แชร์

บทที่ 302

ผู้เขียน: มู่โร่ว
ไปต่อไปอีก ก็เป็นอาณาเขตของเผ่าหมานแล้ว!

ไปทางตะวันออกเป็นชายแดนแคว้นฉู่

ไปทางใต้เป็นชายแดนแคว้นฉี่!

ต้าซีเป่ยรกร้าง เป็นพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด จึงเกิดความแห้งแล้งเร็วที่สุด

กองกำลังกบฏชาวนาไม่ไปแย่งชิงหัวเมืองใหญ่ หรือว่าจะโจมตีแคว้นฉู่และแคว้นฉี?

จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทราบ จากนั้นก็จ้องแผนที่

ทันใดนั้นเขาก็ถามเฉินขุยขึ้นมาว่า “ยังไม่มีข่าวเฉินอู่หรือ?”

เฉินขุยเองก็ไม่รู้ว่าเฉินอู่อยู่ที่ใด

คนที่เขาพาไปไม่น้อย ปลอมตัวไปสองร้อยกว่าคน ขี่มาพกน้ำ เสบียงอาหารและอาหารสัตว์ติดตัวไปด้วย ของที่พวกเขาพกไปทั้งหมด หากถูกผู้ลี้ภัยล้อมระหว่างทาง ต้องถูกปล้นอย่างแน่นอน

เพียงแต่ล้วนเป็นผู้ที่ฝึกการต่อสู้ และเคยผ่านศึกใหญ่คอขาดบาดตายมาแล้วทั้งนั้น

ไม่แน่นอนว่าอีกฝ่ายจะสู้พวกเขาได้!

ทว่าขาดการติดต่อไปเดือนเศษแล้ว เขาในฐานะพี่ใหญ่เองก็เป็นกังวลเช่นกัน

เหยี่ยวที่ยืมมั่วฝานไปส่งจดหมายตัวหนึ่ง ก็ยังไม่บินกลับมาเช่นกัน!

ไม่ว่าอย่างไร ส่งคนขี่ม้ากลับมารายงานข่าวสักสองสามคนก็ยังดี

บัดนี้บิดามารดาถูกขังอยู่ในวัง

น้องชายก็รู้ที่อยู่ไม่แน่ชัด น้องสะใภ้พาลูกมาร้องไห้ปรับทุกข์ที่จวนทุกวัน จนฮู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 303

    ทหารผ่านศึกชักดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังออกมา ศีรษะมนุษย์ศีรษะแรกหล่นลงพื้น เลือดพลันกระฉูดทันทีซ่งจิ้นเดือดดาลจนโพล่งด่าขึ้นมาว่า “เฉินขุย ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าฆ่าคนในเรือนของข้า คิดจะกบฏหรือ?”ศีรษะคนศีรษะที่สองหล่นลงบนพื้นเนื้อบนหน้าซ่งจิ้นกระตุก...กระทั่งศีรษะที่สาม ที่สี่ ที่ห้า...ภายในเรือนมีศพนอนระเกะระกะอยู่เต็มไปหมด ท้ายที่สุดซ่งจิ้นก็กลัวแล้วเขาสมคบคิดกับเสนาบดีที่เมืองหลวง ชอบสังหารหมู่สตรี ในบ่อน้ำแห้งขอดหลังเรือนมีศพของสตรีกองอยู่เต็มไปหมดเขาไม่เคยเห็นชีวิตคนสำคัญเลยในสายตาของเขาชาวบ้านธรรมดาทั่วไปล้วนเป็นทาสชั้นต่ำทั้งสิ้นตอนนี้ไม่คิดเลยว่าเฉินขุยจะกล้าฆ่าคนของเขาจนเกลี้ยง!นี่เขากำลังก่อกบฏอยู่...ก่อกบฏ!เมื่อเห็นเฉินขุยเดินถือดาบมาใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ซ่งจิ้นก็ตกใจจนตัวสั่นงันงกตุบ...ซ่งจิ้นคุกเข่าทั้งสองข้างลง ของเหลวสีเหลืองไหลโซกออกมาจากส่วนเป้า ในนัยน์ตาปรากฏความกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อน“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้นะ หากฆ่าข้า ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับราชสำนัก ราชสำนักไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”เฉินขุยผายผิวดาบเย็นยะเยียบไปที่ใบหน้าของซ่งจิ้น “หึ ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 304

    “หารู้ไม่ นอกเมืองยังขุดหญ้าแห้งกับหาเปลือกไม้ได้ ทว่าในเมืองกระทั่งผืนหญ้ารากหญ้ายังถูกขุดจนเกลี้ยง แลกลูกกินกันเป็นอาหารมีให้เห็นไปทั่ว!”“มีเพียงด่านเจิ้นกวนที่เดียวที่ต่างออกไป ชาวบ้านหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แววตามีชีวิตชีวา พวกเขามีแปลงนาเพาะปลูก มีน้ำดื่ม...มอหนำซ้ำแม่ทัพยังมอบแปลงนาให้ทุกครัวเรือนอีกด้วย ปลูกผักผลไม้มีผลผลิตเลี้ยงตัวเองได้!”“เมื่อเทียบกับโลกภายนอก ด่านเจิ้นกวนคือดินแดนในอุดมคติจริง ๆ! ข้าไม่อยากไปแล้ว!”“พวกนั้นที่ซ่งจิ้นพามาด่านเจิ้นกวน เขาตายก็ตายไปแล้วกัน”“ข้ากับมั่วหย่งส่งสาสน์ให้ราชสำนัก บอกว่าซ่งจิ้นถูกโจรเร่ร่อนฆ่าตาย ไม่เกี่ยวข้องกับด่านเจิ้นกวน”“ส่วนเรื่องส่งกองกำลังไปราบกองทัพธงเหลือง แม่ทัพ เราจะตอบกลับราชสำนักว่าอย่างไรกันดี?”เวลานี้จะยื้อออกไปตลอดไม่ได้ ต้องหาข้ออ้างถูไถไป!เห็นได้ชัดว่าทั้งสองท่านนี้ฉลาดกว่าซ่งจิ้น ตั้งแต่จ้านเฉิงอิ้นไม่รับแขก ก็รู้แล้วว่าเขาจะไม่ส่งกองกำลังไปแน่นอนหากไม่ส่งกองกำลังก็ต้องหาข้ออ้างมาปิดปากพวกคนหมู่มากที่กลับขาวเป็นดำในราชสำนักเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นตอบ “เผ่าหมานยังมีกำลังคนอีกสองแสนนาย ยกทัพใหญ่มาบุกประชิดพรม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 305

    แม่ทัพทุกนายต่างพากันอึ้ง!ไม่กล้าจินตนาการเลยว่า คนพวกนี้คือกองกำลังกบฏชาวนาที่กองทัพธงเหลืองกับกองทัพลู่เจ๋ออยากดึงมาเป็นพวก!ถูกแม่ทัพเฉินอู่พามายังด่านเจิ้นกวนทั้งหมดแล้ว!นี่มันตั้งสองแสนคนเชียว!มาที่ด่านเจิ้นกวนพร้อมกัน ไหนจะมีครอบครัวของพวกเขาอีก ลากถูลู่ถูกังคนทั้งครอบครัวเดินทางไกลบุกป่าฝ่าดงมาถึงด่านเจิ้นกวน!จำนวนคนของด่านเจิ้นกวนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว กำลังทหารพุ่งถึงสามแสนนาย!ตอนนี้แม้แคว้นฉู่แคว้นฉีเผ่าหมานสามฝ่าย พร้อมร่วมมือกับแคว้นเยี่ยนและแคว้นหย่งมาโจมตีด่านเจิ้นกวนก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว!เนื่องจากด่านเจิ้นกวนไม่ขาดกำลังทหารอีกต่อไป!จ้านเฉิงอิ้นขึ้นควบม้า แล้วเอ่ยกับนายทหารคนอื่น ๆ ว่า “ไป ไปต้อนรับเฉินอู่กลับเมือง!”“ขอรับ แม่ทัพ!”นายทหารหลายนาย พร้อมกับนายกองของสวีหวย ห้อตะบึงม้าไปยังประตูเมืองอย่างรวดเร็วครั้นเหล่าชาวบ้านได้ยินว่าแม่ทัพเฉินอู่กลับมาแล้ว ก็วางงานในมือลง และมาต้อนรับแม่ทัพหวนกลับยังประตูเมืองโดยสัญชาตญาณพวกเขานำน้ำใส่กาน้ำและชามกระเบื้องมาด้วย ชาวบ้านบางคนต้มโจ๊กที่บ้าน และถือโจ๊กมารอที่หน้าประตูเมืองผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อทุก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 306

    เพื่อให้คนในหมู่บ้านมีชีวิตรอด พวกเขาจึงคิดเอาสมบัติเงินทองออกมา และนำไปแลกเสบียงอาหารที่หัวเมืองใหญ่ ให้ชาวบ้านที่ใกล้จะหิวตายในหมู่บ้านได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้!ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อข่าวแพร่หลายออกไป เพียงพวกเขาก้าวออกจากหมู่บ้านก็ถูกคนจ้องจะเล่นงาน หลังจากนั้นก็จะถูกโจรเร่ร่อนปล้นทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงส่งชายหนุ่มในหมู่บ้านไปแลกเสบียงด้วยกันเท่านั้น ถึงไม่ถูกคนดักปล้นอีกคงเป็นเพราะมีแต่ชายหนุ่ม ก่อตั้งเป็นกลุ่มจนโดดเด่นได้รับความสนใจจากผู้คนพวกเขาจึงกลายเป็นกองกำลังกบฏไปอย่างไร้สาเหตุชายหนุ่มในหลายหมู่บ้านใกล้ ๆ มาขอพึ่งพิง แต่ในยามนี้ไม่ว่าผู้ใดก็ลำบาก อู๋ลี่ทนเห็นชาวบ้านหิวตายไม่ไหว จึงรับเข้ามาทั้งหมดคนที่ตามมารวมกลุ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาเตรียมจะไปซื้อเสบียงอาหารที่หัวเมืองอื่น...สุดท้ายทุกที่ไม่มีเสบียงอาหาร หลายคนใกล้จะหิวตาย ในขณะที่กำลังสิ้นหวังที่สุด...อู๋ลี่ติดอยู่ที่จังหวะสำคัญ น้ำเสียงแหบพร่า พูดต่อไม่ไหว ตอนนี้คอเขาแห้งผากจนแทบจะเกิดควันลอยขึ้นมาชาวบ้านยังอยากฟังต่อ จึงรีบส่งชามกระเบื้องที่ใส่น้ำเอาไว้ในมือไปเขารับมาอย่างไม่เกรงใจ หลังดื่มไปหลายอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 307

    กองกำลังกบฏชาวนามีชายหนุ่มหนึ่งแสนสองหมื่นคน และยังมีครอบครัวพวกเขาอีกราวหนึ่งแสนคนรวมกันแล้วทั้งหมดสองแสนสองหมื่นคนชาวบ้านที่อยู่ตรงประตูเมืองจะส่งน้ำและโจ๊กให้อีกมากเพียงใด ก็ไม่พอให้ทุกคนกินจ้านเฉิงอิ้นบอกกับเฉินขุยว่า “พาทุกคนไปดื่มน้ำก่อน แล้วค่อยไปล้างตัวที่ข้างแม่น้ำ...”เฉินขุยขานรับ “ขอรับท่านแม่ทัพ”“ซ่งตั๋วรับผิดชอบต้มโจ๊ก รีบไปต้มโจ๊กที่พอให้สองแสนสองหมื่นคนกินเสีย”“นายทหารที่เหลือไปจัดแจงที่พักอาศัย หากไม่มีเรือนว่าง ก็ตั้งกระโจมขึ้นมา”นายทหารที่เหลือรับคำสั่ง“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ครั้นอู๋ลี่เห็นจ้านเฉิงอิ้นรับรองกองกำลังกบฏอย่างดีเช่นนี้ ก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งก่อนมา เขาได้ยินเฉินอู่เล่าว่าด่านเจิ้นกวนดีเพียงใด...ทีแรกเขาไม่เชื่อ คิดว่าเฉินอู่กำลังหลอกเขาอยู่ภายหลังเฉินอู่ล้วงข้าวออกมา เม็ดขาวใสสะอาด ไม่มีเม็ดหินหรือโคลนเจือปนเขาก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคำพูดของเฉินอู่หลังจากนั้นอีก เฉินอู่ล้วงขนมปังแข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป บะหมี่แห้ง...ออกมาให้แต่พวกเขารวมถึงเด็กคนแก่และสตรีมีทั้งหมดสองแสนกว่าคน อาหารเพียงน้อยนิดแค่นี้จะไปพออะไรไม่คิดเลยว่าเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 308

    ด่านเจิ้นกวนไม่ได้มีเพียงแค่น้ำ และอาหารเท่านั้น...ยังเพาะปลูกได้อีกด้วย!พวกเขาเดินทางจากดินแดนภาคกลางมาหนึ่งเดือนกว่า เดินทางยาวนานจนท้ายที่สุดก็มาถึงด่านเจิ้นกวนทุกที่ที่เห็นล้วนเป็นดินแดง ทุกอย่างเหี่ยวเฉาและเป็นสีเหลืองไปหมดบางที่ไม่มีกระทั่งหญ้าเหี่ยวและต้นไม้เฉา ถูกคนกินจนเกลี้ยงมีเพียงด่านเจิ้นกวนที่มีสีเขียวขจีพวกเขาไม่ได้เห็นสีเขียวขจีมาเกือบครึ่งปีแล้วมีคนแก่คุกเข่าลงไปตรงนั้นเลย นัยน์ตาสีขุ่นทั้งสองข้างน้ำตาไหลพราก พลางหมอบกราบฟ้าดิน“ในที่สุดข้าก็ได้เห็นผืนดินที่เพาะปลูกได้แล้ว”“ฟ้ามีตา...!”ครั้นอู๋ลี่เห็นพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ กวาดสายตาไปปราดเดียวมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด เขาก็คุกเข่าโขกศีรษะไปทางจ้านเฉิงอิ้นโดยตรง“ขอท่านแม่ทัพรับเราไว้ด้วยเถิด ท่านให้เราไปต่อสู้ พวกเราก็จะไปต่อสู้ ท่านจะให้เราเพาะปลูก เราก็จะเพาะปลูก...”“ขอเพียงให้น้ำดื่ม มีโจ๊กชนิดจางให้กิน เรายอมทำงานให้ท่าน แม้ร่างกายจะแหลกลาญก็จะสู้ไม่มีวันถอย!”จ้านเฉิงอิ้นและเฉินอู่รีบประคองอู่ลี่ขึ้นมาจ้านเฉิงอิ้นเอ่ย “กองกำลังกบฏชาวนากองกำลังนี้ของเจ้ามีเด็กหนุ่มเยอะ ข้าหวังว่าพวกเขาจะเข้าร่ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 309

    ผ่านไปหนึ่งเดือนกว่า บริษัทไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกรของเย่มู่มู่ก็เริ่มไลฟ์สดแล้วผู้จัดการบ้านพักตากอากาศเป็นคนช่วยเธอจัดการแม้ผู้จัดการท่านนี้จะไม่ชำนาญไลฟ์สดขายของ แต่ก็ชำนาญเรื่องการตลาดเป็นอย่างยิ่ง!ตอนบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนเปิดกิจการในช่วงแรก เขาก็เป็นคนโน้มน้าวให้แม่ทุ่มเงินจำนวนมากหาเน็ตไอดอลมาถ่ายภาพ ทุ่มเงินซื้อการเข้าชมโฆษณา หานักเขียนที่คิดคำโฆษณาสวย ๆบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนถึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศเริ่มการไลฟ์ขายของช่วยเหลือเกษตรกร เขาก็ซื้อการเข้าชมและหานักเขียนมาเขียนคำอธิบายความหมายช่วยเหลือเกษตรกรเขียนความเจ็บปวดที่เกษตรกรผู้ปลูกผลผลิตถูกพ่อค้ากดราคา ทว่าก็ต้องขายให้กับพ่อค้าแม้ว่าทนไม่ไหวที่จะต้องรับการขาดทุนก็ตาม...กระทั่งตัดคลิปภาพด้านหลังที่หญิงชราร้องไห้อยู่บนคันนาออกมาด้วยซื้อการเข้าชมเป็นจำนวนมาก เมื่อแฮชแท็กขึ้นมา ก็เป็นกระแสในสื่อมีเดียทันทีระหว่างการไลฟ์ คนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาซื้อสินค้าช่วยเกษตรกรไลฟ์สดแรกเพื่อเปิดยอดขายและชื่อเสียง ผลิตผลพลอยได้ทางการเกษตรที่ขายไม่ออกของบริเวณรอบ ๆ ก็จะเอามาให้ทีมไลฟ์สดขายของที่บ้านพักตากอากาศ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 310

    อีกหกเดือนก็จะกักเก็บเสบียงอาหาร เพื่อนำไปใช้ในภัยหิมะอีกสองปีข้างหน้าได้หลังเย่มู่มู่ส่งปลายข้าวหลายล้านชั่งมา จ้านเฉิงอิ้นก็ไม่ได้ขอเสบียงอาหารอีกเนื่องจากเถามันเทศกินได้แล้วเถาฟักทองก็นำมาผัดได้แล้วอีกไม่กี่วันแตงกวา พริก มะเขือเทศ มะเขือม่วงก็จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว...ไม่นานชาวบ้านที่ด่านเจิ้นกวนก็จะเลี้ยงดูตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้เย่มู่มู่คอยให้อาหารอย่างต่อเนื่องแล้วพูดตามตรง เมื่อไม่ต้องให้ส่งเสบียงอาหารมาอีก เย่มู่มู่จิตตกมากทีเดียวเพราะการมอบให้ทำให้คนเสพติดได้ง่าย!ความรู้สึกถูกคนต้องการ ทำให้เย่มู่มู่พึงพอใจเป็นอย่างมากตอนนี้เธออารมณ์คงที่ ภาวะซึมเศร้าหายไปหมดแล้วนี่เป็นเรื่องที่วินวินกันทั้งคู่เรื่องหนึ่งตอนนี้เธอกับจ้านเฉิงอิ้นต่างกำลังขยันขันแข็งเพื่อรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งเดียวก้าวต่อไป จ้านเฉิงอิ้นอยากจะสร้างโรงเรียน และส่งเด็ก ๆ ไปเรียนเรียนความรู้ในยุคปัจจุบันของเย่มู่มู่ไปด้วย และเรียนความรู้ของลัทธิขงจื๊อที่จวงเหลียงสอนไปด้วยยังมีเรื่องที่น่ายินดีมากอีกเรื่องหนึ่ง นักพรตที่นามว่าซื่อเมิ่งคนนั้น แก้ปัญหาเรื่องสัดส่วนของดินปืนได้แล้วเขาหาวัตถุด

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 520

    กระทั่งสื่อยังหันกล้องมาจ่อเขาหลังจากนั้นหลูหมิงและหลูซีที่อยู่บนรถก็ลงมาวันนี้ทั้งสองคนบรรจงแต่งตัว สวมชุดคลุมยาวเนื้อผ้าเดียวกับมั่วฝาน ทว่าคนละแบบ และผูกผมยาวไว้ตรงท้ายทอยหลูซีกระทั่งลวดมือหยิบกระบี่ยาววัสดุสไตล์โบราณเอาไว้ตลอดกระบี่ยาวอยู่ในมือเขา กลับกลมกลืนอย่างคาดไม่ถึง!เย่มู่มู่ให้เขาเลือกมาหนึ่งเล่ม จากในบรรดากระบี่ชื่อดังสิบกว่าเล่มที่เถ้าแก่โรงงานเลียนแบบของโบราณเคยส่งมา!เขาเลือกกระบี่มังกรเล่มหนึ่ง!ในวินาทีที่เย่มู่มู่ลงมาจากรถ เมื่อรองผู้อำนวยการจางได้ยินเสียงข่าว ก็ออกมาต้อนรับพวกเขาเข้าไปด้วยตนเอง“มู่ม่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ผมคิดว่าคุณจะมาถึงสายกว่านี้ซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะมาเร็วที่สุด!”“มา ๆ เชิญชั้นบนเลย!”“พวกผู้อาวุโสจาง ผู้อาวุโสสวี่ ผู้อาวุโสมู่เขามาหรือยังคะ?”“ยังครับ เหล่าจางยังไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน เหล่ามู่ยังเข้าสอนนักเรียนอยู่ ผู้อาวุโสสวี่อีกคนติดต่อไม่ได้ ไม่เป็นไรครับ ติดต่อกับผู้ช่วยของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ต้องมาอย่างแน่นอน เกรงก็แต่ว่าไม่ถึงวินาทีสุดท้ายของพิธีตัดริบบิ้น จะไม่โผล่หัวมา!”“คุณวางใจเถอะครับ ขอแค่คุณมาถึงแล้ว พวกเขาจะต้องมา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 519

    มั่วฝานจะไปยับยั้งการร่วมมือของราชสำนักกับกองทัพธงเหลือง โดยผ่านมุมมองนี้ได้ เป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงในบันทึกประวัติศาสตร์ไม่เป็นทางการ การตายของฮ่องเต้น้อย เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพธงเหลืองบุกเข้าไปในเมืองหลวง ฆ่าเขาขณะเกิดการนองเลือดในราชวังแน่นอนว่าในหนังสือประวัติศาสตร์บันทึกอย่างไม่เป็นทางการจดบันทึกอย่างเร่งรีบข้ามไปข้ามมา ไม่มีประโยคเพิ่มเติมมาเขียนถึงฮ่องเต้น้อยเลยคงเป็นเพราะตายในการนองเลือดที่ราชวัง!ทว่าตอนนี้มั่วฝานร้อนใจอยากจะฆ่าเขาให้ตาย เย่มู่มู่ไม่มีอะไรจะพูด“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าของให้เจ้าประสบความสำเร็จ”“แน่นอนว่า ก่อนเจ้าจะกลับไปต้าฉี่ พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่งก่อน!”มั่วฝานถามขึ้นว่า “สำคัญมากหรือไม่?”ตอนนี้เขาค่อนข้างร้อนใจกับต้าฉี่เย่มู่มู่ตอบ “สำคัญมาก พรุ่งนี้เช้าเราจะไปนั่งรถไฟความเร็วสูงกัน!”“คืนนี้พวกเจ้าพักผ่อนให้สบายใจ ทางนั้นยังมีจ้านเฉิงอิ้นอยู่”“เขาเป็นถึงโหวขั้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย เติบโตมาอยู่ในค่ายทหารตั้งแต่เด็ก เคยรับมือกับแม่ทัพใหญ่ในสงครามมานับไม่ถ้วน!”“กะอีแค่การโจมตีของพันธมิตรไม่กี่ฝ่ายไม่ใช่หรือ? เ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 518

