แชร์

บทที่ 29 二十九

ผู้เขียน: PinkyPaw
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-22 11:12:44

จากวันผ่านไปกลายเป็นเดือน ทั้งคู่ยังอยู่กันอย่าง..ไม่ค่อยปกติสุขเท่าไหร่นัก

"ทำไมกลับช้านัก ข้าหิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย"

มี่ฮวาแกล้งเดินตึงตังพูดขึ้นเสียงใส่ซีจงจวินเหมือนคนโมโหหิว ทั้งที่จริงๆเขาก็กลับเวลาประมาณนี้ทุกวัน

"รอเดี๋ยวนะ" ฝ่ายเทพอสูรเห็นภรรยาทำหน้าเหมือนจะกินหัวเขาให้ได้ก็รีบตรงเข้าครัวเลย ไม่แม้แต่จะถอดเอาชุดเกราะออก

ผ่านไปเกือบสามก้านธูปซีจงจวินเร่งยกกับข้าวหกอย่างขึ้นโต๊ะ ล้วนมีแต่ของที่ทำง่ายใช้เวลาไม่นาน มี่ฮวานั่งคีบผักกับเต้าหู้กินสองสามคำ ขณะที่ตะเกียบกำลังจะจิ้มลงไปบนปลานึ่งสมุนไพรตรงกลางโต๊ะมือก็หยุดชะงักเสียก่อน

"ข้าไม่อยากกินปลา" นางโยนตะเกียบ ทำหน้าบึ้งเหมือนเด็กเอาแต่ใจ

"ท่านอยากกินอะไร" เห็นภรรยาไม่อยากกินซีจงจวินก็ไม่ขัด กลับถามเพื่อจะหามาทำให้ใหม่

"เนื้อวัวย่าง"

คนฟังได้ยินแล้วกะพริบตาปริบๆ ค่ำมืดเช่นนี้จะให้เขาไปล้มวัวจากที่ไหนมาให้กัน

หญิงสาวเห็นอาการของอีกฝ่ายที่ดูลำบากใจเล็กน้อยก็แสร้งทำเสียงหงอยเหมือนเด็กน้อยที่กำลังเศร้าเพราะไม่ได้ของที่ต้องการ

"แต่เวลานี้คงหามาไม่ได้ใช่หรือไม่ เช่นนั้นไม่ข้าเอาก็ได้"

ท่าทางภรรยาตอนนี้ดูน่ารักยิ่งกว่าเมื่อก่อนมากนัก ไม่รู้นางเป็นอะไรถึงชอบทำแง่งอนแต่ก็ยังดีกว่าเย็นชาปากร้าย นั่นทำให้เทพอสูรยิ่งหลงหนักกว่าเดิม

"ข้าจะไปหาให้"

พูดจบเทพอสูรวางถ้วยข้าววิ่งออกจากบ้านไปทันที ทิ้งให้ภรรยานั่งกลั้นขำกับท่าทางรีบร้อนนั่นแทบไม่ไหว

"นายหญิงขอรับ.." บ่าวรับใช้เอ่ยเรียกเสียงเบา มันมีสีหน้าตื่นกลัวกับรอยยิ้มชั่วร้ายของผู้เป็นนาย

"มีอะไร?" มี่ฮวาหันมอง พวกมันก็ส่ายหน้ารัว

นายหญิงแกล้งนายท่านอีกแล้ว...

แกล้งอยู่ได้ทุกวัน จะว่าใจร้ายก็ไม่ได้ พวกมันไม่มีอำนาจตัดสินนาง

เกือบครึ่งชั่วยามต่อมาซีจงจวินกลับถึงบ้านพร้อมซากพ่อวัวตัวเขื่อง เนื้อตัวเปื้อนเลือดเหม็นคาวตลบไปทั่ว

เขาเดินเข้ามาทางหลังบ้านเพื่อที่จะไม่ให้ภรรยาเห็นสภาพอันน่าสยดสยองนี้ แต่ด้วยกลิ่นที่คละคลุ้ง มี่ฮวาทนไม่ไหวจนต้องเดินตามกลิ่นเข้ามาในครัว ก่อนเอามือปิดจมูกและรีบหันไปมองทางอื่นเพราะภาพศพวัวนี้น่าสะอิดสะเอียนเกินไป

"ข้าจะปรุงเดี๋ยวนี้" คนพูดถืออีโต้เล่มใหญ่เตรียมแล่ชิ้นส่วนวัวแล้วเอาไปย่าง แต่ก็ถูกเสียงของคนด้านหลังเรียกเอาไว้เสียก่อน

"ข้าเปลี่ยนใจ ไม่อยากกินเนื้อวัวแล้ว"

มีดที่เงื้อขึ้นสูงต้องหยุดค้างกลางอากาศ ซีจงจวินหันมองดวงตากลมใสแจ๋วกับคำสั่งชุดใหม่ของนาง

"ข้าอยากกินหม้อไฟเนื้อแพะ"

"..."

ได้ยินแล้วแทบล้มทั้งยืน ข้าวเย็นเขายังไม่ตกถึงท้อง ยังต้องไปล่าแพะอีกหรือนี่!

"รอประเดี๋ยวนะ"

แต่.. พ่อบ้านอย่างเขาจะทำสิ่งใดได้เล่า นอกจากลากศพวัวไปเก็บแล้ววิ่งออกไปด้วยสภาพอย่างกับคนเชือดหมูอีกหน

อีกเกือบครึ่งชั่วยามต่อมา แพะสองตัวพาดอยู่บนบ่ากว้าง ซีจงจวินเดินเข้าบ้านด้วยใจหวังว่าคราวนี้คงไม่ต้องไปวิ่งจับตัวอะไรอีก

พอกลับเข้ามาก็พบว่าเจ้าครึ่งงูกำลังง่วนกับการเก็บเอาจานสำรับมาไว้ในครัว

"มี่ฮวาไปไหนหรือ" เขาถามเสียงอ่อน

"นายหญิงกินข้าวเสร็จนานแล้ว กำลังแช่น้ำร้อนอยู่ขอรับ" ชิงเหลียงตอบ ขณะยกเอาจานที่ว่างเปล่าวางซ้อนกันในถาด

"กินเสร็จแล้ว!? กินอะไร??"

"ก็กินปลานึ่งนั่นแหละขอรับ นายหญิงบอกว่าหิวจนรอไม่ไหวขอรับ"

"..."

คนฟังอึ้งไป นี่เขาหิวจนแทบจะกินวัวกินแพะได้ทั้งคอกอยู่แล้วนะ!

สุดท้ายซีจงจวินก็มานั่งกินของที่เหลือต่อจากภรรยา จากนั้นจึงลุกไปอาบน้ำที่แม่น้ำตามเคย

ในใจยังสงสัยไม่หายว่าหมู่นี้นางเป็นอะไร เหตุใดถึงชอบกลั่นแกล้งเขาแต่ไม่ได้ว่าแรงๆอีก

หากเป็นเมื่อก่อนนางพูดมาสิบคำ ด่าไปแล้วหกคำอีกสี่คำคือถากถาง

ตอนว่าก็เหมือนแสร้งทำเป็นขึ้นเสียงไปอย่างนั้น สายตาไม่ได้ดูโกรธขุ่นอะไร แล้วยังยอมพูดดีกับเขามากขึ้น

นอกจากพูดมากขึ้นแล้วยังเรื่องมาก มากขึ้นทุกวันอีกด้วย...

