Share

บทที่ 286

Author: มู่โร่ว
จวบจนวันนี้เพิ่งผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน แต่เถากลับงอกงามแข็งแรงพิเศษ

ใบเขียวเถาขาว เติบโตอย่างน่าพอใจ

มีคนเด็ดหนึ่งเส้นออกมาลองกัดกิน

เป็นรสชาติผักสดใหม่ปนรสใบเขียวเล็กน้อย

เมื่อเถานี้กินได้ ใบก็กินได้เช่นกัน

พวกชาวเมืองตัดเถาออกมา เก็บดอกตูมไว้สองใบแล้วปลูกลงไปพร้อมรดน้ำให้…

สองวันผ่านไปเถามันเทศมีชีวิตอีกครา เมื่อเถามันเทศเติบโตแข็งแรงแล้ว สามารถเก็บมาประกอบอาหารผัดกินได้

ครั้นชาวเมืองเห็นมันเทศเด็ดกิ่งใบ เก็บเกี่ยวได้ ก็ยิ่งมีความกระตือรือร้นต่อการทำงานในที่นา

เมื่อก่อนพ่อค้าผู้มั่งคั่งด่านเจิ้นกวน นิ้วมือทั้งห้าไม่เคยต้องงานในครัวเรือน ตอนนี้ลงไปทำงานในทุ่งนาแล้วทุกคน

พวกเขาเปี่ยมไปด้วยความหวังกับอนาคต

ทุกวันนี้ไม่อยู่ในภาวะสงคราม จึงไม่มีรางวัลมอบให้เหล่านายทหาร แต่ละเดือนไปรับเสบียงทหารจำนวนสิบห้าชั่งได้เพียงเท่านั้น

ถึงกระนั้น มีบางครอบครัวที่ไม่มีคนเข้าร่วมกองทัพ วันนี้ก็ได้รับพื้นที่เพาะปลูกจัดสรรและปลูกมันเทศสำเร็จแล้วทุกคน

ต่อให้ไม่ต้องอาศัยแม่ทัพและโรงโจ๊กอีก แต่พวกเขาก็สามารถพึ่งพาตนเองและเลี้ยงดูตัวเองได้แล้วเช่นกัน!

*

จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากจวนแม่ทัพ

บนท้องถน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 287

    จ้านเฉิงอิ้นปัดลูกธนูได้หนึ่งดอก แต่ดอกที่สองกลับทิ่มทะลุหัวใจจ้านเฉิงอิ้นแกร็ง~ภาพเหตุการณ์นี้ ทำหน่วยกล้าตายลอบสังหารทั้งหมดอ้าปากต้าค้างเพราะลูกธนูร่วงจากแผ่นหลังจ้านเฉิงอิ้นปลายธนูไม่อาจแทงทะลุชุดเกราะเพียงเท่านั้น แต่ภายใต้ชุดเกราะยังมีชุดเกราะชั้นในให้การป้องกันสูงอีก…แม้ว่าธนูสองดอกยิงโดนเขา แต่ก็ไม่อาจทำร้ายเขาได้หน่วยกล้าตายเหล่านั้นจับจ้องจ้านเฉิงอิ้นราวกับมองสัตว์ประหลาดถึงกระทั่งมีช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาอยากถอนตัวกลางคัน หนีออกมาบางทีอาจยังรอดชีวิตแต่น่าเสียดาย มันสายไปแล้ว!เพราะกองทัพตระกูลจ้านได้ออกปฏิบัติการปิดล้อมแล้วทั่วทั้งบริเวณ!สวีหมิงควบม้าวิ่งมาหาและโยนของลักษณะกลมสีดำให้จ้านเฉิงอิ้น“แม่ทัพ หมวกกันน็อก!”หมวกกันกระสุนสีดำใบหนึ่งถูกจ้านเฉิงอิ้นรับไว้ด้วยหนึ่งมือเขารีบเร่งสวมหมวกดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังร่ายรำอย่างดุเดือดมากกว่าเดิม มุ่งหน้าฟันนักฆ่าแปดคนส่วนกำลังคนและม้าของกองทัพตระกูลจ้าน ปิดล้อมตรอกซอยอย่างมิดชิดไม่ให้น้ำไหลผ่านแม้แต่หยดเดียว ย่อวงล้อมแคบลงเรื่อย ๆชาวเมืองหนีอพยพแล้วตั้งแต่แรก นักฆ่าเหล่านี้เห็นทีว่าแนวโน้มสถานการณ์เปลี่ยนไ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 288

