แชร์

บทที่ 27 二十七

ผู้เขียน: PinkyPaw
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-21 11:59:18

บ่ายคล้อย ทุกคนกลับถึงเรือนของซีจงจวิน ชิงเลียงออกมาต้อนรับอย่างดีใจแต่มี่ฮวาไม่ได้สนใจมากนัก เพียงหันมองเทพอสูรแวบหนึ่ง

เขา..ตอนนี้ยังไม่กล้าสบตานาง แต่ก็ยังคอยเดินตามไม่ห่าง

คนรับใช้จากวังขนหีบนับสิบใบลงมา นำเข้าไปวางไว้ให้ในบ้าน จากนั้นก็เป็นหน้าที่ซีจงจวินที่เป็นคนจัดของกลับเข้าที่

ตั้งแต่เข้ามา ต่างคนต่างไม่พูดอะไร ซีจงจวินเพียงทำนู่นทำนี่ในบ้านไปเงียบๆ ส่วนมี่ฮวาก็เข้าไปนั่งพักผ่อน ครู่หนึ่งเขานำขนมกับน้ำชามาวางให้เผื่อนางหิว

หญิงสาวชำเลืองมองเล็กน้อย เห็นเขานั่งเฝ้าตรงมุมห้องก็เกิดสงสัยขึ้นมา

"วันนี้ไม่ทำงานหรือ"

ได้ยินคำถาม ซีจงจวินเงยมองแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่อยากรีบพูดเกินยี่สิบคำ

"ทำไมถึงไม่ไปทำงาน"

"ข้าไม่อยากไป" เขาเอ่ยเสียงเบากว่าลมพัด

ไม่อยากไปเพราะกลัวว่าถ้าคลาดสายตา นางจะหนีอีก

อยากเฝ้าอยู่เช่นนี้ทั้งวัน อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเขาจะไม่ถูกทิ้ง

มี่ฮวาเลิกคิ้ว เดี๋ยวนี้ซีจงจวินชักจะเอาแต่ใจเกินไปหรือไม่ คิดจะหยุดก็หยุดเลยเช่นนี้จะไม่มีผลกระทบอะไรหรือ

แต่ก็ดีเหมือนกัน นางจะได้เริ่มทำตามแผนที่พี่สาวแนะนำมา..

"ตามใจเจ้า อยู่บ้านบ้างก็ดีวันนี้จะได้กินข้าวกันเร็วหน่อย"

"หิวมากหรือ"

ซีจงจวินสังเกตว่าขนมกับน้ำชาที่พึ่งยกมาให้เริ่มพร่องลงไป หากนางบอกว่าหิวมากเขาก็จะเข้าครัวทำอาหาร

มี่ฮวาเดาออกว่าซีจงจวินคิดจะทำอะไรต่อ จึงวางขนมแล้วมองหน้าคุยกับเขา

"ข้ายังไม่หิวมาก เพียงคิดว่าเย็นนี้อยากกินอาหารเร็วขึ้นหน่อย เป็นการฉลองที่กลับมาอยู่ที่นี่"

ว่าแล้วทำเป็นมองออกไปที่สวนด้านนอก เห็นว่าท้องฟ้าใสลมโกรกเย็นสบาย "ท้องฟ้าคืนนี้น่าจะปรอดโปร่ง ข้าอยากร่ำสุราชมจันทร์ในห้องนี้ เจ้าว่าอย่างไร"

ซีจงจวินถูกถามก็แปลกใจเล็กน้อย เหตุใดวันนี้ภรรยาเขาถึงอารมณ์ดีนัก

แต่เมื่อมองตานางแล้ว ความดีใจผุดขึ้น บดบังความสงสัยจนมิด ซีจงจวินระบายยิ้มเอ่ยเสียงนุ่ม

"ท่านอยากดื่มกี่ไห ข้าจะไปเอามาให้"

"เช่นนั้นยกมาสักห้าไหเป็นอย่างไร"

"ห้าไห!?" คล้ายหูฝาด ซีจงจวินไม่รู้มาก่อนว่ามี่ฮวาคอแข็งขนาดนั้น

"ใช่ หรือเจ้ามีปัญหา" นางถาม แน่นอนว่าซีจงจวินส่ายหน้า ใครจะกล้าขัดใจภรรยารักที่พึ่งคืนดีกันได้เล่า

คนถูกตามใจกระตุกยิ้ม แววตานางมีความหมายบางอย่างที่ซีจงจวินไม่ค่อยเข้าใจนักซ่อนอยู่

เย็นนั้นเมื่อพระอาทิตย์เริ่มทอแสงสีอ่อนจนกระทั่งเคลื่อนตัวลงหลบหลังหุบเขา อาหารมากมายก็ถูกนำมาตั้งตรงหน้า

ซีจงจวินยกจานที่สิบขึ้นโต๊ะ ด้านซ้ายมีเจ้าชิงเลียงรินน้ำชา ด้านขวามีเจ้าซวนเฟยตักข้าวให้

เสร็จแล้วเทพอสูรย้ายตัวเองไปนั่งที่ประจำตรงมุมห้อง เห็นมี่ฮวากินมากขึ้นก็พลอยเจริญอาหารไปด้วย

ระหว่างที่กำลังตักข้าวเข้าปาก สายตาไปสบเข้ากับลูกแก้วหยกกลมบนดวงหน้าหวานเข้า ทำเอาเคลิ้มไปชั่วครู่

"นี่"

เสียงเรียกทำเอาคนมองสะดุ้งเล็กน้อย สติกลับคืนมาและเขารีบหันหน้าไปทางอื่นด้วยความเคยชิน

แต่นางไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่อง กลับส่งยิ้มบางมาให้แทน "วันนี้เรามากินข้าวร่วมโต๊ะกันสักครั้งดีหรือไม่"

หูซีจงจวินกระดิกเบาๆ รีบหันขวับมองหญิงสาวตรงนั้นดวงตาเต็มไปด้วยประกายระยิบระยับ

นางเริ่มเปิดใจให้แล้วใช่หรือไม่...

ไม่รอช้า เทพอสูรเขยิบมานั่งฝั่งตรงข้ามทันที ดีใจจนหุบยิ้มไม่ได้เสียแล้ว

"แกะปูให้ข้า"

ได้ยินเสียงหวานสั่ง ซีจงจวินคิดว่าเป็นการอ้อนจึงไม่ลังเลที่จะทำให้เลยสักนิด มือสองข้างตั้งใจแกะปู กุ้ง เลาะก้างปลาออก ใส่จานจนกองพะเนินเพราะกลัวนางไม่อิ่ม มี่ฮวาก็ตักกินไปไม่ว่าอะไร

เมื่ออิ่มหนำแล้ว สำรับถูกยกออกไป แทนที่ด้วยสุราสวรรค์ห้าไหและจานกับแกล้ม บ่าวรับใช้ทั้งสองถูกไล่ให้ไปพักผ่อน เหลือเพียงคู่สามีภรรยานั่งชมจันทร์กันในห้อง

ซีจงจวินรินสุราลงจอกให้ภรรยาก่อน ค่อยยื่นส่งให้

"เจ้าไม่คิดจะดื่มเป็นเพื่อนข้าหน่อยหรือ"

ซีจงจวินได้ยินคำถามก็รีบส่ายหน้า ไม่ตอบรับคำชวน

เขารู้ว่าตัวเองคออ่อนขนาดไหน อีกทั้งน้ำเมานี้ทำให้ขาดสติยั้งคิด หากเผลอทำตัวเสียมารยาทจะโดนนางโกรธเอา

แต่มี่ฮวาไม่คิดเช่นนั้น มุมปากขยับยกทั้งที่ดวงตาไม่ยิ้มตาม

"เจ้าให้ข้าดื่มคนเดียวเช่นนี้ หรือมีแผนสกปรกอยู่ในใจ"

นางแสร้งทำเป็นกล่าวน้ำเสียงเรียบ รู้ว่าซีจงจวินจะต้องปฏิเสธคำกล่าวหานั้นด้วยการส่ายหน้าอีกเช่นเคย

"หากเจ้าบริสุทธิ์ใจจริงก็ร่ำสุราเป็นเพื่อนข้าสิ แล้วข้าจะเชื่อ" มี่ฮวาเอ่ยพร้อมกับรินน้ำจากไหลงจอกส่งให้

ซีจงจวินตกหลุมพรางอย่างง่ายดาย กระดกดื่มรวดเดียว เมื่อวางจอกลงมี่ฮวาก็รินเพิ่มให้อีก

นางจะมอมเหล้าซีจงจวิน...