นึกแล้วก็เผลอระบายยิ้มกว้าง หากเรื่องมากแล้วเป็นเช่นนี้ซีจงจวินยินดีให้นางเรื่องมากกับเขาไปทั้งชีวิตเลย

...

เช้าวันต่อมาหลังจากทำอะไรเสร็จ มี่ฮวาก็มานั่งนึกต่อว่าจะแกล้งซีจงจวินอย่างไรดี

การทำเช่นนี้ทำให้แต่ละวันผ่านไปอย่างไม่น่าเบื่อ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเห็นสีหน้าเศร้าๆของซีจงจวินให้รู้สึกผิดเพราะมันถูกแทนที่ด้วยสีหน้าตะลึง อึ้งงัน งงงวย ลนลาน เหลอหลา น่าขำออกจะตาย

ว่าแล้วก็ออกมาเดินเล่นคนเดียวในสวนลำพัง

มี่ฮวาไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าสิ่งที่ปฏิบัติกับซีจงจวินมันค่อยๆห่างไกลจากคำว่าเกลียดไปทีละน้อย

กลับกันคือเริ่มรู้สึกสนุกที่ได้เห็นสีหน้าหลายแบบของเขา ได้เห็นเขาวิ่งวุ่นเอาใจนาง สนุกกับการทำแง่งอนประชดประชันเล่นๆ และเริ่มว่าซีจงจวินน้อยลง

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร...

"โอ๊ย!!!"

ระหว่างที่เดินไปรอบๆ เซียนบุปผาได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงดังขึ้นแถวรั้วด้านนอก ความอยากรู้อยากเห็นส่งผลให้ขาเรียวก้าวเดินตรงไป เลี้ยวออกทางประตูหน้า

ที่ทางเข้าป่าไม่ไกลนักมีร่างหญิงชราคนหนึ่งนั่งงอตัวอยู่ดูเหมือนจะบาดเจ็บ มี่ฮวาจึงรีบเข้าไปหาเพื่อจะถามไถ่ช่วยเหลือ

"ท่านเป็นอะไรหรือไม่" นางถามขณะก้มสะกิดไหล่เบาๆอย่างอ่อนโยน

ในร่มเงาไม้ครึ้ม หญิงชราค่อยๆหันหน้าขึ้นมามอง เผยยิ้มกว้างแล้วเอ่ยกับนาง

"ข้าไม่เป็นอะไรเลย"

รอยยิ้มนั้นฉีกยาวถึงใบหู

ใบหน้าที่เหี่ยวย่นเป็นสีม่วงคล้ำขึ้นเล็กน้อย..

และลิ้นของมันแลบเลียริมฝีปากแตกระแหงอย่างหิวโหย

วิญญาณ!!

มี่ฮวาเบิกตาโพลง พลันหันหลังเตรียมวิ่งหนีสุดชีวิต แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะมือเหี่ยวของหญิงชรายื่นมาปิดปากปิดจมูกไว้แน่น

..หายใจไม่ออก...

ร่างบางพยายามดิ้นขัดขืน แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งหมดแรงด้วยไม่มีอากาศเข้าปอด นางถูกลากเข้าป่าอย่างง่ายดาย มันลึกขึ้นเรื่อยๆและยิ่งไกลจากบ้านเข้าไปทุกที

กลางดงต้นไม้เขียว มี่ฮวาไม่รู้แล้วว่าทิศไหนเป็นทิศไหน และตอนนี้ตัวเองอยู่ตำแหน่งใดของแผ่นดินใหญ่

สติกำลังจะเลือนหายเพราะสมองขาดอากาศนานเกินไป...

ซวนเฟย..ชิงเหลียง.. พวกเจ้าอยู่ที่ไหน...

ซีจงจวิน...

ชื่อสุดท้ายที่ผุดขึ้นมานั้นทำให้มี่ฮวาเกิดแรงฮึดเฮือกสุดท้าย มือเรียวเอื้อมคว้าเข้าที่ลูกตาของวิญญาณด้านหลัง แล้วกระชากอย่างแรงจนรู้สึกได้ว่ามีก้อนอะไรสักอย่างติดออกมาพร้อมของเหลวกลิ่นคาว

"กรี๊ดดดดด!!!!!"

เป็นเสียงโหยหวนจากหญิงชราที่พึ่งถูกควักลูกตาออก มันเผลอปล่อยมือจากมี่ฮวาแล้วคร่ำครวญโหยหวน

"ตาข้า!! ตาข้า!!!!"

หญิงสาวที่ร่างร่วงลงพื้นสำลักไออย่างหนัก ก่อนพยุงตัวลุกขึ้นวิ่งไม่คิดชีวิต แต่มันช่างยากลำบากเพราะกำลังยังไม่กลับมาสมบูรณ์นัก

เมื่อวิญญาณรู้สึกตัวว่าเหยื่อกำลังจะหนีก็รีบคว้าเอาไว้ แม้จะถึงแค่ผิวเนื้อแต่เพียงเท่านั้นก็สร้างรอยกรีดยาวเป็นทางไปได้ถึงครึ่งหลังแล้ว

แคว่ก!!!

ชุดตรงกลางหลังขาดวิ่นปรากฏรอยเล็บยาวลึก มี่ฮวาเจ็บแต่ร้องไม่ออก ได้แต่วิ่งไปข้างหน้าไม่อาจเหลียวหลังมองได้

วิญญาณหลุดออกมาตอนกลางวันได้ด้วยหรือ!!?

ไหนซีจงจวินบอกว่าตอนกลางวันปลอดภัยอย่างไรเล่า!!!

"หยุด!!!" เป็นเสียงแหบแห้งของวิญญาณที่วิ่งตามหลังสั่งนางแต่ใครจะหยุดให้โง่เล่า!!

มี่ฮวาไม่มีทางคิดจะหยุด แต่เพราะไม่ได้ดูทางให้ดีประกอบกับชายชุดยาวรุงรังพันแข้งขา ทำให้นางสะดุดล้มลงไถลไปกับพื้นจนเป็นแผลถลอกเกือบทั่วตัว ริมฝีปากกระทบฟันแตกเป็นแผลเลือดไหล เจ็บจนใบหน้าเหยเก

"เชื่อฟังดีจริงๆ"

วิญญาณตนนั้นตามมาทันในที่สุด มันเอ่ยเยาะและก็เงื้อกรงเล็บขึ้นเตรียมจะจิกเข้าที่ศีรษะนางแต่เหยื่อไหวตัวทัน เอี้ยวหลบไปแล้วออกแรงถีบเข้าที่สีข้างของมันจนกลิ้งไปอีกทาง กรงเล็บแหลมจึงครูดขาพร้อมกับได้รองเท้าเปื้อนดินติดมือไปแทน

เมื่อสลัดหลุดได้อีกครั้ง มี่ฮวาลุกวิ่งต่อทันที ตอนนี้ขอแค่เอาชีวิตรอดได้ก็พอ จะกี่แผลนางไม่สนใจแล้ว

