ฉีซวนเหิงเก็บท่าทางล้อเล่นไม่จริงจัง กำชับเยว่หงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า“หากถูกกองทัพฉู่ได้ตัวไปก่อน ก็จงฆ่าปิดปากจ้านเฉิงอิ้นเสีย” “หรือหากกองทัพฉู่ถามถึงเรื่องเทพเจ้า หรือของวิเศษใดขึ้นมา ก็จงสังหารเขาเสีย ณ เพลานั้นเลย!”ดวงตาของเขาเยียบเย็นแข็งกร้าว ผสานจิตสังหารอยู่ภายใน ขณะมองดูหลิงเซี่ยวเฟิงที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำกองทัพแห่งแคว้นฉู่ และบุตรชายผู้โง่เขลาทั้งสองของเขาหากแคว้นฉีไม่อาจได้ของวิเศษมา ก็ย่อมไม่อาจให้แคว้นฉู่ได้ไป!เขายอมที่จะทำลายมันทิ้ง แต่จะไม่ยอมให้แคว้นฉู่ได้พัฒนากำลัง!เยว่หงคุกเข่าลงครึ่งหนึ่งแล้วก้มศีรษะลง มือซ้ายวางทาบอยู่บนหน้าอกด้านขวา นางค้อมศีรษะลงด้วยความเคารพอย่างจริงใจ“หม่อมฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพคะ”“อื้ม จ้านเฉิงอิ้นติดโรคระบาด จากนี้ไม่กี่ชั่วยามจะไข้ขึ้นสูงจนตาย ก่อนเขาตาย สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องหาตัวเทพเจ้าออกมาให้ได้”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”เมื่อเยว่หงถอยออกมา ก็เรียกผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจได้ไปดำเนินการแล้วเรียกตัวหน่วยลอบสังหารมาห้าสิบคนพวกเขาไม่จำเป็นต้องตีเมือง เพียงต้องจับตามองหลิงเซี่ยวเฟิง หลิงอวิ๋นเจ๋อ และหลิงซื่อเฉินไว้ให
พบว่าอุณหภูมิกลับต่ำกว่ามือของเขาเสียอีก ศิษย์น้อยหายไข้แล้วจริง ๆ!“ศิษย์ข้า เจ้ากินยาแล้วหรือ?”เด็กรับใช้แพทย์ตัวน้อยหยิบไอบูโพรเฟนครึ่งเม็ดออกมา โบกไปมาที่เบื้องหน้าของซ่งอวิ๋นฮุย“ท่านอาจารย์ หลังจากที่ข้ากินยาเม็ดนี้ลงไป แล้วงีบหลับไปในห้องของบรรดาน้องชายและน้องสาวครู่หนึ่ง พอตื่นมาก็ไม่ปวดหัวแล้วขอรับ”“ใช่แล้วขอรับ พวกเขาก็กินยาชนิดเดียวกับข้า เวลานี้ พวกเขาสามารถดื่มน้ำและกินโจ๊กใสได้เล็กน้อยแล้ว เมื่อครู่ท่านหมอหลินก็ไปดูแล้วขอรับ!"ศิษย์น้อยบรรยายอย่างออกรส แสดงสีหน้าท่าทางนั้นถูกแสดงออกมาอย่างเกินจริง“ท่านหมอหลินถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นเลยขอรับ ตะโกนว่าสวรรค์ทรงเมตตา ในที่สุดโรคระบาดในด่านเจิ้นกวนของพวกเราก็มีทางช่วยแล้วขอรับ!"ขาของเฉินขุยที่ก้าวออกไป ถูกชักกลับมาในทันที เขาหันมาถามเด็กรับใช้แพทย์ตัวน้อยว่า“ยานี้ ได้ผลขนาดนี้เชียวหรือ?”เด็กรับใช้แพทย์พยักหน้าหงึกหงึก “เป็นเรื่องจริงขอรับ ท่านแม่ทัพ”เฉินขุยพึมพำกับตนเอง “มีทางรอดแล้ว ด่านเจิ้นกวนมีทางรอดแล้ว!”“ล้วนเป็นเพราะท่านเทพ…มิเช่นนั้น ภายนอกมีทัพใหญ่ประชิดเข้ามา ภายในก็มีโรคระบาดแพร่ไปทั่ว ด่านเจิ้นกว
