แชร์

บทที่ 135

ผู้เขียน: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นใช้บลูทูทส่งวิดีโอรถแทร็กเตอร์ รถไถนาให้พวกเขา

พวกเขาแสดงความสนใจต่อรถไถนาเป็นอย่างมาก

บางคนนั่งในที่ร่ม ศึกษาวิดีโอ

บางคนศึกษาล้อรถขนาดใหญ่

บางคนศึกษาหัวรถไฟรถ…

มั่วฝานขึ้นนั่งห้องคนขับรถไถนาเป็นคนแรก สร้างแรงบันดาลไว้ว่าจะเป็นผู้ชายขับรถ

จ้านเฉิงอิ้นเห็นสถานการณ์เช่นนั้น พลางยิ้มจำใจ

เขาขยับแจกันออกไป รอคอยเสบียงรอบต่อไปที่เย่มู่มู่จะส่งมาให้

เย่มู่มู่ส่งจอบ เคียว พลั่ว จอบปลายแหลม ง่าม ส้อมพรวนดิน…มาอย่างละหนึ่งพันเล่ม

ส่งอุปกรณ์การเกษตรมาทั้งหมดหนึ่งหมื่นกว่าชิ้น ครอบคลุมพื้นที่ราบขนาดใหญ่

อุปกรณ์การเกษตรทุกชิ้นทาไว้ด้วยสีดำ ส่วนที่ไม่ได้ทาสีดำส่องสว่างเงาวับ แหลมคมเป็นอย่างยิ่ง

คุณภาพแตกต่างจากของช่างตีเหล็กด่านเจิ้นกวนอย่างสิ้นเชิง

จอบหนึ่งพันเล่ม ทุก ๆ เล่มมีขนาด น้ำหนัก เล็กใหญ่เหมือนกันทุกประการ

คล้ายว่าไม่ใช่คนผลิต!

แต่รวมศูนย์ผลิตพร้อมกันในปริมาณมาก

โลกของท่านเทพ เป็นโลกที่มีลักษณะเป็นอย่างไรกันนะ

เขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจกับยุคสมัยปัจจุบันของเย่มู่มู่

แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้

เย่มู่มู่หย่อนปุ๋ยชนิดต่าง ๆ ยูเรีย ปุ๋ยผสมมาให้อย่างต่อเนื่อง…

มูล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 136

    จ้านเฉิงอิ้นรับไว้ด้วยมือเดียว แล้วเปิดออก“พระราชโองการแคว้นต้าฉี่: จ้านเฉิงอิ้นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพตระกูลจ้าน ทำกองทัพตระกูลจ้านสองแสนคน เสียชีวิตหนึ่งแสนแปดหมื่นคน”“ฮ่องเต้กล่าวโทษ เขาไม่มีความสามารถของการเป็นผู้บังคับบัญชา ให้ยึดอำนาจทางการทหาร ลดตำแหน่งแม่ทัพผู้บัญชาการสูงสุด”“หลังจากนี้สิบวัน กำลังคนคงเหลือของกองทัพตระกูลจ้าน จะมีสวีหวยเข้าควบคุม”“สวีหวยนำกองกำลังหนึ่งแสนคน เข้าตั้งถิ่นฐานที่ด่านเจิ้นกวน รับมอบภารกิจรักษาด่านเจิ้นกวน ดูแลพลเมืองในอีกสิบวัน!”จ้านเฉิงอิ้นสองมือจับพระราชโองการแน่น กระดูกนิ้วมือบีบจนเป็นสีขาว!ทั้งที่ด่านเจิ้นกวนรักษาไว้ได้แล้วพวกเขามีเมล็ดพันธุ์ มีอุปกรณ์การเกษตรใช้บุกเบิกที่ดินรกร้างว่างเปล่า มีรถไถนากับรถแทร็กเตอร์ มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ มีปุ๋ย…ทุกอย่างกำลังดำเนินไปในทางที่ดี!เหตุใดต้องเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ มาลดตำแหน่งของเขา ยึดอำนาจทางการทหารของเขา!มั่วฝานสัมผัสได้ถึงภายในห้องโถงหารือ มีความหนาวเหน็บเย็นเข้ากระดูก เขาจับจมูก ก้าวถอยหลังสองก้าวอย่างระมัดระวังพูดเกลี้ยกล่อม “แม่ทัพอยู่ข้างนอก ไม่อยู่ภายใต้คำสั่งทหาร เจ้าไม่ต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 137