    เขากลัวจ้านเฉิงอิ้นปลุกพลังลุกฮือฮ่องเต้น้อยมีพระราชโองการ ให้จ้านเฉิงอิ้นปราบปรามกองทัพธงเหลืองถ้าเขาทำสำเร็จ ทั้งราชสำนัก ทั้งแคว้นต้าฉี่ ตำแหน่งของจ้านเฉิงอิ้นต่างกรรมต่างวาระ จะนำมาเปรียบเทียบไม่ได้อีก!ไม่ต้องพูดถึงเสนาบดีซู แม้กระทั่งฮ่องเต้น้อยก็ไม่สามารถกดขี่เขาแล้วเช่นเดียวกันเมื่อจ้านเฉิงอิ้นมีอำนาจและอิทธิพล ผู้เกิดความกลัวมากสุดย่อมเป็นเสนาบดีซูเขากลัวจ้านเฉิงอิ้นมาคิดบัญชี แก้แค้นที่เขาใส่ร้ายบิดาจนเสียชีวิต!ฉะนั้น ก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นจะออกรบไปปราบกองทัพเหลือง เขาแทบรอไม่ไหวที่จะกำจัดเขาโดยเร็ว!สวีหวย น่าจะเป็นไปไม่ได้!ตอนนี้เขายังเอาตัวเองไม่รอด มีรายงานว่าเขาส่งคนและม้าไปตามหาหยูกยาและหมอเทวดาในดินแดนภาคกลางร่างกายของเขาบาดเจ็บสาหัสมาก อยากมีชีวิตรอดเพียงเท่านั้นเขาจะมีความคิดไปหาเรื่องจ้านเฉิงอิ้นอย่างไรอีกจ้านเฉิงอิ้นกวาดสายตาไปบนหลังคา นักยิงธนูสองคนหายไปนานแล้ว“ยังมีนักฆ่าสองคนหนีไปได้ จำไว้ ต้องจับเป็น!”เฉินขุยรับคำสั่ง “ขอรับ แม่ทัพ!”ศพบนพื้นถูกลากออกไปแล้วเดิมทีเฉินขุยเตรียมพาทหารในกองทัพตระกูลจ้านไปขุดท่อนไม้เนื่องจากแม่ทัพถูกลอบสังห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 289

    คำพูดไม่มีเค้าของจ้านเฉิงอิ้น ทำมั่วฝานชะงักอยู่กับที่ ครู่หนึ่งผ่านไปดวงตาเขาพลางแดงก่ำเขากล่าวอ้ำอึ้ง “ไทเฮาผู้อาวุโสเอ็นดูข้าเป็นที่สุด ข้าไม่อาจทนมองพะองค์ตายจากไป!”“จะให้กองทัพธงเหลืองบุกเข้าเมืองหลวงไม่ได้ ท่านพ่อท่านแม่ของข้าและคนทั้งตระกูลมั่ว…อยู่ที่เมืองหลวงทุกคน”“จ้านเฉิงอิ้น พลเมืองในเมืองหลวงช่างบริสุทธิ์เหลือเกิน ท่านทนมองกองทัพธงเหลืองบุกฝ่าไปถึงเมืองหลวงได้จริงหรือ?”จ้านเฉิงอิ้นถามอีกครั้ง “เจ้าเชื่อท่านเทพหรือไม่?”ใช่ นี่คือสิ่งที่ท่านเทพกล่าวไว้!บางทีถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เขาจะตำหนิผู้นั้นพูดจาพล่อย ๆ จะรู้สึกโมโหและลากตัวผู้นั้นออกไปฆ่าทิ้งแต่ผู้ที่ทำนายเป็นท่านเทพเป็นท่านเทพที่เคยช่วยชีวิตนับไม่ถ้วนรอดมาได้!จ้านเฉิงอิ้นเดินเข้ามาตบไหล่ปลอบใจเขา“ท่านเทพเคยกล่าวไว้ ในบันทึกประวัติศาสตร์ ตัวข้าคนเดียวยืนอยู่บนภูเขาซากศพและทะเลเลือด ปลายกระบี่ชี้ไปยังนายทหารหนึ่งแสนคนของแคว้นฉี่ สุดท้ายสิ้นชีพใต้ดาบของพวกเขา”“ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ไม่มีความสำคัญด้วยซ้ำ! เจ้าดูสิ วันนี้แม่ทัพข้ายังมีชีวิตอยู่และสบายทีเดียว”“พวกเราได้พบท่านเทพ มีชีวิตรอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 290

    “ขอรับ แม่ทัพ!”จากนั้นเถียนฉินยื่นบัตรเชิญหลายฉบับให้เขา“แม่ทัพ ท่านมีอ่างขุมทรัพย์กับตัว ในที่สุดก็ไม่อาจปกปิดต่อไปได้อีก”“นี่คือบัตรเชิญจากสมาคมการค้าขนาดใหญ่จากแคว้นอื่น พวกเขาอยากแลกเปลี่ยนการค้ากับท่าน!”จ้านเฉิงอิ้นวางหนังสือในมือลงพ่อค้ามีชนชั้นทางสังคมต่ำสุดในแคว้นต้าฉี่ แคว้นอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกันแต่พ่อค้ากลับเป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดถึงแม้ท่านเทพส่งเสบียงมาให้ไม่ขาดสาย แต่ก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการสั่งซื้อฉะนั้น ถ้าในมือพ่อค้าเหล่านี้ มีสิ่งที่ท่านเทพต้องการหรือสิ่งของที่น่าสนใจเขาจะนำมาถวายให้ท่านเทพ“เอาบัตรเชิญให้ข้าดูหน่อย…”เถียนฉินยื่นบัตรเชิญนับสิบใบด้วยสองมือจำนวนมากเพียงนี้ นับว่าเกินความคาดหมายของจ้านเฉิงอิ้นมากบัตรเชิญสองสามใบด้านหน้าสุด ล้วนเป็นของสมาคมการค้าขนาดใหญ่ไม่กี่กลุ่มที่อยู่ในอาณาเขตหัวเซี่ยมีกลุ่มต้องการน้ำ มีกลุ่มต้องการเสบียงอาหาร…พวกเขายินยอมที่จะส่งทองคำนับหมื่น เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนเสบียงอาหารและน้ำกับจ้านเฉิงอิ้นแน่นอนว่า พวกเขาอยากเข้ามาทำการค้าในด่านเจิ้นกวนมากกว่าจะเข้าด่านเจิ้นกวนต้องมีใบผ่านด่านและอนุญาตเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 291

    จ้านเฉิงอิ้นเบิกตาอย่างดุดัน สีหน้าตึงเครียด“กองทัพธงเหลืองมีความเป็นมาอย่างไร?”มั่วฝานหยิบม้วนเอกสารลับออกมาจากอกเสื้อ แล้วส่งให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือจ้านเฉิงอิ้นดึงกระดาษสีขาวในกระบอกไม้ไผ่ออกมา เขาเปิดเอกสารลับนั้นอย่างระมัดระวังข้อความเขียนโดยหน่วยกล้าตาย พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงบุคคลสำคัญในระดับสูงได้ สมาชิกทั้งหมดในตอนนี้ กินโจ๊กที่ทำจากข้าวฟ่างข้าวฟ่างสะอาดมาก ไม่มีกรวดปะปน ไม่มีการผสมเปลือกข้าวและรำข้าวข้าวฟ่าง หรืออีกชื่อคือข้าวเม็ดเล็ก เป็นสิ่งที่ท่านเทพประทานมาให้จำนวนมาก ชาวบ้านในด่านเจิ้นกวนกลับชอบกินข้าวขาวและแป้งสาลีมากกว่า ข้าวขาวนำมาทำเป็นโจ๊ก ส่วนแป้งสาลีนำมาทำเป็นแป้งเหลวหรือก้อนแป้งข้าวเม็ดเล็กกลับไม่มีใครเต็มใจจะแลก ดังนั้นจึงถูกกองไว้ในคลังเสบียงปัจจุบันนี้ ความอดอยากเกิดขึ้นมาหนึ่งปีแล้ว ธัญพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ แม้จะมีข้าวเก็บ ก็ไม่อาจเพียงพอเลี้ยงคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังกองทัพธงเหลือง เกรงว่าคงมาจากโลกเดียวกับเทพเจ้าใต้กระดาษสีขาวนั้น มีภาพวาดของอาวุธที่กองทัพธงเหลืองใช้งานส่วนใหญ่เป็นดาบและกระบี่ รวมถึงอาวุธทหารรูป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 292

    เธอค้นหาหนังสือจากในตู้หนังสือแถมหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “อุดมการณ์และแนวคิดของมาร์กซิสต์-เลนินนิสต์”เธอถอดม้วนกระดาษบทกวีที่มีชื่อว่า “วสันต์สวนชิ่น : หิมะ” ที่แขวนอยู่บนผนังลงมาเธออุ้มหนังสือที่ซ้อนทับ พร้อมเขียนข้อความลงบนกระดาษ ส่งหนังสือที่ล้ำค่า รวมถึงม้วนบทกวีเหล่านี้ขอให้เขาอ่านให้จบก่อนส่วนเรื่องการบริหารจัดการชาวบ้านในชายแดนด่านเจิ้นกวนอย่างไรในอนาคต เธอจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างไรก็ตาม หากมีการก่อกบฏทุกพื้นที่ หากต้องการดึงกองกำลังก่อกบฏอื่น ๆ มาเข้าพวก จะต้องพิจารณาปัญหาจากจุดยืนของพวกเขาต้องทำให้ชาวบ้านจำนวนมากมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ส่วนแคว้นต้าฉี่ในตอนนี้ เธอยังไม่แน่ใจว่าระบบที่ใช้อยู่คือระบบทาสหรือระบบศักดินาเย่มู่มู่โยนแท็บเล็ตและกระดาษข้อความลงไปจากนั้นก็ใส่หนังสือจำนวนหนึ่งกับม้วนภาพม้วนหนึ่งลงในแจกันในตอนนั้น คนหวงโทรศัพท์หาเธอ แจ้งว่าขบวนรถห้าคันของพวกเขาเดินทางมาถึงโกดังที่ตีนเขาแล้ว เถ้าแก่ชียังส่งรถบรรทุกปลายข้าวมาอีกหนึ่งคัน ตอนนี้กำลังจอดรถเพื่อขนถ่ายสินค้าอยู่ที่ตีนเขา เย่มู่มู่กอดแจกันไว้แน่นก่อนจะขับรถกระบะลงจากภูเขา *จ้านเฉิงอิ้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 293

