียงเย็นชา เดาว่าสีหน้านางก็คงไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรเช่นกัน

เสียงที่ลอดประตูเข้ามา เขาได้ยินชัดเจนทุกคำ และมันทำให้บรรยากาศในห้องยิ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความทุกข์ตรม

ซีจงจวินนั่งเงียบ เงียบจนราวกับคนหัวใจไม่เต้น

กำลังคาดหวังสิ่งใดอยู่กัน..

ความรักจากนางหรือ..

อย่าว่าแต่มีใจ แค่ทำให้เลิกเกลียดยังยากเลย..

ซีจงจวินนอนนิ่ง รู้สึกราวกับมีใครเอาค้อนเหล็กมาทุบหัวใจเขาให้แตก

รักข้างเดียวให้ความรู้สึกเช่นนี้เอง..

ไม่มีความหวังหลงเหลือให้เทพอสูรอัปลักษณ์ผู้นี้เลยใช่หรือไม่

เทพอสูรผล็อยหลับไปอย่างอ่อนล้า กระนั้นเมื่อใจป่วยกายก็ป่วยตาม กลางดึกซีจงจวินสะดุ้งตื่นจนไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ รู้เพียงว่าพึ่งเข้ายามโฉ่ว อีกหลายชั่วยามกว่าจะถึงเวลาทำงาน

พอจะนอนต่อสมองก็เอาแต่คิด..จนสุดท้ายต้องลุกขึ้นมานั่ง

ความมืดทำให้เขาฟุ้งซ่านเกินกว่าจะข่มตาหลับ ซีจงจวินเสกให้ตะเกียงหัวเตียงสว่างขึ้น มองไปรอบตัวไม่พบใครเลย..

ริมฝีปากเผยยิ้มบางๆ ราวกับพยายามกลบฝังซากความเสียหายของใจเอาไว้ลึกๆ

เขากำลังบอกตัวเองให้ปล่อยความเศร้านี้ไปเสีย

อุตส่าห์แต่งกับนาง ได้นางมาครองแล้ว จะต้องมีความสุขให้ถึงที่สุดสิ..

เมื่อย้ำกับตัวเองเช่นนั้นแล้ว ซีจงจวินนึกจินตนาการไปว่ามี่ฮวารักเขา

..และก็เป็นนางที่กำลังมอบค่ำคืนสุดหฤหรรษ์ให้ ทั้งที่ความจริงมีเพียงตัวเขาที่เฝ้าฝันหาความสุขยามรัตติกาลผู้เดียว

"มี่ฮวา.."

...

ในห้องนอนอีกห้อง หญิงสาวนอนขดตัวเล็กน้อยเพราะลมหนาวที่พัดเข้ามา

นางกำลังเดินทางอยู่ในห้วงฝัน..

ในความฝันนั้น.. มีใครบางคนกำลังจูงมือนางให้เดินตามไปเรื่อยๆ ไม่เห็นใบหน้าเขาเหมือนเคยแต่สิ่งที่ทำให้จำเขาได้แม่นคงเป็นบรรยากาศอันคุ้นชิน

รอบกายมีฝนตกปรอยๆ ทำให้สายลมที่พัดถูกผิวยิ่งเยียบเย็น

เขาคนนั้นสละเสื้อคลุมของตัวเองให้มี่ฮวา โอบกอดกระชับกายเข้าใกล้ให้ได้รับไออุ่น

"มี่ฮวา..."

เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงเขา.. แต่มันเบามาก เบาจนใจคนฟังกลัว

หากตื่นขึ้นมาแล้วลืมเสียงนี้ไป นางคงต้องเสียใจมากแน่

"มี่ฮวา.."

มี่ฮวาสะดุ้งสุดตัว สมองมึนงงเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงคล้ายเรียกชื่อนางจากที่ไกลๆ

มองไปรอบห้องไม่มีใครเลย มีเพียงเสียงนั้นที่ไม่เหมือนกับในฝันลอยผ่านผนังเข้ามา

คิดว่าอาจจะเป็นวิญญาณร้ายเหมือนเมื่อคราวก่อน หญิงสาวจึงรีบผุดลุกวิ่งไปที่หน้าประตู และยิ่งใจไม่ดีเพราะเปิดออกไปไม่พบใครเลย

ในความมืด ซวนเฟยกับชิงเหลียงที่ควรจะนอนอยู่ตรงนี้หายตัวไปไหนกัน?

"มี่ฮวา.."

เสียงนั้นทำให้ต้องสะดุ้งสุดตัว ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกุมจิตใจ ในตอนที่ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อนั้นสมองก็สั่งการพาเท้าเล็กวิ่งไปยังอีกห้องซึ่งอยู่ไม่ไกล

อย่างน้อย หากเกิดอะไรขึ้น ซีจงจวินจะต้องปกป้องนาง...

ฉับพลันมือเรียวเลื่อนเปิดประตูห้องของเขา

!!!!

"อ่าาา..."

พอดีกับที่ซีจงจวินถึงอีกฟากฝั่งของห้วงอารมณ์

ภาพตรงหน้ามี่ฮวาช่างดูน่าพรั่นพรึงเกินกว่าคนเห็นจะประคองสติเอาไว้ได้

เทพอสูรเจ้าของห้องกำลังนั่งคร่อมอยู่บนม้วนผ้านวมหนา มือข้างหนึ่งกำแกนกายที่ปลายยอดพึ่งปล่อยน้ำกามเหนียวออกมาเสียเต็มมือ

ยิ่งกว่านั้นคือเมื่อมองไปรอบกายเขาเต็มไปด้วยคราบเปรอะเปื้อน ราวนั่งแช่อยู่ในบ่อน้ำรัก..

ซีจงจวินหอบหนัก หลังสติกลับคืนมา มองไปที่ประตูห้องและตกใจเช่นกัน

"มี่ฮวา!"

เขาเรียกชื่อนาง.. ทำให้รู้แล้วว่าเสียงที่ได้ยินหาใช่เสียงผู้บุกรุกยามวิกาล แต่เป็นเสียงของเทพอสูรองค์นั้นที่ใช้นางในจินตนาการทำเรื่องเสื่อมทรามโสมม

ฉับพลันทั้งความโกรธและความอายผสมปนเป ดวงหน้าหวานขึ้นสี เรียวปากงามสั่นเล็กน้อย

"เจ้ามันวิปริต!!"

นางชี้หน้าซีจงจวิน เนื้อตัวสั่นเทิ้มด้วยแรงโทสะ ส่วนอีกคนที่อึ้งค้างอยู่ก็รีบเสกผ้าขึ้นมาพันปิดกายท่อนล่างก่อนลุกมาหา

"มี่ฮวา.. ฟังข้าก่อนนะ"

มือซึ่งยังเลอะคราบสกปรกยื่นเข้ามาใกล้ มี่ฮวาถลึงตาจ้อง กระถดตัวถอยหนีสุดชีวิต

"อย่าเข้ามานะ!!" นางแผดเสียงออกคำสั่ง ทำให้ซีจงจวินต้องหยุดชะงัก

"เจ้ามันอสูรต่ำช้าหน้าไม่อาย!! กล้าดีอย่างไรมาใช้ข้าทำเรื่องบัดสี!!!"

"มี่ฮวาข้าขอโทษ.. ข้า.."

"ไม่ต้องมาขอโทษ!! เพราะข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าอีก! ตอนแรกข้าคิดว่าอาจจะพออยู่ที่นี่ได้ แต่วันนี้เจ้าทำให้ข้าหมดความอดทนแล้ว!!"

ซีจงจวินปากสั่นพูดอะไรไม่ออก ส่ายหน้ารัวเพราะไม่อยากได้ยินถ้อยคำต่อจากนั้น

"ข้าจะหย่ากับเจ้า! ต่อจากนี้เราไม่ต้องมาเจอกันอีก!!"

ได้ยินคำว่าหย่าซีจงจวินราวคนเสียสติ รีบวิ่งเข้ามาจับแขนรั้งภรรยาไว้ทันที

"ไม่นะมี่ฮวา ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลยข้าผิดไปแล้ว ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว"

เขาพูดคำเดิมซ้ำๆ นางก็พยายามสะบัดแขนออกอย่างแรง ขยะแขยงมือเหล่านั้นจนทำหน้าเหยเก แต่มือของอีกฝ่ายกลับยิ่งจับแน่นขึ้น

"ปล่อยข้า!!"

"หากปล่อยแล้วท่านจะวิ่งหนีข้าไปอีกใช่หรือไม่ ข้าไม่หย่า ถึงอย่างไรก็ไม่หย่า"

คราวนี้ซีจงจวินดึงตัวมี่ฮวาเข้ามาสวมกอดเอาไว้ ปากบอกแต่ว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมให้นางไป

"ข้าสั่งให้ปล่อย!!!"

"ให้ข้าทำอะไรก็ได้ไถ่โทษแต่อย่าหนีข้าไปเลย อยู่กับข้าเถอะนะมี่ฮวา"

สุดท้ายเมื่อเห็นว่าซีจงจวินพูดจาไม่รู้เรื่อง มี่ฮวาบันดาลโทสะเอื้อมคว้าเอาแจกันใบเล็กแถวนั้นมาฟาดใส่อย่างแรงจนมันแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

แต่สิ่งที่แตกละเอียดกว่า ..คือความรู้สึกของซีจงจวิน

เศษกระเบื้องแหลมปักอยู่แถวข้างขมับ กายเนื้อหยาบไม่ได้มีเลือดไหลออกมามาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เจ็บ

เทพอสูรอึ้งไป สบโอกาสตอนคลายอ้อมกอด หญิงสาวหันหลังวิ่งไม่คิดชีวิต

"มี่ฮวา!!"

ซีจงจวินก็วิ่งตาม ทั้งยังตะโกนเรียกสุดเสียง พยายามจะให้นางกลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง

มี่ฮวาเข้าห้องได้ก็รีบเอาไม้มาขัดลงกลอนทันที

"มี่ฮวาได้โปรดให้อภัยข้าเถิด"

เสียงนั้นสั่นเครือยามเอ่ยเรียกนางที่หน้าห้อง แต่มี่ฮวาไม่คิดจะฟังอีก นางลากตู้หัวเตียงมากั้นประตูไว้ กันไม่ให้คนข้างนอกพังเข้ามาได้

แล้วตัวเองก็ถอยออกมาห่างๆ ในใจนึกระแวงไปหมด

ชายผู้นั้น กล้าเอาข้าไปกระทำย่ำยีในความคิดอย่างไม่อายฟ้าดินได้อย่างไร!

น่าเกลียด! น่าขยะแขยง! ไร้ศีลธรรมสิ้นดี!

มี่ฮวานึกถึงใบหน้าหื่นกระหายแสนโรคจิตของเทพอสูรแล้วขนลุกเกรียวทั้งร่าง หากวันหนึ่งเขาไม่นึกทำแค่นั้นเล่า..

หากเขาขืนใจนางขึ้นมาจริงๆ นางทนไม่ได้แน่

ต้องรีบหาทางเอาตัวรอด ให้หลุดออกจากกรงสกปรกนี่ให้ได้!

สุดท้ายมี่ฮวาเปิดลิ้นชักหยิบกระดาษขึ้นมา จรดปลายพู่กันเปื้อนหมึกลงไปบนนั้น

..ขณะเดียวกัน ซีจงจวินนั่งคุกเข่าอยู่หน้าห้องอีกฝั่ง

เลือดสีแดงสดจากขมับไหลยาวหยดลงพื้น ริมฝีปากเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง มือขยำผ้าพันกายเกร็งจนเส้นเลือดปูดโปน ลมหายใจไม่สม่ำเสมอ

...จบสิ้นแล้ว...

ทุกสิ่งที่ทำมาทั้งหมดพังทลายลงเพราะนางมาเห็นช่วงเวลาที่เขากำลังมีความสุขที่สุด

และเป็นตอนที่เขาทำตัวน่าเกลียดที่สุดเช่นกัน...

ทั้งสันดาน ทั้งสัญชาตญาณดิบ ทุกอย่างถูกเผยหมดเปลือก และนางรับมันไม่ได้...

ซีจงจวินเจ็บใจจนต้องระบายออกด้วยการเอากำปั้นทุบพื้นดังปัง! พื้นไม้เนื้อดีแตกเป็นหลุมใหญ่ เขานั่งนิ่งจมอยู่ที่เดิม ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

"ข้าขอโทษ"

เสียงที่เอ่ยดังพอจะให้คนข้างในได้ยิน

แต่ได้ยินแล้วอย่างไร หากนางไม่รับฟัง มันก็เป็นเพียงเสียงหนึ่งที่ไร้ความหมายเท่านั้นเอง..

ชิงเหลียงกับซวนเฟยได้แต่ยืนมองสถานการณ์อย่างปวดใจ

นายทั้งสองมีเรื่องกันอีกแล้ว..หนักเสียด้วย

บ้านไม่ใช่สถานที่อันอบอุ่น อบอวลด้วยไอรักอย่างที่พวกมันเคยเข้าใจ

สัตว์อสูรรู้ว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไรเช่นกัน เพราะพวกมันได้ยินเสียงของซีจงจวินมาหลายคืนแล้ว

และคิดว่าคงเสียมารยาทหากจะนั่งฟัง เลยหลบไปอยู่หลังบ้านกัน รอให้เสียงนั้นเงียบไปแต่ไม่นึกว่านายหญิงผู้หลับลึกทุกคืนจะตื่นขึ้นมาเสียเฉยๆ

"เห้อ.." พวกมันลอบมองแล้วถอนหายใจเบาๆ เท้าเล็กก้าวเดินพร้อมกับหางงูเลื้อยเข้าไปหาผู้เป็นนาย

"นายท่านสงบใจลงก่อนนะขอรับ" ซวนเฟยเอ่ย เอื้อมมือจับแขนซีจงจวิน

"ข้าน้อยคิดว่านายท่านกลับไปพักผ่อนก่อนเถิดขอรับ" ชิงเหลียงจับมือข้างหนึ่งไว้เช่นกัน

ซีจงจวินก้มหน้าลง ไร้ซึ่งคำตอบรับ เขารู้สึกสมเพชตัวเองนักที่ต้องมาเป็นเช่นนี้

"พรุ่งนี้เช้าพวกข้าน้อยจะเกลี้ยกล่อมนายหญิงให้ขอรับ นายท่านใจเย็นลงสักนิดนะขอรับ"

"ใช่ขอรับ พวกข้าน้อยจะช่วยสุดความสามารถ นายท่านไม่ต้องห่วงนะขอรับ"

แล้วมันสองตัวก็พยายามฉุดร่างไร้สติให้ลุกขึ้น จูงให้เดินตามมา ก่อนจะหาผ้าชุบน้ำเช็ดชำระกายให้เขาในห้องนอน

ซีจงจวินสมองตื้อจนคิดอะไรไม่ออก ลมหายใจตีบตันแผ่วเสียจนเหมือนไม่หายใจ...

********

ยามโฉ่ว คือเวลา 1.00 น. ถึง 3.00 น.

Related chapters

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 24 二十四

    เช้าวันรุ่งขึ้นชิงเหลียงกับซวนเฟยเข้ามาช่วยซีจงจวินใส่เสื้อผ้า และบอกว่าไม่ต้องห่วงเรื่องข้าวปลาอาหาร เพราะพวกมันเรียนรู้การทำจากเจ้านายแล้วเมื่อเห็นว่านายท่านไปทำงานเรียบร้อย อสูรรับใช้ทั้งสองวิ่งเข้าครัวทำอาหารนิดหน่อย ยกสำรับมาให้มี่ฮวา"นายหญิงขอรับ นี่พวกข้าน้อยเองขอรับ" ซวนเฟยเรียกคนในห้อง แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ"นายท่านไปทำงานแล้วขอรับ เปิดประตูให้พวกข้าน้อยเถิดขอรับ" ชิงเหลียงเอ่ยบ้าง หลังจากนั้นต้องรอเกือบหนึ่งก้านธูปกว่าบานประตูถึงจะถูกเลื่อนเปิดเล็กน้อยใบหน้านางไม่สดใสเอาเสียเลย ดูก็รู้ว่ามัวแต่หวาดระแวงจนไม่ได้นอน"สำรับนี้พวกข้าน้อยทำกันเอง นายหญิงกินเข้าไปหน่อยเถิดขอรับ"ถาดอาหารที่มีข้าวและกับสามอย่างถูกยื่นมาตรงหน้า ทั้งสองกะว่าหลังจากกินเสร็จก็จะค่อยๆพูดตะล่อมให้นายหญิงใจอ่อนลง ยอมปรับความเข้าใจกับนายท่านแต่มี่ฮวาไม่รับ เพียงมองไปยังเจ้าครึ่งนกสายตาครุ่นคิด"ซวนเฟย เจ้าบินได้หรือไม่""ได้ขอรับ" ซวนเฟยตอบด้วยสีหน้างงงวย เหตุใดนายหญิงถึงถามเช่นนั้น"เอานี่ไปส่งที่วังของข้าที่แผ่นดินอุดร"มี่ฮวายื่นกระบอกใส่จดหมายทำจากไม้เนื้อดีลงรักฝังทองเป็นลวดลายสวยงามมาให้ "บอกคน

    Last Updated : 2024-12-21
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 25 二十五

    ที่วังของชุนหรงเซิน เหล่าพี่สาวแตกตื่นกันใหญ่เมื่อเห็นน้องสาวคนเล็กมายืนอยู่ในตำหนักกลาง"เกิดอะไรขึ้นมี่ฮวา ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนกลับมาแบบนี้" ฉาฮวาวิ่งเข้ามาจับแขนน้องด้วยความเป็นห่วง"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง""เจ้าดูไม่สดใสเลย"สองแฝดไป๋หลันและหวงหลันเอ่ยถาม"ซีจงจวินทำอะไรเจ้าใช่หรือไม่" จวี๋ฮวาตามพี่สาวคนอื่นๆเข้ามายืนรุมล้อมมี่ฮวา สารพัดคำถูกถามจนเลือกตอบไม่ถูก"ใจเย็นก่อนลูกๆ" เสียงบุรุษหนึ่งเดียวในตำหนักเอ่ย คือบิดาของพวกนางทั้งหมดชุนหรงเซินมองมี่ฮวาสายตาเรียบนิ่ง เดินมานั่งลงตรงโต๊ะกลางห้อง พร้อมทั้งผายมือชวนให้ลูกๆทุกคนนั่งลงด้วย"เล่าให้พ่อฟังว่าเกิดอะไรขึ้นถึงหนีมาเช่นนี้"มี่ฮวาเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้วจึงเริ่มเปิดปาก"ลูกทนอยู่กับเจ้านั่นต่อไม่ได้แล้วท่านพ่อ"พี่สาวทั้งเจ็ดหันมองหน้ากัน พวกนางต่างคิดว่าเทพอสูรองค์นั้นต้องกระทำการโหดร้าย ย่ำยีจิตใจมี่ฮวาจนไม่เหลือชิ้นดี"เขาทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่ เช่นนั้นก็ไม่ต้องกลับไปแล้ว!" ไป่เหอลุกว่าเสียงดัง แต่ก็โดนสายตาดุๆของพ่อจ้องมาทำให้ต้องเก็บกิริยา"เหตุใดถึงทนต่อไม่ได้""เพราะลูกเกลียดเขาตั้งแต่ยังไม่แต่ง ท่านพ่อก็ร

    Last Updated : 2024-12-21
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 26 二十六

    คืนนั้นหลังจากพวกพี่สาวมานั่งคุยเล่นกับมี่ฮวาและพึ่งงีบไปได้ไม่นาน บิดามารดาก็เข้ามาพบอีก"มี่เอ๋อร์ เรื่องหย่านั่นพ่อกับแม่คุยกันแล้วนะ" ชุนหรงเซินเข้ามานั่งข้างๆ ฮูหยินเองก็จับมือนางลูบหัวเบาๆ"ลูกลองกลับไปคุยกับซีจงจวินก่อนดีหรือไม่ ถึงอย่างไรก็ต้องอาศัยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย""แต่ลูกเกลียดเขา แค่พูดเกินยี่สิบคำลูกก็ไม่อยากฟังแล้วเจ้าค่ะ""มี่เอ๋อร์ เจ้าเอาแต่ใจมากไปหรือไม่ จะเกลียดชังผู้ใดก็ต้องมีเหตุผลกว่านี้สิลูก" ฮูหยินเอ่ย มี่ฮวาฟังแล้วหน้าง้ำทำแง่งอน"เขาก็ดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แล้วยังดูรักลูกมากด้วย ทำไมถึงเกลียดเขานักล่ะ"ฮูหยินถามอย่างจริงจังทำให้มี่ฮวาเงียบไป กลับมานั่งคิดว่าอะไรเป็นเหตุให้เกลียดถึงเพียงนั้น...คำตอบคือ นางก็ไม่รู้เหมือนกันรู้แต่เพียงว่าหัวใจนางสั่งให้ไม่ชอบหน้าเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ..อคติเหล่านั้นทำให้นางตั้งแง่อย่างไร้เหตุผล ไม่มีความเป็นธรรมให้ซีจงจวินเลย...ทุกครั้งที่มองซีจงจวิน มี่ฮวารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แต่สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวก็มีเพียงคำสั่งว่าให้เกลียดเขาจนถึงที่สุดเท่านั้นทำไมกันนะ..."ลูกแค่ไม่อยากอยู่กับเขาเจ้

    Last Updated : 2024-12-21
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 27 二十七

    บ่ายคล้อย ทุกคนกลับถึงเรือนของซีจงจวิน ชิงเลียงออกมาต้อนรับอย่างดีใจแต่มี่ฮวาไม่ได้สนใจมากนัก เพียงหันมองเทพอสูรแวบหนึ่งเขา..ตอนนี้ยังไม่กล้าสบตานาง แต่ก็ยังคอยเดินตามไม่ห่างคนรับใช้จากวังขนหีบนับสิบใบลงมา นำเข้าไปวางไว้ให้ในบ้าน จากนั้นก็เป็นหน้าที่ซีจงจวินที่เป็นคนจัดของกลับเข้าที่ตั้งแต่เข้ามา ต่างคนต่างไม่พูดอะไร ซีจงจวินเพียงทำนู่นทำนี่ในบ้านไปเงียบๆ ส่วนมี่ฮวาก็เข้าไปนั่งพักผ่อน ครู่หนึ่งเขานำขนมกับน้ำชามาวางให้เผื่อนางหิวหญิงสาวชำเลืองมองเล็กน้อย เห็นเขานั่งเฝ้าตรงมุมห้องก็เกิดสงสัยขึ้นมา"วันนี้ไม่ทำงานหรือ"ได้ยินคำถาม ซีจงจวินเงยมองแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่อยากรีบพูดเกินยี่สิบคำ"ทำไมถึงไม่ไปทำงาน""ข้าไม่อยากไป" เขาเอ่ยเสียงเบากว่าลมพัดไม่อยากไปเพราะกลัวว่าถ้าคลาดสายตา นางจะหนีอีกอยากเฝ้าอยู่เช่นนี้ทั้งวัน อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเขาจะไม่ถูกทิ้งมี่ฮวาเลิกคิ้ว เดี๋ยวนี้ซีจงจวินชักจะเอาแต่ใจเกินไปหรือไม่ คิดจะหยุดก็หยุดเลยเช่นนี้จะไม่มีผลกระทบอะไรหรือแต่ก็ดีเหมือนกัน นางจะได้เริ่มทำตามแผนที่พี่สาวแนะนำมา.."ตามใจเจ้า อยู่บ้านบ้างก็ดีวันนี้จะได้กินข้าวกันเร็วหน่อย""หิวมาก

    Last Updated : 2024-12-21
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 28 二十八

    รุ่งเช้า.. คนตัวเล็กได้พักผ่อนน้อยกว่าที่ควร เพราะซีจงจวินสะดุ้งตื่นเกือบทั้งคืนทุกครั้งที่ตื่นเขาจะลืมตาไม่ขึ้น แต่จะขยับตัวนิดหน่อย เมื่อได้กลิ่นมี่ฮวาอยู่ใกล้ๆก็ค่อยๆเคลิ้มหลับไปอีกพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นหญิงสาวนึกแล้วยังแปลกใจ นางไม่เคยยอมให้เขามาฉวยโอกาสแบบนี้แท้ๆ ทำไมครั้งนี้ถึงยอมง่ายไม่ว่าอะไรสักคำมี่ฮวามองใบหน้าของเทพอสูรด้วยสายตาที่ชาตินี้ทั้งชาติเขาคงไม่มีวันได้เห็น..เจ้าไม่เหนื่อยบ้างหรือ...นางถามในใจ นึกย้อนไปถึงสิ่งต่างๆที่ซีจงจวินทำ ความอดทนของเขานับว่ามีมากกว่าใครที่เคยเจอมาทั้งชีวิต"อืม..."ชายหนุ่มส่งเสียงในลำคอเบาๆ ขยับเปลือกตายุกยิกก่อนเลื่อนเปิดช้าๆและพบว่าใบหน้าของภรรยาอยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งชุ่น...ซีจงจวินกะพริบตาถี่ขึ้นเหมือนประสาทสัมผัสเริ่มกลับมาทำงาน มือทั้งหกข้างคลายออกหลวมๆให้คนข้างในเขยิบออกมาได้มี่ฮวาไม่ทันว่าอะไร ซีจงจวินลุกขึ้นบ้างแต่ด้วยความมึนงงทำให้ศีรษะส่ายโคลงเคลงไร้ความมั่นคงจนต้องพุ่งปักลงทิ่มพื้น แม้พยายามเอาแขนทั้งหกยันกายขึ้นก็ยังรู้สึกไม่มีแรง แผ่นหลังแทบจะขนานพื้น หางปล้องสีดำชูโค้งสูงท่าทางของซีจงจวินตอนนี้ดูเหมือนแมงป่องยักษ์..

    Last Updated : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 29 二十九

    จากวันผ่านไปกลายเป็นเดือน ทั้งคู่ยังอยู่กันอย่าง..ไม่ค่อยปกติสุขเท่าไหร่นัก"ทำไมกลับช้านัก ข้าหิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย"มี่ฮวาแกล้งเดินตึงตังพูดขึ้นเสียงใส่ซีจงจวินเหมือนคนโมโหหิว ทั้งที่จริงๆเขาก็กลับเวลาประมาณนี้ทุกวัน"รอเดี๋ยวนะ" ฝ่ายเทพอสูรเห็นภรรยาทำหน้าเหมือนจะกินหัวเขาให้ได้ก็รีบตรงเข้าครัวเลย ไม่แม้แต่จะถอดเอาชุดเกราะออกผ่านไปเกือบสามก้านธูปซีจงจวินเร่งยกกับข้าวหกอย่างขึ้นโต๊ะ ล้วนมีแต่ของที่ทำง่ายใช้เวลาไม่นาน มี่ฮวานั่งคีบผักกับเต้าหู้กินสองสามคำ ขณะที่ตะเกียบกำลังจะจิ้มลงไปบนปลานึ่งสมุนไพรตรงกลางโต๊ะมือก็หยุดชะงักเสียก่อน"ข้าไม่อยากกินปลา" นางโยนตะเกียบ ทำหน้าบึ้งเหมือนเด็กเอาแต่ใจ"ท่านอยากกินอะไร" เห็นภรรยาไม่อยากกินซีจงจวินก็ไม่ขัด กลับถามเพื่อจะหามาทำให้ใหม่"เนื้อวัวย่าง"คนฟังได้ยินแล้วกะพริบตาปริบๆ ค่ำมืดเช่นนี้จะให้เขาไปล้มวัวจากที่ไหนมาให้กันหญิงสาวเห็นอาการของอีกฝ่ายที่ดูลำบากใจเล็กน้อยก็แสร้งทำเสียงหงอยเหมือนเด็กน้อยที่กำลังเศร้าเพราะไม่ได้ของที่ต้องการ"แต่เวลานี้คงหามาไม่ได้ใช่หรือไม่ เช่นนั้นไม่ข้าเอาก็ได้"ท่าทางภรรยาตอนนี้ดูน่ารักยิ่งกว่าเมื่อก่อนมากนัก ไม

    Last Updated : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 30 三十

    ก่อนหน้านั้น..ซวนเฟยกับชิงเหลียงง่วนกับการทำงานบ้านจนลืมดูนายหญิงของพวกมันกระทั่งรู้สึกตัวอีกทีคือตอนที่จะยกขนมกับน้ำชามาให้ และพบว่านายหญิงไม่อยู่ในห้องชมสวนเสียแล้วทั้งสองวิ่งหารอบบ้านก็ไม่เจอ สังหรณ์ใจไม่ดีจึงเดินออกมานอกบ้าน"ซวนเฟย! ซวนเฟย!!"ชิงเหลียงตะโกนเสียงหลงทำเอาคนถูกเรียกต้องรีบวิ่งเข้าไป จนเห็นของบางสิ่งตกอยู่บนพื้น"ปิ่นนี่มันของนายหญิงนี่!!"ทั้งสองหน้าซีดเผือด เห็นพื้นด้านในป่าเป็นรอยลากยาว รู้แล้วว่าเจ้านายกำลังมีภัยปีกสีเทากระพือเร็วรี่พาร่างเล็กทะยานขึ้นฟ้าไปหานายท่านของมันที่หน้าบันไดขึ้นเขาสรรค์ทันที พร้อมกันนั้นหางงูสีฟ้าเหลือบเขียวเลื้อยตามรอยลากไปโดยเร็ว เผื่อจะเข้าไปช่วยนายหญิงได้ทันเวลาที่หน้าเขาสวรรค์ ซีจงจวินยืนเฝ้าบันไดอย่างสง่าผ่าเผยช่างดูน่าเกรงขามยิ่ง"นายท่านขอรับ!!!"เสียงหนึ่งดังอยู่เหนือหัว มองไปเห็นร่างอสูรรับใช้ครึ่งนกร่อนลงมายืนตรงหน้าด้วยสภาพเหงื่อผุดทั่วตัวเขาสังหรณ์ใจไม่ดีอีกแล้ว.."นายหญิงหายไปขอรับ!! ข้าพบของสิ่งนี้ตกอยู่ที่ทางเข้าป่าพร้อมกับรอยแปลกๆบนพื้นขอรับ!!"ซวนเฟยยื่นปิ่นปักผมทองให้ซีจงจวินดู สายตาดุดันพลันวาวโรจน์ทันทีเขาทิ้ง

    Last Updated : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 31 三十一

    ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา วันทั้งวันมี่ฮวาไม่ได้ลุกไปไหนเลยเพราะมีซีจงจวินทำหน้าที่เป็นมือเป็นเท้าให้ อยากได้อะไรเขาลุกไปหามาประเคนทั้งหมดหลังจากสั่งให้อสูรรับใช้ป้อนข้าว เช็ดตัว ทำแผลให้ภรรยาแล้วเขาก็กลับเข้ามานั่งเฝ้าตรงมุมห้องตามเดิมมี่ฮวานั่งอ่านหนังสือไปเพลินๆ ไม่น่าเชื่อว่าการมีเขาอยู่ร่วมห้องไม่ได้น่ารำคาญเท่าเมื่อก่อน"พรุ่งนี้เจ้าไปทำงานได้แล้วนะ"นางเอ่ยบอก แม้ตอนแรกดวงตายังไม่ละจากตัวหนังสือแต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรทำให้ต้องเงยหน้ามองอีกฝ่ายสีหน้าเขาเรียบตึง ทว่ามองตาแล้วรู้ทันทีว่าในใจกำลังประท้วงอย่างกับเซียนน้อยงอแงไม่อยากไปสำนักฝึกตน...อายุจะแสนปีแล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้"จะไม่ไปทำงานจริงๆหรือ"นางถาม ซีจงจวินก็ส่ายหน้าตอบแล้วพูดเสียงอ่อน ช้อนดวงตาสื่อความหมายเดียวกับคำนั้น"ข้าเป็นห่วง"เป็นเหตุผลที่ต่อให้ใจแข็งอย่างไรก็อ่อนยวบได้ง่ายดาย คนฟังถึงกับต้องถอนหายใจยาว"เจ้าเพิ่มการคุ้มกันรอบบ้านแทนไม่ดีกว่าหรือ""ข้าทำแล้ว""ถ้าทำแล้วก็ไม่ต้องห่วงหรอก"ได้ยินนางบอกเขาก็เงียบไป ครู่ต่อมาจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"ข้าอยากอยู่ข้างท่าน"คำพูดนั้นทำเอาหญิงสาวถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกท

    Last Updated : 2024-12-22

Latest chapter

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 62 六十二

    สามวันผ่านไปจากนั้น อวี้เวินฉิงต้องข้อหาหลายคดี ทั้งละทิ้งหน้าที่ บุกรุกจวนแม่ทัพยามวิกาล ทำร้ายร่างกาย และขโมยของคดีสุดท้ายนั้นแม่ทัพจงตั้งใจป้ายสีเอง ด้วยอยากให้อวี้เวินฉิงถูกจับโยนเข้าตาราง ขังลืมไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันในห้องขังมืดสนิทมีเพียงช่องลมติดลูกกรงหนาเท่านั้นเป็นที่ให้แสง อวี้เวินฉิงอยู่ในชุดนักโทษมอซอหมดสง่าราศี ข้อมือและข้อเท้าติดโซ่ตรวนเหล็กห้อยยาวในสถานที่แห่งนี้ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงความทุกข์ทรมานกับเสียงสายโซ่กระทบพื้นลากไปมานานๆทีหูจะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักแน่นของคนภายนอกสักครั้ง และครั้งนี้อวี้เวินฉิงรู้ว่าใครมาทั้งที่ไม่ต้องเงยหน้ามอง"อยู่นิ่งๆก็เป็นรึ มือปราบอวี้"คนที่จะเอ่ยวาจาเช่นนี้กับเขาได้มีเพียงคนที่จับเขาโยนเข้ามาในคุกเท่านั้นอวี้เวินฉิงไม่ตอบ เพียงเลื่อนสายตามามองแม่ทัพยืนเหยียดยิ้มอยู่นอกประตูลูกกรง"ข้าเคยเตือนแล้ว เป็นเจ้าที่รนหาที่ เลือกมาจบชีวิตตรงนี้เอง""..."ไร้การตอบสนองจากคนในคุก อวี้เวินฉิงยังนั่งมองกำแพงว่างเปล่าด้วยตาไร้แววอยู่เช่นเดิมถูกโยนเข้าคุกไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจที่ยังเป็นแผลก่อนหน้านี้นี่สิ..."ข้าจำได้ว่าก่อนจับเจ้าเข้าคุกไม่ได

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 61 六十一

    หลังจากคืนนั้นจงซีจ้านไม่เรียกมี่ฮวาเข้าห้องนอนอีก จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วค่ำคืนอันเดียวดายทำร้ายหัวใจเสียยิ่งกว่าตอนถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดร้าย มี่ฮวานอนกอดตัวขดกลมอยู่บนเตียง หวนนึกถึงสัมผัสอบอุ่นของซีจงจวินคืนแล้วคืนเล่าเทศกาลหยวนเซียวผ่านมาอีกครั้ง ด้านนอกไกลๆมีเสียงความคึกครื้นลอยมาเรื่อยๆคิดถึงปีนั้นที่ซีจงจวินพามาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์ครั้งแรก.. คิดถึงยามเขาพูดคุยสบตา ยามได้เดินจับมือ..คิดถึง...หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้ไม่รู้สึกตัวเลยว่าตั้งแต่มาอยู่โลกมนุษย์นี้นางเสียน้ำตาไปแล้วกี่ครั้งก๊อก.. ก๊อก..เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าต่างไม้ หยุดน้ำตาไว้"ใคร"นางถามด้วยความประหลาดใจ คิดว่าไม่ใช่คนใช้ในเรือนแน่"ข้าเองมี่ฮวา"เสียงคุ้นหูนั้นอีกแล้ว เจ้าของชื่อจำได้แม่นยำ คนมาเรียกคืออวี้เวินฉิงไม่ผิดแน่บานหน้าต่างเปิดออก เทพแห่งแสงในคราบมือปราบหนุ่มใส่ชุดคลุมสีดำมิดชิด ปกปิดใบหน้าจนเหลือแค่ลูกตาเท่านั้น"ท่านมีธุระอะไรเจ้าคะ""ข้ามาพาเจ้าไป"ไป.. ไปไหนกัน?"ไม่ไปเจ้าค่ะ" ไม่รอให้อีกฝ่ายไขข้อข้องใจก็ปฏิเสธเสียแล้วมี่ฮวาไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอีก บทเรียนจากคราว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 60 六十

    บนเตียงหลังใหญ่ในห้องที่แสงไฟสลัว ร่างหนึ่งกำลังละเลงลิ้นอย่างเมามันบนผิวเนื้อนุ่มของคนข้างใต้จนนางต้องครางดังเพราะแรงเสียวหนักหน่วงที่เขามอบให้"ท่าน.. ท่านแม่ทัพ อย่าเจ้าค่ะ!"หญิงสาวพยายามปรามไม่ให้คนด้านบนใช้ฟันคมกัดดึงตุ่มเนื้อยอดถันราวกับหมาป่าจะฉีกกระชากเหยื่อ จนตอนนี้ผิวส่วนนั้นกลายเป็นสีอมม่วงไปแล้วแต่จงซีจ้านที่กำหนัดพลุ่งพล่านอยู่มีหรือจะยอมฟัง ยิ่งเขากำลังฉุนเฉียวไม่หายจากเรื่องเมื่อกลางวันด้วยแล้ว ยิ่งพาลให้อยากลงไม้ลงมือกับมี่ฮวาหนักขึ้น"อ๊ะ!!!"เสียงร้องดังลั่นเพราะโดนกัดเข้าที่หัวไหล่อย่างแรง เขายังทิ้งรอยฟันกับรอยเลือดไว้ให้ปรากฏเด่นชัดร่างบางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางไม่รู้ว่าต่อไปจงซีจ้านจะทำอะไรกับเรือนกายนี้เพราะดวงตาคู่งามถูกคาดปิดไว้ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เขายังผูกข้อมือเล็กไว้กับเสาเตียง จับขาให้อ้าออกกว้างจนแทบฉีก กดกายโถมทับอย่างไม่กลัวว่านางจะหายใจไม่ออก"ท่านแม่ทัพเจ้าคะ..เบามือสักนิด..""เจ้าเป็นใครถึงมีสิทธิ์สั่งข้า!!"ว่าจะเอ่ยขอร้อง แต่ไม่ทันจบประโยคดีก็ถูกตวาดกลับเสียลั่นห้องมี่ฮวาต้องเก็บทุกคำพูดต่อจากนั้นลงคอไป น้ำตาไหลหยดหนึ่งซึ่งเขาไม่เห็นและถึงเห็นก

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 59 五十九

    ฤดูกาลหมุนเวียน แมกไม้ผลิดอกออกผลจนร่วงหล่นปลิวไป จากร้อนอบอ้าวเป็นเหน็บหนาวด้วยหิมะขาวโพลนคลุมแผ่นดินหลายเดือนเข้าไปแล้วที่มี่ฮวามาเป็นคนใช้ในจวน...แค่ตอนกลางวันเท่านั้น ส่วนกลางคืนนางจะกลายร่างเป็นนางคณิกาชั้นดี เป็นของเล่นให้เขาได้คลายเหงายาขมถูกส่งเข้าปากถ้วยแล้วถ้วยเล่า จนหญิงสาวไม่รู้เลยว่าตอนนี้มดลูกตัวเองจะยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ความเห็นใจเป็นเหมือนความหวังลมๆแล้งๆ ซึ่งไม่มีทางได้รับจากผู้เป็นสามีเพราะเขาไม่มีความรักหลงเหลือให้นางหัวใจที่ทุกข์ระทมจำต้องทนรับความขมขื่นจากการกระทำอันโหดร้ายมี่ฮวาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองขณะนั่งส่องกระจกในห้องนอน ..ว่านางจะทนได้อีกนานเท่าไหร่กันภาพสะท้อนจากกระจกคือเรือนร่างซึ่งเมื่อก่อนเคยดูสมบูรณ์งดงาม แต่บัดนี้ดูทรุดโทรมแทบไม่มีส่วนใดน่ามองนางนึกถึงครั้งที่ซีจงจวินเคยอยู่ในสภาพเช่นนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นนางเองก็ไม่สนใจเขาเหมือนกันท่านเอาคืนข้าได้สาสมจริงๆ...มี่ฮวาใส่เสื้อผ้าคนใช้เดินออกจากห้องเหมือนเช่นทุกเช้า"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ" นางทักทายยามเดินผ่านพวกลุงคนใช้ ทุกคนโบกมือกลับอย่างใจดี แววตาโอบอ้อมอารีนั้นฉายความสงสารจับใจมี่ฮว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 58 五十八

    "นางเป็นหมันเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ"แม่บ่านไห่นำคำของสาวใช้คนใหม่มารายงานท่านแม่ทัพตามหน้าที่ปัง!!เพียงได้ยินเท่านั้นมือใหญ่ที่ถือตำราอยู่ต้องกระแทกปิดมันกับโต๊ะอย่างแรง ระบายอารมณ์ขุ่นมัวทางสายตาใส่แม่บ้านชรา"คำลวงของสตรีมากเล่ห์ ข้าจำเป็นต้องเชื่อรึ!!"เขาขึ้นเสียง แม่บ้านไห่ก็ถึงกับยืนขาสั่นงันงก หลังที่งองุ้มนั้นต้องก้มลงหมอบกับพื้น"มะ.. ไม่เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ""ไปพาตัวนางมา แล้วก็ไปต้มยานั่นมาใหม่ด้วย!!"คนหลังโต๊ะหนังสือชี้หน้าสั่งแม่บ้านชรา นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่แรงคนแก่จะทำได้ ไม่นานยาขมหม้อใหญ่ก็ถูกยกมาตั้งมี่ฮวาถูกพาตัวมาตรงกลางสวนร้างที่ตรงนั้นมีคนรับใช้ชายทั้งหมดรวมถึงแม่บ้านไห่อยู่ด้วย ทุกคนได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนนายใหญ่ของบ้านรู้เพียงว่าชะตาสาวใช้คนใหม่กำลังจะขาดเท่านั้นพอ..หญิงสาวนั่งคุกเข่ามองหม้อที่ส่งกลิ่นฉุนบนโต๊ะหิน เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเกาะเต็มหน้าผาก"กิน"คำสั่งเด็ดขาดของแม่ทัพดังพอจะทำให้นางสะดุ้งโหยง มี่ฮวาต้องรีบเข้าไปหมอบตรงพื้นแทบเท้าเขา"ท่านแม่ทัพได้โปรดเมตตาข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าท้องไม่ได้แล้วจริงๆเจ้าค่ะ""ข้าไม่เชื่อ"น้ำแกงสีคล้ำ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 57 五十七

    เช้าวันต่อมา มี่ฮวาตื่นแต่เช้าทั้งที่ร่างกายยังไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่นางมีงานต้องทำไม่อาจละเลยได้ในยามที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น หญิงสาวลุกจากเตียงหันมองคนหลับ ใบหน้าของเขายามนี้เรียกได้ว่าดูหล่อเหลาคมคร้ามดั่งเทพสงครามบนสวรรค์แต่หากลืมตาขึ้นมาเมื่อใด.. คงดูไม่ต่างจากยักษ์อำมหิตตนหนึ่ง ไร้ซึ่งเมตตาการุณย์"ข้าคิดถึงท่านนัก"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา ลอยหายไปกับสายลมซึ่งพัดเข้ามาทางหน้าต่าง หลังจากสวมใส่อาภรณ์เรียบร้อยดีแล้วจึงกลับเรือนนอนของตัวเองไป...ตลาดเช้าที่นี่ดูคึกคักไม่ต่างจากที่แดนเทพ เป็นแหล่งรวมแม่บ้านซึ่งออกมาจ่ายตลาดและพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระมี่ฮวาเดินตามแม่บ้านไห่ซื้อวัตถุดิบ โดยตลอดทางจะมีสายตาแปลกๆของทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าแถวนั้นจ้องมาตลอดนางทำเป็นไม่รับรู้ ยื่นเงินจ่ายให้แม่ค้าผลไม้ ส่วนแม่บ้านไห่ก็ยืนเลือกปลาอยู่ร้านข้างๆ"แม่นางมาจากจวนท่านแม่ทัพใช่หรือไม่" พ่อค้าร้านผักที่อยู่ไม่ไกลตะโกนถาม"ใช่เจ้าค่ะ"พอหญิงสาวตอบออกไปเช่นนั้น ผู้คนรอบข้างต่างก็ยืนอึ้ง บ้างเอามือป้องปากกระซิบกระซาบ"เหตุใดแม่ทัพปีศาจผู้นั้นถึงรับสาวใช้อย่างเจ้าเข้ามากัน""เจ้างามเ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 56 五十六

    ในกระโจมมืดที่มีแสงไฟสลัวจากตะเกียงอันเดียวสะท้อนเงาของชายหญิงคู่หนึ่งขย่มร่างบนเตียงไม้จนมันเลื่อนดังเอี๊ยดอ๊าด"อะ.. ทะ ท่านแม่ทัพ..."เสียงครางกระเส่าแว่วหวานจากริมฝีปากอิ่มแดง เคล้าไปกับเสียงเนื้อกระทบกันรัวเร็วดูเร่าร้อน สะโพกสอบของคนด้านบนขยับบดเบียดเข้าออกถี่ๆเร่งให้คนข้างใต้ขยับรับตามแทบไม่ทันทุกการกระทำเป็นไปอย่างหยาบโลน มือใหญ่เที่ยวเคล้นคลึง ขยำขยี้เนินอกนุ่มเต็มไม้เต็มมือไม่มีถนอมไม่มีผ่อนแรงปากเขาประทับตราตีความเป็นเจ้าของทั่วตัวนาง เน้นหนักตรงยอดถันประดับตุ่มไตชูชัน กัดกระชากไปมาเบาๆอย่างเมามัน ก่อนดูดดุนแรงๆราวจะคั้นเอาเลือดนางออกมาแท่งหินใหญ่ยักษ์ร้อนดั่งถูกเอาไปอังไฟก่อนเสียบเข้ามานั้นสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัส ขณะแทงโดนจุดที่ทำให้ข้างในเสียวจุกจนเกินจะระงับเสียง"อ๊าา!!"หญิงสาวถึงฝั่งรอบที่สามแล้ว แต่คนด้านบนยังขยับต่ออย่างเอาแต่ใจ ไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้นเสียงครางต่ำของเขากับเสียงหวานใสของนางช่างเข้ากันได้ดี เช่นเดียวกับร่างกายที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวทว่าหัวใจ..กลับไม่เป็นเช่นนั้น"อาา..."ในที่สุด น้ำคาวขาวขุ่นก็ถูกฉีดอัดเข้าไปในช่องสวาทเต็มเหนี่ยว ล้นทะลักออกมาเป

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 55 五十五

    ราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นแค่ห้วงฝันเพียงหนึ่งชั่วยาม ตอนนี้ในกระโจมวุ่นวายไปหมด มี่ฮวาวิ่งรักษาทหารอย่างไม่หยุดพัก พยายามทำแผลให้เร็วที่สุด เมื่อเสร็จจากคนในนี้แล้วจึงจะรีบไปหาเขาหวังว่าคราวนี้ จงซีจ้านจะยอมให้นางรักษาจริงๆสักที..''ท่านหมอ คือว่า..''เมื่อมาถึงกระโจมก็พบเข้ากับฮวนเกอซึ่งยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า เขาดูลำบากใจนิดหน่อยที่จะเอ่ยบอกนาง''ท่านแม่ทัพไม่ให้ข้าเข้าไปอีกแล้วหรือ'' นางถาม ชายหนุ่มก็พยักหน้าตอบอย่างจริงจัง''หากไม่ใช่หมอชาย ท่านแม่ทัพไม่มีทางให้จับเนื้อต้องตัวเด็ดขาดเลย ท่านหมอทิ้งยากับผ้าพันแผลไว้ตรงนี้แล้ว.. อะ อ้าว! ท่านหมอ!!''ท้ายประโยคฮวนเกอเสียงหลงทันทีเพราะหมอสาวนางนี้ไม่สนใจคำเขา แหวกผ้าคลุมกระโจมเดินฉับๆเข้าไปด้านในอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใด''ใครให้เจ้าเข้ามา!!"ตามคาด เมื่อเห็นหน้านางโผล่มาเขาจะต้องตะคอกใส่เสียงกร้าวทันที''ไม่มีเจ้าค่ะ แต่ข้าต้องทำหน้าที่หมอ รักษาท่านให้ดีที่สุด''''ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสตรี! หน้าที่เดียวของเจ้าคือไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!!''''ข้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้เจ้าค่ะ ขออภัยที่ต้องล่วงเกิน''ว่าแล้วมี่ฮวาก็เข้าไปทรุดกายนั่งลงข้า

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 54 五十四

    วันเวลาในค่ายทหารยังคงดำเนินต่อไป...อย่างไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่นัก''ท่านหมอ! ท่านหมอ! ข้าโดนน้ำร้อนลวกตอนต้มโจ๊กเมื่อเช้า ทำแผลให้ข้าที''''ท่านหมอรักษาแผลมีดบาดให้ข้าอยู่ไม่เห็นหรือ เจ้ารอไปก่อน''''แต่แผลข้าใหญ่กว่าเจ้า''''แต่ข้ามาก่อน''''พวกท่านทั้งสองอย่าทะเลาะกันเลยเจ้าค่ะ ข้ารักษาให้ทุกคนอยู่แล้ว''เป็นเสียงของหมอสาวเอ่ยห้ามทัพ ทหารทั้งสองนายจึงหยุดศึกชิงความสนใจจากหมอตามที่นางบอกนี่ก็ผ่านมาครึ่งเดือนได้แล้ว กำลังเสริมจากเมืองหลวงยังมาไม่ถึงก็จริง แต่ยามที่ศึกสงบเช่นนี้ พวกหน้าที่ใหญ่ๆที่จำเป็นต้องมีหมอไม่มีอีกแล้วช่างน่าแปลกที่หมู่นี้เหล่าทหารในค่ายต่างก็ชอบมีแผลมาให้นางช่วยรักษาทุกวี่วัน ไม่ว่าจะโดนน้ำร้อนลวก มีดบาด รอยฟกช้ำจากการซ้อมอาวุธ ข้อเท้าแพลงตอนวิ่ง ยันแผลแมลงเล็กๆกัดต่อยที่ทิ้งไว้ไม่นานก็หาย พวกเขาก็ยังวิ่งมาหาหมอกันจะมีก็แต่เขาคนนั้นที่มาหานางโดยไม่มีจุดประสงค์อื่นนอกจากไล่ให้ไปไกลๆ..''ยังอยู่อีกรึ''น้ำเสียงราบเรียบที่แดกดันกันชัดเจนดังมาจากหน้ากระโจม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใครที่พึ่งเข้ามา''ก็ค่ายทหารขาดหมอไม่ได้นี่เจ้าคะท่านแม่ทัพ'' มี่ฮวาหันมายิ้มตอบอย่างส

DMCA.com Protection Status