เย่มู่มู่เห็นภาพนี้ น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างอดไม่ได้เธอเกิดในยุคแห่งสันติภาพ ได้รับความรักจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ไม่เคยต้องลำบากเวลานี้ เธอกำลังดูสงครามเปลือยเปล่าเป็นครั้งแรกมันโหดร้ายเกินไป!เพลิงไฟรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ห่าฝนลูกธนูอันหนาแน่นบนท้องฟ้าก็บินลอยลงมาไม่หยุดห่าฝนลูกธนูมาพร้อมน้ำมันตะเกียงถุงเล็ก ร่วงลงบนด้านบนกำแพงเมือง ทำให้เพลิงไฟรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องคราวก่อนชาวเมืองแคว้นฉู่สู้ไม่ไหว ครั้งนี้เลยใช้ไฟจู่โจมถ้าหาก เย่มู่มู่ไม่ส่งยาลดไข้ไปให้ผู้ป่วยมีไข้สูง อดทนอยู่กับอุณหภูมิสี่สิบองศา หนำซ้ำยังต้องถูกไฟเผา…เช่นนี้จะมีใครทนไหว?เย่มู่มู่ใช้แท็บเล็ตดาวน์โหลดวิธีใช้งานของถังดับเพลิง หัวดับเพลิง เครื่องสูบน้ำทันที…แล้วจึงส่งแท็บเล็ตกลับไปอีกครั้งจากนั้น เธอเขียนลงกระดาษเปล่าหนึ่งใบ “รอข้าครึ่งชั่วโมง ไม่ ยี่สิบนาที ข้าไปซื้อถังดับเพลิง ท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้ดับเพลิง!”“ใจเย็นก่อนนะ ข้าโทรเร่งเจ้าของโรงงานแล้ว เขาจะมาถึงภายในสี่สิบนาที!”หลังจากหย่อนกระดาษลงไปเสร็จเธอตามหาร้านขายอุปกรณ์ดับเพลิงที่อยู่ในเมืองนี้ตามแผนที่กูเกิลแมพครั้นหาเจอสองร้านค้า เธอโทร
คุณภาพดีเหมือนครั้งก่อนทุกอย่างเธอโอนค่าสินค้าให้เจ้าของโรงงานไป พร้อมชักชวนเจ้าของโรงงานไปกินข้าวที่บ้านพักตากอากาศ พักผ่อนหนึ่งคืนแล้วค่อยกลับไปเจ้าของโรงงานกับคนขับขึ้นรถเรียบร้อย พร้อมกล่าวว่าที่โรงงานยังทำงานอยู่ เขาต้องกลับไปทำงานการเก็บเงินครั้งนี้ เธอจ่ายเงินให้เจ้าของโรงงานไปหลายร้อยล้าน เขาฉีกยิ้มจนรูปปากบิดเบี้ยวหลังจากส่งพวกเขาเสร็จ เย่มู่มู่เขียนข้อความในกระดาษแผ่นหนึ่ง แล้วหย่อนลงในแจกันเธอปิดสวิตช์ไฟ ตัดกล้องวงจรปิด และปิดประตูม้วนของโกดังสินค้าลอบจัดส่งอุปกรณ์สวมใส่ไปให้ด่านเจิ้นกวน*ด่านเจิ้นกวน บนกำแพงเมือง มีทหารชั้นผู้น้อยนับสิบคนทำการเปิดวาล์วถังดับเพลิงและเริ่มดับไฟ!ถังดับเพลิงพ่นโฟมสีขาวออกมา ปกคลุมไปทั่วพื้นดิน มันทำให้ไฟดับลงได้จริง ๆวินาทีที่ไฟดับลง นายทหารนับไม่ถ้วนถึงแม้ยังมีไข้ แต่ล้วนส่งเสียงโห่ร้องดีใจทุกคน“ดับแล้ว!”“เพลิงไฟดับสนิทแล้ว”“ฮ่า ๆ ๆ ของสิ่งนี้น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เรียกว่าถังดับเพลิง ก็สามารถดับไฟได้จริง ๆ ด้วย!”เปี้ยนจื่อผิงยังลากเครื่องสูบน้ำมาด้วย เครื่องสูบน้ำสิบกว่าเครื่องทำการราดน้ำขึ้นบนกำแพงเมืองจุดเกิดเพลิงไฟ