    ใกล้เวลาพลบค่ำ ในที่สุดเย่มู่มู่รอกระทั่งคนขับหวงมาส่งน้ำมันชุดสองถังน้ำมันรถบรรทุกของเขาบรรจุได้หนึ่งพันหนึ่งร้อยลิตร ไปกลับสองเที่ยว ดูดน้ำมันดีเซลออกมาได้เต็ม ๆ สองร้อยลิตรจำนวนสิบถังเย่มู่มู่จ่ายเงินให้คนขับหวงสี่หมื่นบาท รวมเงินซื้อถังน้ำมันคนขับหวงได้กำไรเปล่าหนึ่งหมื่นห้าพันบาท เขาดีใจมากช่วงนี้เขาช่วยเย่มู่มู่ขนย้ายของ ไม่ถึงหนึ่งเดือน เขาหาเงินมาได้ถึงหลายหมื่นเย่มู่มู่บอกกล่าวคนขับหวง พรุ่งนี้ให้ส่งน้ำแข็งกับเนื้อหมูแช่แข็ง ส่งถึงช่วงเที่ยงก็พอตอนกลางวันพี่ซุนคนดูแลโกดังกลับบ้านไปกินข้าว ในโกดังไม่มีคน เธอจะได้สะดวกในการส่งของไปคนขับหวงตอบรับทันที จากนั้นจึงขับรถจากไปอย่างดีใจ!*ตอนดึก เย่มู่มู่ไม่ใช้แจกันเติมน้ำจากลำธารอีก ถ้าด่านเจิ้นกวนมีความจำเป็น เธอจะส่งน้ำใช้ดื่มปริมาณของสามเดือนไปให้ในคราเดียวตอนฟ้าสว่าง เย่มู่มู่เห็นว่าในแจกันไม่มีกระดาษข้อความขอบแจกันสะอาดเป็นอย่างยิ่ง จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ส่งกระดาษข้อความมาให้เธอล้างหน้าล้างตาอย่างง่ายเสร็จ พนักงานบริการของบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนก็นำอาหารเช้ามาส่งเธอกินข้าวอาหารเช้าพร้อมกับโทรหาเซียวหัว ถามว่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 138

    จ้านเฉิงอิ้นตอบ “ขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นหย่อนกระดาษใบสุดท้ายลงไปนายทหารทุกคนยืนขึ้น แล้วเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น “ท่านแม่ทัพ เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านเทพตกลงส่งรถไถนาให้อีกคันหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นบีบตรงหว่างคิ้ว นายทหารเหล่านี้คิดถึงแต่รถไถนา เขาแสดงท่าทางเหนื่อยใจในตอนแรก เปี้ยนจื่อผิงกับหลี่หยวนจงไปหาคนเก่งด้านช่างเครื่องในค่ายพัก เพื่อเอามาฝึกขับรถไถนามั่วฝาน เฉินขุย เฉินอู่ต่างแย่งกันไปลองขับอืม ยังดีที่ทำการขับบนพื้นที่ว่างเปล่า ไม่เช่นนั้นคงได้ทับคนตาย ชนกำแพงจนพังเป็นแน่พวกเขาลองขับแล้วหลายรอบ รถไถนาก็ขยับไม่ได้คิดว่าตนทำรถไถนาเสียหาย วันนี้จึงมากล่าวขอโทษกับจ้านเฉิงอิ้นอย่างรอไม่ไหวและขอให้ท่านเทพส่งมาเพิ่มอีกหนึ่งคันของชิ้นใหญ่มหึมาเช่นนี้ ราคาต้องไม่ถูกแน่จ้านเฉิงอิ้นจะกล้าเปิดปากเอ่ยขออย่างไรรถไถนา เป็นของที่ท่านเทพมอบให้พลเมืองทั้งเมืองใช้ไถนา ปรากฏว่าถูกพวกเขาเล่นไม่ระวังจนเสียหายเขาไปตรวจดูในตอนเช้า หากเป็นตามที่วิดีโอกล่าวมา~รถน้ำมันหมดต้องเติมน้ำมัน!ท่านเทพส่งกระดาษข้อความมาตอนเช้า กล่าวว่าน้ำมันดีเซลมาถึงแล้วเขากล่าว “รถไถนาไม่ได้เสีย แต่เพราะไม่มีน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 139

