แชร์

บทที่ 150

ผู้เขียน: มู่โร่ว
“โรงหมอกองทัพไม่สามารถจัดการกับโรคระบาดนี้ได้ หมอประจำกองทัพหลายคนก็ไร้ความสามารถ!”

หลี่หยวนจงถามว่า “ระเบิดล่ะ? จะมาถึงเมื่อไหร่?”

ดวงตาของจ้านเฉิงอิ้นมืดมน ขณะที่กำลังมองไปที่กองทัพใต้กำแพงเมืองที่บุกมาประชิดกำแพง

เขากล่าวว่า “ระเบิดจะมาถึงตอนค่ำ ส่วนหน้าไม้ราชวงศ์ฉินกับดาบม่อเตาจะมาช่วงบ่าย!”

แต่ตอนนี้~

เหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยามก่อนที่อาวุธจะส่งมา

แต่ภายในไม่กี่ชั่วยามนี้ ส่วนใหญ่ในด่านเจิ้นกวนจะต้องร้อนระอุ

เถียนฉินและสวี่หมิงปิดปากปิดจมูก พยายามระงับอาการไอ

พวกเขาติดโรคระบาดแล้ว

เช่นนี้ แม่ทัพล่ะ...

ใบหน้าของจ้านเฉิงอิ้นยังไม่ได้แปลกใจ!

อย่างไรก็ตาม เถียนฉินและสวี่หมิงก็ไม่รอด

เขาเองก็อาจจะติดเชื้อไปแล้ว

เฉินอู่มองไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยสายตากังวล “ท่านแม่ทัพ ร่างกายของท่าน...”

เขาส่ายหัว “ไม่เป็นไร!”

ปัญหาแรกตอนนี้คือการทำให้ศัตรูล่าถอยก่อน

แม้ว่าหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและดาบม่อเตาจะถูกส่งมาตอนบ่าย

ในเวลานั้น มีคนติดเชื้ออยู่เท่าไหร่ มีกี่คนที่สามารถดึงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินได้

หน้าไม้ราชวงศ์ฉินต้องใช้กำลังทั้งหมดของร่างกาย เท้าต้องเหยียบที่สายธนูเพื่อยิง

ทหารที่เป็นไข้สู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Surirat Yui Chompoo Kampi
เริ่มแล้วสินะะ! ฉู่ฉีสองแคว้นต้องร่วงบ้างแล้ว มู่มู่เธอก็รีบหน่อยนะ สงสารท่านแม่ทัพและเหล่าทหารกับชาวบ้านมากๆเลย ขอบคุณไรท์มากๆเลยนะคะที่ลงให้ได้อ่าน อย่าลืมอัพเดตเรื่อยๆนะคะ แล้วก็...ไรท์อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกาย ทานข้าวและพักผ่อนบ้างนะคะ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 151

    ตอนนี้ ก็ดูแค่ว่าใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน!จวงเหลียงก็เห็นด้วยกับคำพูดของจ้านเฉิงอิ้น“ครั้งก่อนที่มาตีกำแพงเมือง ทั้งสองแคว้นล้วนพ่ายแพ้อย่างอนาถ ดังนั้น พวกเขาจะไม่เคลื่อนไหวอย่างหุนหันเป็นแน่”“นอกเสียจากจะมีความมั่นใจเต็มสิบส่วน มิเช่นนั้นไม่มีทางมาตีเมืองแน่!”“ตอนนี้ พวกเราได้แต่ภาวนา ให้ท่านเทพรีบส่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์มาเร็วไว หากเป็นเช่นนั้น อาจพอมีกำลังให้สู้ได้อีกครั้ง”ภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ มีเพียงใช้ระเบิด จึงจะสามารถทำให้ถอยทัพได้ดังนั้น แม้จะส่งหน้าไม้มาก็อาจไร้ประโยชน์ เพราะเหล่าทหารติดโรคระบาด ไม่อาจง้างสายธนูได้ทุกคนล้วนกลัดกลุ้มใจ ต่างคิดหาทุกวิธีเพื่อถ่วงเวลาทำศึก!ในเวลานี้ มีทหารชั้นผู้น้อยมารายงานอีกครั้ง“รายงานท่านแม่ทัพ กองทัพเผ่าหมานปรากฏตัวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ขอรับ!”ทัพเผ่าหมานเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?พวกเขาคิดว่า เผ่าหมานล้มเลิกความคิดเกี่ยวกับด้านเจิ้นกวนไปแล้ว เพราะฝ่ายนั้นสูญเสียทหารไปกว่าแสนนายและผู้นำทัพก็มิได้อยู่ประจำการมานานแล้ว…คิดไม่ถึงว่า พวกมันยังกล้าบุกมาอีก!จ้านเฉิงอิ้นรีบเดินไปที่กำแพงเมืองทางทิศตะวันตกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 152