“ด่านเจิ้งกวนรอดแล้ว แคว้นฉู่แคว้นฉีคิดจะใช้โรคระบาดทำลายพวกเรา พวกเขาคำนวณผิดไปแล้ว เพราะพวกเรามีท่านเทพ!”“ท่านเทพได้ช่วยพวกเราจากความทุกข์ยากอีกครั้งแล้ว!”อู๋ซานหลางตาแดง กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “แม้แต่พินัยกรรมข้าก็เขียนไว้เรียบร้อยแล้ว ยาพิษของทุกคนในบ้าน รวมถึงเหล่าข้าทาสบริวารก็เตรียมไว้แล้ว คิดไม่ถึงว่า ยานี่จะลดไข้ได้จริง ๆ!”จ้านเฉิงอิ้นตบไหล่อู๋ซานหลาง“ท่านเทพไม่มีทางไม่สนใจพวกเรา ตั้งสติหน่อย จากนี้ไป การร่วมมือกันโจมตีเมืองของศัตรูทั้งสามฝ่ายกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!"ทุกคนต่างก็สงบสติอารมณ์ลง จากนั้นเริ่มรับมืออย่างจริงจังเพราะต่างเข้าใจดีว่า ก่อนที่ท่านเทพจะส่งระเบิดและอาวุธมา ต่อให้พวกเขาจะมียาลดไข้ แต่กำลังการต่อสู้ก็มิได้ฟื้นฟูไปถึงจุดสูงสุดในอดีต จำนวนของทัพศัตรูมีมากเกินไปจริง ๆ แม้จะใช้ทหารของทัพศัตรูสิบคนรับมือกับทหารต้าฉี่หนึ่งคน ก็ยังเหลือเลยครั้งก่อนที่พวกชนะได้ ล้วนอาศัยอุปกรณ์ที่มีความล้ำหน้าเข้าช่วยทั้งสิ้นทว่ายามนี้…ทุกคนต่างมองไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยความกังวลมือของจ้านเฉิงอิ้นจับกระดาษสีขาวแน่น เขากุมพู่กันไว้ทุกครั้ง เมื่อพวกเขาพบเรื
กองทหารชาวหมานสองแสนนาย ยิ่งเข้าใกล้ด่านเจิ้นกวนเข้ามามากขึ้นทุกที!ผู้นำคือม่อเป่ยอ๋องหลัวซู่ ดวงเนตรอันน่าหวาดหวั่นดั่งพญาอินทรีของเขา คอยเพ่งมองอากาศยานไร้คนขับที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไปอย่างไม่ละสายตาในตอนที่มั่วฝานคิดจะบินต่ำไปยั่วยุเขานั้น…เขาก็รับธนูใหญ่คันหนึ่งจากองครักษ์ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เล็งไปที่อากาศยานไร้คนขับ…มั่วฝานบังคับให้อากาศยานไร้คนขับบินสูงขึ้น คิดจะหลบจากระยะของลูกธนูฟิ้ว!อากาศยานไร้คนขับตัวที่สองถูกยิงโดน ตกลงสู่พื้นจากนั้นก็ถูกม้าตัวใหญ่ที่หลัวซู่ขี่ ย่ำจนแหลกเป็นชิ้น ๆ ในทีเดียว!มั่วฝานเคยพบกับความอัปยศเยี่ยงนี้ตั้งแต่เมื่อใด เขาตะโกนอย่างหยิ่งผยองว่า “เขาดูถูกข้า เขาดูถูกข้าอย่างโจ่งแจ้งเลย!”“สักวัน ข้า รัฐทายาทผู้นี้จะต้องฆ่าเขาแน่!”เฉินขุยกล่าวว่า “อย่าได้ร้อนใจไป มีโอกาสอีกมากมาย!”หลังจากนั้นทุกคนก็ปรึกษาหารือกันว่า หากทัพศัตรูโจมตีเมือง ควรทำเช่นไรดี?จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ตลอดเช้า ข้ามิได้ปรากฏตัวบนกำแพงเมืองเลย พวกเขาย่อมจะคิดว่าข้าติดโรคระบาดแล้ว”“ข้าจะนำกองทหารดาบม่อเตาสองพันนาย ออกจากทางลับเข้าโจมตีที่ด้านข้าง”“ส่วนพวกเจ