แผนการนี้ถูกคิดขึ้นโดยเหล่าพี่สาวนางเมื่อคืนตอนที่พวกนางเข้ามาคุย...

มี่ฮวาระบายกับพวกพี่ๆ อย่างไม่ปิดบัง นางบอกว่าไม่ไว้ใจซีจงจวิน ไม่รู้ว่าที่ยอมนางขนาดนี้เพราะวางแผนอะไรไว้หรือไม่

พวกพี่สาวจึงเสนอให้มอมเหล้าเขาเสีย เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้สติเลือนหาย สันดานเดิมจะถูกเผยออกมาให้เห็นอย่างง่ายดาย พร้อมกับความในใจทั้งหมด

คืนนี้มี่ฮวาจึงทำตามแผน..

เมื่อซีจงจวินเมา นางจะทำให้เขาเผยธาตุแท้ออกมาจนหมดเปลือกและหากเขาคิดจะทำอะไรรุ่มร่าม นางจะชักมีดสั้นที่ซ่อนไว้ในอกเสื้อออกมาป้องกันตัวทันที

ตอนนี้..เมรัยจอกที่สองไหลลงคอซีจงจวินไปเรียบร้อย

เขานั่งนิ่งไป สังเกตได้ว่าสองข้างแก้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มขึ้นนิดหน่อย

"สุรานี้รสชาติดีนัก เจ้าว่าเช่นนั้นไหม"

มี่ฮวาทำเป็นพูด ขณะรินจอกที่สามเพิ่ม ซีจงจวินพยายามประคองสติยกจอกขึ้นมากระดกอีก

"อ่า..." อยู่ดีๆก็พยักหน้าตอบ ส่งเสียงในลำคอแล้วยิ้มออกมา

"รู้สึกอย่างไรบ้าง"

มี่ฮวาถามเพราะเห็นว่าซีจงจวินเริ่มทำตาปรือ ศีรษะโยกคลอน พักหนึ่งกว่าจะยอมเปิดปากพูดออกมา

"..ดี..."

คนได้รับคำตอบกะพริบตาสองสามครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าเพียงสามจอกก็เมาเสียแล้ว

คออ่อนขนาดนี้เชียวหรือ...

ขนาดนางเป็นเซียนสตรี ยังดื่มได้มากสุดตั้งสองไหเลย

"นี่เจ้าเริ่มเมาแล้วหรือ"

"..."

เขาไม่ตอบ แต่ท่าทางที่นั่งตัวตรงไม่ได้ ต้องโอนไปเอนมาน้อยๆนั่นก็พอจะชัดเจนแล้ว

กระนั้นมี่ฮวาก็ยังไม่ไว้ใจมากนัก จึงรินสุราส่งให้อีกแล้วเขาก็รับไปดื่มง่ายๆ ไม่ว่าอะไร

"เมา...."

จู่ๆก็ตอบออกมาเองเสียเฉยๆ เช่นนี้คงไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว

มี่ฮวายิ้มกริ่มเมื่อเห็นว่างานนี้ช่างง่ายดาย ไม่ต้องเปลืองตัวลงแรงอะไรมากเลย

"หากข้าถามอะไรเจ้า จากนี้จงตอบมาตามความจริง ตกลงไหม"

ราวพูดกับอากาศ ซีจงจวินเหมือนได้ยินแต่สมองมึนจนคิดคำตอบไม่ทัน ได้แต่รับสุราจอกที่ห้ามาดื่มต่อ

"เจ้าคิดอย่างไรกับข้า แต่งกับข้าเพราะอะไร"

ถามเสร็จก็ต้องอดทนรอ เริ่มรู้ว่าอีกฝ่ายต้องใช้เวลาประมวลผลนานขึ้นก่อนตอบ

"..."

แต่นี่นางรอมาเกือบหนึ่งก้านธูปแล้ว ซีจงจวินก็ยังนั่งเงียบอยู่ นางจึงขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆเอานิ้วจิ้มที่ต้นแขนขวาบนอยู่สองสามที

"นี่ ตอบข้าได้หรือยัง"

ได้ยินเสียงพูดอยู่ใกล้หู ซีจงจวินคว่ำหน้าลง กะพริบตาถี่ๆแล้วหันมองช้าๆ

พอสิ่งที่เห็นเป็นใบหน้าของมี่ฮวา เขาก็ยิ้มกว้างจนตาปิด

มือข้างหนึ่งหยิบเอาไหสุรายกขึ้นกรอกปากราวน้ำเปล่า นั่นทำให้คนนั่งข้างๆถึงกับตะลึงลุกขึ้นมาคว้าข้อมือห้ามไว้

"เจ้ายังไม่ตอบคำถามข้าเลยนะ" นางเริ่มขึ้นเสียง ความอดทนที่มีน้อยอยู่แล้วยิ่งลดลงไปอีก

"...รัก.."

รัก..?

มี่ฮวาได้ยินคำนั้นเสียงเบา ราวกับคนพูดกำลังละเมอท่าทางสะลึมสะลือ

"...มี่ฮวา...."

เขาเอ่ยชื่อนาง ต่อจากคำว่ารัก..

นั่นหมายความว่าเขาจะพูดว่ารักนางใช่หรือไม่

"....รักกกก...."

ซีจงจวินลากเสียงยาวขึ้น มี่ฮวายอมปล่อยมือจากข้อมือหนาที่จับอยู่เมื่อครู่

ไม่ทันคิดอะไรต่อ ไหสุราถูกยกขึ้นอีกรอบ คราวนี้มี่ฮวาไม่รอให้เขาดื่มมากไปกว่านี้เพราะเกรงว่าจะเมาจนหลับเสียก่อน เลยแย่งมาถือไว้เอง

ซีจงจวินอยู่ในอาการมึนงง เห็นไหสุราถูกแย่งไปก็เอื้อมคว้าจะเอากลับมา จังหวะที่โน้มตัวไปร่างยักษ์เกิดเสียสมดุลจึงทำให้ล้มทับมี่ฮวาโดยไม่ตั้งใจ

ตุบ!

หญิงสาวโดนความหนักของร่างใหญ่โถมทับจนต้องนอนแนบกายติดพื้น ซ้ำยังขยับไม่ได้แม้แต่นิ้วเดียวก็ยิ่งตกใจ

"เจ้า! ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!"

ไหสุราสีขาวใบนั้นกลิ้งไปบนพื้น แต่ไม่มีน้ำสีอ่อนใสไหลออกมาเพราะมันหมดแล้ว

มี่ฮวาหายใจหอบ เพราะตัวซีจงจวินหนักมากอยู่ และเขากดทับตัวนางไว้เช่นนี้มันยิ่งทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นไปอีก แม้กัดฟันพยายามดันตัวลุกขึ้นก็ไม่เป็นผล

ตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งที่ข้างใบหูหยุดทุกความคิดฟุ้งซ่านในหัว รวมถึงทำให้นางหยุดดิ้นด้วย

"มี่ฮวา...."

