วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเกินไป เย่มู่มู่จึงอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ แต่เมื่อเธอเห็นจดหมายของจ้านเฉิงอิ้นเขาต้องการส่งเงินทองและเครื่องประดับมากมายมาให้เย่มู่มู่ก็เลยอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อยมีผู้หญิงคนไหนบ้างไม่ชอบเครื่องประดับสวย ๆ เย่มู่มู่เขียนจดหมายตอบกลับเขาว่า “จ่ายเงินไปเยอะก็จริง แต่เงินทองและเครื่องประดับที่เจ้าส่งมาก่อนหน้านี้ก็เยอะมาก ตอนนี้ข้าเลยไม่ขาดเงินเท่าไหร่!”“ถ้าด่านเจิ้งกวนฝ่าวงล้อมโจมตีได้สำเร็จ เจ้าจำเป็นต้องใช้เงินเลี้ยงกองทัพอีกจำนวนมาก เจ้าเก็บเงินเอาไว้ใช้เถอะ!”จ้านเฉิงอิ้นปฏิเสธเย่มู่มู่ส่งของจำนวนมากมาให้แม้ว่าเขาจะไม่รู้ราคา แต่มันก็ต้องราคาสูงมากแน่นอน!“ข้าเองไม่ได้ขาดอะไร สิ่งที่ท่านเทพส่งมาให้ ดูแลได้ทุกด้านจริง ๆ”“เงินจำนวนนี้ล้วนเป็นความเต็มใจของเหล่าพ่อค้ามั่งคั่งในด่านเจิ้งกวนมอบให้ ให้ข้าวสาร แป้งสาลีและน้ำมันกับพวกเขา พวกเขาก็ไม่ขาดทุนแล้ว!”เมื่อเห็นว่าจ้านเฉิงอิ้นมุ่งมั่นขนาดนั้น เย่มู่มู่ก็ได้แต่รับไว้“ก็ได้ งั้นข้าจะรับไว้!”เย่มู่มู่วางแจกันไว้กลางห้องรับแขกขนาดใหญ่ นั่งยอง ๆ อยู่กับพื้น สองมือเท้าคางรอคอย!หลังจากนั้นไม่กี
ช่วงเวลากลางคืน ไร้แสงจันทร์และลมแรงทหารสวมเสื้อเกราะกันกระสุน แบกหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ขี่อยู่บนหลังม้ากองทัพของพวกเขามีประมาณร้อยคนเห็นจะได้จ้านเฉิงอิ้นส่งพวกเขาออกไปด้วยตัวเอง กำชับพวกเขาว่าความปลอดภัยต้องมาก่อนหนึ่งร้อยคนแบ่งออกเป็นสองหน่วย หนึ่งหน่วยโจมตีค่ายพักแคว้นฉู่หน่วยหนึ่งโจมตีค่ายพักแคว้นฉีเชื้อเพลิงที่นำมาวันนี้คือน้ำมันดีเซลทุกคนลองใช้น้ำมันดีเซลเพื่อดูว่าจะสามารถเผาไหม้ได้มากแค่ไหนเมื่อมาถึงจุดที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ทุกคนลงจากหลังม้าพวกทหารพากันซุ่มอยู่ในทุ่งหญ้ารกร้าง มั่วฝานกำลังบังคับอากาศยานไร้คนขับอากาศยานไร้คนขับบินเข้าไปในค่ายของกองทัพแคว้นฉู่ เพื่อดูว่ามีทหารลาดตระเวนกี่คน และกระโจมแม่ทัพอยู่ตรงไหนตำแหน่งของรถกระทุ้งกำแพงเมือง หน้าไม้ราชวงศ์ฉินจะสามารถยิงไปถึงหรือไม่ทุกคนมารวมตัวกันข้างอากาศยานไร้คนขับของเขา หลังจากหารือกันสักพัก จึงตัดสินใจโจมตีค่ายพักก่อนหลังจากกองทัพแคว้นฉู่เกิดความโกลาหล ค่อยโจมตีไปที่รถกระทุ้งกำแพงเมืองรอจนถึงเวลาที่เหมาะสม...เฉินขุยสั่งการ “จุ่มน้ำมันดีเซล จุดไฟ หน้าไม้ราชวงศ์ฉินเตรียมพร้อม... ยิง!”ฟิ้ว~เสียง