แต่ด้วยความเจ็บใต้ฝ่าเท้าเปลือยเปล่า ความเร็วจึงเริ่มลดลง บนแผ่นหลังยังมีเลือดซึมออกมาไม่หยุด ประกอบกับน้ำในร่างระบายออกมาเป็นเหงื่อชุ่มตัว สมองจึงเริ่มไม่ทำงานและสายตาพร่าเลือน

ยามที่สติกระเจิดกระเจิง นางขอเพียงแค่ก้าวไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด ไม่ได้สนใจมองพื้นที่เหยียบย่างผ่านจนโดนหินแหลมกับก้านไม้แห้งตำเท้าบ้าง ขีดข่วนขาขาวบ้างเป็นรอยตื้นลึกสลับกันไป

กระทั่งสัมผัสที่ใต้ฝ่าเท้าเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกเปียกและเย็นทำให้นางได้ก้มมอง พบว่าตัวเองวิ่งมาถึงธารน้ำตกแล้ว

แผลสดที่ยังมีเลือดออกไม่หยุดตอนโดนน้ำก็ยิ่งแสบจนแทบอยากทรุดลงไปนั่งทุรนทุรายในลำธาร

มี่ฮวาพยายามฝืนก้าวต่ออย่างยากลำบาก พึ่งรู้สึกตัวว่ารอบข้างมีเสียงน้ำตกดังจนแทบกลบทุกเสียงในป่า

ข้างล่างนั่น สูงเท่าไหร่กัน...

หากตกลงไป..จะตายหรือไม่...

หูตาพร่าลายอย่างหนัก ประสาทสัมผัสนางกำลังจะไม่ทำงาน

"ตายเสีย!!!!"

เสียงที่ตามมานั้นดังหรือเบามี่ฮวาไม่มั่นใจนัก ดวงตามองภาพสะท้อนบนผืนน้ำที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หูอื้อจนได้ยินอะไรไม่ชัด

ความรู้สึกสุดท้าย.. คืออากาศกำลังจะหมดลง กายเปียกโชกคล้ายตอนนอนแช่น้ำ

ทำไมมันหนาวขนาดนี้...

หายใจ..ไม่ออก...

!!!!!

ราวเกิดปาฏิหาริย์ ลมหายใจไหลเข้ามาอีกครั้งตามด้วยการสำลักไอโขลกของคนจมน้ำ

มี่ฮวาไม่รู้ว่าตัวเองนอนอยู่ในลำธารนานเท่าไหร่ รู้สึกเพียงว่าทั่วตัวมีมือใหญ่หลายข้างสัมผัสนาง โอบอุ้มไว้แนบเข้าหากายอุ่นของใครบางคน

มือ..ที่มากกว่าสองข้าง กับผิวเนื้อหยาบกร้านที่อุ่นร้อนตลอดเวลา...

"มี่ฮวา!! มี่ฮวา!!!"

ได้ยินเสียงที่แสดงความเป็นห่วง เปลือกตาค่อยๆเลื่อนเปิดและพบว่าภาพตรงหน้า..คือแววตาอีกคู่ของคนคุ้นเคย

แววตาสีเหลือทองดั่งจันทราส่องสว่างยามรัตติกาล ทว่าบัดนี้กลับล้อมรอบด้วยม่านน้ำสีใสเอ่อท้น ท่วมลงมายังสองข้างแก้ม มือที่ประคองร่างนางอย่างอ่อนโยนกำลังสั่นไหว คงเพราะเห็นว่านางมีแผลเลือดไหลอยู่เกือบทั่วตัว

รอยยิ้มบางระบายออกมายามได้ยินเขาเรียกชื่อนางเสียงสั่น สูดลมหายใจไม่ทั่วท้องทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนเจ็บ

นางปลอดภัยแล้ว.. ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว...

"นายหญิงขอรับ!!!" เสียงนี้เป็นของซวนเฟยกับชิงเหลียง เด็กรับใช้ผู้ภักดี

เปลือกตาของมี่ฮวาปิดลงช้าๆ แต่ยังไม่สิ้นสติไป ทุกเสียงรอบข้างกลับมาได้ยินชัดเจนอีกครั้ง

แม้แต่เสียงลมหายใจไม่สม่ำเสมอของซีจงจวิน...

ไม่นาน ก็รู้สึกได้ว่าร่างถูกวางลงบนพื้นหญ้าชื้นๆ

หูได้ยินเสียงดาบฟาดกระทบกายเนื้อดังฉับ! ตามมาด้วยเสียงฟันแรงๆอีกหลายที เดาว่าซีจงจวินคงไม่ยั้งมือกับวิญญาณร้ายตนนั้นแน่

เขาต้องโกรธมากที่มันมาทำร้ายนาง...

ต่อจากเสียงโรมรันฟันแทงคือเสียงกรีดร้องโหยหวนดังสู้กับเสียงน้ำตก

"ตายอีกสักรอบเป็นอย่างไร!!"

ซีจงจวินคงเดือดจัดเลยสินะ..

เสียงกรีดเนื้อแล่หนังยังคงดังต่อเนื่องไปอีกระยะ ไม่อยากคิดสภาพของวิญญาณร้ายตนนั้นเลยจริงๆ

มันบังอาจทำร้ายนางผู้เป็นดั่งดวงใจ เขาไม่มีทางปล่อยมันกลับนรกโดยสภาพดีแน่...

ไม่นาน มี่ฮวาได้ยินซีจงจวินสวดอะไรบางอย่างเดาว่าเขาคงแปะยันต์ส่งวิญญาณกลับคืนสู่ปรโลกเหมือนคราวก่อน

หลังจากภารกิจเสร็จสิ้นชายหนุ่มวิ่งเข้ามาประคอบตัวภรรยารักขึ้นแนบอก พร่ำเรียกชื่อนางอย่างใจหาย

"มี่ฮวา!! มี่ฮวา!! ตื่นสิมี่ฮวา!!!"

ก็อยากจะลืมตาอยู่หรอก แต่มันไม่ไหวแล้วนี่นา...

"อือ.."

หญิงสาวเหนื่อยล้าจนไม่อาจทำอะไรได้ จึงได้แต่ส่งเสียงเบาๆในลำคอ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ายังมีชีวิตอยู่

ซีจงจวินได้ยินก็ค่อยโล่งใจ อุ้มนางไว้ในอ้อมแขนแล้วพากลับบ้านทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 30 三十

