Share

บทที่ 225

Author: มู่โร่ว
เย่มู่มู่อ่านความคิดเห็นของเหล่าสาว ๆ ชอบใจหัวเราะคิกคัก

เหล่าพี่สาวพูดเก่งกันจริง ๆ พูดอีกเยอะ ๆ เธอชอบฟัง!

เธอรออยู่ครู่หนึ่ง จ้านเฉิงอิ้งยังไม่ส่งภาพวาดมาให้

หรือว่าจ้านเฉิงอิ้นขวยเขินกับภาพตนเองเกินไป?

ไม่อยากส่งภาพมาให้?

เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เย่มู่มู่ตัดสินใจส่งกระดาษข้อความให้เขา

“จ้านเฉิงอิ้นวาดเสร็จหรือยัง?”

“ยังขอรับ ข้าส่งให้ท่านเทพตอนดึกอีกทีได้หรือไม่?”

“เอาเถอะ พิพิธภัณฑ์เป็นฝ่ายขอภาพเหมือนของเจ้า จะให้เมื่อไหร่ สิทธิการตัดสินใจอยู่ที่เจ้า!”

“ขอบคุณท่านเทพที่เข้าใจ ท่านเทพ ข้ามีเรื่องจะขอร้อง…”

“สนิทกันเพียงนี้แล้ว เจ้ายังเกรงใจอะไรข้าอีก มีอะไรพูดมาได้เลย!”

เย่มู่มู่ขายวัตถุโบราณไปหนึ่งชุด ได้เงินมา3.75หมื่นล้าน ในโกดังยังมีวัตถุโบราณอีกจำนวนมาก

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นทรัพย์สมบัติที่มีมูลค่ามหาศาล

จ้านเฉิงอิ้นร้องขอบางอย่างจะเป็นอย่างไร!

อืม แน่นอนว่าทำให้เขาได้ทุกอย่าง!

“ท่านเทพสั่งซื้อธนูทดกำลังอีกหนึ่งชุดได้หรือไม่ รวมถึงลูกธนูที่ใช้กับธนูทดกำลังโดยเฉพาะ”

จ้านเฉิงอิ้นบอกเล่าว่าทหารเผ่าฉู่กระสุนหมดเสบียงเกลี้ยง ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่จะนำกองกำลังทหารเผ่าหมานส
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 226

    เขาไม่ได้เขียนอะไรอีกเพียงคิดก็รู้แล้วว่าเขาวิตกกังวลมากเย่มู่มู่ยกปลายปากกา ตอบจดหมายกลับไป“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าคือแม่ทัพใหญ่ที่เบื้องหน้ามองไม่เห็นสิ่งใด ย้อนกลับไปไม่เห็นผู้ใด เมื่อมองภาพรวมประวัติศาสตร์ทั้งหมดของแคว้นฉี่ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หรือขุนนาง ไม่มีใครถูกบันทึกชื่อในหนังสือประวัติศาสตร์ เจ้าคือหนึ่งเดียวที่ถูกละเลงด้วยหมึกเข้มข้น ได้รับการยกย่องในหนังสือประวัติศาสตร์”“ศึงสงครามครานี้ เจ้าจะได้รับชัยชนะแน่ โปรดเชื่อมั่นในตนเอง”“ข้าจะช่วยเจ้าด้วยกำลังทั้งหมดที่ข้ามี”“ถ้าศึกสงครามครั้งนี้ได้รับชัยชนะ ด่านเจิ้นกวนจะไม่ถูกปิดล้อมและเหล่าพลเมืองจะได้รับอิสระด้วยใช่หรือไม่?”หลังจากเย่มู่มู่หย่อนจดหมายลงไป เพียงครู่หนึ่ง จ้านเฉิงอิ้นก็ส่งจดหมายกลับมา“ขอรับ ถ้าครั้งนี้เอาชนะการปิดล้อมจากสามทิศได้ จะไม่มีแคว้นใดกล้าจ้องตาเป็นมันกับต้าฉี่อีก และในหนึ่งร้อยปีจะไม่มีใครกล้ากระทำอีกด้วย!”“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าต้องสู้นะ จงมีชีวิตรอดกลับมา!!”“เจ้าเคยรับปากข้า ว่าจะรวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งและไปพิชิตต่างแดน”“เจ้าห้ามผิดสัญญา!”เป็นเวลานาน กว่าจะมีจดหมายส่งกลับมาในแจกัน“ขอรับ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 227

    “ในช่วงเวลานี้ ข้าได้เล่นอากาศยานไร้คนขับ ได้ขับรถแทร็กเตอร์ ได้ใช้แท็บเล็ต…ชีวิตนี้นับว่าคุ้มค่าแล้ว”สายตาทุกคนทอดมองรัฐทายาทน้อยอย่างปลื้มใจเขาเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปมากที่สุดในหมู่นายทหารเมื่อก่อนเขากลัวว่าต้องลงสนามรบ ไม่กล้าฆ่าคนตั้งแต่เกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัย อุปนิสัยเขาเปลี่ยนไปมาก เลิกทัศนคติเยาะเย้ยถากถางสังคมและเริ่มฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ในสนามครั้นเผ่าหมานบุกมารุกราน เขายังลงสนามรบไปช่วยฆ่าศัตรูใช้อากาศยานไร้คนขับพกพาระเบิด บังคับเล่นมันประหนึ่งมืออาชีพพันธมิตรสามฝ่ายถอยทัพเมื่อครั้งก่อน มั่วฝานมีผลงานความดีควรได้รับยกย่องเขานำทรัพย์สมบัติทั้งหมดออกมา มอบถวายให้ท่านเทพ เป็นเพราะรู้ว่าศึกสงครามหน้ายากจริง ๆ !ครั้นทุกคนเห็นความใจกว้างของมั่วฝาน จึงเปิดกล่องของตนเองด้วยอย่างเด็ดขาดเป็นทองคำเงินเครื่องประดับทั้งนั้นทรัพย์สินครอบครัวถูกนำออกมาจนไม่เหลือพวกเขามีความคิดเช่นเดียวกับมั่วฝาน หากพ่ายแพ้ขึ้นมา จะให้ศัตรูได้ประโยชน์ไปง่าย ๆ ไม่ได้หากได้รับชัยชนะ ถึงแม้ทรัพย์สินครอบครัวจะหมดลง แต่ท่านเทพไม่มีทางดูพวกเขาอดตายท่านจะส่งน้ำและเสบียงอาหารมาให้อีกในป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 228

    เจ้าของโรงงานตอบกลับ “ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว!”เย่มู่มู่เพิ่มเป็นชุดละสองหมื่นห้าพันบาท ขอเพียงเขาส่งให้ก่อนหนึ่งชุดในวันพรุ่งนี้เจ้าของร้านกล่าวว่ามีเพียงหนึ่งพันกว่าชุดเท่านั้น!ไม่เป็นไร นางต้องการด่วน!หลังจากวางสาย เธอเปิดรายชื่อผู้ติดต่อและเริ่มโทรถามเพื่อนสมัยมัธยมปลายทีละคนชั้นมัธยมปลายเธอเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ มีเพื่อนสองสามคนกำลังศึกษาที่ประเทศเหม่ยลี่ครั้นรู้ว่าเธอถามหาปืนไรเฟิลต่างรู้สึกว่าเธอบ้าจึงวางสายอย่างรีบร้อนเพื่อนของพ่อและแม่ ครั้นรับสายและรู้ว่าเป็นเธอ ก็กลัวเย่มู่มู่จะทำให้พวกเขาลำบาก เย่มู่มู่ยังไม่ทันเอ่ยถาม ก็พากันวางสายโดยตรงพวกเขาแสดงท่าทีไร้น้ำใจต่อกันได้อย่างถึงอกถึงใจจริง ๆครั้นหาปืนไรเฟิลไม่ได้ เธอทอดมองทองคำเงินเครื่องประดับที่อยู่เต็มห้องถ้าพวกเขาตายกันหมด!เธอเก็บเงินเหล่านี้ไว้ ก็ใช่ว่าจะสบายใจจะทำอย่างไรดี?*ภายในกระโจม หลังจากทุกคนส่งทองคำเงินเครื่องประดับไปแล้ว บรรยากาศเงียบสงัด ทุกคนนิ่งเงียบไม่พูดจา!พวกเขาไม่ได้อาลัยเงินทองแต่เพราะคิดว่าจะตายในอีกสองสามวัน ถึงแม้เห็นความเป็นความตายจนเคยชิน แต่ในใจก็ยังกลัวต่อความเป็น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 229

