Share

บทที่ 291

Author: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นเบิกตาอย่างดุดัน สีหน้าตึงเครียด

“กองทัพธงเหลืองมีความเป็นมาอย่างไร?”

มั่วฝานหยิบม้วนเอกสารลับออกมาจากอกเสื้อ แล้วส่งให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือ

จ้านเฉิงอิ้นดึงกระดาษสีขาวในกระบอกไม้ไผ่ออกมา

เขาเปิดเอกสารลับนั้นอย่างระมัดระวัง

ข้อความเขียนโดยหน่วยกล้าตาย พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงบุคคลสำคัญในระดับสูงได้ สมาชิกทั้งหมดในตอนนี้ กินโจ๊กที่ทำจากข้าวฟ่าง

ข้าวฟ่างสะอาดมาก ไม่มีกรวดปะปน ไม่มีการผสมเปลือกข้าวและรำข้าว

ข้าวฟ่าง หรืออีกชื่อคือข้าวเม็ดเล็ก เป็นสิ่งที่ท่านเทพประทานมาให้จำนวนมาก

ชาวบ้านในด่านเจิ้นกวนกลับชอบกินข้าวขาวและแป้งสาลีมากกว่า ข้าวขาวนำมาทำเป็นโจ๊ก ส่วนแป้งสาลีนำมาทำเป็นแป้งเหลวหรือก้อนแป้ง

ข้าวเม็ดเล็กกลับไม่มีใครเต็มใจจะแลก ดังนั้นจึงถูกกองไว้ในคลังเสบียง

ปัจจุบันนี้ ความอดอยากเกิดขึ้นมาหนึ่งปีแล้ว ธัญพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ แม้จะมีข้าวเก็บ ก็ไม่อาจเพียงพอเลี้ยงคนจำนวนมากขนาดนี้ได้

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังกองทัพธงเหลือง เกรงว่าคงมาจากโลกเดียวกับเทพเจ้า

ใต้กระดาษสีขาวนั้น มีภาพวาดของอาวุธที่กองทัพธงเหลืองใช้งาน

ส่วนใหญ่เป็นดาบและกระบี่ รวมถึงอาวุธทหารรูป
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 292

    เธอค้นหาหนังสือจากในตู้หนังสือแถมหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “อุดมการณ์และแนวคิดของมาร์กซิสต์-เลนินนิสต์”เธอถอดม้วนกระดาษบทกวีที่มีชื่อว่า “วสันต์สวนชิ่น : หิมะ” ที่แขวนอยู่บนผนังลงมาเธออุ้มหนังสือที่ซ้อนทับ พร้อมเขียนข้อความลงบนกระดาษ ส่งหนังสือที่ล้ำค่า รวมถึงม้วนบทกวีเหล่านี้ขอให้เขาอ่านให้จบก่อนส่วนเรื่องการบริหารจัดการชาวบ้านในชายแดนด่านเจิ้นกวนอย่างไรในอนาคต เธอจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างไรก็ตาม หากมีการก่อกบฏทุกพื้นที่ หากต้องการดึงกองกำลังก่อกบฏอื่น ๆ มาเข้าพวก จะต้องพิจารณาปัญหาจากจุดยืนของพวกเขาต้องทำให้ชาวบ้านจำนวนมากมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ส่วนแคว้นต้าฉี่ในตอนนี้ เธอยังไม่แน่ใจว่าระบบที่ใช้อยู่คือระบบทาสหรือระบบศักดินาเย่มู่มู่โยนแท็บเล็ตและกระดาษข้อความลงไปจากนั้นก็ใส่หนังสือจำนวนหนึ่งกับม้วนภาพม้วนหนึ่งลงในแจกันในตอนนั้น คนหวงโทรศัพท์หาเธอ แจ้งว่าขบวนรถห้าคันของพวกเขาเดินทางมาถึงโกดังที่ตีนเขาแล้ว เถ้าแก่ชียังส่งรถบรรทุกปลายข้าวมาอีกหนึ่งคัน ตอนนี้กำลังจอดรถเพื่อขนถ่ายสินค้าอยู่ที่ตีนเขา เย่มู่มู่กอดแจกันไว้แน่นก่อนจะขับรถกระบะลงจากภูเขา *จ้านเฉิงอิ้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 293