    ก่อนหน้านั้น..ซวนเฟยกับชิงเหลียงง่วนกับการทำงานบ้านจนลืมดูนายหญิงของพวกมันกระทั่งรู้สึกตัวอีกทีคือตอนที่จะยกขนมกับน้ำชามาให้ และพบว่านายหญิงไม่อยู่ในห้องชมสวนเสียแล้วทั้งสองวิ่งหารอบบ้านก็ไม่เจอ สังหรณ์ใจไม่ดีจึงเดินออกมานอกบ้าน"ซวนเฟย! ซวนเฟย!!"ชิงเหลียงตะโกนเสียงหลงทำเอาคนถูกเรียกต้องรีบวิ่งเข้าไป จนเห็นของบางสิ่งตกอยู่บนพื้น"ปิ่นนี่มันของนายหญิงนี่!!"ทั้งสองหน้าซีดเผือด เห็นพื้นด้านในป่าเป็นรอยลากยาว รู้แล้วว่าเจ้านายกำลังมีภัยปีกสีเทากระพือเร็วรี่พาร่างเล็กทะยานขึ้นฟ้าไปหานายท่านของมันที่หน้าบันไดขึ้นเขาสรรค์ทันที พร้อมกันนั้นหางงูสีฟ้าเหลือบเขียวเลื้อยตามรอยลากไปโดยเร็ว เผื่อจะเข้าไปช่วยนายหญิงได้ทันเวลาที่หน้าเขาสวรรค์ ซีจงจวินยืนเฝ้าบันไดอย่างสง่าผ่าเผยช่างดูน่าเกรงขามยิ่ง"นายท่านขอรับ!!!"เสียงหนึ่งดังอยู่เหนือหัว มองไปเห็นร่างอสูรรับใช้ครึ่งนกร่อนลงมายืนตรงหน้าด้วยสภาพเหงื่อผุดทั่วตัวเขาสังหรณ์ใจไม่ดีอีกแล้ว.."นายหญิงหายไปขอรับ!! ข้าพบของสิ่งนี้ตกอยู่ที่ทางเข้าป่าพร้อมกับรอยแปลกๆบนพื้นขอรับ!!"ซวนเฟยยื่นปิ่นปักผมทองให้ซีจงจวินดู สายตาดุดันพลันวาวโรจน์ทันทีเขาทิ้ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 31 三十一

    ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา วันทั้งวันมี่ฮวาไม่ได้ลุกไปไหนเลยเพราะมีซีจงจวินทำหน้าที่เป็นมือเป็นเท้าให้ อยากได้อะไรเขาลุกไปหามาประเคนทั้งหมดหลังจากสั่งให้อสูรรับใช้ป้อนข้าว เช็ดตัว ทำแผลให้ภรรยาแล้วเขาก็กลับเข้ามานั่งเฝ้าตรงมุมห้องตามเดิมมี่ฮวานั่งอ่านหนังสือไปเพลินๆ ไม่น่าเชื่อว่าการมีเขาอยู่ร่วมห้องไม่ได้น่ารำคาญเท่าเมื่อก่อน"พรุ่งนี้เจ้าไปทำงานได้แล้วนะ"นางเอ่ยบอก แม้ตอนแรกดวงตายังไม่ละจากตัวหนังสือแต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรทำให้ต้องเงยหน้ามองอีกฝ่ายสีหน้าเขาเรียบตึง ทว่ามองตาแล้วรู้ทันทีว่าในใจกำลังประท้วงอย่างกับเซียนน้อยงอแงไม่อยากไปสำนักฝึกตน...อายุจะแสนปีแล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้"จะไม่ไปทำงานจริงๆหรือ"นางถาม ซีจงจวินก็ส่ายหน้าตอบแล้วพูดเสียงอ่อน ช้อนดวงตาสื่อความหมายเดียวกับคำนั้น"ข้าเป็นห่วง"เป็นเหตุผลที่ต่อให้ใจแข็งอย่างไรก็อ่อนยวบได้ง่ายดาย คนฟังถึงกับต้องถอนหายใจยาว"เจ้าเพิ่มการคุ้มกันรอบบ้านแทนไม่ดีกว่าหรือ""ข้าทำแล้ว""ถ้าทำแล้วก็ไม่ต้องห่วงหรอก"ได้ยินนางบอกเขาก็เงียบไป ครู่ต่อมาจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"ข้าอยากอยู่ข้างท่าน"คำพูดนั้นทำเอาหญิงสาวถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 32 三十二

    อากาศด้านนอกเริ่มเย็นลง ใบไม้ปลิวร่วงยามลมพัด มี่ฮวานั่งเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมายนี่ก็นานแล้วที่ไม่ได้ออกไปไหนเลย การต้องอยู่แต่ในบ้านแบบนี้มันน่าเบื่อมากเหมือนกัน"มี่ฮวา"เสียงคนที่มุมห้องเรียกหา เมื่อหันมาก็พบว่าเขายกสำรับเย็นจัดขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้วสีหน้าเหงาๆ กับการนั่งกินข้างไม่พูดไม่จาของนางนั้นซีจงจวินสังเกตได้"ท่านเบื่ออาหารหรือไม่"ได้ยินคำถามมี่ฮวาก็ส่ายหน้า เห็นเช่นนั้นคนเป็นสามีก็พลอยไม่เจริญอาหารตาม"ท่านเป็นอะไรไปหรือ มีอะไรที่ข้าทำให้ไม่พอใจหรือเปล่า""เปล่าเลย ข้าแค่รู้สึกเบื่อนิดหน่อย คงเพราะอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน แล้วก็ไม่ได้เจอใครตั้งนานแล้ว"เห็นภรรยาทำหน้าหงอยลงอีกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจ อยากช่วยหาทางออกให้"ท่านอยากไปเที่ยวตลาดแดนเทพหรือไม่ ข้าจะ.."ซีจงจวินกำลังจะเสนอความคิดแต่ต้องรีบงับปากลงก่อน เพราะนางเคยบอกว่าเขาเป็นภาระถ้ามีเขาอยู่เกรงจะทำให้หมดสนุกเอา.."พรุ่งนี้ข้าจะพาท่านไปส่งตอนเช้าและตอนเย็นจะไปรับ ให้ซวนเฟยกับชิงเหลียงไปช่วยท่านถือของด้วยจะได้สะดวกขึ้น"นี่น่าจะเป็นทางที่ดีกว่า.."ไม่เป็นไรหรอก ข้าถือเองได้""ท่านแรงน้อย ถือของหนักพะรุงพะรังคน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 33 三十三

    ซีจงจวินมารับมี่ฮวาตรงตามเวลานัดแล้วก็พากลับบ้าน เตรียมอาหาร จัดของให้นางเหมือนปกติซวนเฟยกับชิงเหลียงดูจะอิดโรยกันมาก หลังจากทำงานเสร็จแล้วพวกมันก็ขอตัวไปพักเลย และคาดว่าคงไม่มีแรงลุกจนกว่าจะฟ้าสางม่านสีดำโรยตัวลงจากท้องฟ้า ในยามที่ควรจะเข้านอนมี่ฮวาอาบน้ำเสร็จไม่ได้กลับเข้าห้องทันทีนางอาศัยตอนที่ซีจงจวินไปอาบน้ำเข้าไปในห้องเขา จุดกำยานแล้ววางโถไว้ให้บนโต๊ะข้างหัวเตียงมี่ฮวาไม่มีความกล้าพอจะยื่นให้เขาตรงๆ เลยคิดว่าทำแบบนี้ให้เขาประหลาดใจเล่นน่าจะดีกว่าเมื่อนางกลับเข้าห้องไปแล้ว ซีจงจวินเดินออกมาจากห้องน้ำดับไฟทุกดวงในบ้านจนมืดสนิท เดินเข้าห้องนอนของตัวเองไปแต่เพียงบานประตูแง้มเปิดเล็กน้อย จมูกที่ประสาทรับกลิ่นดีเยี่ยมก็เริ่มทำงานเขาไม่รู้ว่ากลิ่นที่อยู่ในห้องเป็นกลิ่นอะไร แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็เดินเข้ามาถึงเตียงเสียแล้วร่างกายเริ่มรู้สึกร้อนรุ่ม เลือดสูบฉีดแรงจนผิวเป็นสีแดงเข้ม เหงื่อเม็ดเป้งผุดซึมไหลเป็นสายธารทั้งที่อากาศเย็นสบายมันร้อนไปหมด.. ร้อนจนเขาเผลอถอดเสื้อผ้าออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ตัวแท่งเนื้อกลางกายเริ่มตอบสนอง มันตั้งชูชัน แข็งเกร็งคล้ายอยากได้รับการปลดปล่ยเต็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 34 三十四