    มั่วฝานถามหลูหมิง หลูหมิงจึงบอกสถานการณ์ยากลำบากของกองทัพตระกูลจ้านเมื่อเขารู้ว่าฮ่องเต้น้อยร่วมมือกับกองทัพธงเหลืองก็พลันโพล่งเสียงหัวเราะออกมาขำไป ๆ ก็คุกเข่าร้องไห้กับพื้นเขารู้ทิศทางของประวัติศาสตร์ผู้อาวุโสยังถ่ายบันทึกประวัติศาสตร์อย่างไม่เป็นทางการ ที่บันทึกเกี่ยวกับต้าฉี่และจ้านเฉิงอิ้นมาให้เย่มู่มู่อ่านจากในหนังสือสะสมที่ไม่ได้เผยแพร่จากพิพิธภัณฑ์เย่มู่มู่พิมพ์ออกมา แล้วให้คนโบราณทั้งสามคนอ่านทิศทางสุดท้ายของประวัติศาสตร์จ้านเฉิงอิ้นตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวน กองทักตระกูลจ้านแหลกสลายตายทั้งกองทัพจริง ๆชาวบ้านด่านเจิ้นกวนถูกเผ่าหมาน แคว้นฉู่และฉีสังหารไปกึ่งหนึ่งในวันนั้นเลย!พวกเขาสังหารยังไม่พอ ไม่คิดเลยว่าจะย่างกินด้วยกินอยู่สามวันสามคืน และนำคนที่เหลือมาทำเป็นของแห้ง ขับไล่บุกโจมตีหัวเมืองอื่น ๆ ของต้าฉี่ตลอดทั้งทางเดิมทียังเจอการต้านทานบางส่วนอีกด้วย กองกำลังเล็ก ๆ ของสวีหวยหนึ่งแสนคนต้านทานเอาไว้ครู่หนึ่งแต่พบว่าสู้ไม่ได้ จึงรีบเผ่นออกไปทันทีเขารวมกับกองกำลังสองแสนคนของแม่ทัพลู่เดิมทีพวกเขาสามแสนคน ยังพอมีกำลังทำศึก ต้านทานทัพพันธมิตรฉู่ ฉีและเผ่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 517

    หลังเย่มู่มู่ส่งของไป ก็หยุดไม่ได้เนื่องจากกองทัพตระกูลจ้านขาดคนไปห้าหมื่นคนในฉับพลัน ต้องรีบรับสมัครทหารใหม่หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ดาบม่อเตา ชุดเกราะ...ต้องสั่งมาอีกชุด!เกราะกันกระสุนต้องเติมสต็อกต่อให้ของเซี่ยเวยเอาไปหมดแล้ว กองทัพตระกูลจ้านที่เหลืออยู่ล่ะ?เธอติดต่อซื้อปลายข้าวกับเจ้าของร้านขายข้าวอีกแน่นอนว่าตอนต่อสายไปหาเขาก็เป็นเวลาดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วแม้ทั้งสองคนจะเป็นพาร์ตเนอร์เปิดบริษัทการค้าต่างประเทศ ทว่าเขากับพี่เขยแทบจะไม่สนใจเลยกระทั่งเขายังคิดจะถอนหุ้นเสียด้วยซ้ำเนื่องจากเดือนที่แล้วเขาเปิดร้านสินค้าเกษตรและโภคภัณฑ์อีกร้านหนึ่ง ธุรกิจไม่ค่อยดีนัก กักตุนสินค้าไว้จำนวนมาก เงินทุนหมุนเวียนติดขัดเมื่อเอ่ยปากกับเย่มู่มู่ ความตั้งใจเดิมคือคิดจะยืมเงินเธอทว่าเย่มู่มู่เข้าใจปิด ถอนหุ้นให้เขาทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงโอนเงินไปยังบัญชีเขาแม้จะบอกว่าความร่วมมือไม่สำเร็จ ทว่าการซื้อขายยังอยู่ หากเย่มู่มู่แสดงออกว่าต้องการ จะยังซื้อข้าวจากร้านของเขาต่อประโยคเดียวทำเอาเจ้าของร้านขายข้าวอัดอั้นแทบแย่ทว่าเย่มู่มู่จะซื้อธัญพืชตอนดึกดื่นเที่ยงคืน ทำเอาเขาดีใจเป็นอย่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 516

    ด้านในล้างจนสะอาดหมดแล้วเย่มู่มู่กลิ้งถังน้ำเข้าไปในบ่อน้ำข้าง ๆ โดยตรง ใส่น้ำเข้าไปโดยอัตโนมัติครึ่งชั่วโมง ทั้งหมดก็ถูกใส่จนเต็มนาทีสุดท้ายในสี่ชั่วโมง รถบรรทุกน้ำมันยี่สิบคันขับเข้ามาอีกฝ่ายสวมหน้ากากอนามัยและแว่นดำ ไร้ซึ่งความเกรงใจ ให้เย่มู่มู่โอนทั้งหมดจ่ายเงินของรถบรรทุกน้ำมันพร้อมกันทีเดียวหลังเย่มู่มู่จ่ายเงิน สีหน้าของคนที่นำขบวนมาถึงค่อย ๆ ผ่อนคลายขึ้นมาพวกเขาขับรถเก๋งสองสามคันกลับไปเวลานี้ฟ้ามืดสนิทแล้วเย่มู่มู่มองเวลา ระยะเวลาสี่ชั่วโมงยังเหลือไม่กี่นาทีสุดท้ายเธอใส่รถบรรทุกน้ำมันทั้งหมดเข้าไปในที่ว่างเปล่าตอนนี้ที่เธอทำได้ก็ทำหมดแล้วที่ช่วยได้ก็พยายามช่วยสุดความสามารถส่วนทางกองกำลังห้าหมื่นคนของเซี่ยเวยนั้น จะปกป้องแคว้นเยี่ยนเอาไว้ได้หรือไม่เธอทำได้เพียงรอดูแล้วแต่เธอหวังว่าเซี่ยเวยจะปกป้องเอาไว้ได้หากราบรื่นก็ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนเช่นนั้นความปรารถนาที่จะรวมทั้งใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียว แว่นแคว้นแรกก็บรรลุผลแล้วเมื่อเย่มู่มู่คิดมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็แผ่ซ่านขึ้นมาทั้งตัวแวบหนึ่งพร้อมกับพลันตื่นเต้นขึ้นมาเธอหวังเป็นอย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 515

    เวินลี่ตอบตกลงว่าจะหารถบรรทุกน้ำมันมาให้ ภายใต้การรับรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเย่มู่มู่ส่วนจำนวนที่แน่ชัด ยังตอบตกลงไม่ได้เย่มู่มู่กระทั่งพูดกับเธออย่างกล้าหาญว่า หวังว่าจะรวมไปถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งด้วยแบบนั้นจะได้ขนน้ำมันมาได้อย่างต่อเนื่องในเวลานี้เอง เวินลี่ก็ตัดสายทิ้งไปเลยรวมถึงปั๊มน้ำมันด้วยภูมิหลังไม่เท่าไร ไม่มีเส้นสายบริษัทน้ำมัน จึงไม่ได้โควตา...ยากเป็นอย่างมาก!สำเร็จเรียบร้อย เย่มู่มู่ยังหาโรงงานที่ทำขนส่งถังใส่น้ำในพื้นที่ และเหมาสต็อกทั้งหมดเงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียวคือต้องล้างภายในถังเหล็กให้สะอาด และฆ่าเชื้อให้เรียบร้อยขนมาภายในสามชั่วโมงเธอต้องการบรรจุน้ำใส่ถังใหญ่เหล่านี้ให้เรียบร้อย แล้วใส่ในที่ว่างเปล่าภายในแจกันผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถขนส่งหลาบขบวน ขับมาถึงใต้ตีนเขาเย่มู่มู่ตรวจสอบถังน้ำมัน ทั้งหมดถูกเติมจนเต็มแล้วน้ำมันเครื่อง น้ำยาล้างกระจกและอะไหล่ต่าง ๆ เตรียมไว้ครบหมดแล้วขบวนรถล็อตแรกยี่สิบคัน เธอจ่ายเงินค่าเช่าหนึ่งปีเลยเงินนี้แทบจะซื้อรถบรรทุกเก่า ๆ ได้สักคันแล้วหัวหน้าของขบวนรถที่มองอยู่อึ้งไปเลย เธอแก้ไขสัญญากับมือ บอกว่าหากหนึ่งปียั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 514

    ความกดดันที่เขาเผชิญในตอนนี้ มากมายเสียยิ่งกว่าพวกเขากลับไปป้องกันแคว้นเยี่ยนเสียอีกทว่ากลับตัดสินใจให้พวกเขากลับไปปกป้องเมืองอย่างแน่วแน่ความเชื่อใจนี้ บุญคุณนี้ พวกเขาหกคนจะไม่มีวันลืมทั้งหกคนลุกขึ้นขอตัวลากับจ้านเฉิงอิ้นทันทีจ้านเฉิงอิ้นให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัวเพียงสองชั่วยามเท่านั้นผ่านไปสองชั่วยาม ต้องออกเดินทางกลับแคว้นเยี่ยนเมื่อเย่มู่มู่ได้ยินเรื่องนี้ ก็ถามจ้านเฉิงอิ้น...“ตอนนี้มีรถกี่คัน? อาหารกับแหล่งน้ำล่ะ?”คนห้าหมื่นคนกลับไปรักษาป้องกัน และช่วงชิงเวลากับแคว้นฉู่และฉีสองแคว้นตามแผนที่ที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมา และคำอธิบายของหลูซีกับหลูหมิง แคว้นฉู่และฉีอยู่ใกล้กับแคว้นเยี่ยนมากกว่า...พวกเขารีบกลับไปป้องกัน...และยังต้องต้องแก้ปัญหาอาหารการกิน และน้ำท่าของราษฎรเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนให้เรียบร้อย ราษฎรแคว้นเยี่ยนจะได้มีกำลังมาสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่อย่าว่าแต่ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเลย ขอเพียงพวกเขามีน้ำและอาหาร ก็ถูกสนับสนุนให้เป็นฮ่องเต้แล้วฉะนั้น ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นยังมีเสบียงอีกเท่าไร?จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “รถบรรทุกยี่สิบคัน รถบรรทุกขนาดกลางสามสิบคัน รถเล็กสิบค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 513

    เหตุใดจ้านเฉิงอิ้นจะไม่รู้ถึงความกดดันของห้าหมื่นคน ที่ต้องเผชิญหน้ากับคนห้าแสนคนแม้จะช่วงชิงภูเขาเหมืองและระเบิดโรงงานดินปืนทิ้งไปแล้ว สูญเสียไปหนึ่งแสนคนยังมีอีกสี่แสนคนแต่เขาเองก็รู้ว่า จะให้ไปเฝ้าเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนเอาไว้ มีเพียงเซี่ยเวยที่มีเหตุผลและน่าเชื่อถือที่สุดจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้เถียนฉินตามตัวเซี่ยเวยและทหารกลุ่มหนึ่งมาพวกเขาทุกคนกึ่งคุกเข่าพร้อมพยักหน้าจ้านเฉิงอิ้นมองพวกเขา หลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ความรู้สึกของทุกคนก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นวันนี้เมื่อยืนยันว่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนนำกองกำลังทหารทั้งหมดมายังต้าฉี่จะต้องมีกองกำลังแคว้นอื่นที่ฉวยโอกาสช่วงโกลาหลเข้ามาแน่พวกเขาจะต้องเฝ้าเอาไว้ให้ดีจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ตามรายงานที่น่าเชื่อถือได้ เยี่ยนซวี่รวบรวมกองกำลังสองแสนห้าหมื่นนายสุดท้ายของแคว้นเยี่ยนนำมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการข้าและกองทัพตระกูลจ้าน...”พวกเซี่ยเวย จ้าวเฉียนต่างพากันเงยหน้าขึ้นมา พวกเขาเผยสีหน้าคาดไม่ถึงออกมาในทันใดกระทั่งเซี่ยเวยเอ่ยปากออกมาด้วยความตกตะลึง “เขาบ้าไปแล้วหรือ? รวบรวมกำลังทหารทั้งหมดมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการท่านเนี่ยนะ?”“หากแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 512

    ขับตรงไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนโดยตรง ชักอาวุธออกมา กวาดล้างกองทหารประจำการณ์ในเมืองหลวงของพวกเขา ฆ่าขุนนางในราชสำนัก ให้ดีที่สุดต้องเอาเลือดของราชวงศ์แคว้นเยี่ยนล้างรอบหนึ่งด้วยหากให้คนพวกเขาได้อีกสองสามหมื่นคน เขาสามารถผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนได้เลย!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่หยวนจงก็อดรนทนไม่ไหวที่จะออกเดินทางเมื่อเลือกจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านสองในสามส่วนเมื่อจ้านเฉิงอิ้นไป ทิ้งทหารผ่านศึกเอาไว้สองสามพันนายคนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องเบื้องล่างของหลี่หยวนจงและยังมีทหารเบื้องล่างของอู๋ลี่ที่ฝีมือไม่เลวส่วนหนึ่งพวกเขาไม่เคยผ่านกลิ่นคาวเลือดและความโหดร้ายของสนามรบมาก่อน ครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ขับรถไปกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก!หลังทั้งสองคนหารือกันเสร็จ ตอนค่ำก็ออกเดินทางวันนี้ อู๋ลี่กับหน่วยเก่าของสวีหวยทะเลาะกัน จะแพร่งพรายออกไปทั้งค่ายทหาร และแพร่งพรายไปทั่วทั้งด่านเจิ้นกวน...หัวข้อบทสนทนาหลังกินข้าวที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่หยุด คืออู๋ลี่เลาะกับเว่ยโจวกองกำลังทั้งสองฝั่งลงไม้ลงมือ ซัดกันจนกระโจมพังไปหมดผลลั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status