    ดินแดนของแคว้นฉี่ จะถูกพวกเขาตัดแบ่งแว่นแคว้นที่คงอยู่ในประวัติศาสตร์มาหลายสิบปี จะไม่มีแม้แต่คุณสมบัติ ที่จะถูกบันทึกไว้ในพงศาวดารได้แต่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์อย่างไม่เป็นทางการเท่านั้นเมื่อคิดถูกจุดนี้ น้ำตาของเฉินอู่ก็ไหลออกมาอย่างไม่อาจควบคุม“ข้าทำใจไม่ได้จริง! ทั้งที่พวกเรารบชนะตั้งหลายรอบขนาดนั้น แถมพวกเรายังเคยรบชนะแคว้นฉู่แคว้นฉี ทั้งสองแคว้นอีก… ”“ตอนนี้ทั้งเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และรถไถนาก็มีหมดแล้ว” “รอหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไป ผ่านไปไม่กี่เดือนก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว กำลังจะมีชีวิตที่ดีแล้วแท้ ๆ!”จ้านเฉิงอิ้นตบไหล่ของเขา “ใครบอกว่า พวกเราจะแพ้กันล่ะ?”“ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้าย ผู้ใดจะชนะ ผู้ใดจะพ่าย ก็ยังไม่แน่”ทุกคนพากันเงยหน้า มองไปทางแม่ทัพด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังพวกเขาสามารถชนะได้หรือ?มีความหวังที่จะรอดชีวิตต่อไปหรือ?ท่านเทพจะช่วยพวกเขาอีกครั้ง?ในขณะที่จ้านเฉิงอิ้นคิดจะอธิบาย…ลูกน้องของเหอหงก็เข้ารายงาน“รายงานท่านแม่ทัพ ผู้ติดเชื้อห้าพันคนภายในเมือง ได้ถูกแยกกักตัวแล้วขอรับ!”เหอหงถามเขาว่า “จำนวนผู้เสียชีวิตล่ะ?”“ตอนนี้ยังไม่มีขอรับ แต่ในผ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 153

    เมื่อเหล่าทหารได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวดังออกมาจากห้องโถงหารือ ก็รู้ในทันทีว่า!ท่านเทพได้ส่งสิ่งของมาให้อีกแล้ว!เป็นอาวุธมาถึงแล้วหรือ?หรือเป็นยาที่สามารถรักษาโรคระบาดได้?เหล่าบุรุษชาติอาชาไนย ต่างพากันแอบปาดน้ำตาที่หางตาจนแห้ง จากนั้นก็พุ่งไปที่ห้องโถงหารือทุกคนเห็นว่า ในโถงหารือเต็มไปด้วยกล่องกระดาษหลายร้อยใบมีทั้งยาแผนจีน แผนตะวันตก หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันเชื้อ และน้ำยาฆ่าเชื้อ…เป็นยาจริงๆ!เมื่อยาชุดนี้มาถึง ก็แปลว่าโรคระบาดมีทางรักษาแล้วใช่หรือไม่?ทุกคนต่างร้องไห้ด้วยความดีใจ!ในสถานการณ์ที่สามทัพบุกประชิดกำแพงเมือง และภายในเมืองก็เกิดโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วท่านเทพมิได้ทอดทิ้งพวกเขา!ยาชุดนี้ มาได้ทันเวลายิ่งนัก!หากช้ากว่านี้ไปไม่อีกกี่ชั่วยาม คนกว่าครึ่งเมืองคงติดโรค และเกิดการล้มตายเป็นร้อยเป็นพันเมื่อถึงเวลานั้น ด่านเจิ้นกวน ก็จะเปลี่ยนจากเมืองที่เต็มไปด้วยความหวังไปเป็นอเวจีในแดนมนุษย์แล้วหลายคนพากันหันไปทางท้องฟ้า คุกเข่าลงโขกศีรษะจากส่วนลึกของจิตใจให้ท่านเทพ“ขอบพระคุณท่านเทพ ที่ช่วยประชาชนในด่านเจิ้นกวนอีกครั้ง”“เหล่าทหาร ขอกราบขอบพระคุณท่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 154  

    เด็กรับใช้แพทย์รีบเก็บไปทันทีมือของซ่งอวิ๋นฮุยลูบหน้าผากของเด็กรับใช้แพทย์ เขาก็กำลังเป็นไข้เช่นกัน ทว่าเด็กตัวน้อยกลับมิได้ร่ำร้องแสดงความเจ็บปวดออกมาเขาหยิบน้ำจากโต๊ะขวดหนึ่งยัดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาด้วยความสงสาร“เจ้าเองก็จงกินลงไปครึ่งเม็ดเถิด ดื่มร่วมกับน้ำ เด็กดี รีบไปเร็วเข้า!”เด็กรับใช้แพทย์รับคำอย่างเชื่อฟัง “ขอรับ ท่านอาจารย์”หลังเด็กรับใช้แพทย์จากไปแล้ว ซ่งอวิ๋นฮุยก็มิได้อยู่เฉยเขาจัดลังยาร่วมกับทหารอีกหลายนายในตอนที่ซ่งอวิ๋นฮุยเห็นชุดป้องกัน หน้ากากอนามัย และถุงมือ…น้ำยาฆ่าเชื้อเป็นถัง ๆ และถังพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อขนาดใหญ่เขาก็ดีใจราวกับคลุ้มคลั่ง รีบพูดกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านเทพกล่าวถูกแล้ว ต่อให้ไม่มีโกฐจุฬา ก็ต้องฆ่าเชื้อทั่วทั้งเมืองสักรอบ”ในด่านเจิ้นกวนมีคนติดเชื้อกว่าห้าพันคน คนอื่น ๆ จึงมีโอกาสที่จะติดโรคเช่นเดียวกันแต่หากทำการฆ่าเชื้อให้สะอาด โอกาสเสี่ยงที่จะติดโรคก็จะลดลงมากจ้านเฉิงอิ้นมอบเรื่องนี้ให้เหอหงจัดการภายใต้การบังคับบัญชาของเขามีคนกว่าสองพันคน รับผิดชอบเรื่องโรคระบาดโดยเฉพาะม้าในคอกม้า และรถสามล้ออีกสิบคัน ล้วนมอบสิทธิ์ให้เขาใช้ได

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 155

    ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งกระบวนทัพอย่างพรักพร้อมสำหรับโจมตี ทว่า ต่างฝ่ายต่างรักษาท่าทีไม่มีความคืบหน้า เมื่อเวลาผ่านไป เหล่าทหารที่ทำหน้าที่รักษากำแพงเมือง ค่อย ๆ มีสีหน้าแดงก่ำและไอออกมา บางคนก็เริ่มมีไข้สูง จากเดิมที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองอย่างมั่นคง สุดท้ายไม่ทันระวัง ก็ร่วงตกลงมาจากกำแพงเมือง ตกลงมาตายต่อหน้าทุกคน ภายใต้การเผชิญหน้าของสองทัพ เมื่อเฉินขุยเห็นเช่นนั้น ก็บันดาลโทสะขึ้นมา“ไม่รู้จักยืนถอยไปหน่อยหรือไง? เฝ้ากำแพงเมืองมานานเพียงนี้แล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เห็นคนตกลงมาตาย”ทหารหลายนาย ตกใจจนรีบวางหอกในมือลง คุกเข่าลงให้เขา“ท่านแม่ทัพ ข้าเป็นไข้สูงแล้วขอรับ รู้สึกทรมานยิ่งนัก ยิ่งเมื่อถูกแสงอาทิตย์ร้อนแรงแผดเผา ยิ่งรู้สึกว่าใกล้จะทนไม่ไหวแล้วขอรับ”“ท่านแม่ทัพ ข้าน้อย ข้าน้อยรู้สึกว่าหายใจลำบาก ปวดหัวจนจะเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วขอรับ…”เฉินขุยยังคิดจะบันดาลโทสะต่อไปอีกทว่า เฉินอู่กลับส่ายหน้าให้เขาเฉินอู่กล่าวว่า “ผู้ที่เป็นไข้ ให้ถอยลงไป ไปรับยาที่รองแม่ทัพเหอหง แล้วแยกไปกักตัวซะ”“ส่วนผู้ที่ไม่ได้เป็นไข้ จงรีบเข้าประจำการแทนเสีย!”นายทหารที่มีอาการตัวร้อน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 156