หลิงเซี่ยวเฟิงเห็นภาพนี้ ดวงตาร้อนผ่าวด่านเจิ้นกวนมีน้ำจริงด้วย!น้ำที่พ่นออกมาจากท่อน้ำ ไม่ได้ออกเหลืองหรือสีเข้ม แต่เป็นน้ำใช้ดื่มใสสะอาด!ตั้งแต่วินาทีนี้ เขาตั้งมั่นจะยึดด่านเจิ้นกวนให้ได้ จะแย่งแหล่งน้ำ ให้ทหารเผ่าฉู่ทุกคนมีชีวิตดำเนินต่อไป!ฮ่องเต้แคว้นฉีฉีซวนเหิง วินาทีที่เห็นน้ำ เขายืนขึ้นจากเกี้ยวที่นั่งนุ่มทันทีเขามีอาการตื่นเต้นและบ้าคลั่ง พลางตะโกนเสียงดัง “น้ำ เยว่หง ด่านเจิ้นกวนมีน้ำจริงด้วย!”“ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“แหล่งน้ำนี้เป็นของแคว้นต้าฉีคงจะดี!”เยว่หงตั้งปณิธาน กล่าวอย่างเป็นภาระหน้าที่ของตน “กระหม่อมจะแย่งมาเพื่อแคว้นต้าฉีพ่ะย่ะค่ะ!”ช่วงเวลาที่น้ำพ่นออกจากท่อน้ำทหารทั้งแคว้นฉู่และแคว้นฉีตกอยู่ในสภาพสติฟั่นเฟือนทุกคนพวกเขาล้วนกินรากไม้ ฆ่าม้า ฆ่าวัว กินเนื้อดิบ ดื่มเลือดสด…กี่วันแล้วที่ไม่ได้ดื่มน้ำ?ตอนนี้แม้แต่ฉี่ก็แทบฉี่ไม่ออก หากขาดน้ำต่อไป คนจะตายเพราะกระหายน้ำเป็นแน่วันนี้ ด่านเจิ้นกวนมีน้ำ พวกเขาทุกคนอยากดื่มสักอึกอยากดื่มจนแทบบ้าความจริงแล้ว เยว่หงเคยคิดไว้ ถ้าจ้านเฉิงอิ้นไม่ทำเด็ดขาดถึงขนาดขโมยม้าไปหลายพันตัวเช่นนี้ บ
เย่มู่มู่เห็นภาพนี้ น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างอดไม่ได้เธอเกิดในยุคแห่งสันติภาพ ได้รับความรักจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ไม่เคยต้องลำบากเวลานี้ เธอกำลังดูสงครามเปลือยเปล่าเป็นครั้งแรกมันโหดร้ายเกินไป!เพลิงไฟรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ห่าฝนลูกธนูอันหนาแน่นบนท้องฟ้าก็บินลอยลงมาไม่หยุดห่าฝนลูกธนูมาพร้อมน้ำมันตะเกียงถุงเล็ก ร่วงลงบนด้านบนกำแพงเมือง ทำให้เพลิงไฟรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องคราวก่อนชาวเมืองแคว้นฉู่สู้ไม่ไหว ครั้งนี้เลยใช้ไฟจู่โจมถ้าหาก เย่มู่มู่ไม่ส่งยาลดไข้ไปให้ผู้ป่วยมีไข้สูง อดทนอยู่กับอุณหภูมิสี่สิบองศา หนำซ้ำยังต้องถูกไฟเผา…เช่นนี้จะมีใครทนไหว?เย่มู่มู่ใช้แท็บเล็ตดาวน์โหลดวิธีใช้งานของถังดับเพลิง หัวดับเพลิง เครื่องสูบน้ำทันที…แล้วจึงส่งแท็บเล็ตกลับไปอีกครั้งจากนั้น เธอเขียนลงกระดาษเปล่าหนึ่งใบ “รอข้าครึ่งชั่วโมง ไม่ ยี่สิบนาที ข้าไปซื้อถังดับเพลิง ท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้ดับเพลิง!”“ใจเย็นก่อนนะ ข้าโทรเร่งเจ้าของโรงงานแล้ว เขาจะมาถึงภายในสี่สิบนาที!”หลังจากหย่อนกระดาษลงไปเสร็จเธอตามหาร้านขายอุปกรณ์ดับเพลิงที่อยู่ในเมืองนี้ตามแผนที่กูเกิลแมพครั้นหาเจอสองร้านค้า เธอโทร
คุณภาพดีเหมือนครั้งก่อนทุกอย่างเธอโอนค่าสินค้าให้เจ้าของโรงงานไป พร้อมชักชวนเจ้าของโรงงานไปกินข้าวที่บ้านพักตากอากาศ พักผ่อนหนึ่งคืนแล้วค่อยกลับไปเจ้าของโรงงานกับคนขับขึ้นรถเรียบร้อย พร้อมกล่าวว่าที่โรงงานยังทำงานอยู่ เขาต้องกลับไปทำงานการเก็บเงินครั้งนี้ เธอจ่ายเงินให้เจ้าของโรงงานไปหลายร้อยล้าน เขาฉีกยิ้มจนรูปปากบิดเบี้ยวหลังจากส่งพวกเขาเสร็จ เย่มู่มู่เขียนข้อความในกระดาษแผ่นหนึ่ง แล้วหย่อนลงในแจกันเธอปิดสวิตช์ไฟ ตัดกล้องวงจรปิด และปิดประตูม้วนของโกดังสินค้าลอบจัดส่งอุปกรณ์สวมใส่ไปให้ด่านเจิ้นกวน*ด่านเจิ้นกวน บนกำแพงเมือง มีทหารชั้นผู้น้อยนับสิบคนทำการเปิดวาล์วถังดับเพลิงและเริ่มดับไฟ!ถังดับเพลิงพ่นโฟมสีขาวออกมา ปกคลุมไปทั่วพื้นดิน มันทำให้ไฟดับลงได้จริง ๆวินาทีที่ไฟดับลง นายทหารนับไม่ถ้วนถึงแม้ยังมีไข้ แต่ล้วนส่งเสียงโห่ร้องดีใจทุกคน“ดับแล้ว!”“เพลิงไฟดับสนิทแล้ว”“ฮ่า ๆ ๆ ของสิ่งนี้น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เรียกว่าถังดับเพลิง ก็สามารถดับไฟได้จริง ๆ ด้วย!”เปี้ยนจื่อผิงยังลากเครื่องสูบน้ำมาด้วย เครื่องสูบน้ำสิบกว่าเครื่องทำการราดน้ำขึ้นบนกำแพงเมืองจุดเกิดเพลิงไฟ
วันนี้การเพาะปลูกไม่ออกผลบ้านเมืองแตกแยกไม่สงบสุข ระเบียบสังคม ความถูกต้อง ความยุติธรรม ศีลธรรม เกียรติยศได้ถูกละทิ้งไปนานแล้วทุกแว่นแคว้นเพื่อให้อยู่รอดต่อไป จึงใช้ทุกวิถีทางและทำอย่างสุดกำลัง!ผู้นำทั้งสามฝ่ายรวมตัวกันอย่างง่ายและเริ่มวางแผนการรบ!แคว้นฉู่กับแคว้นฉีสองแคว้นนี้ไม่มีรถกระทุ้งกำแพงเมือง แต่ว่าม่อเป่ยมีก่อนออกเดินทาง ได้สั่งทำออกมาแล้วห้าสิบคันหลิงเซี่ยวเฟิงปริปากกล่าว “ต้าฉู่ของข้าขอห้าคัน!”ฮ่องเต้แคว้นฉีฉีซวนเหิงกำลังโบกพัด “แคว้นฉีอยากได้ห้าคัน”ม่อเป่ยอ๋องหัวเราะ “ยังไม่มีใคร ไม่เสียเงินแม้แต่ครึ่งสตางค์ แล้วได้ผลประโยชน์จากมือของข้าหรอกนะ!”“แหล่งน้ำ ข้าขอสี่ส่วน…ถ้าตกลง ข้าจะให้รถกับพวกท่าน”“ไม่ตกลง ไม่มีทาง!”หลิงเซี่ยวเฟิงกับฉีซวนเหิงมองเขาอย่างเกรี้ยวกราดเขาหัวเราะดังลั่นอย่างไม่สนใจ ดวงตาสองข้างจ้องเครื่องสูบน้ำไม่ขยับสายตา“ของสิ่งนั้น ข้าต้องการแบ่งมาหนึ่งส่วน…”เขายังแสดงความต้องการไม่หยุด~ตอนนี้ เขาไม่รู้ความยอดเยี่ยมของดาบม่อเตากับหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ถ้าเขารู้ ต้องขอส่วนแบ่งอีกหนึ่งส่วนเป็นแน่หลิงเซี่ยวเฟิงและฉีซวนเหิง ในใจรู้สึกโมโหอย
“ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ
จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็
*หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข
*จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม
จ้านเฉิงอิ้นกล่าวหยุดเฉินขุย“เจ้าออกไปทางลับ ถ้ามีคนยอมติดตามกองทัพตระกูลจ้าน นำตัวกลับเข้ากองทัพ!”“ขอรับ แม่ทัพ!”“สำหรับสวีหวย ข้าไม่ลงมือฆ่าเขาด้วยตนเอง ถือว่าให้ความเมตตาที่สุดแล้ว!”“พระราชโองการนั่นที่เขากล่าวถึง ข้าออกรบชนะศึก ฮ่องเต้จะยกให้คนอื่นมารับช่วงด่านเจิ้นกวนต่อได้อย่างไร ต้องเป็นของปลอมแน่!”เฉินขุยเฉินอู่พยักหน้าซ้ำ ๆ เห็นด้วย“ใช่ เป็นของปลอม สวีหวยประกาศพระราชโองการปลอม ความผิดของเขาต้องฆ่าทิ้งทันที!”“เพื่อเพิ่มความปรีดาให้แก่ท่าน ข้าน้อยจะไปกวาดล้างคนเลวข้างกายฮ่องเต้ ตัดหัวสวีหวยผู้ประกาศพระราชโองการปลอมเดี๋ยวนี้!”สองพี่น้องนำคนและม้าออกจากเมืองไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรจ้านเฉิงอิ้นจึงนั่งลงอีกครั้ง เห็นมั่วฝานทอดมองแผ่นหลังที่กำลังจากไปของสองพี่น้องพร้อมกับขมวดคิ้วเขาจึงถามมั่วฝาน “เป็นอะไรไป?”“ตอนนี้ยังฆ่าสวีหวยไม่ได้!”“เพราะเหตุใด?”มั่วฝานนำสารลับที่ได้รับวันนี้จากไทเฮา ยื่นให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดสารลับอ่าน คิ้วยาวดุจดาบพลางขมวดเล็กน้อยมั่วฝานกล่าวต่อ “บุตรสาวของสวีหวยได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างมากในพระราชวังถูกแต่งตั้งให้เป็นกุ้
อำนาจทางการทหารของกองทัพตระกูลจ้านจะถูกส่งต่อให้กับคนอื่นกองทัพตระกูลจ้านไม่เป็นที่พอใจในสายตาของฮ่องเต้ตั้งแต่ต้นวันนี้พวกเขามีเสบียงมีน้ำ มีอุปกรณ์ติดตัวที่ยอดเยี่ยม…สมาชิกราชวงศ์ต้าฉี่ประพฤติตนไร้สาระ เสนาบดีซูขูดรีดพลเมืองสภาพการณ์ของชาวเมือง ไม่ต่างจากด่านเจิ้นกวนในเวลานั้นภายในแคว้นต้าฉี่มีอิทธิพลหลายกลุ่มเริ่มผนึกตัว เพียงแต่ถูกกำลังทหารสองแสนคนขวางไว้ถ้าชาวเมืองมีชีวิตต่อไปได้ ใครจะรวมพลก่อกบฏอีกเล่าทุกคนล้วนอยู่ภายใต้หนทางตัน สุดท้ายจึงจำใจเลือกเส้นทางนี้จ้านเฉิงอิ้นทำลายกองทัพพันธมิตรของแคว้นฉู่กับแคว้นฉีอย่างแสนสาหัส ทำให้กองทัพเผ่าหมานต้องถอยทัพด้วยความปราชัย ชื่อเสียงของเขาในหมู่พลเมือง อยู่เหนือกว่าสมาชิกราชวงศ์ไปมากฮ่องเต้ไม่อาจยอมรับเขาได้ถอดชุดเกราะเป็นเพียงก้าวแรก ยึดอำนาจทางการทหารของแม่ทัพแล้วยังไม่สบายใจต้องประหารชีวิตแม่ทัพอย่างแน่นอน!พวกเขามีมิตรภาพที่ผ่านความตายมาด้วยกันทั้งนั้น เผชิญความอดอยากด้วยกันในด่านเจิ้นกวน ฆ่าศัตรูในสนามรบไปด้วยกันยิ่งไปกว่านั้น แม่ทัพสามารถติดต่อกับท่านเทพเช่นนั้นแม่ทัพจะกลับเข้าเมืองหลวงไม่ได้ในเวลานี้ ทุ
ลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมืองราวกับเสียงประหลาดที่ดังก้องหู มันเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทหารใต้บังคับบัญชาของสวีหวยล้วนรู้สึกสนใจ!ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ สำหรับข่าวคราวที่ว่าด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีเสบียงอาหาร บางทียังยึดมั่นในความสงสัยวันนี้เมื่อเห็นบนกำแพงมีทหารชั้นผู้น้อยเฝ้าประตูเมือง กินข้าวโดยใช้กะละมังและดื่มน้ำอย่างตามใจโดยไม่รู้สึกสิ้นเปลือง!ชีวิตดี ๆ ที่พวกเขามี เทียบได้กับช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยไม่ ดีกว่าช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยเสียอีกชีวิตของทหารในด่านเจิ้นกวน เทียบเท่ากับตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหลวง ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างนับไม่ถ้วนล้วนเกิดแรงปรารถนาพวกเขาอยากเข้าไปในเมือง อยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน อยากมีข้าวสวยกินทุกวัน อยากมีน้ำที่ดื่มไม่หมดทุกคน!สวีหวยโมโหและดุด่า “ไปเรียกจ้านเฉิงอิ้นออกมา ข้ามารับช่วงด่านเจิ้นกวนพร้อมด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้!”ครั้งนี้ คนที่อยู่ใกล้กำแพงเมืองไม่กี่คน มองสวีหวยคราหนึ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ใดในสายตานั้น ไร้ซึ่งความเคารพและความกลัวของทหารที่พึงมีต่อแม่ทัพอย่างสิ้นเชิงใช้แววตาเรียบนิ่งมองสวีหวย กระทั่งแฝงความรังเกียจ
นายทหารหนึ่งในนั้นกลับยกกาน้ำแล้วเริ่มดื่มน้ำเนื่องจากดื่มเร็วและรีบเกินไป น้ำจึงไหลตามมุมปากลงมาที่ลำคอและทำให้คอเสื้อเปียกเขาไม่ประหยัดน้ำแม้แต่น้อย!จวบจนวินาทีนี้ ทุกคนจึงมั่นใจว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ มีเสบียง…นายทหารข้างล่างกำแพงเมือง เผยดวงตาอันแดงก่ำพวกเขาแทบอดไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วแย่งน้ำมาดื่มเองแย่งข้าวสารของพวกเขาแล้วกินเข้าไปเอง!พวกเขาอยากดื่มน้ำ อยากกินเนื้อมากจริง ๆที่ทำเกินไปยิ่งกว่านั้น โต๊ะที่ห่างจากกำแพงเมืองโต๊ะนั้น มีทหารหนึ่งคนถือกะละมังเคลือบเซรามิกไว้อันหนึ่ง ข้างในมีข้าวหุงสุกข้าวหุงสุกเป็นเม็ด ๆ ชัดเจน พวกเขาใช้กะละมังเคลือบเซรามิกที่ใหญ่กว่าหม้อมาใส่ข้าว และราดเต็มไปด้วยเนื้อกับผักเขานั่งยองบนกำแพงเมือง ใช้ตะเกียบหนึ่งคู่ปัดเข้าปากอย่างเต็มกำลังเขากินอย่างรวดเร็วและรีบเร่ง…จนนายทหารข้างล่างที่ทอดมองมา พากันกลืนน้ำลายไม่หยุดถ้าสามารถบินได้ พวกเขาจะบินขึ้นบนกำแพงเมืองและแย่งข้าวหุงสุกกะละมังนั้นมาจากเขาให้จงได้ทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าเมืองคนนี้ เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก อันเนื่องจากจ้านเฉิงอิ้นเดินทางไปกลับเมื่อคืนเขาเหนื่อ