แชร์

บทที่ 1(2)

ผู้เขียน: Stellar X
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-30 14:04:15

สองมืออันหยาบกร้านกราบลงบนตักของกิมลั้ง ผู้เป็นแม่อย่างนุ่มนวล

กิมลั้งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สีดำลวดลายมังกรสีเหลือง นางอยู่ในชุดกี่เพ้าสีแดงสด ใบหน้ายิ้มแย้ม กิมลั้งก้มลงลูบศีรษะของเฟยผู้เป็นลูกชายด้วยความนุ่มนวล ชายหนุ่มสวมเสื้อและกางเกงสีแดงสด เงยหน้าขึ้นมองแม่ของตนได้ชั่วครู่ เสียงประทัดก็ดังสนั่นลั่นประสานกันอยู่ด้านนอก เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ธนบัตรรัดด้วยยางวงอย่างดีจำนวนสองหมื่นกว่าบาทถูกวางลงอย่างบรรจงบนตักของนางกิมลั้ง ก่อนที่เฟยจะโผเข้าโอบกอดผู้เป็นแม่อย่างแนบแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ตรุษจีนปีนี้ ผมขอให้หม่าม้ามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ กิจการร้านค้ารุ่งเรือง ๆ นะครับ”

เฟยอวยพรแม่ของตนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่ยังคุมความทุ้มต่ำหนักแน่นของเสียงไว้ได้

กิมลั้งมองเข้าไปในตาของเฟย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสุกใสเหมือนอำพันแท้ที่ห้อยคอเฟยอยู่ ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยสัมผัสได้จากอาฟาง ผู้เป็นพ่อของเฟย

“เฟย ม้าพอมีเงินอยู่ ลื้อเก็บไว้ใช้เถอะ...ไม่ได้กลับบ้านเกือบสี่เดือน ลื้อผอมไปหรือเปล่า ทำงานลำบากมากไหม” กิมลั้งพูด ในขณะที่ลูบศีรษะลูกชายด้วยความรักและเอ็นดู

“หม่าม้า ผมขอโทษที่เรียนไม่จบ ทำให้ม้าเสียใจ ม้าครับ...ต่อไปเราจะไม่ลำบากอีกแล้ว ผมทำงานกับเถ้าแก่มาห้าปี พอมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งครับ เราจะปลูกบ้านใหม่กันนะครับ ผมให้สัญญา ผมจะกลับมาอยู่ดูแลหม่าม้า หม่าม้ารอผมนะครับ”

“ม้าไม่ต้องการเงิน ม้าต้องการให้เฟยกลับมาช่วยดูแลร้านค้าของเรานะลูก” กิมลั้งบอกขึ้น

“ม้าครับ เงินนี้เป็นเงินที่ผมเก็บสะสมไว้ตั้งแต่ชกมวย เป็นเงินสุจริต ม้าไม่ต้องกังวล ผมไม่ได้ปล้นจี้ใครมา เป็นเงินถูกกฎหมาย รับไว้เถิดครับม้า มันเพียงพอที่ม้าจะเอาไปลงทุนขยายร้านค้าได้” เฟยพยายามกลั้นเสียงสะอื้นขณะพร่ำบอกแม่ของเขา

กิมลั้งยังคงลูบศีรษะเฟยอย่างนุ่มนวล สิ่งเดียวที่ทำให้กิมลั้งทุกข์ใจหาใช่การเรียนไม่จบของเฟย คนเราต่อให้โง่เรียนไม่จบ หากขยันทำมาหากินย่อมเป็นเถ้าแก่ได้ในสักวัน แต่เพราะเธอรู้ว่าบุตรชายไม่ใช่คนเรียนไม่เก่ง เฟยเป็นเด็กหัวดีคนหนึ่ง แต่เพราะเฟยลิขิตชีวิตตนเอง พาตัวไปเข้าแก๊งกับผู้มีอิทธิพล และเฟยก็กลายเป็นคนที่สังคมไม่ยอมรับ เพราะงานที่เขาทำเป็นงานผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม แม้ว่าเฟยจะเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณคน รักครอบครัว และมีน้ำใจแก่ญาติพี่น้องก็ตาม

“ม้าครับ หากช่วยงานเถ้าแก่ครั้งนี้เสร็จแล้ว ผมจะกลับมาอยู่บ้าน ดูแลม้าและร้านค้าของเรานะครับ เอ่อ...คือ...ผมอยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น ม้าจะได้อุ้มหลานไงครับ”

กิมลั้งรู้ดีว่างานครั้งสุดท้ายที่เฟยบอกจะต้องเป็นงานที่เสี่ยงและผิดกฎหมาย หรือไม่ก็เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ไม่นะ! ความรู้สึกหนึ่งโพล่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นางจะยอมปล่อยให้ลูกชายกลับไปทำงานสกปรกแบบนั้นไม่ได้เป็นอันขาด!

กิมลั้งผละออกจากอ้อมอกลูกชายทันที นางจ้องหน้าเฟย และเริ่มพูดโน้มน้าวใจให้เฟยกลับตัวกลับใจก่อนที่จะสายเกินไป แต่เฟยยังคงใช้วิธีโผเข้าไปหอมแก้มแม่ของตน และทำท่าชูนิ้วสาบานเหมือนลูกเสือสำรองว่า งานนี้ไม่ผิดกฎหมาย เขามีหน้าที่แค่ขับรถให้เถ้าแก่ กับดูแลคนในบ่อนและบาร์เท่านั้น

“ม้า ผมบอกกับเถ้าแก่แล้ว ว่าจะขอกลับมาดูแลม้าเมื่อเสร็จงานนี้ ม้าสบายใจได้” เฟยกุมมือกิมลั้งพร้อมพูดย้ำ

“เฟย ลื้อไปไหว้เตี่ย และไหว้พระก่อนนะ แล้วค่อยไป” กิมลั้งยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนขอร้องผู้เป็นลูกให้ไหว้พระและรูปพ่อของเขาที่ล่วงลับไปแล้ว

กิมลั้งนับถือศาสนาพุทธ เรื่องไหว้พระไหว้เจ้าถือเป็นความเคร่งครัดอยู่เสมอ อย่างน้อยนางก็คลายความกังวลใจลงบ้าง เรื่องที่เฟยจะกลับมาช่วยนางดูแลร้านค้านั้น ลูกชายคงไม่โกหกแน่นอน รอยยิ้มที่มีความสุขเป็นอย่างไร มันเนิ่นนานเสียเหลือเกิน นานจนกิมลั้งจำไม่ได้เลยว่าเสียงหัวเราะในครอบครัว เมื่อครั้งยังมีผู้นำในบ้านเกิดขึ้นตอนไหน