วันนี้การเพาะปลูกไม่ออกผลบ้านเมืองแตกแยกไม่สงบสุข ระเบียบสังคม ความถูกต้อง ความยุติธรรม ศีลธรรม เกียรติยศได้ถูกละทิ้งไปนานแล้วทุกแว่นแคว้นเพื่อให้อยู่รอดต่อไป จึงใช้ทุกวิถีทางและทำอย่างสุดกำลัง!ผู้นำทั้งสามฝ่ายรวมตัวกันอย่างง่ายและเริ่มวางแผนการรบ!แคว้นฉู่กับแคว้นฉีสองแคว้นนี้ไม่มีรถกระทุ้งกำแพงเมือง แต่ว่าม่อเป่ยมีก่อนออกเดินทาง ได้สั่งทำออกมาแล้วห้าสิบคันหลิงเซี่ยวเฟิงปริปากกล่าว “ต้าฉู่ของข้าขอห้าคัน!”ฮ่องเต้แคว้นฉีฉีซวนเหิงกำลังโบกพัด “แคว้นฉีอยากได้ห้าคัน”ม่อเป่ยอ๋องหัวเราะ “ยังไม่มีใคร ไม่เสียเงินแม้แต่ครึ่งสตางค์ แล้วได้ผลประโยชน์จากมือของข้าหรอกนะ!”“แหล่งน้ำ ข้าขอสี่ส่วน…ถ้าตกลง ข้าจะให้รถกับพวกท่าน”“ไม่ตกลง ไม่มีทาง!”หลิงเซี่ยวเฟิงกับฉีซวนเหิงมองเขาอย่างเกรี้ยวกราดเขาหัวเราะดังลั่นอย่างไม่สนใจ ดวงตาสองข้างจ้องเครื่องสูบน้ำไม่ขยับสายตา“ของสิ่งนั้น ข้าต้องการแบ่งมาหนึ่งส่วน…”เขายังแสดงความต้องการไม่หยุด~ตอนนี้ เขาไม่รู้ความยอดเยี่ยมของดาบม่อเตากับหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ถ้าเขารู้ ต้องขอส่วนแบ่งอีกหนึ่งส่วนเป็นแน่หลิงเซี่ยวเฟิงและฉีซวนเหิง ในใจรู้สึกโมโหอย
ทั้งกองทัพออกเดินทางพร้อมกันอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรพลเมืองทั่วทั้งเมืองมากันทุกคน ล้วนยืนเรียงอยู่ริมถนนสองข้าง กล่าวร่ำลาพร้อมน้ำตาที่ร้อนผ่าวเหล่าพลเมืองต่างรู้ดีว่า ครั้งนี้ด่านเจิ้นกวนประสบความยากเข้าแล้วจริง ๆในจำนวนสี่หมื่นคน มีครึ่งหนึ่งเป็นทหารใหม่ จะสู้กับคนห้าแสนห้าหมื่นคนไหวได้อย่างไรเมื่อครู่นี้ยังมีคนไม่น้อยมีไข้ขึ้นสูง สูงจนสติไม่อยู่กับเนื้อไม่อยู่กับตัว!กำลังต่อสู้ลดลงฮวบครึ่งหนึ่งทันที!แต่ว่าทำอะไรไม่ได้ หากไม่ค้นหาโอกาสด้วยตนเอง ด่านเจิ้นกวนทำได้เพียงอดทนรอความตายและถูกอีกสามแคว้นเข้ายึดครองในเวลาหนึ่งปีนี้พวกเขาถูกทหารเผ่าหมานปิดล้อมและถูกโจมตีมาแล้วนับสิบครั้งต่อให้การสูญเสียจะมากเท่าไหร่ ก็ไม่เคยคิดว่าด่านเจิ้นกวนจะทะลุแตกพ่ายเพราะพวกเขามีแม่ทัพใหญ่จ้านเฉิงอิ้นผู้แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งพลเมืองจำนวนนับไม่ถ้วนรวมทั้งคนแก่ เด็ก ภรรยา ลูกชายและลูกสาวในครอบครัว ต่างมาร่ำลาแม่ทัพใหญ่ทั้งน้ำตาหวังไว้ว่าแม่ทัพใหญ่จะกลับมาพร้อมชัยชนะจ้านเฉิงอิ้นกับทหารขี่ม้าออกไปก่อนถึงเส้นทางลับ ถูกเว่ยกวงสามพี่น้องขวางไว้อาหลี่เป็นคนพาเว่ยกวงมาหาพ่อบ้านอาหลี่รู้ว