เจ้าของชื่อหันมองช้าๆ เห็นว่าใบหน้าของซีจงจวินอยู่ใกล้มากจนปลายจมูกชิดกัน

ดวงตาของเขายามนี้ ดูอ่อนหวานและอ่อนไหว

ทั้งที่เมื่อก่อนมันมักจะดูน่ากลัวเสมอ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดบัดนี้มันถึงได้น่ามองนัก

"รัก...."

"ข้ารู้แล้ว"

นางตอบรับเสียงแผ่วลง นั่นทำให้ใบหน้าสีแดงเข้มของคนเมาดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด

"ท่านรัก.....ไหม.." เขาถามตาปรือลง พูดเบาราวกระซิบ

"ไม่ ข้าเกลียดเจ้า เกลียดยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด"

มี่ฮวายังคงตอบตามความรู้สึกจริงๆที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยแม้แต่ชั่วขณะจิตเดียว

ซีจงจวินได้ยินชัดเจน สีหน้าเขายังดูเหมือนเดิม แต่ใบหูนิ่มที่มีขนอ่อนสั้นๆขึ้นเล็กน้อยคล้ายหูวัวกลับลู่ลง

อาการแบบนี้หมายความว่ากำลังเสียใจใช่หรือไม่...

...คงเพราะเขาไม่อยากได้ยินคำนั้นอีก

คนถูกทับถอนหายใจยาวเมื่อเห็นสายตาซึมๆที่ฉายออกมาชัดเจน

"เจ้าแต่งกับข้าเพราะรักแค่นั้นเองหรือ"

มี่ฮวาตัดสินใจถามต่อ อีกฝ่ายก็ยอมเปิดปากพูดตามต้องการ

"..รัก..."

แต่มันเป็นคำที่มี่ฮวาได้ยินมารอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ จนเริ่มรำคาญที่เขาพูดไม่รู้เรื่อง

"ข้าได้ยินแล้ว ตอบให้มันตรงคำถามบ้างได้หรือไม่ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าหวังสิ่งใดจากการแต่งงานกับข้า"

ซีจงจวินมองดวงหน้างามหวานหยด แม้ริมฝีปากอมยิ้มแต่แววตาเศร้าสร้อย

"....รัก.."

"นี่เจ้าพูดเป็นอยู่คำเดียวหรือ!?" คนรำคาญนึกอยากจะตีเขานัก "หยุดพูดคำว่ารัก แล้วตอบคำอื่นมาสักที"

นางพยายามสงบใจลง รู้ว่าการถูกคนเมายั่วโมโหทางที่ดีที่สุดคือต้องไม่โมโหตอบ แต่บางครั้งก็เหลืออดเหมือนกัน

"นอกจากความรัก เจ้าหวังอะไรอีก"

ซีจงจวินนิ่งไป เหมือนเขาพยายามครุ่นคิดพักหนึ่ง

เป็นพักใหญ่ๆ กว่าจะตอบออกมาได้

"ห้าม....จับ..."

มี่ฮวาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ สิ่งที่เขาพูดมันเหมือนไม่ใช่การตอบคำถามเลยสักนิด

"...ห้ามพูด....มอง....ด้วย..."

คำเหล่านั้นเหมือนเป็นการทวนเงื่อนไขที่มี่ฮวาเคยวางไว้

"ข้าจำได้ และตอนนี้เจ้าก็กำลังฝ่าฝืนทุกข้อเลย"

แม้ไม่ได้ตำหนิอะไร แต่ก็ไม่ค่อยชอบใจนักที่ยังเห็นซีจงจวินทำหน้าจ๋อยไม่เปลี่ยน

"....ทำไม..."

"ทำไมอะไรของเจ้า"

มี่ฮวาไม่เข้าใจ และเริ่มจะหงุดหงิดที่เขาพูดไม่รู้เรื่อง ปะติดปะต่ออะไรไม่ได้เช่นนี้

ซีจงจวินไม่ตอบ นานจนมี่ฮวาหมดความอดทนต้องยอมหยุดถามแล้วสั่งเขาอีกครั้ง

"ข้าไม่อยากรู้อะไรแล้ว เจ้าลุกขึ้นเถอะ ข้าจะหายใจไม่ออกตายแล้ว"

ได้ยินคำว่าตาย ซีจงจวินเหมือนจะพึ่งรู้สึกตัวว่าเขานอนทับมี่ฮวาอยู่ ร่างยักษ์เคลื่อนขยับออกช้าๆ มี่ฮวารีบยันกายคลานออกมาแต่มือข้างหนึ่งก็ยังถูกจับเอาไว้

"ปล่อยข้า"

ซีจงจวินได้ยินคำสั่งแต่ไม่ปล่อย เพียงเหม่อมองมือเล็กไล่ขึ้นไปถึงต้นแขนและใบหน้า

สายตาเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ มันสลับกลับไปกลับมา เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวเสียใจ เดาไม่ออกว่าข้างในรู้สึกเช่นไร

"...ทำไม...."

"เพราะข้าไม่อยากให้เจ้ามาโดนตัว ข้ารังเกียจ"

".....ทำไม.."

เทพอสูรพร่ำเพ้อถามกลับซ้ำๆอยู่คำเดียว เขาเป็นอะไรมากหรือไม่

สุดท้าย มี่ฮวายอมแพ้เพราะซีจงจวินกุมมือนางแน่น

ขอแค่ไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรมากกว่านี้ก็ยังพอทนไหว

"มี่ฮวา..."

"มีอะไร"

"มี่ฮวา...."

"ข้าอยู่นี่"

จะเรียกทำไมนักหนากัน ก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหนสักหน่อย

"อย่าทิ้ง....ข้า.."

คล้ายคำสั่ง แต่มันคือการวิงวอนเสียงแผ่วและคนพูดเริ่มน้ำตาปริ่มเล็กน้อย

ดวงตาสีทองหม่นคู่นั้นกำลังสั่นคลอนหัวใจอันแข็งกระด้าง กระนั้นคนมีมาดก็ยังเลือกที่จะตอบแบบไม่ให้คนฟังได้ใจนัก

"ข้า..ไม่รับปาก"

ซีจงจวินมองค้าง แม้จะตาปรือเหมือนง่วงมาก ก็ยังฝืนอยากจะมองอยู่เช่นนั้น

"มี่..ฮวา..."

"อะไรอีก"

"....รัก...."

ได้ยินแล้วมี่ฮวาได้แต่ระบายลมหายใจส่ายหน้า เหนื่อยจะซักต่อ 

"อืม ข้าเข้าใจแล้ว เจ้านอนเถิด"

พอบอกให้นอน ซีจงจวินก็พยักหน้ารับช้าๆ ก่อนฉุดแขนคนตัวเล็กกว่าให้ล้มลงทับร่างเขา

!!

นางเบิกตาโพลงทันที พยายามดันตัวชายหนุ่มออกแต่ไม่ทันเพราะมือทั้งหกข้างเข้าพันเกี่ยวกอดเอาไว้อย่างรวดเร็ว

"นี่เจ้า! ปล่อยข้านะ!!!"