    มี่ฮวาตัดสินใจเดินมานั่งที่เตียง มือเล็กเอื้อมสัมผัสเบาๆที่หัวไหล่คนบนพื้นซึ่งยังคงสั่นอยู่เล็กน้อย"หันมาเถิด" นางเอ่ยแต่ซีจงจวินส่ายหน้าปฏิเสธเขาจะกล้าให้นางเห็นความน่ารังเกียจของตัวเองได้อย่างไร หากนางรับไม่ได้เกิดวิ่งหนีออกไปตอนนี้ ซีจงจวินคงไม่เหลือแรงจะวิ่งตามแล้ว"หันมาเถิดซีจงจวิน"เสียงมี่ฮวาเข้มขึ้น ซีจงจวินก็ยิ่งปฏิเสธคำสั่งนั้น นั่งห่อตัวจนเส้นผมสีดำยาวสยายลงมาปรกหน้าสุดท้ายนางทำอะไรไม่ได้ จึงเลือกที่จะลุกแล้วเดินอ้อมมานั่งหันหน้าเข้าหาเขาเอง มือเล็กจับสองข้างแก้มเทพอสูรให้เงยขึ้นยอมสบตาตรงๆราวกับภาพในคืนที่นางตัดสินใจหนีกลับบ้านไหลกลับเข้ามาในหัว..ตอนนั้นแววตานางฉายความหวาดกลัว ขณะที่แววตาเขาสะท้อนความสิ้นหวังและตอนนี้ ความสิ้นหวังยิ่งเพิ่มพูน ดึงจิตวิญญาณให้จมดิ่งลึกลง..."ท่านไม่หย่ากับข้าได้ไหม"สีหน้าเขายามวิงวอน ดูราวกับเด็กน้อยที่ในใจมีแต่รอยแผล ริมฝีปากสั่นคล้ายดูลังเลที่จะพูดต่อเรื่องที่นางเกลียดเขาขยะแขยงเขานั้น ซีจงจวินกำลังพยายามทำใจเพราะรู้ว่าไม่มีทางถูกรักได้..แต่อย่างน้อยขอให้นางไม่ทิ้งกันเท่านั้น ซีจงจวินคิดว่าน่าจะพอทำให้ยอมรับได้เร็วขึ้น"ข้าขอร้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 35 三十五

    หญิงสาวนั่งมองต้นไม้ไร้ใบในสารทฤดู ที่มุมเสาห่างออกไปสิบฉื่อมีเทพอสูรม่อยลับไม่รู้เรื่องเพราะมีลมเย็นพัดโกรกซีจงจวินเพลียจนไปทำงานไม่ไหว ทั้งวันเขาเอาแต่นอนอยู่ในห้องชมสวน ส่วนมี่ฮวา นางได้แต่นั่งทำใจให้สงบแม้จะมีภาพเหตุการณ์เมื่อคืนค้างอยู่ในหัวก็ตามนางไม่เข้าใจตัวเองว่าหมู่นี้เป็นอะไร..เมื่อคืนตอนจะถูกขืนใจ นางโกรธจริงแต่เมื่อเห็นเขาร่ำร้องขอความเมตตาสงสารหัวใจก็เกิดไร้กำลังต้านขึ้นมาเสียอย่างนั้นกระทั่งตอนนี้นางก็ยังนั่งมองเขาอยู่ได้ตั้งนานสองนาน ทั้งที่เมื่อก่อนไม่คิดอยากจะชายหางตาไปทางเขาสักนิดหัวใจ...เป็นอะไรไปมันเริ่มอ่อนแอ พ่ายแพ้ให้บุรุษอัปลักษณ์เสียแล้วหรือ...มี่ฮวาไม่อยากจะยอมรับจึงต้องพาตัวเองออกจากห้องชมสวน ขณะเดินผ่านห้องนอนซีจงจวินเห็นประตูแง้มอยู่ก็นึกขึ้นได้หญิงสาวชะโงกหน้าไปเห็นโถกำยานเมื่อคืนที่ถูกโยนออกนอกหน้าต่างยังนอนอยู่บนพื้นหญ้าด้านนอก จึงเรียกเด็กรับใช้ให้เอามันออกไปทิ้งไกลๆเสียนึกแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา ไม่ได้โกรธเทพอสูรแต่เป็นเพื่อนตัวดีที่แกล้งกันได้ กลับไปแดนอุดรอีกเมื่อใดจะไปโวยให้ถึงห้องนอนเจียวถงเลยมองไปรอบห้องภาพต่างๆเมื่อคืนผุดขึ้นอีกครั้ง หาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 36 三十六

    ซีจงจวินยกอาหารเช้าขึ้นโต๊ะก่อนออกไปทำงาน เขาสังเกตว่าเดี๋ยวนี้มี่ฮวาตื่นเช้าขึ้น บางครั้งหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เห็นว่านางมานั่งรอแล้วและนางยอมกินข้าวร่วมโต๊ะกับเขาด้วย..."ตักเต้าหู้ให้ข้า" นางสั่งเขาก็ทำตาม นี่เป็นอีกเรื่องแปลกที่ซีจงจวินสังเกตมาสักพักรู้สึกเหมือนนางไม่ค่อยเกลียดเขาแล้ว..."มองอะไรหรือ" มี่ฮวาเห็นซีจงจวินนั่งมองตาค้างก็ขมวดคิ้วสงสัย"หมู่นี้ท่านนอนหลับสบายดีใช่หรือไม่""ข้าหลับสบายดี"ทุกอย่างปกติ มีเพียงความรู้สึกในใจเท่านั้นที่เปลี่ยนไปมี่ฮวารู้ตัวเช่นกันว่าตัวเองเริ่มมองซีจงจวินไม่เหมือนเดิม คงเพราะความใกล้ชิดทำให้ไว้ใจ และเพราะที่นี่ไม่มีใครดูแลนางได้นอกจากเขา"กินให้มันเยอะๆหน่อย"นางสั่งอีกตอนเห็นซีจงจวินวางถ้วยข้าวลง เขาคงติดนิสัยกินน้อยเสียจนเคย"ข้าไม่แย่งท่านกินหรอก ท่านกินให้อิ่มเถอะ""ข้าใกล้อิ่มแล้ว เหลือกับข้าวมากแบบนี้ทุกวันมันน่าเสียดาย เจ้ากินให้หมดๆเสีย"ได้ยินเช่นนั้นซีจงจวินก็ไม่ขัด ที่จริงกระเพาะเขายังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะ แต่แค่กลัวจะไปแย่งภรรยากินเลยพยายามกินให้น้อยเป็นวันแรกที่ซวนเฟยกับชิงเหลียงไม่ต้องลำบากจัดการของเหลือบนโต๊ะให้แน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 37 三十七

    วันเทศกาล มี่ฮวาแต่งตัวรอตั้งแต่ยังไม่เย็น ใช้เวลานานมากกว่าเด็กรับใช้ทั้งสองจะสวมอาภรณ์หนาหลายชั้นให้เสร็จนางนั่งบรรจงแต้มสีตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยบนใบหน้าไปเรื่อยๆ รู้สึกเพลินยิ่งนัก แต่งไปก็หยุดยิ้มไม่ได้นางตื่นเต้นจริงๆน่ะแหละ..."นายหญิงงดงามมากขอรับ"ซวนเฟยกับชิงเหลียงยืนมองตาเป็นประกาย เดินวนรอบนายหญิงของพวกมัน"พวกเจ้าปากหวานจริง หวังสิ่งใดจากข้าหรือไม่""พวกข้าน้อยพูดความจริงขอรับ นายหญิงงามดั่งเซียนสวรรค์เลย""ก็ข้าเป็นเซียนจริงๆนี่นา" นางว่าอย่างอารมณ์ดี เอามือลูบหัวพวกมันทั้งสอง"อยู่เฝ้าบ้านให้ดี แล้วข้าจะซื้อขนมมาฝาก""นายหญิงใจดีที่สุดเลยขอรับ"ซวนเฟยกับชิงเหลียงวิ่งมาเกาะขาเอาใบหน้าถูไถ นับวันนางยิ่งทำตัวเหมือนพี่เลี้ยงเด็กมากขึ้นทุกที"มี่ฮวา ข้าพร้อมแล้ว"ฟ้ามืด ซีจงจวินมายืนเรียกหญิงสาวที่หน้าห้องและเมื่อคนด้านในเลื่อนบานประตูเปิดก็ถึงกับต้องมองตาค้างซีจงจวินใช้วิชาจำแลงกายให้กลายร่างเป็นมนุษย์ ดูไปแล้วช่างแตกต่างจากร่างปกติราวกับไม่ใช่ตัวเขาเองคนตรงหน้าคือชายหนุ่มร่างใหญ่ สูงกว่าบุรุษทั่วไปไม่มาก อยู่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มเรียบๆ กายเนื้อสีดำแดงดั่งแม่ทัพผู้ชำนาญศึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25

บทล่าสุด

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 62 六十二

    สามวันผ่านไปจากนั้น อวี้เวินฉิงต้องข้อหาหลายคดี ทั้งละทิ้งหน้าที่ บุกรุกจวนแม่ทัพยามวิกาล ทำร้ายร่างกาย และขโมยของคดีสุดท้ายนั้นแม่ทัพจงตั้งใจป้ายสีเอง ด้วยอยากให้อวี้เวินฉิงถูกจับโยนเข้าตาราง ขังลืมไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันในห้องขังมืดสนิทมีเพียงช่องลมติดลูกกรงหนาเท่านั้นเป็นที่ให้แสง อวี้เวินฉิงอยู่ในชุดนักโทษมอซอหมดสง่าราศี ข้อมือและข้อเท้าติดโซ่ตรวนเหล็กห้อยยาวในสถานที่แห่งนี้ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงความทุกข์ทรมานกับเสียงสายโซ่กระทบพื้นลากไปมานานๆทีหูจะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักแน่นของคนภายนอกสักครั้ง และครั้งนี้อวี้เวินฉิงรู้ว่าใครมาทั้งที่ไม่ต้องเงยหน้ามอง"อยู่นิ่งๆก็เป็นรึ มือปราบอวี้"คนที่จะเอ่ยวาจาเช่นนี้กับเขาได้มีเพียงคนที่จับเขาโยนเข้ามาในคุกเท่านั้นอวี้เวินฉิงไม่ตอบ เพียงเลื่อนสายตามามองแม่ทัพยืนเหยียดยิ้มอยู่นอกประตูลูกกรง"ข้าเคยเตือนแล้ว เป็นเจ้าที่รนหาที่ เลือกมาจบชีวิตตรงนี้เอง""..."ไร้การตอบสนองจากคนในคุก อวี้เวินฉิงยังนั่งมองกำแพงว่างเปล่าด้วยตาไร้แววอยู่เช่นเดิมถูกโยนเข้าคุกไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจที่ยังเป็นแผลก่อนหน้านี้นี่สิ..."ข้าจำได้ว่าก่อนจับเจ้าเข้าคุกไม่ได

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 61 六十一

    หลังจากคืนนั้นจงซีจ้านไม่เรียกมี่ฮวาเข้าห้องนอนอีก จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วค่ำคืนอันเดียวดายทำร้ายหัวใจเสียยิ่งกว่าตอนถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดร้าย มี่ฮวานอนกอดตัวขดกลมอยู่บนเตียง หวนนึกถึงสัมผัสอบอุ่นของซีจงจวินคืนแล้วคืนเล่าเทศกาลหยวนเซียวผ่านมาอีกครั้ง ด้านนอกไกลๆมีเสียงความคึกครื้นลอยมาเรื่อยๆคิดถึงปีนั้นที่ซีจงจวินพามาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์ครั้งแรก.. คิดถึงยามเขาพูดคุยสบตา ยามได้เดินจับมือ..คิดถึง...หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้ไม่รู้สึกตัวเลยว่าตั้งแต่มาอยู่โลกมนุษย์นี้นางเสียน้ำตาไปแล้วกี่ครั้งก๊อก.. ก๊อก..เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าต่างไม้ หยุดน้ำตาไว้"ใคร"นางถามด้วยความประหลาดใจ คิดว่าไม่ใช่คนใช้ในเรือนแน่"ข้าเองมี่ฮวา"เสียงคุ้นหูนั้นอีกแล้ว เจ้าของชื่อจำได้แม่นยำ คนมาเรียกคืออวี้เวินฉิงไม่ผิดแน่บานหน้าต่างเปิดออก เทพแห่งแสงในคราบมือปราบหนุ่มใส่ชุดคลุมสีดำมิดชิด ปกปิดใบหน้าจนเหลือแค่ลูกตาเท่านั้น"ท่านมีธุระอะไรเจ้าคะ""ข้ามาพาเจ้าไป"ไป.. ไปไหนกัน?"ไม่ไปเจ้าค่ะ" ไม่รอให้อีกฝ่ายไขข้อข้องใจก็ปฏิเสธเสียแล้วมี่ฮวาไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอีก บทเรียนจากคราว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 60 六十