พวกทหารยังพกน้ำเต้าใส่น้ำของตนเองมาด้วย ท้ายที่สุดแล้วเวลานี้แหล่งน้ำอันมีค่า ยังขาดแคลนอย่างยิ่ง!ครั้นทุกคนจัดเตรียมอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อย ก็ออกเดินทางไปยังทางลับ…*หลังจากสามฝ่ายหารือกันเสร็จ พวกเขารวมกำลังคนอย่างเร่งด่วนและดำเนินการปิดล้อมเมืองอย่างเอิกเกริกทันทีทันใด!แต่ทว่า~ครั้นทหารชั้นผู้น้อยทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง แม้กระทั่งรถกระทุ้งกำแพงก็ลากมาแล้วและเตรียมตัวจะเปิดการโจมตี!ข้างบนกำแพงเมือง ทหารกองทัพแคว้นฉี่แบ่งไปอยู่หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินแล้วทั้งหมด ครั้นชักคันธนูเตรียมยิงออกไป…วินาทีที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย~ผู้นำทัพทั้งสามท่านก็ได้รับจดหมายลับจากสายลับวงในของด่านเจิ้นกวนในจดหมายลับมีเนื้อสำคัญอยู่สามข้อหนึ่ง จ้านเฉิงอิ้นยังไม่ตายสอง จ้านเฉิงอิ้นกำลังพาทหารกล้าตายสองพันคน สวมใส่อุปกรณ์ติดตัวเต็มยศออกจากเมือง ตั้งใจจะโจมตีพวกเขาจากด้านข้างอย่างรุนแรงสาม อุปกรณ์สวมใส่ที่กองทัพตระกูลจ้านเฝ้ารอมาถึงแล้ว!ทั้งที่จ้านเฉิงอิ้นไข้ขึ้นสูง เหตุใดเขาถึงไม่ตาย?เขากลับกล้าพาทหารสองพันคน บุกขนาบข้างกองกำลังห้าแสนห้าหมื่นคน?เขาบ้าไปแล้ว?หรือว่ากองกำลังห้าแสนห้า
“แล้วถ้า ข้าใช้ด่านเจิ้นกวนเป็นเดิมพันล่ะ? ผู้ใดจับฉ้านเฉิงอิ้นตัวเป็น ๆ ได้ ด่านเจิ้นกวนทั้งเมือง เสบียงทั้งหมด พลเมืองทุกคน จะตกเป็นของผู้นั้นทั้งหมด…”หลิงเซี่ยวเฟิงยิ้มเย็นชา เก็บอาการโกรธที่เขาสองคนดูถูกตนพลางเอ่ยถามพวกเขา “พวกท่านคิดว่า ความคิดเห็นนี้เป็นเช่นไร?”ม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่กล่าวดังก้องดุจเสียงระฆัง “เช่นนั้นยังต้องถามอีกหรือ ข้าย่อมเป็นผู้ชนะแน่”“เพียงจับตัวเป็น ๆ ไม่ใช่รึ มีความยากตรงไหน!”ครั้นม่อเป๋ยอ๋องกล่าวจบ เขาหันกลับมาพูดกับทหารที่ตามมาด้วยอย่างเสียงดัง “ได้ยินกันหรือยัง? จับจ้านเฉิงอิ้นตัวเป็น ๆ”“ใครจับตัวเป็น ๆ มาได้ เสบียงอาหาร แหล่งน้ำ ผู้หญิง จำนวนนับไม่ถ้วนในเมืองด่านเจิ้นกวน เป็นของพวกเราทั้งหมด!”“ยิ่งใหญ่ ม่อเป่ยอ๋องผู้ยิ่งใหญ่!”เขาหันหัวม้ากลับมา พูดกับฉีซวนเหิงและหลิงเซี่ยวเฟิง “ข้าไปจับตัวจ้านเฉิงอิ้นก่อน หวังว่าพวกท่านทั้งสอง พูดแล้วจะรักษาคำพูด”“ไม่รักษาคำพูดก็ไม่เป็นไร ข้าฆ่าเขาเสร็จ ค่อยกลับมาโจมตีด่านเจิ้นกวนต่อก็ไม่ต่างกัน เสบียงอาหารกับน้ำข้างในนั้นก็เป็นของข้าทั้งหมด!”ม่อเป่ยอ๋องกล่าวทิ้งท้ายเสร็จ หันหลังขี่ม้าออกไปทันทีฉีซวนเ