หลังจากที่เฟยกราบพระและไหว้รูปเตี่ยของตนเรียบร้อยแล้ว กิมลั้งก็เดินมาส่งเฟยหน้าบ้านพร้อมอวยพรเสียงเครือ เฟยกุมมือแม่ของตน และย้ำว่าอีกไม่กี่วันตนจะกลับมา ขอให้แม่รอ จากนั้นชายหนุ่มก็เดินจากไป กิมลั้งรู้สึกราวกับว่า ใบไม้ใบเดียวที่มีค่าของตนกำลังจะปลิดปลิวลอยเคว้งไปตามลม ยากจะหวนคืนกลับสู่ลำต้น

เฟยเคลื่อนตัวผ่านซุ้มต้นวาสนาตรงประตูหน้าบ้าน ก้านใบบานบุรีเลื้อยตามลำต้นวาสนาจนถึงแนวรั้ว กิมลั้งสังเกตเห็นดอกบานบุรีที่เริ่มเฉาร่วงหล่นเกลื่อนพื้น นางใจหายอย่างประหลาดขณะเดินมาส่งเฟยถึงประตูบ้าน ชายหนุ่มหันมายิ้มให้คนเป็นแม่อีกครั้ง ก่อนจะขึ้นรถและขับรถออกไปจนลับตา...

ช่วงค่ำของวันเดียวกัน บนสะพานพุทธฯ ที่เบื้องล่างเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดคลื่นกระเพื่อมไหวเบา ๆ ร่างสูงสง่าของสองหนุ่มยังคงยืนนิ่ง ทอดสายตามองมหานที ครู่หนึ่งก็มีคนเอ่ยปากขึ้น

“เฟย งานนี้อันตรายสำหรับนายมากนะ ฉันเป็นห่วงว่ะเพื่อน กลัวนายพลาด”

“ผู้กอง ขอให้ไว้ใจเรา งานนี้นอกจากจะได้ตัวการใหญ่พร้อมหลักฐานทั้งหมดแล้ว ยังช่วยให้ชุมชนที่ฉันเกิดหมดสิ้นยาเสพติดเสียที ผู้กอง รับปากฉันสักเรื่องหนึ่งได้ไหม”

“วันนี้นายพูดแปลก ๆ นะ มีอะไรหรือเปล่าเฟย ที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกัน ไม่ใช่เพราะฉันเป็นตำรวจ นายเป็นสาย แต่นายเป็นเพื่อนของฉัน เราจับผู้ร้ายที่ล้วนมีฝีมือมีอาคมมานับร้อย เราผ่านมาได้หมด แม้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย แต่นายคือเพื่อนของฉัน อยากให้รู้แค่นี้”

“หากฉันมีโอกาสได้เรียนจนจบ ฉันคงสอบเป็นนายตำรวจเหมือนนาย รักษาเกียรติแห่งความเป็นตำรวจที่ดีไว้ตลอดไปนะผู้กอง รับปากสิ” เฟยพูดขณะยื่นมือไปจับมือของอีกฝ่าย

ผู้กองสัจจาพยักหน้ารับ ก่อนค่อย ๆ เพ่งมองเข้าไปถึงดวงตาของเฟย เขารู้สึกถึงคำว่า ‘อยากปล่อยวางชีวิต’ ในตัวเฟยแล้ว ความรู้สึกในดวงตาคู่นี้ที่เขาสัมผัสได้ ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ผิวน้ำเริ่มไหวกระเพื่อมแรงด้วยแรงลมที่พัดแรงขึ้น ทั้งสองยังคงยืนอย่างมั่นคง ทอดตามองแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทอดตัวไปไกลลิบ

“เฟย นายอย่าบอกนะว่านุชนภากับนายมีลูกด้วยกันแล้ว...เฮ้ย! เรานึกแล้วเชียว เป็นข่าวดีทำไมไม่บอกวะ เจ้าพลายเพลิงรู้รึยัง นี่พวกเราจะมีหลานแล้วหรือวะ ไอ้บ้า! ทำไมไม่บอกกันวะเฟย” ฝ่ายที่โพล่งขึ้นด้วยความดีใจกระโดดเตะก้นฝ่ายที่เรียกว่าเพื่อนเบา ๆ อีกฝ่ายได้แต่อมยิ้ม

“ยัง เรายังไม่กล้าบอกใคร พลายเพลิงก็ไม่รู้”

“เราดีใจกับนายด้วยจริง ๆ นายกำลังจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้วนะ เราคงไม่มีโอกาสมีครอบครัว เพราะอาชีพตำรวจไล่จับผู้ร้ายอย่างเรา คงยากที่จะมีเวลาดูแลใคร จบจากงานนี้ เราคงไม่รั้งนายไว้ แต่เรายังยืนยันคำเดิม นายมีหัวใจเป็นนายตำรวจที่ดี ดีกว่าตำรวจบางนายเสียอีก ผู้ใหญ่พร้อมจะสนับสนุนให้นายมารับราชการ เราไม่อยากให้นายปฏิเสธโอกาสนี้นะเฟย”

“ถึงเวลาที่เราต้องกลับไปดูแลแม่แล้วว่ะ เราภูมิใจนะที่ได้ช่วยเหลืองานตำรวจ ซึ่งเป็นอาชีพที่เราใฝ่ฝันมาตลอด เกือบสี่ปีแล้วนะที่เราทำงานร่วมกันมา เราภูมิใจที่ได้ช่วยเหลืองานกองปราบ และดีใจที่ได้รู้จักตำรวจมือสะอาดอย่างนาย”

“เฟย สำหรับเรา นายทำหน้าที่เหมือนนายตำรวจที่ดีคนหนึ่ง เมื่อไหร่ที่อยากสวมเครื่องแบบ เราพร้อมที่จะสนับสนุนนายนะเฟย”

“เราคงต้องกลับแล้วละผู้กอง รับปากเราอีกเรื่องหนึ่งสิ”

“หือ? วันนี้นายพูดแปลก ๆ สองครั้งแล้วนะเฟย มีอะไรหรือเปล่า”

“ผู้กองคือคนเดียวที่เราไว้ใจ หากเราเป็นอะไรไป ฝากนุชกับลูกเราด้วยนะ เท่าที่ผู้กองจะช่วยได้ ส่วนแม่ของเรา...”