    หลังจากรถขุดถูกส่งลงมา จ้านเฉิงอิ้นสั่งให้เฉินขุยไปหาคนมาเรียนรู้วิธีการใช้งานรถขุดในชั่วพริบตา เหล่าทหารผ่านศึกพากันล้อมเฉินขุยแน่นขนัด ต่างแย่งกันอยากเรียนวิธีขับรถขุดผู้ที่ได้ขับเครื่องจักรยักษ์ใหญ่เช่นนี้ คงจะดูสง่างามและทรงอำนาจนี่จึงถือเป็นทักษะชั้นเลิศที่ทุกคนล้วนอยากได้ในค่ายทหาร ผู้ที่ขับรถบรรทุกใหญ่ได้ จะได้รับอาหารทุกมื้อเทียบเท่ากับเหล่าแม่ทัพแถมยังมีสิ่งของพิเศษ เช่น สบู่ ผ้าขนหนู และผงซักฟอกปริมาณเสบียงที่ได้รับก็เป็นสองเท่าของทหารผ่านศึก...มีแม่สื่อไม่น้อยที่แย่งกันมาทาบทามให้เขาแต่งงาน จนธรณีประตูแทบพังยิ่งไปกว่านั้น ชายเช่นนี้เพียงแค่ก้าวออกจากบ้าน ก็สามารถเก็บผ้าเช็ดหน้าได้เป็นสิบผืน ในอกเต็มไปด้วยขนมของว่างถึงขั้นมีสาวแรกรุ่นหลายคนมาเยือนถึงหน้าประตูบ้าน แย่งกันประกาศตัวอยากแต่งงานกับเขาเหล่าทหารหนุ่มโสดในค่าย ต่างอิจฉาตาร้อน!เฉินขุยถูกทหารผ่านศึกรุมล้อมจนก้าวเดินไปอย่างยากลำบาก สุดท้าย มั่วฝานจึงต้องเข้ามาช่วยลากเขาออกมาได้สำเร็จ!หลังจากนั้น มั่วฝานก็กลายเป็นบุรุษคนแรกที่ได้ขับรถขุดในค่ายทหาร!*ที่ด่านเจิ้นกวน ในคืนที่จันทร์กระจ่างดาราริบหร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 294

    นี่คือสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในสายเลือดของพวกเขา หยุดพักแค่วันเดียวก็รู้สึกผิดแล้วชาวบ้านที่ด่านเจิ้นกวนที่เห็นชาวแคว้นฉู่ขยันขันแข็งถึงเพียงนี้ ก็ยิ่งทุ่มเททำงานหนักขึ้นกว่าเดิมจ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่งให้ติดประกาศไว้ที่ประตูเมืองทั้งสี่ทิศ“ประชาชนในเมือง ผู้ใดทำการเพาะปลูกที่ดินหนึ่งหมู่ จะได้รับรางวัลข้าวปลายหนึ่งชั่ง”“เพาะปลูกที่ดินห้าหมู่ จะได้รับแป้งสาลีหรือข้าวฟ่างหนึ่งชั่ง”“เพาะปลูกที่ดินสิบหมู่ จะได้รับผักสดห้าชั่ง และเกลือหนึ่งถุง”“เพาะปลูกที่ดินยี่สิบหมู่ จะได้รับเนื้อสองชั่ง และผ้าหนึ่งม้วน”“เพาะปลูกที่ดินสามสิบหมู่ จะได้รับเครื่องมือเกษตรที่ใช้แล้วหนึ่งชุด สบู่กำมะถันหนึ่งก้อน ผ้าขนหนูหนึ่งผืน และชุดเครื่องใช้สแตนเลสหนึ่งชุด...”“เพาะปลูกที่ดินห้าสิบหมู่ขึ้นไป จะได้รับที่ดิน และกองทัพตระกูลจ้านจะช่วยสร้างบ้านให้ พร้อมทั้งจดทะเบียนกลายเป็นประชาชนของแคว้นต้าฉีถาวร!!”“รางวัลทั้งหมดนี้สามารถสะสมได้ ระหว่างช่วงเพาะปลูก จะมีข้าวต้มขาวสองมื้อทุกวัน โดยมีไข่และหมูสับรวมอยู่ด้วย...”เมื่อประกาศถูกเผยแพร่ออกไปเหล่าชาวบ้านผู้อพยพใหม่ที่เข้ามาในด่านเจิ้นกวน รวมถึงชาวแคว้นฉู่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 295

