Share

บทที่ 222

Author: มู่โร่ว
ศึกคราหน้าหรือไม่ตาย หรือไม่สะเทือนขวัญทั้งสามแคว้น

ต้าฉี่ไม่มีใครกล้าบุกโจมตีอีก!

ถ้าชนะ ในหนึ่งร้อยปีไม่มีใครกล้าลงมือกับแคว้นต้าฉี่

ถ้าแพ้ พวกเขาไม่เพียงแต่จะตายกันหมด พลเมืองในเมืองก็ตายด้วย

ครั้นบ้านเมืองแคว้นต้าฉี่ล่มสลาย ก็จะหายสาบสูญตลอดกาล!

ดังนั้น พวกเขาจะพ่ายแพ้ไม่ได้!

มั่วฝานพลันยืนขึ้น กล่าวอย่างโมโห “ข้าจะใช้เหยี่ยวส่งสาส์นไปยังไทเฮา กล่าวฟ้องสวีหวยสมคบกับศัตรูทรยศบ้านเมือง ให้ถอดยศตำแหน่งของเขาและไม่อนุญาตให้รับช่วงต่อด่านเจิ้นกวน”

“กองกำลังหนึ่งแสนนั่นยกให้จ้านเฉิงอิ้นเป็นผู้บัญชาการ!”

ถึงแม้ความคิดมั่วฝานดี แต่ไทเฮายังสำเร็จราชการแทนฮ่องเต้น้อยอยู่

หนำซ้ำราชสำนักยังถูกควบคุมโดยเสนาบดีซู ฮ่องเต้น้อยเป็นเสมือนเพียงหุ่นเชิด

สาส์นของไทเฮา ถ้าไม่มีการประทับตราแผ่นดินหยก สวีหวยตาแก่เจ้าเล่ห์ผู้นี้อาจไม่ยอมรับ

ครั้นเวลานี้ไม่มีวิธีอื่น ก็ยื้อไว้จนสุดความสามารถไปก่อน

มั่วฝานเขียนจดหมายทันที เขาปล่อยเหยี่ยวบินออกไปหนึ่งตัว

ทุกคนในกระโจมล้วนมีความรู้สึกหนักใจ หากเรื่องราวดำเนินต่อไปเช่นนี้

วิกฤตด่านเจิ้นกวนไม่เพียงแต่ไม่ได้รับการแก้ไข แต่ยังจะเลวร้ายลงอีกด้วย

ในทุ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Surirat Yui Chompoo Kampi
ไม่นะะ เสี่ยวมู่ เธอต้องช่วยคนรักในอนาคตของเธอจริงๆแล้วล่ะ ปล่อยเขาตามยถากรรมไม่ได้นะ สู้ๆนะท่านแม่ทัพจ้านเฉิงอิ้น อดทนไว้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 223

    เย่มู่มู่นั่งเบื่อหน่ายมากมายอยู่หน้าประตูโกดังชานเมืองวันนี้ลุงหยางกลับบ้านเกิดไปพักร้อนที่บ้านลูกสาว สองสามวันนี้จะไม่กลับมาถ้ามีของมาส่ง เย่มู่มู่ต้องไปเฝ้าที่โกดังตอนนี้ เย่มู่มู่กำลังรอเจ้าของร้านนำแท็บเล็ต หน้าจอ เครื่องมือไฟฟ้ามาส่งขณะกำลังรู้สึกเบื่อ เธอได้รับโทรศัพท์จากรองผู้อำนวยการจาง“มู่มู่ ผมกับนักวิจัยโบราณคดี พบว่าในถ้วยสิบใบที่คุณบริจาคให้พิพิธภัณฑ์ มีอยู่สองใบที่จ้านเฉิงอิ้นแม่ทัพใหญ่เคยใช้เมื่อยังมีชีวิต”“อะไรนะ จ้านเฉิงอิ้นเคยใช้?”เป็นไปไม่ได้~เธอได้แยกจานกระเบื้องออกเป็นหมวดหมู่ประเภทหมดแล้วมีการเคลือบเงา มีตัวหนังสือตรงก้นถ้วย ล้วนถูกเก็บไว้ชั้นบนสามร้อยสามสิบชิ้นที่เธอปล่อยขาย เป็นถ้วยแจกันสีกากีที่ไม่มีสีอื่นทุกชิ้นพูดตามตรง เธอมองไม่ออกเลยว่ามีความพิเศษอะไรรองผู้อำนวยการจางดีใจมากและกล่าวต่อ “ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแคว้นต้าฉี่ ในบันทึกประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้บันทึกอย่างเป็นทางการ สิ่งที่ได้บันทึกไว้มากที่สุดคือเรื่องราวอันกล้าหาญของแม่ทัพหนุ่มจ้านเฉิงอิ้น ดังนั้น พิพิธภัณฑ์จึงจะเปิดแคว้นฉี่รอบพิเศษ โดยแนะนำจ้านเฉิงอิ้นเป็นหลัก…”“คุณ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 224

    “ข้าจะสลักศิลาจารึก สร้างศาลเทพให้ท่าน นำคุณูปการอันเกริกก้องของท่านสลักไว้บนศิลาจารึก”“ไม่ว่าผ่านไปสิบปี ร้อยปี พันปีก็จะมีคนจดจำท่าน”เย่มู่มู่ไม่มีความเห็นกับสิ่งนี้“เรื่องเล็กน้อยที่ข้าทำเหล่านี้ เมื่อเทียบกับเจ้าแล้ว ไม่มีค่าเลย!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวไม่เห็นด้วย “ไม่จริง สำหรับข้ามีความหมายมาก ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าและเหล่านายทหารคงตายไปนานแล้ว”“เอาเถอะ ตามใจเจ้า ฝั่งของเจ้ามีภาพเหมือนหรือไม่ ถ้าไม่มีถ่ายรูปส่งมาให้ข้าที…”“ถ้าเจ้าไม่ส่งมาให้ พนักงานในพิพิธภัณฑ์จะดาวน์โหลดรูปจากออนไลน์ตามใจชอบ แล้วถือว่าเป็นเจ้า”“ข้างในพิพิธภัณฑ์ มีรูปคนแปลกหน้าแขวนอยู่ใต้ชื่อเจ้า ได้รับความเคารพจากคนรุ่นหลัง”“ถ้าเป็นข้า ข้าไม่สามารถยอมรับได้ หากมีใบหน้าธรรมดาไม่โดดเด่นหรืออัปลักษณ์น่าเกลียดของคนหนึ่งแขวนอยู่ใต้ชื่อข้า”จ้านเฉิงอิ้นตอบจดหมายกลับมา “ขอรับ ท่านเทพรอสักครู่ สาย ๆ ข้าจะถ่ายรูปส่งให้”“อืม ไม่ต้องเร่งรีบ เจ้าว่างแล้วค่อยถ่ายก็ได้”ไม่มีกระดาษข้อความเด้งออกจากแจกันอีกเย่มู่มู่ทำท่าหาวแล้วฟุบหลับไปบนโต๊ะเธอไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าไหร่ ท่ามกลางอาการสะลึมสะลือ เธอได้ยินเสียงแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 225

    เย่มู่มู่อ่านความคิดเห็นของเหล่าสาว ๆ ชอบใจหัวเราะคิกคักเหล่าพี่สาวพูดเก่งกันจริง ๆ พูดอีกเยอะ ๆ เธอชอบฟัง!เธอรออยู่ครู่หนึ่ง จ้านเฉิงอิ้งยังไม่ส่งภาพวาดมาให้หรือว่าจ้านเฉิงอิ้นขวยเขินกับภาพตนเองเกินไป?ไม่อยากส่งภาพมาให้?เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เย่มู่มู่ตัดสินใจส่งกระดาษข้อความให้เขา“จ้านเฉิงอิ้นวาดเสร็จหรือยัง?”“ยังขอรับ ข้าส่งให้ท่านเทพตอนดึกอีกทีได้หรือไม่?”“เอาเถอะ พิพิธภัณฑ์เป็นฝ่ายขอภาพเหมือนของเจ้า จะให้เมื่อไหร่ สิทธิการตัดสินใจอยู่ที่เจ้า!”“ขอบคุณท่านเทพที่เข้าใจ ท่านเทพ ข้ามีเรื่องจะขอร้อง…”“สนิทกันเพียงนี้แล้ว เจ้ายังเกรงใจอะไรข้าอีก มีอะไรพูดมาได้เลย!”เย่มู่มู่ขายวัตถุโบราณไปหนึ่งชุด ได้เงินมา3.75หมื่นล้าน ในโกดังยังมีวัตถุโบราณอีกจำนวนมากทั้งหมดนี้ล้วนเป็นทรัพย์สมบัติที่มีมูลค่ามหาศาลจ้านเฉิงอิ้นร้องขอบางอย่างจะเป็นอย่างไร!อืม แน่นอนว่าทำให้เขาได้ทุกอย่าง!“ท่านเทพสั่งซื้อธนูทดกำลังอีกหนึ่งชุดได้หรือไม่ รวมถึงลูกธนูที่ใช้กับธนูทดกำลังโดยเฉพาะ”จ้านเฉิงอิ้นบอกเล่าว่าทหารเผ่าฉู่กระสุนหมดเสบียงเกลี้ยง ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่จะนำกองกำลังทหารเผ่าหมานส

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 226

    เขาไม่ได้เขียนอะไรอีกเพียงคิดก็รู้แล้วว่าเขาวิตกกังวลมากเย่มู่มู่ยกปลายปากกา ตอบจดหมายกลับไป“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าคือแม่ทัพใหญ่ที่เบื้องหน้ามองไม่เห็นสิ่งใด ย้อนกลับไปไม่เห็นผู้ใด เมื่อมองภาพรวมประวัติศาสตร์ทั้งหมดของแคว้นฉี่ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หรือขุนนาง ไม่มีใครถูกบันทึกชื่อในหนังสือประวัติศาสตร์ เจ้าคือหนึ่งเดียวที่ถูกละเลงด้วยหมึกเข้มข้น ได้รับการยกย่องในหนังสือประวัติศาสตร์”“ศึงสงครามครานี้ เจ้าจะได้รับชัยชนะแน่ โปรดเชื่อมั่นในตนเอง”“ข้าจะช่วยเจ้าด้วยกำลังทั้งหมดที่ข้ามี”“ถ้าศึกสงครามครั้งนี้ได้รับชัยชนะ ด่านเจิ้นกวนจะไม่ถูกปิดล้อมและเหล่าพลเมืองจะได้รับอิสระด้วยใช่หรือไม่?”หลังจากเย่มู่มู่หย่อนจดหมายลงไป เพียงครู่หนึ่ง จ้านเฉิงอิ้นก็ส่งจดหมายกลับมา“ขอรับ ถ้าครั้งนี้เอาชนะการปิดล้อมจากสามทิศได้ จะไม่มีแคว้นใดกล้าจ้องตาเป็นมันกับต้าฉี่อีก และในหนึ่งร้อยปีจะไม่มีใครกล้ากระทำอีกด้วย!”“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าต้องสู้นะ จงมีชีวิตรอดกลับมา!!”“เจ้าเคยรับปากข้า ว่าจะรวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งและไปพิชิตต่างแดน”“เจ้าห้ามผิดสัญญา!”เป็นเวลานาน กว่าจะมีจดหมายส่งกลับมาในแจกัน“ขอรับ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 227

    “ในช่วงเวลานี้ ข้าได้เล่นอากาศยานไร้คนขับ ได้ขับรถแทร็กเตอร์ ได้ใช้แท็บเล็ต…ชีวิตนี้นับว่าคุ้มค่าแล้ว”สายตาทุกคนทอดมองรัฐทายาทน้อยอย่างปลื้มใจเขาเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปมากที่สุดในหมู่นายทหารเมื่อก่อนเขากลัวว่าต้องลงสนามรบ ไม่กล้าฆ่าคนตั้งแต่เกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัย อุปนิสัยเขาเปลี่ยนไปมาก เลิกทัศนคติเยาะเย้ยถากถางสังคมและเริ่มฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ในสนามครั้นเผ่าหมานบุกมารุกราน เขายังลงสนามรบไปช่วยฆ่าศัตรูใช้อากาศยานไร้คนขับพกพาระเบิด บังคับเล่นมันประหนึ่งมืออาชีพพันธมิตรสามฝ่ายถอยทัพเมื่อครั้งก่อน มั่วฝานมีผลงานความดีควรได้รับยกย่องเขานำทรัพย์สมบัติทั้งหมดออกมา มอบถวายให้ท่านเทพ เป็นเพราะรู้ว่าศึกสงครามหน้ายากจริง ๆ !ครั้นทุกคนเห็นความใจกว้างของมั่วฝาน จึงเปิดกล่องของตนเองด้วยอย่างเด็ดขาดเป็นทองคำเงินเครื่องประดับทั้งนั้นทรัพย์สินครอบครัวถูกนำออกมาจนไม่เหลือพวกเขามีความคิดเช่นเดียวกับมั่วฝาน หากพ่ายแพ้ขึ้นมา จะให้ศัตรูได้ประโยชน์ไปง่าย ๆ ไม่ได้หากได้รับชัยชนะ ถึงแม้ทรัพย์สินครอบครัวจะหมดลง แต่ท่านเทพไม่มีทางดูพวกเขาอดตายท่านจะส่งน้ำและเสบียงอาหารมาให้อีกในป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 228

    เจ้าของโรงงานตอบกลับ “ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว!”เย่มู่มู่เพิ่มเป็นชุดละสองหมื่นห้าพันบาท ขอเพียงเขาส่งให้ก่อนหนึ่งชุดในวันพรุ่งนี้เจ้าของร้านกล่าวว่ามีเพียงหนึ่งพันกว่าชุดเท่านั้น!ไม่เป็นไร นางต้องการด่วน!หลังจากวางสาย เธอเปิดรายชื่อผู้ติดต่อและเริ่มโทรถามเพื่อนสมัยมัธยมปลายทีละคนชั้นมัธยมปลายเธอเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ มีเพื่อนสองสามคนกำลังศึกษาที่ประเทศเหม่ยลี่ครั้นรู้ว่าเธอถามหาปืนไรเฟิลต่างรู้สึกว่าเธอบ้าจึงวางสายอย่างรีบร้อนเพื่อนของพ่อและแม่ ครั้นรับสายและรู้ว่าเป็นเธอ ก็กลัวเย่มู่มู่จะทำให้พวกเขาลำบาก เย่มู่มู่ยังไม่ทันเอ่ยถาม ก็พากันวางสายโดยตรงพวกเขาแสดงท่าทีไร้น้ำใจต่อกันได้อย่างถึงอกถึงใจจริง ๆครั้นหาปืนไรเฟิลไม่ได้ เธอทอดมองทองคำเงินเครื่องประดับที่อยู่เต็มห้องถ้าพวกเขาตายกันหมด!เธอเก็บเงินเหล่านี้ไว้ ก็ใช่ว่าจะสบายใจจะทำอย่างไรดี?*ภายในกระโจม หลังจากทุกคนส่งทองคำเงินเครื่องประดับไปแล้ว บรรยากาศเงียบสงัด ทุกคนนิ่งเงียบไม่พูดจา!พวกเขาไม่ได้อาลัยเงินทองแต่เพราะคิดว่าจะตายในอีกสองสามวัน ถึงแม้เห็นความเป็นความตายจนเคยชิน แต่ในใจก็ยังกลัวต่อความเป็น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 229

    พวกนายทหารวิ่งไปดูอาการบาดเจ็บของมั่วฝานเขาไม่ได้เป็นอะไร ถุงลมนิรภัยไม่ได้เด้งออกมาเขาเปิดประตูรถอย่างยากลำบาก บนหน้าผากมีลูกโนขนาดใหญ่ ตอนก้าวลงมาขาสองข้างเกิดอาการอ่อนแรงความมั่นอกมั่นใจเมื่อครู่นี้ กลายมาเป็นความคับแค้นใจ“รถยนต์ขับยากเกินไป ยากกว่ารถไถนาเสียอีก!”เฉินขุยหัวเราะและกล่าว “บอกแล้วว่าอย่าอวดเก่ง!”เจียงหยวนเป็นคนพยุงมั่วฝานและหาเก้าอี้ตัวหนึ่งให้เขานั่งจวงเหลียงเป็นคนช่วยเขาเช็ดบาดแผลและทำลูกหัวโนตรงหน้าผากให้ยุบคนวัยหนุ่มเหอหง เฉินจวิ้นหลินและอีกสองสามคน ต่างเดินล้อมรอบอยู่ข้างรถพวกเขาชอบรถ โดยเฉพาะรถออฟโรดขนาดหนักทรงพลังและมีอำนาจ…ต่างรู้สึกคันไม้คันมือ อยากขึ้นไปลองขับแต่ทว่า ไม่มีใครสามารถเปิดเครื่องยนต์รถได้สำเร็จเลยสักคนกลับเป็นเจียงหยวน ที่ไม่รู้เลยว่าเขาถอยรถออกมาและขับไปยังพื้นที่โล่งได้สำเร็จได้อย่างไรทุกคนมองเจียงหยวนอย่างประหลาดใจ รองแม่ทัพของมั่วฝานผู้นี้ไม่ธรรมดา!คิดไม่ถึงว่าจะเรียนรู้การถอยรถเป็นแล้ว!ในเวลาเดียวกัน เย่มู่มู่ส่งกระดาษแผ่นเล็กมาอีกหนึ่งแผ่น“เป็นอย่างไรบ้าง ลองขับรถแล้วหรือยัง ถ้ามีความจำเป็น พรุ่งนี้ข้าไปซื้อเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 230

    เด็กกำพร้าและหญิงม่ายอยู่ในค่ายทหารของสวีหวยต่อไป สุดท้ายก็ไม่อาจหลีกหนีชะตาชีวิตในการถูกกินจึงได้หนีภัยมายังด่านเจิ้นกวน!อีกทั้งยังมีนายทหารบางคน ยอมเดินด้วยเท้าสามสิบลี้ท่ามกลางแสงแดดร้อนผ่าวมาถึงด่านเจิ้นกวนเพื่อให้ภรรยาและลูกมีชีวิตรอดต่อไปพวกเขาเพียงต้องการหนทางรอดชีวิตหนทางหนึ่งเท่านั้นจึงไม่กล้าจินตนาการถึงด่านเจิ้นกวนว่าดีเพียงใด ตราบใดที่มีใบไม้หญ้าและรากเพียงพอ พวกเขาก็จะยอมรับมัน!แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากมาถึงด่านเจิ้นกวนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนทุกคน ล้วนใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสที่ทำจากวัสดุฝ้ายไม่ว่าจะเป็นผู้สูงวัยหรือว่าเด็กน้อย เสื้อผ้าล้วนใหม่เอี่ยมทุกตัว!เหล่าทหารล้วนสวมใส่เสื้อผ้าที่เรียบร้อย ที่เท้าสวมไว้ด้วยรองเท้าผ้าใบ ชุดเกราะขาวสะอาดเป็นระเบียบ เสื้อซับในของชุดทหารก็ดูมีคุณภาพดีเยี่ยมเป็นเสื้อผ้าเนื้อดีกว่าของเหล่าขุนนางชนชั้นสูงที่สวมใส่ ก่อนเกิดทุพภิกขภัยก่อนหน้านี้อีก!ครั้นพวกเขาถูกพามาถึงท้องถนนบนพื้นที่อยู่อาศัยเห็นข้างหน้ามีคนกำลังต่อแถวรับน้ำก๊อกน้ำอยู่กลางถนน เพียงบิดมัน แหล่งน้ำสะอาดก็ไหลออกมาซ่า ๆ ทันทีมีคนตะโกนในกลุ่มผู้ประสบภัย

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 688

    นางตะโกนด้วยความยินดี “เสี่ยวเถา ชีเหนียง หยางซี... ข่าวดี! ต่อไปข้าจะเป็นแม่ทัพที่ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก เป็นแม่ทัพหญิงเพียงหนึ่งเดียว!”“ข้าก็จะมีที่ดินศักดินาและคฤหาสน์!!”“ชื่อของข้าจะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ปรากฏอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”“ข้าดีใจมาก รู้อย่างนี้ ข้าควรจะเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านให้เร็วกว่านี้!”ทุกคนมองดูหยางชิงเหอวิ่งออกไปด้วยความยินดี ต่างก็เผยรอยยิ้มสตรีในยุคนี้ ส่วนใหญ่อยู่แต่ในเรือนอย่างสงบ ไม่ค่อยออกไปเผชิญโลกภายนอกจุดจบของพวกนางก็ไม่พ้นการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์หากมีสตรีอย่างหยางชิงเหอกลายเป็นแม่ทัพหญิงขึ้นมาจริง ๆ จะต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วแผ่นดินนี่เป็นเรื่องดี!ท่านเทพเคยกล่าวไว้ โลกของพวกเขามีความเท่าเทียมกันระหว่างชายหญิงท่านเทพสืบทอดทรัพย์สมบัติมหาศาลจากบิดามารดา จึงมีเงินมากมายมาช่วยเหลือพวกเขาและมั่วฝาน ผู้ที่เคยเห็นโลกที่ชายหญิงเท่าเทียมกัน เป็นผู้ที่มีสิทธิ์พูดมากที่สุดเพราะเขาอาศัยอยู่ในยุคปัจจุบันเป็นเวลาหนึ่งเดือนบนถนนหนทาง เขาเห็นสตรีขับรถยน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 687

    อันที่จริง ฮ่องเต้ทรงต้องการให้จ้านเฉิงอิ้นกำจัดกองทัพเผ่าหมานเผ่าหมานต่างหากที่จะสั่นคลอนรากฐานของต้าฉี่แน่นอนว่า เผ่าหมานเข้ามาในต้าฉี่ได้ก็เพราะฮ่องเต้ทรงอนุญาต เพื่อที่จะล้อมปราบจ้านเฉิงอิ้นใครจะไปรู้...การล้อมปราบกลับล้มเหลว!เชิญเทพมาง่าย แต่ส่งเทพกลับยาก!กองทัพเผ่าหมานสองแสนนายหันกลับมาโจมตีเมืองหลวง ตอนนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงสองร้อยลี้ดังนั้น ข้อเสนอของจ้านเฉิงอิ้น ฮ่องเต้จะต้องทรงยินยอมอย่างแน่นอนกองทัพตระกูลจ้านสังหารกองทัพธงเหลือง เป็นการขจัดเสี้ยนหนามในพระทัยของฮ่องเต้หากกำจัดเผ่าหมานได้ ฮ่องเต้ก็จะไม่มีอะไรต้องกังวลอีกดังนั้น ไม่ว่าจ้านเฉิงอิ้นจะเสนออะไร ตราบใดที่ไม่ใช่การยึดราชบัลลังก์เขาก็จะทรงยินยอม!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ผู้บัญชาการลั่วกลับไปรายงานเขา ข้าจะกำจัดเผ่าหมาน และจะช่วยเหลือตัวประกันหลายหมื่นคนออกมา”“เพียงแค่ฮ่องเต้ทรงอนุญาตตามข้อเสนอของข้า!”ผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงก็วางใจลงได้ในที่สุดใครจะคาดคิด จ้านเฉิงอิ้นกลับเปลี่ยนน้ำเสียง “การปราบปรามผู้ลี้ภัยคือทอง เงิน และอัญมณีล้ำค่าหนึ่งร้อยหีบ แต่การสังหารเผ่าหมานม่อเป่ยเป็นราคาอีกอย่าง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 686

    ทว่าหวงกงกงก็ทำได้เพียงตะโกนก้องอยู่ในใจ ไม่กล้าเอ่ยออกมาแม้เพียงครึ่งคำนี่คือดินแดนของกองทัพตระกูลจ้าน ด้านนอกมีกองทหารสองแสนนาย หากเขาพูดมากไปกว่านี้แม้เพียงประโยคเดียว วันนี้คงไม่ได้ออกจากที่นี่เขาสั่นเทาพลางกล่าวขออภัยต่อเฉินขุย “ขะ...ข้าน้อยจะกลับไปทูลฝ่าบาทขอรับ”“เอาเถิด ข้าก็จะไม่ทำร้ายขันทีอย่างเจ้า เอาอย่างนี้ ให้เขาส่งตัวบิดามารดาของข้า และครอบครัวของท่านแม่ทัพใหญ่ รวมถึงพี่ใหญ่... ส่งมาให้หมด!”“อีกอย่าง ราชโองการสำนึกผิดอย่าได้ลืม ต้องเขียนก็ต้องเขียน ตอนที่ราชบัลลังก์และชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ยังคิดจะนั่งอยู่ในตำแหน่งอย่างสบาย ๆ อีกหรือ ให้เขาทำอะไรก็ต้องทำ!”“สุดท้าย ท่านแม่ทัพใหญ่และเหล่าแม่ทัพสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่แก่ต้าฉี่ สมควรได้รับการเลื่อนบรรดศักดิ์ ได้รับบำเหน็จรางวัล จะงดเว้นที่ดินพันครัวเรือนไม่ได้เลย แม้แต่หนึ่งหมู่ก็ต้องมอบให้ครบ!” “เจ้ากลับไปบอกเขา หากตกลงตามนี้ กองทัพตระกูลจ้านจะส่งทหารไปปราบปรามผู้ลี้ภัยทันที”“หากไม่ตกลง ก็ให้เขาหาทางอื่นเอาเอง ก็รอให้ผู้ลี้ภัยในเมืองหลวงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน!”หวงกงกงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากไม่หยุด สั่นเท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 685

    มั่วฝานทอดสายตาไปยังหวงกงกง ก่อนจะเหลือบมองลั่วปิน แล้วคลี่พัดออกโบกเบา ๆรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนใบหน้า“เฮอะ ทำไม ยามนี้ราชสำนักคิดจะใช้งานท่านแม่ทัพใหญ่อีกแล้วหรือ?”“ตอนที่เชื้อเชิญแคว้นเยี่ยนและเผ่าหมานมาร่วมกันกำจัดกองทัพตระกูลจ้าน เหตุใดจึงไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งจะต้องพึ่งพาท่านแม่ทัพใหญ่?”“ตอนนี้เพียงแค่มีราชโองการก็คิดจะให้ท่านแม่ทัพไปปราบปรามผู้ลี้ภัย ไยถึงได้คิดตื้นเขินยิ่งนัก?”“ราชสำนักมัวแต่กอบโกยผลประโยชน์ พอถึงคราวที่ต้องพึ่งพาท่านแม่ทัพใหญ่ ก็ใช้เพียงราชโองการฉบับเดียว หวังจะให้ท่านแม่ทัพใหญ่เอาชีวิตเข้าแลก”“ยามที่ไม่ต้องการใช้งานท่านแม่ทัพใหญ่ แม้แต่กองกำลังรักษาเมืองก็ยังถูกส่งออกมา เพียงเพื่อหวังจะกำจัดท่านแม่ทัพใหญ่ให้สิ้นซาก!”“ฮ่องเต้ไม่เคยคิดถึงวันนี้เลยหรือ?”“แล้วนี่อะไรกัน ไม่มีสิ่งใดตอบแทน เพียงกระดาษแผ่นเดียวก็หวังจะให้ท่านแม่ทัพใหญ่เอาชีวิตเข้าแลก เจ้ากลับไปบอกเขา....”“ให้ฮ่องเต้ทรงเขียนราชโองการสำนึกผิด ประกาศต่อใต้หล้า ขอโทษต่อบรรพบุรุษและราษฎรของราชวงศ์ต้าฉี่”“ต้องเขียนให้ชัดเจนว่า ฮ่องเต้ทรงร่วมมือกับกองทัพธงเหลืองอย่างไร เชิญแคว้นเยี่ยน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 684

    แม่ทัพใหญ่จ้านเฉิงอิ้นหวังให้เขาอย่าเพิ่งมองการณ์ไกล ยึดเมืองหลวงแคว้นฉู่ให้ได้เสียก่อนเมื่อยึดได้แล้ว จงรักษาเมืองไว้ให้มั่นครั้นจ้านเฉิงอิ้นสะสางเรื่องราวในแคว้นต้าฉี่เสร็จสิ้น แคว้นแรกที่จะยกทัพไปตีก็คือต้าฉู่สำหรับกองทัพตระกูลจ้านผู้เกรียงไกรในใต้หล้า การเปิดฉากศึกแรกด้วยชัยชนะอันงดงาม ยึดครองแคว้นต้าฉู่ที่เคยยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งมาไว้ในกำมือ จะเป็นขวัญและกำลังใจอันยอดเยี่ยมแก่เหล่าทหารขณะนั้นเอง พลทหารนายหนึ่งควบม้าเข้ามาหน้าประตู “รายงาน ท่านแม่ทัพใหญ่ มีราชโองการจากฮ่องเต้ขอรับ”บรรดาแม่ทัพต่างลุกขึ้นยืน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความฉงนสนเท่ห์พวกเขาเพิ่งมาถึงที่นี่ได้เพียงสามวัน เมื่อวานเพิ่งสังหารกองทัพธงเหลืองจนสิ้น วันนี้ฮ่องเต้ก็ทรงมีราชโองการมาหรือว่าฮ่องเต้ทรงมีสายลับอยู่ในกองทัพ?ข่าวช่างรวดเร็วเหลือเกินครั้งนี้ กองกำลังรักษาพระองค์เป็นผู้นำขันทีคนสนิทของฮ่องเต้มาอ่านราชโองการด้วยตนเององครักษ์มีจำนวนสองร้อยนาย ขันทีสามคน!เหล่าองครักษ์และขันทีต่างเหลือบมองรถม้าบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่จอดเรียงรายอยู่ตามถนนพวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ดูไม่ธรรมดาอย่าง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 683

    ครั้งก่อนที่เขาส่งเสบียงไปให้ จ้านเฉิงอิ้นสั่งให้หลี่หยวนจงบุกเข้าไปในพระราชวังต้าฉู่ กวาดล้างจวนขุนนางต่าง ๆ และยึดเมืองหลวงของแคว้นฉู่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?ถ้าเขายังคงโง่เขลารอให้ฉู่อ๋องกลับมา เพื่อที่จะวางระเบิดสังหารเขากลางทางพวกเขาอาจจะถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นหวังว่าหลี่หยวนจงจะฉลาดพอและยังมีอีกเรื่องหนึ่ง มั่วฝานได้รับจดหมายลับจากด้านเจิ้นกวน!นักฆ่าสองคนที่มั่วฝานส่งไป ฉือซานและฉือลิ่ว เดินทางถึงด่านเจิ้นกวนอย่างราบรื่นพวกเขาจอดรถไว้นอกเมืองก่อน และลอบเข้าไปในเมืองในตอนกลางคืนพวกเขาไม่ได้รบกวนใครขณะเข้าเมือง และตรงไปยังค่ายพักของอดีตลูกน้องสวีหวยสังหารคนไปหลายคนในคืนเดียววันรุ่งขึ้น เมื่ออดีตลูกน้องของสวีหวยตื่นขึ้นมา พบว่ามีแม่ทัพเสียชีวิตถึงสามคน ทุกคนต่างตกตะลึงพวกเขาบอกว่าอู๋ลี่เป็นคนฆ่าคนของพวกเขาแต่คนของอู๋ลี่กลับไม่ยอมรับพวกเขาก็เลยสู้กันอีกจากเดิมที่มีแม่ทัพสิบคน เหลืออยู่เจ็ดคน ในระหว่างการต่อสู้ ก็มีคนถูกฆ่าตายไปอีกสองคนอย่างปริศนาคนที่เหลืออีกห้าคนถึงได้รู้ตัวคนของพวกเขากำลังถูกปองร้าย ถูกลอบสังหาร!พวกเขาไม่กล้าประมาทอีกต่อไป และย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 682

    เมื่อเห็นเหวินเหลียนเยว่กำลังทำงานอยู่เขาก็เริ่มทำงานบ้าง!อาจเป็นเพราะครอบครัวของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน หรือได้รับการถ่ายทอดมาในครอบครัว หรือไม่ก็อาจเป็นพรสวรรค์เขาให้เย่มู่มู่ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งก่อนครึ่งหนึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยี อีกส่วนหนึ่งเป็นบริษัทด้านการแพทย์และพลังงานเย่มู่มู่เพิ่งค้นพบว่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่บ้านเกิดของเธอจู่ ๆ ก็มีบริษัทหนึ่งผุดขึ้นมา ซึ่งมีธุรกิจทับซ้อนกับกลุ่มฟู่ลี่กรุ๊ปน่าแปลกที่บริษัทนี้ดำเนินกิจการได้ค่อนข้างดีจางเฉินซีกล่าวว่า “รายได้ของบริษัทนี้เพิ่มขึ้นสิบเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจบริษัทนี้เท่าไหร่ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าซื้อหุ้น”“เมื่อรัฐบาลประกาศรายชื่อบริษัทสำคัญด้านพลังงานใหม่ ราคาหุ้นของบริษัทนี้จะพุ่งสูงขึ้น!”เขาแนะนำให้เย่มู่มู่ซื้อหุ้นของบริษัทนี้อย่างต่อเนื่องเย่มู่มู่จึงมอบบัญชีหุ้นให้เขาจัดการโดยตรงช่วงบ่าย พวกเขายังคงทำงานต่อ แต่เธอจำเป็นต้องออกไปข้างนอกสินค้าที่สั่งไว้เมื่อวานมาถึงแล้ว และส่วนหนึ่งถูกขนส่งไปยังโกด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 681

    จางเฉินซีหันกลับไปมองเหวินเหลียนเยว่ พลางยกนิ้วโป้งให้“กล้าทำเรื่องสำคัญขนาดนี้โดยไม่บอกที่บ้านก่อนเนี่ย... เธอมันแน่จริง ๆ”เหวินเหลียนเยว่ยกไหล่ “ก็ไม่นี่คะ ต่อให้พวกเขารู้ ก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี”“ทำไมเธอถึงได้มั่นอกมั่นใจขนาดนี้นะ?”“ก็งานนี้ผู้อาวุโสมู่เป็นคนแนะนำให้ฉันเองนี่นา พวกเขาก็เป็นลูกศิษย์เขาทั้งนั้น จะกล้าขัดใจได้ยังไง?”จางเฉินซีได้แต่ตอบกลับอย่างขัดเขินว่า “สุดยอด!”ระหว่างขับรถ จางเฉินซีก็เหลือบมองหลูหมิงเป็นระยะหลูหมิงสวมชุดลำลองธรรมดา ๆ บนเสื้อยังมีโลโก้สามร้อยหกสิบองศา ติดอยู่ ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบทั่วไปของรองเท้ายี่ห้อเท่อปู้ดูยังไงชุดนี้ก็ราคาไม่เกินห้าร้อยหยวน“น้องชายคนนี้ชื่ออะไรเหรอ?”หลูหมิงไม่ได้สนใจเขา รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูเหลาะแหละไม่น่าไว้ใจความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อจางเฉินซีจึงไม่ค่อยดีนักเย่มู่มู่แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน “เขาชื่อหลูหมิง เป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉัน!”“ว้าว! บอดี้การ์ดเหรอเนี่ย น้องหลูหมิงฝีมือเป็นยังไงบ้าง? ไว้เรามาประลองกันหน่อยไหม ฉันเองก็เคยได้สายดำเทควันโดนะ!”หลูหมิงที่เงียบมาตลอดทาง จู่ ๆ ก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 680

    หลังจากจางเฉินซีเซ็นสัญญาเข้าทำงานแล้ว เลขาที่ผู้อาวุโสมู่แนะนำไว้ก็มาถึงเดิมทีเย่มู่มู่คิดว่า จะเป็นประเภทเดียวกับเวินลี่ เป็นประเภทหญิงสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถรอบด้านผู้ที่มาเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้ากลมเล็ก ใส่แว่นตากรอบดำ สวมเสื้อฮู้ดสีขาว ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษานึกไม่ถึงเลยว่าเลขาจะอาศัยอยู่ในประเทศที่สวยงามในแถบยุโรปมาตั้งแต่เด็ก และเติบโตที่นั่นเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยการเมืองและกฎหมายจีนตะวันออก เรียนจบและเข้าทำงานที่สำนักงานกฎหมายชั้นนำ มีใบอนุญาตทนายความความสามารถของเธอสามารถเปิดสำนักงานทนายความได้ด้วยตนเองสาวน้อยคนนี้เป็นคนที่เงียบอย่างมาก หน้าตาน่ารัก และเป็นสาวน้อยที่สวยคนหนึ่งพอพวกเขาเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามเย่มู่มู่ไปเมื่อจางเฉิงซีมาถึงที่หน้ารถของเย่มู่มู่ ก็มองเห็นมายบัคแบบโบราณคันหนึ่ง จึงส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ“ฉันไม่ได้ขับรถสับปะรังเคที่เก่าขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย!”พอเขากล่าวจบ ก็ถูกคุณปู่เขกด้วยไม้เท้าอีกครั้ง“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นไม่ต้องขับแล้ว ให้มู่มู่ไป!”“คุณปู่ นั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่คุณแม่ซื

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status