“เฟย ถ้าเห็นเราเป็นเพื่อน ไม่ต้องกังวล เรารับปากว่าจะดูแลพวกเขา รวมทั้งแม่นายให้ดีที่สุด แต่เราจะไม่ให้นายเป็นอะไร เราสัญญา”

สัญญาณแห่งคำมั่นส่งผ่านดวงตาของผู้รักษากฎหมาย เพื่อให้อีกฝ่ายมีสัญญาณแห่งความมั่นใจที่จะมีชีวิตรอดเพื่อคนข้างหลัง ไม่ว่าสถานการณ์ใด ๆ ที่รออยู่ข้างหน้า ร่างสูงของทั้งสองยืนนิ่งมั่นคง ก่อนจะค่อย ๆ คลายมือที่จับกระชับกัน ผู้กองสัจจาเอื้อมมือไปวางบนไหล่เฟยเบา ๆ ก่อนจะบอกย้ำถึงความสำคัญบางอย่าง

“เฟย ระวังตัวด้วย แล้วเจอกันเพื่อน” สัจจาพูดทิ้งท้าย ก่อนที่เฟยจะยิ้มและหันหลังเดินจากไป สัจจายืนส่งเฟยจนลับตา

“หากบ้านเมืองเรามีคนที่ยึดมั่นในคุณธรรมแบบนายเยอะ ๆ แล้วละก็ เราทั้งสองคงไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้นะเฟย”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 2

    ชะตาชีวิตของคนบางครั้งกลับเลวร้ายขณะพยายามลดละจากสิ่งที่ทำให้ชีวิตตกต่ำ แม้จะเป็นมือขวาของเถ้าแก่โจว แต่การปกครองคนของเฟยนั้นแม้จะเด็ดขาดแต่ก็มีน้ำใจ ไม่กดขี่ข่มเหงผู้อื่น ทำให้ลูกน้องและพนักงานระดับต่าง ๆ ในสถานเริงรมย์ของเถ้าแก่โจวเคารพยำเกรงในความเป็นนักเลงคุณธรรมของเฟย คุณลักษณะเช่นนี้ทำให้เฮียกู๋ ผู้เป็นมือซ้ายของเถ้าแก่โจวเกิดความริษยาในตัวเฟย จึงคิดวางแผนใส่ร้ายเฟยว่าเป็นคนทรยศหักหลังเถ้าแก่ โดยวางยานอนหลับในอาหารในงานกินเลี้ยงของแก๊ง เพื่อให้เฟยและลูกน้องคนสนิทกับเถ้าแก่หลับด้วยฤทธิ์ยา“ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างข้าโว้ย ไอ้เฟย! เมื่อเอ็งตื่นมาความผิดทุกอย่างก็จะเป็นของเอ็ง เอ็งรู้ใช่ไหม ความผิดที่ทรยศต่อแก๊งมันเป็นอย่างไร” เฮียกู๋หัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ เพราะเบื้องหน้าเฟยกับลูกน้องนอนสลบไสลไม่ได้สติ “พวกเอ็งลากไอ้เฟยและลูกน้องมันกับเถ้าแก่ไปแยกขังไว้ก่อน ก่อนที่ไอ้เฟยมันจะตื่นขึ้นมาจัดการกับพวกเอ็ง เร็ว!”“ครับเฮีย”“เดี๋ยว! พวกเอ็งอย่าลืมเอาผงขาวมาซ่อนไว้ในห้องพักของไอ้เฟยและลูกน้องมันทุกคนด้วยนะ แล้วใช้เลือดจากศพมาทาบนเสื้อของพวกมันทุกคนด้วย เข้าใจไหม”“เข้าใจแล้วครับเฮีย”ห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 3

    ท้องฟ้ายังขมุกขมัวไร้ซึ่งเงาแสงตะวันสายฝนยังคงพร่างพรมลงมาตั้งแต่เมื่อคืนกระทั่งรุ่งสาง ทางเดินแคบ ๆ ทำจากแผ่นไม้กระดานสามแผ่นวางเรียงกันยกสูงจากพื้นราว ๆ ช่วงขาได้ บัดนี้เปียกและลื่นจากสายฝนที่ตกหนักทั้งคืน บางช่วงของไม้ผุเป็นร่องและกร่อนเป็นรู เฟยประคองนุชนภาที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีออกมาจากห้องเช่า และโบกเรียกแท็กซี่ให้มาส่งที่ตลาดน้ำแถวบางกรวยนุชนภาเห็นจี้อำพันแท้งดงามสุกใสที่คล้องคอเฟยก็อยากนำมาคล้องบ้าง ชายหนุ่มจึงถอดและนำมาคล้องคอให้หญิงสาว นุชนภายิ้มขอบคุณ และไม่ลืมเตือนเฟยให้หาซื้อของฝากไปให้แม่ของเขา เฟยรีบนำเงินจำนวนหนึ่งส่งให้นุชนภาเพื่อใช้ซื้อข้าวของ“เฟยช่วยนุชเลือกผลไม้ที่จะเอาไปฝากแม่เฟยหน่อยสิคะ นุชไม่ทราบว่าท่านชอบผลไม้อะไรบ้าง นะคะ...หือ? มีอะไรคะเฟย เหมือนระแวง มองโน่นมองนี่ตลอด ตั้งแต่ตอนเดินเข้ามาแล้วนะคะ”“เปล่าจ้ะนุช ไม่มีอะไรหรอก นุชอยากซื้อผลไม้ใช่ไหม ได้สิ เดี๋ยวผมพานุชไปเลือกซื้อเอง...นุช ขอบคุณมากนะที่นึกถึงแม่ของผม” เขาพูดด้วยรอยยิ้มจากนั้นเฟยก็ประคองหญิงสาวเดินไปริมคลอง บนเรือพายของแม่ค้ามีผลไม้มากมายให้ซื้อหา ขณะที่นุชนภากำลังเลือกซื้อผลไม้อยู่นั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 4