    เย่มู่มู่บินต่อเนื่องมาครึ่งเดือนเต็ม และในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองร้านขายของโบราณได้รับการตกแต่งจนเสร็จเรียบร้อย พร้อมสำหรับการเปิดร้านในวันเปิดร้านและตัดริบบิ้น เธอนำไม้เนื้อดีล้ำค่าที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมา ถูกนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ครึ่งสำเร็จรูป แล้วนำมาวางขายในร้าน!ทั้งหมดนี้เป็นของที่แม่ทัพเฉินขุยส่งมาจากสำนักช่างไม้ ส่งเก้าอี้หวงหลีฮวาที่อยู่ในขั้นตอนทำเสร็จครึ่งเดียว...เปลไม้ขนาดเล็กและดาบไม้เล็กที่ทำจากไม้หนานมู่เนื้อทองชามไม้ใบเล็กและตัวต่อหลู่ปันที่ทำจากไม้ยินเฉิน...รวมทั้งหมดสิบกว่าชิ้นเธอขับรถกระบะเข้าไปในถนนสายของโบราณ ทั้งถนนประดับไปด้วยตะกร้าดอกไม้ตะกร้าดอกไม้เหล่านี้เป็นของขวัญแสดงความยินดีที่ส่งมาจากประธานสมาคมการค้าใหญ่ และนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลเย่มู่มู่ขณะเดียวกันก็ยังพึมพำในใจนี่เป็นร้านของใครกัน ถึงกับเปิดในวันเดียวกับร้านของเธอแต่เมื่อเธอจอดรถตรงหน้าร้านของตัวเอง ก็เห็นตะกร้าดอกไม้นับไม่ถ้วนเรียงรายอยู่ยังไม่รวมบอดีการ์ดในชุดดำที่ยืนเรียงกันอย่างเป็นระเบียบอยู่สองฝั่งข้างร้าน กีดขวางหน้าประตูร้านอื่นจนหมด!แต่ไม่มีใครออกมาพูดอะไรสักคำ!เย่มู่มู่เห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 296

    เย่มู่มู่เปิดท้ายรถ หยิบเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งที่ยังไม่ได้ลงสีออกมา“ไม้หวงฮวาหลีท่านลองดูสิว่าใช่หรือเปล่า?”ผู้อาวุโสจางรับมาชั่งน้ำหนักในมือก่อนจะพิจารณาดูเนื้อไม้ใกล้ ๆ“มันคือไม้หวงฮวาหลีจริง ๆ!”“เก้าอี้ตัวนี้ผมเอา!”ผู้อาวุโสมู่พึ่งก้าวออกมาจากหน้าร้าน เห็นสองคนที่หน้าด้านแย่งกันซื้อของโบราณ เขาตะโกนเสียงดังลั่น “วางลง วางของลงเดี๋ยวนี้!”“ตอนนี้ ทุกคนถอยไป! ซ่งจือเซี่ยน ลู่เทา...ยังไม่รีบออกมาขนของอีก?”บรรดาผู้มีอิทธิพลต่างถอยกรูดทันทีหลังผู้อาวุโสมู่ตวาดลั่นเวินลี่ สวีหยาง ซ่งจือเซี่ยน และลู่เทารีบออกมาจากในร้านทันที พวกเขาช่วยกันยกของโบราณออกจากท้ายรถอย่างระมัดระวังวันนี้ ผู้อำนวยการหลี่เจิ้งชิงและรองผู้อำนวยการจางต่างก็มาแล้วเมื่อได้ยินเสียงเอะอะ พวกเขารีบเดินออกมาจากหน้าร้านทันทีที่เห็นเฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณอายุกว่าสองพันปี ทั้งคู่ต่างรีบวิ่งกรูลงมาผู้อำนวยการหลี่มือสั่นเทา เมื่อรับชามไม้ที่ยังไม่ได้เคลือบ ใต้ก้นชามมีอักษรรูปภาพโบราณ เขาหัวเราะจนปากแทบหุบไม่ลง“มาถูกที่แล้ว มาคราวนี้คุ้มจริง ๆ!”จางหลินช่วยยกเก้าอี้อย่างระมัดระวัง เก้าอี้ตัวนั้นมีรูปทรงค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 297

    เย่มู่มู่เห็นคนงานในไซต์ก่อสร้างทำงานจนเหงื่อท่วมตัว เธอจึงเหมาซื้อน้ำและเครื่องดื่มทั้งหมดในตู้แช่ริมถนนคนงานแต่ละคนได้รับน้ำคนละขวด และไอศกรีมแท่งคนละแท่งในตู้เย็นยังมีของเหลือพอสำหรับรอบที่สองให้พวกเขาดื่มกินอีกหัวหน้าผู้รับเหมาเห็นว่าเย่มู่มู่เป็นคนพูดคุยง่าย จึงถามขึ้น“คุณหนูเย่ครับ แผนกบริหารตลาดการค้าเกษตร ท่านคิดจะให้ใครมาดูแลครับ? ได้คนแล้วหรือยัง?”“ถ้าท่านไม่ได้มาคอยดูเองบ่อย ๆ ก็ต้องหาคนที่ไว้ใจได้มาทำแทนนะครับ!”เย่มู่มู่ยิ้มแล้วตอบว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ในเมื่อผู้ใหญ่บ้านแนะนำคุณมาให้ฉันได้ ฉันก็ไว้ใจคนที่เขาแนะนำได้เหมือนกัน!”หัวหน้าผู้รับเหมาหัวเราะเจื่อน ๆ “ช่วงสองสามปีนี้งานก่อสร้างไม่ค่อยดีเลยครับ อสังหาริมทรัพย์กำลังตกต่ำ งานหลายที่ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ผมเองก็คิดอยากเปลี่ยนสายงานเหมือนกัน” เย่มู่มู่ไม่ได้ไม่เชื่อใจหัวหน้าผู้รับเหมา เพียงแค่ยังรู้จักเขาไม่มากพอ“พวกเรามาช่วยกันสร้างตลาดให้เสร็จก่อนนะคะ ท่านอยู่แถวนี้รู้จักคนเยอะ...”เย่มู่มู่ไม่ได้พูดต่อแต่หัวหน้าผู้รับเหมาเองก็ไม่ใช่คนซื่อจนไม่เข้าใจ เขาเข้าใจความหมายที่เย่มู่มู่ต้องการสื่อถ้าเขาทำงา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 298

    “ว้าว~”“ทองคำและเงินสมบัติกว่าหนึ่งร้อยสามสิบหีบ!”เย่มู่มู่แทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าขายออกทั้งหมดจะได้เงินเท่าไร!และยิ่งไปกว่านั้น คฤหาสน์หลังนี้ก็ใกล้จะไม่มีที่เก็บแล้วจริง ๆถ้าส่งสมบัติเหล่านี้มาจริง ๆ คงต้องจัดการห้องโฮมเธียเตอร์ในชั้นใต้ดินชั้นสองออกไปก่อน“สมบัติชุดนี้ฝากไว้ที่เจ้าก่อนนะ ทางข้าไม่มีที่จะวางแล้ว”จากนั้น จ้านเฉิงอิ้นก็ส่งข้อความตอบกลับมาอีก“อืม เดือนหน้า จะมีร้านค้าจากอีกหลายสิบแห่งย้ายเข้ามาที่ด่านเจิ้นกวน พวกเขาก็จะมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เหมือนกัน ตอนนั้นคงมีสมบัติอีกมากเพิ่มเข้ามา!”“ท่านเทพ ข้าจะช่วยท่านเก็บสมบัติไว้ก่อน ท่านจะใช้เมื่อได้ก็ได้!”เย่มู่มู่อ่านข้อความบนกระดาษแล้วหัวเราะออกมาดูสิ~สมกับเป็นแม่ทัพใหญ่ที่เธอเลี้ยงดูมาจริง ๆ! ยอมมอบเงินให้โดยสมัครใจ!ทันใดนั้น เย่มู่มู่ก็นึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้จ้านเฉิงอิ้นเคยฝากหยกเนื้อดีที่ทำจากหยกไขมันแกะไว้กับเธอที่นี่คงถึงเวลาที่ต้องคืนเขาแล้วเธอเดินขึ้นไปหยิบกล่องผ้าที่เก็บไว้ในห้อง ภายในนั้นบรรจุหยกแขวนของจ้านเฉิงอิ้นไว้ระหว่างนั้น ก็ยังนึกถึงของขวัญที่ได้รับวันนี้ในงานเปิดร้านให

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 299

    ผู้ที่ลงมือวางยาคงคาดไม่ถึงว่า ทะเลสาบเก็บน้ำแห่งนี้มีทหารคอยเฝ้ารักษาการอยู่ตลอดเวลาเส้นทางขึ้นเขาทุกสายล้วนติดตั้งกล้องวงจรปิด หากมีผู้ใดขึ้นเขามา ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ระบบสัญญาณเตือนภัยที่ติดตั้งไว้จะถูกเปิดใช้งานในทันที เพื่อแจ้งเตือนทหารที่เฝ้าทะเลสาบเสียงของจ้านเฉิงอิ้นเย็นชา “ง้างปากพวกมันให้ได้ ยืนยันให้ได้ว่าคนของเสนาบดีซูเป็นผู้ลงมือวางยา!”“รับทราบ ท่านแม่ทัพ!” เทียนฉินขานรับ ก่อนจะรีบออกจากกระโจมไปในขณะนั้นเอง เหล่าทหารหลายนายเดินเข้ามายังกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะยกมือทำความเคารพเฉินขุยเอ่ยขึ้นก่อนใคร “ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยไม่อาจทนกับพวกสามคนนั้นได้อีกแล้ว หากท่านอนุญาต ข้าน้อยขอจัดการพวกมันด้วยดาบ!”จ้านเฉิงอิ้นเงยหน้าขึ้น กวาดมองทุกคนพบว่าหลายคนมีสีหน้าขุ่นเคือง โดยเฉพาะเฉินขุย ที่ดูเหมือนจะโกรธจนหน้าแดงก่ำคิ้วคมของจ้านเฉิงอิ้นขมวดเล็กน้อย ถามเขาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลี่หยวนจงรีบก้าวขึ้นมารายงานก่อน “ท่านแม่ทัพ ขุนนางผู้ตรวจการซ่งจิ้น เพิ่งจะออกไปเดินหาโรงเตี๊ยมตามท้องถนน หวังจะเที่ยวหอนางโลม แต่ที่ด่านเจิ้นกวนของพวกเราจะมีหอนางโลมได้อย

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 372

    จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “อืม ไปเรียกซื่อเมิ่งมาช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นเถอะ”“ขอรับ!”กองทัพตระกูลจ้านมีคนมาก พวกเขาเก็บกระดูกในบ้านในเรือนออกมาทุกหลังฝังไว้ตรงพื้นที่โล่งหน้าประตูเมืองทั้งหมดนักพรตประกอบพิธีช่วยให้หลุดพ้น พลทหารเผากระดาษเงินและจุดธูปสามดอกหน้าหลุมศพแต่ละหลุมของพวกเขาท่านเทพเป็นผู้ส่งกระดาษเงินมาให้ มีชื่อเรียกว่าลู่ลู่ทง บนกระดาษพิมพ์ลายจักรพรรดิหยกผู้เกรียงไกร…กระดาษเงินหนาปึก น่าจะมีใช้เหลือเฟือหลังจากเผากระดาษเงินเสร็จ บรรยากาศอึมครึมข้างในเมืองจึงบรรเทาลงไปบ้างพวกเขาออกจากเมืองและพบถ้ำแห่งหนึ่ง ตั้งใจจะเข้าไปพักด้านในครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องกางกระโจมจ้านเฉิงอิ้นยืนอยู่ทางเข้าถ้ำ สวี่หมิงกางกระโจมให้เขาหนึ่งหลังเพิ่งเข้ามาข้างในกระโจม เย่มู่มู่ก็ส่งกระดาษข้อความมาให้ “พวกเจ้ายังเหลืออีกกี่วันจะถึงช่องเขาเป้าเสีย?”“หกวัน ถ้าเดินเร็ว ไม่ถึงหกวัน!”“มั่นใจหรือว่าพวกเขาจะซุ่มโจมตี?”“ขอรับ ก่อนจะถึงด่านถงกวน ช่องเขาเป้าเสียเป็นสถานที่อันตรายเพียงแห่งเดียว เพราะว่าที่แห่งนี้ สวีหวยไม่ยอมให้กำลังพลหนึ่งแสนต้องเสี่ยงอันตราย ครั้นได้รับคำขอช่วยเหลือจากกองทัพตระก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 371

    เมื่อฟ้ามืด จ้านเฉิงอิ้นให้เซี่ยเวยนำกำลังพลห้าหมื่นเฝ้าอยู่ข้าง ๆ คนในครอบครัวไม่เพียงแค่คนในครอบครัว สิ่งสำคัญคือเฝ้ารักษาเสบียงยี่สิบคันและน้ำมันยี่สิบคัน…เมื่อความมืดมาเยือน ทรายเหลืองพัดเสียงดังพรึ่บภายใต้แสงจันทร์ที่ยังส่องสว่าง จ้านเฉิงอิ้นกับเฉินขุยแบ่งกำลังพลเป็นสองฝั่ง ควบม้าใช้ทางอ้อม กำจัดทหารสะกดรอยตามหนึ่งหมื่นคนของชนเผ่าหมานได้จนเสร็จสิ้นพวกเขาแน่ใจกับตำแหน่งชนเผ่าหมาน แล้วจึงเคลื่อนพลอ้อมทางไกล จู่โจมจากค่ายประจำการของกำลังพลหนึ่งหมื่นเนื่องจากนำกำลังพลออกมาสี่หมื่น จึงโจมตีทหารเผ่าหมานได้หนึ่งหมื่นกว่าคนครั้นพบค่ายประจำการของชนเผ่าหมานและทำการซ่อนตัวใกล้ ๆ แล้วทันใดนั้น สัญญาณเตือนอันหนึ่งแตกระเบิดกลางท้องฟ้าอันมืดมิดกองทัพตระกูลจ้านเคลื่อนไหวแล้ว พวกเขาโจมตีจากสองด้าน โดยใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินกำจัดคนครึ่งหนึ่งก่อนจ้านเฉิงอิ้นนำกำลังพลบุกเข้าไปเมื่ออุปกรณ์สวมใส่ของชนเผ่าหมานปะทะกับกองทัพตระกูลจ้าน มันไม่อาจให้การป้องกันได้เลยด้วยซ้ำถึงแม้ทักษะการยิงระหว่างขี่ม้าเก่งกาจก็ทำได้เพียงหลบหนี แต่ก็กลับถูกพลยิงหนูหน้าไม้ราชวงศ์ฉินที่ล้อมชั้นนอกสุดยิงตายพ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 370

    “เยี่ยมเลย!”พวกเขาเดินไปยังลานจอดรถด้วยกัน รถบรรทุกคันน้อยคันหนึ่งจอดอยู่ข้างบรรดารถเล็กอย่างโดดเด่นข้าง ๆ ยังเป็นซูเปอร์คาร์ที่ราคาไม่ธรรมดาอีกสองคันทีแรกลู่ฉีหยางคิดว่ารถของเย่มู่มู่ ต้องเป็นเฟอร์รารีสีแดงแน่นอนสุดท้ายเห็นเธอเดินไปข้างรถบรรทุกคันน้อย จากนั้นก็เปิดประตูแล้วฉีกยิ้มเชิญเขาขึ้นรถทันใดนั้น ลู่ฉีหยางจำต้องกลายเป็นหินไปสองวินาทีเขามองนาฬิกาข้อมือที่เย่มู่มู่สวมใส่อยู่บนข้อมืออีกครั้ง เป็นริชาร์ด มิลล์สำหรับผู้หญิงรุ่นลิมิติดอิดิชันที่มีไม่กี่เรือนบนโลก ราคามากกว่ายี่สิบห้าล้าน!ทว่ารถบรรทุกคันน้อย ไม่มีกระทั่งป้ายทะเบียน ไม่แน่ว่าจะราคาเพียงสองแสนห้าเขาฉีกยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางเอ่ย “มู่มู่ น้องถ่อมตัวเกินไปหน่อยหรือเปล่า!”หลังเย่มู่มู่เชิญเขาขึ้นรถอย่างเคอะเขิน ก็ขับรถไปยังร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในท้องที่เธอจองห้องรับรองเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟ ลู่ฉีหยางส่งของขวัญแสนประณีตให้เธอชิ้นหนึ่งทีแรกเย่มู่มู่ไม่อยากรับ ทว่าลู่ฉีหยางเอ่ยขึ้นว่า “รับไปเถอะ ไม่แน่ว่าสองสามวันนี้ยังต้องรบกวนน้องอีก!”หลังเย่มู่มู่รับมา ลู่ฉีหยางก็เอ่ยขึ้นอีกว่า “

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 369

    หลังเย่มู่มู่เลี้ยงอาหารจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ ก็ได้รับสายของลู่ฉีหยางรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเขาบอกว่าจะมาตอนสิบโมงเช้า ตอนนี้อีกหนึ่งชั่วโมงกว่าจะสิบโมงเช้าแล้วเย่มู่มู่หวีผมล้างหน้าแต่งตัวง่าย ๆ แต่งหน้าบาง ๆ แล้วเดินไปยังโรงจอดรถ ก่อนจะขับรถบรรทุกคันน้อยออกจากประตูไปอย่างเคยชินครั้นขับลงจากเขาไปเธอถึงพลันตระหนักขึ้นได้ว่า รถที่เธอขับมาในวันนี้คือรถบรรทุกคันน้อย!ไปรับคุณชายน้อยที่ถูกจัดอันดับอยู่ในนักธุรกิจห้าร้อยอันดับแรกรู้สึกเคอะเขินอยู่นิดหน่อย!เย่มู่มู่เองก็ขี้เกียจจะกลับไปเปลี่ยนรถสปอร์ตแล้ว จึงไปรับเขาที่สนามบินเลยหลังถึงสนามบิน เครื่องบินดีเลย์สี่สิบนาทีเย่มู่มู่ติดต่อเพื่อนร่วมเรียนในคลาสเรียนก่อนหน้านี้ คนที่ชอบพูดซุบซิบนินทาคนนั้นเธอค่อนข้างคุ้นชื่อลู่ฉีหยางเป็นอย่างดี เพราะในคลาสเรียนมีเพื่อนร่วมเรียนหญิงคนหนึ่ง เป็นแฟนคลับตัวยงของลู่ฉีหยางราวกับรับผิดชอบหน้าที่อะไรสักอย่างในองค์การนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเธอถามเพื่อนร่วมชั้นหญิงในกลุ่ม “ใครรู้จักลู่ฉีหยางบ้าง?”เพื่อนร่วมเรียนที่อยู่หอข้าง ๆ กัน คิดว่าเย่มู่มู่เองก็เป็นแฟนคลับของลู่ฉีหยางเช่นกัน จึงตอบทักทา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 368

    ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาได้รู้จักอานุภาพของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินอีกครั้งแล้วในพวกเขาห้าหมื่นคน มีหนึ่งหมื่นคนที่ติดตั้งหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ทว่ายังไม่มีเวลาฝึกซ้อมก็ต้องเดินทางตามท่านแม่ทัพใหญ่กลับเมืองหลวงแล้วฉะนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าอานุภาพของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินนั้นมันร้ายแรงเพียงใดเมื่อคืนโจรขี่ม้าออกปล้นลอบโจมตี พวกเขาห้าหมื่นคนล้วนปกป้องครอบครัวอยู่ตรงที่เดิมเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นว่ากองทัพตระกูลจ้านทำสงครามอย่างไรทุกคนต่างถูกทำให้ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งระลอกแรกที่โจรขี่ม้าออกปล้นเข้าโจมตี พวกเขาขี่รถยนต์ไปชนม้าก่อนโจรขี่ม้าออกปล้นที่เข้ามาโจมตีพลันสลายกองกำลัง ตกใจจนวิ่งหนีแตกกระเจิงขบวนถูกตีแตก ความน่าเกรงขามถูกบดขยี้เหลือเพียงวิ่งหนีสุดชีวิตหากอยู่ในสนามรบนี่คือสิ่งต้องห้าม ต้องมีจุดจบด้วยความพ่ายแพ้อย่างแน่นอนระลอกที่สองใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน พวกเขาถึงได้รู้ว่า ที่แท้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินก็ยิงได้ไกลเช่นนี้อย่างไกลยิงได้หนึ่งกิโลเมตร ใกล้ที่สุดก็มีหกร้อยเมตรแม้โจรขี่ม้าออกปล้นจะวิ่งหนี ทว่าไม่สามารถหนีพ้นระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินได้ในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ยิ่งไปกว่านั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 367

    ภายในกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว มั่วฝาน เฉินจวิ้นหลิน จวงเหลียง...ทุกคนกำลังกินไอศกรีมกันอยู่มั่วฝานมือซ้ายถือไอศกรีมรสชาติหนึ่ง มือขวาถือไอศกรีมอีกรสชาติหนึ่ง ยังไม่พอ ไม่คิดเลยว่าในอ้อมอกยังหอบไว้อีกหนึ่งกล่อง“อร่อย เย็น เนื้อเนียนละเอียด หอมหวาน นุ่ม มิหนำซ้ำยังมีรสชาติของนมเข้มข้นอีกด้วย ของกินในโลกของท่านเทพดีกว่าที่วังของแคว้นต้าฉี่เยอะ!”เฉินขุยเอ่ยผสมโรง “นั่นน่ะสิ? ครัวหลวงในวังทำไอศกรีมออกมาไม่ได้ ช่างหอมหวานเย็นชื่นใจยิ่งนัก กินไปครู่หนึ่งก็ทำให้รู้สึกเย็นไปทั่วทั้งร่าง หากของเลิศรสเช่นนี้ขายในเมืองหลวง ไม่นานได้ถูกขุนนางสูงศักดิ์ปล้นไปแน่ ๆ!”เฉินอู่กินหมดหนึ่งอันอย่างอาลัยอาวรณ์ รสชาติของไอศกรีมยังติดอยู่ที่ลิ้นเขาไม่เจือจาง“ท่านแม่ทัพ ข้าอยากเอาไปให้พวกลูก ๆ สักอัน ได้หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นล้วงออกมาหนึ่งกล่อง แล้วส่งให้เฉินอู่ “เอาไปสิ”เฉินอู่รับไปทั้งดีใจออกหน้าออกตา “ขอบคุณขอรับท่านแม่ทัพ!”ครั้นเฉินขุยเห็นน้องชายเขาได้ไปหนึ่งกล่อง เขาก็มองจ้านเฉิงอิ้นตาปริบ ๆลูกบ้านเขาเยอะ ต้องชอบเช่นกันแน่ ๆแต่ก็ไม่สามารถเอ่ยปากขอเหมือนอย่างเฉินอู่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 366

    เมื่อคืน พวกจ้านเฉิงอิ้นเจอโจรขี่ม้าออกปล้นลอบโจมตี โชคดีที่โจรขี่ม้าออกปล้นไม่มีประสบการณ์ในการรบอะไรถูกย้อนฆ่าไปเจ็ดพันกว่าคนกองทัพตระกูลจ้านไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักคนเดียวเยี่ยมมาก ความอันตรายระลอกแรกผ่านไปแล้วอันที่จริงเย่มู่มู่คิดว่าโจรขี่ม้าออกปล้นเหล่านี้ตาบอดอยู่นิดหน่อย!จ้านเฉิงอิ้นคือใครกัน?เทพสงครามแห่งต้าฉี่เมื่อสองพันก่อนเลยนะ!ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นเทพสงครามแห่งหัวเซี่ยเขาชนะในสงครามปิดล้อมเมืองที่จำนวนคนห่างกันเป็นอย่างมาก จนเลื่องชื่อไปทั้งหัวเซี่ยโจรขี่ม้าออกปล้นกลุ่มนี้คิดไม่ตกแค่ไหน ไม่คิดเลยว่าจะลอบโจมตีเขานี่มันโยนตัวเองไปให้เขาเชือดแท้ ๆ ไม่ใช่หรือ?ในทีมของเย่มู่มู่ก็มีคนพรรค์นี้อยู่ กดทีเดียวสิบห้านัด!คริสตัลระเบิดไปเลย ช่างมัน!เย่มู่มู่เขียนจดหมายส่งให้จ้านเฉิงอิ้น “เป็นอย่างไรบ้าง? อากาศร้อนหรือไม่? พวกเจ้าตั้งค่ายที่ไหน? ปลอดภัยหรือไม่?”“ท่านเทพ ไม่ต้องเป็นกังวล ตอนนี้เราปลอดภัยดี! มีคนลาดตระเวน ตอนกลางวันเกรงว่าจะส่งจดหมายให้ท่านไม่ได้ ต้องพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่เพื่อเดินทาง”“ได้ เจ้าพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนเถิด ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว หากต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 365

    โจรขี่ม้าออกปล้นหนึ่งแสนกว่าคนไม่เคยเจอสถานการณ์แก้ยากเช่นนี้มาก่อน แม้จะเคยประมือกับกองกำลังของหลัวซู่มาหลายครั้งก็ตามและพวกเขาเองก็เคยได้เปรียบมาก่อนแต่ไม่คิดเลยว่าปล้นขบวนกลับเมืองหลวงของจ้านเฉิงอิ้น จะต้องมาเจอการบดขยี้ของรถยนต์ก่อนจากนั้นก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงตามหลัง!มิหนำซ้ำยังลอบโจมตีพร้อมกับน้ำมันก๊าดอีกด้วย...หากถูกลูกศรยิง แม้นโจรขี่ม้าออกปล้นจะไม่ถึงขั้นถึงแก่ความตาย แต่ก็ถูกน้ำมันก๊าดแผดเผาจนเจ็บหนักอยู่ดีโจรขี่ม้าออกปล้นไม่น้อยล้มลงบนพื้นกลิ้งไปกลิ้งมาไม่หยุด พยายามดับไฟลูกใหญ่ที่แผดเผาอยู่ทว่านี่คือน้ำมันเบนซิน ไม่มีน้ำก็ดับไม่ได้ระหว่างที่โจรขี่ม้าออกปล้นไม่น้อยส่งเสียงกรีดร้องแสนเศร้ารันทดพลางกลิ้งไปมา การเผาไหม้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเถ้าถ่านโจรขี่ม้าออกปล้นที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เคยเห็นคนตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้มาก่อนพวกเขากลัวแล้ว!บางคนเกิดนึกเสียใจขึ้นมาแล้วนึกเสียใจในความวู่วามของตัวเอง เหตุใดต้องมาปล้นขบวนของจ้านเฉิงอิ้นด้วยพวกเขาไม่มีกระทั่งชุดเกราะ จะสู้จ้านเฉิงอิ้นที่มีอุปกรณ์ครบครันและทหารที่ผ่านการฝึกมาอย่างดีได้อย่างไรยิ่งไ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 364

    เขาส่งแท็บเล็ตไปให้ “มีโจรขี่ม้าออกปล้น พวกเขาล้อมพวกเราเอาไว้!”จ้านเฉิงอิ้นมองภาพที่อากาศยานไร้คนขับถ่ายได้เป็นเผ่าหมาน...แต่ไม่ใช่ทหารเบื้องล่างหลัวซู่ แม้นายทหารเผ่าหมานของหลัวซู่จะเกียจคร้าน แต่ก็ล้วนสวมใส่ชุดเกราะที่ยึดมาได้หลากหลายที่น้อยที่จะสวมเสื้อผ้าปะขาดรุ่งริ่งพร้อมถือมีดมาปล้น“โจรขี่ม้าออกปล้น?”“ใช่ ไม่ใช่เพียงแค่โจรขี่ม้าออกปล้นจากเผ่าหมาน แต่ยังมีชาวบ้านที่ใช้ชีวิตอยู่ในแคว้นฉู่ แค้วนฉีและแคว้นเยี่ยนไม่ได้อีกด้วย จำนวนคนของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่ามีหนึ่งแสนกว่าคนแล้ว และยังมีคนหนุ่มอีกมากมายเข้าร่วมกองโจรขี่ม้าออกปล้นทุกวัน”“พวกเขาอยู่ในทุ่งหญ้า คิดจะชิงอำนาจปกครองของหลัวซู่อยู่หลายครั้ง ทว่าไม่สำเร็จ”“แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร เข้ายึดครองทุ่งหญ้า วัว แกะและม้าของคนเลี้ยงสัตว์ เหตุใดคนมากมายถึงเข้าร่วมกับพวกเขา เนื่องจากเมื่อปล้นมาได้แล้วก็จะฆ่าม้า ฆ่าวัว ฆ่าแกะกินเนื้อ ไม่ได้เลี้ยงแกะหรือวัวก็ฆ่าคน”“ทุกที่ที่ไปถึงไม่มีใบไม้ต้นหญ้างอกงามแม้แต่ต้นเดียว”“หลัวซู่ทำลายพวกเขาไม่ได้ และทำอะไรพวกเขาไม่ได้ สองสามวันก่อนพวกเขายังไม่มา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status