Share

บทที่ 226

Author: มู่โร่ว
เขาไม่ได้เขียนอะไรอีก

เพียงคิดก็รู้แล้วว่าเขาวิตกกังวลมาก

เย่มู่มู่ยกปลายปากกา ตอบจดหมายกลับไป

“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าคือแม่ทัพใหญ่ที่เบื้องหน้ามองไม่เห็นสิ่งใด ย้อนกลับไปไม่เห็นผู้ใด เมื่อมองภาพรวมประวัติศาสตร์ทั้งหมดของแคว้นฉี่ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หรือขุนนาง ไม่มีใครถูกบันทึกชื่อในหนังสือประวัติศาสตร์ เจ้าคือหนึ่งเดียวที่ถูกละเลงด้วยหมึกเข้มข้น ได้รับการยกย่องในหนังสือประวัติศาสตร์”

“ศึงสงครามครานี้ เจ้าจะได้รับชัยชนะแน่ โปรดเชื่อมั่นในตนเอง”

“ข้าจะช่วยเจ้าด้วยกำลังทั้งหมดที่ข้ามี”

“ถ้าศึกสงครามครั้งนี้ได้รับชัยชนะ ด่านเจิ้นกวนจะไม่ถูกปิดล้อมและเหล่าพลเมืองจะได้รับอิสระด้วยใช่หรือไม่?”

หลังจากเย่มู่มู่หย่อนจดหมายลงไป เพียงครู่หนึ่ง จ้านเฉิงอิ้นก็ส่งจดหมายกลับมา

“ขอรับ ถ้าครั้งนี้เอาชนะการปิดล้อมจากสามทิศได้ จะไม่มีแคว้นใดกล้าจ้องตาเป็นมันกับต้าฉี่อีก และในหนึ่งร้อยปีจะไม่มีใครกล้ากระทำอีกด้วย!”

“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าต้องสู้นะ จงมีชีวิตรอดกลับมา!!”

“เจ้าเคยรับปากข้า ว่าจะรวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งและไปพิชิตต่างแดน”

“เจ้าห้ามผิดสัญญา!”

เป็นเวลานาน กว่าจะมีจดหมายส่งกลับมาในแจกัน

“ขอรับ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
อ้อยลาบเป็ด สกลนคร
สนุกมากค่ะติดตามทุกตอน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 227

    “ในช่วงเวลานี้ ข้าได้เล่นอากาศยานไร้คนขับ ได้ขับรถแทร็กเตอร์ ได้ใช้แท็บเล็ต…ชีวิตนี้นับว่าคุ้มค่าแล้ว”สายตาทุกคนทอดมองรัฐทายาทน้อยอย่างปลื้มใจเขาเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปมากที่สุดในหมู่นายทหารเมื่อก่อนเขากลัวว่าต้องลงสนามรบ ไม่กล้าฆ่าคนตั้งแต่เกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัย อุปนิสัยเขาเปลี่ยนไปมาก เลิกทัศนคติเยาะเย้ยถากถางสังคมและเริ่มฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ในสนามครั้นเผ่าหมานบุกมารุกราน เขายังลงสนามรบไปช่วยฆ่าศัตรูใช้อากาศยานไร้คนขับพกพาระเบิด บังคับเล่นมันประหนึ่งมืออาชีพพันธมิตรสามฝ่ายถอยทัพเมื่อครั้งก่อน มั่วฝานมีผลงานความดีควรได้รับยกย่องเขานำทรัพย์สมบัติทั้งหมดออกมา มอบถวายให้ท่านเทพ เป็นเพราะรู้ว่าศึกสงครามหน้ายากจริง ๆ !ครั้นทุกคนเห็นความใจกว้างของมั่วฝาน จึงเปิดกล่องของตนเองด้วยอย่างเด็ดขาดเป็นทองคำเงินเครื่องประดับทั้งนั้นทรัพย์สินครอบครัวถูกนำออกมาจนไม่เหลือพวกเขามีความคิดเช่นเดียวกับมั่วฝาน หากพ่ายแพ้ขึ้นมา จะให้ศัตรูได้ประโยชน์ไปง่าย ๆ ไม่ได้หากได้รับชัยชนะ ถึงแม้ทรัพย์สินครอบครัวจะหมดลง แต่ท่านเทพไม่มีทางดูพวกเขาอดตายท่านจะส่งน้ำและเสบียงอาหารมาให้อีกในป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 228