    โดยเฉพาะบุตรชายทั้งสองคนของเขา สีหน้ายินดียากจะอธิบายออกมา ราวด่านเจิ้นกวนเป็นสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าของพวกเขา ที่สามารถได้มาครอบครองโดยไม่ต้องลงแรงกระนั้นฉีซวนเหิงเย้ยหยันว่า “ช่างเป็นคนชั่วลำพองจริง ๆ ข้าสงสัยเหลือเกินว่า ที่หลิงเซี่ยวเฟิงชนะศึกติดต่อกันมาสามสิบกว่าครั้ง คิดใช่ได้มาเพราะวิธีการแพร่โรคระบาดทั้งหมดหรอกนะ!”เยว่หงก็รู้สึกดูแคลนเช่นกันแม้วิธีการของทัพต้าฉี่จะสกปรกจริง ๆ เริ่มจากขโมยม้าก่อน จากนั้นก็เป็นการวางเพลิงทว่า คนเขาเคลื่อนไหวในยามวิกาลอย่างตรงไปตรงมา มิได้ใช้เล่ห์อุบายเช่นการวางยาพิษเป็นพวกเขาที่ป้องกันไว้ไม่ได้เองแคว้นฉีถูกขโมยม้าไปสามพันตัว ส่วนแคว้นฉู่ถูกขโมยไปห้าพันตัวแคว้นฉีถูกเผากระโจมไปร้อยกว่าหลัง แคว้นฉู่ถูกเผาไปสามร้อยกระโจม เผาตายไปสองพันกว่าคนเป็นเพราะแคว้นฉีค้นพบได้เร็ว และก็มิได้ไล่ตามคนวางเพลิงไปอย่างหน้ามืดตามัว จึงแทบไม่มีผู้เสียชีวิตทัพฉู่ดูเหมือนจะมีวินัยทหารเข้มงวด เปี่ยมประสบการณ์ชาญศึก ชนะการรบมากครั้งทว่าเยว่หงคิดว่า ผลงานการรบที่ชนะติดต่อกันเพราะอาศัยการวางยาพิษนั้น ช่างปลอมยิ่งนักฉีซวนเหิงพูดขี้นอีกว่า “ข้าได้ยินมาอีก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 157

    ฉีซวนเหิงเก็บท่าทางล้อเล่นไม่จริงจัง กำชับเยว่หงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า“หากถูกกองทัพฉู่ได้ตัวไปก่อน ก็จงฆ่าปิดปากจ้านเฉิงอิ้นเสีย” “หรือหากกองทัพฉู่ถามถึงเรื่องเทพเจ้า หรือของวิเศษใดขึ้นมา ก็จงสังหารเขาเสีย ณ เพลานั้นเลย!”ดวงตาของเขาเยียบเย็นแข็งกร้าว ผสานจิตสังหารอยู่ภายใน ขณะมองดูหลิงเซี่ยวเฟิงที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำกองทัพแห่งแคว้นฉู่ และบุตรชายผู้โง่เขลาทั้งสองของเขาหากแคว้นฉีไม่อาจได้ของวิเศษมา ก็ย่อมไม่อาจให้แคว้นฉู่ได้ไป!เขายอมที่จะทำลายมันทิ้ง แต่จะไม่ยอมให้แคว้นฉู่ได้พัฒนากำลัง!เยว่หงคุกเข่าลงครึ่งหนึ่งแล้วก้มศีรษะลง มือซ้ายวางทาบอยู่บนหน้าอกด้านขวา นางค้อมศีรษะลงด้วยความเคารพอย่างจริงใจ“หม่อมฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพคะ”“อื้ม จ้านเฉิงอิ้นติดโรคระบาด จากนี้ไม่กี่ชั่วยามจะไข้ขึ้นสูงจนตาย ก่อนเขาตาย สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องหาตัวเทพเจ้าออกมาให้ได้”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”เมื่อเยว่หงถอยออกมา ก็เรียกผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจได้ไปดำเนินการแล้วเรียกตัวหน่วยลอบสังหารมาห้าสิบคนพวกเขาไม่จำเป็นต้องตีเมือง เพียงต้องจับตามองหลิงเซี่ยวเฟิง หลิงอวิ๋นเจ๋อ และหลิงซื่อเฉินไว้ให