    หลังจากรถขุดถูกส่งลงมา จ้านเฉิงอิ้นสั่งให้เฉินขุยไปหาคนมาเรียนรู้วิธีการใช้งานรถขุดในชั่วพริบตา เหล่าทหารผ่านศึกพากันล้อมเฉินขุยแน่นขนัด ต่างแย่งกันอยากเรียนวิธีขับรถขุดผู้ที่ได้ขับเครื่องจักรยักษ์ใหญ่เช่นนี้ คงจะดูสง่างามและทรงอำนาจนี่จึงถือเป็นทักษะชั้นเลิศที่ทุกคนล้วนอยากได้ในค่ายทหาร ผู้ที่ขับรถบรรทุกใหญ่ได้ จะได้รับอาหารทุกมื้อเทียบเท่ากับเหล่าแม่ทัพแถมยังมีสิ่งของพิเศษ เช่น สบู่ ผ้าขนหนู และผงซักฟอกปริมาณเสบียงที่ได้รับก็เป็นสองเท่าของทหารผ่านศึก...มีแม่สื่อไม่น้อยที่แย่งกันมาทาบทามให้เขาแต่งงาน จนธรณีประตูแทบพังยิ่งไปกว่านั้น ชายเช่นนี้เพียงแค่ก้าวออกจากบ้าน ก็สามารถเก็บผ้าเช็ดหน้าได้เป็นสิบผืน ในอกเต็มไปด้วยขนมของว่างถึงขั้นมีสาวแรกรุ่นหลายคนมาเยือนถึงหน้าประตูบ้าน แย่งกันประกาศตัวอยากแต่งงานกับเขาเหล่าทหารหนุ่มโสดในค่าย ต่างอิจฉาตาร้อน!เฉินขุยถูกทหารผ่านศึกรุมล้อมจนก้าวเดินไปอย่างยากลำบาก สุดท้าย มั่วฝานจึงต้องเข้ามาช่วยลากเขาออกมาได้สำเร็จ!หลังจากนั้น มั่วฝานก็กลายเป็นบุรุษคนแรกที่ได้ขับรถขุดในค่ายทหาร!*ที่ด่านเจิ้นกวน ในคืนที่จันทร์กระจ่างดาราริบหร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 294

    นี่คือสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในสายเลือดของพวกเขา หยุดพักแค่วันเดียวก็รู้สึกผิดแล้วชาวบ้านที่ด่านเจิ้นกวนที่เห็นชาวแคว้นฉู่ขยันขันแข็งถึงเพียงนี้ ก็ยิ่งทุ่มเททำงานหนักขึ้นกว่าเดิมจ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่งให้ติดประกาศไว้ที่ประตูเมืองทั้งสี่ทิศ“ประชาชนในเมือง ผู้ใดทำการเพาะปลูกที่ดินหนึ่งหมู่ จะได้รับรางวัลข้าวปลายหนึ่งชั่ง”“เพาะปลูกที่ดินห้าหมู่ จะได้รับแป้งสาลีหรือข้าวฟ่างหนึ่งชั่ง”“เพาะปลูกที่ดินสิบหมู่ จะได้รับผักสดห้าชั่ง และเกลือหนึ่งถุง”“เพาะปลูกที่ดินยี่สิบหมู่ จะได้รับเนื้อสองชั่ง และผ้าหนึ่งม้วน”“เพาะปลูกที่ดินสามสิบหมู่ จะได้รับเครื่องมือเกษตรที่ใช้แล้วหนึ่งชุด สบู่กำมะถันหนึ่งก้อน ผ้าขนหนูหนึ่งผืน และชุดเครื่องใช้สแตนเลสหนึ่งชุด...”“เพาะปลูกที่ดินห้าสิบหมู่ขึ้นไป จะได้รับที่ดิน และกองทัพตระกูลจ้านจะช่วยสร้างบ้านให้ พร้อมทั้งจดทะเบียนกลายเป็นประชาชนของแคว้นต้าฉีถาวร!!”“รางวัลทั้งหมดนี้สามารถสะสมได้ ระหว่างช่วงเพาะปลูก จะมีข้าวต้มขาวสองมื้อทุกวัน โดยมีไข่และหมูสับรวมอยู่ด้วย...”เมื่อประกาศถูกเผยแพร่ออกไปเหล่าชาวบ้านผู้อพยพใหม่ที่เข้ามาในด่านเจิ้นกวน รวมถึงชาวแคว้นฉู่

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 372

    จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “อืม ไปเรียกซื่อเมิ่งมาช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นเถอะ”“ขอรับ!”กองทัพตระกูลจ้านมีคนมาก พวกเขาเก็บกระดูกในบ้านในเรือนออกมาทุกหลังฝังไว้ตรงพื้นที่โล่งหน้าประตูเมืองทั้งหมดนักพรตประกอบพิธีช่วยให้หลุดพ้น พลทหารเผากระดาษเงินและจุดธูปสามดอกหน้าหลุมศพแต่ละหลุมของพวกเขาท่านเทพเป็นผู้ส่งกระดาษเงินมาให้ มีชื่อเรียกว่าลู่ลู่ทง บนกระดาษพิมพ์ลายจักรพรรดิหยกผู้เกรียงไกร…กระดาษเงินหนาปึก น่าจะมีใช้เหลือเฟือหลังจากเผากระดาษเงินเสร็จ บรรยากาศอึมครึมข้างในเมืองจึงบรรเทาลงไปบ้างพวกเขาออกจากเมืองและพบถ้ำแห่งหนึ่ง ตั้งใจจะเข้าไปพักด้านในครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องกางกระโจมจ้านเฉิงอิ้นยืนอยู่ทางเข้าถ้ำ สวี่หมิงกางกระโจมให้เขาหนึ่งหลังเพิ่งเข้ามาข้างในกระโจม เย่มู่มู่ก็ส่งกระดาษข้อความมาให้ “พวกเจ้ายังเหลืออีกกี่วันจะถึงช่องเขาเป้าเสีย?”“หกวัน ถ้าเดินเร็ว ไม่ถึงหกวัน!”“มั่นใจหรือว่าพวกเขาจะซุ่มโจมตี?”“ขอรับ ก่อนจะถึงด่านถงกวน ช่องเขาเป้าเสียเป็นสถานที่อันตรายเพียงแห่งเดียว เพราะว่าที่แห่งนี้ สวีหวยไม่ยอมให้กำลังพลหนึ่งแสนต้องเสี่ยงอันตราย ครั้นได้รับคำขอช่วยเหลือจากกองทัพตระก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 371

    เมื่อฟ้ามืด จ้านเฉิงอิ้นให้เซี่ยเวยนำกำลังพลห้าหมื่นเฝ้าอยู่ข้าง ๆ คนในครอบครัวไม่เพียงแค่คนในครอบครัว สิ่งสำคัญคือเฝ้ารักษาเสบียงยี่สิบคันและน้ำมันยี่สิบคัน…เมื่อความมืดมาเยือน ทรายเหลืองพัดเสียงดังพรึ่บภายใต้แสงจันทร์ที่ยังส่องสว่าง จ้านเฉิงอิ้นกับเฉินขุยแบ่งกำลังพลเป็นสองฝั่ง ควบม้าใช้ทางอ้อม กำจัดทหารสะกดรอยตามหนึ่งหมื่นคนของชนเผ่าหมานได้จนเสร็จสิ้นพวกเขาแน่ใจกับตำแหน่งชนเผ่าหมาน แล้วจึงเคลื่อนพลอ้อมทางไกล จู่โจมจากค่ายประจำการของกำลังพลหนึ่งหมื่นเนื่องจากนำกำลังพลออกมาสี่หมื่น จึงโจมตีทหารเผ่าหมานได้หนึ่งหมื่นกว่าคนครั้นพบค่ายประจำการของชนเผ่าหมานและทำการซ่อนตัวใกล้ ๆ แล้วทันใดนั้น สัญญาณเตือนอันหนึ่งแตกระเบิดกลางท้องฟ้าอันมืดมิดกองทัพตระกูลจ้านเคลื่อนไหวแล้ว พวกเขาโจมตีจากสองด้าน โดยใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินกำจัดคนครึ่งหนึ่งก่อนจ้านเฉิงอิ้นนำกำลังพลบุกเข้าไปเมื่ออุปกรณ์สวมใส่ของชนเผ่าหมานปะทะกับกองทัพตระกูลจ้าน มันไม่อาจให้การป้องกันได้เลยด้วยซ้ำถึงแม้ทักษะการยิงระหว่างขี่ม้าเก่งกาจก็ทำได้เพียงหลบหนี แต่ก็กลับถูกพลยิงหนูหน้าไม้ราชวงศ์ฉินที่ล้อมชั้นนอกสุดยิงตายพ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 370

    “เยี่ยมเลย!”พวกเขาเดินไปยังลานจอดรถด้วยกัน รถบรรทุกคันน้อยคันหนึ่งจอดอยู่ข้างบรรดารถเล็กอย่างโดดเด่นข้าง ๆ ยังเป็นซูเปอร์คาร์ที่ราคาไม่ธรรมดาอีกสองคันทีแรกลู่ฉีหยางคิดว่ารถของเย่มู่มู่ ต้องเป็นเฟอร์รารีสีแดงแน่นอนสุดท้ายเห็นเธอเดินไปข้างรถบรรทุกคันน้อย จากนั้นก็เปิดประตูแล้วฉีกยิ้มเชิญเขาขึ้นรถทันใดนั้น ลู่ฉีหยางจำต้องกลายเป็นหินไปสองวินาทีเขามองนาฬิกาข้อมือที่เย่มู่มู่สวมใส่อยู่บนข้อมืออีกครั้ง เป็นริชาร์ด มิลล์สำหรับผู้หญิงรุ่นลิมิติดอิดิชันที่มีไม่กี่เรือนบนโลก ราคามากกว่ายี่สิบห้าล้าน!ทว่ารถบรรทุกคันน้อย ไม่มีกระทั่งป้ายทะเบียน ไม่แน่ว่าจะราคาเพียงสองแสนห้าเขาฉีกยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางเอ่ย “มู่มู่ น้องถ่อมตัวเกินไปหน่อยหรือเปล่า!”หลังเย่มู่มู่เชิญเขาขึ้นรถอย่างเคอะเขิน ก็ขับรถไปยังร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในท้องที่เธอจองห้องรับรองเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟ ลู่ฉีหยางส่งของขวัญแสนประณีตให้เธอชิ้นหนึ่งทีแรกเย่มู่มู่ไม่อยากรับ ทว่าลู่ฉีหยางเอ่ยขึ้นว่า “รับไปเถอะ ไม่แน่ว่าสองสามวันนี้ยังต้องรบกวนน้องอีก!”หลังเย่มู่มู่รับมา ลู่ฉีหยางก็เอ่ยขึ้นอีกว่า “

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 369

    หลังเย่มู่มู่เลี้ยงอาหารจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ ก็ได้รับสายของลู่ฉีหยางรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเขาบอกว่าจะมาตอนสิบโมงเช้า ตอนนี้อีกหนึ่งชั่วโมงกว่าจะสิบโมงเช้าแล้วเย่มู่มู่หวีผมล้างหน้าแต่งตัวง่าย ๆ แต่งหน้าบาง ๆ แล้วเดินไปยังโรงจอดรถ ก่อนจะขับรถบรรทุกคันน้อยออกจากประตูไปอย่างเคยชินครั้นขับลงจากเขาไปเธอถึงพลันตระหนักขึ้นได้ว่า รถที่เธอขับมาในวันนี้คือรถบรรทุกคันน้อย!ไปรับคุณชายน้อยที่ถูกจัดอันดับอยู่ในนักธุรกิจห้าร้อยอันดับแรกรู้สึกเคอะเขินอยู่นิดหน่อย!เย่มู่มู่เองก็ขี้เกียจจะกลับไปเปลี่ยนรถสปอร์ตแล้ว จึงไปรับเขาที่สนามบินเลยหลังถึงสนามบิน เครื่องบินดีเลย์สี่สิบนาทีเย่มู่มู่ติดต่อเพื่อนร่วมเรียนในคลาสเรียนก่อนหน้านี้ คนที่ชอบพูดซุบซิบนินทาคนนั้นเธอค่อนข้างคุ้นชื่อลู่ฉีหยางเป็นอย่างดี เพราะในคลาสเรียนมีเพื่อนร่วมเรียนหญิงคนหนึ่ง เป็นแฟนคลับตัวยงของลู่ฉีหยางราวกับรับผิดชอบหน้าที่อะไรสักอย่างในองค์การนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเธอถามเพื่อนร่วมชั้นหญิงในกลุ่ม “ใครรู้จักลู่ฉีหยางบ้าง?”เพื่อนร่วมเรียนที่อยู่หอข้าง ๆ กัน คิดว่าเย่มู่มู่เองก็เป็นแฟนคลับของลู่ฉีหยางเช่นกัน จึงตอบทักทา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 368

    ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาได้รู้จักอานุภาพของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินอีกครั้งแล้วในพวกเขาห้าหมื่นคน มีหนึ่งหมื่นคนที่ติดตั้งหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ทว่ายังไม่มีเวลาฝึกซ้อมก็ต้องเดินทางตามท่านแม่ทัพใหญ่กลับเมืองหลวงแล้วฉะนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าอานุภาพของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินนั้นมันร้ายแรงเพียงใดเมื่อคืนโจรขี่ม้าออกปล้นลอบโจมตี พวกเขาห้าหมื่นคนล้วนปกป้องครอบครัวอยู่ตรงที่เดิมเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นว่ากองทัพตระกูลจ้านทำสงครามอย่างไรทุกคนต่างถูกทำให้ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งระลอกแรกที่โจรขี่ม้าออกปล้นเข้าโจมตี พวกเขาขี่รถยนต์ไปชนม้าก่อนโจรขี่ม้าออกปล้นที่เข้ามาโจมตีพลันสลายกองกำลัง ตกใจจนวิ่งหนีแตกกระเจิงขบวนถูกตีแตก ความน่าเกรงขามถูกบดขยี้เหลือเพียงวิ่งหนีสุดชีวิตหากอยู่ในสนามรบนี่คือสิ่งต้องห้าม ต้องมีจุดจบด้วยความพ่ายแพ้อย่างแน่นอนระลอกที่สองใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน พวกเขาถึงได้รู้ว่า ที่แท้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินก็ยิงได้ไกลเช่นนี้อย่างไกลยิงได้หนึ่งกิโลเมตร ใกล้ที่สุดก็มีหกร้อยเมตรแม้โจรขี่ม้าออกปล้นจะวิ่งหนี ทว่าไม่สามารถหนีพ้นระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินได้ในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ยิ่งไปกว่านั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 367

    ภายในกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว มั่วฝาน เฉินจวิ้นหลิน จวงเหลียง...ทุกคนกำลังกินไอศกรีมกันอยู่มั่วฝานมือซ้ายถือไอศกรีมรสชาติหนึ่ง มือขวาถือไอศกรีมอีกรสชาติหนึ่ง ยังไม่พอ ไม่คิดเลยว่าในอ้อมอกยังหอบไว้อีกหนึ่งกล่อง“อร่อย เย็น เนื้อเนียนละเอียด หอมหวาน นุ่ม มิหนำซ้ำยังมีรสชาติของนมเข้มข้นอีกด้วย ของกินในโลกของท่านเทพดีกว่าที่วังของแคว้นต้าฉี่เยอะ!”เฉินขุยเอ่ยผสมโรง “นั่นน่ะสิ? ครัวหลวงในวังทำไอศกรีมออกมาไม่ได้ ช่างหอมหวานเย็นชื่นใจยิ่งนัก กินไปครู่หนึ่งก็ทำให้รู้สึกเย็นไปทั่วทั้งร่าง หากของเลิศรสเช่นนี้ขายในเมืองหลวง ไม่นานได้ถูกขุนนางสูงศักดิ์ปล้นไปแน่ ๆ!”เฉินอู่กินหมดหนึ่งอันอย่างอาลัยอาวรณ์ รสชาติของไอศกรีมยังติดอยู่ที่ลิ้นเขาไม่เจือจาง“ท่านแม่ทัพ ข้าอยากเอาไปให้พวกลูก ๆ สักอัน ได้หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นล้วงออกมาหนึ่งกล่อง แล้วส่งให้เฉินอู่ “เอาไปสิ”เฉินอู่รับไปทั้งดีใจออกหน้าออกตา “ขอบคุณขอรับท่านแม่ทัพ!”ครั้นเฉินขุยเห็นน้องชายเขาได้ไปหนึ่งกล่อง เขาก็มองจ้านเฉิงอิ้นตาปริบ ๆลูกบ้านเขาเยอะ ต้องชอบเช่นกันแน่ ๆแต่ก็ไม่สามารถเอ่ยปากขอเหมือนอย่างเฉินอู่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 366

    เมื่อคืน พวกจ้านเฉิงอิ้นเจอโจรขี่ม้าออกปล้นลอบโจมตี โชคดีที่โจรขี่ม้าออกปล้นไม่มีประสบการณ์ในการรบอะไรถูกย้อนฆ่าไปเจ็ดพันกว่าคนกองทัพตระกูลจ้านไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักคนเดียวเยี่ยมมาก ความอันตรายระลอกแรกผ่านไปแล้วอันที่จริงเย่มู่มู่คิดว่าโจรขี่ม้าออกปล้นเหล่านี้ตาบอดอยู่นิดหน่อย!จ้านเฉิงอิ้นคือใครกัน?เทพสงครามแห่งต้าฉี่เมื่อสองพันก่อนเลยนะ!ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นเทพสงครามแห่งหัวเซี่ยเขาชนะในสงครามปิดล้อมเมืองที่จำนวนคนห่างกันเป็นอย่างมาก จนเลื่องชื่อไปทั้งหัวเซี่ยโจรขี่ม้าออกปล้นกลุ่มนี้คิดไม่ตกแค่ไหน ไม่คิดเลยว่าจะลอบโจมตีเขานี่มันโยนตัวเองไปให้เขาเชือดแท้ ๆ ไม่ใช่หรือ?ในทีมของเย่มู่มู่ก็มีคนพรรค์นี้อยู่ กดทีเดียวสิบห้านัด!คริสตัลระเบิดไปเลย ช่างมัน!เย่มู่มู่เขียนจดหมายส่งให้จ้านเฉิงอิ้น “เป็นอย่างไรบ้าง? อากาศร้อนหรือไม่? พวกเจ้าตั้งค่ายที่ไหน? ปลอดภัยหรือไม่?”“ท่านเทพ ไม่ต้องเป็นกังวล ตอนนี้เราปลอดภัยดี! มีคนลาดตระเวน ตอนกลางวันเกรงว่าจะส่งจดหมายให้ท่านไม่ได้ ต้องพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่เพื่อเดินทาง”“ได้ เจ้าพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนเถิด ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว หากต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 365

    โจรขี่ม้าออกปล้นหนึ่งแสนกว่าคนไม่เคยเจอสถานการณ์แก้ยากเช่นนี้มาก่อน แม้จะเคยประมือกับกองกำลังของหลัวซู่มาหลายครั้งก็ตามและพวกเขาเองก็เคยได้เปรียบมาก่อนแต่ไม่คิดเลยว่าปล้นขบวนกลับเมืองหลวงของจ้านเฉิงอิ้น จะต้องมาเจอการบดขยี้ของรถยนต์ก่อนจากนั้นก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงตามหลัง!มิหนำซ้ำยังลอบโจมตีพร้อมกับน้ำมันก๊าดอีกด้วย...หากถูกลูกศรยิง แม้นโจรขี่ม้าออกปล้นจะไม่ถึงขั้นถึงแก่ความตาย แต่ก็ถูกน้ำมันก๊าดแผดเผาจนเจ็บหนักอยู่ดีโจรขี่ม้าออกปล้นไม่น้อยล้มลงบนพื้นกลิ้งไปกลิ้งมาไม่หยุด พยายามดับไฟลูกใหญ่ที่แผดเผาอยู่ทว่านี่คือน้ำมันเบนซิน ไม่มีน้ำก็ดับไม่ได้ระหว่างที่โจรขี่ม้าออกปล้นไม่น้อยส่งเสียงกรีดร้องแสนเศร้ารันทดพลางกลิ้งไปมา การเผาไหม้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเถ้าถ่านโจรขี่ม้าออกปล้นที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เคยเห็นคนตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้มาก่อนพวกเขากลัวแล้ว!บางคนเกิดนึกเสียใจขึ้นมาแล้วนึกเสียใจในความวู่วามของตัวเอง เหตุใดต้องมาปล้นขบวนของจ้านเฉิงอิ้นด้วยพวกเขาไม่มีกระทั่งชุดเกราะ จะสู้จ้านเฉิงอิ้นที่มีอุปกรณ์ครบครันและทหารที่ผ่านการฝึกมาอย่างดีได้อย่างไรยิ่งไ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 364

    เขาส่งแท็บเล็ตไปให้ “มีโจรขี่ม้าออกปล้น พวกเขาล้อมพวกเราเอาไว้!”จ้านเฉิงอิ้นมองภาพที่อากาศยานไร้คนขับถ่ายได้เป็นเผ่าหมาน...แต่ไม่ใช่ทหารเบื้องล่างหลัวซู่ แม้นายทหารเผ่าหมานของหลัวซู่จะเกียจคร้าน แต่ก็ล้วนสวมใส่ชุดเกราะที่ยึดมาได้หลากหลายที่น้อยที่จะสวมเสื้อผ้าปะขาดรุ่งริ่งพร้อมถือมีดมาปล้น“โจรขี่ม้าออกปล้น?”“ใช่ ไม่ใช่เพียงแค่โจรขี่ม้าออกปล้นจากเผ่าหมาน แต่ยังมีชาวบ้านที่ใช้ชีวิตอยู่ในแคว้นฉู่ แค้วนฉีและแคว้นเยี่ยนไม่ได้อีกด้วย จำนวนคนของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่ามีหนึ่งแสนกว่าคนแล้ว และยังมีคนหนุ่มอีกมากมายเข้าร่วมกองโจรขี่ม้าออกปล้นทุกวัน”“พวกเขาอยู่ในทุ่งหญ้า คิดจะชิงอำนาจปกครองของหลัวซู่อยู่หลายครั้ง ทว่าไม่สำเร็จ”“แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร เข้ายึดครองทุ่งหญ้า วัว แกะและม้าของคนเลี้ยงสัตว์ เหตุใดคนมากมายถึงเข้าร่วมกับพวกเขา เนื่องจากเมื่อปล้นมาได้แล้วก็จะฆ่าม้า ฆ่าวัว ฆ่าแกะกินเนื้อ ไม่ได้เลี้ยงแกะหรือวัวก็ฆ่าคน”“ทุกที่ที่ไปถึงไม่มีใบไม้ต้นหญ้างอกงามแม้แต่ต้นเดียว”“หลัวซู่ทำลายพวกเขาไม่ได้ และทำอะไรพวกเขาไม่ได้ สองสามวันก่อนพวกเขายังไม่มา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status