    หลังจากที่นุชนภาได้พบกับผู้กองสัจจา วันต่อมาเธอก็มาหาผู้กองหนุ่มที่สถานีตำรวจตามนัดหมาย เพื่อพูดคุยเรื่องงานของเธอและอนาคตของลูก หลังจากเมื่อคืนนี้หญิงสาวกลับมาคิดทบทวนว่าระหว่างงานเสมียนบนสถานีตำรวจกับงานโรงงาน เธอควรเลือกอย่างไหนดี ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจสมัครเข้าทำงานในโรงงานทอผ้าของชาวจีนไต้หวันตามคำแนะนำของเจ้าของห้องเช่า เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยทำงานออกแบบผ้ามาก่อน โรงงานแห่งนี้ผลิตผ้าส่งออกเพื่อนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อเชิ้ตของผู้ชาย โดยตัวโรงงานตั้งอยู่ในย่านบางพลี เธอจึงมาบอกให้ผู้กองสัจจาทราบ เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง นุชนภาเข้าไปทำงานในส่วนของฝ่ายควบคุมเอกสารแผนกดีไซน์แบบเสื้อ จึงไม่ต้องทำงานเข้ากะเหมือนฝ่ายผลิตนุชนภาพาลูกมาเช่าห้องแถวอยู่ใกล้โรงงาน ก่อนเริ่มทำงาน เธอได้จ้างผู้หญิงวัยกลางคนที่เช่าห้องใกล้กับเธอให้ดูแลลูกในตอนกลางวันช่วงที่เธอไปทำงาน เมื่อถึงช่วงพักเที่ยง หญิงสาวก็ขออนุญาตหัวหน้าออกมาให้นมลูก เธอโชคดีที่คนรับจ้างเลี้ยงลูกให้มีตู้เย็นในห้อง ตอนเช้านุชนภาจะบีบนมใส่ขวดและนำไปแช่ช่องฟรีซไว้ พร้อมทั้งกำชับให้พี่เลี้ยงนำขวดนมไปนึ่งก่อนป้อนให้ลูกกินผู้กองสัจจากับพลายเพลิงได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 4(1)

    ไม่มีใครสังเกตเห็นตะกร้าหวายที่วางอยู่บนโต๊ะไม้ข้าง ๆ ประตูทางเข้าโบสถ์ กิมลั้งซึ่งรอให้ฝนหยุดตกอยู่หน้าโบสถ์ ได้ยินเสียงสุนัขที่นอนหมอบใต้โต๊ะเห่าเรียก นางจึงหันไปมอง ทันใดนั้นก็เห็นเด็กทารกอยู่ในตะกร้า เป็นเด็กผู้ชายผิวขาวราวหยวกกล้วยนอนขดตัวในผ้าที่อุ่นหนา ไม่ร้องงอแงทั้ง ๆ ที่ฝนตกหนักฟ้าร้องตลอดเวลา กิมลั้งจึงแจ้งหลวงตามหามนตรี เจ้าอาวาสวัดให้รับทราบ และเจ้าอาวาสได้ฝากให้กิมลั้งช่วยดูแลไปก่อนในคืนนี้ นางยินดีและดีใจที่ได้นำเด็กทารกชายไปดูแล แม้เพียงช่วงหนึ่งนางก็แทบอยากจะขอรับเลี้ยงไว้เป็นลูกเป็นหลานเสียเอง นางพิศดูลักษณะของเด็กน้อยไปมา“เด็กเกิดในปีนี้ เป็นปีมะโรงค่ะหลวงตา ดูสิ...ผิวขาว หน้าผากกว้าง หางตาเชิดขึ้น มีสันจมูก หลังเท้าอวบอิ่ม นิ้วเท้าเรียงชิดกัน โตขึ้นคงมีวาสนาค่ะ” กิมลั้งบอก“เป็นเด็กลักษณะดีนะเนี่ยเรา ต่อไปในภายภาคหน้าเชื่อว่าเด็กคนนี้จะได้ดิบได้ดี อาจเป็นเจ้าคนนายคนคนหนึ่งเลยทีเดียว สันจมูกโด่งตั้งแต่ยังเล็ก คงเอาดีทางด้านบู๊และบุ๋น บ๊ะ! เจ้านี่ทั้งเรียนทั้งต่อยเลยนะ”หลวงตามหามนตรีอุ้มทารกน้อยกล่อมไปมา พลางดูลักษณะโหงวเฮ้งครบลักษณะทั้งหมด หลวงตาจึงบอกกิมลั้งว่าควร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30
  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 4(2)

    ทุก ๆ วันเวลาที่ล่วงผ่าน นุชนภาคอยนับวันจะได้กลับเมืองไทย นอกจากจะตามมาดูงานในโรงงานของสามีที่บางพลี นุชนภายังจะได้มาพบลูกชายของเธอ แม้ไม่เจอที่วัดในวันธรรมดา แต่ก็ไปพบที่โรงเรียน หรือในช่วงหน้าหนาวที่โรงเรียนมีแข่งกีฬาสี ก็จะมีเงินรางวัลปริศนาใส่ซองฝากอาจารย์ไปให้ ยามที่ทิวาลงเล่นฟุตบอลและได้รางวัลชนะเลิศความสุขของการได้คอยส่งเสริมเกื้อหนุนมาหลายปี ทำให้เธอปลื้มปริ่มอิ่มเอมจนเอ่อล้นออกจากตาไม่ขาดสาย ยิ่งได้ทราบจากหลวงตาว่าจะบวชสามเณรฤดูร้อนให้แก่เด็ก ๆ ละแวกนี้กับกลุ่มเด็กวัด ซึ่งรวมถึงทิวาด้วย ประธานจัดการเรื่องการบวชสามเณรฤดูร้อนที่นุชนภายื่นขอต่อหลวงตาจึงได้รับความเห็นชอบจากวัด นุชนภากับกิมลั้งแสนจะดีใจ เธอไม่ลืมที่จะบอกเนตรนภาน้องสาวคนเดียวของเธอให้มาร่วมทำบุญในงานบวชสามเณรของทิวาด้วย...ภายในพระอุโบสถ ทิวาและเพื่อน ๆ ทั้งหมดห้าสิบคนได้โกนหัวเป็นนาค กำลังวันทาพระประธานอีกครั้งด้วยวิธีอย่างเดียวกันกับวันทาสีมา ก่อนจะกลับไปนั่งยังสถานที่ที่จัดเตรียมไว้สำหรับนาค จากนั้นอาม่ากับนุชนภาร่วมกันมอบผ้าไตรให้นาค พร้อมกับครอบครัวของนาคคนอื่น ๆ“อาม่าคะ พี่นุช นี่ค่ะ” เนตรนภาเรียกกิมลั้งและพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 3(1)

    วันต่อมา หญิงสาวไปสืบเรื่องการตายของเฟยที่สถานีตำรวจ จึงทราบว่าตอนนี้ศพตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ไกลจากท่าเรือน้ำนนท์ เธอจึงขอให้หญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีคนหนึ่งซึ่งเช่าห้องใกล้กันกับเธอช่วยดูแลลูกให้ครึ่งวัน โดยเธอมีค่าตอบแทนให้นุชนภาบีบน้ำนมจากเต้าใส่ขวดและเก็บไว้ในช่องฟรีซ และได้กำชับให้คนช่วยดูแลลูกนำขวดนมมาอุ่นโดยใช้ที่นึ่งขวดนมทันทีหากลูกชายเริ่มร้อง จากนั้นจึงเร่งรุดไปยังวัดแห่งนั้น เพื่อเข้าไปกราบศพของสามีเมื่อไปถึงวัดดังกล่าว เธอพยายามสะกดกลั้นไม่ให้ร้องและมีน้ำตาเพราะเกรงว่าญาติของเฟยจะสงสัย ซึ่งที่นี่นุชนภาได้พบกิมลั้งเป็นครั้งแรก เธออยากเข้าไปกราบแทบเท้าอีกฝ่ายที่สุด แต่ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัว คิดว่าตนเองต้อยต่ำ ทั้งยังเคยทำงานเป็นผู้หญิงกลางคืนมาก่อน แม้จะไม่ได้เป็นโสเภณีก็ตาม แต่มันก็เพียงพอที่จะตอกย้ำว่า เธอไม่คู่ควรที่จะถูกเรียกว่าเป็นลูกสะใภ้ของกิมลั้งได้เลย!ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ทำให้ต้องเผชิญกับคำว่า ‘ตกเขียว!’ นุชนภาตั้งใจเก็บงำความลับนี้ให้มิดที่สุด จึงแนะนำตัวเองว่าเป็นเพื่อนรุ่นน้องในที่ทำงานเดียวกับเฟย“หนูเป็นเพื่อนของเฟยใช่ไหม มากินต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 5

    กาลเวลาหมุนผ่านไป หลายชีวิตย่างเข้าสู่วัยชรา เกิดแก่เจ็บตาย ย่อมมิมีผู้ใดหลีกหนีพ้น คุณตาคุณยายแท้ ๆ ของทิวาที่อยู่ภาคเหนือเริ่มโรยราและตายจากไป ครอบครัวเล็ก ๆ จึงเหลือเพียงเนตรนภา ผู้มีศักดิ์เป็นน้าสาวแท้ ๆ ซึ่งตอนนี้ได้มาเรียนและทำงานที่กรุงเทพฯ โดยนุชนภาส่งเงินมาช่วยเหลือเป็นระยะ ๆนุชนภาโชคดีที่มีน้องสาวเป็นคนขยันและตั้งใจเรียน กระทั่งสอบเข้าเรียนหลักสูตรพยาบาลทหารเรือได้ หลังจากเรียนจบทำงานก็ได้สมรสกับนายทหารเรือหนุ่มยศสัญญาบัตร ในงานแต่งงานของเนตรนภา กิมลั้งและทิวาได้รับเชิญให้มาร่วมงานด้วยเนตรนภารู้สึกถูกชะตากับทิวามาก เหมือนว่ากิมลั้งและทิวาเป็นคนในครอบครัวเธอ หญิงสาวรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ สิบกว่าปีมานี้ ทิวาและเพื่อนเด็กวัดคนอื่น ๆ ได้รับความอนุเคราะห์ทั้งจากเนตรนภาและนุชนภามาตลอด ทั้งเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ ทุนการศึกษา และเงินรางวัลหากมีผลการเรียนดี สองพี่น้องช่วยกันเติมเต็มส่วนที่ขาดเหลือให้กับเด็ก ๆ ทุกคนเรื่อยมาเมื่อแขกเหรื่อทยอยกลับกันเกือบหมด เนตรนภาจึงมีโอกาสเข้ามาพูดคุยกับกิมลั้งและทิวา“ทิวา หากวันไหนเธอลำบากหรือขัดสน อย่าลืมว่ายังมีน้าเนตรอีกคนนะลูกนะ”“ขอบคุณครั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 5(1)

    “เสือหนีไป!” เสียงหนึ่งตะโกนดังลั่นพร้อมกับพุ่งตัวเข้ามา ก้อนหินหนักเฉียดกายเสือไปไม่ถึงช่วงแขน ร่างของทิวาล้มทับปอนด์ แต่สองมือยังคงกอดรั้งไม่ให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมาทำร้ายเสือได้อีก“ปล่อย! ไอ้ทิวาปล่อยกู ยังอีก พวกมึงรุมกระทืบมันเลย เร็ว!”พลั่ก ๆๆ ผัวะ ๆๆ ฝ่าเท้าเด็กผู้ชายหลายคู่ทั้งเหยียบทั้งย่ำทั้งเตะลงบนลำตัวของทิวา ทว่าไม่มีเสียงร้องแสดงความอ่อนแอหรือเจ็บปวดให้ได้ยิน มีแต่เสียงตะโกนบอกให้เสือหนีไปเท่านั้น“ทิวา! พวกมึงหยุดทำร้ายเพื่อนของกูเดี๋ยวนี้นะ!”ด้วยความคับแค้นใจ หัวใจของเด็กที่เติบโตขึ้นมาโดยมีบาดแผลทางใจ เมื่อชีวิตขาดแม่ โดนดูถูกเหยียดหยามซ้ำเติมปม แต่หากถูกรังแกถึงที่สุด ก็ไม่จำเป็นต้องยอมให้ถูกรังแกอีกต่อไป!เสือกระโดดถีบและไล่เตะแต่ละคนด้วยความคับแค้นใจ จนวิ่งหนีแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางบนพื้น ทิวายังคงกอดรัดปอนด์ไว้แน่น เสียงกำปั้นฟาดลงกลางหลังของทิวาไม่ยั้ง เสือเห็นดังนั้นจึงก้มลงจะหยิบท่อนไม้ข้างโรงอาหารขึ้นมา เพื่อจะทำสิ่งหนึ่งเมื่อเห็นเพื่อนกำลังถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่อง ทว่าภารโรงแก่ ๆ ดึงมือไว้ และบอกกับเสือเสียงเบาว่า“ทิ้งมันไปเสีย เชื่อลุงไอ้หนู ให้ครูลงโทษพวกม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07

บทล่าสุด

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 7(1)

    “ให้นึกเสียว่าทำบุญร่วมกันมาเพียงเท่านี้นะโยม โยมเฟยไปสบายแล้ว ที่เหลือก็ต้องประคับประคองกันไป แต่สิ่งที่ถือว่าประเสริฐก็คือทิวา เด็กที่มีพรสวรรค์ เรียนดี และมีวินัย หายากนะโยม หากดวงวิญญาณโยมเฟยรู้คงหมดห่วง เด็กที่กำพร้าพ่อกำพร้าแม่กลับตั้งใจเล่าเรียน ใช้ความขยันอุตสาหะมาเติมเต็มในสิ่งที่ขาดไป เมื่อเติบใหญ่ก็จะมีครอบครัวที่อบอุ่นแน่นอน อยู่ที่การเลี้ยงดูอบรมบ่มนิสัยนะโยม”“ค่ะหลวงตา...จากนี้คงอีกนานกว่าหนูจะได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง เพราะว่าลูกสาวคนเล็กจะเข้าเรียนแล้วค่ะ แต่หนูจะส่งของมาให้เด็ก ๆ เป็นระยะนะคะ”“ไม่ต้องห่วงหรอกโยม ทางนี้จะดูแลให้เอง โยมแน่ใจแล้วนะที่จะไม่บอกเรื่องนี้ให้โยมกิมลั้งรับรู้ไว้”“หนูรอให้ทิวาเรียนจบก่อนค่ะ หนูอยากให้ทิวากับอาม่ามีความสุขอย่างนี้ตลอดไป ถ้าหนูบอกตอนนี้ หนูกลัวว่าอาม่าจะคิดมาก คงกลัวว่าหนูจะรับทิวาไปอยู่ด้วยกันที่ไต้หวัน ดีไม่ดีแกล้มป่วยอีก จริง ๆ ไม่เคยคิดพรากทิวาไปจากอาม่าเลยนะคะหลวงตา แม้ว่าหนูจะทรมานใจแค่ไหนก็ตาม แต่อาม่าแกเลี้ยงของแกมา หนูทำอย่างนี้ถูกแล้วค่ะ”หลวงตาหามนตรีพยักหน้าเห็นด้วย ครู่หนึ่งจึงบอกให้นุชนภากับสาวใช้เข้ามาใกล้ ๆ เพื

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 7

    ช่วงสายของวันหยุดก่อนเทศกาลวันเข้าพรรษาของไทย ภายในพระอุโบสถทรงไทยของวัด ทิวา เสือ เล้ง และเพื่อน ๆ ที่เป็นเด็กวัดอีกห้าคน ต่างกระจายกันช่วยทำความสะอาดพื้นและหน้าต่าง บางส่วนช่วยกันแบกพรมไปตากแดดหน้าลานพระอุโบสถ ส่วนทิวาและเสือช่วยกันทำความสะอาดกระถางธูปและเชิงเทียนเล้งรวบน้ำตาเทียนที่จับตัวเป็นก้อนกับเถ้าธูปไปทิ้ง และกลับมาช่วยทิวาทำความสะอาดพระประธานและพระพุทธรูปต่อ ทิวาและเสือบิดผ้าพอหมาด แล้วบรรจงเช็ดทำความสะอาดจากฐานของพระประธานปางสมาธิสมัยสุโขทัย จนถึงหน้าพระพักตร์ พระอุโบสถนั้นมีหน้าบันปูนรูปกนกก้านขดช่อเทพนมอยู่กลางประตูด้านหน้าและด้านหลังด้านละสองประตู เสมาทำด้วยหินทรายแดงขนาดเล็ก เสมาหน้าอยู่ในซุ้มสี่เหลี่ยมมียอด เสมาอื่นเป็นแบบเสมานั่งแท่นใกล้กันเป็นหอระฆังสูง อันมีลักษณะทรงไทยดูอ่อนช้อยสวยงาม หลังจากทำความสะอาดในส่วนต่าง ๆ ในพระอุโบสถแล้ว เด็กทั้งหมดก็มาช่วยสามเณรล้างลานรอบพระอุโบสถ ถึงตอนนี้บรรดาเด็กวัดทั้งห้าคน หรือแม้แต่ทิวากับเสือต่างก็พลอยนึกสนุกไปด้วย ทั้งล้างทั้งเล่นฉีดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน ทำให้สามเณรต้องร่นถอยไปยืนพิงผนังข้างพระอุโบสถ ด้วยเกรงว่าอันตรวาสกและอัง

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 6(1)

    ในคืนนั้นเอง ทิวาบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ ความเจ็บปวดของร่างกายจากการชกมวยคาดเชือกมีเพียงผิวเผิน ไม่บอบช้ำถึงข้างใน แต่คำพูดของหลวงตาที่ตอกย้ำว่า หากพลาดสมองกระทบกระเทือนถึงขั้นพิการขึ้นมา ใครจะดูแลอาม่าในบั้นปลายชีวิตชัยชนะของทิวาจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าทันที ทิวาได้เงินรางวัลหลายพัน เพียงพอที่จะนำไปตัดแว่นสายตาดี ๆ ให้อาม่าและหลวงตา และยังเหลือให้อาม่าเก็บไว้ ทิวาเป็นเด็กหนุ่มที่มีความกตัญญูรู้คุณคน ไม่ว่าผู้ใหญ่ท่านใดที่เป็นศิษย์ของหลวงตาเอื้อเฟื้อให้ทำงานพิเศษอะไร ทิวาไม่เคยเกี่ยง ไม่เคยทำให้หลวงตากับอาม่าผิดหวัง เด็กหนุ่มทั้งขยันเรียนและทำงาน เพื่อหารายได้พิเศษ นอกเหนือจากช่วยงานอาม่าที่ร้านขายของชำตลอดจนขายทั้งสมุนไพรแบบจีนและไทยการที่ทิวามีพรสวรรค์ในการทำให้เพื่อน ๆ หรือผู้อื่นที่มีทัศนคติไม่ดีเปลี่ยนมาคิดบวก เช่นเดียวกับพ่อแม่ของเพื่อน ๆ ทิวา ที่ยอมรับและรักทิวาดุจลูกหลาน เพราะพวกเขาดีใจที่ลูก ๆ ของตนเปลี่ยนเป็นคนดีตั้งใจเรียนเพราะเอาแบบอย่างทิวา ลำพังเขากับภรรยาทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่ค่อยมีเวลาอบรมบ่มนิสัยลูกชายลูกสาว วัดได้รับการดูแลทำนุบำรุงพุทธศาสนามากขึ้นตามลำดับ เพราะศรัทธา

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 6

    เพลิงแห่งความเกลียดชังทิวากับเพื่อน ๆ เริ่มปะทุขึ้นในใจของนักการเมืองอย่างปี๊ด ยิ่งได้พบหน้าทิวาที่สถานีตำรวจ ปี๊ดยิ่งตะลึง ด้วยดวงหน้าและบุคลิกของทิวาละม้ายคล้ายกับคนคนหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนามทิ่มแทงใจเขามาจนถึงทุกวันนี้ ยิ่งคิดยิ่งแค้นยิ่งเหมือนไฟที่กำลังโหมแรงปี๊ดจึงได้คิดหาหนทางทำร้ายทิวากับเพื่อนเรื่อยมา แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะทิวา เสือ และเล้งได้รับการถ่ายทอดแม่ไม้มวยไทย รวมถึงการใช้อาวุธไทยโบราณทุกชนิดจากชายชุดขาวที่ได้เข้ามาช่วยชีวิตไว้ ซึ่งชายชุดขาวก็คือครูช้างเผือก เจ้าของค่ายมวยไทยที่เปิดอยู่ใกล้ ๆ กับวัดนั่นเอง ซึ่งหลวงตามหามนตรีจำได้ แม้ครูช้างเผือกจะปกปิดหน้าตาไว้ก็ตาม เนื่องจากคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในอดีตครูช้างเผือกเคยมีครอบครัวแสนอบอุ่น แต่ภรรยาพร้อมลูกสาวเสียชีวิตเพราะกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาในบ้านเพื่อตั้งใจมาฆ่าล้างแค้นครูช้างเผือก เพราะก่อนหน้านั้นครูช้างเผือกได้เคยช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่งไม่ให้ถูกพวกคนร้ายข่มขืน และครูช้างเผือกจำเป็นต้องป้องกันตนเองจากพวกคนร้าย เลยพลั้งมือฆ่าลูกพี่ของพวกมันตาย เมื่อคนที่เหลือออกจากคุกมาก็เลยผูกใจเจ็บ และสืบจนรู้ว่าบ้านอดีตนั

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 5(2)

    หลังจากที่โครงการต้านภัยยาเสพติดเดินหน้า เด็กวัยรุ่นในหลาย ๆ โรงเรียนเริ่มไม่อยากยุ่งกับยาเสพติด ปี๊ดเริ่มรู้ระแคะระคายว่า ทิวากับกลุ่มเพื่อน ๆ เด็กกำพร้าที่อยู่วัดริมน้ำนี่เอง ที่เป็นตัวการทำลายธุรกิจขายยาเสพติดของเขา จึงได้ส่งลูกน้องสามคนที่เป็นนักเลงคุมบ่อนไปขู่ทิวากับเพื่อน ๆ ถึงในวัด เพราะปี๊ดมั่นใจว่าอย่างไรเสียเด็กอย่างทิวากับเพื่อน ๆ คงกลัวและไม่กล้าทำโครงการนี้ต่อไป ขณะที่ทิวากับเพื่อน ๆ กำลังทำความสะอาดวิหารในช่วงวันหยุด กลุ่มชายฉกรรจ์ก็ปรากฏตัวขึ้นและตรงเข้ารุมทำร้าย“เดี๋ยวครับ ๆ พี่ทั้งสามเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมจู่ ๆ จะมาทำร้ายพวกเราล่ะ” ทิวาละล่ำละลักถาม“หึ ก็พวกเอ็งไปทำอะไรไว้ล่ะ เจ้านายพวกกูรู้ว่าพวกเอ็งไปขัดขวางช่องทางทำมาหากินของพวกกู ก็เลยให้มาสั่งสอนเสียหน่อย” หนึ่งในชายฉกรรจ์บอกขึ้น“ฉันเข้าใจแล้วละ ว่าพี่ ๆ มาด้วยเรื่องอะไร ฉันขอถามหน่อย ถ้าเป็นลูก ๆ ของพี่ติดยา พี่จะทำอย่างไร และพี่จะทำอย่างไรให้ลูกพี่เลิก คิดดูสิครับ” ทิวาพูดแย้ง“ทิวา เปล่าประโยชน์ว่ะ ท่าทางจะไม่เคยเข้าวัด” เสือพูดทำเอาเพื่อน ๆ ขำ“ปากดีเสียด้วย เดี๋ยวพวกเอ็งก็จะได้รู้ว่า อาการเจ็บตัว

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 5(1)

    “เสือหนีไป!” เสียงหนึ่งตะโกนดังลั่นพร้อมกับพุ่งตัวเข้ามา ก้อนหินหนักเฉียดกายเสือไปไม่ถึงช่วงแขน ร่างของทิวาล้มทับปอนด์ แต่สองมือยังคงกอดรั้งไม่ให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมาทำร้ายเสือได้อีก“ปล่อย! ไอ้ทิวาปล่อยกู ยังอีก พวกมึงรุมกระทืบมันเลย เร็ว!”พลั่ก ๆๆ ผัวะ ๆๆ ฝ่าเท้าเด็กผู้ชายหลายคู่ทั้งเหยียบทั้งย่ำทั้งเตะลงบนลำตัวของทิวา ทว่าไม่มีเสียงร้องแสดงความอ่อนแอหรือเจ็บปวดให้ได้ยิน มีแต่เสียงตะโกนบอกให้เสือหนีไปเท่านั้น“ทิวา! พวกมึงหยุดทำร้ายเพื่อนของกูเดี๋ยวนี้นะ!”ด้วยความคับแค้นใจ หัวใจของเด็กที่เติบโตขึ้นมาโดยมีบาดแผลทางใจ เมื่อชีวิตขาดแม่ โดนดูถูกเหยียดหยามซ้ำเติมปม แต่หากถูกรังแกถึงที่สุด ก็ไม่จำเป็นต้องยอมให้ถูกรังแกอีกต่อไป!เสือกระโดดถีบและไล่เตะแต่ละคนด้วยความคับแค้นใจ จนวิ่งหนีแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางบนพื้น ทิวายังคงกอดรัดปอนด์ไว้แน่น เสียงกำปั้นฟาดลงกลางหลังของทิวาไม่ยั้ง เสือเห็นดังนั้นจึงก้มลงจะหยิบท่อนไม้ข้างโรงอาหารขึ้นมา เพื่อจะทำสิ่งหนึ่งเมื่อเห็นเพื่อนกำลังถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่อง ทว่าภารโรงแก่ ๆ ดึงมือไว้ และบอกกับเสือเสียงเบาว่า“ทิ้งมันไปเสีย เชื่อลุงไอ้หนู ให้ครูลงโทษพวกม

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 5

    กาลเวลาหมุนผ่านไป หลายชีวิตย่างเข้าสู่วัยชรา เกิดแก่เจ็บตาย ย่อมมิมีผู้ใดหลีกหนีพ้น คุณตาคุณยายแท้ ๆ ของทิวาที่อยู่ภาคเหนือเริ่มโรยราและตายจากไป ครอบครัวเล็ก ๆ จึงเหลือเพียงเนตรนภา ผู้มีศักดิ์เป็นน้าสาวแท้ ๆ ซึ่งตอนนี้ได้มาเรียนและทำงานที่กรุงเทพฯ โดยนุชนภาส่งเงินมาช่วยเหลือเป็นระยะ ๆนุชนภาโชคดีที่มีน้องสาวเป็นคนขยันและตั้งใจเรียน กระทั่งสอบเข้าเรียนหลักสูตรพยาบาลทหารเรือได้ หลังจากเรียนจบทำงานก็ได้สมรสกับนายทหารเรือหนุ่มยศสัญญาบัตร ในงานแต่งงานของเนตรนภา กิมลั้งและทิวาได้รับเชิญให้มาร่วมงานด้วยเนตรนภารู้สึกถูกชะตากับทิวามาก เหมือนว่ากิมลั้งและทิวาเป็นคนในครอบครัวเธอ หญิงสาวรู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ สิบกว่าปีมานี้ ทิวาและเพื่อนเด็กวัดคนอื่น ๆ ได้รับความอนุเคราะห์ทั้งจากเนตรนภาและนุชนภามาตลอด ทั้งเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ ทุนการศึกษา และเงินรางวัลหากมีผลการเรียนดี สองพี่น้องช่วยกันเติมเต็มส่วนที่ขาดเหลือให้กับเด็ก ๆ ทุกคนเรื่อยมาเมื่อแขกเหรื่อทยอยกลับกันเกือบหมด เนตรนภาจึงมีโอกาสเข้ามาพูดคุยกับกิมลั้งและทิวา“ทิวา หากวันไหนเธอลำบากหรือขัดสน อย่าลืมว่ายังมีน้าเนตรอีกคนนะลูกนะ”“ขอบคุณครั

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 3(1)

    วันต่อมา หญิงสาวไปสืบเรื่องการตายของเฟยที่สถานีตำรวจ จึงทราบว่าตอนนี้ศพตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ไกลจากท่าเรือน้ำนนท์ เธอจึงขอให้หญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีคนหนึ่งซึ่งเช่าห้องใกล้กันกับเธอช่วยดูแลลูกให้ครึ่งวัน โดยเธอมีค่าตอบแทนให้นุชนภาบีบน้ำนมจากเต้าใส่ขวดและเก็บไว้ในช่องฟรีซ และได้กำชับให้คนช่วยดูแลลูกนำขวดนมมาอุ่นโดยใช้ที่นึ่งขวดนมทันทีหากลูกชายเริ่มร้อง จากนั้นจึงเร่งรุดไปยังวัดแห่งนั้น เพื่อเข้าไปกราบศพของสามีเมื่อไปถึงวัดดังกล่าว เธอพยายามสะกดกลั้นไม่ให้ร้องและมีน้ำตาเพราะเกรงว่าญาติของเฟยจะสงสัย ซึ่งที่นี่นุชนภาได้พบกิมลั้งเป็นครั้งแรก เธออยากเข้าไปกราบแทบเท้าอีกฝ่ายที่สุด แต่ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัว คิดว่าตนเองต้อยต่ำ ทั้งยังเคยทำงานเป็นผู้หญิงกลางคืนมาก่อน แม้จะไม่ได้เป็นโสเภณีก็ตาม แต่มันก็เพียงพอที่จะตอกย้ำว่า เธอไม่คู่ควรที่จะถูกเรียกว่าเป็นลูกสะใภ้ของกิมลั้งได้เลย!ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ทำให้ต้องเผชิญกับคำว่า ‘ตกเขียว!’ นุชนภาตั้งใจเก็บงำความลับนี้ให้มิดที่สุด จึงแนะนำตัวเองว่าเป็นเพื่อนรุ่นน้องในที่ทำงานเดียวกับเฟย“หนูเป็นเพื่อนของเฟยใช่ไหม มากินต้

  • ปิ่นฟ้าอำพัน - TRUE LOVE AMBER    บทที่ 4(2)

    ทุก ๆ วันเวลาที่ล่วงผ่าน นุชนภาคอยนับวันจะได้กลับเมืองไทย นอกจากจะตามมาดูงานในโรงงานของสามีที่บางพลี นุชนภายังจะได้มาพบลูกชายของเธอ แม้ไม่เจอที่วัดในวันธรรมดา แต่ก็ไปพบที่โรงเรียน หรือในช่วงหน้าหนาวที่โรงเรียนมีแข่งกีฬาสี ก็จะมีเงินรางวัลปริศนาใส่ซองฝากอาจารย์ไปให้ ยามที่ทิวาลงเล่นฟุตบอลและได้รางวัลชนะเลิศความสุขของการได้คอยส่งเสริมเกื้อหนุนมาหลายปี ทำให้เธอปลื้มปริ่มอิ่มเอมจนเอ่อล้นออกจากตาไม่ขาดสาย ยิ่งได้ทราบจากหลวงตาว่าจะบวชสามเณรฤดูร้อนให้แก่เด็ก ๆ ละแวกนี้กับกลุ่มเด็กวัด ซึ่งรวมถึงทิวาด้วย ประธานจัดการเรื่องการบวชสามเณรฤดูร้อนที่นุชนภายื่นขอต่อหลวงตาจึงได้รับความเห็นชอบจากวัด นุชนภากับกิมลั้งแสนจะดีใจ เธอไม่ลืมที่จะบอกเนตรนภาน้องสาวคนเดียวของเธอให้มาร่วมทำบุญในงานบวชสามเณรของทิวาด้วย...ภายในพระอุโบสถ ทิวาและเพื่อน ๆ ทั้งหมดห้าสิบคนได้โกนหัวเป็นนาค กำลังวันทาพระประธานอีกครั้งด้วยวิธีอย่างเดียวกันกับวันทาสีมา ก่อนจะกลับไปนั่งยังสถานที่ที่จัดเตรียมไว้สำหรับนาค จากนั้นอาม่ากับนุชนภาร่วมกันมอบผ้าไตรให้นาค พร้อมกับครอบครัวของนาคคนอื่น ๆ“อาม่าคะ พี่นุช นี่ค่ะ” เนตรนภาเรียกกิมลั้งและพ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status