    บนเตียงหลังใหญ่ในห้องที่แสงไฟสลัว ร่างหนึ่งกำลังละเลงลิ้นอย่างเมามันบนผิวเนื้อนุ่มของคนข้างใต้จนนางต้องครางดังเพราะแรงเสียวหนักหน่วงที่เขามอบให้"ท่าน.. ท่านแม่ทัพ อย่าเจ้าค่ะ!"หญิงสาวพยายามปรามไม่ให้คนด้านบนใช้ฟันคมกัดดึงตุ่มเนื้อยอดถันราวกับหมาป่าจะฉีกกระชากเหยื่อ จนตอนนี้ผิวส่วนนั้นกลายเป็นสีอมม่วงไปแล้วแต่จงซีจ้านที่กำหนัดพลุ่งพล่านอยู่มีหรือจะยอมฟัง ยิ่งเขากำลังฉุนเฉียวไม่หายจากเรื่องเมื่อกลางวันด้วยแล้ว ยิ่งพาลให้อยากลงไม้ลงมือกับมี่ฮวาหนักขึ้น"อ๊ะ!!!"เสียงร้องดังลั่นเพราะโดนกัดเข้าที่หัวไหล่อย่างแรง เขายังทิ้งรอยฟันกับรอยเลือดไว้ให้ปรากฏเด่นชัดร่างบางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางไม่รู้ว่าต่อไปจงซีจ้านจะทำอะไรกับเรือนกายนี้เพราะดวงตาคู่งามถูกคาดปิดไว้ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เขายังผูกข้อมือเล็กไว้กับเสาเตียง จับขาให้อ้าออกกว้างจนแทบฉีก กดกายโถมทับอย่างไม่กลัวว่านางจะหายใจไม่ออก"ท่านแม่ทัพเจ้าคะ..เบามือสักนิด..""เจ้าเป็นใครถึงมีสิทธิ์สั่งข้า!!"ว่าจะเอ่ยขอร้อง แต่ไม่ทันจบประโยคดีก็ถูกตวาดกลับเสียลั่นห้องมี่ฮวาต้องเก็บทุกคำพูดต่อจากนั้นลงคอไป น้ำตาไหลหยดหนึ่งซึ่งเขาไม่เห็นและถึงเห็นก

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 59 五十九

    ฤดูกาลหมุนเวียน แมกไม้ผลิดอกออกผลจนร่วงหล่นปลิวไป จากร้อนอบอ้าวเป็นเหน็บหนาวด้วยหิมะขาวโพลนคลุมแผ่นดินหลายเดือนเข้าไปแล้วที่มี่ฮวามาเป็นคนใช้ในจวน...แค่ตอนกลางวันเท่านั้น ส่วนกลางคืนนางจะกลายร่างเป็นนางคณิกาชั้นดี เป็นของเล่นให้เขาได้คลายเหงายาขมถูกส่งเข้าปากถ้วยแล้วถ้วยเล่า จนหญิงสาวไม่รู้เลยว่าตอนนี้มดลูกตัวเองจะยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ความเห็นใจเป็นเหมือนความหวังลมๆแล้งๆ ซึ่งไม่มีทางได้รับจากผู้เป็นสามีเพราะเขาไม่มีความรักหลงเหลือให้นางหัวใจที่ทุกข์ระทมจำต้องทนรับความขมขื่นจากการกระทำอันโหดร้ายมี่ฮวาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองขณะนั่งส่องกระจกในห้องนอน ..ว่านางจะทนได้อีกนานเท่าไหร่กันภาพสะท้อนจากกระจกคือเรือนร่างซึ่งเมื่อก่อนเคยดูสมบูรณ์งดงาม แต่บัดนี้ดูทรุดโทรมแทบไม่มีส่วนใดน่ามองนางนึกถึงครั้งที่ซีจงจวินเคยอยู่ในสภาพเช่นนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นนางเองก็ไม่สนใจเขาเหมือนกันท่านเอาคืนข้าได้สาสมจริงๆ...มี่ฮวาใส่เสื้อผ้าคนใช้เดินออกจากห้องเหมือนเช่นทุกเช้า"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ" นางทักทายยามเดินผ่านพวกลุงคนใช้ ทุกคนโบกมือกลับอย่างใจดี แววตาโอบอ้อมอารีนั้นฉายความสงสารจับใจมี่ฮว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 58 五十八

    "นางเป็นหมันเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ"แม่บ่านไห่นำคำของสาวใช้คนใหม่มารายงานท่านแม่ทัพตามหน้าที่ปัง!!เพียงได้ยินเท่านั้นมือใหญ่ที่ถือตำราอยู่ต้องกระแทกปิดมันกับโต๊ะอย่างแรง ระบายอารมณ์ขุ่นมัวทางสายตาใส่แม่บ้านชรา"คำลวงของสตรีมากเล่ห์ ข้าจำเป็นต้องเชื่อรึ!!"เขาขึ้นเสียง แม่บ้านไห่ก็ถึงกับยืนขาสั่นงันงก หลังที่งองุ้มนั้นต้องก้มลงหมอบกับพื้น"มะ.. ไม่เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ""ไปพาตัวนางมา แล้วก็ไปต้มยานั่นมาใหม่ด้วย!!"คนหลังโต๊ะหนังสือชี้หน้าสั่งแม่บ้านชรา นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่แรงคนแก่จะทำได้ ไม่นานยาขมหม้อใหญ่ก็ถูกยกมาตั้งมี่ฮวาถูกพาตัวมาตรงกลางสวนร้างที่ตรงนั้นมีคนรับใช้ชายทั้งหมดรวมถึงแม่บ้านไห่อยู่ด้วย ทุกคนได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนนายใหญ่ของบ้านรู้เพียงว่าชะตาสาวใช้คนใหม่กำลังจะขาดเท่านั้นพอ..หญิงสาวนั่งคุกเข่ามองหม้อที่ส่งกลิ่นฉุนบนโต๊ะหิน เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเกาะเต็มหน้าผาก"กิน"คำสั่งเด็ดขาดของแม่ทัพดังพอจะทำให้นางสะดุ้งโหยง มี่ฮวาต้องรีบเข้าไปหมอบตรงพื้นแทบเท้าเขา"ท่านแม่ทัพได้โปรดเมตตาข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าท้องไม่ได้แล้วจริงๆเจ้าค่ะ""ข้าไม่เชื่อ"น้ำแกงสีคล้ำ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 57 五十七

    เช้าวันต่อมา มี่ฮวาตื่นแต่เช้าทั้งที่ร่างกายยังไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่นางมีงานต้องทำไม่อาจละเลยได้ในยามที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น หญิงสาวลุกจากเตียงหันมองคนหลับ ใบหน้าของเขายามนี้เรียกได้ว่าดูหล่อเหลาคมคร้ามดั่งเทพสงครามบนสวรรค์แต่หากลืมตาขึ้นมาเมื่อใด.. คงดูไม่ต่างจากยักษ์อำมหิตตนหนึ่ง ไร้ซึ่งเมตตาการุณย์"ข้าคิดถึงท่านนัก"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา ลอยหายไปกับสายลมซึ่งพัดเข้ามาทางหน้าต่าง หลังจากสวมใส่อาภรณ์เรียบร้อยดีแล้วจึงกลับเรือนนอนของตัวเองไป...ตลาดเช้าที่นี่ดูคึกคักไม่ต่างจากที่แดนเทพ เป็นแหล่งรวมแม่บ้านซึ่งออกมาจ่ายตลาดและพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระมี่ฮวาเดินตามแม่บ้านไห่ซื้อวัตถุดิบ โดยตลอดทางจะมีสายตาแปลกๆของทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าแถวนั้นจ้องมาตลอดนางทำเป็นไม่รับรู้ ยื่นเงินจ่ายให้แม่ค้าผลไม้ ส่วนแม่บ้านไห่ก็ยืนเลือกปลาอยู่ร้านข้างๆ"แม่นางมาจากจวนท่านแม่ทัพใช่หรือไม่" พ่อค้าร้านผักที่อยู่ไม่ไกลตะโกนถาม"ใช่เจ้าค่ะ"พอหญิงสาวตอบออกไปเช่นนั้น ผู้คนรอบข้างต่างก็ยืนอึ้ง บ้างเอามือป้องปากกระซิบกระซาบ"เหตุใดแม่ทัพปีศาจผู้นั้นถึงรับสาวใช้อย่างเจ้าเข้ามากัน""เจ้างามเ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 56 五十六