ขณะที่จ้านเฉิงอิ้นกำลังคิดเรื่องอนาคตบรรยายถึงอนาคตอันยิ่งใหญ่และกิจการอันยิ่งใหญ่~ซ่งอวิ๋นฮุยพาผู้ช่วยแพทย์สองคนเข้ามาอย่างรีบร้อนสีหน้าของเขาดูกังวล วิ่งจนเหงื่อออกเต็มหัว!เพราะใจร้อนเกินไป เข็มขัดเสื้อผ้าจึงคลายออก แต่กลับไม่รู้ตัว!“ท่านแม่ทัพ แย่แล้ว! ในเมืองมีโรคระบาด”เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของจ้านเฉิงอิ้นก็เปลี่ยนไปมาก “เกิดอะไรขึ้น? ในเมืองเกิดโรคระบาดได้อย่างไร?”“ต้นตอของโรคระบาดมาจากไหนไม่รู้ เมื่อเช้ามีคนตายไปสามคนแล้ว แถมยังมีคนติดเชื้ออีกห้าสิบคน”“พวกเขามีไข้สูง ข้ามองไม่ออกเลยว่าเป็นโรคระบาดอะไร!”“ข้าแยกคนติดเชื้อออกไปแล้ว พวกเขาอยู่ในคฤหาสน์หลังหนึ่ง รวมทั้งหมดห้าสิบสามคนขอรับ”โรคระบาดมาเร็วและรุนแรง ผู้ตายมีไข้สูงเมื่อคืนนี้ กลางดึกก็หมดสติไม่ฟื้นขึ้นมาพอไปดูอีกเมื่อเช้านี้ คนก็ไม่หายใจแล้วซ่งอวิ๋นฮุยไม่เคยเห็นโรคระบาดที่รุนแรงขนาดนี้ในบันทึกมาก่อน ตำราแพทย์ที่ท่านเทพส่งมา ก็ไม่มีบันทึกไว้“ท่านแม่ทัพ ข้ามีลางสังหรณ์ว่าถ้าควบคุมโรคระบาดไม่ได้ มันจะแพร่ระบาดไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว”ซ่งอวิ๋นฮุยพูดอย่างเป็นกังวล “เมื่อถึงเวลานั้น พวกเราจะไม่อดต
เขาและซ่งอวิ๋นฮุยขี่ม้าไปที่ค่ายพักเขามองไปที่แจกัน เย่มู่มู่ไม่ได้ตอบจดหมายกลับมาเวลานี้ ดวงอาทิตย์เพิ่งจะขึ้น ตามวิธีพูดของท่านเทพ ยังไม่ถึงแปดโมง นางกำลังพักผ่อนอยู่โรคระบาดเป็นเรื่องที่เร่งรีบ รอไม่ได้แล้วเขาหาแท็บเลต ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ห้านาทีแล้วส่งกระดาษเหมือนกันไปด้วยบนกระดาษเขียนอาการของโรคระบาดร่างกายรู้สึกร้อนวูบวาบ เหมือนถูกไฟไหม้เหงื่อแตกจนทำให้เตียงเปียกได้ และเริ่มพูดเพ้อเจ้อสองชั่วยามต่อมา ชีพจรอ่อนแอลง ลมหายใจเริ่มติด ๆ ขัด ๆพอผ่านไปอีกหนึ่งหรือสองชั่วยาม ตอนที่พบ ก็หมดลมหายใจแล้วอุณหภูมิร่างกายของศพยังสูงมาก!*เย่มู่มู่ที่นอนหลับสนิทได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกเธอลุกขึ้นจากเตียง ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ ได้ยินเสียงแท็บเลตมือสองดังขึ้นใต้แจกันมีกระดาษสีขาวสองแผ่นตกอยู่ข้าง ๆกระดาษหนึ่งแผ่นถูกเขียนไว้เต็มหน้า ส่วนอีกแผ่นเขียนสองสามบรรทัด!เธอหยิบกระดาษขาวที่เขียนไว้ขึ้นมาลายมือสะเปะสะปะ ปากกาลูกลื่นเขียนเร็วและรีบร้อนหรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ด่านเจิ้นกวน?เธออ่านทั้งหมดแล้ว เหงื่อก็แตกพลั่กทันที!เกิดโรคระบาดในด้านเจิ้นกวน!โรคระบาด!
สถิติคร่าว ๆ ในตอนนี้ ผู้ติดเชื้อโรคระบาดมีประมาณพันคนคนพวกนี้ จะให้กักตัวก็คงสายไปแล้วบางทีจำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มเป็นหมื่นคน!ขณะที่จ้านเฉิงอิ้นกังวลกับโรคระบาด...ทหารที่คอยสังเกตการณ์กองทัพของแคว้นฉู่และแคว้นฉี ก็กลับมารายงานอย่างรวดเร็ว“รายงานท่านแม่ทัพ...มีการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ที่แคว้นฉู่และแคว้นฉีขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นไปดูภาพสังเกตการณ์ตอนนี้จากอากาศยานไร้คนขับเมื่อคืนนี้ถูกไฟไหม้หนักค่ายทหารของแคว้นฉู่ทรุดโทรมอย่างหนัก กระโจมจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านมีศพที่ถูกเผาจำนวนมากวางอยู่นอกค่ายพักกองทัพแคว้นฉู่ไม่ได้ฝังศพ แต่โยนศพไปข้าง ๆในเวลานี้ หลิงเซี่ยวเฟิงออกคำสั่งให้ทหารทุกคนรวมตัว สวมชุดเกราะ ถืออาวุธในมือ เตรียมพร้อมออกเดินทางพวกเขากำลังเตรียมโจมตีด่านเจิ้นกวนหรือ?จ้านเฉิงอิ้นมาที่กำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว เห็นธงมังกรดำของแคว้นฉีอยู่ไม่ไกลทหารแคว้นฉียืนเต็มพื้นที่ กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาทางกำแพงเมืองระหว่างฟ้าดิน สิ่งที่เห็นคือสีดำที่มืดมัว!เกี้ยวที่อยู่ตรงกลางถูกล้อมรอบด้วยกองทัพแคว้นฉี ฮ่องเต้ฉีซวนเหิงสวมชุดหรูหราสีเหลืองสดใส นั่งอยู่บนเกี้ย
“โรงหมอกองทัพไม่สามารถจัดการกับโรคระบาดนี้ได้ หมอประจำกองทัพหลายคนก็ไร้ความสามารถ!”หลี่หยวนจงถามว่า “ระเบิดล่ะ? จะมาถึงเมื่อไหร่?”ดวงตาของจ้านเฉิงอิ้นมืดมน ขณะที่กำลังมองไปที่กองทัพใต้กำแพงเมืองที่บุกมาประชิดกำแพงเขากล่าวว่า “ระเบิดจะมาถึงตอนค่ำ ส่วนหน้าไม้ราชวงศ์ฉินกับดาบม่อเตาจะมาช่วงบ่าย!”แต่ตอนนี้~เหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยามก่อนที่อาวุธจะส่งมาแต่ภายในไม่กี่ชั่วยามนี้ ส่วนใหญ่ในด่านเจิ้นกวนจะต้องร้อนระอุเถียนฉินและสวี่หมิงปิดปากปิดจมูก พยายามระงับอาการไอพวกเขาติดโรคระบาดแล้วเช่นนี้ แม่ทัพล่ะ...ใบหน้าของจ้านเฉิงอิ้นยังไม่ได้แปลกใจ!อย่างไรก็ตาม เถียนฉินและสวี่หมิงก็ไม่รอดเขาเองก็อาจจะติดเชื้อไปแล้วเฉินอู่มองไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยสายตากังวล “ท่านแม่ทัพ ร่างกายของท่าน...”เขาส่ายหัว “ไม่เป็นไร!”ปัญหาแรกตอนนี้คือการทำให้ศัตรูล่าถอยก่อนแม้ว่าหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและดาบม่อเตาจะถูกส่งมาตอนบ่ายในเวลานั้น มีคนติดเชื้ออยู่เท่าไหร่ มีกี่คนที่สามารถดึงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินได้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินต้องใช้กำลังทั้งหมดของร่างกาย เท้าต้องเหยียบที่สายธนูเพื่อยิงทหารที่เป็นไข้สู
