แชร์

บทที่ 298

ผู้เขียน: มู่โร่ว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-31 17:00:00
“ว้าว~”

“ทองคำและเงินสมบัติกว่าหนึ่งร้อยสามสิบหีบ!”

เย่มู่มู่แทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าขายออกทั้งหมดจะได้เงินเท่าไร!

และยิ่งไปกว่านั้น คฤหาสน์หลังนี้ก็ใกล้จะไม่มีที่เก็บแล้วจริง ๆ

ถ้าส่งสมบัติเหล่านี้มาจริง ๆ คงต้องจัดการห้องโฮมเธียเตอร์ในชั้นใต้ดินชั้นสองออกไปก่อน

“สมบัติชุดนี้ฝากไว้ที่เจ้าก่อนนะ ทางข้าไม่มีที่จะวางแล้ว”

จากนั้น จ้านเฉิงอิ้นก็ส่งข้อความตอบกลับมาอีก

“อืม เดือนหน้า จะมีร้านค้าจากอีกหลายสิบแห่งย้ายเข้ามาที่ด่านเจิ้นกวน พวกเขาก็จะมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เหมือนกัน ตอนนั้นคงมีสมบัติอีกมากเพิ่มเข้ามา!”

“ท่านเทพ ข้าจะช่วยท่านเก็บสมบัติไว้ก่อน ท่านจะใช้เมื่อได้ก็ได้!”

เย่มู่มู่อ่านข้อความบนกระดาษแล้วหัวเราะออกมา

ดูสิ~

สมกับเป็นแม่ทัพใหญ่ที่เธอเลี้ยงดูมาจริง ๆ!

ยอมมอบเงินให้โดยสมัครใจ!

ทันใดนั้น เย่มู่มู่ก็นึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้จ้านเฉิงอิ้นเคยฝากหยกเนื้อดีที่ทำจากหยกไขมันแกะไว้กับเธอที่นี่

คงถึงเวลาที่ต้องคืนเขาแล้ว

เธอเดินขึ้นไปหยิบกล่องผ้าที่เก็บไว้ในห้อง ภายในนั้นบรรจุหยกแขวนของจ้านเฉิงอิ้นไว้

ระหว่างนั้น ก็ยังนึกถึงของขวัญที่ได้รับวันนี้ในงานเปิดร้านให
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 299

    ผู้ที่ลงมือวางยาคงคาดไม่ถึงว่า ทะเลสาบเก็บน้ำแห่งนี้มีทหารคอยเฝ้ารักษาการอยู่ตลอดเวลาเส้นทางขึ้นเขาทุกสายล้วนติดตั้งกล้องวงจรปิด หากมีผู้ใดขึ้นเขามา ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ระบบสัญญาณเตือนภัยที่ติดตั้งไว้จะถูกเปิดใช้งานในทันที เพื่อแจ้งเตือนทหารที่เฝ้าทะเลสาบเสียงของจ้านเฉิงอิ้นเย็นชา “ง้างปากพวกมันให้ได้ ยืนยันให้ได้ว่าคนของเสนาบดีซูเป็นผู้ลงมือวางยา!”“รับทราบ ท่านแม่ทัพ!” เทียนฉินขานรับ ก่อนจะรีบออกจากกระโจมไปในขณะนั้นเอง เหล่าทหารหลายนายเดินเข้ามายังกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะยกมือทำความเคารพเฉินขุยเอ่ยขึ้นก่อนใคร “ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยไม่อาจทนกับพวกสามคนนั้นได้อีกแล้ว หากท่านอนุญาต ข้าน้อยขอจัดการพวกมันด้วยดาบ!”จ้านเฉิงอิ้นเงยหน้าขึ้น กวาดมองทุกคนพบว่าหลายคนมีสีหน้าขุ่นเคือง โดยเฉพาะเฉินขุย ที่ดูเหมือนจะโกรธจนหน้าแดงก่ำคิ้วคมของจ้านเฉิงอิ้นขมวดเล็กน้อย ถามเขาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลี่หยวนจงรีบก้าวขึ้นมารายงานก่อน “ท่านแม่ทัพ ขุนนางผู้ตรวจการซ่งจิ้น เพิ่งจะออกไปเดินหาโรงเตี๊ยมตามท้องถนน หวังจะเที่ยวหอนางโลม แต่ที่ด่านเจิ้นกวนของพวกเราจะมีหอนางโลมได้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 300

    แล้วทำไมถึงไม่ไปหาท่านแม่ทัพใหญ่?เพราะไม่กล้า!ตอนนี้ จ้านเฉิงอิ้นมีอำนาจสูงส่ง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเลือกหลบเลี่ยงไม่พบหน้า พวกเขารู้ดีว่าครั้งนี้เกรงว่าจะกลับไปมือเปล่าอีกคนหนึ่งคือ ผู้ช่วยในราชสำนักมั่วหย่ง เขาเป็นคนของไทเฮา และยังมีความเกี่ยวพันทางสายเลือดห่าง ๆ กับมั่วฝานเมื่อมาถึงด่านเจิ้นกวน กลุ่มของเขาเลือกเข้าพักในจวนของรัฐทายาททั้งวันก็มัวแต่ขลุกอยู่ในจวน ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ยอมออกมาดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมหน้าที่เกลี้ยกล่อมจ้านเฉิงอิ้นให้นำทัพออกศึกไปจนหมดสิ้นแล้วหากทั้งสามคนวางตัวอย่างสงบเรียบร้อยในด่านเจิ้นกวน บรรดาทหารอาจยังพอให้ความเคารพอยู่บ้าง แต่ถ้าต่างคนต่างทำตัวแบบซ่งจิ้น กล้าทำตัวโอหังใส่แม่ทัพ ใครจะไปรู้ว่าวันไหนหัวกับตัวอาจจะแยกจากกันก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ด่านเจิ้นกวนแห่งนี้อยู่ห่างไกลจากอำนาจของฮ่องเต้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำสั่งของแม่ทัพใหญ่จ้านเฉิงอิ้นถามมั่วฝาน “เขาเป็นคนของเสนาบดีซูใช่หรือไม่?”มั่วฝานพยักหน้า “ใช่แล้ว หลายปีมานี้ เขาและเสนาบดีซูสมคบคิดกันอย่างหน้าไม่อาย ขูดเลือดขูดเนื้อจากราษฎรไปไม่น้อย!”เป็นคนของเสนาบดีซูอย่างนั้นห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 301

    มั่วฝานสังเกตสีหน้าของจ้านเฉิงอิ้น เขาเป็นกังวลว่าจ้านเฉิงอิ้นจะร่วมมือกับกองทัพธงเหลืองจริง ๆถึงอย่างไร ในกระบวนการทางประวัติศาสตร์จริง ๆ นั้น กองทัพธงเหลืองถึงเป็นฝ่ายที่ชนะในท้ายที่สุดในชายแดนต้าฉี่ กองทัพธงเหลืองส่งเสียงดังกระหึ่มประชาชนนับไม่ถ้วนสนับสนุนกองทัพธงเหลือง โดยหวังว่าพวกเขาจะโค่นล้มการปกครองของต้าฉี่ได้เขาเองก็รู้ดีว่า ราชวงศ์ต้าฉี่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนแม้ไม่มีกองทัพธงเหลือง ก็จะมีกองทัพธงดำ กองทัพธงแดง...ต้าฉี่ล่มลายคือผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนเขาหวังเพียงว่าไทเฮาจะคิดตก และใช้ชีวิตในบั้นปลายชีวิตอย่างสงบสุขจ้านเฉิงอิ้นส่งม้วนไม้ไผ่ให้สวี่หมิง แล้วเอ่ยถามว่า “ยังไม่มีข่าวของเฉินอู่หรือ?”บรรดาทหารพากันส่ายหน้าหน่วยกล้าตายของมั่วฝานแฝงเข้าไปในกองทัพธงเหลืองตั้งนานแล้ว ยังส่งข่าวมาให้อยู่เฉินอู่พาคนสนิทขี่ม้าเร็วไป คำนวณจากระยะทางน่าจะเข้าไปในหัวเมืองที่กองทัพธงเหลืองบุกยึดแล้วเหตุใดยังไม่มีข่าวอีก?มั่วฝานเห็นเขายังไม่ตอบจดหมายที่กองทัพธงเหลืองส่งมา จึงเอ่ยปากถามขึ้นว่า“เรื่องการเชิญของกองทัพธงเหลือง ท่านคิดเห็นว่าอย่างไร?”จ้านเฉิงอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 302

    ไปต่อไปอีก ก็เป็นอาณาเขตของเผ่าหมานแล้ว!ไปทางตะวันออกเป็นชายแดนแคว้นฉู่ไปทางใต้เป็นชายแดนแคว้นฉี่!ต้าซีเป่ยรกร้าง เป็นพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด จึงเกิดความแห้งแล้งเร็วที่สุดกองกำลังกบฏชาวนาไม่ไปแย่งชิงหัวเมืองใหญ่ หรือว่าจะโจมตีแคว้นฉู่และแคว้นฉี?จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทราบ จากนั้นก็จ้องแผนที่ทันใดนั้นเขาก็ถามเฉินขุยขึ้นมาว่า “ยังไม่มีข่าวเฉินอู่หรือ?”เฉินขุยเองก็ไม่รู้ว่าเฉินอู่อยู่ที่ใดคนที่เขาพาไปไม่น้อย ปลอมตัวไปสองร้อยกว่าคน ขี่มาพกน้ำ เสบียงอาหารและอาหารสัตว์ติดตัวไปด้วย ของที่พวกเขาพกไปทั้งหมด หากถูกผู้ลี้ภัยล้อมระหว่างทาง ต้องถูกปล้นอย่างแน่นอนเพียงแต่ล้วนเป็นผู้ที่ฝึกการต่อสู้ และเคยผ่านศึกใหญ่คอขาดบาดตายมาแล้วทั้งนั้นไม่แน่นอนว่าอีกฝ่ายจะสู้พวกเขาได้!ทว่าขาดการติดต่อไปเดือนเศษแล้ว เขาในฐานะพี่ใหญ่เองก็เป็นกังวลเช่นกันเหยี่ยวที่ยืมมั่วฝานไปส่งจดหมายตัวหนึ่ง ก็ยังไม่บินกลับมาเช่นกัน!ไม่ว่าอย่างไร ส่งคนขี่ม้ากลับมารายงานข่าวสักสองสามคนก็ยังดีบัดนี้บิดามารดาถูกขังอยู่ในวังน้องชายก็รู้ที่อยู่ไม่แน่ชัด น้องสะใภ้พาลูกมาร้องไห้ปรับทุกข์ที่จวนทุกวัน จนฮู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 303

    ทหารผ่านศึกชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกมา ศีรษะมนุษย์ศีรษะแรกหล่นลงพื้น เลือดพลันกระฉูดทันทีซ่งจิ้นเดือดดาลจนโพล่งด่าขึ้นมาว่า “เฉินขุย ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าฆ่าคนในเรือนของข้า คิดจะกบฏหรือ?”ศีรษะคนศีรษะที่สองหล่นลงบนพื้นเนื้อบนหน้าซ่งจิ้นกระตุก...กระทั่งศีรษะที่สาม ที่สี่ ที่ห้า...ภายในเรือนมีศพนอนระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด ท้ายที่สุดซ่งจิ้นก็กลัวแล้วเขาสมคบคิดกับเสนาบดีที่เมืองหลวง ชอบสังหารหมู่สตรี ในบ่อน้ำแห้งขอดหลังเรือนมีศพของสตรีกองอยู่เต็มไปหมดเขาไม่เคยเห็นชีวิตคนสำคัญเลยในสายตาของเขาชาวบ้านธรรมดาทั่วไปล้วนเป็นทาสชั้นต่ำทั้งสิ้นตอนนี้ไม่คิดเลยว่าเฉินขุยจะกล้าฆ่าคนของเขาจนเกลี้ยง!นี่เขากำลังก่อกบฏอยู่...ก่อกบฏ!เมื่อเห็นเฉินขุยเดินถือดาบมาใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ซ่งจิ้นก็ตกใจจนตัวสั่นงันงกตุบ...ซ่งจิ้นคุกเข่าทั้งสองข้างลง ของเหลวสีเหลืองไหลโซกออกมาจากส่วนเป้า ในนัยน์ตาปรากฏความกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อน“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้นะ หากฆ่าข้า ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับราชสำนัก ราชสำนักไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”เฉินขุยผายผิวดาบเย็นยะเยียบไปที่ใบหน้าของซ่งจิ้น “หึ ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 304

    “หารู้ไม่ นอกเมืองยังขุดหญ้าแห้งกับหาเปลือกไม้ได้ ทว่าในเมืองกระทั่งผืนหญ้ารากหญ้ายังถูกขุดจนเกลี้ยง แลกลูกกินกันเป็นอาหารมีให้เห็นไปทั่ว!”“มีเพียงด่านเจิ้นกวนที่เดียวที่ต่างออกไป ชาวบ้านหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แววตามีชีวิตชีวา พวกเขามีแปลงนาเพาะปลูก มีน้ำดื่ม...มอหนำซ้ำแม่ทัพยังมอบแปลงนาให้ทุกครัวเรือนอีกด้วย ปลูกผักผลไม้มีผลผลิตเลี้ยงตัวเองได้!”“เมื่อเทียบกับโลกภายนอก ด่านเจิ้นกวนคือดินแดนในอุดมคติจริง ๆ! ข้าไม่อยากไปแล้ว!”“พวกนั้นที่ซ่งจิ้นพามาด่านเจิ้นกวน เขาตายก็ตายไปแล้วกัน”“ข้ากับมั่วหย่งส่งสาสน์ให้ราชสำนัก บอกว่าซ่งจิ้นถูกโจรเร่ร่อนฆ่าตาย ไม่เกี่ยวข้องกับด่านเจิ้นกวน”“ส่วนเรื่องส่งกองกำลังไปราบกองทัพธงเหลือง แม่ทัพ เราจะตอบกลับราชสำนักว่าอย่างไรกันดี?”เวลานี้จะยื้อออกไปตลอดไม่ได้ ต้องหาข้ออ้างถูไถไป!เห็นได้ชัดว่าทั้งสองท่านนี้ฉลาดกว่าซ่งจิ้น ตั้งแต่จ้านเฉิงอิ้นไม่รับแขก ก็รู้แล้วว่าเขาจะไม่ส่งกองกำลังไปแน่นอนหากไม่ส่งกองกำลังก็ต้องหาข้ออ้างมาปิดปากพวกคนหมู่มากที่กลับขาวเป็นดำในราชสำนักเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นตอบ “เผ่าหมานยังมีกำลังคนอีกสองแสนนาย ยกทัพใหญ่มาบุกประชิดพรม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 305

    แม่ทัพทุกนายต่างพากันอึ้ง!ไม่กล้าจินตนาการเลยว่า คนพวกนี้คือกองกำลังกบฏชาวนาที่กองทัพธงเหลืองกับกองทัพลู่เจ๋ออยากดึงมาเป็นพวก!ถูกแม่ทัพเฉินอู่พามายังด่านเจิ้นกวนทั้งหมดแล้ว!นี่มันตั้งสองแสนคนเชียว!มาที่ด่านเจิ้นกวนพร้อมกัน ไหนจะมีครอบครัวของพวกเขาอีก ลากถูลู่ถูกังคนทั้งครอบครัวเดินทางไกลบุกป่าฝ่าดงมาถึงด่านเจิ้นกวน!จำนวนคนของด่านเจิ้นกวนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว กำลังทหารพุ่งถึงสามแสนนาย!ตอนนี้แม้แคว้นฉู่แคว้นฉีเผ่าหมานสามฝ่าย พร้อมร่วมมือกับแคว้นเยี่ยนและแคว้นหย่งมาโจมตีด่านเจิ้นกวนก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว!เนื่องจากด่านเจิ้นกวนไม่ขาดกำลังทหารอีกต่อไป!จ้านเฉิงอิ้นขึ้นควบม้า แล้วเอ่ยกับนายทหารคนอื่น ๆ ว่า “ไป ไปต้อนรับเฉินอู่กลับเมือง!”“ขอรับ แม่ทัพ!”นายทหารหลายนาย พร้อมกับนายกองของสวีหวย ห้อตะบึงม้าไปยังประตูเมืองอย่างรวดเร็วครั้นเหล่าชาวบ้านได้ยินว่าแม่ทัพเฉินอู่กลับมาแล้ว ก็วางงานในมือลง และมาต้อนรับแม่ทัพหวนกลับยังประตูเมืองโดยสัญชาตญาณพวกเขานำน้ำใส่กาน้ำและชามกระเบื้องมาด้วย ชาวบ้านบางคนต้มโจ๊กที่บ้าน และถือโจ๊กมารอที่หน้าประตูเมืองผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อทุก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 306

    เพื่อให้คนในหมู่บ้านมีชีวิตรอด พวกเขาจึงคิดเอาสมบัติเงินทองออกมา และนำไปแลกเสบียงอาหารที่หัวเมืองใหญ่ ให้ชาวบ้านที่ใกล้จะหิวตายในหมู่บ้านได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้!ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อข่าวแพร่หลายออกไป เพียงพวกเขาก้าวออกจากหมู่บ้านก็ถูกคนจ้องจะเล่นงาน หลังจากนั้นก็จะถูกโจรเร่ร่อนปล้นทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงส่งชายหนุ่มในหมู่บ้านไปแลกเสบียงด้วยกันเท่านั้น ถึงไม่ถูกคนดักปล้นอีกคงเป็นเพราะมีแต่ชายหนุ่ม ก่อตั้งเป็นกลุ่มจนโดดเด่นได้รับความสนใจจากผู้คนพวกเขาจึงกลายเป็นกองกำลังกบฏไปอย่างไร้สาเหตุชายหนุ่มในหลายหมู่บ้านใกล้ ๆ มาขอพึ่งพิง แต่ในยามนี้ไม่ว่าผู้ใดก็ลำบาก อู๋ลี่ทนเห็นชาวบ้านหิวตายไม่ไหว จึงรับเข้ามาทั้งหมดคนที่ตามมารวมกลุ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาเตรียมจะไปซื้อเสบียงอาหารที่หัวเมืองอื่น...สุดท้ายทุกที่ไม่มีเสบียงอาหาร หลายคนใกล้จะหิวตาย ในขณะที่กำลังสิ้นหวังที่สุด...อู๋ลี่ติดอยู่ที่จังหวะสำคัญ น้ำเสียงแหบพร่า พูดต่อไม่ไหว ตอนนี้คอเขาแห้งผากจนแทบจะเกิดควันลอยขึ้นมาชาวบ้านยังอยากฟังต่อ จึงรีบส่งชามกระเบื้องที่ใส่น้ำเอาไว้ในมือไปเขารับมาอย่างไม่เกรงใจ หลังดื่มไปหลายอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 308

    ด่านเจิ้นกวนไม่ได้มีเพียงแค่น้ำ และอาหารเท่านั้น...ยังเพาะปลูกได้อีกด้วย!พวกเขาเดินทางจากดินแดนภาคกลางมาหนึ่งเดือนกว่า เดินทางยาวนานจนท้ายที่สุดก็มาถึงด่านเจิ้นกวนทุกที่ที่เห็นล้วนเป็นดินแดง ทุกอย่างเหี่ยวเฉาและเป็นสีเหลืองไปหมดบางที่ไม่มีกระทั่งหญ้าเหี่ยวและต้นไม้เฉา ถูกคนกินจนเกลี้ยงมีเพียงด่านเจิ้นกวนที่มีสีเขียวขจีพวกเขาไม่ได้เห็นสีเขียวขจีมาเกือบครึ่งปีแล้วมีคนแก่คุกเข่าลงไปตรงนั้นเลย นัยน์ตาสีขุ่นทั้งสองข้างน้ำตาไหลพราก พลางหมอบกราบฟ้าดิน“ในที่สุดข้าก็ได้เห็นผืนดินที่เพาะปลูกได้แล้ว”“ฟ้ามีตา...!”ครั้นอู๋ลี่เห็นพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ กวาดสายตาไปปราดเดียวมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด เขาก็คุกเข่าโขกศีรษะไปทางจ้านเฉิงอิ้นโดยตรง“ขอท่านแม่ทัพรับเราไว้ด้วยเถิด ท่านให้เราไปต่อสู้ พวกเราก็จะไปต่อสู้ ท่านจะให้เราเพาะปลูก เราก็จะเพาะปลูก...”“ขอเพียงให้น้ำดื่ม มีโจ๊กชนิดจางให้กิน เรายอมทำงานให้ท่าน แม้ร่างกายจะแหลกลาญก็จะสู้ไม่มีวันถอย!”จ้านเฉิงอิ้นและเฉินอู่รีบประคองอู่ลี่ขึ้นมาจ้านเฉิงอิ้นเอ่ย “กองกำลังกบฏชาวนากองกำลังนี้ของเจ้ามีเด็กหนุ่มเยอะ ข้าหวังว่าพวกเขาจะเข้าร่ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 307

    กองกำลังกบฏชาวนามีชายหนุ่มหนึ่งแสนสองหมื่นคน และยังมีครอบครัวพวกเขาอีกราวหนึ่งแสนคนรวมกันแล้วทั้งหมดสองแสนสองหมื่นคนชาวบ้านที่อยู่ตรงประตูเมืองจะส่งน้ำและโจ๊กให้อีกมากเพียงใด ก็ไม่พอให้ทุกคนกินจ้านเฉิงอิ้นบอกกับเฉินขุยว่า “พาทุกคนไปดื่มน้ำก่อน แล้วค่อยไปล้างตัวที่ข้างแม่น้ำ...”เฉินขุยขานรับ “ขอรับท่านแม่ทัพ”“ซ่งตั๋วรับผิดชอบต้มโจ๊ก รีบไปต้มโจ๊กที่พอให้สองแสนสองหมื่นคนกินเสีย”“นายทหารที่เหลือไปจัดแจงที่พักอาศัย หากไม่มีเรือนว่าง ก็ตั้งกระโจมขึ้นมา”นายทหารที่เหลือรับคำสั่ง“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ครั้นอู๋ลี่เห็นจ้านเฉิงอิ้นรับรองกองกำลังกบฏอย่างดีเช่นนี้ ก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งก่อนมา เขาได้ยินเฉินอู่เล่าว่าด่านเจิ้นกวนดีเพียงใด...ทีแรกเขาไม่เชื่อ คิดว่าเฉินอู่กำลังหลอกเขาอยู่ภายหลังเฉินอู่ล้วงข้าวออกมา เม็ดขาวใสสะอาด ไม่มีเม็ดหินหรือโคลนเจือปนเขาก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคำพูดของเฉินอู่หลังจากนั้นอีก เฉินอู่ล้วงขนมปังแข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป บะหมี่แห้ง...ออกมาให้แต่พวกเขารวมถึงเด็กคนแก่และสตรีมีทั้งหมดสองแสนกว่าคน อาหารเพียงน้อยนิดแค่นี้จะไปพออะไรไม่คิดเลยว่าเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 306

    เพื่อให้คนในหมู่บ้านมีชีวิตรอด พวกเขาจึงคิดเอาสมบัติเงินทองออกมา และนำไปแลกเสบียงอาหารที่หัวเมืองใหญ่ ให้ชาวบ้านที่ใกล้จะหิวตายในหมู่บ้านได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้!ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อข่าวแพร่หลายออกไป เพียงพวกเขาก้าวออกจากหมู่บ้านก็ถูกคนจ้องจะเล่นงาน หลังจากนั้นก็จะถูกโจรเร่ร่อนปล้นทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงส่งชายหนุ่มในหมู่บ้านไปแลกเสบียงด้วยกันเท่านั้น ถึงไม่ถูกคนดักปล้นอีกคงเป็นเพราะมีแต่ชายหนุ่ม ก่อตั้งเป็นกลุ่มจนโดดเด่นได้รับความสนใจจากผู้คนพวกเขาจึงกลายเป็นกองกำลังกบฏไปอย่างไร้สาเหตุชายหนุ่มในหลายหมู่บ้านใกล้ ๆ มาขอพึ่งพิง แต่ในยามนี้ไม่ว่าผู้ใดก็ลำบาก อู๋ลี่ทนเห็นชาวบ้านหิวตายไม่ไหว จึงรับเข้ามาทั้งหมดคนที่ตามมารวมกลุ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาเตรียมจะไปซื้อเสบียงอาหารที่หัวเมืองอื่น...สุดท้ายทุกที่ไม่มีเสบียงอาหาร หลายคนใกล้จะหิวตาย ในขณะที่กำลังสิ้นหวังที่สุด...อู๋ลี่ติดอยู่ที่จังหวะสำคัญ น้ำเสียงแหบพร่า พูดต่อไม่ไหว ตอนนี้คอเขาแห้งผากจนแทบจะเกิดควันลอยขึ้นมาชาวบ้านยังอยากฟังต่อ จึงรีบส่งชามกระเบื้องที่ใส่น้ำเอาไว้ในมือไปเขารับมาอย่างไม่เกรงใจ หลังดื่มไปหลายอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 305

    แม่ทัพทุกนายต่างพากันอึ้ง!ไม่กล้าจินตนาการเลยว่า คนพวกนี้คือกองกำลังกบฏชาวนาที่กองทัพธงเหลืองกับกองทัพลู่เจ๋ออยากดึงมาเป็นพวก!ถูกแม่ทัพเฉินอู่พามายังด่านเจิ้นกวนทั้งหมดแล้ว!นี่มันตั้งสองแสนคนเชียว!มาที่ด่านเจิ้นกวนพร้อมกัน ไหนจะมีครอบครัวของพวกเขาอีก ลากถูลู่ถูกังคนทั้งครอบครัวเดินทางไกลบุกป่าฝ่าดงมาถึงด่านเจิ้นกวน!จำนวนคนของด่านเจิ้นกวนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว กำลังทหารพุ่งถึงสามแสนนาย!ตอนนี้แม้แคว้นฉู่แคว้นฉีเผ่าหมานสามฝ่าย พร้อมร่วมมือกับแคว้นเยี่ยนและแคว้นหย่งมาโจมตีด่านเจิ้นกวนก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว!เนื่องจากด่านเจิ้นกวนไม่ขาดกำลังทหารอีกต่อไป!จ้านเฉิงอิ้นขึ้นควบม้า แล้วเอ่ยกับนายทหารคนอื่น ๆ ว่า “ไป ไปต้อนรับเฉินอู่กลับเมือง!”“ขอรับ แม่ทัพ!”นายทหารหลายนาย พร้อมกับนายกองของสวีหวย ห้อตะบึงม้าไปยังประตูเมืองอย่างรวดเร็วครั้นเหล่าชาวบ้านได้ยินว่าแม่ทัพเฉินอู่กลับมาแล้ว ก็วางงานในมือลง และมาต้อนรับแม่ทัพหวนกลับยังประตูเมืองโดยสัญชาตญาณพวกเขานำน้ำใส่กาน้ำและชามกระเบื้องมาด้วย ชาวบ้านบางคนต้มโจ๊กที่บ้าน และถือโจ๊กมารอที่หน้าประตูเมืองผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อทุก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 304

    “หารู้ไม่ นอกเมืองยังขุดหญ้าแห้งกับหาเปลือกไม้ได้ ทว่าในเมืองกระทั่งผืนหญ้ารากหญ้ายังถูกขุดจนเกลี้ยง แลกลูกกินกันเป็นอาหารมีให้เห็นไปทั่ว!”“มีเพียงด่านเจิ้นกวนที่เดียวที่ต่างออกไป ชาวบ้านหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แววตามีชีวิตชีวา พวกเขามีแปลงนาเพาะปลูก มีน้ำดื่ม...มอหนำซ้ำแม่ทัพยังมอบแปลงนาให้ทุกครัวเรือนอีกด้วย ปลูกผักผลไม้มีผลผลิตเลี้ยงตัวเองได้!”“เมื่อเทียบกับโลกภายนอก ด่านเจิ้นกวนคือดินแดนในอุดมคติจริง ๆ! ข้าไม่อยากไปแล้ว!”“พวกนั้นที่ซ่งจิ้นพามาด่านเจิ้นกวน เขาตายก็ตายไปแล้วกัน”“ข้ากับมั่วหย่งส่งสาสน์ให้ราชสำนัก บอกว่าซ่งจิ้นถูกโจรเร่ร่อนฆ่าตาย ไม่เกี่ยวข้องกับด่านเจิ้นกวน”“ส่วนเรื่องส่งกองกำลังไปราบกองทัพธงเหลือง แม่ทัพ เราจะตอบกลับราชสำนักว่าอย่างไรกันดี?”เวลานี้จะยื้อออกไปตลอดไม่ได้ ต้องหาข้ออ้างถูไถไป!เห็นได้ชัดว่าทั้งสองท่านนี้ฉลาดกว่าซ่งจิ้น ตั้งแต่จ้านเฉิงอิ้นไม่รับแขก ก็รู้แล้วว่าเขาจะไม่ส่งกองกำลังไปแน่นอนหากไม่ส่งกองกำลังก็ต้องหาข้ออ้างมาปิดปากพวกคนหมู่มากที่กลับขาวเป็นดำในราชสำนักเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นตอบ “เผ่าหมานยังมีกำลังคนอีกสองแสนนาย ยกทัพใหญ่มาบุกประชิดพรม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 303

    ทหารผ่านศึกชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกมา ศีรษะมนุษย์ศีรษะแรกหล่นลงพื้น เลือดพลันกระฉูดทันทีซ่งจิ้นเดือดดาลจนโพล่งด่าขึ้นมาว่า “เฉินขุย ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าฆ่าคนในเรือนของข้า คิดจะกบฏหรือ?”ศีรษะคนศีรษะที่สองหล่นลงบนพื้นเนื้อบนหน้าซ่งจิ้นกระตุก...กระทั่งศีรษะที่สาม ที่สี่ ที่ห้า...ภายในเรือนมีศพนอนระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด ท้ายที่สุดซ่งจิ้นก็กลัวแล้วเขาสมคบคิดกับเสนาบดีที่เมืองหลวง ชอบสังหารหมู่สตรี ในบ่อน้ำแห้งขอดหลังเรือนมีศพของสตรีกองอยู่เต็มไปหมดเขาไม่เคยเห็นชีวิตคนสำคัญเลยในสายตาของเขาชาวบ้านธรรมดาทั่วไปล้วนเป็นทาสชั้นต่ำทั้งสิ้นตอนนี้ไม่คิดเลยว่าเฉินขุยจะกล้าฆ่าคนของเขาจนเกลี้ยง!นี่เขากำลังก่อกบฏอยู่...ก่อกบฏ!เมื่อเห็นเฉินขุยเดินถือดาบมาใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ซ่งจิ้นก็ตกใจจนตัวสั่นงันงกตุบ...ซ่งจิ้นคุกเข่าทั้งสองข้างลง ของเหลวสีเหลืองไหลโซกออกมาจากส่วนเป้า ในนัยน์ตาปรากฏความกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อน“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้นะ หากฆ่าข้า ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับราชสำนัก ราชสำนักไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”เฉินขุยผายผิวดาบเย็นยะเยียบไปที่ใบหน้าของซ่งจิ้น “หึ ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 302

    ไปต่อไปอีก ก็เป็นอาณาเขตของเผ่าหมานแล้ว!ไปทางตะวันออกเป็นชายแดนแคว้นฉู่ไปทางใต้เป็นชายแดนแคว้นฉี่!ต้าซีเป่ยรกร้าง เป็นพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด จึงเกิดความแห้งแล้งเร็วที่สุดกองกำลังกบฏชาวนาไม่ไปแย่งชิงหัวเมืองใหญ่ หรือว่าจะโจมตีแคว้นฉู่และแคว้นฉี?จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทราบ จากนั้นก็จ้องแผนที่ทันใดนั้นเขาก็ถามเฉินขุยขึ้นมาว่า “ยังไม่มีข่าวเฉินอู่หรือ?”เฉินขุยเองก็ไม่รู้ว่าเฉินอู่อยู่ที่ใดคนที่เขาพาไปไม่น้อย ปลอมตัวไปสองร้อยกว่าคน ขี่มาพกน้ำ เสบียงอาหารและอาหารสัตว์ติดตัวไปด้วย ของที่พวกเขาพกไปทั้งหมด หากถูกผู้ลี้ภัยล้อมระหว่างทาง ต้องถูกปล้นอย่างแน่นอนเพียงแต่ล้วนเป็นผู้ที่ฝึกการต่อสู้ และเคยผ่านศึกใหญ่คอขาดบาดตายมาแล้วทั้งนั้นไม่แน่นอนว่าอีกฝ่ายจะสู้พวกเขาได้!ทว่าขาดการติดต่อไปเดือนเศษแล้ว เขาในฐานะพี่ใหญ่เองก็เป็นกังวลเช่นกันเหยี่ยวที่ยืมมั่วฝานไปส่งจดหมายตัวหนึ่ง ก็ยังไม่บินกลับมาเช่นกัน!ไม่ว่าอย่างไร ส่งคนขี่ม้ากลับมารายงานข่าวสักสองสามคนก็ยังดีบัดนี้บิดามารดาถูกขังอยู่ในวังน้องชายก็รู้ที่อยู่ไม่แน่ชัด น้องสะใภ้พาลูกมาร้องไห้ปรับทุกข์ที่จวนทุกวัน จนฮู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 301

    มั่วฝานสังเกตสีหน้าของจ้านเฉิงอิ้น เขาเป็นกังวลว่าจ้านเฉิงอิ้นจะร่วมมือกับกองทัพธงเหลืองจริง ๆถึงอย่างไร ในกระบวนการทางประวัติศาสตร์จริง ๆ นั้น กองทัพธงเหลืองถึงเป็นฝ่ายที่ชนะในท้ายที่สุดในชายแดนต้าฉี่ กองทัพธงเหลืองส่งเสียงดังกระหึ่มประชาชนนับไม่ถ้วนสนับสนุนกองทัพธงเหลือง โดยหวังว่าพวกเขาจะโค่นล้มการปกครองของต้าฉี่ได้เขาเองก็รู้ดีว่า ราชวงศ์ต้าฉี่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนแม้ไม่มีกองทัพธงเหลือง ก็จะมีกองทัพธงดำ กองทัพธงแดง...ต้าฉี่ล่มลายคือผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนเขาหวังเพียงว่าไทเฮาจะคิดตก และใช้ชีวิตในบั้นปลายชีวิตอย่างสงบสุขจ้านเฉิงอิ้นส่งม้วนไม้ไผ่ให้สวี่หมิง แล้วเอ่ยถามว่า “ยังไม่มีข่าวของเฉินอู่หรือ?”บรรดาทหารพากันส่ายหน้าหน่วยกล้าตายของมั่วฝานแฝงเข้าไปในกองทัพธงเหลืองตั้งนานแล้ว ยังส่งข่าวมาให้อยู่เฉินอู่พาคนสนิทขี่ม้าเร็วไป คำนวณจากระยะทางน่าจะเข้าไปในหัวเมืองที่กองทัพธงเหลืองบุกยึดแล้วเหตุใดยังไม่มีข่าวอีก?มั่วฝานเห็นเขายังไม่ตอบจดหมายที่กองทัพธงเหลืองส่งมา จึงเอ่ยปากถามขึ้นว่า“เรื่องการเชิญของกองทัพธงเหลือง ท่านคิดเห็นว่าอย่างไร?”จ้านเฉิงอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 300

    แล้วทำไมถึงไม่ไปหาท่านแม่ทัพใหญ่?เพราะไม่กล้า!ตอนนี้ จ้านเฉิงอิ้นมีอำนาจสูงส่ง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเลือกหลบเลี่ยงไม่พบหน้า พวกเขารู้ดีว่าครั้งนี้เกรงว่าจะกลับไปมือเปล่าอีกคนหนึ่งคือ ผู้ช่วยในราชสำนักมั่วหย่ง เขาเป็นคนของไทเฮา และยังมีความเกี่ยวพันทางสายเลือดห่าง ๆ กับมั่วฝานเมื่อมาถึงด่านเจิ้นกวน กลุ่มของเขาเลือกเข้าพักในจวนของรัฐทายาททั้งวันก็มัวแต่ขลุกอยู่ในจวน ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ยอมออกมาดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมหน้าที่เกลี้ยกล่อมจ้านเฉิงอิ้นให้นำทัพออกศึกไปจนหมดสิ้นแล้วหากทั้งสามคนวางตัวอย่างสงบเรียบร้อยในด่านเจิ้นกวน บรรดาทหารอาจยังพอให้ความเคารพอยู่บ้าง แต่ถ้าต่างคนต่างทำตัวแบบซ่งจิ้น กล้าทำตัวโอหังใส่แม่ทัพ ใครจะไปรู้ว่าวันไหนหัวกับตัวอาจจะแยกจากกันก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ด่านเจิ้นกวนแห่งนี้อยู่ห่างไกลจากอำนาจของฮ่องเต้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำสั่งของแม่ทัพใหญ่จ้านเฉิงอิ้นถามมั่วฝาน “เขาเป็นคนของเสนาบดีซูใช่หรือไม่?”มั่วฝานพยักหน้า “ใช่แล้ว หลายปีมานี้ เขาและเสนาบดีซูสมคบคิดกันอย่างหน้าไม่อาย ขูดเลือดขูดเนื้อจากราษฎรไปไม่น้อย!”เป็นคนของเสนาบดีซูอย่างนั้นห

DMCA.com Protection Status