    เจ้าของโรงงานตอบกลับ “ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว!”เย่มู่มู่เพิ่มเป็นชุดละสองหมื่นห้าพันบาท ขอเพียงเขาส่งให้ก่อนหนึ่งชุดในวันพรุ่งนี้เจ้าของร้านกล่าวว่ามีเพียงหนึ่งพันกว่าชุดเท่านั้น!ไม่เป็นไร นางต้องการด่วน!หลังจากวางสาย เธอเปิดรายชื่อผู้ติดต่อและเริ่มโทรถามเพื่อนสมัยมัธยมปลายทีละคนชั้นมัธยมปลายเธอเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ มีเพื่อนสองสามคนกำลังศึกษาที่ประเทศเหม่ยลี่ครั้นรู้ว่าเธอถามหาปืนไรเฟิลต่างรู้สึกว่าเธอบ้าจึงวางสายอย่างรีบร้อนเพื่อนของพ่อและแม่ ครั้นรับสายและรู้ว่าเป็นเธอ ก็กลัวเย่มู่มู่จะทำให้พวกเขาลำบาก เย่มู่มู่ยังไม่ทันเอ่ยถาม ก็พากันวางสายโดยตรงพวกเขาแสดงท่าทีไร้น้ำใจต่อกันได้อย่างถึงอกถึงใจจริง ๆครั้นหาปืนไรเฟิลไม่ได้ เธอทอดมองทองคำเงินเครื่องประดับที่อยู่เต็มห้องถ้าพวกเขาตายกันหมด!เธอเก็บเงินเหล่านี้ไว้ ก็ใช่ว่าจะสบายใจจะทำอย่างไรดี?*ภายในกระโจม หลังจากทุกคนส่งทองคำเงินเครื่องประดับไปแล้ว บรรยากาศเงียบสงัด ทุกคนนิ่งเงียบไม่พูดจา!พวกเขาไม่ได้อาลัยเงินทองแต่เพราะคิดว่าจะตายในอีกสองสามวัน ถึงแม้เห็นความเป็นความตายจนเคยชิน แต่ในใจก็ยังกลัวต่อความเป็น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 229

    พวกนายทหารวิ่งไปดูอาการบาดเจ็บของมั่วฝานเขาไม่ได้เป็นอะไร ถุงลมนิรภัยไม่ได้เด้งออกมาเขาเปิดประตูรถอย่างยากลำบาก บนหน้าผากมีลูกโนขนาดใหญ่ ตอนก้าวลงมาขาสองข้างเกิดอาการอ่อนแรงความมั่นอกมั่นใจเมื่อครู่นี้ กลายมาเป็นความคับแค้นใจ“รถยนต์ขับยากเกินไป ยากกว่ารถไถนาเสียอีก!”เฉินขุยหัวเราะและกล่าว “บอกแล้วว่าอย่าอวดเก่ง!”เจียงหยวนเป็นคนพยุงมั่วฝานและหาเก้าอี้ตัวหนึ่งให้เขานั่งจวงเหลียงเป็นคนช่วยเขาเช็ดบาดแผลและทำลูกหัวโนตรงหน้าผากให้ยุบคนวัยหนุ่มเหอหง เฉินจวิ้นหลินและอีกสองสามคน ต่างเดินล้อมรอบอยู่ข้างรถพวกเขาชอบรถ โดยเฉพาะรถออฟโรดขนาดหนักทรงพลังและมีอำนาจ…ต่างรู้สึกคันไม้คันมือ อยากขึ้นไปลองขับแต่ทว่า ไม่มีใครสามารถเปิดเครื่องยนต์รถได้สำเร็จเลยสักคนกลับเป็นเจียงหยวน ที่ไม่รู้เลยว่าเขาถอยรถออกมาและขับไปยังพื้นที่โล่งได้สำเร็จได้อย่างไรทุกคนมองเจียงหยวนอย่างประหลาดใจ รองแม่ทัพของมั่วฝานผู้นี้ไม่ธรรมดา!คิดไม่ถึงว่าจะเรียนรู้การถอยรถเป็นแล้ว!ในเวลาเดียวกัน เย่มู่มู่ส่งกระดาษแผ่นเล็กมาอีกหนึ่งแผ่น“เป็นอย่างไรบ้าง ลองขับรถแล้วหรือยัง ถ้ามีความจำเป็น พรุ่งนี้ข้าไปซื้อเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 230

    เด็กกำพร้าและหญิงม่ายอยู่ในค่ายทหารของสวีหวยต่อไป สุดท้ายก็ไม่อาจหลีกหนีชะตาชีวิตในการถูกกินจึงได้หนีภัยมายังด่านเจิ้นกวน!อีกทั้งยังมีนายทหารบางคน ยอมเดินด้วยเท้าสามสิบลี้ท่ามกลางแสงแดดร้อนผ่าวมาถึงด่านเจิ้นกวนเพื่อให้ภรรยาและลูกมีชีวิตรอดต่อไปพวกเขาเพียงต้องการหนทางรอดชีวิตหนทางหนึ่งเท่านั้นจึงไม่กล้าจินตนาการถึงด่านเจิ้นกวนว่าดีเพียงใด ตราบใดที่มีใบไม้หญ้าและรากเพียงพอ พวกเขาก็จะยอมรับมัน!แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากมาถึงด่านเจิ้นกวนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนทุกคน ล้วนใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสที่ทำจากวัสดุฝ้ายไม่ว่าจะเป็นผู้สูงวัยหรือว่าเด็กน้อย เสื้อผ้าล้วนใหม่เอี่ยมทุกตัว!เหล่าทหารล้วนสวมใส่เสื้อผ้าที่เรียบร้อย ที่เท้าสวมไว้ด้วยรองเท้าผ้าใบ ชุดเกราะขาวสะอาดเป็นระเบียบ เสื้อซับในของชุดทหารก็ดูมีคุณภาพดีเยี่ยมเป็นเสื้อผ้าเนื้อดีกว่าของเหล่าขุนนางชนชั้นสูงที่สวมใส่ ก่อนเกิดทุพภิกขภัยก่อนหน้านี้อีก!ครั้นพวกเขาถูกพามาถึงท้องถนนบนพื้นที่อยู่อาศัยเห็นข้างหน้ามีคนกำลังต่อแถวรับน้ำก๊อกน้ำอยู่กลางถนน เพียงบิดมัน แหล่งน้ำสะอาดก็ไหลออกมาซ่า ๆ ทันทีมีคนตะโกนในกลุ่มผู้ประสบภัย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 231

    จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว!จะทำการโจมตีเมืองมะรืนนี้หรือ?อาวุธชุดที่สองที่ท่านเทพส่งมา อาจจะมาถึงไม่ทันเวลาซุนหย่าปาพูดต่อไปว่า “ฮ่องเต้แคว้นฉี : พูดไปก็ไร้ประโยชน์ รอให้หลัวซู่พาเหล่าทหารมาถึงก่อน ค่อยแบ่งหน้าที่กันอีกที!”“หลิงเซี่ยวเฟิง : การร่วมมือของสามฝ่ายต้องประสานกันอย่างดีถึงจะสามารถตีด่านเจิ้นกวนได้ แต่พระองค์กลับคิดแต่จะเหยียบศพสหายร่วมรบเพื่อเลื่อนตำแหน่ง คนอย่างพระองค์ถึงมีอยู่ก็ทำให้ด่านเจิ้นกวนไม่สามารถถูกตีได้เสียที!”“รอให้หลัวซู่มาถึงด่านเจิ้นกวนแล้ว ข้าจะร่วมมือกับเขา ส่วนเจ้า...ไปหาที่เย็น ๆ นั่งรอเงียบ ๆ เถอะ!”กล่าวจบ หลิงเซี่ยวเฟิงก็หันหลังกลับเข้ากระโจมฉีซวนเหิงถือพัดหยกขาว ส่ายพัดไปมา บนริมฝีปากเผยยิ้มเยาะ แล้วเดินกลับเข้าไปในค่ายแคว้นฉีซุนหย่าปากล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าบอกทุกคำที่พวกเขาพูดตามความจริง น่าจะไม่มีข้อผิดพลาดขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวชื่นชม “ทำได้ดี ไปที่โต๊ะในห้องโถงหารือ เอาโค้กมาดื่มสักขวดเถอะ!”ซุนหย่าปารู้สึกดีใจมาก ดวงตาของเขาทอประกายแสงสว่างในความมืด“ข้าขอสามขวดได้หรือไม่? พี่ใหญ่เว่ย เสี่ยวลิ่วจื่อ ข้าขอให้คนละขวด!”“ได้สิ!”ซุนห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 232

    เดินเท้าเข้าใกล้ระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินธนูและศรเตรียมพร้อม!การยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินรอบแรก หน้าไม้ทุก ๆ คันถูกผูกด้วยถุงน้ำมันดีเซล ไม่จำเป็นต้องยิงโดนตัวคน แต่แค่ยิงโดนกระโจมก็พอฟิ้ว ๆ ๆ...ในยามค่ำคืน ลูกศรหน้าไม้ราชวงศ์ฉินหลายพันดอกพุ่งออกไป ยิงโดนกระโจมของกองทัพแคว้นฉู่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน ความแม่นยำของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินนั้น แม่นยำมากเกือบทุกดอกสามารถยิงโดนโดยเฉพาะกับเป้าหมายขนาดใหญ่เช่นกระโจมทหารแคว้นฉู่วิ่งออกจากกระโจม หวังจะดูว่าศัตรูมาจากทางไหนบางคนโดนน้ำมันดีเซลสาดไปบนหัว ใช้เสื้อเช็ดออกไปรอบที่สอง หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน จุดไฟที่หัวธนูฟิ้ว~เสียงลมที่แหวกอากาศในความมืดยิ่งดังชัดเจนขึ้นกว่าเดิมชั่วขณะนั้น กระโจมของกองทัพแคว้นฉู่ตรงหน้าก็ถูกไฟเผาไม่ถึงครู่เดียว พื้นที่ค่ายพักของกองทัพแคว้นฉู่ตรงหน้าก็กลายเป็นทะเลเพลิง!จ้านเฉิงอิ้นยกดาบขึ้นม้า พูดกับเหล่าทหาร “พวกเด็กผู้ชาย ตามข้ามา ไปสังหารศัตรู!”ทหารหนึ่งหมื่นหกพันคนตอบรับคำสั่งทันที!ทิ้งทหารสี่พันคนไว้ยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินต่อไป…ภายใต้การนำของจ้านเฉิงอิ้น พวกเขาโถมเข้าไปในพื้นที่กองทัพแคว้นฉู่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 233

    “อ๊าก...เจ้าฆ่าเจ๋อเอ๋อร์ของข้า! ข้ากับเจ้าต้องตายไปด้วยกัน!”หลิงเซี่ยวเฟิงมีบุตรชายสองคน ทั้งสองล้วนตายจากการทำสงคราม!เขาเคียดแค้นจ้านเฉิงอิ้นเคียดแค้นฉู่อ๋อง!เกลียดฟ้าดินที่ไม่ยุติธรรม ทำให้เขาที่เป็นคนผมหงอกต้องส่งคนผมดำไปก่อน!ในชั่วขณะนั้น โลหิตในกายของเขาพลันพลุ่งพล่าน มือถือดาบใหญ่ เตรียมตัวที่จะสู้ศึกชีวิตกับจ้านเฉิงอิ้นทว่าเขากลับถูกทหารที่อยู่ข้างหลังคว้าเอาไว้แน่น“ท่านแม่ทัพ อย่าไปเลย ขอแค่ภูเขายังอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหาฟืนมาเผา!”“ท่านแม่ทัพ พวกเราจะคุ้มกันท่านถอยกลับ หากยังมีชีวิตอยู่ โอกาสยังคงมี!”“พวกเขาลอบโจมตี พวกเราไม่ควรกล้าหาญตามอารมณ์ชั่วขณะ!”“ท่านแม่ทัพ รีบไปเถอะ... รีบไปเร็ว!”หลิงเซี่ยวเฟิงถูกทหารของตนบังคับพาไปจากที่นั้น!จ้านเฉิงอิ้นต้องการจะไล่ตามฆ่า แต่กลับถูกทหารผู้ภักดีของหลิงเซี่ยวเฟิงยืนขวางไว้เขาถือดาบม่อเตาในมือฟาดไป ฆ่าทหารที่ขวางทางสิบกว่าคนจนหมดสิ้นเมื่อมองอีกที หลิงเซี่ยวเฟิงก็หายตัวไปเสียแล้วจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด มือข้างหนึ่งจับสายบังเหียนม้า อีกข้างถือดาบม่อเตาหันหัวไปมองไปรอบ ๆ ทหารแคว้นฉี่แม้มีน้อย แต่ก็มีอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 234

    กองทัพแคว้นฉู่ที่เคยอ้างว่าเป็นกองทัพไร้พ่ายของหัวเซี่ยในเมื่อหลายเดือนก่อน ก็ถูกเผาไปเช่นนี้สุดท้ายก็จบลงอย่างราบคาบ และกลายเป็นแค่เพียงเศษซากกองทัพที่ไม่เคยพ่ายแพ้ได้กลายเป็นแค่ตำนานในประวัติศาสตร์ และไม่เคยมีอยู่จริงอีกต่อไป!*พระอาทิตย์ขึ้นสูง อุณหภูมิก็เริ่มสูงขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นนำแม่ทัพสิบคนและเหล่าทหารกลับเข้าเมืองการรบในครั้งนี้เป็นชัยชนะอย่างเด็ดขาด ชาวเมืองทั้งหมดที่ประตูเมืองต่างออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่นพวกผู้หญิงทำอาหารอร่อย ๆ ไว้รอ รอเพียงพวกเขาชำระล้างตัวเสร็จ แล้วดื่มฉลองกันให้สนุกพวกผู้ชายที่ช่วยกันทำความสะอาดสนามรบได้รับน้ำและโจ๊กเหลว พวกเขาก็อดมาทั้งคืน ต้องหาของกินรองท้องก่อนพวกเด็กชาย เด็กหญิง และคนชราที่เฝ้ากำแพงเมืองทั้งคืน ต่างก็ไปพักผ่อนแล้ว!ทุกคนมีความสุขกันมากเพราะพวกเขาทำลายค่ายของกองทัพแคว้นฉู่และกองทัพแคว้นฉีได้ทั้งสองแคว้นไม่มีกำลังทหารพอที่จะต่อต้านด่านเจิ้นกวนได้อีกในที่สุด ก็เหลือเพียงเผ่าหมานฝ่ายเดียวเหมือนต้นไม้ต้นเดียวยากที่จะพยุงเพียงแค่คืนเดียว ดาบแหลมคมที่แขวนอยู่เหนือหัว ก็ถูกดึงออกมาอย่างง่ายดาย!เฉินขุยถือขวดเบียร์ ดื่มห

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 592

    “ถึงแม้จะถืออาวุธเหล็กกล้าก็ไม่มีประโยชน์!”“อาวุธเย็นไม่อาจสู้กับอาวุธร้อนได้ เจ้าคิดจะทำให้ชนเผ่าหมานม่อเป่ยกลายเป็นพวกที่ร้องรำทำเพลงหรืออย่างไร?"“รอให้ข้าสร้างปืนและปืนใหญ่ขึ้นมา ต่อไปพวกเขาจะต้องเต้นเก่งทุกคน!”เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว รวมถึงจวงเหลียง...ทุกคนตาเป็นประกายเฉินอู่ถามอย่างสงสัย “จริงหรือ?”“แน่นอน แค่ทำให้พวกเขากลัว ข้าถึงต้องการท่อเหล็กหมื่นท่อ เพราะว่าแค่ไม่กี่ร้อยหรือพันท่อ ไม่สามารถข่มขู่คนเจ็ดแสนกว่าคนได้!”“ถ้ามีปืนใหญ่หมื่นกระบอก ก็เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิว เขาถึงจะถอยทัพ!”“บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ของเรามีคำกล่าวที่แพร่หลายว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ“มีอาวุธที่ทรงพลังพอ พวกเผ่าหมานจะกล้าสู้กับเราหรือไม่? พวกเขายังไม่ทันขี่ม้ามาถึงหน้าเรา ข้ายิงปืนใหญ่ทีเดียวก็ตายไปสิบกว่าคนแล้ว!”“ในอนาคตเจอเราก็ต้องวิ่งหนี!”จ้านเฉิงอิ้นครุ่นคิดถึงคำพูดของหยางชิงเหอที่ว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ...ตอนนี้อาวุธยุทโธปกรณ์ของเขาก็เหนือกว่าทุกแคว้นแล้ว แต่แคว้นเหล่านั้นยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาทำไม~

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 591

    ทหารผ่านศึกเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ตลอดทั้งคืน แต่พวกเขาก็ยังคงฮึกเหิมในการต่อสู้ในวันนี้ คนส่วนใหญ่กินไปก็หลับไปคนที่ยังดื่มได้ก็ดื่มไปไม่กี่แก้วแล้วก็ฟุบหลับไปบนโต๊ะพวกชาวบ้านกลับกินกันอย่างเอร็ดอร่อยพืชที่ปลูกยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว กองทัพตระกูลจ้านเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหาร แต่ปกติแล้วทุกคนกินแค่ขนมปังแป้งสาลีและโจ๊กเนื้อ... บางครั้งก็ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับเส้นบะหมี่รวมกัน อาหารเหล่านั้นดีกว่าก่อนภัยแล้งเสียอีก!ตั้งแต่เกิดมาพวกเขาไม่เคยกินอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน!ทันใดนั้นพวกเขาก็มีความสุข กินและหยิบอาหารกลับบ้าน!ทหารผ่านศึกที่ยังกินอยู่บนโต๊ะก็ไม่ได้ห้าม ปล่อยพวกเขาไปทหารแคว้นเยี่ยนที่มาถึงคนสุดท้าย อาหารและเครื่องดื่มบนโต๊ะหนึ่งร้อยยี่สิบตัว เป็นของพวกเขาทหารผ่านศึกกินไม่หมดก็รีบกลับไปนอน เหลืออาหารบนโต๊ะขนาดใหญ่พวกเขาและชาวบ้านก็เหมือนกัน ไปที่โต๊ะข้าง ๆ กินและหยิบอาหารทหารแคว้นเยี่ยนบางคนเปิดถุงใสที่คลุมโต๊ะออก งานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสีสัน กลิ่น และรสชาติก็ปรากฏแก่สายตาหมูหันย่างตัวนั้น พวกเขาหยิบหนังกรอบมากินชิ้นหนึ่งเคี้ยวจนเสียงกรอบดังออกมา...

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 590

    เพียงพอที่จะทำให้ชั่วชีวิตไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าและอาหาร ทั้งยังสามารถนำพาให้ครอบครัวไปสู่ความมั่งคั่งได้ด้วยหากพวกเขาลังเล ก็คงเป็นแค่คนโง่เง่าเท่านั้นทุกคนคุกเข่าลง พลางกล่าวกับเฉินขุยอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “พวกข้าน้อยยินดีเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้าน แม้เป็นตายก็ไม่กลัวขอรับ!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ให้พวกข้าน้อยทำอันใด พวกเราก็จะทำทั้งนั้น!”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราคือทหารภายใต้ธงของกองทัพตระกูลจ้าน!”เฉินขุยพึงพออย่างยิ่งกับท่าทีของเหล่าเชลยศึกมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กำลังลังเลตอนที่กลับมาพวกเขาก็ไม่ให้ความร่วมมือ คุมตัวกลับมาต่างก็ต้องผลักดันให้กลับพอถามจึงได้รู้ว่าเป็นองครักษ์คนสนิทของแม่ทัพผู้เฒ่าถึงกระนั้น เฉินขุยก็ไม่ได้ฝืนใจพวกเขา ให้ทหารแคว้นเยี่ยนคนอื่น ๆ นำตัวมาที่ด้านหน้าของโอ่งน้ำเมื่อพวกเขามองเห็นโอ่งน้ำเป็นแถวเป็นแนว ก็สงสัยในตัวเองเป็นอย่างแรกในตอนแรกค่อนข้างดื้อดึงดีทีเดียวทว่าเมื่อมองเห็นคนอื่นดื่มน้ำ ก็ไม่ใส่ใจศักดิ์ศรีและก้มศีรษะลงเพื่อดื่มน้ำด้วยคำพูดของเฉินขุยเมื่อครู่นี้ ทำให้เชลยศึกทั้งหมดของกองทัพแคว้นเยี่ยนคลายความสงสัย และสมัตรใจเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 589

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ผอมแห้ง อีกทั้งยังอยู่ในวัยผู้ใหญ่ ทว่าเตี้ยกว่าคนอื่น ๆ หนึ่งช่วงหัวเป็นผู้ที่มีชีวิตยากลำบากคนหนึ่งเฉินขุยให้ทหารพยุงเขาขึ้นมาเมื่อเขามองไปก็เห็นเหล่าทหารจำนวนมาก ดื่มน้ำไปถอดทอนใจไปมีบางคนที่ได้กลิ่นหอมของเนื้อ ทว่าเมื่อคิดถึงจุบจบว่าอาจจะถูกฝังทั้งเป็นหรือถูกทำงานหนักจนตายพวกเขาแต่ละคนก็ไร้ชีวิตชีวาแม้ว่าจะดื่มน้ำจนพอแล้ว แต่จุดจบของเชลยศึกล้วนไม่ค่อยดีนักเมื่อสองพันกว่าปีก่อน จุดจบของเชลยศึกจะต้องตกไปเป็นทาสทาสจำนวนมากมักจะถูกสังหารเพื่อใช้เป็นเครื่องสังเวยตั้งแต่อายุยังน้อยจุดจบของพวกเขา คงจะหนีไม่พ้นการถูกสังหารเพื่อนำไปเป็นเครื่องบูชายัญ!อย่างไรก็ตาม เฉินขุยเคยอ่านหนังสือที่มาจากยุคปัจจุบันมาหลายเล่ม คนในยุคปัจจุบันนั้นเท่าเทียมกัน ทว่าที่ต้าฉี่ยังไม่สามารถกระทำได้ในช่วงเวลาอันสั้นแต่การเห็นผู้อื่นเป็นมนุษย์นั้น จะไม่สามารถปฏิบัติต่อผู้อื่นเป็นเหมือนทาสได้อีกท่านแม่ทัพใหญ่เคยพูดไว้ด้วยว่า เขาจะหาวิธียกเลิกการสังหารทาสเพื่อมาเป็นเครื่องบูชายัญดังนั้นเขาจึงหยิบลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ แล้วพูดกับเชลยศึกด้วยเสียงอันเปี่ยมพลังว่า“ตาม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 588

    ทหารผ่านศึกหลายคนอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน บนหลังคาติดตั้งแผงไฟโซลาร์เซลล์ มีหน้าต่างกระจก จุดตะเกียง และพัดลมเพดาน…เมื่อเข้ามาข้างในไม่ร้อนอบอ้าวเลยแม้แต่น้อย นอกจากจะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศแล้ว ยังมีพัดลมเพดานที่สามารถพัดได้ด้วยเตียงของพวกเขาล้วนแต่ทำมาจากโครงเหล็กเสื่อของพวกเขา สานมาจากไม้ไผ่อีกทั้งแต่ละคนต่างก็มีแก้วน้ำที่ทำมาจากเหล็กผ้าขนหนูหนึ่งผืน กะละมังเคลือบเซรามิกหนึ่งใบ แก้วน้ำพลาสติกหนึ่งใบ ที่ภายในใส่แปรงสีฟันและยาสีฟันเอาไว้เฉียนเซียงตัวหยิบยาสีฟันและแปรงสีฟันขึ้นมา แล้วถามมั่วฝานด้วยความสงสัย“สหายมั่ว สิ่งนี้คืออันใดกัน?”มั่วฝานหัวเราะพลางหยิบแท็บเล็ตขึ้นมา แล้วเล่นโฆษณายาสีฟันชิ้นหนึ่งในจอภาพนั้น สตรีงดงามนางหนึ่งกำลังบีบยาสีฟัน หลังจากนั้นก็เป็นฉากแปรงฟันเฉียนเซียงตัวตะลึงจนอ้าปากค้าง สายตาถูกสาวงามดึงดูดไปอย่างสมบูรณ์เขาเดินไปอย่างงุนงง พลางใช้มือสัมผัสไปที่หน้าจอวิดีโอหยุดลงจากนั้นเมื่อแตะเบา ๆ อีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อเขาประหลาดใจถึงขีดสุด “นะ นี่มันคือสิ่งใดกันแน่ ช่างอัศจรรย์เกินไปแล้ว!”“ใส่คนลงไปข้างในได้ด้วยงั้นหรือ?”มั่วฝานเปิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 587

    เย่มู่มู่เพิ่งจะได้รับข่าวเมื่อช่วงบ่ายว่าจ้านเฉิงอิ้นชนะศึก…เธอไม่กล้าจินตนาการเลยว่าพวกเขาจะชนะกองทัพศัตรูที่มีถึงเจ็ดแสนคน !นั้นเป็นการผนึกกำลังกันของสี่กองทัพ เผ่าหมาน แคว้นเยี่ยน กองทัพธงเหลือง และทหารต้าฉี่…จำนวนคนเมื่อนับรวมกันแล้วมีถึงเจ็ดแสนกว่าคนนึกไม่ถึงว่าจะถูกหยางชิงเหอใช้ปืนใหญ่ที่ติดอยู่บนกำแพงเมืองทำให้ตกใจจนวิ่งหนีไปทว่าปืนใหญ่พวกนั้นเป็นของปลอมนี่น่า!ใช้ยางรถยนต์เก่ากับโครงเหล็กประคองขึ้นมา ไม่สามารถยิงกระสุนปืนใหญ่ได้ทว่ามู่ฉีซิวก็ถูกทำให้หวาดกลัวจนหนีไปเสียแล้วกระสุนปืนใหญ่ทำขึ้นมาจากกระบอกไม้ไผ่อย่างง่าย ๆ แล้วนำท่อเหล็กไหลหยางมาทำเป็นกระบอกปืน ทำให้ทหารเกรงกลัวจนถอยทัพเรื่องราวตลกและไร้สาระขนาดนี้เชียวพวกเขายังถูกทหารผ่านศึกของจ้านเฉิงอิ้นและกองทัพลู่เจ๋อซุ่มโจมตีด้วยเยี่ยนซวี่ถูกยิงตายวิธีตายเรียบง่ายไปหน่อยถูกจ้านเฉิงอิ้นใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงตาย!พร้อมกับความสิ้นหวังของเยี่ยนซวี่ แคว้นเยี่ยนก็กลายเป็นแคว้นที่ไร้ซึ่งผู้นำ…ไม่ต้องพูดถึงแคว้นฉู่และแคว้นฉี เกรงว่าเผ่าหมานที่หนีไปคงไม่กลับไปที่ม่อเป่ย ทว่าคงรวมตัวอีกครั้งเพื่อไปเก็บกวาดแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 586

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารแคว้นเยี่ยน เมื่อวานซืนพวกเขามีแป้งทอดรากไม้กับแกลบอาหารของเมื่อวานนี้พวกเขาก็ขุดรากไม้ แทะเปลือกไม้กินเพื่อประทังความหิวก่อนที่จะมีศึกใหญ่ในวันนี้ เยี่ยนซวี่สั่งการให้สังหารม้าศึกหลายพันตัว เพื่อให้ทหารได้อิ่มท้องสักมื้อ พวกเขาถึงได้กินอาหารจานเนื้อเป็นมื้อแรกในรอบครึ่งปีเนื้อของม้าศึกทั้งเหนียวและคาวอย่างมาก ไม่มีรสชาติ พอย่างสุกแล้วกินไปสองสามคำ แทบจะกลืนไม่ลงถึงกระนั้น ก็เป็นอาหารจานเนื้อมื้อแรกที่พวกเขาได้กินในรอบครึ่งปีพวกเขารู้ว่า เมื่อกินเสร็จแล้ว มีสงครามที่ดุเดือดที่ต้องสู้รบ หากทำได้ไม่ดีอาจต้องทิ้งชีวิตไว้ในที่แห่งนี้ก็เป็นได้ หลายคนกินไปร้องไห้ไปทว่าตอนนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าอาหารของกองทัพตระกูลจ้านจะเป็นซาลาเปาไส้เนื้อทั้งยังมีหมั่นโถว หมั่วโถวเกลียว และแป้งทอดด้วย...และยังมีน้ำให้อย่างไม่จำกัดเฉินขุยเห็นหลายคนดวงตาแดงก่ำ ไม่เชื่อว่าสิ่งที่อากาศยานไร้คนขับประกาศออกมาจะเป็นความจริงเข้ายิ้มออกมาอย่างสดใสพลางกล่าวว่า “ไป ไปที่ค่ายทหารกันให้หมด พ่อครัวเตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว”“ชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ แม่ทัพคงไม่เย็นลง ถ้าไม่ได้ให้ทุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 585

    จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า ให้มั่วฝานพาพวกเขาไปที่โรงงานมั่วฝานมองไปยังเฉียนเซียงตัว ชายอ้วนผู้นี้สวมชุดเกราะเงิน เข็มขัดที่อยู่รอบเอวใกล้จะแตกออกมันมีขนาดเล็กกว่ารอบเอวของเขาทว่าเขาไม่รังเกียจผู้ที่มีชาติกำเนิดมาจากพ่อค้า ผู้ที่สามารถเป็นถึงผู้นำอันดับสองของกองกำลังกบฏได้ ย่อมไม่ใช่พวกปัญญานิ่มเขาชี้ไปที่อากาศยานไร้คนขับที่บินวนอย่างต่อเนื่องอยู่บนท้องฟ้า และถามเฉียนเซียงตัวว่า“มองเห็นเครื่องที่บินได้นั่นหรือไม่?”เฉียนเซียงตัวเงยหน้าขึ้น เขามองเห็นมันตั้งนานแล้ว!แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ถึงสามารถกระจายเสียงผ่านลำโพงขนาดใหญ่ได้ เสียงนั่นดังมาก จนยอดเขาหลายแห่งสามารถได้ยินเขาตอบตามความจริง “มองเห็นแล้ว!”“ดี ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหมดเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้านแล้ว ถือว่าเป็นของขวัญยามพบหน้า ข้าจะมอบอากาศยานไร้คนขับขนาดกลางให้กับพวกเจ้า ลำโพงขนาดใหญ่หนึ่งตัว และลำโพงประกาศเสียงอันใหญ่แปดตัว...”เฉียนเซียงตัวไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สิ่งที่มั่วฝานพูดจะเป็นเรื่องจริงเขาตกตะลึงไปหลายวินาที แล้วมองไปที่อากาศยานไร้คนขับที่บินวนอยู่อีกครั้งในเวลานี้ เสียงของอากาศยานไร้คนขับก็ดังขึ้นเสี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 584

    คนพวกนี้ ท้ายที่สุดแล้วก็เอาชีวิตมากฝังกลบไว้ที่นี่มู่ฉีซิวพาคนมาด้วยราว ๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นคน ไม่เกินสองแสนเขานำพาคนจำนวนสี่หมื่นคนฝ่าวงล้อมออกไป แล้วทิ้งคนเอาไว้หนึ่งแสนคน ที่ท้ายที่สุดแล้วก็จะถูกฝังเอาไว้บนภูเขาตลอดกาลนี่เป็นครั้งแรกที่กองทัพตระกูลจ้านกับกองทัพลู่เจ๋อมาบรรจบกันผู้นำของกองทัพลู่เจ๋อ เป็นชายอ้วนพุงพลุ้ยผู้หนึ่งเป็นคนอ้วนที่อายุสามสิบกว่าปี และก่อนหน้านี้ทำการค้าเดิมทีกองทัพลู่เจ๋อเป็นพวกบรรดาพ่อค้า ที่ออกเงินก่อตั้งกองกำลังกบฏชาวนา ทหารส่วนใหญ่มาจากเขตลู่เจ๋อ!ชายอ้วนผู้นี้มีชื่อว่าเฉียนเซียงตัว...บิดาของเขาลงทุนมากที่สุด เขาจึงถูกผลักดันให้เป็นผู้นำของกองทัพลู่เจ๋อในช่วงแรก บิดาของเขาสามารถสนับสนุนเงินได้อย่างต่อเนื่องทว่าเมื่อเนิ่นนานไป ในจวนไม่มีข้าว และไม่มีเงินสนับสนุนกองกำลังกบฏอีกต่อไปแล้วเดิมทีเขาคิดจะกลับบ้านทว่าเมื่อทุกคนมองดูแล้ว ก็เห็นว่าผู้นำคนนี้ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ดีถึงจะบอกว่าผู้มีเมตตาไม่สามารถปกครองทหารได้ ทว่าเขาเป็นคนใจดี ไม่เคยแตกคอกับผู้อื่นไม่ว่านายทหารหรือว่าทหารชั้นผู้น้อยจะทะเลาะกัน เขาล้วนทำหน้าที่เป็นผู้รักษาสันติทุ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status