ตอนนี้ ก็ดูแค่ว่าใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน!จวงเหลียงก็เห็นด้วยกับคำพูดของจ้านเฉิงอิ้น“ครั้งก่อนที่มาตีกำแพงเมือง ทั้งสองแคว้นล้วนพ่ายแพ้อย่างอนาถ ดังนั้น พวกเขาจะไม่เคลื่อนไหวอย่างหุนหันเป็นแน่”“นอกเสียจากจะมีความมั่นใจเต็มสิบส่วน มิเช่นนั้นไม่มีทางมาตีเมืองแน่!”“ตอนนี้ พวกเราได้แต่ภาวนา ให้ท่านเทพรีบส่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์มาเร็วไว หากเป็นเช่นนั้น อาจพอมีกำลังให้สู้ได้อีกครั้ง”ภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ มีเพียงใช้ระเบิด จึงจะสามารถทำให้ถอยทัพได้ดังนั้น แม้จะส่งหน้าไม้มาก็อาจไร้ประโยชน์ เพราะเหล่าทหารติดโรคระบาด ไม่อาจง้างสายธนูได้ทุกคนล้วนกลัดกลุ้มใจ ต่างคิดหาทุกวิธีเพื่อถ่วงเวลาทำศึก!ในเวลานี้ มีทหารชั้นผู้น้อยมารายงานอีกครั้ง“รายงานท่านแม่ทัพ กองทัพเผ่าหมานปรากฏตัวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ขอรับ!”ทัพเผ่าหมานเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?พวกเขาคิดว่า เผ่าหมานล้มเลิกความคิดเกี่ยวกับด้านเจิ้นกวนไปแล้ว เพราะฝ่ายนั้นสูญเสียทหารไปกว่าแสนนายและผู้นำทัพก็มิได้อยู่ประจำการมานานแล้ว…คิดไม่ถึงว่า พวกมันยังกล้าบุกมาอีก!จ้านเฉิงอิ้นรีบเดินไปที่กำแพงเมืองทางทิศตะวันตกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว
ดินแดนของแคว้นฉี่ จะถูกพวกเขาตัดแบ่งแว่นแคว้นที่คงอยู่ในประวัติศาสตร์มาหลายสิบปี จะไม่มีแม้แต่คุณสมบัติ ที่จะถูกบันทึกไว้ในพงศาวดารได้แต่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์อย่างไม่เป็นทางการเท่านั้นเมื่อคิดถูกจุดนี้ น้ำตาของเฉินอู่ก็ไหลออกมาอย่างไม่อาจควบคุม“ข้าทำใจไม่ได้จริง! ทั้งที่พวกเรารบชนะตั้งหลายรอบขนาดนั้น แถมพวกเรายังเคยรบชนะแคว้นฉู่แคว้นฉี ทั้งสองแคว้นอีก… ”“ตอนนี้ทั้งเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และรถไถนาก็มีหมดแล้ว” “รอหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไป ผ่านไปไม่กี่เดือนก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว กำลังจะมีชีวิตที่ดีแล้วแท้ ๆ!”จ้านเฉิงอิ้นตบไหล่ของเขา “ใครบอกว่า พวกเราจะแพ้กันล่ะ?”“ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้าย ผู้ใดจะชนะ ผู้ใดจะพ่าย ก็ยังไม่แน่”ทุกคนพากันเงยหน้า มองไปทางแม่ทัพด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังพวกเขาสามารถชนะได้หรือ?มีความหวังที่จะรอดชีวิตต่อไปหรือ?ท่านเทพจะช่วยพวกเขาอีกครั้ง?ในขณะที่จ้านเฉิงอิ้นคิดจะอธิบาย…ลูกน้องของเหอหงก็เข้ารายงาน“รายงานท่านแม่ทัพ ผู้ติดเชื้อห้าพันคนภายในเมือง ได้ถูกแยกกักตัวแล้วขอรับ!”เหอหงถามเขาว่า “จำนวนผู้เสียชีวิตล่ะ?”“ตอนนี้ยังไม่มีขอรับ แต่ในผ
แม่ทัพที่ชื่อสวีจือ พูดขึ้นด้วยเสียงสะอื้น เบ้าตาแดงก่ำ “แม่ทัพเฉิน ข้านำอาหารกลับไปให้ภรรยาได้หรือไม่? นางแต่งงานกับข้ามา ไม่เคยมีวันไหนได้อยู่ดีมีสุขเลย เมื่อคืนยังตกใจจนสลบไปอีก!”“นางเกือบถูกพวกเผ่าหมานฆ่า ถ้าไม่ใช่เพราะคนรับใช้เข้ามาขวางดาบ เกรงว่าคงต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาแล้ว!”เฉินขุยได้ยินดังนั้นก็ด่าสวีหวย “เจ้าแก่นี่! ครั้งก่อนที่ข้าไปถึงค่าย ข้าน่าจะแทงเขาให้ตายตั้งแต่ตอนนั้น จะได้ไม่ต้องมีคนต้องตายมากมายแบบนี้”“พวกเจ้าอยากนำอาหารกลับไปให้ครอบครัว ก็เอาไปเถิด!”“ถ้าไม่พอ บอกให้พ่อครัวทำเพิ่มได้เลย!”เหล่าผู้บังคับบัญชาหลายคนถึงกับน้ำตาคลอเบ้าในทันที ตั้งท่าจะคุกเข่าลงขอบคุณแต่เฉินขุยรีบยื่นมือมาประคองไว้พวกเขาใช้แขนเสื้อปาดน้ำตา ก่อนจะพูดด้วยเสียงสะอื้นว่า “ขอบคุณท่านแม่ทัพเฉินเป็นอย่างมาก!”เฉินขุยโบกมือ “ต่อไปวันดี ๆ แบบนี้จะมีให้มาก!”เขาไม่รบกวนการกินอาหารของพวกเขา เมื่อเขาเดินออกจากกระโจมเฉิงจื่อเซียวก็ตามเขาออกมาด้วย“ท่านน้าเขย...”เฉินขุยมองเจ้าเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นักหลานสาวของเขาต้องทนลำบากมากมายเพราะเขา แถมลูกน้อยร่างกายก็อ่อน
เหล่าสตรีอาบน้ำอยู่ต้นน้ำ บุรุษอาบน้ำอยู่ปลายน้ำ ห่างกันสองลี้ฮูหยินเฉินยังส่งคนนำผ้าเช็ดตัวและสบู่อาบน้ำมาให้พวกเขาบรรดาหญิงสาวต่างประหลาดใจเมื่อพบว่า สบู่ก้อนหนึ่งเหมือนกับไขมันหยก สามารถถูจนเกิดฟองและล้างคราบสกปรกออกจากร่างกายได้อย่างหมดจดแถมยังทิ้งกลิ่นหอมจาง ๆ ไว้อีกด้วยพวกผู้ชายก็ได้พบเช่นกัน เมื่อถูสบู่ให้เกิดฟองตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างกายของพวกเขาก็สะอาดหมดจดหลังจากที่ทุกคนอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้ว โจ๊กที่เตรียมไว้สำหรับหนึ่งแสนคนก็พร้อมพอดีเพื่อป้องกันกระเพาะอาหารที่ยังอ่อนแอของพวกเขา ในโจ๊กจึงใส่เพียงไข่ไก่และเกลือเล็กน้อยเท่านั้นคนหนึ่งแสนคนที่หิวโหยมากว่าหนึ่งปี เมื่อได้ประคองถ้วยข้าวต้มร้อน ๆ ไว้ในมือ หลายคนถึงกับน้ำตาคลอเด็กน้อยคนหนึ่งที่ประคองโจ๊กข้าวขาวอยู่ในมือ ร้องไห้พูดกับสตรีว่า “ท่านแม่ นี่คือโจ๊กข้าวขาว หากท่านพ่ออยู่ได้นานอีกสักสองสามเดือน ท่านก็คงจะได้กินโจ๊กนี้ด้วย!”หญิงสาวประคองโจ๊กข้าวขาว ร้องไห้ออกมาทันที!หากพ่อของลูกในตอนนั้นยอมเป็นทหารหนีทัพหนีมาที่ด่านเจิ้นกวน...ก็คงจะมีชีวิตรอดส่วนเหล่าทหารผ่านศึกบางคนก็ลอบปาดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ
“นับตั้งแต่วันที่เจ้าตกลงร่วมมือกับฉีซวนเหิง เจ้าก็กลายเป็นคนตายสำหรับข้าไปแล้ว!”“ตอนนี้ข้าจะพูดเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ใครอยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน คืนนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเจ้า”“ผู้ที่ปฏิเสธ สังหารให้หมด!”ตูม~เมื่อเสียงจบลง ทหารใต้บัญชาของสวีหวยทั้งหมดรีบเข้าไปในกระโจมเพื่อเก็บสัมภาระอย่างรวดเร็วส่วนคนใต้อาณัติของหลี่หู่ที่ถือดาบ จะเข้าเมืองก็ไม่ได้ จะอยู่ต่อก็ไม่เหมาะเฉิงจื่อเซียวถลึงตาใส่พวกเขา “ยังไม่รีบไปอีก รอให้ถูกยิงตายหรือไง?"พวกเขาถึงได้สติกลับมา แม้แต่ของก็ยังไม่ทันเก็บ รีบตามกองทัพส่วนใหญ่เข้าไปในเมือง*หนึ่งแสนชีวิต~ทหารใต้บัญชาของสวีหวยทั้งหมดเคลื่อนพลเข้าสู่ด่านเจิ้นกวนขบวนทัพอันยิ่งใหญ่และคึกคักเดินผ่านประตูเมืองไปอย่างต่อเนื่อง พวกเขามองถนนในเมืองที่กว้างขวางและเรียบเนียนใต้ฝ่าเท้าด้วยความประหลาดใจ พื้นทางเดินปูด้วยปูนซีเมนต์อย่างเรียบเนียนสองฝั่งของถนนเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่ถูกทาด้วยสีขาวสดใหม่ ภายใต้แสงไฟในยามค่ำคืนดูโดดเด่นสะดุดตาสิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจที่สุดคือ เสาไฟริมถนน...มันไม่ใช่โคมไฟที่ต้องจุดด้วยน้ำมัน แต่กลับเป็นไฟพลั
หญิงสาวตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว นางกอดลูกไว้ในอ้อมอก ดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตา จ้องมองคมดาบที่ยกสูง! ฟิ้ว ลูกธนูพุ่งทะลุหน้าอกของทหารที่ชูดาบ ร่างของเขาทรุดลงในทันที เฉินอู่ถือลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมือง พร้อมตวาดด้วยเสียงเกรี้ยวกราด “ข้าเคยสังหารกองทัพศัตรูมาแล้วห้าแสนคน! กล้าลงมือหน้าประตูเมืองของข้า พวกเจ้าคิดว่าชีวิตตัวเองยืนยาวนักหรือไง?” “ทุกคนวางอาวุธลงให้หมด หากกล้าทำร้ายสตรีและเด็ก ข้าจะสังหารโดยไม่ละเว้น...!” บนกำแพงเมืองตะวันตก พลธนูยืนเรียงเป็นแถวดึงธนูเล็งเป้าที่ประตูเมืองตะวันตก กองทัพตระกูลจ้านยกดาบม่อเตาขึ้นทหารใต้บัญชาของสวีหวย ต่างชักอาวุธทองสัมฤทธิ์ออกมา หมายจะขัดขวางครอบครัวทหารที่พยายามหนีไปพึ่งพาด่านเจิ้นกวนบรรยากาศทั้งสองฝ่ายเริ่มตึงเครียด ดาบและธนูถูกเตรียมพร้อมจะปะทะกัน สวีหวยถูกหามขึ้นเปล มือกุมหน้าอก พลางเอ่ยสั่งหลี่หู่ด้วยน้ำเสียงยากลำบาก “อย่า...อย่าให้ผู้ใด ออกจากค่ายไปได้!” “ผู้ใดฝ่าฝืน สังหารทันที!” สิ้นคำสั่งของเขา เฉิงจื่อเซียวพาทหารที่สูญเสียภรรยาและลูกจากการสังหารหมู่ของกองทัพเผ่าหมานเมื่อคืน รวมถึงหัวหน้าทหาร เดินออ
“ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ
จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็
*หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข
*จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม