แชร์

บทที่ 155

ผู้เขียน: มู่โร่ว
ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งกระบวนทัพอย่างพรักพร้อมสำหรับโจมตี ทว่า ต่างฝ่ายต่างรักษาท่าทีไม่มีความคืบหน้า

เมื่อเวลาผ่านไป เหล่าทหารที่ทำหน้าที่รักษากำแพงเมือง ค่อย ๆ มีสีหน้าแดงก่ำและไอออกมา

บางคนก็เริ่มมีไข้สูง จากเดิมที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองอย่างมั่นคง สุดท้ายไม่ทันระวัง ก็ร่วงตกลงมาจากกำแพงเมือง

ตกลงมาตายต่อหน้าทุกคน ภายใต้การเผชิญหน้าของสองทัพ

เมื่อเฉินขุยเห็นเช่นนั้น ก็บันดาลโทสะขึ้นมา

“ไม่รู้จักยืนถอยไปหน่อยหรือไง? เฝ้ากำแพงเมืองมานานเพียงนี้แล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เห็นคนตกลงมาตาย”

ทหารหลายนาย ตกใจจนรีบวางหอกในมือลง คุกเข่าลงให้เขา

“ท่านแม่ทัพ ข้าเป็นไข้สูงแล้วขอรับ รู้สึกทรมานยิ่งนัก ยิ่งเมื่อถูกแสงอาทิตย์ร้อนแรงแผดเผา ยิ่งรู้สึกว่าใกล้จะทนไม่ไหวแล้วขอรับ”

“ท่านแม่ทัพ ข้าน้อย ข้าน้อยรู้สึกว่าหายใจลำบาก ปวดหัวจนจะเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วขอรับ…”

เฉินขุยยังคิดจะบันดาลโทสะต่อไปอีก

ทว่า เฉินอู่กลับส่ายหน้าให้เขา

เฉินอู่กล่าวว่า “ผู้ที่เป็นไข้ ให้ถอยลงไป ไปรับยาที่รองแม่ทัพเหอหง แล้วแยกไปกักตัวซะ”

“ส่วนผู้ที่ไม่ได้เป็นไข้ จงรีบเข้าประจำการแทนเสีย!”

นายทหารที่มีอาการตัวร้อน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 156

    โดยเฉพาะบุตรชายทั้งสองคนของเขา สีหน้ายินดียากจะอธิบายออกมา ราวด่านเจิ้นกวนเป็นสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าของพวกเขา ที่สามารถได้มาครอบครองโดยไม่ต้องลงแรงกระนั้นฉีซวนเหิงเย้ยหยันว่า “ช่างเป็นคนชั่วลำพองจริง ๆ ข้าสงสัยเหลือเกินว่า ที่หลิงเซี่ยวเฟิงชนะศึกติดต่อกันมาสามสิบกว่าครั้ง คิดใช่ได้มาเพราะวิธีการแพร่โรคระบาดทั้งหมดหรอกนะ!”เยว่หงก็รู้สึกดูแคลนเช่นกันแม้วิธีการของทัพต้าฉี่จะสกปรกจริง ๆ เริ่มจากขโมยม้าก่อน จากนั้นก็เป็นการวางเพลิงทว่า คนเขาเคลื่อนไหวในยามวิกาลอย่างตรงไปตรงมา มิได้ใช้เล่ห์อุบายเช่นการวางยาพิษเป็นพวกเขาที่ป้องกันไว้ไม่ได้เองแคว้นฉีถูกขโมยม้าไปสามพันตัว ส่วนแคว้นฉู่ถูกขโมยไปห้าพันตัวแคว้นฉีถูกเผากระโจมไปร้อยกว่าหลัง แคว้นฉู่ถูกเผาไปสามร้อยกระโจม เผาตายไปสองพันกว่าคนเป็นเพราะแคว้นฉีค้นพบได้เร็ว และก็มิได้ไล่ตามคนวางเพลิงไปอย่างหน้ามืดตามัว จึงแทบไม่มีผู้เสียชีวิตทัพฉู่ดูเหมือนจะมีวินัยทหารเข้มงวด เปี่ยมประสบการณ์ชาญศึก ชนะการรบมากครั้งทว่าเยว่หงคิดว่า ผลงานการรบที่ชนะติดต่อกันเพราะอาศัยการวางยาพิษนั้น ช่างปลอมยิ่งนักฉีซวนเหิงพูดขี้นอีกว่า “ข้าได้ยินมาอีก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 157

    ฉีซวนเหิงเก็บท่าทางล้อเล่นไม่จริงจัง กำชับเยว่หงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า“หากถูกกองทัพฉู่ได้ตัวไปก่อน ก็จงฆ่าปิดปากจ้านเฉิงอิ้นเสีย” “หรือหากกองทัพฉู่ถามถึงเรื่องเทพเจ้า หรือของวิเศษใดขึ้นมา ก็จงสังหารเขาเสีย ณ เพลานั้นเลย!”ดวงตาของเขาเยียบเย็นแข็งกร้าว ผสานจิตสังหารอยู่ภายใน ขณะมองดูหลิงเซี่ยวเฟิงที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำกองทัพแห่งแคว้นฉู่ และบุตรชายผู้โง่เขลาทั้งสองของเขาหากแคว้นฉีไม่อาจได้ของวิเศษมา ก็ย่อมไม่อาจให้แคว้นฉู่ได้ไป!เขายอมที่จะทำลายมันทิ้ง แต่จะไม่ยอมให้แคว้นฉู่ได้พัฒนากำลัง!เยว่หงคุกเข่าลงครึ่งหนึ่งแล้วก้มศีรษะลง มือซ้ายวางทาบอยู่บนหน้าอกด้านขวา นางค้อมศีรษะลงด้วยความเคารพอย่างจริงใจ“หม่อมฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพคะ”“อื้ม จ้านเฉิงอิ้นติดโรคระบาด จากนี้ไม่กี่ชั่วยามจะไข้ขึ้นสูงจนตาย ก่อนเขาตาย สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องหาตัวเทพเจ้าออกมาให้ได้”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”เมื่อเยว่หงถอยออกมา ก็เรียกผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจได้ไปดำเนินการแล้วเรียกตัวหน่วยลอบสังหารมาห้าสิบคนพวกเขาไม่จำเป็นต้องตีเมือง เพียงต้องจับตามองหลิงเซี่ยวเฟิง หลิงอวิ๋นเจ๋อ และหลิงซื่อเฉินไว้ให

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 158  

    พบว่าอุณหภูมิกลับต่ำกว่ามือของเขาเสียอีก ศิษย์น้อยหายไข้แล้วจริง ๆ!“ศิษย์ข้า เจ้ากินยาแล้วหรือ?”เด็กรับใช้แพทย์ตัวน้อยหยิบไอบูโพรเฟนครึ่งเม็ดออกมา โบกไปมาที่เบื้องหน้าของซ่งอวิ๋นฮุย“ท่านอาจารย์ หลังจากที่ข้ากินยาเม็ดนี้ลงไป แล้วงีบหลับไปในห้องของบรรดาน้องชายและน้องสาวครู่หนึ่ง พอตื่นมาก็ไม่ปวดหัวแล้วขอรับ”“ใช่แล้วขอรับ พวกเขาก็กินยาชนิดเดียวกับข้า เวลานี้ พวกเขาสามารถดื่มน้ำและกินโจ๊กใสได้เล็กน้อยแล้ว เมื่อครู่ท่านหมอหลินก็ไปดูแล้วขอรับ!"ศิษย์น้อยบรรยายอย่างออกรส แสดงสีหน้าท่าทางนั้นถูกแสดงออกมาอย่างเกินจริง“ท่านหมอหลินถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นเลยขอรับ ตะโกนว่าสวรรค์ทรงเมตตา ในที่สุดโรคระบาดในด่านเจิ้นกวนของพวกเราก็มีทางช่วยแล้วขอรับ!"ขาของเฉินขุยที่ก้าวออกไป ถูกชักกลับมาในทันที เขาหันมาถามเด็กรับใช้แพทย์ตัวน้อยว่า“ยานี้ ได้ผลขนาดนี้เชียวหรือ?”เด็กรับใช้แพทย์พยักหน้าหงึกหงึก “เป็นเรื่องจริงขอรับ ท่านแม่ทัพ”เฉินขุยพึมพำกับตนเอง “มีทางรอดแล้ว ด่านเจิ้นกวนมีทางรอดแล้ว!”“ล้วนเป็นเพราะท่านเทพ…มิเช่นนั้น ภายนอกมีทัพใหญ่ประชิดเข้ามา ภายในก็มีโรคระบาดแพร่ไปทั่ว ด่านเจิ้นกว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 159

    “ด่านเจิ้งกวนรอดแล้ว แคว้นฉู่แคว้นฉีคิดจะใช้โรคระบาดทำลายพวกเรา พวกเขาคำนวณผิดไปแล้ว เพราะพวกเรามีท่านเทพ!”“ท่านเทพได้ช่วยพวกเราจากความทุกข์ยากอีกครั้งแล้ว!”อู๋ซานหลางตาแดง กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “แม้แต่พินัยกรรมข้าก็เขียนไว้เรียบร้อยแล้ว ยาพิษของทุกคนในบ้าน รวมถึงเหล่าข้าทาสบริวารก็เตรียมไว้แล้ว คิดไม่ถึงว่า ยานี่จะลดไข้ได้จริง ๆ!”จ้านเฉิงอิ้นตบไหล่อู๋ซานหลาง“ท่านเทพไม่มีทางไม่สนใจพวกเรา ตั้งสติหน่อย จากนี้ไป การร่วมมือกันโจมตีเมืองของศัตรูทั้งสามฝ่ายกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!"ทุกคนต่างก็สงบสติอารมณ์ลง จากนั้นเริ่มรับมืออย่างจริงจังเพราะต่างเข้าใจดีว่า ก่อนที่ท่านเทพจะส่งระเบิดและอาวุธมา ต่อให้พวกเขาจะมียาลดไข้ แต่กำลังการต่อสู้ก็มิได้ฟื้นฟูไปถึงจุดสูงสุดในอดีต จำนวนของทัพศัตรูมีมากเกินไปจริง ๆ แม้จะใช้ทหารของทัพศัตรูสิบคนรับมือกับทหารต้าฉี่หนึ่งคน ก็ยังเหลือเลยครั้งก่อนที่พวกชนะได้ ล้วนอาศัยอุปกรณ์ที่มีความล้ำหน้าเข้าช่วยทั้งสิ้นทว่ายามนี้…ทุกคนต่างมองไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยความกังวลมือของจ้านเฉิงอิ้นจับกระดาษสีขาวแน่น เขากุมพู่กันไว้ทุกครั้ง เมื่อพวกเขาพบเรื

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 160

    กองทหารชาวหมานสองแสนนาย ยิ่งเข้าใกล้ด่านเจิ้นกวนเข้ามามากขึ้นทุกที!ผู้นำคือม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่ ดวงเนตรอันน่าหวาดหวั่นดั่งพญาอินทรีของเขา คอยเพ่งมองอากาศยานไร้คนขับที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไปอย่างไม่ละสายตาในตอนที่มั่วฝานคิดจะบินต่ำไปยั่วยุเขานั้น…เขาก็รับธนูใหญ่คันหนึ่งจากองครักษ์ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เล็งไปที่อากาศยานไร้คนขับ…มั่วฝานบังคับให้อากาศยานไร้คนขับบินสูงขึ้น คิดจะหลบจากระยะของลูกธนูฟิ้ว!อากาศยานไร้คนขับตัวที่สองถูกยิงโดน ตกลงสู่พื้นจากนั้นก็ถูกม้าตัวใหญ่ที่หลัวซู่ขี่ ย่ำจนแหลกเป็นชิ้น ๆ ในทีเดียว!มั่วฝานเคยพบกับความอัปยศเยี่ยงนี้ตั้งแต่เมื่อใด เขาตะโกนอย่างหยิ่งผยองว่า “เขาดูถูกข้า เขาดูถูกข้าอย่างโจ่งแจ้งเลย!”“สักวัน ข้า รัฐทายาทผู้นี้จะต้องฆ่าเขาแน่!”เฉินขุยกล่าวว่า “อย่าได้ร้อนใจไป มีโอกาสอีกมากมาย!”หลังจากนั้นทุกคนก็ปรึกษาหารือกันว่า หากทัพศัตรูโจมตีเมือง ควรทำเช่นไรดี?จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ตลอดเช้า ข้ามิได้ปรากฏตัวบนกำแพงเมืองเลย พวกเขาย่อมจะคิดว่าข้าติดโรคระบาดแล้ว”“ข้าจะนำกองทหารดาบม่อเตาสองพันนาย ออกจากทางลับเข้าโจมตีที่ด้านข้าง”“ส่วนพวกเจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 161

    หลิงเซี่ยวเฟิงเห็นภาพนี้ ดวงตาร้อนผ่าวด่านเจิ้นกวนมีน้ำจริงด้วย!น้ำที่พ่นออกมาจากท่อน้ำ ไม่ได้ออกเหลืองหรือสีเข้ม แต่เป็นน้ำใช้ดื่มใสสะอาด!ตั้งแต่วินาทีนี้ เขาตั้งมั่นจะยึดด่านเจิ้นกวนให้ได้ จะแย่งแหล่งน้ำ ให้ทหารเผ่าฉู่ทุกคนมีชีวิตดำเนินต่อไป!ฮ่องเต้แคว้นฉีฉีซวนเหิง วินาทีที่เห็นน้ำ เขายืนขึ้นจากเกี้ยวที่นั่งนุ่มทันทีเขามีอาการตื่นเต้นและบ้าคลั่ง พลางตะโกนเสียงดัง “น้ำ เยว่หง ด่านเจิ้นกวนมีน้ำจริงด้วย!”“ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“แหล่งน้ำนี้เป็นของแคว้นต้าฉีคงจะดี!”เยว่หงตั้งปณิธาน กล่าวอย่างเป็นภาระหน้าที่ของตน “กระหม่อมจะแย่งมาเพื่อแคว้นต้าฉีพ่ะย่ะค่ะ!”ช่วงเวลาที่น้ำพ่นออกจากท่อน้ำทหารทั้งแคว้นฉู่และแคว้นฉีตกอยู่ในสภาพสติฟั่นเฟือนทุกคนพวกเขาล้วนกินรากไม้ ฆ่าม้า ฆ่าวัว กินเนื้อดิบ ดื่มเลือดสด…กี่วันแล้วที่ไม่ได้ดื่มน้ำ?ตอนนี้แม้แต่ฉี่ก็แทบฉี่ไม่ออก หากขาดน้ำต่อไป คนจะตายเพราะกระหายน้ำเป็นแน่วันนี้ ด่านเจิ้นกวนมีน้ำ พวกเขาทุกคนอยากดื่มสักอึกอยากดื่มจนแทบบ้าความจริงแล้ว เยว่หงเคยคิดไว้ ถ้าจ้านเฉิงอิ้นไม่ทำเด็ดขาดถึงขนาดขโมยม้าไปหลายพันตัวเช่นนี้ บ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 162

    เย่มู่มู่เห็นภาพนี้ น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างอดไม่ได้เธอเกิดในยุคแห่งสันติภาพ ได้รับความรักจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ไม่เคยต้องลำบากเวลานี้ เธอกำลังดูสงครามเปลือยเปล่าเป็นครั้งแรกมันโหดร้ายเกินไป!เพลิงไฟรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ห่าฝนลูกธนูอันหนาแน่นบนท้องฟ้าก็บินลอยลงมาไม่หยุดห่าฝนลูกธนูมาพร้อมน้ำมันตะเกียงถุงเล็ก ร่วงลงบนด้านบนกำแพงเมือง ทำให้เพลิงไฟรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องคราวก่อนชาวเมืองแคว้นฉู่สู้ไม่ไหว ครั้งนี้เลยใช้ไฟจู่โจมถ้าหาก เย่มู่มู่ไม่ส่งยาลดไข้ไปให้ผู้ป่วยมีไข้สูง อดทนอยู่กับอุณหภูมิสี่สิบองศา หนำซ้ำยังต้องถูกไฟเผา…เช่นนี้จะมีใครทนไหว?เย่มู่มู่ใช้แท็บเล็ตดาวน์โหลดวิธีใช้งานของถังดับเพลิง หัวดับเพลิง เครื่องสูบน้ำทันที…แล้วจึงส่งแท็บเล็ตกลับไปอีกครั้งจากนั้น เธอเขียนลงกระดาษเปล่าหนึ่งใบ “รอข้าครึ่งชั่วโมง ไม่ ยี่สิบนาที ข้าไปซื้อถังดับเพลิง ท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้ดับเพลิง!”“ใจเย็นก่อนนะ ข้าโทรเร่งเจ้าของโรงงานแล้ว เขาจะมาถึงภายในสี่สิบนาที!”หลังจากหย่อนกระดาษลงไปเสร็จเธอตามหาร้านขายอุปกรณ์ดับเพลิงที่อยู่ในเมืองนี้ตามแผนที่กูเกิลแมพครั้นหาเจอสองร้านค้า เธอโทร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 163

    คุณภาพดีเหมือนครั้งก่อนทุกอย่างเธอโอนค่าสินค้าให้เจ้าของโรงงานไป พร้อมชักชวนเจ้าของโรงงานไปกินข้าวที่บ้านพักตากอากาศ พักผ่อนหนึ่งคืนแล้วค่อยกลับไปเจ้าของโรงงานกับคนขับขึ้นรถเรียบร้อย พร้อมกล่าวว่าที่โรงงานยังทำงานอยู่ เขาต้องกลับไปทำงานการเก็บเงินครั้งนี้ เธอจ่ายเงินให้เจ้าของโรงงานไปหลายร้อยล้าน เขาฉีกยิ้มจนรูปปากบิดเบี้ยวหลังจากส่งพวกเขาเสร็จ เย่มู่มู่เขียนข้อความในกระดาษแผ่นหนึ่ง แล้วหย่อนลงในแจกันเธอปิดสวิตช์ไฟ ตัดกล้องวงจรปิด และปิดประตูม้วนของโกดังสินค้าลอบจัดส่งอุปกรณ์สวมใส่ไปให้ด่านเจิ้นกวน*ด่านเจิ้นกวน บนกำแพงเมือง มีทหารชั้นผู้น้อยนับสิบคนทำการเปิดวาล์วถังดับเพลิงและเริ่มดับไฟ!ถังดับเพลิงพ่นโฟมสีขาวออกมา ปกคลุมไปทั่วพื้นดิน มันทำให้ไฟดับลงได้จริง ๆวินาทีที่ไฟดับลง นายทหารนับไม่ถ้วนถึงแม้ยังมีไข้ แต่ล้วนส่งเสียงโห่ร้องดีใจทุกคน“ดับแล้ว!”“เพลิงไฟดับสนิทแล้ว”“ฮ่า ๆ ๆ ของสิ่งนี้น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เรียกว่าถังดับเพลิง ก็สามารถดับไฟได้จริง ๆ ด้วย!”เปี้ยนจื่อผิงยังลากเครื่องสูบน้ำมาด้วย เครื่องสูบน้ำสิบกว่าเครื่องทำการราดน้ำขึ้นบนกำแพงเมืองจุดเกิดเพลิงไฟ

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 404

    ทนไว้!คนทั้งกลุ่มถูกตำรวจนำตัวมายังสถานีตำรวจตำรวจยังไม่เชื่อเลยว่าหลูซีอายุน้อย ๆ กลับล้มบอดีการ์ดได้ยี่สิบกว่าคนครั้นกล้องวงจรปิดในห้องพักถูกโอนถ่ายออกมาเพราะปัญหาจากมุมกล้อง กล้องวงจรปิดจึงไม่สามารถจับภาพคนแต่งตัวเลียนแบบต้นฉบับชุดโบราณสองคนนี้เข้ามายังห้องพักชุดรับรองแบบทางการได้อย่างไรพวกเขาปรากฏตัวขึ้นได้อย่างไรแต่ทุกคนล้วนเห็นฝีมืออันฉับไวของหลูซี มันเร็วมากเสียจนกล้องวงจรปิดยังจับความเคลื่อนไหวของเขาไม่ทันมองเห็นเพียงเงาวับวาบทำบอดีการ์ดตัวสูงโปร่งยี่สิบกว่าคนล้มลงพื้นพวกเขาเห็นคนที่มีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้เป็นครั้งแรกคุณหญิงลู่ยังร้องโวยวายต้องการให้จับตัวหลูซีกับเย่มู่มู่ทนายสวีจึงเข้ามาประกันตัวเธอบวกกับเธอเป็นผู้เสียหาย กลับเป็นคุณหญิงลู่กับลู่ฉีหยางที่มีความคิดกักขังหน่วงเหนี่ยวเธออย่างผิดกฎหมายก่อนตามมาด้วยบอดีการ์ดของพวกเขากระทำการลงมือแม้ว่าเด็กหนุ่มสองคนนี้ทำเพื่อปกป้องเย่มู่มู่และลงมือหนักไปบ้างแต่ก็ทำไปเพราะป้องกันตนเองคำพูดต้นฉบับของทนายสวีกล่าวไว้ว่า ใครจะไปรู้ว่าบอดีการ์ดเหล่านี้จะอ่อนแอปวกเปียกและไม่สู้คนถึงเพียงนี้ส่วนลู่ฉีหยางอาจเป็

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 403

    คุณหญิงลู่เห็นบอดี้การ์ดเฝ้าประตูล้มลงไปส่วนคนที่ผู้อาวุโสมู่พาเข้ามา มีสองสามคนเป็นตำรวจชุมชนของระแวกนี้เธอจึงร้องไห้อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ชี้ตัวเย่มู่มู่ มั่วฝานและหลูซีพร้อมกล่าวโทษ…“พวกเขาเป็นคนทุบตีลูกชายฉันจนมีสภาพเป็นแบบนี้ คุณตำรวจ ช่วยจับพวกเขาด้วยค่ะ!”“ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันต้องการให้พวกเขาชดใช้ด้วยชีวิต!”“และยิ่งไปกว่านั้น ฉันจะไปพบท่านผู้ว่าฯเมืองกับเลขาธิการผู้ว่าฯเมือง ฉันจะยกเลิกโครงการหนึ่งหมื่นห้าพันล้านที่ลู่ซื่อกรุ๊ปลงทุนให้กับเมืองนี้!”“ถ้าพวกคุณไม่ให้คำอธิบายกับฉัน เรื่องนี้จะไม่มีวันจบ!”ผู้จัดการโรงแรมและสถานีตำรวจ คล้ายว่าได้รับโทรศัพท์จากเบื้องบน จึงรีบเร่งปลอบใจคุณหญิงลู่ที่ใบหน้ายังมีเลือดไหล“คุณหญิงอย่าเพิ่งโมโห เราเป็นสังคมที่มีอารยธรรม ใครฝ่าฝืนกฎหมายย่อมไม่ปล่อยผ่านเป็นอันขาด”“คุณหญิงลู่ เราไปทำแผลที่โรงพยาบาลกันก่อน ถ้าเกิดเป็นรอยแผลเป็นก็คงแย่”พอพูดถึงบาดแผลบนใบหน้า คุณหญิงลู่พลันกรีดร้องอย่างกระวนกระวายเธอชี้หน้าหลูซี “เขาคนนี้ เด็กอันธพาลคนนี้เป็นคนทำร้ายฉัน ทุบตีลูกชายฉันจนหมดสติ พวกคุณรีบจับเขาไว้สิ”หลูซีกอดกระบี่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 402

    ไม่กี่คนเหล่านั้นถึงกระทั่งหายใจไม่ทันและก้าวถอยหลังทุกคนเขายืนกลางกลุ่มบอดีการ์ดและกวาดสายตาดำสนิททอดมองแต่ละคนคนที่ยังไม่หมดสติ เขาจะกระทืบกระดูกซี่โครงให้หักจนผู้นั้นไม่สามารถลุกคลานได้ส่วนผู้ที่เพิ่งได้สติ ครั้นเห็นเขาเตะกระดูกซี่โครงคนอื่นก็เอียงคอแกล้งหมดสติหลับไปคน ๆ นี้โหดเหี้ยมเกินไปทั้งที่เป็นแค่ชายหนุ่มไม่โตเต็มวัย ไม่คิดเลยว่าจะลงมือโหดร้ายขนาดนี้มั่วฝานเห็นเย่มู่มู่เป็นห่วงสภาพการต่อสู้ จึงยิ้มแย้มกล่าว “ท่านเทพวางใจได้ หลูซีเติบโตในสนามรบตั้งแต่เด็ก เป็นตัวเลือกจากหนึ่งหมื่นคน ต่อกรกับพวกขี้เมาหยำเปเหล่านี้แม้ใช้มือเดียวก็เอาชนะได้!”เย่มู่มู่มองอย่างตกตะลึงอ้าปากค้าง เป็นเวลาพักใหญ่กว่าเธอจะรู้สึกตัวอีกครั้งเธอยกนิ้วโป้งให้มั่วฝาน “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริง ๆ !”นี่แหล่ะคือหน่วยกล้าตายที่ตระกูลมั่วชุบเลี้ยง!หน่วยกล้าตายในสมัยโบราณ ฆ่าคนโดยไม่ให้ใครมองเห็นได้จริง ๆทักษะสังหารฉับไวเฉียดขาดเยี่ยงนี้ ทุกวันนี้สูญหายไปนานแล้วและหลูซีที่ผ่านการต่อสู้กับผู้คนมานับร้อย ถูกคัดมาจากแต่ละระดับ ถ้าไม่แข็งแกร่งมากพอ ไม่โหดเหี้ยมมากพอ...เขาตายนานแล้ว!ไม่มีชีว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 401

    “เจ้า พวกเจ้ามาได้อย่างไร? จ้านเฉิงอิ้นล่ะ? ข้าได้ยินว่าเขาบาดเจ็บหนักจนหมดสติ”“จ้านเฉิงอิ้นบาดเจ็บสาหัสหรือไม่?”มั่วฝานกับหลูซียืนขึ้นมั่วฝานยิ้มจนมุมปากแทบเบี้ยวเขาทอดถอนใจอีกครั้ง ท่านเทพหน้าตาสวยจริงเชียวเมื่อเทียบกับองค์หญิงในพระราชวัง ท่านเทพมีหน้าตาสวยกว่าทุกคนเขาตอบกลับด้วยความสุภาพเป็นอย่างยิ่ง“ท่านเทพวางใจได้ หมอประจำกองทัพห้ามเลือด พันแผลและป้อนยาทันเวลา…เพียงพักผ่อนราวเดือนกว่าอาการก็จะดีขึ้น!”“เช่นนั้นแล้วพวกเจ้ามาได้อย่างไร?”มั่วฝานตอบกลับ “พวกข้าไม่รู้เช่นกัน แม่ทัพใหญ่ดึงข้าไว้ จากนั้นก็ปรากฏอยู่ที่นี่เลย”ขณะที่เย่มู่มู่ยังอยากถามไถ่ศึกสงครามช่องเขาเป้าเสีย…ลู่ฉีหยางเห็นเขาสองคนเพิกเฉิยตนอย่างสิ้นเชิงและยังพูดคุยกันอย่างถูกคอ จึงกล่าวขึ้นอย่างโมโหจัด “พอสักที หุบปากให้หมด!”ลู่ฉีหยางตะโกนใส่บอดี้การ์ดหน้าประตู “มีใครอยู่บ้าง มาจับคนแต่งกายเลียนแบบต้นฉบับสองคนนี้ออกไปจัดการหนัก ๆ หน่อย!”“ผมไม่สนใจหรอกว่าพวกคุณมาจากที่ไหน เมื่อมาทำลายเรื่องของผม จะไม่ให้บทเรียนพวกคุณสักหน่อยก็คง…”ลู่ฉีหยางยังกล่าวไม่จบ บอดี้การ์ดที่นำหน้าเพิ่งเข้ามาใกล้แต่ยังไม่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 400

    ไม่ หากให้พูดอย่างชัดเจนเลยก็คือ แจกันส่งคนได้แล้วจ้านเฉิงอิ้นดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังหายใจเพียงแพล็บเดียวเท่านั้น เขาก็กลับมาไม่วางใจอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามั่วฝานถูกส่งไปยังโลกของท่านเทพจริง ๆ หรือเปล่าเขาฟังเสียงที่แว่วมาจากแจกันอย่างตั้งใจเป็นอย่างที่คิด เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกแหลมจี๊ดคุยโวโอ้อวดของมั่วฝาน“ข้า ข้าถูกส่งมาที่ใด? เทพยดาปีศาจทุกองค์ฟังนะ ข้าเป็นหลานชายของขุนนางชั้นสูงที่สืบทอดตระกูลมั่วแห่งแคว้นต้าฉี่...”ทันใดนั้น มั่วฝานก็เปลี่ยนคำพูด ราวกับพบบุคคลที่น่าอัศจรรย์อะไรเข้า“เอ๊ะ ท่าน ท่านหน้าตาละม้ายคล้ายรูปปั้นเสมือนในวัดเลยนี่!”ทันใดนั้นมั่วฝานก็ตะโกนเรียกด้วยความดีใจปนความตกตะลึง“ท่าน...ท่านเทพ ท่านคือท่านเทพจริง ๆ ด้วย...”ครั้นได้ยินถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นก็วางใจอย่างสมบูรณ์มั่วฝานกับหน่วยกล้าตายของเขา ไม่ได้ถูกส่งตัวไปผิดโลก ทว่าถูกส่งไปข้างกายท่านเทพแม้มั่วฝานจะมีหลายครั้งที่เชื่อถือไม่ได้ ทว่าก็ปกป้องท่านเทพได้แน่มิหนำซ้ำหน่วยกล้าตายข้างกายเขา เป็นยอดฝีมือที่ผ่านการเลือกหลายชั้น และเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานเพีบงแต่ จ้านเฉิงอิ้นโทษที่ตัวเองได้รับบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 399

    หลังจ้านเฉิงอิ้นหมดสติไปอีกครั้ง มั่วฝาน จวงเหลียงและบรรดาทหารผ่านศึกที่ป่วยวุ่นวายอลหม่านไปหมดในวินาทีสำคัญ กลับหาตัวซ่งอวิ๋นฮุยไม่เจอทุกคนย้ายตัวจ้านเฉิงอิ้นออกมาจากถนนลูกรัง แล้วนำเขาไปวางไว้บนพื้นเรียบในบรรดาผู้บัญชาการของทัพแคว้นเยี่ยนของเซี่ยเวย มีทหารผ่านศึกนายหนึ่งชำนาญศาสตร์การแพทย์ เป็นหมอประจำกองทัพที่ติดตามทัพเขาพกเข็มสำหรับการฝังเข็มและครอบแก้ว ผ้าพันแปล และสมุนไพรบางส่วนติดตัวมาด้วย...เขาจับชีพจรจ้านเฉิงอิ้นก่อน จากนั้นก็เป็นอันต้องขมวดคิ้วตามมามั่วฝานกับจวงเหลียงจ้องเขาตาไม่กะพริบ พร้อมเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ “เป็นอย่างไรบ้าง?”ทหารผ่านศึกตอบ “ยังทันขอรับ ปกติร่างกายของท่านแม่ทัพก็ดีอยู่แล้ว ยังช่วยชีวิตได้!”ทั้งสองคนถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่ง!หมอประจำกองทัพจุดตะบันไฟ เผาเข็มรอบหนึ่ง จากนั้นก็ทิ่มเข้าไปในจุดฝังเข็มบนร่างจ้านเฉิงอิ้น เพื่อห้ามไม่ให้เลือดออกตรงมุมปากของจ้านเฉิงอิ้นไม่มีเลือดออกมาอีกตรงบาดแผลใช้เหล้ามาฆ่าเชื้อ ก่อนจะพันด้วยผ้าพันแผลสุดท้ายก็ยัดยาลูกกลอนเม็ดเล็ก ๆ สีดำเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากของจ้านเฉิงอิ้น...หลังทำทุกอย่างเสร็จ ก็จับชีพ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 398

    เขาไม่อยากเสียโอกาสนี้ไปแต่งงานกับเย่มู่มู่เป็นวิธีแก้สถานการณ์เพียงวิธีเดียวก่อนมาที่นี่ เขาเคยคิดว่าเย่มู่มู่เป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดาไม่ได้สะดุดตาอะไรหรืออาจเป็นผู้หญิงที่ชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น และคลั่งไคล้เขาตั้งแต่เด็กเขาเคยเห็นผู้หญิงพรรค์นี้มามากมายหากเป็นแบบนี้จริง ๆ ก็จัดการง่ายแล้วเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า เย่มู่มู่จะสวยและมีความคิดเป็นของตัวเองขนาดนี้สิ่งที่ทำให้เขายากจะรับได้ก็คือ เย่มู่มู่ไม่ชอบเขาใช่แล้ว เขาจะบอกว่าชอบเย่มู่มู่ตั้งแต่แรกพบไม่ได้ทว่าครั้งแรกที่เห็นก็ตกตะลึงในตัวเธอ และมีความรู้สึกดี ๆ เลยเขาไม่สามารถรับได้ว่าเย่มู่มู่กลับไม่ชอบเขาหากไม่ชอบเขา แล้วลู่ซื่อกรุ๊ปจะแก้สถานการณ์อย่างไรเขาขยันขนาดนี้มาตั้งแต่เด็ก แข่งขันกับพี่ใหญ่มาสารพัดอย่าง ยังไม่ทันถึงนาทีสุดท้าย หรือว่าจะต้องยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?ไม่ เขาจะไม่ยอมแพ้เป็นอันขาดเย่มู่มู่ไม่มีทางไม่ชอบเขา!เห็นใบหน้าของลู่ฉีหยางคล้ำดำหมองไปหมด แล้วเข้ามาใกล้เธอ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆเย่มู่มู่กอดแจกันขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว หลับอยู่ในซอกห้องรับแขก“นี่ นี่พวกคุณกำล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 397

    “ขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันรับเอาไว้ไม่ได้...”เย่มู่มู่ปฏิเสธลู่ฉีหยางอย่างมีเหตุผลเต็มประดาครั้นลู่ฉีหยางได้ยินประโยคนี้ นิสัยเดิมก็เผยออกมาเขาสะบัดดอกไม้ไปบนพื้นอย่างแรงในทันใด กลีบดอกไม้ร่วงอยู่เต็มพรมและพื้นท่าทีสดใสงดงามในทีแรก สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเป็นขึงขังอย่างไร้ที่เปรียบ “เธอปฏิเสธฉันเหรอ?”เขากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบน่าขนลุกเย่มู่มู่หลบไปข้าง ๆ เธอกลัวลู่ฉีหยางเล็กน้อยคนคนนี้เปลี่ยนสีหน้าเร็วกว่าเปิดหน้าหนังสือเสียอีกหลังจากนั้น ลู่ฉีหยางก็แสยะยิ้ม“เย่มู่มู่ ฉันให้เกียรติเธอ ถึงได้ให้เธอเป็นแฟนของฉัน เธอคิดว่า ตอนนี้เธอยังมีทางเลือกอีกเหรอ?” หลังจากนั้นลู่ฉีหยางก็ดีดนิ้วทีหนึ่งบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่นอกห้อง เข้ามาภายในห้องทั้งหมด พวกเขายืนตั้งแถวอยู่ตรงหน้าประตู ขวางทางออกทางเดียวของเย่มู่มู่เอาไว้ครั้นเย่มู่มู่เห็นภาพฉากนี้ ก็แอบคิดในใจจบเห่แล้วเดิมทีลู่ฉีหยางกับแม่เขาไม่ใช่คนสุภาพอะไรแม้จะบอกว่าเป็นบุคคลในสังคมชั้นสูง ปีนขึ้นมาได้ถึงตำแหน่งในตอนนี้ วิธีการต้องสกปรกโสมมกว่านักธุรกิจธรรมดาไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่มีทางหยุดรถของเธอบนถนนใหญ่ และพาตัวเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 396

    “เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status