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 158  

    พบว่าอุณหภูมิกลับต่ำกว่ามือของเขาเสียอีก ศิษย์น้อยหายไข้แล้วจริง ๆ!“ศิษย์ข้า เจ้ากินยาแล้วหรือ?”เด็กรับใช้แพทย์ตัวน้อยหยิบไอบูโพรเฟนครึ่งเม็ดออกมา โบกไปมาที่เบื้องหน้าของซ่งอวิ๋นฮุย“ท่านอาจารย์ หลังจากที่ข้ากินยาเม็ดนี้ลงไป แล้วงีบหลับไปในห้องของบรรดาน้องชายและน้องสาวครู่หนึ่ง พอตื่นมาก็ไม่ปวดหัวแล้วขอรับ”“ใช่แล้วขอรับ พวกเขาก็กินยาชนิดเดียวกับข้า เวลานี้ พวกเขาสามารถดื่มน้ำและกินโจ๊กใสได้เล็กน้อยแล้ว เมื่อครู่ท่านหมอหลินก็ไปดูแล้วขอรับ!"ศิษย์น้อยบรรยายอย่างออกรส แสดงสีหน้าท่าทางนั้นถูกแสดงออกมาอย่างเกินจริง“ท่านหมอหลินถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นเลยขอรับ ตะโกนว่าสวรรค์ทรงเมตตา ในที่สุดโรคระบาดในด่านเจิ้นกวนของพวกเราก็มีทางช่วยแล้วขอรับ!"ขาของเฉินขุยที่ก้าวออกไป ถูกชักกลับมาในทันที เขาหันมาถามเด็กรับใช้แพทย์ตัวน้อยว่า“ยานี้ ได้ผลขนาดนี้เชียวหรือ?”เด็กรับใช้แพทย์พยักหน้าหงึกหงึก “เป็นเรื่องจริงขอรับ ท่านแม่ทัพ”เฉินขุยพึมพำกับตนเอง “มีทางรอดแล้ว ด่านเจิ้นกวนมีทางรอดแล้ว!”“ล้วนเป็นเพราะท่านเทพ…มิเช่นนั้น ภายนอกมีทัพใหญ่ประชิดเข้ามา ภายในก็มีโรคระบาดแพร่ไปทั่ว ด่านเจิ้นกว

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 400

    ไม่ หากให้พูดอย่างชัดเจนเลยก็คือ แจกันส่งคนได้แล้วจ้านเฉิงอิ้นดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังหายใจเพียงแพล็บเดียวเท่านั้น เขาก็กลับมาไม่วางใจอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามั่วฝานถูกส่งไปยังโลกของท่านเทพจริง ๆ หรือเปล่าเขาฟังเสียงที่แว่วมาจากแจกันอย่างตั้งใจเป็นอย่างที่คิด เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกแหลมจี๊ดคุยโวโอ้อวดของมั่วฝาน“ข้า ข้าถูกส่งมาที่ใด? เทพยดาปีศาจทุกองค์ฟังนะ ข้าเป็นหลานชายของขุนนางชั้นสูงที่สืบทอดตระกูลมั่วแห่งแคว้นต้าฉี่...”ทันใดนั้น มั่วฝานก็เปลี่ยนคำพูด ราวกับพบบุคคลที่น่าอัศจรรย์อะไรเข้า“เอ๊ะ ท่าน ท่านหน้าตาละม้ายคล้ายรูปปั้นเสมือนในวัดเลยนี่!”ทันใดนั้นมั่วฝานก็ตะโกนเรียกด้วยความดีใจปนความตกตะลึง“ท่าน...ท่านเทพ ท่านคือท่านเทพจริง ๆ ด้วย...”ครั้นได้ยินถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นก็วางใจอย่างสมบูรณ์มั่วฝานกับหน่วยกล้าตายของเขา ไม่ได้ถูกส่งตัวไปผิดโลก ทว่าถูกส่งไปข้างกายท่านเทพแม้มั่วฝานจะมีหลายครั้งที่เชื่อถือไม่ได้ ทว่าก็ปกป้องท่านเทพได้แน่มิหนำซ้ำหน่วยกล้าตายข้างกายเขา เป็นยอดฝีมือที่ผ่านการเลือกหลายชั้น และเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานเพีบงแต่ จ้านเฉิงอิ้นโทษที่ตัวเองได้รับบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 399

    หลังจ้านเฉิงอิ้นหมดสติไปอีกครั้ง มั่วฝาน จวงเหลียงและบรรดาทหารผ่านศึกที่ป่วยวุ่นวายอลหม่านไปหมดในวินาทีสำคัญ กลับหาตัวซ่งอวิ๋นฮุยไม่เจอทุกคนย้ายตัวจ้านเฉิงอิ้นออกมาจากถนนลูกรัง แล้วนำเขาไปวางไว้บนพื้นเรียบในบรรดาผู้บัญชาการของทัพแคว้นเยี่ยนของเซี่ยเวย มีทหารผ่านศึกนายหนึ่งชำนาญศาสตร์การแพทย์ เป็นหมอประจำกองทัพที่ติดตามทัพเขาพกเข็มสำหรับการฝังเข็มและครอบแก้ว ผ้าพันแปล และสมุนไพรบางส่วนติดตัวมาด้วย...เขาจับชีพจรจ้านเฉิงอิ้นก่อน จากนั้นก็เป็นอันต้องขมวดคิ้วตามมามั่วฝานกับจวงเหลียงจ้องเขาตาไม่กะพริบ พร้อมเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ “เป็นอย่างไรบ้าง?”ทหารผ่านศึกตอบ “ยังทันขอรับ ปกติร่างกายของท่านแม่ทัพก็ดีอยู่แล้ว ยังช่วยชีวิตได้!”ทั้งสองคนถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่ง!หมอประจำกองทัพจุดตะบันไฟ เผาเข็มรอบหนึ่ง จากนั้นก็ทิ่มเข้าไปในจุดฝังเข็มบนร่างจ้านเฉิงอิ้น เพื่อห้ามไม่ให้เลือดออกตรงมุมปากของจ้านเฉิงอิ้นไม่มีเลือดออกมาอีกตรงบาดแผลใช้เหล้ามาฆ่าเชื้อ ก่อนจะพันด้วยผ้าพันแผลสุดท้ายก็ยัดยาลูกกลอนเม็ดเล็ก ๆ สีดำเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากของจ้านเฉิงอิ้น...หลังทำทุกอย่างเสร็จ ก็จับชีพ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 398

    เขาไม่อยากเสียโอกาสนี้ไปแต่งงานกับเย่มู่มู่เป็นวิธีแก้สถานการณ์เพียงวิธีเดียวก่อนมาที่นี่ เขาเคยคิดว่าเย่มู่มู่เป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดาไม่ได้สะดุดตาอะไรหรืออาจเป็นผู้หญิงที่ชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น และคลั่งไคล้เขาตั้งแต่เด็กเขาเคยเห็นผู้หญิงพรรค์นี้มามากมายหากเป็นแบบนี้จริง ๆ ก็จัดการง่ายแล้วเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า เย่มู่มู่จะสวยและมีความคิดเป็นของตัวเองขนาดนี้สิ่งที่ทำให้เขายากจะรับได้ก็คือ เย่มู่มู่ไม่ชอบเขาใช่แล้ว เขาจะบอกว่าชอบเย่มู่มู่ตั้งแต่แรกพบไม่ได้ทว่าครั้งแรกที่เห็นก็ตกตะลึงในตัวเธอ และมีความรู้สึกดี ๆ เลยเขาไม่สามารถรับได้ว่าเย่มู่มู่กลับไม่ชอบเขาหากไม่ชอบเขา แล้วลู่ซื่อกรุ๊ปจะแก้สถานการณ์อย่างไรเขาขยันขนาดนี้มาตั้งแต่เด็ก แข่งขันกับพี่ใหญ่มาสารพัดอย่าง ยังไม่ทันถึงนาทีสุดท้าย หรือว่าจะต้องยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?ไม่ เขาจะไม่ยอมแพ้เป็นอันขาดเย่มู่มู่ไม่มีทางไม่ชอบเขา!เห็นใบหน้าของลู่ฉีหยางคล้ำดำหมองไปหมด แล้วเข้ามาใกล้เธอ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆเย่มู่มู่กอดแจกันขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว หลับอยู่ในซอกห้องรับแขก“นี่ นี่พวกคุณกำล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 397

    “ขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันรับเอาไว้ไม่ได้...”เย่มู่มู่ปฏิเสธลู่ฉีหยางอย่างมีเหตุผลเต็มประดาครั้นลู่ฉีหยางได้ยินประโยคนี้ นิสัยเดิมก็เผยออกมาเขาสะบัดดอกไม้ไปบนพื้นอย่างแรงในทันใด กลีบดอกไม้ร่วงอยู่เต็มพรมและพื้นท่าทีสดใสงดงามในทีแรก สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเป็นขึงขังอย่างไร้ที่เปรียบ “เธอปฏิเสธฉันเหรอ?”เขากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบน่าขนลุกเย่มู่มู่หลบไปข้าง ๆ เธอกลัวลู่ฉีหยางเล็กน้อยคนคนนี้เปลี่ยนสีหน้าเร็วกว่าเปิดหน้าหนังสือเสียอีกหลังจากนั้น ลู่ฉีหยางก็แสยะยิ้ม“เย่มู่มู่ ฉันให้เกียรติเธอ ถึงได้ให้เธอเป็นแฟนของฉัน เธอคิดว่า ตอนนี้เธอยังมีทางเลือกอีกเหรอ?” หลังจากนั้นลู่ฉีหยางก็ดีดนิ้วทีหนึ่งบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่นอกห้อง เข้ามาภายในห้องทั้งหมด พวกเขายืนตั้งแถวอยู่ตรงหน้าประตู ขวางทางออกทางเดียวของเย่มู่มู่เอาไว้ครั้นเย่มู่มู่เห็นภาพฉากนี้ ก็แอบคิดในใจจบเห่แล้วเดิมทีลู่ฉีหยางกับแม่เขาไม่ใช่คนสุภาพอะไรแม้จะบอกว่าเป็นบุคคลในสังคมชั้นสูง ปีนขึ้นมาได้ถึงตำแหน่งในตอนนี้ วิธีการต้องสกปรกโสมมกว่านักธุรกิจธรรมดาไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่มีทางหยุดรถของเธอบนถนนใหญ่ และพาตัวเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 396

    “เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 395

    ขณะที่สองมือของเศรษฐินีแตะตัวเย่มู่มู่ เย่มู่มู่เบือนตัวหลีกทันทีเศรษฐินีคนนี้ทำอย่างกับรู้จักมักคุ้นกันมานานเกินไปแล้วเธอไม่ได้รู้จักเศรษฐินีคนนี้สักหน่อยมิหนำซ้ำยังไม่ใช่เพื่อนสนิทของแม่อีกในขณะนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ลู่ฉีหยางที่ตั้งใจแต่งตัวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินออกมาครั้นเขาเห็นเย่มู่มู่ ดวงตาทั้งสองก็พลันเปล่งประกาย“มู่มู่ เธอมาแล้วเหรอ?”“แม่ฉันอยากเจอเธอมากแล้ว ตั้งแต่บินมาเมืองหลวง เธอก็ด่าฉันสาดเสียเทเสียยกหนึ่ง ว่าฉันเปิดเผยภูมิหลังและตัวตนของเธอ ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกเธอสักคำได้ยังไง”“แต่เธอวางใจนะ ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สื่อและนักข่าวจะไม่มีทางปล่อยข่าวออกไปแน่นอน แล้วก็หาภูมิหลังของเธอบนเน็ตไม่เจอด้วย”“แล้วก็ เธอสนใจไลฟ์สดที่เธอทำมาก ๆ ถามว่าเธอสนใจจะก่อตั้งบริษัทอินคิวไอดอลเอ็มซีเอ็นไหม...”คุณหญิงลู่คว้ามือของเย่มู่มู่เอาไว้อย่างกระตือรือร้น พร้อมลากเธอไปนั่งลงบนโซฟา“ไลฟ์ช่วยเกษตรกรที่เธอทำนั่น ได้เป็นที่นิยมในเน็ตมาก ๆ ได้รับความนิยมเยอะมาก ๆ ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสามเดือน ยอดแฟนคลับของห้องไลฟ์สดทั้งสองห้องก็สูงถึงสามสิบล้าน”“กระท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 394

    บีบให้เธอต้องหยุดรถเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สีดำคันหนึ่ง มีผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ใส่แว่นดำ รูปร่างสูงใหญ่ห้าคนลงมาจากรถดูแล้วพวกเขาคล้ายกับบอดีการ์ดมีผู้ชายสวมหมวกคนหนึ่ง มาตรงหน้ากระจกรถเย่มู่มู่ ก่อนจะเคาะกระจกรถเย่มู่มู่ลดกระจกลงท่าทีของผู้ชายคนนั้นมีมารยาทเป็นอย่างมาก หลังเขาถอดหมวกออกและเป็นฝ่ายคำนับให้เธอก่อน“คุณหนูเย่ ใช่ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า ในมือเธอกดเบอร์โทร 191 ไว้แล้ว หากอีกฝ่ายกระทำอะไรเกินขอบเขตออกมา...เธอจะต่อสายแจ้งตำรวจทันทีเพียงแต่อีกฝ่ายถามเธอด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงกับคุณชายบ้านผม อยากจะเชิญคุณไปทานข้าวสักมื้อน่ะครับ”ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสอง อีกสามชั่วโมงถึงจะเป็นเวลาอาหารเย็นข้ออ้างนี้จะเกินจริงไปหน่อยหรือเปล่าเย่มู่มู่ส่ายศีรษะ แล้วกล่าวปฏิเสธ “ฉันไม่มีเวลา!”“คุณหนูเย่ผมเห็นของที่คุณใส่ไว้เต็มรถ คุณจะส่งไปไหนเหรอครับ พวกเราช่วยไปส่งให้คุณได้นะครับ”“รบกวนคุณช่วยรับคำเชิญไปทานข้าวกับคุณผู้หญิงและคุณชายบ้านเราด้วยนะครับ”พูดพลางเหล่าบอดีการ์ด ก็เตรียมจะเปิดประตูด้วยท่าทีอันธพาล พวกเขาเข้าไปในรถบรรทุกคันน้อย แล้ว ‘เชิญ’ เย่มู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 393

    ม้าขาวของจ้านเฉิงอิ้นพุ่งออกมาราวกับตกใจ เบื้องหลังม้าขาวมีผู้บัญชาการกลุ่มใหญ่กำลังไล่ตามมาเซี่ยเวย จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิงต่างตะโกนใส่มั่วฝานว่า “สกัดเอาไว้ เร็วเข้า สกัดม้าเอาไว้...”“ท่านแม่ทัพใหญ่ได้รับบาดเจ็บหนัก ให้ม้าหยุด”มั่วฝานสั่งหน่วยกล้าตาย “ขวางม้าเอาไว้!”หน่วยกล้าตายล้วงเชือกออกมา แล้วคล้องคอม้าเอาไว้อย่างรวดเร็วม้าถูกหน่วยกล้าตายตรึงไว้อย่างแรงทั้งสี่ มันยกเท้าหน้าขึ้นสูง พร้อมคำรามด้วยความหวาดกลัว!ขณะนี้จ้านเฉิงอิ้นที่อยู่บนหลังม้ากำลังจะร่วงลงมาเหล่าทหารผ่านศึกมือเร็วตาไว รับตัวจ้านเฉิงอิ้นเอาไว้ทั้งเนื้อตัวของจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด ถูกม้าทำให้สั่นโคลงเคลงอย่างแรง เดิมทีหมดสติไปแล้ว ทว่าตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทหารผ่านศึกตะโกนดังลั่น “ท่านรัฐทายาท ท่านแม่ทัพฟื้นแล้วขอรับ”มั่วฝานกล่าวอย่างร้อนใจ “เรียกหมอประจำกองทัพ เร็วเข้า...”วินาทีถัดมา มือที่เปื้อนเลือดสดของจ้านเฉิงอิ้นก็คว้าปกเสื้อของมั่วฝานเอาไว้ เนื่องจากเขาเห็นแจกันในอ้อมอกของมั่วฝานมั่วฝานรีบคุกเข่าลง พร้อมประคองเขาเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ครั้นอ้าปากก็อันกระอักเลือด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 392

    ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status