มี่ฮวากัดฟัน พยายามล้วงมือหยิบเอามีดสั้นที่ซ่อนไว้ออกมา แต่เมื่อสบตากับซีจงจวินอีกหนมือเรียวก็ต้องหยุดชะงัก

ที่ข้างดวงตาของเขา.. ยังมีรอยแผลที่นางเอาแจกันฟาดลงไปอยู่เลย

เขาคงเจ็บอยู่เหมือนกัน เพราะผิวหนังส่วนนี้มันค่อนข้างบาง

ในที่สุดเปลือกตาสีแดงค่อยๆปิดลง ซีจงจวินกำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทรา โดยยังมีมี่ฮวาอยู่ในอ้อมกอด...

รัตติกาลผันเลยไปกี่ชั่วยามไม่อาจนับ มือยังกระหวัดรัดไว้ เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวไม่รู้สึกรังเกียจมัน

ทั้งที่เมื่อออกจะเกลียดกลัวความประหลาดพิสดารนี้แท้ๆ

เหตุใดตอนนี้...กลับรู้สึกอุ่นข้างใน ชอบมือใหญ่ที่มีมากถึงหกข้างนี่กัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 28 二十八

    รุ่งเช้า.. คนตัวเล็กได้พักผ่อนน้อยกว่าที่ควร เพราะซีจงจวินสะดุ้งตื่นเกือบทั้งคืนทุกครั้งที่ตื่นเขาจะลืมตาไม่ขึ้น แต่จะขยับตัวนิดหน่อย เมื่อได้กลิ่นมี่ฮวาอยู่ใกล้ๆก็ค่อยๆเคลิ้มหลับไปอีกพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นหญิงสาวนึกแล้วยังแปลกใจ นางไม่เคยยอมให้เขามาฉวยโอกาสแบบนี้แท้ๆ ทำไมครั้งนี้ถึงยอมง่ายไม่ว่าอะไรสักคำมี่ฮวามองใบหน้าของเทพอสูรด้วยสายตาที่ชาตินี้ทั้งชาติเขาคงไม่มีวันได้เห็น..เจ้าไม่เหนื่อยบ้างหรือ...นางถามในใจ นึกย้อนไปถึงสิ่งต่างๆที่ซีจงจวินทำ ความอดทนของเขานับว่ามีมากกว่าใครที่เคยเจอมาทั้งชีวิต"อืม..."ชายหนุ่มส่งเสียงในลำคอเบาๆ ขยับเปลือกตายุกยิกก่อนเลื่อนเปิดช้าๆและพบว่าใบหน้าของภรรยาอยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งชุ่น...ซีจงจวินกะพริบตาถี่ขึ้นเหมือนประสาทสัมผัสเริ่มกลับมาทำงาน มือทั้งหกข้างคลายออกหลวมๆให้คนข้างในเขยิบออกมาได้มี่ฮวาไม่ทันว่าอะไร ซีจงจวินลุกขึ้นบ้างแต่ด้วยความมึนงงทำให้ศีรษะส่ายโคลงเคลงไร้ความมั่นคงจนต้องพุ่งปักลงทิ่มพื้น แม้พยายามเอาแขนทั้งหกยันกายขึ้นก็ยังรู้สึกไม่มีแรง แผ่นหลังแทบจะขนานพื้น หางปล้องสีดำชูโค้งสูงท่าทางของซีจงจวินตอนนี้ดูเหมือนแมงป่องยักษ์..

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 29 二十九

    จากวันผ่านไปกลายเป็นเดือน ทั้งคู่ยังอยู่กันอย่าง..ไม่ค่อยปกติสุขเท่าไหร่นัก"ทำไมกลับช้านัก ข้าหิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย"มี่ฮวาแกล้งเดินตึงตังพูดขึ้นเสียงใส่ซีจงจวินเหมือนคนโมโหหิว ทั้งที่จริงๆเขาก็กลับเวลาประมาณนี้ทุกวัน"รอเดี๋ยวนะ" ฝ่ายเทพอสูรเห็นภรรยาทำหน้าเหมือนจะกินหัวเขาให้ได้ก็รีบตรงเข้าครัวเลย ไม่แม้แต่จะถอดเอาชุดเกราะออกผ่านไปเกือบสามก้านธูปซีจงจวินเร่งยกกับข้าวหกอย่างขึ้นโต๊ะ ล้วนมีแต่ของที่ทำง่ายใช้เวลาไม่นาน มี่ฮวานั่งคีบผักกับเต้าหู้กินสองสามคำ ขณะที่ตะเกียบกำลังจะจิ้มลงไปบนปลานึ่งสมุนไพรตรงกลางโต๊ะมือก็หยุดชะงักเสียก่อน"ข้าไม่อยากกินปลา" นางโยนตะเกียบ ทำหน้าบึ้งเหมือนเด็กเอาแต่ใจ"ท่านอยากกินอะไร" เห็นภรรยาไม่อยากกินซีจงจวินก็ไม่ขัด กลับถามเพื่อจะหามาทำให้ใหม่"เนื้อวัวย่าง"คนฟังได้ยินแล้วกะพริบตาปริบๆ ค่ำมืดเช่นนี้จะให้เขาไปล้มวัวจากที่ไหนมาให้กันหญิงสาวเห็นอาการของอีกฝ่ายที่ดูลำบากใจเล็กน้อยก็แสร้งทำเสียงหงอยเหมือนเด็กน้อยที่กำลังเศร้าเพราะไม่ได้ของที่ต้องการ"แต่เวลานี้คงหามาไม่ได้ใช่หรือไม่ เช่นนั้นไม่ข้าเอาก็ได้"ท่าทางภรรยาตอนนี้ดูน่ารักยิ่งกว่าเมื่อก่อนมากนัก ไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 30 三十

    ก่อนหน้านั้น..ซวนเฟยกับชิงเหลียงง่วนกับการทำงานบ้านจนลืมดูนายหญิงของพวกมันกระทั่งรู้สึกตัวอีกทีคือตอนที่จะยกขนมกับน้ำชามาให้ และพบว่านายหญิงไม่อยู่ในห้องชมสวนเสียแล้วทั้งสองวิ่งหารอบบ้านก็ไม่เจอ สังหรณ์ใจไม่ดีจึงเดินออกมานอกบ้าน"ซวนเฟย! ซวนเฟย!!"ชิงเหลียงตะโกนเสียงหลงทำเอาคนถูกเรียกต้องรีบวิ่งเข้าไป จนเห็นของบางสิ่งตกอยู่บนพื้น"ปิ่นนี่มันของนายหญิงนี่!!"ทั้งสองหน้าซีดเผือด เห็นพื้นด้านในป่าเป็นรอยลากยาว รู้แล้วว่าเจ้านายกำลังมีภัยปีกสีเทากระพือเร็วรี่พาร่างเล็กทะยานขึ้นฟ้าไปหานายท่านของมันที่หน้าบันไดขึ้นเขาสรรค์ทันที พร้อมกันนั้นหางงูสีฟ้าเหลือบเขียวเลื้อยตามรอยลากไปโดยเร็ว เผื่อจะเข้าไปช่วยนายหญิงได้ทันเวลาที่หน้าเขาสวรรค์ ซีจงจวินยืนเฝ้าบันไดอย่างสง่าผ่าเผยช่างดูน่าเกรงขามยิ่ง"นายท่านขอรับ!!!"เสียงหนึ่งดังอยู่เหนือหัว มองไปเห็นร่างอสูรรับใช้ครึ่งนกร่อนลงมายืนตรงหน้าด้วยสภาพเหงื่อผุดทั่วตัวเขาสังหรณ์ใจไม่ดีอีกแล้ว.."นายหญิงหายไปขอรับ!! ข้าพบของสิ่งนี้ตกอยู่ที่ทางเข้าป่าพร้อมกับรอยแปลกๆบนพื้นขอรับ!!"ซวนเฟยยื่นปิ่นปักผมทองให้ซีจงจวินดู สายตาดุดันพลันวาวโรจน์ทันทีเขาทิ้ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 31 三十一

    ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา วันทั้งวันมี่ฮวาไม่ได้ลุกไปไหนเลยเพราะมีซีจงจวินทำหน้าที่เป็นมือเป็นเท้าให้ อยากได้อะไรเขาลุกไปหามาประเคนทั้งหมดหลังจากสั่งให้อสูรรับใช้ป้อนข้าว เช็ดตัว ทำแผลให้ภรรยาแล้วเขาก็กลับเข้ามานั่งเฝ้าตรงมุมห้องตามเดิมมี่ฮวานั่งอ่านหนังสือไปเพลินๆ ไม่น่าเชื่อว่าการมีเขาอยู่ร่วมห้องไม่ได้น่ารำคาญเท่าเมื่อก่อน"พรุ่งนี้เจ้าไปทำงานได้แล้วนะ"นางเอ่ยบอก แม้ตอนแรกดวงตายังไม่ละจากตัวหนังสือแต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรทำให้ต้องเงยหน้ามองอีกฝ่ายสีหน้าเขาเรียบตึง ทว่ามองตาแล้วรู้ทันทีว่าในใจกำลังประท้วงอย่างกับเซียนน้อยงอแงไม่อยากไปสำนักฝึกตน...อายุจะแสนปีแล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้"จะไม่ไปทำงานจริงๆหรือ"นางถาม ซีจงจวินก็ส่ายหน้าตอบแล้วพูดเสียงอ่อน ช้อนดวงตาสื่อความหมายเดียวกับคำนั้น"ข้าเป็นห่วง"เป็นเหตุผลที่ต่อให้ใจแข็งอย่างไรก็อ่อนยวบได้ง่ายดาย คนฟังถึงกับต้องถอนหายใจยาว"เจ้าเพิ่มการคุ้มกันรอบบ้านแทนไม่ดีกว่าหรือ""ข้าทำแล้ว""ถ้าทำแล้วก็ไม่ต้องห่วงหรอก"ได้ยินนางบอกเขาก็เงียบไป ครู่ต่อมาจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง"ข้าอยากอยู่ข้างท่าน"คำพูดนั้นทำเอาหญิงสาวถึงกับทำสีหน้าไม่ถูกท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 32 三十二

    อากาศด้านนอกเริ่มเย็นลง ใบไม้ปลิวร่วงยามลมพัด มี่ฮวานั่งเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมายนี่ก็นานแล้วที่ไม่ได้ออกไปไหนเลย การต้องอยู่แต่ในบ้านแบบนี้มันน่าเบื่อมากเหมือนกัน"มี่ฮวา"เสียงคนที่มุมห้องเรียกหา เมื่อหันมาก็พบว่าเขายกสำรับเย็นจัดขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้วสีหน้าเหงาๆ กับการนั่งกินข้างไม่พูดไม่จาของนางนั้นซีจงจวินสังเกตได้"ท่านเบื่ออาหารหรือไม่"ได้ยินคำถามมี่ฮวาก็ส่ายหน้า เห็นเช่นนั้นคนเป็นสามีก็พลอยไม่เจริญอาหารตาม"ท่านเป็นอะไรไปหรือ มีอะไรที่ข้าทำให้ไม่พอใจหรือเปล่า""เปล่าเลย ข้าแค่รู้สึกเบื่อนิดหน่อย คงเพราะอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน แล้วก็ไม่ได้เจอใครตั้งนานแล้ว"เห็นภรรยาทำหน้าหงอยลงอีกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจ อยากช่วยหาทางออกให้"ท่านอยากไปเที่ยวตลาดแดนเทพหรือไม่ ข้าจะ.."ซีจงจวินกำลังจะเสนอความคิดแต่ต้องรีบงับปากลงก่อน เพราะนางเคยบอกว่าเขาเป็นภาระถ้ามีเขาอยู่เกรงจะทำให้หมดสนุกเอา.."พรุ่งนี้ข้าจะพาท่านไปส่งตอนเช้าและตอนเย็นจะไปรับ ให้ซวนเฟยกับชิงเหลียงไปช่วยท่านถือของด้วยจะได้สะดวกขึ้น"นี่น่าจะเป็นทางที่ดีกว่า.."ไม่เป็นไรหรอก ข้าถือเองได้""ท่านแรงน้อย ถือของหนักพะรุงพะรังคน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 33 三十三

    ซีจงจวินมารับมี่ฮวาตรงตามเวลานัดแล้วก็พากลับบ้าน เตรียมอาหาร จัดของให้นางเหมือนปกติซวนเฟยกับชิงเหลียงดูจะอิดโรยกันมาก หลังจากทำงานเสร็จแล้วพวกมันก็ขอตัวไปพักเลย และคาดว่าคงไม่มีแรงลุกจนกว่าจะฟ้าสางม่านสีดำโรยตัวลงจากท้องฟ้า ในยามที่ควรจะเข้านอนมี่ฮวาอาบน้ำเสร็จไม่ได้กลับเข้าห้องทันทีนางอาศัยตอนที่ซีจงจวินไปอาบน้ำเข้าไปในห้องเขา จุดกำยานแล้ววางโถไว้ให้บนโต๊ะข้างหัวเตียงมี่ฮวาไม่มีความกล้าพอจะยื่นให้เขาตรงๆ เลยคิดว่าทำแบบนี้ให้เขาประหลาดใจเล่นน่าจะดีกว่าเมื่อนางกลับเข้าห้องไปแล้ว ซีจงจวินเดินออกมาจากห้องน้ำดับไฟทุกดวงในบ้านจนมืดสนิท เดินเข้าห้องนอนของตัวเองไปแต่เพียงบานประตูแง้มเปิดเล็กน้อย จมูกที่ประสาทรับกลิ่นดีเยี่ยมก็เริ่มทำงานเขาไม่รู้ว่ากลิ่นที่อยู่ในห้องเป็นกลิ่นอะไร แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็เดินเข้ามาถึงเตียงเสียแล้วร่างกายเริ่มรู้สึกร้อนรุ่ม เลือดสูบฉีดแรงจนผิวเป็นสีแดงเข้ม เหงื่อเม็ดเป้งผุดซึมไหลเป็นสายธารทั้งที่อากาศเย็นสบายมันร้อนไปหมด.. ร้อนจนเขาเผลอถอดเสื้อผ้าออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ตัวแท่งเนื้อกลางกายเริ่มตอบสนอง มันตั้งชูชัน แข็งเกร็งคล้ายอยากได้รับการปลดปล่ยเต็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 34 三十四

    มี่ฮวาตัดสินใจเดินมานั่งที่เตียง มือเล็กเอื้อมสัมผัสเบาๆที่หัวไหล่คนบนพื้นซึ่งยังคงสั่นอยู่เล็กน้อย"หันมาเถิด" นางเอ่ยแต่ซีจงจวินส่ายหน้าปฏิเสธเขาจะกล้าให้นางเห็นความน่ารังเกียจของตัวเองได้อย่างไร หากนางรับไม่ได้เกิดวิ่งหนีออกไปตอนนี้ ซีจงจวินคงไม่เหลือแรงจะวิ่งตามแล้ว"หันมาเถิดซีจงจวิน"เสียงมี่ฮวาเข้มขึ้น ซีจงจวินก็ยิ่งปฏิเสธคำสั่งนั้น นั่งห่อตัวจนเส้นผมสีดำยาวสยายลงมาปรกหน้าสุดท้ายนางทำอะไรไม่ได้ จึงเลือกที่จะลุกแล้วเดินอ้อมมานั่งหันหน้าเข้าหาเขาเอง มือเล็กจับสองข้างแก้มเทพอสูรให้เงยขึ้นยอมสบตาตรงๆราวกับภาพในคืนที่นางตัดสินใจหนีกลับบ้านไหลกลับเข้ามาในหัว..ตอนนั้นแววตานางฉายความหวาดกลัว ขณะที่แววตาเขาสะท้อนความสิ้นหวังและตอนนี้ ความสิ้นหวังยิ่งเพิ่มพูน ดึงจิตวิญญาณให้จมดิ่งลึกลง..."ท่านไม่หย่ากับข้าได้ไหม"สีหน้าเขายามวิงวอน ดูราวกับเด็กน้อยที่ในใจมีแต่รอยแผล ริมฝีปากสั่นคล้ายดูลังเลที่จะพูดต่อเรื่องที่นางเกลียดเขาขยะแขยงเขานั้น ซีจงจวินกำลังพยายามทำใจเพราะรู้ว่าไม่มีทางถูกรักได้..แต่อย่างน้อยขอให้นางไม่ทิ้งกันเท่านั้น ซีจงจวินคิดว่าน่าจะพอทำให้ยอมรับได้เร็วขึ้น"ข้าขอร้อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 35 三十五

    หญิงสาวนั่งมองต้นไม้ไร้ใบในสารทฤดู ที่มุมเสาห่างออกไปสิบฉื่อมีเทพอสูรม่อยลับไม่รู้เรื่องเพราะมีลมเย็นพัดโกรกซีจงจวินเพลียจนไปทำงานไม่ไหว ทั้งวันเขาเอาแต่นอนอยู่ในห้องชมสวน ส่วนมี่ฮวา นางได้แต่นั่งทำใจให้สงบแม้จะมีภาพเหตุการณ์เมื่อคืนค้างอยู่ในหัวก็ตามนางไม่เข้าใจตัวเองว่าหมู่นี้เป็นอะไร..เมื่อคืนตอนจะถูกขืนใจ นางโกรธจริงแต่เมื่อเห็นเขาร่ำร้องขอความเมตตาสงสารหัวใจก็เกิดไร้กำลังต้านขึ้นมาเสียอย่างนั้นกระทั่งตอนนี้นางก็ยังนั่งมองเขาอยู่ได้ตั้งนานสองนาน ทั้งที่เมื่อก่อนไม่คิดอยากจะชายหางตาไปทางเขาสักนิดหัวใจ...เป็นอะไรไปมันเริ่มอ่อนแอ พ่ายแพ้ให้บุรุษอัปลักษณ์เสียแล้วหรือ...มี่ฮวาไม่อยากจะยอมรับจึงต้องพาตัวเองออกจากห้องชมสวน ขณะเดินผ่านห้องนอนซีจงจวินเห็นประตูแง้มอยู่ก็นึกขึ้นได้หญิงสาวชะโงกหน้าไปเห็นโถกำยานเมื่อคืนที่ถูกโยนออกนอกหน้าต่างยังนอนอยู่บนพื้นหญ้าด้านนอก จึงเรียกเด็กรับใช้ให้เอามันออกไปทิ้งไกลๆเสียนึกแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา ไม่ได้โกรธเทพอสูรแต่เป็นเพื่อนตัวดีที่แกล้งกันได้ กลับไปแดนอุดรอีกเมื่อใดจะไปโวยให้ถึงห้องนอนเจียวถงเลยมองไปรอบห้องภาพต่างๆเมื่อคืนผุดขึ้นอีกครั้ง หาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25

บทล่าสุด

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 62 六十二

    สามวันผ่านไปจากนั้น อวี้เวินฉิงต้องข้อหาหลายคดี ทั้งละทิ้งหน้าที่ บุกรุกจวนแม่ทัพยามวิกาล ทำร้ายร่างกาย และขโมยของคดีสุดท้ายนั้นแม่ทัพจงตั้งใจป้ายสีเอง ด้วยอยากให้อวี้เวินฉิงถูกจับโยนเข้าตาราง ขังลืมไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันในห้องขังมืดสนิทมีเพียงช่องลมติดลูกกรงหนาเท่านั้นเป็นที่ให้แสง อวี้เวินฉิงอยู่ในชุดนักโทษมอซอหมดสง่าราศี ข้อมือและข้อเท้าติดโซ่ตรวนเหล็กห้อยยาวในสถานที่แห่งนี้ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงความทุกข์ทรมานกับเสียงสายโซ่กระทบพื้นลากไปมานานๆทีหูจะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักแน่นของคนภายนอกสักครั้ง และครั้งนี้อวี้เวินฉิงรู้ว่าใครมาทั้งที่ไม่ต้องเงยหน้ามอง"อยู่นิ่งๆก็เป็นรึ มือปราบอวี้"คนที่จะเอ่ยวาจาเช่นนี้กับเขาได้มีเพียงคนที่จับเขาโยนเข้ามาในคุกเท่านั้นอวี้เวินฉิงไม่ตอบ เพียงเลื่อนสายตามามองแม่ทัพยืนเหยียดยิ้มอยู่นอกประตูลูกกรง"ข้าเคยเตือนแล้ว เป็นเจ้าที่รนหาที่ เลือกมาจบชีวิตตรงนี้เอง""..."ไร้การตอบสนองจากคนในคุก อวี้เวินฉิงยังนั่งมองกำแพงว่างเปล่าด้วยตาไร้แววอยู่เช่นเดิมถูกโยนเข้าคุกไม่เท่าไหร่ แต่หัวใจที่ยังเป็นแผลก่อนหน้านี้นี่สิ..."ข้าจำได้ว่าก่อนจับเจ้าเข้าคุกไม่ได

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 61 六十一

    หลังจากคืนนั้นจงซีจ้านไม่เรียกมี่ฮวาเข้าห้องนอนอีก จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วค่ำคืนอันเดียวดายทำร้ายหัวใจเสียยิ่งกว่าตอนถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดร้าย มี่ฮวานอนกอดตัวขดกลมอยู่บนเตียง หวนนึกถึงสัมผัสอบอุ่นของซีจงจวินคืนแล้วคืนเล่าเทศกาลหยวนเซียวผ่านมาอีกครั้ง ด้านนอกไกลๆมีเสียงความคึกครื้นลอยมาเรื่อยๆคิดถึงปีนั้นที่ซีจงจวินพามาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์ครั้งแรก.. คิดถึงยามเขาพูดคุยสบตา ยามได้เดินจับมือ..คิดถึง...หญิงสาวลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าซุกหน้าร้องไห้ไม่รู้สึกตัวเลยว่าตั้งแต่มาอยู่โลกมนุษย์นี้นางเสียน้ำตาไปแล้วกี่ครั้งก๊อก.. ก๊อก..เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้าต่างไม้ หยุดน้ำตาไว้"ใคร"นางถามด้วยความประหลาดใจ คิดว่าไม่ใช่คนใช้ในเรือนแน่"ข้าเองมี่ฮวา"เสียงคุ้นหูนั้นอีกแล้ว เจ้าของชื่อจำได้แม่นยำ คนมาเรียกคืออวี้เวินฉิงไม่ผิดแน่บานหน้าต่างเปิดออก เทพแห่งแสงในคราบมือปราบหนุ่มใส่ชุดคลุมสีดำมิดชิด ปกปิดใบหน้าจนเหลือแค่ลูกตาเท่านั้น"ท่านมีธุระอะไรเจ้าคะ""ข้ามาพาเจ้าไป"ไป.. ไปไหนกัน?"ไม่ไปเจ้าค่ะ" ไม่รอให้อีกฝ่ายไขข้อข้องใจก็ปฏิเสธเสียแล้วมี่ฮวาไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอีก บทเรียนจากคราว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 60 六十

    บนเตียงหลังใหญ่ในห้องที่แสงไฟสลัว ร่างหนึ่งกำลังละเลงลิ้นอย่างเมามันบนผิวเนื้อนุ่มของคนข้างใต้จนนางต้องครางดังเพราะแรงเสียวหนักหน่วงที่เขามอบให้"ท่าน.. ท่านแม่ทัพ อย่าเจ้าค่ะ!"หญิงสาวพยายามปรามไม่ให้คนด้านบนใช้ฟันคมกัดดึงตุ่มเนื้อยอดถันราวกับหมาป่าจะฉีกกระชากเหยื่อ จนตอนนี้ผิวส่วนนั้นกลายเป็นสีอมม่วงไปแล้วแต่จงซีจ้านที่กำหนัดพลุ่งพล่านอยู่มีหรือจะยอมฟัง ยิ่งเขากำลังฉุนเฉียวไม่หายจากเรื่องเมื่อกลางวันด้วยแล้ว ยิ่งพาลให้อยากลงไม้ลงมือกับมี่ฮวาหนักขึ้น"อ๊ะ!!!"เสียงร้องดังลั่นเพราะโดนกัดเข้าที่หัวไหล่อย่างแรง เขายังทิ้งรอยฟันกับรอยเลือดไว้ให้ปรากฏเด่นชัดร่างบางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางไม่รู้ว่าต่อไปจงซีจ้านจะทำอะไรกับเรือนกายนี้เพราะดวงตาคู่งามถูกคาดปิดไว้ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เขายังผูกข้อมือเล็กไว้กับเสาเตียง จับขาให้อ้าออกกว้างจนแทบฉีก กดกายโถมทับอย่างไม่กลัวว่านางจะหายใจไม่ออก"ท่านแม่ทัพเจ้าคะ..เบามือสักนิด..""เจ้าเป็นใครถึงมีสิทธิ์สั่งข้า!!"ว่าจะเอ่ยขอร้อง แต่ไม่ทันจบประโยคดีก็ถูกตวาดกลับเสียลั่นห้องมี่ฮวาต้องเก็บทุกคำพูดต่อจากนั้นลงคอไป น้ำตาไหลหยดหนึ่งซึ่งเขาไม่เห็นและถึงเห็นก

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 59 五十九

    ฤดูกาลหมุนเวียน แมกไม้ผลิดอกออกผลจนร่วงหล่นปลิวไป จากร้อนอบอ้าวเป็นเหน็บหนาวด้วยหิมะขาวโพลนคลุมแผ่นดินหลายเดือนเข้าไปแล้วที่มี่ฮวามาเป็นคนใช้ในจวน...แค่ตอนกลางวันเท่านั้น ส่วนกลางคืนนางจะกลายร่างเป็นนางคณิกาชั้นดี เป็นของเล่นให้เขาได้คลายเหงายาขมถูกส่งเข้าปากถ้วยแล้วถ้วยเล่า จนหญิงสาวไม่รู้เลยว่าตอนนี้มดลูกตัวเองจะยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ความเห็นใจเป็นเหมือนความหวังลมๆแล้งๆ ซึ่งไม่มีทางได้รับจากผู้เป็นสามีเพราะเขาไม่มีความรักหลงเหลือให้นางหัวใจที่ทุกข์ระทมจำต้องทนรับความขมขื่นจากการกระทำอันโหดร้ายมี่ฮวาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองขณะนั่งส่องกระจกในห้องนอน ..ว่านางจะทนได้อีกนานเท่าไหร่กันภาพสะท้อนจากกระจกคือเรือนร่างซึ่งเมื่อก่อนเคยดูสมบูรณ์งดงาม แต่บัดนี้ดูทรุดโทรมแทบไม่มีส่วนใดน่ามองนางนึกถึงครั้งที่ซีจงจวินเคยอยู่ในสภาพเช่นนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นนางเองก็ไม่สนใจเขาเหมือนกันท่านเอาคืนข้าได้สาสมจริงๆ...มี่ฮวาใส่เสื้อผ้าคนใช้เดินออกจากห้องเหมือนเช่นทุกเช้า"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ" นางทักทายยามเดินผ่านพวกลุงคนใช้ ทุกคนโบกมือกลับอย่างใจดี แววตาโอบอ้อมอารีนั้นฉายความสงสารจับใจมี่ฮว

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 58 五十八

    "นางเป็นหมันเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ"แม่บ่านไห่นำคำของสาวใช้คนใหม่มารายงานท่านแม่ทัพตามหน้าที่ปัง!!เพียงได้ยินเท่านั้นมือใหญ่ที่ถือตำราอยู่ต้องกระแทกปิดมันกับโต๊ะอย่างแรง ระบายอารมณ์ขุ่นมัวทางสายตาใส่แม่บ้านชรา"คำลวงของสตรีมากเล่ห์ ข้าจำเป็นต้องเชื่อรึ!!"เขาขึ้นเสียง แม่บ้านไห่ก็ถึงกับยืนขาสั่นงันงก หลังที่งองุ้มนั้นต้องก้มลงหมอบกับพื้น"มะ.. ไม่เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ""ไปพาตัวนางมา แล้วก็ไปต้มยานั่นมาใหม่ด้วย!!"คนหลังโต๊ะหนังสือชี้หน้าสั่งแม่บ้านชรา นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่แรงคนแก่จะทำได้ ไม่นานยาขมหม้อใหญ่ก็ถูกยกมาตั้งมี่ฮวาถูกพาตัวมาตรงกลางสวนร้างที่ตรงนั้นมีคนรับใช้ชายทั้งหมดรวมถึงแม่บ้านไห่อยู่ด้วย ทุกคนได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนนายใหญ่ของบ้านรู้เพียงว่าชะตาสาวใช้คนใหม่กำลังจะขาดเท่านั้นพอ..หญิงสาวนั่งคุกเข่ามองหม้อที่ส่งกลิ่นฉุนบนโต๊ะหิน เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเกาะเต็มหน้าผาก"กิน"คำสั่งเด็ดขาดของแม่ทัพดังพอจะทำให้นางสะดุ้งโหยง มี่ฮวาต้องรีบเข้าไปหมอบตรงพื้นแทบเท้าเขา"ท่านแม่ทัพได้โปรดเมตตาข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าท้องไม่ได้แล้วจริงๆเจ้าค่ะ""ข้าไม่เชื่อ"น้ำแกงสีคล้ำ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 57 五十七

    เช้าวันต่อมา มี่ฮวาตื่นแต่เช้าทั้งที่ร่างกายยังไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่นางมีงานต้องทำไม่อาจละเลยได้ในยามที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น หญิงสาวลุกจากเตียงหันมองคนหลับ ใบหน้าของเขายามนี้เรียกได้ว่าดูหล่อเหลาคมคร้ามดั่งเทพสงครามบนสวรรค์แต่หากลืมตาขึ้นมาเมื่อใด.. คงดูไม่ต่างจากยักษ์อำมหิตตนหนึ่ง ไร้ซึ่งเมตตาการุณย์"ข้าคิดถึงท่านนัก"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบา ลอยหายไปกับสายลมซึ่งพัดเข้ามาทางหน้าต่าง หลังจากสวมใส่อาภรณ์เรียบร้อยดีแล้วจึงกลับเรือนนอนของตัวเองไป...ตลาดเช้าที่นี่ดูคึกคักไม่ต่างจากที่แดนเทพ เป็นแหล่งรวมแม่บ้านซึ่งออกมาจ่ายตลาดและพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระมี่ฮวาเดินตามแม่บ้านไห่ซื้อวัตถุดิบ โดยตลอดทางจะมีสายตาแปลกๆของทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าแถวนั้นจ้องมาตลอดนางทำเป็นไม่รับรู้ ยื่นเงินจ่ายให้แม่ค้าผลไม้ ส่วนแม่บ้านไห่ก็ยืนเลือกปลาอยู่ร้านข้างๆ"แม่นางมาจากจวนท่านแม่ทัพใช่หรือไม่" พ่อค้าร้านผักที่อยู่ไม่ไกลตะโกนถาม"ใช่เจ้าค่ะ"พอหญิงสาวตอบออกไปเช่นนั้น ผู้คนรอบข้างต่างก็ยืนอึ้ง บ้างเอามือป้องปากกระซิบกระซาบ"เหตุใดแม่ทัพปีศาจผู้นั้นถึงรับสาวใช้อย่างเจ้าเข้ามากัน""เจ้างามเ

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 56 五十六

    ในกระโจมมืดที่มีแสงไฟสลัวจากตะเกียงอันเดียวสะท้อนเงาของชายหญิงคู่หนึ่งขย่มร่างบนเตียงไม้จนมันเลื่อนดังเอี๊ยดอ๊าด"อะ.. ทะ ท่านแม่ทัพ..."เสียงครางกระเส่าแว่วหวานจากริมฝีปากอิ่มแดง เคล้าไปกับเสียงเนื้อกระทบกันรัวเร็วดูเร่าร้อน สะโพกสอบของคนด้านบนขยับบดเบียดเข้าออกถี่ๆเร่งให้คนข้างใต้ขยับรับตามแทบไม่ทันทุกการกระทำเป็นไปอย่างหยาบโลน มือใหญ่เที่ยวเคล้นคลึง ขยำขยี้เนินอกนุ่มเต็มไม้เต็มมือไม่มีถนอมไม่มีผ่อนแรงปากเขาประทับตราตีความเป็นเจ้าของทั่วตัวนาง เน้นหนักตรงยอดถันประดับตุ่มไตชูชัน กัดกระชากไปมาเบาๆอย่างเมามัน ก่อนดูดดุนแรงๆราวจะคั้นเอาเลือดนางออกมาแท่งหินใหญ่ยักษ์ร้อนดั่งถูกเอาไปอังไฟก่อนเสียบเข้ามานั้นสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัส ขณะแทงโดนจุดที่ทำให้ข้างในเสียวจุกจนเกินจะระงับเสียง"อ๊าา!!"หญิงสาวถึงฝั่งรอบที่สามแล้ว แต่คนด้านบนยังขยับต่ออย่างเอาแต่ใจ ไม่สนสิ่งใดทั้งสิ้นเสียงครางต่ำของเขากับเสียงหวานใสของนางช่างเข้ากันได้ดี เช่นเดียวกับร่างกายที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียวทว่าหัวใจ..กลับไม่เป็นเช่นนั้น"อาา..."ในที่สุด น้ำคาวขาวขุ่นก็ถูกฉีดอัดเข้าไปในช่องสวาทเต็มเหนี่ยว ล้นทะลักออกมาเป

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 55 五十五

    ราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นแค่ห้วงฝันเพียงหนึ่งชั่วยาม ตอนนี้ในกระโจมวุ่นวายไปหมด มี่ฮวาวิ่งรักษาทหารอย่างไม่หยุดพัก พยายามทำแผลให้เร็วที่สุด เมื่อเสร็จจากคนในนี้แล้วจึงจะรีบไปหาเขาหวังว่าคราวนี้ จงซีจ้านจะยอมให้นางรักษาจริงๆสักที..''ท่านหมอ คือว่า..''เมื่อมาถึงกระโจมก็พบเข้ากับฮวนเกอซึ่งยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า เขาดูลำบากใจนิดหน่อยที่จะเอ่ยบอกนาง''ท่านแม่ทัพไม่ให้ข้าเข้าไปอีกแล้วหรือ'' นางถาม ชายหนุ่มก็พยักหน้าตอบอย่างจริงจัง''หากไม่ใช่หมอชาย ท่านแม่ทัพไม่มีทางให้จับเนื้อต้องตัวเด็ดขาดเลย ท่านหมอทิ้งยากับผ้าพันแผลไว้ตรงนี้แล้ว.. อะ อ้าว! ท่านหมอ!!''ท้ายประโยคฮวนเกอเสียงหลงทันทีเพราะหมอสาวนางนี้ไม่สนใจคำเขา แหวกผ้าคลุมกระโจมเดินฉับๆเข้าไปด้านในอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใด''ใครให้เจ้าเข้ามา!!"ตามคาด เมื่อเห็นหน้านางโผล่มาเขาจะต้องตะคอกใส่เสียงกร้าวทันที''ไม่มีเจ้าค่ะ แต่ข้าต้องทำหน้าที่หมอ รักษาท่านให้ดีที่สุด''''ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากสตรี! หน้าที่เดียวของเจ้าคือไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!!''''ข้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้เจ้าค่ะ ขออภัยที่ต้องล่วงเกิน''ว่าแล้วมี่ฮวาก็เข้าไปทรุดกายนั่งลงข้า

  • ผูกรัก ปักใจ ไม่อาจลืมเลือน   บทที่ 54 五十四

    วันเวลาในค่ายทหารยังคงดำเนินต่อไป...อย่างไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่นัก''ท่านหมอ! ท่านหมอ! ข้าโดนน้ำร้อนลวกตอนต้มโจ๊กเมื่อเช้า ทำแผลให้ข้าที''''ท่านหมอรักษาแผลมีดบาดให้ข้าอยู่ไม่เห็นหรือ เจ้ารอไปก่อน''''แต่แผลข้าใหญ่กว่าเจ้า''''แต่ข้ามาก่อน''''พวกท่านทั้งสองอย่าทะเลาะกันเลยเจ้าค่ะ ข้ารักษาให้ทุกคนอยู่แล้ว''เป็นเสียงของหมอสาวเอ่ยห้ามทัพ ทหารทั้งสองนายจึงหยุดศึกชิงความสนใจจากหมอตามที่นางบอกนี่ก็ผ่านมาครึ่งเดือนได้แล้ว กำลังเสริมจากเมืองหลวงยังมาไม่ถึงก็จริง แต่ยามที่ศึกสงบเช่นนี้ พวกหน้าที่ใหญ่ๆที่จำเป็นต้องมีหมอไม่มีอีกแล้วช่างน่าแปลกที่หมู่นี้เหล่าทหารในค่ายต่างก็ชอบมีแผลมาให้นางช่วยรักษาทุกวี่วัน ไม่ว่าจะโดนน้ำร้อนลวก มีดบาด รอยฟกช้ำจากการซ้อมอาวุธ ข้อเท้าแพลงตอนวิ่ง ยันแผลแมลงเล็กๆกัดต่อยที่ทิ้งไว้ไม่นานก็หาย พวกเขาก็ยังวิ่งมาหาหมอกันจะมีก็แต่เขาคนนั้นที่มาหานางโดยไม่มีจุดประสงค์อื่นนอกจากไล่ให้ไปไกลๆ..''ยังอยู่อีกรึ''น้ำเสียงราบเรียบที่แดกดันกันชัดเจนดังมาจากหน้ากระโจม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใครที่พึ่งเข้ามา''ก็ค่ายทหารขาดหมอไม่ได้นี่เจ้าคะท่านแม่ทัพ'' มี่ฮวาหันมายิ้มตอบอย่างส

DMCA.com Protection Status