Share

บทที่ 137

Author: มู่โร่ว
ใกล้เวลาพลบค่ำ ในที่สุดเย่มู่มู่รอกระทั่งคนขับหวงมาส่งน้ำมันชุดสอง

ถังน้ำมันรถบรรทุกของเขาบรรจุได้หนึ่งพันหนึ่งร้อยลิตร ไปกลับสองเที่ยว ดูดน้ำมันดีเซลออกมาได้เต็ม ๆ สองร้อยลิตรจำนวนสิบถัง

เย่มู่มู่จ่ายเงินให้คนขับหวงสี่หมื่นบาท รวมเงินซื้อถังน้ำมัน

คนขับหวงได้กำไรเปล่าหนึ่งหมื่นห้าพันบาท เขาดีใจมาก

ช่วงนี้เขาช่วยเย่มู่มู่ขนย้ายของ ไม่ถึงหนึ่งเดือน เขาหาเงินมาได้ถึงหลายหมื่น

เย่มู่มู่บอกกล่าวคนขับหวง พรุ่งนี้ให้ส่งน้ำแข็งกับเนื้อหมูแช่แข็ง ส่งถึงช่วงเที่ยงก็พอ

ตอนกลางวันพี่ซุนคนดูแลโกดังกลับบ้านไปกินข้าว ในโกดังไม่มีคน เธอจะได้สะดวกในการส่งของไป

คนขับหวงตอบรับทันที จากนั้นจึงขับรถจากไปอย่างดีใจ!

*

ตอนดึก เย่มู่มู่ไม่ใช้แจกันเติมน้ำจากลำธารอีก ถ้าด่านเจิ้นกวนมีความจำเป็น เธอจะส่งน้ำใช้ดื่มปริมาณของสามเดือนไปให้ในคราเดียว

ตอนฟ้าสว่าง เย่มู่มู่เห็นว่าในแจกันไม่มีกระดาษข้อความ

ขอบแจกันสะอาดเป็นอย่างยิ่ง จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ส่งกระดาษข้อความมาให้

เธอล้างหน้าล้างตาอย่างง่ายเสร็จ พนักงานบริการของบ้านพักตากอากาศเซียนหยวนก็นำอาหารเช้ามาส่ง

เธอกินข้าวอาหารเช้าพร้อมกับโทรหาเซียวหัว ถามว่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 138

    จ้านเฉิงอิ้นตอบ “ขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นหย่อนกระดาษใบสุดท้ายลงไปนายทหารทุกคนยืนขึ้น แล้วเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น “ท่านแม่ทัพ เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านเทพตกลงส่งรถไถนาให้อีกคันหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นบีบตรงหว่างคิ้ว นายทหารเหล่านี้คิดถึงแต่รถไถนา เขาแสดงท่าทางเหนื่อยใจในตอนแรก เปี้ยนจื่อผิงกับหลี่หยวนจงไปหาคนเก่งด้านช่างเครื่องในค่ายพัก เพื่อเอามาฝึกขับรถไถนามั่วฝาน เฉินขุย เฉินอู่ต่างแย่งกันไปลองขับอืม ยังดีที่ทำการขับบนพื้นที่ว่างเปล่า ไม่เช่นนั้นคงได้ทับคนตาย ชนกำแพงจนพังเป็นแน่พวกเขาลองขับแล้วหลายรอบ รถไถนาก็ขยับไม่ได้คิดว่าตนทำรถไถนาเสียหาย วันนี้จึงมากล่าวขอโทษกับจ้านเฉิงอิ้นอย่างรอไม่ไหวและขอให้ท่านเทพส่งมาเพิ่มอีกหนึ่งคันของชิ้นใหญ่มหึมาเช่นนี้ ราคาต้องไม่ถูกแน่จ้านเฉิงอิ้นจะกล้าเปิดปากเอ่ยขออย่างไรรถไถนา เป็นของที่ท่านเทพมอบให้พลเมืองทั้งเมืองใช้ไถนา ปรากฏว่าถูกพวกเขาเล่นไม่ระวังจนเสียหายเขาไปตรวจดูในตอนเช้า หากเป็นตามที่วิดีโอกล่าวมา~รถน้ำมันหมดต้องเติมน้ำมัน!ท่านเทพส่งกระดาษข้อความมาตอนเช้า กล่าวว่าน้ำมันดีเซลมาถึงแล้วเขากล่าว “รถไถนาไม่ได้เสีย แต่เพราะไม่มีน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 139

    เฉินขุยกล่าวอย่างตื่นเต้น “ท่านแม่ทัพ เมื่อมีอุปกรณ์ติดตัวชุดนี้ พวกเราสามารถจู่โจมศัตรูตอนกลางคืนได้แล้ว”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอีก “ท่านเทพจะส่งน้ำมันดีเซลมาให้เร็ว ๆ นี้ จำไว้ น้ำมันดีเซลติดไฟง่ายมาก จงจัดเก็บด้วยความระมัดระวัง!”นายทหารสองสามคน มองจ้านเฉิงอิ้นด้วยแววตาแวววับ!เฉินอู่กระตือรือร้นอยากลอง “ท่านแม่ทัพ ติดไฟง่ายกว่าสุราปลอมจริงหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คืนนี้ข้าจะไปเผาค่ายพักกับรถกระทุ้งกำแพงเมืองของกองทัพทหารฉู่กับกองทัพทหารฉี!”พวกเขาต่างสนใจในน้ำมันดีเซลเป็นอย่างมากจึงไปที่โกดังทั้งกลุ่ม ครั้นวางแจกันเข้าไปไม่นาน น้ำมันเป็นถัง ๆ ก็ร่วงมาจากฟ้าถังน้ำมันมีขนาดใหญ่มาก สูงเท่าครึ่งหนึ่งตัวคน พื้นผิวถังเหล็กสีดำเคลือบคราบน้ำมันไว้หนึ่งชั้นเฉินขุยเอามือสัมผัส มันเยิ้มและสกปรกเล็กน้อย หนำซ้ำยังมีกลิ่นเหม็นอันยากจะอธิบายสุราปลอมกลิ่นฉุนจมูกกลิ่นน้ำมันดีเซลไม่ฉุนขนาดนั้น แต่ก็ไม่คุ้นชินเมื่อได้กลิ่นเฉินขุยเก็บแผ่นไม้อันหนึ่งบนพื้นขึ้นมา แต้มคราบน้ำมันบนพื้นผิวเดินออกไปไกล ๆ แล้วจุดตะบันไฟไฟลุกลามแผ่นไม้เปื้อนน้ำมันอย่างรวดเร็ว ไฟนั้นทั้งรุนแรงและเร็ว ไฟไหม้ใหญ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 140

    “มา เสี่ยวซินกล่าวขอโทษมู่มู่เร็วเข้า ลูกพี่ลูกน้องอย่างแก เอาแต่รังแกน้องสาวได้ยังไง”มีเสียงหงุดหงิดของเย่ซินดังเข้ามาในโทรศัพท์“แม่จะให้ผมขอโทษเธอ เธอมีสิทธิ์อะไร ครั้งก่อนเธอทำให้ผมถูกกักขังครึ่งเดือน ผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอเลย”“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอยึดครองทรัพย์สินของผม ตอนนี้ผมคงแต่งงานมีภรรยา แม่เองคงได้อุ้มหลานแล้วด้วย”“ผมไม่มีทางพูดขอโทษเธอแน่นอน!”อาเล็กงี่เง่าไม่มีเหตุผล แย่งมือถือพร้อมพูดเกลี้ยกล่อม“มู่มู่จ้ะ อากับพี่ใหญ่ปรึกษากันแล้ว พวกเราจะไม่ทะเลาะกับหนูแล้ว”“อาเพิ่งออกมาจากสถานีตำรวจ ถูกคนไล่ตามต่อว่าตลอดทาง”“ตอนนี้ในโลกออนไลน์รู้เรื่องนี้กันหมด ล้วนต่อว่าพวกเราโลภมากไม่รู้จักพอ พูดว่าพวกเราขโมยเงินลูกหลานใช้ พวกเราไม่ได้หมายความแบบนั้นจริง ๆ”“พวกอะไรนะ บ้านกับรถถ้าขายแล้วเราจะเพิ่มให้ครบจำนวน เธออย่าฟ้องอีกเลยนะ อาไม่อยากติดคุกจริง ๆ!”เย่มู่มู่เข้าใจสีหน้าและฝีปากของคนกลุ่มนี้เป็นอย่างดีพวกเขาได้รับสิ่งกระตุ้นอะไร ถึงได้เปลี่ยนใจกะทันหัน!เพราะตำรวจให้การศึกษาเชิงความคิดกับพวกเขา?หรือเพราะได้สัมผัสความลำบากข้างในสถานที่คุมขังผู้ต้องสงสัย และไม่อยา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 141

    เธอไม่กล้าลืมตา เพราะกลัวว่าจะเห็นแจกันแตกหากมันแตกแล้ว ต่อไปก็จะติดต่อกับจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้อีกด่านเจิ้นกวนจะกลับไปเป็นเมืองที่ตายแล้วเหมือนอย่างหนึ่งเดือนก่อนสุดท้ายจ้านเฉิงอิ้นก็จะตายอยู่ในสนามรบ ด่านเจิ้นกวนถูกทำลาย ชาวบ้านนับแสนคนก็จะกลายเป็นวัตถุดิบทำอาหาร!เธอยอมรับผลลัพธ์นี้ไม่ได้!เย่มู่มู่กำมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่น แล้วลืมตาขึ้นมาในทันทีแจกันที่ถูกมัดอยู่บนที่นั่งข้างคนขับยังสมบูรณ์ไม่มีความเสียหายแต่อย่างใดตัวแจกันถูกห่อด้วยถุงลมนิรภัย ไม่ได้ถูกชนเสียหาย!ยังดี ยังดี...ยังไม่แตก!อีกนิดเดียว แค่นิดเดียวเท่านั้น!เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างแรง สายตาเหมือนคบเพลิงมองไปที่รถอู่หลิงหงกวงที่ขับมาชนด้านหน้าของรถอู่หลิงหงกวงผิดรูป โครงแตกกระจายรถกระบะบรรทุกหนักของเธอ ทำจากวัสดุทนทาน มีน้ำหนักมาก กันชนหน้ารถถูกชนจนผิดรูปด้านหลังรถถูกชนท้ายจนไฟท้ายรถแตกโชคดีที่ตัวรถไม่ได้เสียหายเธอหยิบประแจแหวนอันใหญ่ออกมาจากช่องเก็บของในรถแล้วพรวดพราดลงจากรถไป ก่อนจะเดินไปที่รถอู่หลิงหงกวงด้วยท่าทางดุดัน ใช้ประแจเคาะไปที่กระจกรถเธอพูดด้วยความโกรธ “ลงมา รีบไสหัวลงมาเดี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 142

    “ท่านแน่ใจเหรอครับว่าเป็นฝีมือของคนตระกูลเย่?”“ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่นอกจากพวกเขาที่จะได้ประโยชน์จากการตายของฉันแล้ว ยังจะมีใครอีกที่อยากให้ฉันตาย?”ทนายสวีเงียบไปเขาเป็นทนายความที่อ่านพินัยกรรมในห้องไว้ทุกข์ของพ่อแม่เย่มู่มู่ที่ผ่านมาก็เป็นพยานได้ว่าคนตระกูลเย่ยุ่งวุ่นวายมากเพียงใดคนตระกูลเย่ทั้งหมดจ้องเด็กสาวกำพร้าตาเป็นมัน อยากจะเอามรดกมหาศาลนี้เป็นของตนพวกเขาพยายามหาเงินอย่างเต็มที่ แต่คิดไม่ถึงว่าเย่มู่มู่จะเข้าหายากขนาดนี้คนกลุ่มนี้มีเจตนาอยากฆ่าคนจริง ๆเช่นนี้ ทนายสวีจึงพูดว่า “จับฆาตกรได้หรือเปล่าครับ?”“มีคนโทรแจ้งตำรวจแล้ว เขาถือมีด ตอนนี้ถูกจับไว้ในรถ เพราะเสพมาก็เลยไม่กล้าปล่อยออกมา กลัวว่าจะทำร้ายคนสัญจรไปมา”ทนายสวีพูดว่า “อยู่ไหนครับ ผมจะรีบไป!”เย่มู่มู่แจ้งที่อยู่ให้ทนายสวีทราบทนายสวีมาพร้อมกับตำรวจและรถพยาบาลทนายสวีแสดงบัตรประจำตัวของเขา และแสดงให้เห็นว่าฆาตกรมีเจตนาฆ่า ตั้งใจชนรถของเย่มู่มู่เมื่อเย่มู่มู่ไปตบประตูรถ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากเขา เขาก็เอามีดออกมาถ้าไม่ใช่เพราะคนสัญจรไปมา เกรงว่าเขาคงทำให้เย่มู่มู่บาดเจ็บไปแล้วพวกคนสัญจรไปมาก็พ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 143

    ทนายสวีพูดเสียงหนักแน่น “เรื่องที่เหลือ คุณก็น่าจะรู้”เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าคนตระกูลเย่จะเสียสติได้ขนาดนี้“คุณเย่ นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุจราจรธรรมดา ๆ แต่มันเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่า เสพยา ขายยา...”“ตำรวจกำลังจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด คราวก่อนเรื่องที่คุณกับคนตระกูลเย่ทะเลาะกันก็โด่งดังจนติดอันดับการค้นหายอดฮิต นักข่าวบางคนรู้เรื่องนี้ เลยไปปิดล้อมขอสัมภาษณ์อยู่ที่สถานีตำรวจ”“ช่วงนี้ก็พยายามอย่าออกจากบ้าน ถ้าจะออกก็ต้องมีบอดีการ์ด!”เย่มู่มู่เงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันเข้าใจแล้ว เย่ซินจะถูกตัดสินจำคุกนานแค่ไหน?”“เพิ่งจะออกมาก็จ้างวานฆ่า น่าจะถูกตัดสินโทษสูงสุด”“ตอนเขาถูกจับ หญิงชราตระกูลเย่ก็เป็นลมทันที ส่วนคู่สามีภรรยาก็ร้องห่มร้องไห้!”“ผมคิดว่าพวกเขาจะต้องมาหาคุณ มารบกวนคุณ และบังคับให้คุณเซ็นหนังสือยอมความแน่ คุณควรเลี่ยงหน่อย”เย่มู่มู่กล่าวว่า “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว เรื่องที่เหลือ รบกวนคุณด้วยนะทนายสวี”“เป็นเรื่องที่ผมสมควรทำครับ ผมกับพ่อของคุณเป็นเพื่อนสนิทกันมานานหลายปีแล้ว ดูจากความคับแค้นใจที่คนตระกูลเย่มีต่อคุณ พ่อของคุณในปรโลกก็คงยากที่จะหมดห่วง” “ตอนแรกผมก็เคยเตือนเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 144

    พี่ซุนดีใจกับข่าวที่คาดไม่ถึงนี้มาก “จริงเหรอครับ ผมจะได้เงินสี่หมื่นบาทต่อเดือนจริงๆ เหรอ? แล้วผมยังได้สวัสดิการห้าอย่างอีกต่างหาก?”“ใช่ เมื่อก่อนผู้จัดการไม่เคยให้คุณเหรอ?”“ถ้าให้ เงินเดือนที่ได้ก็จะน้อยลงครับ ดังนั้น…” พี่ซุนเกาหัว ไม่ได้พูดต่อเย่มู่มู่กล่าวต่อ “คุณกับยามจะมีเงินบำนาญและประกันสุขภาพ คุณไปถามคนในหมู่บ้านก็ได้ อายุสามสิบสี่สิบก็ได้หมด รู้จักนิสัยใจคอ เป็นคนซื่อสัตย์เชื่อถือได้!”“ได้ครับ ช่วงนี้มีคนกลับหมู่บ้านเยอะมาก พวกเขารับจ้างทำงานอยู่ข้างนอก หนึ่งเดือนยังหาเงินได้ไม่ถึงสามหมื่น แถมงานนี้เจ้านายยังช่วยจ่ายค่าประกันภัยอีก!”“ผมจะไปที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเดี๋ยวนี้ แล้วเรียกทุกคนมารวมตัวครับ”พี่ซุนขี่มอเตอร์ไซค์จากไปอย่างมีความสุขสองชั่วโมงต่อมา พี่ซุนโทรมาบอกว่าในหมู่บ้านมีวัยรุ่นว่างงานยี่สิบกว่าคนมาสมัครงานเย่มู่มู่โทรหาผู้จัดการบ้านพักตากอากาศเซียนหยวน ให้เขาไปสัมภาษณ์ เลือกผู้สมัครที่ดีที่สุดพนักงานต้องได้รับการฝึกอบรมหลายวันก่อนจึงจะเข้ามาทำงานได้ส่วนชุดยาม กระบองไฟฉาย ป้ายชื่อ ให้ผู้จัดการซื้อมาพร้อมกันเงินเดือนยามกับสวัสดิการห้าอย่าง บันทึกในน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 145

    วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเกินไป เย่มู่มู่จึงอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ แต่เมื่อเธอเห็นจดหมายของจ้านเฉิงอิ้นเขาต้องการส่งเงินทองและเครื่องประดับมากมายมาให้เย่มู่มู่ก็เลยอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อยมีผู้หญิงคนไหนบ้างไม่ชอบเครื่องประดับสวย ๆ เย่มู่มู่เขียนจดหมายตอบกลับเขาว่า “จ่ายเงินไปเยอะก็จริง แต่เงินทองและเครื่องประดับที่เจ้าส่งมาก่อนหน้านี้ก็เยอะมาก ตอนนี้ข้าเลยไม่ขาดเงินเท่าไหร่!”“ถ้าด่านเจิ้งกวนฝ่าวงล้อมโจมตีได้สำเร็จ เจ้าจำเป็นต้องใช้เงินเลี้ยงกองทัพอีกจำนวนมาก เจ้าเก็บเงินเอาไว้ใช้เถอะ!”จ้านเฉิงอิ้นปฏิเสธเย่มู่มู่ส่งของจำนวนมากมาให้แม้ว่าเขาจะไม่รู้ราคา แต่มันก็ต้องราคาสูงมากแน่นอน!“ข้าเองไม่ได้ขาดอะไร สิ่งที่ท่านเทพส่งมาให้ ดูแลได้ทุกด้านจริง ๆ”“เงินจำนวนนี้ล้วนเป็นความเต็มใจของเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งในด่านเจิ้งกวนมอบให้ ให้ข้าวสาร แป้งสาลีและน้ำมันกับพวกเขา พวกเขาก็ไม่ขาดทุนแล้ว!”เมื่อเห็นว่าจ้านเฉิงอิ้นมุ่งมั่นขนาดนั้น เย่มู่มู่ก็ได้แต่รับไว้“ก็ได้ งั้นข้าจะรับไว้!”เย่มู่มู่วางแจกันไว้กลางห้องรับแขกขนาดใหญ่ นั่งยอง ๆ อยู่กับพื้น สองมือเท้าคางรอคอย!หลังจากนั้นไม่กี

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 705

    หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 704

    “พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 703

    เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 702

    หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status