    พวกนายทหารวิ่งไปดูอาการบาดเจ็บของมั่วฝานเขาไม่ได้เป็นอะไร ถุงลมนิรภัยไม่ได้เด้งออกมาเขาเปิดประตูรถอย่างยากลำบาก บนหน้าผากมีลูกโนขนาดใหญ่ ตอนก้าวลงมาขาสองข้างเกิดอาการอ่อนแรงความมั่นอกมั่นใจเมื่อครู่นี้ กลายมาเป็นความคับแค้นใจ“รถยนต์ขับยากเกินไป ยากกว่ารถไถนาเสียอีก!”เฉินขุยหัวเราะและกล่าว “บอกแล้วว่าอย่าอวดเก่ง!”เจียงหยวนเป็นคนพยุงมั่วฝานและหาเก้าอี้ตัวหนึ่งให้เขานั่งจวงเหลียงเป็นคนช่วยเขาเช็ดบาดแผลและทำลูกหัวโนตรงหน้าผากให้ยุบคนวัยหนุ่มเหอหง เฉินจวิ้นหลินและอีกสองสามคน ต่างเดินล้อมรอบอยู่ข้างรถพวกเขาชอบรถ โดยเฉพาะรถออฟโรดขนาดหนักทรงพลังและมีอำนาจ…ต่างรู้สึกคันไม้คันมือ อยากขึ้นไปลองขับแต่ทว่า ไม่มีใครสามารถเปิดเครื่องยนต์รถได้สำเร็จเลยสักคนกลับเป็นเจียงหยวน ที่ไม่รู้เลยว่าเขาถอยรถออกมาและขับไปยังพื้นที่โล่งได้สำเร็จได้อย่างไรทุกคนมองเจียงหยวนอย่างประหลาดใจ รองแม่ทัพของมั่วฝานผู้นี้ไม่ธรรมดา!คิดไม่ถึงว่าจะเรียนรู้การถอยรถเป็นแล้ว!ในเวลาเดียวกัน เย่มู่มู่ส่งกระดาษแผ่นเล็กมาอีกหนึ่งแผ่น“เป็นอย่างไรบ้าง ลองขับรถแล้วหรือยัง ถ้ามีความจำเป็น พรุ่งนี้ข้าไปซื้อเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 230

    เด็กกำพร้าและหญิงม่ายอยู่ในค่ายทหารของสวีหวยต่อไป สุดท้ายก็ไม่อาจหลีกหนีชะตาชีวิตในการถูกกินจึงได้หนีภัยมายังด่านเจิ้นกวน!อีกทั้งยังมีนายทหารบางคน ยอมเดินด้วยเท้าสามสิบลี้ท่ามกลางแสงแดดร้อนผ่าวมาถึงด่านเจิ้นกวนเพื่อให้ภรรยาและลูกมีชีวิตรอดต่อไปพวกเขาเพียงต้องการหนทางรอดชีวิตหนทางหนึ่งเท่านั้นจึงไม่กล้าจินตนาการถึงด่านเจิ้นกวนว่าดีเพียงใด ตราบใดที่มีใบไม้หญ้าและรากเพียงพอ พวกเขาก็จะยอมรับมัน!แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากมาถึงด่านเจิ้นกวนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนทุกคน ล้วนใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสที่ทำจากวัสดุฝ้ายไม่ว่าจะเป็นผู้สูงวัยหรือว่าเด็กน้อย เสื้อผ้าล้วนใหม่เอี่ยมทุกตัว!เหล่าทหารล้วนสวมใส่เสื้อผ้าที่เรียบร้อย ที่เท้าสวมไว้ด้วยรองเท้าผ้าใบ ชุดเกราะขาวสะอาดเป็นระเบียบ เสื้อซับในของชุดทหารก็ดูมีคุณภาพดีเยี่ยมเป็นเสื้อผ้าเนื้อดีกว่าของเหล่าขุนนางชนชั้นสูงที่สวมใส่ ก่อนเกิดทุพภิกขภัยก่อนหน้านี้อีก!ครั้นพวกเขาถูกพามาถึงท้องถนนบนพื้นที่อยู่อาศัยเห็นข้างหน้ามีคนกำลังต่อแถวรับน้ำก๊อกน้ำอยู่กลางถนน เพียงบิดมัน แหล่งน้ำสะอาดก็ไหลออกมาซ่า ๆ ทันทีมีคนตะโกนในกลุ่มผู้ประสบภัย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 231

    จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว!จะทำการโจมตีเมืองมะรืนนี้หรือ?อาวุธชุดที่สองที่ท่านเทพส่งมา อาจจะมาถึงไม่ทันเวลาซุนหย่าปาพูดต่อไปว่า “ฮ่องเต้แคว้นฉี : พูดไปก็ไร้ประโยชน์ รอให้หลัวซู่พาเหล่าทหารมาถึงก่อน ค่อยแบ่งหน้าที่กันอีกที!”“หลิงเซี่ยวเฟิง : การร่วมมือของสามฝ่ายต้องประสานกันอย่างดีถึงจะสามารถตีด่านเจิ้นกวนได้ แต่พระองค์กลับคิดแต่จะเหยียบศพสหายร่วมรบเพื่อเลื่อนตำแหน่ง คนอย่างพระองค์ถึงมีอยู่ก็ทำให้ด่านเจิ้นกวนไม่สามารถถูกตีได้เสียที!”“รอให้หลัวซู่มาถึงด่านเจิ้นกวนแล้ว ข้าจะร่วมมือกับเขา ส่วนเจ้า...ไปหาที่เย็น ๆ นั่งรอเงียบ ๆ เถอะ!”กล่าวจบ หลิงเซี่ยวเฟิงก็หันหลังกลับเข้ากระโจมฉีซวนเหิงถือพัดหยกขาว ส่ายพัดไปมา บนริมฝีปากเผยยิ้มเยาะ แล้วเดินกลับเข้าไปในค่ายแคว้นฉีซุนหย่าปากล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าบอกทุกคำที่พวกเขาพูดตามความจริง น่าจะไม่มีข้อผิดพลาดขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวชื่นชม “ทำได้ดี ไปที่โต๊ะในห้องโถงหารือ เอาโค้กมาดื่มสักขวดเถอะ!”ซุนหย่าปารู้สึกดีใจมาก ดวงตาของเขาทอประกายแสงสว่างในความมืด“ข้าขอสามขวดได้หรือไม่? พี่ใหญ่เว่ย เสี่ยวลิ่วจื่อ ข้าขอให้คนละขวด!”“ได้สิ!”ซุนห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 232

    เดินเท้าเข้าใกล้ระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินธนูและศรเตรียมพร้อม!การยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินรอบแรก หน้าไม้ทุก ๆ คันถูกผูกด้วยถุงน้ำมันดีเซล ไม่จำเป็นต้องยิงโดนตัวคน แต่แค่ยิงโดนกระโจมก็พอฟิ้ว ๆ ๆ...ในยามค่ำคืน ลูกศรหน้าไม้ราชวงศ์ฉินหลายพันดอกพุ่งออกไป ยิงโดนกระโจมของกองทัพแคว้นฉู่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน ความแม่นยำของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินนั้น แม่นยำมากเกือบทุกดอกสามารถยิงโดนโดยเฉพาะกับเป้าหมายขนาดใหญ่เช่นกระโจมทหารแคว้นฉู่วิ่งออกจากกระโจม หวังจะดูว่าศัตรูมาจากทางไหนบางคนโดนน้ำมันดีเซลสาดไปบนหัว ใช้เสื้อเช็ดออกไปรอบที่สอง หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน จุดไฟที่หัวธนูฟิ้ว~เสียงลมที่แหวกอากาศในความมืดยิ่งดังชัดเจนขึ้นกว่าเดิมชั่วขณะนั้น กระโจมของกองทัพแคว้นฉู่ตรงหน้าก็ถูกไฟเผาไม่ถึงครู่เดียว พื้นที่ค่ายพักของกองทัพแคว้นฉู่ตรงหน้าก็กลายเป็นทะเลเพลิง!จ้านเฉิงอิ้นยกดาบขึ้นม้า พูดกับเหล่าทหาร “พวกเด็กผู้ชาย ตามข้ามา ไปสังหารศัตรู!”ทหารหนึ่งหมื่นหกพันคนตอบรับคำสั่งทันที!ทิ้งทหารสี่พันคนไว้ยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินต่อไป…ภายใต้การนำของจ้านเฉิงอิ้น พวกเขาโถมเข้าไปในพื้นที่กองทัพแคว้นฉู่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 233

    “อ๊าก...เจ้าฆ่าเจ๋อเอ๋อร์ของข้า! ข้ากับเจ้าต้องตายไปด้วยกัน!”หลิงเซี่ยวเฟิงมีบุตรชายสองคน ทั้งสองล้วนตายจากการทำสงคราม!เขาเคียดแค้นจ้านเฉิงอิ้นเคียดแค้นฉู่อ๋อง!เกลียดฟ้าดินที่ไม่ยุติธรรม ทำให้เขาที่เป็นคนผมหงอกต้องส่งคนผมดำไปก่อน!ในชั่วขณะนั้น โลหิตในกายของเขาพลันพลุ่งพล่าน มือถือดาบใหญ่ เตรียมตัวที่จะสู้ศึกชีวิตกับจ้านเฉิงอิ้นทว่าเขากลับถูกทหารที่อยู่ข้างหลังคว้าเอาไว้แน่น“ท่านแม่ทัพ อย่าไปเลย ขอแค่ภูเขายังอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหาฟืนมาเผา!”“ท่านแม่ทัพ พวกเราจะคุ้มกันท่านถอยกลับ หากยังมีชีวิตอยู่ โอกาสยังคงมี!”“พวกเขาลอบโจมตี พวกเราไม่ควรกล้าหาญตามอารมณ์ชั่วขณะ!”“ท่านแม่ทัพ รีบไปเถอะ... รีบไปเร็ว!”หลิงเซี่ยวเฟิงถูกทหารของตนบังคับพาไปจากที่นั้น!จ้านเฉิงอิ้นต้องการจะไล่ตามฆ่า แต่กลับถูกทหารผู้ภักดีของหลิงเซี่ยวเฟิงยืนขวางไว้เขาถือดาบม่อเตาในมือฟาดไป ฆ่าทหารที่ขวางทางสิบกว่าคนจนหมดสิ้นเมื่อมองอีกที หลิงเซี่ยวเฟิงก็หายตัวไปเสียแล้วจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด มือข้างหนึ่งจับสายบังเหียนม้า อีกข้างถือดาบม่อเตาหันหัวไปมองไปรอบ ๆ ทหารแคว้นฉี่แม้มีน้อย แต่ก็มีอ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 592

    “ถึงแม้จะถืออาวุธเหล็กกล้าก็ไม่มีประโยชน์!”“อาวุธเย็นไม่อาจสู้กับอาวุธร้อนได้ เจ้าคิดจะทำให้ชนเผ่าหมานม่อเป่ยกลายเป็นพวกที่ร้องรำทำเพลงหรืออย่างไร?"“รอให้ข้าสร้างปืนและปืนใหญ่ขึ้นมา ต่อไปพวกเขาจะต้องเต้นเก่งทุกคน!”เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว รวมถึงจวงเหลียง...ทุกคนตาเป็นประกายเฉินอู่ถามอย่างสงสัย “จริงหรือ?”“แน่นอน แค่ทำให้พวกเขากลัว ข้าถึงต้องการท่อเหล็กหมื่นท่อ เพราะว่าแค่ไม่กี่ร้อยหรือพันท่อ ไม่สามารถข่มขู่คนเจ็ดแสนกว่าคนได้!”“ถ้ามีปืนใหญ่หมื่นกระบอก ก็เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิว เขาถึงจะถอยทัพ!”“บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ของเรามีคำกล่าวที่แพร่หลายว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ“มีอาวุธที่ทรงพลังพอ พวกเผ่าหมานจะกล้าสู้กับเราหรือไม่? พวกเขายังไม่ทันขี่ม้ามาถึงหน้าเรา ข้ายิงปืนใหญ่ทีเดียวก็ตายไปสิบกว่าคนแล้ว!”“ในอนาคตเจอเราก็ต้องวิ่งหนี!”จ้านเฉิงอิ้นครุ่นคิดถึงคำพูดของหยางชิงเหอที่ว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ...ตอนนี้อาวุธยุทโธปกรณ์ของเขาก็เหนือกว่าทุกแคว้นแล้ว แต่แคว้นเหล่านั้นยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาทำไม~

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 591

    ทหารผ่านศึกเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ตลอดทั้งคืน แต่พวกเขาก็ยังคงฮึกเหิมในการต่อสู้ในวันนี้ คนส่วนใหญ่กินไปก็หลับไปคนที่ยังดื่มได้ก็ดื่มไปไม่กี่แก้วแล้วก็ฟุบหลับไปบนโต๊ะพวกชาวบ้านกลับกินกันอย่างเอร็ดอร่อยพืชที่ปลูกยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว กองทัพตระกูลจ้านเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหาร แต่ปกติแล้วทุกคนกินแค่ขนมปังแป้งสาลีและโจ๊กเนื้อ... บางครั้งก็ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับเส้นบะหมี่รวมกัน อาหารเหล่านั้นดีกว่าก่อนภัยแล้งเสียอีก!ตั้งแต่เกิดมาพวกเขาไม่เคยกินอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน!ทันใดนั้นพวกเขาก็มีความสุข กินและหยิบอาหารกลับบ้าน!ทหารผ่านศึกที่ยังกินอยู่บนโต๊ะก็ไม่ได้ห้าม ปล่อยพวกเขาไปทหารแคว้นเยี่ยนที่มาถึงคนสุดท้าย อาหารและเครื่องดื่มบนโต๊ะหนึ่งร้อยยี่สิบตัว เป็นของพวกเขาทหารผ่านศึกกินไม่หมดก็รีบกลับไปนอน เหลืออาหารบนโต๊ะขนาดใหญ่พวกเขาและชาวบ้านก็เหมือนกัน ไปที่โต๊ะข้าง ๆ กินและหยิบอาหารทหารแคว้นเยี่ยนบางคนเปิดถุงใสที่คลุมโต๊ะออก งานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสีสัน กลิ่น และรสชาติก็ปรากฏแก่สายตาหมูหันย่างตัวนั้น พวกเขาหยิบหนังกรอบมากินชิ้นหนึ่งเคี้ยวจนเสียงกรอบดังออกมา...

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 590

    เพียงพอที่จะทำให้ชั่วชีวิตไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าและอาหาร ทั้งยังสามารถนำพาให้ครอบครัวไปสู่ความมั่งคั่งได้ด้วยหากพวกเขาลังเล ก็คงเป็นแค่คนโง่เง่าเท่านั้นทุกคนคุกเข่าลง พลางกล่าวกับเฉินขุยอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “พวกข้าน้อยยินดีเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้าน แม้เป็นตายก็ไม่กลัวขอรับ!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ให้พวกข้าน้อยทำอันใด พวกเราก็จะทำทั้งนั้น!”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราคือทหารภายใต้ธงของกองทัพตระกูลจ้าน!”เฉินขุยพึงพออย่างยิ่งกับท่าทีของเหล่าเชลยศึกมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กำลังลังเลตอนที่กลับมาพวกเขาก็ไม่ให้ความร่วมมือ คุมตัวกลับมาต่างก็ต้องผลักดันให้กลับพอถามจึงได้รู้ว่าเป็นองครักษ์คนสนิทของแม่ทัพผู้เฒ่าถึงกระนั้น เฉินขุยก็ไม่ได้ฝืนใจพวกเขา ให้ทหารแคว้นเยี่ยนคนอื่น ๆ นำตัวมาที่ด้านหน้าของโอ่งน้ำเมื่อพวกเขามองเห็นโอ่งน้ำเป็นแถวเป็นแนว ก็สงสัยในตัวเองเป็นอย่างแรกในตอนแรกค่อนข้างดื้อดึงดีทีเดียวทว่าเมื่อมองเห็นคนอื่นดื่มน้ำ ก็ไม่ใส่ใจศักดิ์ศรีและก้มศีรษะลงเพื่อดื่มน้ำด้วยคำพูดของเฉินขุยเมื่อครู่นี้ ทำให้เชลยศึกทั้งหมดของกองทัพแคว้นเยี่ยนคลายความสงสัย และสมัตรใจเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 589

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ผอมแห้ง อีกทั้งยังอยู่ในวัยผู้ใหญ่ ทว่าเตี้ยกว่าคนอื่น ๆ หนึ่งช่วงหัวเป็นผู้ที่มีชีวิตยากลำบากคนหนึ่งเฉินขุยให้ทหารพยุงเขาขึ้นมาเมื่อเขามองไปก็เห็นเหล่าทหารจำนวนมาก ดื่มน้ำไปถอดทอนใจไปมีบางคนที่ได้กลิ่นหอมของเนื้อ ทว่าเมื่อคิดถึงจุบจบว่าอาจจะถูกฝังทั้งเป็นหรือถูกทำงานหนักจนตายพวกเขาแต่ละคนก็ไร้ชีวิตชีวาแม้ว่าจะดื่มน้ำจนพอแล้ว แต่จุดจบของเชลยศึกล้วนไม่ค่อยดีนักเมื่อสองพันกว่าปีก่อน จุดจบของเชลยศึกจะต้องตกไปเป็นทาสทาสจำนวนมากมักจะถูกสังหารเพื่อใช้เป็นเครื่องสังเวยตั้งแต่อายุยังน้อยจุดจบของพวกเขา คงจะหนีไม่พ้นการถูกสังหารเพื่อนำไปเป็นเครื่องบูชายัญ!อย่างไรก็ตาม เฉินขุยเคยอ่านหนังสือที่มาจากยุคปัจจุบันมาหลายเล่ม คนในยุคปัจจุบันนั้นเท่าเทียมกัน ทว่าที่ต้าฉี่ยังไม่สามารถกระทำได้ในช่วงเวลาอันสั้นแต่การเห็นผู้อื่นเป็นมนุษย์นั้น จะไม่สามารถปฏิบัติต่อผู้อื่นเป็นเหมือนทาสได้อีกท่านแม่ทัพใหญ่เคยพูดไว้ด้วยว่า เขาจะหาวิธียกเลิกการสังหารทาสเพื่อมาเป็นเครื่องบูชายัญดังนั้นเขาจึงหยิบลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ แล้วพูดกับเชลยศึกด้วยเสียงอันเปี่ยมพลังว่า“ตาม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 588

    ทหารผ่านศึกหลายคนอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน บนหลังคาติดตั้งแผงไฟโซลาร์เซลล์ มีหน้าต่างกระจก จุดตะเกียง และพัดลมเพดาน…เมื่อเข้ามาข้างในไม่ร้อนอบอ้าวเลยแม้แต่น้อย นอกจากจะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศแล้ว ยังมีพัดลมเพดานที่สามารถพัดได้ด้วยเตียงของพวกเขาล้วนแต่ทำมาจากโครงเหล็กเสื่อของพวกเขา สานมาจากไม้ไผ่อีกทั้งแต่ละคนต่างก็มีแก้วน้ำที่ทำมาจากเหล็กผ้าขนหนูหนึ่งผืน กะละมังเคลือบเซรามิกหนึ่งใบ แก้วน้ำพลาสติกหนึ่งใบ ที่ภายในใส่แปรงสีฟันและยาสีฟันเอาไว้เฉียนเซียงตัวหยิบยาสีฟันและแปรงสีฟันขึ้นมา แล้วถามมั่วฝานด้วยความสงสัย“สหายมั่ว สิ่งนี้คืออันใดกัน?”มั่วฝานหัวเราะพลางหยิบแท็บเล็ตขึ้นมา แล้วเล่นโฆษณายาสีฟันชิ้นหนึ่งในจอภาพนั้น สตรีงดงามนางหนึ่งกำลังบีบยาสีฟัน หลังจากนั้นก็เป็นฉากแปรงฟันเฉียนเซียงตัวตะลึงจนอ้าปากค้าง สายตาถูกสาวงามดึงดูดไปอย่างสมบูรณ์เขาเดินไปอย่างงุนงง พลางใช้มือสัมผัสไปที่หน้าจอวิดีโอหยุดลงจากนั้นเมื่อแตะเบา ๆ อีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อเขาประหลาดใจถึงขีดสุด “นะ นี่มันคือสิ่งใดกันแน่ ช่างอัศจรรย์เกินไปแล้ว!”“ใส่คนลงไปข้างในได้ด้วยงั้นหรือ?”มั่วฝานเปิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 587

    เย่มู่มู่เพิ่งจะได้รับข่าวเมื่อช่วงบ่ายว่าจ้านเฉิงอิ้นชนะศึก…เธอไม่กล้าจินตนาการเลยว่าพวกเขาจะชนะกองทัพศัตรูที่มีถึงเจ็ดแสนคน !นั้นเป็นการผนึกกำลังกันของสี่กองทัพ เผ่าหมาน แคว้นเยี่ยน กองทัพธงเหลือง และทหารต้าฉี่…จำนวนคนเมื่อนับรวมกันแล้วมีถึงเจ็ดแสนกว่าคนนึกไม่ถึงว่าจะถูกหยางชิงเหอใช้ปืนใหญ่ที่ติดอยู่บนกำแพงเมืองทำให้ตกใจจนวิ่งหนีไปทว่าปืนใหญ่พวกนั้นเป็นของปลอมนี่น่า!ใช้ยางรถยนต์เก่ากับโครงเหล็กประคองขึ้นมา ไม่สามารถยิงกระสุนปืนใหญ่ได้ทว่ามู่ฉีซิวก็ถูกทำให้หวาดกลัวจนหนีไปเสียแล้วกระสุนปืนใหญ่ทำขึ้นมาจากกระบอกไม้ไผ่อย่างง่าย ๆ แล้วนำท่อเหล็กไหลหยางมาทำเป็นกระบอกปืน ทำให้ทหารเกรงกลัวจนถอยทัพเรื่องราวตลกและไร้สาระขนาดนี้เชียวพวกเขายังถูกทหารผ่านศึกของจ้านเฉิงอิ้นและกองทัพลู่เจ๋อซุ่มโจมตีด้วยเยี่ยนซวี่ถูกยิงตายวิธีตายเรียบง่ายไปหน่อยถูกจ้านเฉิงอิ้นใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงตาย!พร้อมกับความสิ้นหวังของเยี่ยนซวี่ แคว้นเยี่ยนก็กลายเป็นแคว้นที่ไร้ซึ่งผู้นำ…ไม่ต้องพูดถึงแคว้นฉู่และแคว้นฉี เกรงว่าเผ่าหมานที่หนีไปคงไม่กลับไปที่ม่อเป่ย ทว่าคงรวมตัวอีกครั้งเพื่อไปเก็บกวาดแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 586

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารแคว้นเยี่ยน เมื่อวานซืนพวกเขามีแป้งทอดรากไม้กับแกลบอาหารของเมื่อวานนี้พวกเขาก็ขุดรากไม้ แทะเปลือกไม้กินเพื่อประทังความหิวก่อนที่จะมีศึกใหญ่ในวันนี้ เยี่ยนซวี่สั่งการให้สังหารม้าศึกหลายพันตัว เพื่อให้ทหารได้อิ่มท้องสักมื้อ พวกเขาถึงได้กินอาหารจานเนื้อเป็นมื้อแรกในรอบครึ่งปีเนื้อของม้าศึกทั้งเหนียวและคาวอย่างมาก ไม่มีรสชาติ พอย่างสุกแล้วกินไปสองสามคำ แทบจะกลืนไม่ลงถึงกระนั้น ก็เป็นอาหารจานเนื้อมื้อแรกที่พวกเขาได้กินในรอบครึ่งปีพวกเขารู้ว่า เมื่อกินเสร็จแล้ว มีสงครามที่ดุเดือดที่ต้องสู้รบ หากทำได้ไม่ดีอาจต้องทิ้งชีวิตไว้ในที่แห่งนี้ก็เป็นได้ หลายคนกินไปร้องไห้ไปทว่าตอนนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าอาหารของกองทัพตระกูลจ้านจะเป็นซาลาเปาไส้เนื้อทั้งยังมีหมั่นโถว หมั่วโถวเกลียว และแป้งทอดด้วย...และยังมีน้ำให้อย่างไม่จำกัดเฉินขุยเห็นหลายคนดวงตาแดงก่ำ ไม่เชื่อว่าสิ่งที่อากาศยานไร้คนขับประกาศออกมาจะเป็นความจริงเข้ายิ้มออกมาอย่างสดใสพลางกล่าวว่า “ไป ไปที่ค่ายทหารกันให้หมด พ่อครัวเตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว”“ชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ แม่ทัพคงไม่เย็นลง ถ้าไม่ได้ให้ทุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 585

    จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า ให้มั่วฝานพาพวกเขาไปที่โรงงานมั่วฝานมองไปยังเฉียนเซียงตัว ชายอ้วนผู้นี้สวมชุดเกราะเงิน เข็มขัดที่อยู่รอบเอวใกล้จะแตกออกมันมีขนาดเล็กกว่ารอบเอวของเขาทว่าเขาไม่รังเกียจผู้ที่มีชาติกำเนิดมาจากพ่อค้า ผู้ที่สามารถเป็นถึงผู้นำอันดับสองของกองกำลังกบฏได้ ย่อมไม่ใช่พวกปัญญานิ่มเขาชี้ไปที่อากาศยานไร้คนขับที่บินวนอย่างต่อเนื่องอยู่บนท้องฟ้า และถามเฉียนเซียงตัวว่า“มองเห็นเครื่องที่บินได้นั่นหรือไม่?”เฉียนเซียงตัวเงยหน้าขึ้น เขามองเห็นมันตั้งนานแล้ว!แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ถึงสามารถกระจายเสียงผ่านลำโพงขนาดใหญ่ได้ เสียงนั่นดังมาก จนยอดเขาหลายแห่งสามารถได้ยินเขาตอบตามความจริง “มองเห็นแล้ว!”“ดี ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหมดเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้านแล้ว ถือว่าเป็นของขวัญยามพบหน้า ข้าจะมอบอากาศยานไร้คนขับขนาดกลางให้กับพวกเจ้า ลำโพงขนาดใหญ่หนึ่งตัว และลำโพงประกาศเสียงอันใหญ่แปดตัว...”เฉียนเซียงตัวไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สิ่งที่มั่วฝานพูดจะเป็นเรื่องจริงเขาตกตะลึงไปหลายวินาที แล้วมองไปที่อากาศยานไร้คนขับที่บินวนอยู่อีกครั้งในเวลานี้ เสียงของอากาศยานไร้คนขับก็ดังขึ้นเสี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 584

    คนพวกนี้ ท้ายที่สุดแล้วก็เอาชีวิตมากฝังกลบไว้ที่นี่มู่ฉีซิวพาคนมาด้วยราว ๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นคน ไม่เกินสองแสนเขานำพาคนจำนวนสี่หมื่นคนฝ่าวงล้อมออกไป แล้วทิ้งคนเอาไว้หนึ่งแสนคน ที่ท้ายที่สุดแล้วก็จะถูกฝังเอาไว้บนภูเขาตลอดกาลนี่เป็นครั้งแรกที่กองทัพตระกูลจ้านกับกองทัพลู่เจ๋อมาบรรจบกันผู้นำของกองทัพลู่เจ๋อ เป็นชายอ้วนพุงพลุ้ยผู้หนึ่งเป็นคนอ้วนที่อายุสามสิบกว่าปี และก่อนหน้านี้ทำการค้าเดิมทีกองทัพลู่เจ๋อเป็นพวกบรรดาพ่อค้า ที่ออกเงินก่อตั้งกองกำลังกบฏชาวนา ทหารส่วนใหญ่มาจากเขตลู่เจ๋อ!ชายอ้วนผู้นี้มีชื่อว่าเฉียนเซียงตัว...บิดาของเขาลงทุนมากที่สุด เขาจึงถูกผลักดันให้เป็นผู้นำของกองทัพลู่เจ๋อในช่วงแรก บิดาของเขาสามารถสนับสนุนเงินได้อย่างต่อเนื่องทว่าเมื่อเนิ่นนานไป ในจวนไม่มีข้าว และไม่มีเงินสนับสนุนกองกำลังกบฏอีกต่อไปแล้วเดิมทีเขาคิดจะกลับบ้านทว่าเมื่อทุกคนมองดูแล้ว ก็เห็นว่าผู้นำคนนี้ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ดีถึงจะบอกว่าผู้มีเมตตาไม่สามารถปกครองทหารได้ ทว่าเขาเป็นคนใจดี ไม่เคยแตกคอกับผู้อื่นไม่ว่านายทหารหรือว่าทหารชั้นผู้น้อยจะทะเลาะกัน เขาล้วนทำหน้าที่เป็นผู้รักษาสันติทุ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status