    เฉินขุยกล่าวอย่างตื่นเต้น “ท่านแม่ทัพ เมื่อมีอุปกรณ์ติดตัวชุดนี้ พวกเราสามารถจู่โจมศัตรูตอนกลางคืนได้แล้ว”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอีก “ท่านเทพจะส่งน้ำมันดีเซลมาให้เร็ว ๆ นี้ จำไว้ น้ำมันดีเซลติดไฟง่ายมาก จงจัดเก็บด้วยความระมัดระวัง!”นายทหารสองสามคน มองจ้านเฉิงอิ้นด้วยแววตาแวววับ!เฉินอู่กระตือรือร้นอยากลอง “ท่านแม่ทัพ ติดไฟง่ายกว่าสุราปลอมจริงหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คืนนี้ข้าจะไปเผาค่ายพักกับรถกระทุ้งกำแพงเมืองของกองทัพทหารฉู่กับกองทัพทหารฉี!”พวกเขาต่างสนใจในน้ำมันดีเซลเป็นอย่างมากจึงไปที่โกดังทั้งกลุ่ม ครั้นวางแจกันเข้าไปไม่นาน น้ำมันเป็นถัง ๆ ก็ร่วงมาจากฟ้าถังน้ำมันมีขนาดใหญ่มาก สูงเท่าครึ่งหนึ่งตัวคน พื้นผิวถังเหล็กสีดำเคลือบคราบน้ำมันไว้หนึ่งชั้นเฉินขุยเอามือสัมผัส มันเยิ้มและสกปรกเล็กน้อย หนำซ้ำยังมีกลิ่นเหม็นอันยากจะอธิบายสุราปลอมกลิ่นฉุนจมูกกลิ่นน้ำมันดีเซลไม่ฉุนขนาดนั้น แต่ก็ไม่คุ้นชินเมื่อได้กลิ่นเฉินขุยเก็บแผ่นไม้อันหนึ่งบนพื้นขึ้นมา แต้มคราบน้ำมันบนพื้นผิวเดินออกไปไกล ๆ แล้วจุดตะบันไฟไฟลุกลามแผ่นไม้เปื้อนน้ำมันอย่างรวดเร็ว ไฟนั้นทั้งรุนแรงและเร็ว ไฟไหม้ใหญ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 140

    “มา เสี่ยวซินกล่าวขอโทษมู่มู่เร็วเข้า ลูกพี่ลูกน้องอย่างแก เอาแต่รังแกน้องสาวได้ยังไง”มีเสียงหงุดหงิดของเย่ซินดังเข้ามาในโทรศัพท์“แม่จะให้ผมขอโทษเธอ เธอมีสิทธิ์อะไร ครั้งก่อนเธอทำให้ผมถูกกักขังครึ่งเดือน ผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอเลย”“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอยึดครองทรัพย์สินของผม ตอนนี้ผมคงแต่งงานมีภรรยา แม่เองคงได้อุ้มหลานแล้วด้วย”“ผมไม่มีทางพูดขอโทษเธอแน่นอน!”อาเล็กงี่เง่าไม่มีเหตุผล แย่งมือถือพร้อมพูดเกลี้ยกล่อม“มู่มู่จ้ะ อากับพี่ใหญ่ปรึกษากันแล้ว พวกเราจะไม่ทะเลาะกับหนูแล้ว”“อาเพิ่งออกมาจากสถานีตำรวจ ถูกคนไล่ตามต่อว่าตลอดทาง”“ตอนนี้ในโลกออนไลน์รู้เรื่องนี้กันหมด ล้วนต่อว่าพวกเราโลภมากไม่รู้จักพอ พูดว่าพวกเราขโมยเงินลูกหลานใช้ พวกเราไม่ได้หมายความแบบนั้นจริง ๆ”“พวกอะไรนะ บ้านกับรถถ้าขายแล้วเราจะเพิ่มให้ครบจำนวน เธออย่าฟ้องอีกเลยนะ อาไม่อยากติดคุกจริง ๆ!”เย่มู่มู่เข้าใจสีหน้าและฝีปากของคนกลุ่มนี้เป็นอย่างดีพวกเขาได้รับสิ่งกระตุ้นอะไร ถึงได้เปลี่ยนใจกะทันหัน!เพราะตำรวจให้การศึกษาเชิงความคิดกับพวกเขา?หรือเพราะได้สัมผัสความลำบากข้างในสถานที่คุมขังผู้ต้องสงสัย และไม่อยา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 141

    เธอไม่กล้าลืมตา เพราะกลัวว่าจะเห็นแจกันแตกหากมันแตกแล้ว ต่อไปก็จะติดต่อกับจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้อีกด่านเจิ้นกวนจะกลับไปเป็นเมืองที่ตายแล้วเหมือนอย่างหนึ่งเดือนก่อนสุดท้ายจ้านเฉิงอิ้นก็จะตายอยู่ในสนามรบ ด่านเจิ้นกวนถูกทำลาย ชาวบ้านนับแสนคนก็จะกลายเป็นวัตถุดิบทำอาหาร!เธอยอมรับผลลัพธ์นี้ไม่ได้!เย่มู่มู่กำมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่น แล้วลืมตาขึ้นมาในทันทีแจกันที่ถูกมัดอยู่บนที่นั่งข้างคนขับยังสมบูรณ์ไม่มีความเสียหายแต่อย่างใดตัวแจกันถูกห่อด้วยถุงลมนิรภัย ไม่ได้ถูกชนเสียหาย!ยังดี ยังดี...ยังไม่แตก!อีกนิดเดียว แค่นิดเดียวเท่านั้น!เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างแรง สายตาเหมือนคบเพลิงมองไปที่รถอู่หลิงหงกวงที่ขับมาชนด้านหน้าของรถอู่หลิงหงกวงผิดรูป โครงแตกกระจายรถกระบะบรรทุกหนักของเธอ ทำจากวัสดุทนทาน มีน้ำหนักมาก กันชนหน้ารถถูกชนจนผิดรูปด้านหลังรถถูกชนท้ายจนไฟท้ายรถแตกโชคดีที่ตัวรถไม่ได้เสียหายเธอหยิบประแจแหวนอันใหญ่ออกมาจากช่องเก็บของในรถแล้วพรวดพราดลงจากรถไป ก่อนจะเดินไปที่รถอู่หลิงหงกวงด้วยท่าทางดุดัน ใช้ประแจเคาะไปที่กระจกรถเธอพูดด้วยความโกรธ “ลงมา รีบไสหัวลงมาเดี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 142

    “ท่านแน่ใจเหรอครับว่าเป็นฝีมือของคนตระกูลเย่?”“ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่นอกจากพวกเขาที่จะได้ประโยชน์จากการตายของฉันแล้ว ยังจะมีใครอีกที่อยากให้ฉันตาย?”ทนายสวีเงียบไปเขาเป็นทนายความที่อ่านพินัยกรรมในห้องไว้ทุกข์ของพ่อแม่เย่มู่มู่ที่ผ่านมาก็เป็นพยานได้ว่าคนตระกูลเย่ยุ่งวุ่นวายมากเพียงใดคนตระกูลเย่ทั้งหมดจ้องเด็กสาวกำพร้าตาเป็นมัน อยากจะเอามรดกมหาศาลนี้เป็นของตนพวกเขาพยายามหาเงินอย่างเต็มที่ แต่คิดไม่ถึงว่าเย่มู่มู่จะเข้าหายากขนาดนี้คนกลุ่มนี้มีเจตนาอยากฆ่าคนจริง ๆเช่นนี้ ทนายสวีจึงพูดว่า “จับฆาตกรได้หรือเปล่าครับ?”“มีคนโทรแจ้งตำรวจแล้ว เขาถือมีด ตอนนี้ถูกจับไว้ในรถ เพราะเสพมาก็เลยไม่กล้าปล่อยออกมา กลัวว่าจะทำร้ายคนสัญจรไปมา”ทนายสวีพูดว่า “อยู่ไหนครับ ผมจะรีบไป!”เย่มู่มู่แจ้งที่อยู่ให้ทนายสวีทราบทนายสวีมาพร้อมกับตำรวจและรถพยาบาลทนายสวีแสดงบัตรประจำตัวของเขา และแสดงให้เห็นว่าฆาตกรมีเจตนาฆ่า ตั้งใจชนรถของเย่มู่มู่เมื่อเย่มู่มู่ไปตบประตูรถ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากเขา เขาก็เอามีดออกมาถ้าไม่ใช่เพราะคนสัญจรไปมา เกรงว่าเขาคงทำให้เย่มู่มู่บาดเจ็บไปแล้วพวกคนสัญจรไปมาก็พ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 143

    ทนายสวีพูดเสียงหนักแน่น “เรื่องที่เหลือ คุณก็น่าจะรู้”เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าคนตระกูลเย่จะเสียสติได้ขนาดนี้“คุณเย่ นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุจราจรธรรมดา ๆ แต่มันเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่า เสพยา ขายยา...”“ตำรวจกำลังจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด คราวก่อนเรื่องที่คุณกับคนตระกูลเย่ทะเลาะกันก็โด่งดังจนติดอันดับการค้นหายอดฮิต นักข่าวบางคนรู้เรื่องนี้ เลยไปปิดล้อมขอสัมภาษณ์อยู่ที่สถานีตำรวจ”“ช่วงนี้ก็พยายามอย่าออกจากบ้าน ถ้าจะออกก็ต้องมีบอดีการ์ด!”เย่มู่มู่เงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันเข้าใจแล้ว เย่ซินจะถูกตัดสินจำคุกนานแค่ไหน?”“เพิ่งจะออกมาก็จ้างวานฆ่า น่าจะถูกตัดสินโทษสูงสุด”“ตอนเขาถูกจับ หญิงชราตระกูลเย่ก็เป็นลมทันที ส่วนคู่สามีภรรยาก็ร้องห่มร้องไห้!”“ผมคิดว่าพวกเขาจะต้องมาหาคุณ มารบกวนคุณ และบังคับให้คุณเซ็นหนังสือยอมความแน่ คุณควรเลี่ยงหน่อย”เย่มู่มู่กล่าวว่า “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว เรื่องที่เหลือ รบกวนคุณด้วยนะทนายสวี”“เป็นเรื่องที่ผมสมควรทำครับ ผมกับพ่อของคุณเป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายปีแล้ว ดูจากความคับแค้นใจที่คนตระกูลเย่มีต่อคุณ พ่อของคุณในปรโลกก็คงยากที่จะหมดห่วง” “ตอนแรกผมก็เคยเตือนเ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 400

    ไม่ หากให้พูดอย่างชัดเจนเลยก็คือ แจกันส่งคนได้แล้วจ้านเฉิงอิ้นดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังหายใจเพียงแพล็บเดียวเท่านั้น เขาก็กลับมาไม่วางใจอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามั่วฝานถูกส่งไปยังโลกของท่านเทพจริง ๆ หรือเปล่าเขาฟังเสียงที่แว่วมาจากแจกันอย่างตั้งใจเป็นอย่างที่คิด เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกแหลมจี๊ดคุยโวโอ้อวดของมั่วฝาน“ข้า ข้าถูกส่งมาที่ใด? เทพยดาปีศาจทุกองค์ฟังนะ ข้าเป็นหลานชายของขุนนางชั้นสูงที่สืบทอดตระกูลมั่วแห่งแคว้นต้าฉี่...”ทันใดนั้น มั่วฝานก็เปลี่ยนคำพูด ราวกับพบบุคคลที่น่าอัศจรรย์อะไรเข้า“เอ๊ะ ท่าน ท่านหน้าตาละม้ายคล้ายรูปปั้นเสมือนในวัดเลยนี่!”ทันใดนั้นมั่วฝานก็ตะโกนเรียกด้วยความดีใจปนความตกตะลึง“ท่าน...ท่านเทพ ท่านคือท่านเทพจริง ๆ ด้วย...”ครั้นได้ยินถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นก็วางใจอย่างสมบูรณ์มั่วฝานกับหน่วยกล้าตายของเขา ไม่ได้ถูกส่งตัวไปผิดโลก ทว่าถูกส่งไปข้างกายท่านเทพแม้มั่วฝานจะมีหลายครั้งที่เชื่อถือไม่ได้ ทว่าก็ปกป้องท่านเทพได้แน่มิหนำซ้ำหน่วยกล้าตายข้างกายเขา เป็นยอดฝีมือที่ผ่านการเลือกหลายชั้น และเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานเพีบงแต่ จ้านเฉิงอิ้นโทษที่ตัวเองได้รับบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 399

    หลังจ้านเฉิงอิ้นหมดสติไปอีกครั้ง มั่วฝาน จวงเหลียงและบรรดาทหารผ่านศึกที่ป่วยวุ่นวายอลหม่านไปหมดในวินาทีสำคัญ กลับหาตัวซ่งอวิ๋นฮุยไม่เจอทุกคนย้ายตัวจ้านเฉิงอิ้นออกมาจากถนนลูกรัง แล้วนำเขาไปวางไว้บนพื้นเรียบในบรรดาผู้บัญชาการของทัพแคว้นเยี่ยนของเซี่ยเวย มีทหารผ่านศึกนายหนึ่งชำนาญศาสตร์การแพทย์ เป็นหมอประจำกองทัพที่ติดตามทัพเขาพกเข็มสำหรับการฝังเข็มและครอบแก้ว ผ้าพันแปล และสมุนไพรบางส่วนติดตัวมาด้วย...เขาจับชีพจรจ้านเฉิงอิ้นก่อน จากนั้นก็เป็นอันต้องขมวดคิ้วตามมามั่วฝานกับจวงเหลียงจ้องเขาตาไม่กะพริบ พร้อมเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ “เป็นอย่างไรบ้าง?”ทหารผ่านศึกตอบ “ยังทันขอรับ ปกติร่างกายของท่านแม่ทัพก็ดีอยู่แล้ว ยังช่วยชีวิตได้!”ทั้งสองคนถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่ง!หมอประจำกองทัพจุดตะบันไฟ เผาเข็มรอบหนึ่ง จากนั้นก็ทิ่มเข้าไปในจุดฝังเข็มบนร่างจ้านเฉิงอิ้น เพื่อห้ามไม่ให้เลือดออกตรงมุมปากของจ้านเฉิงอิ้นไม่มีเลือดออกมาอีกตรงบาดแผลใช้เหล้ามาฆ่าเชื้อ ก่อนจะพันด้วยผ้าพันแผลสุดท้ายก็ยัดยาลูกกลอนเม็ดเล็ก ๆ สีดำเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากของจ้านเฉิงอิ้น...หลังทำทุกอย่างเสร็จ ก็จับชีพ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 398

    เขาไม่อยากเสียโอกาสนี้ไปแต่งงานกับเย่มู่มู่เป็นวิธีแก้สถานการณ์เพียงวิธีเดียวก่อนมาที่นี่ เขาเคยคิดว่าเย่มู่มู่เป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดาไม่ได้สะดุดตาอะไรหรืออาจเป็นผู้หญิงที่ชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น และคลั่งไคล้เขาตั้งแต่เด็กเขาเคยเห็นผู้หญิงพรรค์นี้มามากมายหากเป็นแบบนี้จริง ๆ ก็จัดการง่ายแล้วเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า เย่มู่มู่จะสวยและมีความคิดเป็นของตัวเองขนาดนี้สิ่งที่ทำให้เขายากจะรับได้ก็คือ เย่มู่มู่ไม่ชอบเขาใช่แล้ว เขาจะบอกว่าชอบเย่มู่มู่ตั้งแต่แรกพบไม่ได้ทว่าครั้งแรกที่เห็นก็ตกตะลึงในตัวเธอ และมีความรู้สึกดี ๆ เลยเขาไม่สามารถรับได้ว่าเย่มู่มู่กลับไม่ชอบเขาหากไม่ชอบเขา แล้วลู่ซื่อกรุ๊ปจะแก้สถานการณ์อย่างไรเขาขยันขนาดนี้มาตั้งแต่เด็ก แข่งขันกับพี่ใหญ่มาสารพัดอย่าง ยังไม่ทันถึงนาทีสุดท้าย หรือว่าจะต้องยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?ไม่ เขาจะไม่ยอมแพ้เป็นอันขาดเย่มู่มู่ไม่มีทางไม่ชอบเขา!เห็นใบหน้าของลู่ฉีหยางคล้ำดำหมองไปหมด แล้วเข้ามาใกล้เธอ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆเย่มู่มู่กอดแจกันขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว หลับอยู่ในซอกห้องรับแขก“นี่ นี่พวกคุณกำล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 397

    “ขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันรับเอาไว้ไม่ได้...”เย่มู่มู่ปฏิเสธลู่ฉีหยางอย่างมีเหตุผลเต็มประดาครั้นลู่ฉีหยางได้ยินประโยคนี้ นิสัยเดิมก็เผยออกมาเขาสะบัดดอกไม้ไปบนพื้นอย่างแรงในทันใด กลีบดอกไม้ร่วงอยู่เต็มพรมและพื้นท่าทีสดใสงดงามในทีแรก สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเป็นขึงขังอย่างไร้ที่เปรียบ “เธอปฏิเสธฉันเหรอ?”เขากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบน่าขนลุกเย่มู่มู่หลบไปข้าง ๆ เธอกลัวลู่ฉีหยางเล็กน้อยคนคนนี้เปลี่ยนสีหน้าเร็วกว่าเปิดหน้าหนังสือเสียอีกหลังจากนั้น ลู่ฉีหยางก็แสยะยิ้ม“เย่มู่มู่ ฉันให้เกียรติเธอ ถึงได้ให้เธอเป็นแฟนของฉัน เธอคิดว่า ตอนนี้เธอยังมีทางเลือกอีกเหรอ?” หลังจากนั้นลู่ฉีหยางก็ดีดนิ้วทีหนึ่งบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่นอกห้อง เข้ามาภายในห้องทั้งหมด พวกเขายืนตั้งแถวอยู่ตรงหน้าประตู ขวางทางออกทางเดียวของเย่มู่มู่เอาไว้ครั้นเย่มู่มู่เห็นภาพฉากนี้ ก็แอบคิดในใจจบเห่แล้วเดิมทีลู่ฉีหยางกับแม่เขาไม่ใช่คนสุภาพอะไรแม้จะบอกว่าเป็นบุคคลในสังคมชั้นสูง ปีนขึ้นมาได้ถึงตำแหน่งในตอนนี้ วิธีการต้องสกปรกโสมมกว่านักธุรกิจธรรมดาไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่มีทางหยุดรถของเธอบนถนนใหญ่ และพาตัวเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 396

    “เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 395

    ขณะที่สองมือของเศรษฐินีแตะตัวเย่มู่มู่ เย่มู่มู่เบือนตัวหลีกทันทีเศรษฐินีคนนี้ทำอย่างกับรู้จักมักคุ้นกันมานานเกินไปแล้วเธอไม่ได้รู้จักเศรษฐินีคนนี้สักหน่อยมิหนำซ้ำยังไม่ใช่เพื่อนสนิทของแม่อีกในขณะนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ลู่ฉีหยางที่ตั้งใจแต่งตัวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินออกมาครั้นเขาเห็นเย่มู่มู่ ดวงตาทั้งสองก็พลันเปล่งประกาย“มู่มู่ เธอมาแล้วเหรอ?”“แม่ฉันอยากเจอเธอมากแล้ว ตั้งแต่บินมาเมืองหลวง เธอก็ด่าฉันสาดเสียเทเสียยกหนึ่ง ว่าฉันเปิดเผยภูมิหลังและตัวตนของเธอ ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกเธอสักคำได้ยังไง”“แต่เธอวางใจนะ ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สื่อและนักข่าวจะไม่มีทางปล่อยข่าวออกไปแน่นอน แล้วก็หาภูมิหลังของเธอบนเน็ตไม่เจอด้วย”“แล้วก็ เธอสนใจไลฟ์สดที่เธอทำมาก ๆ ถามว่าเธอสนใจจะก่อตั้งบริษัทอินคิวไอดอลเอ็มซีเอ็นไหม...”คุณหญิงลู่คว้ามือของเย่มู่มู่เอาไว้อย่างกระตือรือร้น พร้อมลากเธอไปนั่งลงบนโซฟา“ไลฟ์ช่วยเกษตรกรที่เธอทำนั่น ได้เป็นที่นิยมในเน็ตมาก ๆ ได้รับความนิยมเยอะมาก ๆ ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสามเดือน ยอดแฟนคลับของห้องไลฟ์สดทั้งสองห้องก็สูงถึงสามสิบล้าน”“กระท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 394

    บีบให้เธอต้องหยุดรถเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สีดำคันหนึ่ง มีผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ใส่แว่นดำ รูปร่างสูงใหญ่ห้าคนลงมาจากรถดูแล้วพวกเขาคล้ายกับบอดีการ์ดมีผู้ชายสวมหมวกคนหนึ่ง มาตรงหน้ากระจกรถเย่มู่มู่ ก่อนจะเคาะกระจกรถเย่มู่มู่ลดกระจกลงท่าทีของผู้ชายคนนั้นมีมารยาทเป็นอย่างมาก หลังเขาถอดหมวกออกและเป็นฝ่ายคำนับให้เธอก่อน“คุณหนูเย่ ใช่ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า ในมือเธอกดเบอร์โทร 191 ไว้แล้ว หากอีกฝ่ายกระทำอะไรเกินขอบเขตออกมา...เธอจะต่อสายแจ้งตำรวจทันทีเพียงแต่อีกฝ่ายถามเธอด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงกับคุณชายบ้านผม อยากจะเชิญคุณไปทานข้าวสักมื้อน่ะครับ”ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสอง อีกสามชั่วโมงถึงจะเป็นเวลาอาหารเย็นข้ออ้างนี้จะเกินจริงไปหน่อยหรือเปล่าเย่มู่มู่ส่ายศีรษะ แล้วกล่าวปฏิเสธ “ฉันไม่มีเวลา!”“คุณหนูเย่ผมเห็นของที่คุณใส่ไว้เต็มรถ คุณจะส่งไปไหนเหรอครับ พวกเราช่วยไปส่งให้คุณได้นะครับ”“รบกวนคุณช่วยรับคำเชิญไปทานข้าวกับคุณผู้หญิงและคุณชายบ้านเราด้วยนะครับ”พูดพลางเหล่าบอดีการ์ด ก็เตรียมจะเปิดประตูด้วยท่าทีอันธพาล พวกเขาเข้าไปในรถบรรทุกคันน้อย แล้ว ‘เชิญ’ เย่มู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 393

    ม้าขาวของจ้านเฉิงอิ้นพุ่งออกมาราวกับตกใจ เบื้องหลังม้าขาวมีผู้บัญชาการกลุ่มใหญ่กำลังไล่ตามมาเซี่ยเวย จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิงต่างตะโกนใส่มั่วฝานว่า “สกัดเอาไว้ เร็วเข้า สกัดม้าเอาไว้...”“ท่านแม่ทัพใหญ่ได้รับบาดเจ็บหนัก ให้ม้าหยุด”มั่วฝานสั่งหน่วยกล้าตาย “ขวางม้าเอาไว้!”หน่วยกล้าตายล้วงเชือกออกมา แล้วคล้องคอม้าเอาไว้อย่างรวดเร็วม้าถูกหน่วยกล้าตายตรึงไว้อย่างแรงทั้งสี่ มันยกเท้าหน้าขึ้นสูง พร้อมคำรามด้วยความหวาดกลัว!ขณะนี้จ้านเฉิงอิ้นที่อยู่บนหลังม้ากำลังจะร่วงลงมาเหล่าทหารผ่านศึกมือเร็วตาไว รับตัวจ้านเฉิงอิ้นเอาไว้ทั้งเนื้อตัวของจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด ถูกม้าทำให้สั่นโคลงเคลงอย่างแรง เดิมทีหมดสติไปแล้ว ทว่าตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทหารผ่านศึกตะโกนดังลั่น “ท่านรัฐทายาท ท่านแม่ทัพฟื้นแล้วขอรับ”มั่วฝานกล่าวอย่างร้อนใจ “เรียกหมอประจำกองทัพ เร็วเข้า...”วินาทีถัดมา มือที่เปื้อนเลือดสดของจ้านเฉิงอิ้นก็คว้าปกเสื้อของมั่วฝานเอาไว้ เนื่องจากเขาเห็นแจกันในอ้อมอกของมั่วฝานมั่วฝานรีบคุกเข่าลง พร้อมประคองเขาเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ครั้นอ้าปากก็อันกระอักเลือด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 392

    ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status