“พวกเขาไม่มียาแก้พิษ!”“เช่นนั้นท่านว่ามา ทหารด้านบนกำแพงเมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ อุปกรณ์สวมใส่ก็ดีขึ้นทุกครั้ง จะนับว่าอย่างงไร?”เมื่อครู่นี้ยังจับธนูทดกำลังกันทุกคน ตอนนี้ล้วนถือหน้าไม้ราชวงศ์ฉินที่สูงกว่าครึ่งหนึ่งของคนเอาไว้“พอได้แล้ว ทุกคนจงถอยกลับไป ถอยออกจากระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน จำไว้…”“ไปค้นหาภายนอกกำแพงเมืองของด่านเจิ้นกวน ระยะทางสามลี้ ห้าลี้ หาจ้านเฉิงอิ้นไม่พบ ก็ขยายระยะทางออกไปให้ถึงสิบลี้ ยี่สิบลี้…”“ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร ต้องจับตัวเป็น ๆ มาให้จงได้”บุตรชายสองคนคุกเข่าข้างเดียวและคารวะ “ขอรับ ท่านพ่อ!”*เฉินขุย เฉินอู่สองพี่น้อง จับมือกับมั่วฝาน หลินต้าจวิน หลี่หยวนจง อยู่ที่หอด้านบนกำแพงเมืองเตรียมกำลังไว้อย่างพร้อมเพรียงพวกเขาแบ่งทหารมาได้ห้าพันคน ทหารห้าพันคนมีหน้าไม้ราชวงศ์ฉินคนละหนึ่งคัน ลูกธนูสองแสนดอกช่วงเอวยังหนีบดาบม่อเตาเอาไว้ เพียงแค่ฝ่ายตรงข้ามปิดล้อมเมือง ก็จะสั่งให้ยิงธนูทันทีแต่ น่าแปลกเป็นอย่างยิ่ง!ผู้นำทั้งสามฝ่ายมารวมตัวกัน หารือเป็นเวลาธูปครึ่งก้านก็แยกย้ายเดินจากไปจากไปเช่นนี้เลย~ไม่มีการจู่โจมปิดล้อมเมืองต่อ ทั้งหมดกระจา
เช่นนี้จะเอาชนะอย่างไร?ใช้ความตายของทหารเป็นต้นทุน มาช่วยถ่วงเวลา ถ่วงเวลาจนกว่าจ้านเฉิงอิ้นจะกลับมา?พวกเขาภาวนาในใจ ท่านเทพจะส่งระเบิดมาให้เมื่อไหร่ภาวนาว่าท่านจะส่งข้ามมาได้สำเร็จ!ได้โปรดเถอะ!ถ้าส่งไม่สำเร็จ พวกเขาต้องตายแน่ฉู่ฉีหมานทั้งสามฝ่ายจะหาตัวแม่ทัพทั้งช่วงบ่าย อย่างมากอีกหนึ่งค่ำคืนถ้าหาไม่เจอเป็นเวลานาน พวกเขาจะคิดว่าตนถูกหลอก จะเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ และปิดล้อมเมืองอย่างดุร้ายแข็งแกร่งมากกว่าเดิมจ้านเฉิงอิ้นเป็นแกนสำคัญของทุกคนในด่านเจิ้นกวนครั้นเขาไม่อยู่ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ต่าง ๆ สามารถรับมือแทนไหวแต่สภาพจิตใจของกลุ่มทหารได้รับผลกระทบอยู่ไม่มากไม่น้อยที่ยิ่งไปกว่านั้น ทหารจำนวนไม่น้อยยังไข้ขึ้นไข้ลดอยู่ในอาการป่วยซ้ำ ๆเฉินขุยถามถามเหอหง “ตอนนี้มีคนไข้ขึ้นจำนวนกี่คน?”“ในค่ายพักมีอาการไข้ขึ้นสามพันกว่าคน ตอนนี้ไข้กำลังลดลง…”“มีพลเมืองรับเรื่องมาช่วยดูแล ข้าเลยเพิ่มเสบียงของทุกคนในแต่ละวันมากขึ้นเป็นข้าวสารสองชั่ง บะหมี่แห้งถุงหนึ่งชั่ง เนื้อสัตว์หนึ่งชิ้นเป็นค่าตอบแทน”เฉินขุยพยักหน้า “ควรเป็นเช่นนั้น อาสาสมัครมาดูแลทหารล้มป่วยในค่ายพัก มีความเสี่ยง
แม่ทัพที่ชื่อสวีจือ พูดขึ้นด้วยเสียงสะอื้น เบ้าตาแดงก่ำ “แม่ทัพเฉิน ข้านำอาหารกลับไปให้ภรรยาได้หรือไม่? นางแต่งงานกับข้ามา ไม่เคยมีวันไหนได้อยู่ดีมีสุขเลย เมื่อคืนยังตกใจจนสลบไปอีก!”“นางเกือบถูกพวกเผ่าหมานฆ่า ถ้าไม่ใช่เพราะคนรับใช้เข้ามาขวางดาบ เกรงว่าคงต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาแล้ว!”เฉินขุยได้ยินดังนั้นก็ด่าสวีหวย “เจ้าแก่นี่! ครั้งก่อนที่ข้าไปถึงค่าย ข้าน่าจะแทงเขาให้ตายตั้งแต่ตอนนั้น จะได้ไม่ต้องมีคนต้องตายมากมายแบบนี้”“พวกเจ้าอยากนำอาหารกลับไปให้ครอบครัว ก็เอาไปเถิด!”“ถ้าไม่พอ บอกให้พ่อครัวทำเพิ่มได้เลย!”เหล่าผู้บังคับบัญชาหลายคนถึงกับน้ำตาคลอเบ้าในทันที ตั้งท่าจะคุกเข่าลงขอบคุณแต่เฉินขุยรีบยื่นมือมาประคองไว้พวกเขาใช้แขนเสื้อปาดน้ำตา ก่อนจะพูดด้วยเสียงสะอื้นว่า “ขอบคุณท่านแม่ทัพเฉินเป็นอย่างมาก!”เฉินขุยโบกมือ “ต่อไปวันดี ๆ แบบนี้จะมีให้มาก!”เขาไม่รบกวนการกินอาหารของพวกเขา เมื่อเขาเดินออกจากกระโจมเฉิงจื่อเซียวก็ตามเขาออกมาด้วย“ท่านน้าเขย...”เฉินขุยมองเจ้าเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นักหลานสาวของเขาต้องทนลำบากมากมายเพราะเขา แถมลูกน้อยร่างกายก็อ่อน
เหล่าสตรีอาบน้ำอยู่ต้นน้ำ บุรุษอาบน้ำอยู่ปลายน้ำ ห่างกันสองลี้ฮูหยินเฉินยังส่งคนนำผ้าเช็ดตัวและสบู่อาบน้ำมาให้พวกเขาบรรดาหญิงสาวต่างประหลาดใจเมื่อพบว่า สบู่ก้อนหนึ่งเหมือนกับไขมันหยก สามารถถูจนเกิดฟองและล้างคราบสกปรกออกจากร่างกายได้อย่างหมดจดแถมยังทิ้งกลิ่นหอมจาง ๆ ไว้อีกด้วยพวกผู้ชายก็ได้พบเช่นกัน เมื่อถูสบู่ให้เกิดฟองตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างกายของพวกเขาก็สะอาดหมดจดหลังจากที่ทุกคนอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้ว โจ๊กที่เตรียมไว้สำหรับหนึ่งแสนคนก็พร้อมพอดีเพื่อป้องกันกระเพาะอาหารที่ยังอ่อนแอของพวกเขา ในโจ๊กจึงใส่เพียงไข่ไก่และเกลือเล็กน้อยเท่านั้นคนหนึ่งแสนคนที่หิวโหยมากว่าหนึ่งปี เมื่อได้ประคองถ้วยข้าวต้มร้อน ๆ ไว้ในมือ หลายคนถึงกับน้ำตาคลอเด็กน้อยคนหนึ่งที่ประคองโจ๊กข้าวขาวอยู่ในมือ ร้องไห้พูดกับสตรีว่า “ท่านแม่ นี่คือโจ๊กข้าวขาว หากท่านพ่ออยู่ได้นานอีกสักสองสามเดือน ท่านก็คงจะได้กินโจ๊กนี้ด้วย!”หญิงสาวประคองโจ๊กข้าวขาว ร้องไห้ออกมาทันที!หากพ่อของลูกในตอนนั้นยอมเป็นทหารหนีทัพหนีมาที่ด่านเจิ้นกวน...ก็คงจะมีชีวิตรอดส่วนเหล่าทหารผ่านศึกบางคนก็ลอบปาดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ
“นับตั้งแต่วันที่เจ้าตกลงร่วมมือกับฉีซวนเหิง เจ้าก็กลายเป็นคนตายสำหรับข้าไปแล้ว!”“ตอนนี้ข้าจะพูดเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ใครอยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน คืนนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเจ้า”“ผู้ที่ปฏิเสธ สังหารให้หมด!”ตูม~เมื่อเสียงจบลง ทหารใต้บัญชาของสวีหวยทั้งหมดรีบเข้าไปในกระโจมเพื่อเก็บสัมภาระอย่างรวดเร็วส่วนคนใต้อาณัติของหลี่หู่ที่ถือดาบ จะเข้าเมืองก็ไม่ได้ จะอยู่ต่อก็ไม่เหมาะเฉิงจื่อเซียวถลึงตาใส่พวกเขา “ยังไม่รีบไปอีก รอให้ถูกยิงตายหรือไง?"พวกเขาถึงได้สติกลับมา แม้แต่ของก็ยังไม่ทันเก็บ รีบตามกองทัพส่วนใหญ่เข้าไปในเมือง*หนึ่งแสนชีวิต~ทหารใต้บัญชาของสวีหวยทั้งหมดเคลื่อนพลเข้าสู่ด่านเจิ้นกวนขบวนทัพอันยิ่งใหญ่และคึกคักเดินผ่านประตูเมืองไปอย่างต่อเนื่อง พวกเขามองถนนในเมืองที่กว้างขวางและเรียบเนียนใต้ฝ่าเท้าด้วยความประหลาดใจ พื้นทางเดินปูด้วยปูนซีเมนต์อย่างเรียบเนียนสองฝั่งของถนนเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่ถูกทาด้วยสีขาวสดใหม่ ภายใต้แสงไฟในยามค่ำคืนดูโดดเด่นสะดุดตาสิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจที่สุดคือ เสาไฟริมถนน...มันไม่ใช่โคมไฟที่ต้องจุดด้วยน้ำมัน แต่กลับเป็นไฟพลั
หญิงสาวตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว นางกอดลูกไว้ในอ้อมอก ดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตา จ้องมองคมดาบที่ยกสูง! ฟิ้ว ลูกธนูพุ่งทะลุหน้าอกของทหารที่ชูดาบ ร่างของเขาทรุดลงในทันที เฉินอู่ถือลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมือง พร้อมตวาดด้วยเสียงเกรี้ยวกราด “ข้าเคยสังหารกองทัพศัตรูมาแล้วห้าแสนคน! กล้าลงมือหน้าประตูเมืองของข้า พวกเจ้าคิดว่าชีวิตตัวเองยืนยาวนักหรือไง?” “ทุกคนวางอาวุธลงให้หมด หากกล้าทำร้ายสตรีและเด็ก ข้าจะสังหารโดยไม่ละเว้น...!” บนกำแพงเมืองตะวันตก พลธนูยืนเรียงเป็นแถวดึงธนูเล็งเป้าที่ประตูเมืองตะวันตก กองทัพตระกูลจ้านยกดาบม่อเตาขึ้นทหารใต้บัญชาของสวีหวย ต่างชักอาวุธทองสัมฤทธิ์ออกมา หมายจะขัดขวางครอบครัวทหารที่พยายามหนีไปพึ่งพาด่านเจิ้นกวนบรรยากาศทั้งสองฝ่ายเริ่มตึงเครียด ดาบและธนูถูกเตรียมพร้อมจะปะทะกัน สวีหวยถูกหามขึ้นเปล มือกุมหน้าอก พลางเอ่ยสั่งหลี่หู่ด้วยน้ำเสียงยากลำบาก “อย่า...อย่าให้ผู้ใด ออกจากค่ายไปได้!” “ผู้ใดฝ่าฝืน สังหารทันที!” สิ้นคำสั่งของเขา เฉิงจื่อเซียวพาทหารที่สูญเสียภรรยาและลูกจากการสังหารหมู่ของกองทัพเผ่าหมานเมื่อคืน รวมถึงหัวหน้าทหาร เดินออ
“ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ
จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็
*หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข
*จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม