ก่อนหน้านั้น..
ซวนเฟยกับชิงเหลียงง่วนกับการทำงานบ้านจนลืมดูนายหญิงของพวกมัน
กระทั่งรู้สึกตัวอีกทีคือตอนที่จะยกขนมกับน้ำชามาให้ และพบว่านายหญิงไม่อยู่ในห้องชมสวนเสียแล้ว
ทั้งสองวิ่งหารอบบ้านก็ไม่เจอ สังหรณ์ใจไม่ดีจึงเดินออกมานอกบ้าน
"ซวนเฟย! ซวนเฟย!!"
ชิงเหลียงตะโกนเสียงหลงทำเอาคนถูกเรียกต้องรีบวิ่งเข้าไป จนเห็นของบางสิ่งตกอยู่บนพื้น
"ปิ่นนี่มันของนายหญิงนี่!!"
ทั้งสองหน้าซีดเผือด เห็นพื้นด้านในป่าเป็นรอยลากยาว รู้แล้วว่าเจ้านายกำลังมีภัย
ปีกสีเทากระพือเร็วรี่พาร่างเล็กทะยานขึ้นฟ้าไปหานายท่านของมันที่หน้าบันไดขึ้นเขาสรรค์ทันที พร้อมกันนั้นหางงูสีฟ้าเหลือบเขียวเลื้อยตามรอยลากไปโดยเร็ว เผื่อจะเข้าไปช่วยนายหญิงได้ทันเวลา
ที่หน้าเขาสวรรค์ ซีจงจวินยืนเฝ้าบันไดอย่างสง่าผ่าเผยช่างดูน่าเกรงขามยิ่ง
"นายท่านขอรับ!!!"
เสียงหนึ่งดังอยู่เหนือหัว มองไปเห็นร่างอสูรรับใช้ครึ่งนกร่อนลงมายืนตรงหน้าด้วยสภาพเหงื่อผุดทั่วตัว
เขาสังหรณ์ใจไม่ดีอีกแล้ว..
"นายหญิงหายไปขอรับ!! ข้าพบของสิ่งนี้ตกอยู่ที่ทางเข้าป่าพร้อมกับรอยแปลกๆบนพื้นขอรับ!!"
ซวนเฟยยื่นปิ่นปักผมทองให้ซีจงจวินดู สายตาดุดันพลันวาวโรจน์ทันที
เขาทิ้งหน้าที่เฝ้ายามอย่างไม่ลังเล รีบเหาะขึ้นฟ้าหายไป ซวนเฟยอยากจะตามผู้เป็นนายแต่ก่อนไปมันต้องรายงานกับผู้เฝ้าประตูสวรรค์อีกคนก่อน
"ท่านเทพอสูรขอรับ ตอนนี้นายหญิงของข้าน้อย.."
"รีบตามนายเจ้าไปเสียไม่ต้องพูดให้มากความ ไว้ข้าจัดการเรื่องลางานให้"
ตงหลิงจวินเอ่ยบอกสีหน้าร้อนรนเช่นกัน นั่นทำซวนเฟยเบาใจ รีบคำนับขอบคุณแล้วบินตามนายของมันไป
ซีจงจวินใช้ประสาทสัมผัสอันดีเลิศตามกลิ่นและเสียงของภรรยาเขา ซึ่งค่อนข้างยากในป่าใหญ่นี้
"มี่ฮวา!!!"
เขาตะโกนเรียกแต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ซีจงจวินเหาะเลียบยอดไม้ไปเรื่อยๆจนไปเจอเข้ากับชิงเหลียงที่สะกดรอยตามอยู่เช่นกัน
"นายท่าน!!"
มันเอ่ยเรียก เริ่มโล่งใจที่เห็นหน้าเจ้านายแต่ก็ยังไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะตอนนี้ทั้งสามยังไม่เจอมี่ฮวาเลย
ซีจงจวินลงมาเดินบนพื้น เขาก้มลงสูดกลิ่นไอดิน ก่อนจะวิ่งกึ่งเหาะทะยานไปเบื้องหน้าโดยไม่รอใครทั้งสิ้น
กระทั่งตามรอยมาจนถึงน้ำตกสายใหญ่ ซีจงจวินคุ้นชินกับลำน้ำแถบนี้เป็นอย่างดีเพราะมันเป็นที่ที่เขามาอาบน้ำทุกวัน
และข้างหน้านั่น ปรากฏภาพที่ทำให้ใจกระตุกวูบ..
"ตายเสีย!!!"
เป็นเสียงวิญญาณร้ายที่กล้าเข้ามาบุกถิ่นของเขาตอนกลางวันแสกๆ ซึ่งมันกำลังเงื้อมือหมายจะทำร้ายภรรยาของเขา!
ส่วนนาง..ล้มลงนอนคว่ำหน้ากับผืนน้ำและรอบกายอาบนองด้วยเลือด!!
ฉึก!!!!
"อ๊ากกกกก!!!!!"
ไม่ทันได้คิดสิ่งใด ดาบเหล็กหกด้ามพุ่งเข้าปักร่างวิญญาณตรึงไว้กับพื้นดินแฉะริมตลิ่ง ซีจงจวินกระโจนผ่านมันรวดเดียวเข้าถึงตัวมี่ฮวาทันที
"มี่ฮวา!! มี่ฮวา!!!"
ฝ่ามือทุกคู่ประคองตัวนางให้ลอยหวือขึ้นมา เขาร้องตะโกนเสียงหลง ตัวสั่นเทิ้มราวคนเสียสติ
โชคดีที่หญิงสาวยังไม่ตาย แต่ก็บาดเจ็บหนักมีแผลเต็มร่าง
เปลือกตานางเปิดช้าๆ แพขนตาหนายาวมีหยดน้ำเกาะเป็นเม็ดน้อยใหญ่ ริมฝีปากระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งใจที่ได้เห็นหน้าซีจงจวิน
นี่เป็นครั้งแรก...ที่ภรรยายิ้มให้เขา
หัวใจซีจงจวินสับสนระหว่างยินดีกับทุกข์ตรม เห็นนางเจ็บเช่นนี้น้ำตามันกลั้นไม่อยู่เลย
เขาโอบกอดนางแผ่วเบา ซุกใบหน้าเปื้อนน้ำใสๆกับหัวไหล่เล็กของภรรยารัก ตอนนั้นเองซวนเฟยกับชิงเหลียงก็วิ่งเข้ามาเรียกนางด้วยเช่นกัน
ซีจงจวินจะรีบพานางไปรักษาแผล แต่ติดตรงที่วิญญาณร้ายตนนั้นยังไม่ถูกลากลงนรก จึงฝากให้บ่าวทั้งสองดูแลนางเซียน ก่อนหมุนตัวกลับมาจัดการกับตัวปัญหา
ดาบทั้งหกด้ามถูกดึงออกพร้อมกัน หญิงชราเลือดไหลอาบพื้น หวีดร้องลั่น
ซีจงจวินคุ้นชินกับเสียงแบบนี้ดีเลยไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย แววตาช่างดูเหี้ยมเกรียม ไอสังหารแผ่เข้าปกคลุมทั่วทุกหย่อมหญ้า
มือกำดาบแน่นจนเส้นเลือดปูดบ่งบอกถึงโทสะแรงกล้าของเทพอสูร เพียงเสี้ยวลมหายใจก็กระโจนพรวดเข้าหาหญิงชรา บั่นคอขาดสะบั้นกระเด็นตกพื้นกลิ้งหลุนๆไปตามทาง ก่อนจะทะลวงดาบใหญ่เฉาะกลางหน้าผากเสียบตรึงไว้กับผืนดิน
ทั่วร่างกายเหี่ยวย่นถูกใช้เป็นที่ระบายความคับแค้น ซีจงจวินกระหน่ำหวดดาบกระซวกท้องจนเครื่องในเน่าปลิ้นไหลทะลัก แต่ร่างที่ดูเหมือนกายเนื้อนี้สามารถฟื้นตัวไหม่ได้เรื่อยๆเพื่อจะได้ถูกจับมาทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า
วิญญาณหญิงชราพยายามดิ้นหนี แต่ก็โดนฝ่ามืออำมหิตจับขึงไว้ก่อนฉีกกระชากให้ขาดอย่างง่ายดายราวฉีกกระดาษแผ่นบาง
"ตายอีกสักรอบเป็นอย่างไร!!"
ยามปากขยับเค้นเสียงลอดไรฟัน แขนยังคงเหวี่ยงเอาอาวุธคมเชือดเนื้อเหยื่ออย่างเลือดเย็น
แต่เพราะมีเวลาไม่มาก ซีจงจวินจำต้องหยุดการลงทัณฑ์เพียงเท่านี้ กลัวว่าหากเล่นกับวิญญาณนานเกินไปมี่ฮวาจะเป็นอันตราย
ยันต์สะกดวิญญาณนับสิบแผ่นถูกสาดใส่ทั่วร่างให้มันร้อนราวถูกไฟนรกเผาอีกรอบ ก่อนถูกลากลอยกลับสู่เหวอเวจี
จัดการเสร็จก็รีบหันกลับมาดูมี่ฮวาต่อ โทสะพลุ่งพล่านเมื่อครู่มลายสิ้น มือใหญ่พยายามประคองร่างนางอย่างทะนุถนอมที่สุด
"มี่ฮวา!! มี่ฮวา!! ตื่นสิมี่ฮวา!!!"
ปากสั่นจนแทบพูดไม่ออก เพราะตัวมี่ฮวาเย็นและซีดมาก แต่พอได้ยินเสียงตอบรับเบาๆก็พอจะรู้ได้ว่านางมีชีวิตอยู่
ไม่รอช้า ซีจงจวินหอบเอาร่างน้อยไว้ในอ้อมกอด พาเหาะกลับบ้านโดยเร็ว
...
เมื่อถึงเรือนซีจงจวินค่อยๆวางมี่ฮวาลงบนเตียงของเขา จัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ที่เปียกและขาดออก จนร่างเปลือยของภรรยาปรากฏสู่สายตา
แต่เขาหาได้สนใจ กลับไล่ดูรอยแผลถูกขูดขีดเต็มขา ฝ่าเท้าแดงพอง รอยถลอกและรอยช้ำเกือบทั้งตัวด้วยความเจ็บปวดราวกับตัวเองเป็นคนโดนทำร้ายเสียเอง
ที่สำคัญคือแผลข่วนใหญ่ยาวตรงกลางหลัง..
"มี่ฮวา.. มี่ฮวาอย่าเป็นอะไรนะ ข้าจะรีบรักษาเดี๋ยวนี้"
ซีจงจวินเสียงสั่นแทบฟังไม่รู้เรื่อง พร่ำพูดไปทั้งน้ำตาไหลพราก
เห็นนางนอนเจ็บเช่นนี้ หัวใจเขาราวถูกฉีกกระชากออกมากรีดเฉือนจนทรมาน
เทพอสูรวิ่งไปหาสมุนไพรมาต้มบ้าง บดให้แหลกบ้าง ปรุงยามือเป็นระวิงอยู่ในครัว
ซวนเฟยกับชิงเหลียงพึ่งตามกลับมาถึงก็วิ่งเข้ามาในบ้านอย่างหอบเหนื่อยเพราะเจ้านายเหาะเร็วมากจนตามไม่ทัน
"มาช่วยข้าทำยาเร็วเข้า!!"
ได้ยินเจ้านายตะโกนเสียงดุ มันทั้งสองก็รีบวิ่งเข้าไปเป็นลูกมือในครัวทันที
"ไปต้มน้ำ ข้าจะเช็ดตัวให้นาง"
คำสั่งต่อไปทำให้ชิงเหลียงผละมือจากโกร่งบดยา วิ่งเข้าไปตักน้ำใส่หม้อตั้งเตาต้ม
ครู่เดียวทั้งยาและน้ำเตรียมไว้พร้อมสรรพ ซีจงจวินขนทุกอย่างมาวางในห้อง
"ข้าขอโทษ หากข้ามาเร็วกว่านี้ท่านคงไม่ต้องเจ็บ"
คนพูดสูดน้ำหูน้ำตา พร้อมกันนั้นก็บรรจงเอาผ้านุ่มจุ่มน้ำร้อนค่อยๆซับตามใบหน้าเบาๆ เช็ดตัวเอาเลือดและคราบดินออก
ซีจงจวินไม่รังเกียจกายนาง เขาเช็ดให้ทั้งตัวย้ำตรงมือและเท้าซึ่งเป็นส่วนที่สกปรกที่สุดจนคิดว่าสะอาดพอ
"อดทนก่อนนะมี่ฮวา ข้าจะไม่ให้ท่านเป็นอะไรเด็ดขาด"
เสียงที่บอกขาดช่วงไปบ้างเพราะร้องไห้จนพูดแทบไม่เป็น
เช็ดตัวเสร็จ ซีจงจวินเอายาสมุนไพรป้ายตามแผล ด้วยกลัวว่านางจะแสบจึงทาอย่างเบามือที่สุดแม้จะสั่นอยู่มากก็ตาม
"ไม่เป็นไร.. ไม่เป็นไรแล้วนะ.. อีกเดี๋ยวท่านจะหายดี ข้าจะคอยเฝ้าท่านเองนะ"
ถ้วยยาสมุนไพรอีกชนิดถูกยกขึ้นมา ป้ายตรงที่ปากแตกและตรงแถวแก้มที่ถลอก ตามด้วยน้ำมันเอามาวนทาตรงรอบแผลช้ำ
กลิ่นยาตลบห้องราวกับที่นี่เป็นร้านขายยาของท่านหมอหลวงไม่ใช่เรือนของเทพอสูร ผ้าพันแผลขาวสะอาดถูกนำมาม้วนพันเกือบทั้งตัวไม่แน่นไปไม่หลวมไป ตามด้วยเสื้อผ้าหนาและถุงเท้า สุดท้ายทับด้วยผ้านวมอีกที
มี่ฮวานอนหลับตาหายใจอ่อนเบาจนซีจงจวินกลัว หากนางเป็นอะไรไปใจเขาทนไม่ได้แน่..
"มี่ฮวา.. ข้าขอโทษ"
ซีจงจวินฟุบหน้าลงข้างเตียง สะอึกสะอื้นจนแทบหายใจไม่ออก
ขอโทษด้วยเหตุใดกัน? เรื่องนี้เขาไม่ได้ผิดสักหน่อย
แม้จะเป็นแผลหลายที่แต่ใช่ว่าอาการนางสาหัสถึงขั้นจะตายวันตายพรุ่งเสียเมื่อไหร่ สตินางยังคงอยู่ครบถ้วนทั้งที่นอนหลับตานิ่ง
หรือไม่ ก็คงเพราะข้างๆมีเสียงของซีจงจวินพร่ำเพ้อฟูมฟายอยู่ตลอด ทำเอานางหลับไม่ลงเลย
กระนั้น.. ตอนที่ได้ยินเขาพูด นางกลับรู้สึกดีมากจนต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้หมดสติไป
สัมผัสของเขาไม่ได้จาบจ้วงเลย และมันอ่อนโยนมากแม้ตอนจับนางพลิกตัวทายาที่หลังก็ยังระมัดระวังจนแทบไม่รู้สึกเจ็บ
อีกทั้งคนที่ฟุบหน้าอยู่ข้างๆนี่ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุดเสียที ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นคนบาดเจ็บแท้ๆ
กลับกัน ตอนที่แขนขาดคราวนั้น มี่ฮวาไม่ได้เห็นน้ำตาของซีจงจวินแม้แต่หยดเดียว
เขาร้อง..หาใช่เพราะเจ็บกาย...
เพียงเท่านี้ หัวใจก็รู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน
มี่ฮวาเกือบจะใจอ่อนยอมลุกขึ้นมาปลอบเขาแล้ว แต่ติดตรงที่นางเหนื่อยจนไม่มีแรงแม้แต่จะขยับปาก
และเมื่อร่างกายผ่อนคลาย นอนสบายมากขึ้น มี่ฮวาก็เข้าสู่ห้วงนิทราลึกเนิ่นนาน
...
รุ่งเช้าวันต่อมา หญิงสาวรู้สึกปวดหนึบไปทั้งร่าง แต่ความเจ็บที่แผลทุเลาลุงมากแล้วเพราะซีจงจวินใช้ยาดีที่สุดมารักษาให้
เมื่อลืมตาตื่นสิ่งแรกที่เห็นคือร่างของอสูรยักษ์นั่งอยู่ข้างเตียง ห่างไปสิบฉื่อเหมือนเดิม
สายตาสบประสาน ซีจงจวินเต็มล้นไปด้วยความดีใจ ส่วนมี่ฮวา..นางกลับเฉยๆ
"ปวดแผลมากหรือไม่"
มี่ฮวาพยักหน้าตอบ ซีจงจวินสงสารจับใจ อยากจะลุกมาป้อนยาแต่ก็ต้องหยุดฝีเท้าอยู่กับที่
"ชิงเหลียง ป้อนยาให้นายหญิงเจ้า" เขาหันไปยื่นหม้อให้เจ้างูแทน เพราะพึ่งนึกได้ว่าตัวเองเข้าใกล้นางไม่ได้
ชิงเหลียงทำตามคำสั่ง ป้อนยาหม้อให้มี่ฮวา น่าแปลกที่มันไม่ได้มีรสขมอย่างที่คิด
"ทำไมยาถึงหวานขนาดนี้"
"ข้าไม่อยากให้ท่านกินขม"
นี่เขาเห็นนางอายุเท่าไหร่กัน?
แต่นั่นหมายความว่าเขาใส่ใจมากใช่หรือไม่..
ไม่รู้เพราะอะไร เสียงตอนที่เขาพูดว่ารักในคืนนั้นถึงลอยเข้ามาในหัวไม่หยุด...
ไม่นานยาหม้อก็หมดลงอย่างง่ายดาย ซีจงจวินจึงนำตะกร้าใส่ผ้าพันแผลใหม่มาให้
"พวกเจ้า เอาไปทำแผลให้นายหญิง ข้าจะออกไปรอด้านนอก" บอกบ่าวจบ เจ้าตัวก็เดินออกไปเงียบๆ
คล้อยหลังไปแล้วมี่ฮวาก็หลุดอมยิ้มออกมากับท่าทางเหล่านั้น เขาคงคิดว่าเมื่อคืนนางหลับไม่รู้เรื่องสินะ เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนนางต้องตื่นมาโวยวายเอาเรื่องเป็นอย่างแรกแน่
เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องอีกครั้ง เจ้าสัตว์อสูรพยายามทายาให้เบาที่สุดและเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ดีๆ ไม่เช่นนั้นคงโดนนายท่านของพวกมันคาดโทษเอา
เมื่อคนรับใช้เดินออกไป ซีจงจวินก็กลับเข้ามานั่งที่เหมือนเดิม
ตอนนี้เลยเวลาเข้างานของเทพอสูรมาหลายชั่วยามแล้ว แต่ซีจงจวินก็ยังนั่งเฝ้านางอยู่
"ไม่อยากไปทำงานอีกแล้วหรือ"
มี่ฮวาเอ่ยถาม ซีจงจวินพยักหน้าตอบ เห็นแล้วนางถึงกับต้องผ่อนลมหายใจส่ายหน้า
..ชายผู้นี้ชอบโดนลงโทษมากนักหรือ
"ไม่ต้องเฝ้าข้าหรอก ไปทำงานเถอะ"
ซีจงจวินก้มหน้าลง เขาเงียบแล้วส่ายหัวไปมาน้อยๆเป็นการปฏิเสธแบบไร้เสียง
"เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า"
พอนางไม่ว่าอะไรเขาก็ลอบยิ้มออกมา การได้นั่งมองภรรยาทั้งวันเช่นนี้สร้างความสุขให้มากมายนัก
แน่นอนว่าคนที่นั่งอยู่บนเตียงเดาความคิดเขาได้จากสีหน้าที่ไม่มีการเก็บซ่อนใดๆ
บุรุษที่เหมาะกับคำว่าน่ารัก..คงเป็นคนเช่นนี้
ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา วันทั้งวันมี่ฮวาไม่ได้ลุกไปไหนเลยเพราะมีซีจงจวินทำหน้าที่เป็นมือเป็นเท้าให้ อยากได้อะไรเขาลุกไปหามาประเคนทั้งหมดหลังจากสั่งให้อสูรรับใช้ป้อนข้าว เช็ดตัว ทำแผลให้ภรรยาแล้วเขาก็กลับเข้ามานั่งเฝ้าตรงมุมห้องตามเดิมมี่ฮวานั่งอ่านหนังสือไปเพลินๆ ไม่น่าเชื่อว่าการมีเขาอยู่ร่วมห้องไม่ได้น่ารำคาญเท่าเมื่อก่อน"พรุ่งนี้เจ้าไปทำงานได้แล้วนะ"นางเอ่ยบอก แม้ตอนแรกดวงตายังไม่ละจากตัวหนังสือแต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรทำให้ต้องเงยหน้ามองอีกฝ่ายสีหน้าเขาเรียบตึง ทว่ามองตาแล้วรู้ทันทีว่าในใจกำลังประท้วงอย่างกับเซียนน้อยงอแงไม่อยากไปสำนักฝึกตน...อายุจะแสนปีแล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้"จะไม่ไปทำงานจริงๆหรือ"นางถาม ซีจงจวินก็ส่ายหน้าตอบแล้วพูดเสียงอ่อน ช้อนดวงตาสื่อความหมายเดียวกับคำนั้น"ข้าเป็นห่วง"เป็นเหตุผลที่ต่อให้ใจแข็งอย่างไรก็อ่อนยวบได้ง่ายดาย คนฟังถึงกับต้องถอนหายใจยาว"เจ้าเพิ่มการคุ้มกันรอบบ้านแทนไม่ดีกว่าหรือ""ข้าทำแล้ว""ถ้าทำแล้วก็ไม่ต้องห่วงหรอก"ได้ยินนางบอกเขาก็เงียบไป ครู่ต่อมาจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"ข้าอยากอยู่ข้างท่าน"คำพูดนั้นทำเอาหญิงสาวถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกท
อากาศด้านนอกเริ่มเย็นลง ใบไม้ปลิวร่วงยามลมพัด มี่ฮวานั่งเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมายนี่ก็นานแล้วที่ไม่ได้ออกไปไหนเลย การต้องอยู่แต่ในบ้านแบบนี้มันน่าเบื่อมากเหมือนกัน"มี่ฮวา"เสียงคนที่มุมห้องเรียกหา เมื่อหันมาก็พบว่าเขายกสำรับเย็นจัดขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้วสีหน้าเหงาๆ กับการนั่งกินข้างไม่พูดไม่จาของนางนั้นซีจงจวินสังเกตได้"ท่านเบื่ออาหารหรือไม่"ได้ยินคำถามมี่ฮวาก็ส่ายหน้า เห็นเช่นนั้นคนเป็นสามีก็พลอยไม่เจริญอาหารตาม"ท่านเป็นอะไรไปหรือ มีอะไรที่ข้าทำให้ไม่พอใจหรือเปล่า""เปล่าเลย ข้าแค่รู้สึกเบื่อนิดหน่อย คงเพราะอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน แล้วก็ไม่ได้เจอใครตั้งนานแล้ว"เห็นภรรยาทำหน้าหงอยลงอีกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจ อยากช่วยหาทางออกให้"ท่านอยากไปเที่ยวตลาดแดนเทพหรือไม่ ข้าจะ.."ซีจงจวินกำลังจะเสนอความคิดแต่ต้องรีบงับปากลงก่อน เพราะนางเคยบอกว่าเขาเป็นภาระถ้ามีเขาอยู่เกรงจะทำให้หมดสนุกเอา.."พรุ่งนี้ข้าจะพาท่านไปส่งตอนเช้าและตอนเย็นจะไปรับ ให้ซวนเฟยกับชิงเหลียงไปช่วยท่านถือของด้วยจะได้สะดวกขึ้น"นี่น่าจะเป็นทางที่ดีกว่า.."ไม่เป็นไรหรอก ข้าถือเองได้""ท่านแรงน้อย ถือของหนักพะรุงพะรังคน
ซีจงจวินมารับมี่ฮวาตรงตามเวลานัดแล้วก็พากลับบ้าน เตรียมอาหาร จัดของให้นางเหมือนปกติซวนเฟยกับชิงเหลียงดูจะอิดโรยกันมาก หลังจากทำงานเสร็จแล้วพวกมันก็ขอตัวไปพักเลย และคาดว่าคงไม่มีแรงลุกจนกว่าจะฟ้าสางม่านสีดำโรยตัวลงจากท้องฟ้า ในยามที่ควรจะเข้านอนมี่ฮวาอาบน้ำเสร็จไม่ได้กลับเข้าห้องทันทีนางอาศัยตอนที่ซีจงจวินไปอาบน้ำเข้าไปในห้องเขา จุดกำยานแล้ววางโถไว้ให้บนโต๊ะข้างหัวเตียงมี่ฮวาไม่มีความกล้าพอจะยื่นให้เขาตรงๆ เลยคิดว่าทำแบบนี้ให้เขาประหลาดใจเล่นน่าจะดีกว่าเมื่อนางกลับเข้าห้องไปแล้ว ซีจงจวินเดินออกมาจากห้องน้ำดับไฟทุกดวงในบ้านจนมืดสนิท เดินเข้าห้องนอนของตัวเองไปแต่เพียงบานประตูแง้มเปิดเล็กน้อย จมูกที่ประสาทรับกลิ่นดีเยี่ยมก็เริ่มทำงานเขาไม่รู้ว่ากลิ่นที่อยู่ในห้องเป็นกลิ่นอะไร แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็เดินเข้ามาถึงเตียงเสียแล้วร่างกายเริ่มรู้สึกร้อนรุ่ม เลือดสูบฉีดแรงจนผิวเป็นสีแดงเข้ม เหงื่อเม็ดเป้งผุดซึมไหลเป็นสายธารทั้งที่อากาศเย็นสบายมันร้อนไปหมด.. ร้อนจนเขาเผลอถอดเสื้อผ้าออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ตัวแท่งเนื้อกลางกายเริ่มตอบสนอง มันตั้งชูชัน แข็งเกร็งคล้ายอยากได้รับการปลดปล่ยเต็
มี่ฮวาตัดสินใจเดินมานั่งที่เตียง มือเล็กเอื้อมสัมผัสเบาๆที่หัวไหล่คนบนพื้นซึ่งยังคงสั่นอยู่เล็กน้อย"หันมาเถิด" นางเอ่ยแต่ซีจงจวินส่ายหน้าปฏิเสธเขาจะกล้าให้นางเห็นความน่ารังเกียจของตัวเองได้อย่างไร หากนางรับไม่ได้เกิดวิ่งหนีออกไปตอนนี้ ซีจงจวินคงไม่เหลือแรงจะวิ่งตามแล้ว"หันมาเถิดซีจงจวิน"เสียงมี่ฮวาเข้มขึ้น ซีจงจวินก็ยิ่งปฏิเสธคำสั่งนั้น นั่งห่อตัวจนเส้นผมสีดำยาวสยายลงมาปรกหน้าสุดท้ายนางทำอะไรไม่ได้ จึงเลือกที่จะลุกแล้วเดินอ้อมมานั่งหันหน้าเข้าหาเขาเอง มือเล็กจับสองข้างแก้มเทพอสูรให้เงยขึ้นยอมสบตาตรงๆราวกับภาพในคืนที่นางตัดสินใจหนีกลับบ้านไหลกลับเข้ามาในหัว..ตอนนั้นแววตานางฉายความหวาดกลัว ขณะที่แววตาเขาสะท้อนความสิ้นหวังและตอนนี้ ความสิ้นหวังยิ่งเพิ่มพูน ดึงจิตวิญญาณให้จมดิ่งลึกลง..."ท่านไม่หย่ากับข้าได้ไหม"สีหน้าเขายามวิงวอน ดูราวกับเด็กน้อยที่ในใจมีแต่รอยแผล ริมฝีปากสั่นคล้ายดูลังเลที่จะพูดต่อเรื่องที่นางเกลียดเขาขยะแขยงเขานั้น ซีจงจวินกำลังพยายามทำใจเพราะรู้ว่าไม่มีทางถูกรักได้..แต่อย่างน้อยขอให้นางไม่ทิ้งกันเท่านั้น ซีจงจวินคิดว่าน่าจะพอทำให้ยอมรับได้เร็วขึ้น"ข้าขอร้อง
หญิงสาวนั่งมองต้นไม้ไร้ใบในสารทฤดู ที่มุมเสาห่างออกไปสิบฉื่อมีเทพอสูรม่อยลับไม่รู้เรื่องเพราะมีลมเย็นพัดโกรกซีจงจวินเพลียจนไปทำงานไม่ไหว ทั้งวันเขาเอาแต่นอนอยู่ในห้องชมสวน ส่วนมี่ฮวา นางได้แต่นั่งทำใจให้สงบแม้จะมีภาพเหตุการณ์เมื่อคืนค้างอยู่ในหัวก็ตามนางไม่เข้าใจตัวเองว่าหมู่นี้เป็นอะไร..เมื่อคืนตอนจะถูกขืนใจ นางโกรธจริงแต่เมื่อเห็นเขาร่ำร้องขอความเมตตาสงสารหัวใจก็เกิดไร้กำลังต้านขึ้นมาเสียอย่างนั้นกระทั่งตอนนี้นางก็ยังนั่งมองเขาอยู่ได้ตั้งนานสองนาน ทั้งที่เมื่อก่อนไม่คิดอยากจะชายหางตาไปทางเขาสักนิดหัวใจ...เป็นอะไรไปมันเริ่มอ่อนแอ พ่ายแพ้ให้บุรุษอัปลักษณ์เสียแล้วหรือ...มี่ฮวาไม่อยากจะยอมรับจึงต้องพาตัวเองออกจากห้องชมสวน ขณะเดินผ่านห้องนอนซีจงจวินเห็นประตูแง้มอยู่ก็นึกขึ้นได้หญิงสาวชะโงกหน้าไปเห็นโถกำยานเมื่อคืนที่ถูกโยนออกนอกหน้าต่างยังนอนอยู่บนพื้นหญ้าด้านนอก จึงเรียกเด็กรับใช้ให้เอามันออกไปทิ้งไกลๆเสียนึกแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา ไม่ได้โกรธเทพอสูรแต่เป็นเพื่อนตัวดีที่แกล้งกันได้ กลับไปแดนอุดรอีกเมื่อใดจะไปโวยให้ถึงห้องนอนเจียวถงเลยมองไปรอบห้องภาพต่างๆเมื่อคืนผุดขึ้นอีกครั้ง หาก
ซีจงจวินยกอาหารเช้าขึ้นโต๊ะก่อนออกไปทำงาน เขาสังเกตว่าเดี๋ยวนี้มี่ฮวาตื่นเช้าขึ้น บางครั้งหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เห็นว่านางมานั่งรอแล้วและนางยอมกินข้าวร่วมโต๊ะกับเขาด้วย..."ตักเต้าหู้ให้ข้า" นางสั่งเขาก็ทำตาม นี่เป็นอีกเรื่องแปลกที่ซีจงจวินสังเกตมาสักพักรู้สึกเหมือนนางไม่ค่อยเกลียดเขาแล้ว..."มองอะไรหรือ" มี่ฮวาเห็นซีจงจวินนั่งมองตาค้างก็ขมวดคิ้วสงสัย"หมู่นี้ท่านนอนหลับสบายดีใช่หรือไม่""ข้าหลับสบายดี"ทุกอย่างปกติ มีเพียงความรู้สึกในใจเท่านั้นที่เปลี่ยนไปมี่ฮวารู้ตัวเช่นกันว่าตัวเองเริ่มมองซีจงจวินไม่เหมือนเดิม คงเพราะความใกล้ชิดทำให้ไว้ใจ และเพราะที่นี่ไม่มีใครดูแลนางได้นอกจากเขา"กินให้มันเยอะๆหน่อย"นางสั่งอีกตอนเห็นซีจงจวินวางถ้วยข้าวลง เขาคงติดนิสัยกินน้อยเสียจนเคย"ข้าไม่แย่งท่านกินหรอก ท่านกินให้อิ่มเถอะ""ข้าใกล้อิ่มแล้ว เหลือกับข้าวมากแบบนี้ทุกวันมันน่าเสียดาย เจ้ากินให้หมดๆเสีย"ได้ยินเช่นนั้นซีจงจวินก็ไม่ขัด ที่จริงกระเพาะเขายังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะ แต่แค่กลัวจะไปแย่งภรรยากินเลยพยายามกินให้น้อยเป็นวันแรกที่ซวนเฟยกับชิงเหลียงไม่ต้องลำบากจัดการของเหลือบนโต๊ะให้แน
วันเทศกาล มี่ฮวาแต่งตัวรอตั้งแต่ยังไม่เย็น ใช้เวลานานมากกว่าเด็กรับใช้ทั้งสองจะสวมอาภรณ์หนาหลายชั้นให้เสร็จนางนั่งบรรจงแต้มสีตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยบนใบหน้าไปเรื่อยๆ รู้สึกเพลินยิ่งนัก แต่งไปก็หยุดยิ้มไม่ได้นางตื่นเต้นจริงๆน่ะแหละ..."นายหญิงงดงามมากขอรับ"ซวนเฟยกับชิงเหลียงยืนมองตาเป็นประกาย เดินวนรอบนายหญิงของพวกมัน"พวกเจ้าปากหวานจริง หวังสิ่งใดจากข้าหรือไม่""พวกข้าน้อยพูดความจริงขอรับ นายหญิงงามดั่งเซียนสวรรค์เลย""ก็ข้าเป็นเซียนจริงๆนี่นา" นางว่าอย่างอารมณ์ดี เอามือลูบหัวพวกมันทั้งสอง"อยู่เฝ้าบ้านให้ดี แล้วข้าจะซื้อขนมมาฝาก""นายหญิงใจดีที่สุดเลยขอรับ"ซวนเฟยกับชิงเหลียงวิ่งมาเกาะขาเอาใบหน้าถูไถ นับวันนางยิ่งทำตัวเหมือนพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้นทุกที"มี่ฮวา ข้าพร้อมแล้ว"ฟ้ามืด ซีจงจวินมายืนเรียกหญิงสาวที่หน้าห้องและเมื่อคนด้านในเลื่อนบานประตูเปิดก็ถึงกับต้องมองตาค้างซีจงจวินใช้วิชาจำแลงกายให้กลายร่างเป็นมนุษย์ ดูไปแล้วช่างแตกต่างจากร่างปกติราวกับไม่ใช่ตัวเขาเองคนตรงหน้าคือชายหนุ่มร่างใหญ่ สูงกว่าบุรุษทั่วไปไม่มาก อยู่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มเรียบๆ กายเนื้อสีดำแดงดั่งแม่ทัพผู้ชำนาญศึ
มี่ฮวารู้สึกตัวตื่นในความมืด เจ็บร้าวที่แก้มซ้าย สองตาถูกปิดสนิทมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นนางพยายามตั้งสติ ต่อมาประสาทหูทั้งสองข้างรับรู้เสียง..ร้องไห้?รอบกายมีเสียงสตรีร้องไห้สะอึกสะอื้น เดาว่ามีมากกว่าสิบคน แต่ไม่ได้ยินเสียงพูด น่าจะถูกมัดปากไว้เช่นกัน..ที่นี่ที่ไหน!?ไม่นานความสงสัยก็ถูกไขจนกระจ่างชัด เมื่อได้ยินเสียงบุรุษหลายคนเดินพูดคุยกันเสียงดังใกล้ขึ้น"ได้มาเยอะขนาดนี้เชียว""ใช่ขอรับนายท่าน สวยๆทั้งนั้น โดยเฉพาะคนล่าสุดนี่ ท่าทางเป็นผู้ดีมีสกุลเสียด้วย""เช่นนี้ขายได้ราคาดีแน่นอนขอรับ"...ขาย!!?!นี่นางจะถูกมนุษย์น่ารังเกียจจับตัวไปขายอย่างนั้นหรือ!! เป็นถึงเทพเซียนหาใช่เดรัจฉาน จะมาขายกันได้อย่างไร!!เสียงหัวเราะร่วนดังผสมกับเสียงร่ำไห้ เล่นเอาหญิงสาวปวดหัวระบมไปหมดนางต้องทำอะไรสักอย่างแต่มือเท้าถูกจับมัด ปากและตาถูกปิดเช่นนี้จะหนีอย่างไร....ซีจงจวิน..เสียงในหัวดังก้อง มันร้องเรียกหาชายผู้เป็นสามีซึ่งเขามักจะโผล่มาช่วยนางเสมอเมื่อเจอเหตุคับขันมี่ฮวาต้องส่งสัญญาณให้ซีจงจวินรู้..แต่จะทำอย่างไร...หญิงสาวพยายามนึกหาสิ่งที่พอจะทำให้รอดพ้นได้ และนึกออกขึ้นมาหนึ่งอย่างไอเซีย
สามวันผ่านไปจากนั้น อวี้เวินฉิงต้องข้อหาหลายคดี ทั้งละทิ้งหน้าที่ บุกรุกจวนแม่ทัพยามวิกาล ทำร้ายร่างกาย และขโมยของคดีสุดท้ายนั้นแม่ทัพจงตั้งใจป้ายสีเอง ด้วยอยากให้อวี้เวินฉิงถูกจับโยนเข้าตาราง ขังลืมไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันในห้องขังมืดสนิทมีเพียงช่องลมติดลูกกรงหนาเท่านั้นเป็นที่ให้แสง อวี้เวินฉิงอยู่ในชุดนักโทษมอซอหมดสง่าราศี ข้อมือและข้อเท้าติดโซ่ตรวนเหล็กห้อยยาวในสถานที่แห่งนี้ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงความทุกข์ทรมานกับเสียงสายโซ่กระทบพื้นลากไปมานานๆทีหูจะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักแน่นของคนภายนอกสักครั้ง และครั้งนี้อวี้เวินฉิงรู้ว่าใครมาทั้งที่ไม่ต้องเงยหน้ามอง"อยู่นิ่งๆก็เป็นรึ มือปราบอวี้"คนที่จะเอ่ยวาจาเช่นนี้กับเขาได้มีเพียงคนที่จับเขาโยนเข้ามาในคุกเท่านั้นอวี้เวินฉิงไม่ตอบ เพียงเลื่อนสายตามามองแม่ทัพยืนเหยียดยิ้มอยู่นอกประตูลูกกรง"ข้าเคยเตือนแล้ว เป็นเจ้าที่รนหาที่ เลือกมาจบชีวิตตรงนี้เอง""..."ไร้การตอบสนองจากคนในคุก อวี้เวินฉิงยังนั่งมองกำแพงว่างเปล่าด้วยตาไร้แววอยู่เช่นเดิมถูกโยนเข้าคุกไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจที่ยังเป็นแผลก่อนหน้านี้นี่สิ..."ข้าจำได้ว่าก่อนจับเจ้าเข้าคุกไม่ได
หลังจากคืนนั้นจงซีจ้านไม่เรียกมี่ฮวาเข้าห้องนอนอีก จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วค่ำคืนอันเดียวดายทำร้ายหัวใจเสียยิ่งกว่าตอนถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดร้าย มี่ฮวานอนกอดตัวขดกลมอยู่บนเตียง หวนนึกถึงสัมผัสอบอุ่นของซีจงจวินคืนแล้วคืนเล่าเทศกาลหยวนเซียวผ่านมาอีกครั้ง ด้านนอกไกลๆมีเสียงความคึกครื้นลอยมาเรื่อยๆคิดถึงปีนั้นที่ซีจงจวินพามาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์ครั้งแรก.. คิดถึงยามเขาพูดคุยสบตา ยามได้เดินจับมือ..คิดถึง...หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้ไม่รู้สึกตัวเลยว่าตั้งแต่มาอยู่โลกมนุษย์นี้นางเสียน้ำตาไปแล้วกี่ครั้งก๊อก.. ก๊อก..เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าต่างไม้ หยุดน้ำตาไว้"ใคร"นางถามด้วยความประหลาดใจ คิดว่าไม่ใช่คนใช้ในเรือนแน่"ข้าเองมี่ฮวา"เสียงคุ้นหูนั้นอีกแล้ว เจ้าของชื่อจำได้แม่นยำ คนมาเรียกคืออวี้เวินฉิงไม่ผิดแน่บานหน้าต่างเปิดออก เทพแห่งแสงในคราบมือปราบหนุ่มใส่ชุดคลุมสีดำมิดชิด ปกปิดใบหน้าจนเหลือแค่ลูกตาเท่านั้น"ท่านมีธุระอะไรเจ้าคะ""ข้ามาพาเจ้าไป"ไป.. ไปไหนกัน?"ไม่ไปเจ้าค่ะ" ไม่รอให้อีกฝ่ายไขข้อข้องใจก็ปฏิเสธเสียแล้วมี่ฮวาไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอีก บทเรียนจากคราว
บนเตียงหลังใหญ่ในห้องที่แสงไฟสลัว ร่างหนึ่งกำลังละเลงลิ้นอย่างเมามันบนผิวเนื้อนุ่มของคนข้างใต้จนนางต้องครางดังเพราะแรงเสียวหนักหน่วงที่เขามอบให้"ท่าน.. ท่านแม่ทัพ อย่าเจ้าค่ะ!"หญิงสาวพยายามปรามไม่ให้คนด้านบนใช้ฟันคมกัดดึงตุ่มเนื้อยอดถันราวกับหมาป่าจะฉีกกระชากเหยื่อ จนตอนนี้ผิวส่วนนั้นกลายเป็นสีอมม่วงไปแล้วแต่จงซีจ้านที่กำหนัดพลุ่งพล่านอยู่มีหรือจะยอมฟัง ยิ่งเขากำลังฉุนเฉียวไม่หายจากเรื่องเมื่อกลางวันด้วยแล้ว ยิ่งพาลให้อยากลงไม้ลงมือกับมี่ฮวาหนักขึ้น"อ๊ะ!!!"เสียงร้องดังลั่นเพราะโดนกัดเข้าที่หัวไหล่อย่างแรง เขายังทิ้งรอยฟันกับรอยเลือดไว้ให้ปรากฏเด่นชัดร่างบางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางไม่รู้ว่าต่อไปจงซีจ้านจะทำอะไรกับเรือนกายนี้เพราะดวงตาคู่งามถูกคาดปิดไว้ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เขายังผูกข้อมือเล็กไว้กับเสาเตียง จับขาให้อ้าออกกว้างจนแทบฉีก กดกายโถมทับอย่างไม่กลัวว่านางจะหายใจไม่ออก"ท่านแม่ทัพเจ้าคะ..เบามือสักนิด..""เจ้าเป็นใครถึงมีสิทธิ์สั่งข้า!!"ว่าจะเอ่ยขอร้อง แต่ไม่ทันจบประโยคดีก็ถูกตวาดกลับเสียลั่นห้องมี่ฮวาต้องเก็บทุกคำพูดต่อจากนั้นลงคอไป น้ำตาไหลหยดหนึ่งซึ่งเขาไม่เห็นและถึงเห็นก
ฤดูกาลหมุนเวียน แมกไม้ผลิดอกออกผลจนร่วงหล่นปลิวไป จากร้อนอบอ้าวเป็นเหน็บหนาวด้วยหิมะขาวโพลนคลุมแผ่นดินหลายเดือนเข้าไปแล้วที่มี่ฮวามาเป็นคนใช้ในจวน...แค่ตอนกลางวันเท่านั้น ส่วนกลางคืนนางจะกลายร่างเป็นนางคณิกาชั้นดี เป็นของเล่นให้เขาได้คลายเหงายาขมถูกส่งเข้าปากถ้วยแล้วถ้วยเล่า จนหญิงสาวไม่รู้เลยว่าตอนนี้มดลูกตัวเองจะยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ความเห็นใจเป็นเหมือนความหวังลมๆแล้งๆ ซึ่งไม่มีทางได้รับจากผู้เป็นสามีเพราะเขาไม่มีความรักหลงเหลือให้นางหัวใจที่ทุกข์ระทมจำต้องทนรับความขมขื่นจากการกระทำอันโหดร้ายมี่ฮวาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองขณะนั่งส่องกระจกในห้องนอน ..ว่านางจะทนได้อีกนานเท่าไหร่กันภาพสะท้อนจากกระจกคือเรือนร่างซึ่งเมื่อก่อนเคยดูสมบูรณ์งดงาม แต่บัดนี้ดูทรุดโทรมแทบไม่มีส่วนใดน่ามองนางนึกถึงครั้งที่ซีจงจวินเคยอยู่ในสภาพเช่นนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นนางเองก็ไม่สนใจเขาเหมือนกันท่านเอาคืนข้าได้สาสมจริงๆ...มี่ฮวาใส่เสื้อผ้าคนใช้เดินออกจากห้องเหมือนเช่นทุกเช้า"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ" นางทักทายยามเดินผ่านพวกลุงคนใช้ ทุกคนโบกมือกลับอย่างใจดี แววตาโอบอ้อมอารีนั้นฉายความสงสารจับใจมี่ฮว
"นางเป็นหมันเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ"แม่บ่านไห่นำคำของสาวใช้คนใหม่มารายงานท่านแม่ทัพตามหน้าที่ปัง!!เพียงได้ยินเท่านั้นมือใหญ่ที่ถือตำราอยู่ต้องกระแทกปิดมันกับโต๊ะอย่างแรง ระบายอารมณ์ขุ่นมัวทางสายตาใส่แม่บ้านชรา"คำลวงของสตรีมากเล่ห์ ข้าจำเป็นต้องเชื่อรึ!!"เขาขึ้นเสียง แม่บ้านไห่ก็ถึงกับยืนขาสั่นงันงก หลังที่งองุ้มนั้นต้องก้มลงหมอบกับพื้น"มะ.. ไม่เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ""ไปพาตัวนางมา แล้วก็ไปต้มยานั่นมาใหม่ด้วย!!"คนหลังโต๊ะหนังสือชี้หน้าสั่งแม่บ้านชรา นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่แรงคนแก่จะทำได้ ไม่นานยาขมหม้อใหญ่ก็ถูกยกมาตั้งมี่ฮวาถูกพาตัวมาตรงกลางสวนร้างที่ตรงนั้นมีคนรับใช้ชายทั้งหมดรวมถึงแม่บ้านไห่อยู่ด้วย ทุกคนได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนนายใหญ่ของบ้านรู้เพียงว่าชะตาสาวใช้คนใหม่กำลังจะขาดเท่านั้นพอ..หญิงสาวนั่งคุกเข่ามองหม้อที่ส่งกลิ่นฉุนบนโต๊ะหิน เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเกาะเต็มหน้าผาก"กิน"คำสั่งเด็ดขาดของแม่ทัพดังพอจะทำให้นางสะดุ้งโหยง มี่ฮวาต้องรีบเข้าไปหมอบตรงพื้นแทบเท้าเขา"ท่านแม่ทัพได้โปรดเมตตาข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าท้องไม่ได้แล้วจริงๆเจ้าค่ะ""ข้าไม่เชื่อ"น้ำแกงสีคล้ำ
เช้าวันต่อมา มี่ฮวาตื่นแต่เช้าทั้งที่ร่างกายยังไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่นางมีงานต้องทำไม่อาจละเลยได้ในยามที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น หญิงสาวลุกจากเตียงหันมองคนหลับ ใบหน้าของเขายามนี้เรียกได้ว่าดูหล่อเหลาคมคร้ามดั่งเทพสงครามบนสวรรค์แต่หากลืมตาขึ้นมาเมื่อใด.. คงดูไม่ต่างจากยักษ์อำมหิตตนหนึ่ง ไร้ซึ่งเมตตาการุณย์"ข้าคิดถึงท่านนัก"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา ลอยหายไปกับสายลมซึ่งพัดเข้ามาทางหน้าต่าง หลังจากสวมใส่อาภรณ์เรียบร้อยดีแล้วจึงกลับเรือนนอนของตัวเองไป...ตลาดเช้าที่นี่ดูคึกคักไม่ต่างจากที่แดนเทพ เป็นแหล่งรวมแม่บ้านซึ่งออกมาจ่ายตลาดและพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระมี่ฮวาเดินตามแม่บ้านไห่ซื้อวัตถุดิบ โดยตลอดทางจะมีสายตาแปลกๆของทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าแถวนั้นจ้องมาตลอดนางทำเป็นไม่รับรู้ ยื่นเงินจ่ายให้แม่ค้าผลไม้ ส่วนแม่บ้านไห่ก็ยืนเลือกปลาอยู่ร้านข้างๆ"แม่นางมาจากจวนท่านแม่ทัพใช่หรือไม่" พ่อค้าร้านผักที่อยู่ไม่ไกลตะโกนถาม"ใช่เจ้าค่ะ"พอหญิงสาวตอบออกไปเช่นนั้น ผู้คนรอบข้างต่างก็ยืนอึ้ง บ้างเอามือป้องปากกระซิบกระซาบ"เหตุใดแม่ทัพปีศาจผู้นั้นถึงรับสาวใช้อย่างเจ้าเข้ามากัน""เจ้างามเ
ในกระโจมมืดที่มีแสงไฟสลัวจากตะเกียงอันเดียวสะท้อนเงาของชายหญิงคู่หนึ่งขย่มร่างบนเตียงไม้จนมันเลื่อนดังเอี๊ยดอ๊าด"อะ.. ทะ ท่านแม่ทัพ..."เสียงครางกระเส่าแว่วหวานจากริมฝีปากอิ่มแดง เคล้าไปกับเสียงเนื้อกระทบกันรัวเร็วดูเร่าร้อน สะโพกสอบของคนด้านบนขยับบดเบียดเข้าออกถี่ๆเร่งให้คนข้างใต้ขยับรับตามแทบไม่ทันทุกการกระทำเป็นไปอย่างหยาบโลน มือใหญ่เที่ยวเคล้นคลึง ขยำขยี้เนินอกนุ่มเต็มไม้เต็มมือไม่มีถนอมไม่มีผ่อนแรงปากเขาประทับตราตีความเป็นเจ้าของทั่วตัวนาง เน้นหนักตรงยอดถันประดับตุ่มไตชูชัน กัดกระชากไปมาเบาๆอย่างเมามัน ก่อนดูดดุนแรงๆราวจะคั้นเอาเลือดนางออกมาแท่งหินใหญ่ยักษ์ร้อนดั่งถูกเอาไปอังไฟก่อนเสียบเข้ามานั้นสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัส ขณะแทงโดนจุดที่ทำให้ข้างในเสียวจุกจนเกินจะระงับเสียง"อ๊าา!!"หญิงสาวถึงฝั่งรอบที่สามแล้ว แต่คนด้านบนยังขยับต่ออย่างเอาแต่ใจ ไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้นเสียงครางต่ำของเขากับเสียงหวานใสของนางช่างเข้ากันได้ดี เช่นเดียวกับร่างกายที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวทว่าหัวใจ..กลับไม่เป็นเช่นนั้น"อาา..."ในที่สุด น้ำคาวขาวขุ่นก็ถูกฉีดอัดเข้าไปในช่องสวาทเต็มเหนี่ยว ล้นทะลักออกมาเป
ราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นแค่ห้วงฝันเพียงหนึ่งชั่วยาม ตอนนี้ในกระโจมวุ่นวายไปหมด มี่ฮวาวิ่งรักษาทหารอย่างไม่หยุดพัก พยายามทำแผลให้เร็วที่สุด เมื่อเสร็จจากคนในนี้แล้วจึงจะรีบไปหาเขาหวังว่าคราวนี้ จงซีจ้านจะยอมให้นางรักษาจริงๆสักที..''ท่านหมอ คือว่า..''เมื่อมาถึงกระโจมก็พบเข้ากับฮวนเกอซึ่งยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า เขาดูลำบากใจนิดหน่อยที่จะเอ่ยบอกนาง''ท่านแม่ทัพไม่ให้ข้าเข้าไปอีกแล้วหรือ'' นางถาม ชายหนุ่มก็พยักหน้าตอบอย่างจริงจัง''หากไม่ใช่หมอชาย ท่านแม่ทัพไม่มีทางให้จับเนื้อต้องตัวเด็ดขาดเลย ท่านหมอทิ้งยากับผ้าพันแผลไว้ตรงนี้แล้ว.. อะ อ้าว! ท่านหมอ!!''ท้ายประโยคฮวนเกอเสียงหลงทันทีเพราะหมอสาวนางนี้ไม่สนใจคำเขา แหวกผ้าคลุมกระโจมเดินฉับๆเข้าไปด้านในอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใด''ใครให้เจ้าเข้ามา!!"ตามคาด เมื่อเห็นหน้านางโผล่มาเขาจะต้องตะคอกใส่เสียงกร้าวทันที''ไม่มีเจ้าค่ะ แต่ข้าต้องทำหน้าที่หมอ รักษาท่านให้ดีที่สุด''''ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสตรี! หน้าที่เดียวของเจ้าคือไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!!''''ข้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้เจ้าค่ะ ขออภัยที่ต้องล่วงเกิน''ว่าแล้วมี่ฮวาก็เข้าไปทรุดกายนั่งลงข้า
วันเวลาในค่ายทหารยังคงดำเนินต่อไป...อย่างไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่นัก''ท่านหมอ! ท่านหมอ! ข้าโดนน้ำร้อนลวกตอนต้มโจ๊กเมื่อเช้า ทำแผลให้ข้าที''''ท่านหมอรักษาแผลมีดบาดให้ข้าอยู่ไม่เห็นหรือ เจ้ารอไปก่อน''''แต่แผลข้าใหญ่กว่าเจ้า''''แต่ข้ามาก่อน''''พวกท่านทั้งสองอย่าทะเลาะกันเลยเจ้าค่ะ ข้ารักษาให้ทุกคนอยู่แล้ว''เป็นเสียงของหมอสาวเอ่ยห้ามทัพ ทหารทั้งสองนายจึงหยุดศึกชิงความสนใจจากหมอตามที่นางบอกนี่ก็ผ่านมาครึ่งเดือนได้แล้ว กำลังเสริมจากเมืองหลวงยังมาไม่ถึงก็จริง แต่ยามที่ศึกสงบเช่นนี้ พวกหน้าที่ใหญ่ๆที่จำเป็นต้องมีหมอไม่มีอีกแล้วช่างน่าแปลกที่หมู่นี้เหล่าทหารในค่ายต่างก็ชอบมีแผลมาให้นางช่วยรักษาทุกวี่วัน ไม่ว่าจะโดนน้ำร้อนลวก มีดบาด รอยฟกช้ำจากการซ้อมอาวุธ ข้อเท้าแพลงตอนวิ่ง ยันแผลแมลงเล็กๆกัดต่อยที่ทิ้งไว้ไม่นานก็หาย พวกเขาก็ยังวิ่งมาหาหมอกันจะมีก็แต่เขาคนนั้นที่มาหานางโดยไม่มีจุดประสงค์อื่นนอกจากไล่ให้ไปไกลๆ..''ยังอยู่อีกรึ''น้ำเสียงราบเรียบที่แดกดันกันชัดเจนดังมาจากหน้ากระโจม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใครที่พึ่งเข้ามา''ก็ค่ายทหารขาดหมอไม่ได้นี่เจ้าคะท่านแม่ทัพ'' มี่ฮวาหันมายิ้มตอบอย่างส