    ในกระโจมมืดที่มีแสงไฟสลัวจากตะเกียงอันเดียวสะท้อนเงาของชายหญิงคู่หนึ่งขย่มร่างบนเตียงไม้จนมันเลื่อนดังเอี๊ยดอ๊าด"อะ.. ทะ ท่านแม่ทัพ..."เสียงครางกระเส่าแว่วหวานจากริมฝีปากอิ่มแดง เคล้าไปกับเสียงเนื้อกระทบกันรัวเร็วดูเร่าร้อน สะโพกสอบของคนด้านบนขยับบดเบียดเข้าออกถี่ๆเร่งให้คนข้างใต้ขยับรับตามแทบไม่ทันทุกการกระทำเป็นไปอย่างหยาบโลน มือใหญ่เที่ยวเคล้นคลึง ขยำขยี้เนินอกนุ่มเต็มไม้เต็มมือไม่มีถนอมไม่มีผ่อนแรงปากเขาประทับตราตีความเป็นเจ้าของทั่วตัวนาง เน้นหนักตรงยอดถันประดับตุ่มไตชูชัน กัดกระชากไปมาเบาๆอย่างเมามัน ก่อนดูดดุนแรงๆราวจะคั้นเอาเลือดนางออกมาแท่งหินใหญ่ยักษ์ร้อนดั่งถูกเอาไปอังไฟก่อนเสียบเข้ามานั้นสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัส ขณะแทงโดนจุดที่ทำให้ข้างในเสียวจุกจนเกินจะระงับเสียง"อ๊าา!!"หญิงสาวถึงฝั่งรอบที่สามแล้ว แต่คนด้านบนยังขยับต่ออย่างเอาแต่ใจ ไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้นเสียงครางต่ำของเขากับเสียงหวานใสของนางช่างเข้ากันได้ดี เช่นเดียวกับร่างกายที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวทว่าหัวใจ..กลับไม่เป็นเช่นนั้น"อาา..."ในที่สุด น้ำคาวขาวขุ่นก็ถูกฉีดอัดเข้าไปในช่องสวาทเต็มเหนี่ยว ล้นทะลักออกมาเป

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 55 五十五

    ราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นแค่ห้วงฝันเพียงหนึ่งชั่วยาม ตอนนี้ในกระโจมวุ่นวายไปหมด มี่ฮวาวิ่งรักษาทหารอย่างไม่หยุดพัก พยายามทำแผลให้เร็วที่สุด เมื่อเสร็จจากคนในนี้แล้วจึงจะรีบไปหาเขาหวังว่าคราวนี้ จงซีจ้านจะยอมให้นางรักษาจริงๆสักที..''ท่านหมอ คือว่า..''เมื่อมาถึงกระโจมก็พบเข้ากับฮวนเกอซึ่งยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า เขาดูลำบากใจนิดหน่อยที่จะเอ่ยบอกนาง''ท่านแม่ทัพไม่ให้ข้าเข้าไปอีกแล้วหรือ'' นางถาม ชายหนุ่มก็พยักหน้าตอบอย่างจริงจัง''หากไม่ใช่หมอชาย ท่านแม่ทัพไม่มีทางให้จับเนื้อต้องตัวเด็ดขาดเลย ท่านหมอทิ้งยากับผ้าพันแผลไว้ตรงนี้แล้ว.. อะ อ้าว! ท่านหมอ!!''ท้ายประโยคฮวนเกอเสียงหลงทันทีเพราะหมอสาวนางนี้ไม่สนใจคำเขา แหวกผ้าคลุมกระโจมเดินฉับๆเข้าไปด้านในอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใด''ใครให้เจ้าเข้ามา!!"ตามคาด เมื่อเห็นหน้านางโผล่มาเขาจะต้องตะคอกใส่เสียงกร้าวทันที''ไม่มีเจ้าค่ะ แต่ข้าต้องทำหน้าที่หมอ รักษาท่านให้ดีที่สุด''''ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสตรี! หน้าที่เดียวของเจ้าคือไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!!''''ข้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้เจ้าค่ะ ขออภัยที่ต้องล่วงเกิน''ว่าแล้วมี่ฮวาก็เข้าไปทรุดกายนั่งลงข้า

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 54 五十四

    วันเวลาในค่ายทหารยังคงดำเนินต่อไป...อย่างไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่นัก''ท่านหมอ! ท่านหมอ! ข้าโดนน้ำร้อนลวกตอนต้มโจ๊กเมื่อเช้า ทำแผลให้ข้าที''''ท่านหมอรักษาแผลมีดบาดให้ข้าอยู่ไม่เห็นหรือ เจ้ารอไปก่อน''''แต่แผลข้าใหญ่กว่าเจ้า''''แต่ข้ามาก่อน''''พวกท่านทั้งสองอย่าทะเลาะกันเลยเจ้าค่ะ ข้ารักษาให้ทุกคนอยู่แล้ว''เป็นเสียงของหมอสาวเอ่ยห้ามทัพ ทหารทั้งสองนายจึงหยุดศึกชิงความสนใจจากหมอตามที่นางบอกนี่ก็ผ่านมาครึ่งเดือนได้แล้ว กำลังเสริมจากเมืองหลวงยังมาไม่ถึงก็จริง แต่ยามที่ศึกสงบเช่นนี้ พวกหน้าที่ใหญ่ๆที่จำเป็นต้องมีหมอไม่มีอีกแล้วช่างน่าแปลกที่หมู่นี้เหล่าทหารในค่ายต่างก็ชอบมีแผลมาให้นางช่วยรักษาทุกวี่วัน ไม่ว่าจะโดนน้ำร้อนลวก มีดบาด รอยฟกช้ำจากการซ้อมอาวุธ ข้อเท้าแพลงตอนวิ่ง ยันแผลแมลงเล็กๆกัดต่อยที่ทิ้งไว้ไม่นานก็หาย พวกเขาก็ยังวิ่งมาหาหมอกันจะมีก็แต่เขาคนนั้นที่มาหานางโดยไม่มีจุดประสงค์อื่นนอกจากไล่ให้ไปไกลๆ..''ยังอยู่อีกรึ''น้ำเสียงราบเรียบที่แดกดันกันชัดเจนดังมาจากหน้ากระโจม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใครที่พึ่งเข้ามา''ก็ค่ายทหารขาดหมอไม่ได้นี่เจ้าคะท่านแม่ทัพ'' มี่ฮวาหันมายิ้มตอบอย่างส

DMCA.com Protection Status