ส่วนวธุกาที่กำลังจะเดินเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ของสามี หญิงสาวมองเห็นเขานั่งอยู่ตรงระเบียงสายตามองเหม่อลงไปยังแม่น้ำด้านล่าง ที่มีบ้านพักบนแพของลูกค้าเรียงรายอยู่นับแปดสิบห้อง หญิงสาวเดินเงียบๆ ตรงไปหาเขาจนได้ระยะใกล้พอสมควร
“คุณวัสบอกว่าคุณอยากเจอฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ” ถามพร้อมกับเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับสามี เขาผินหน้าดุๆ กลับมามอง สายตาจ้องเขม็งราวกับเธอไปทำเรื่องผิดอะไรมา
“อะไรคะ” ถูกจ้องแบบไม่ละสายตาแบบนี้วธุกาเองก็เริ่มใจคอไม่ดีเท่าไหร่ ‘คนบ้าอะไรหน้าตาดุชะมัด’
“คุณหายไปไหนมาทั้งวัน รู้ไหมผมถามใครก็ไม่มีใครรู้” นั่นปะไรสิ่งที่เขาต้องการหาเรื่องเธอ หญิงสาวกลอกตาไปด้านข้างก่อนจะตอบเขาตามความจริง
“ฉันไปบ้านเพื่อนที่นนท์นทีรีสอร์ตใกล้ๆ นี่เองค่ะ เจ้าของที่นั่นเป็นเพื่อนฉันเอง”
“แล้วไปกลับยังไง” น้ำเสียงของวิเนตย์ราบเรียบแต่แฝงเอาไว้ด้วยความโกรธอย่างชัดเจน
“ก็ให้นนท์มารับมาส่ง”
“ดีจริงๆ แต่งงานวันแรกก็ให้ผู้ชายมารับมาส่งถึงบ้านของผัว” เขาโพล่งอย่างเหลืออด สายตาตำหนิผู้เป็นภรรยาอย่างชัดเจน
“คุณวิเนตย์คุณจะมาโกรธฉันทำไมนี่ ก็คุณเป็นคนบอกเองว่าให้ฉันออกไปข้างนอกได้ ฉันก็แค่ไปว่ายน้ำคลายเครียดที่บ้านเพื่อนแค่นี้มันเลวร้ายนักหรือยังไง”
ปัง!
“ไปว่ายน้ำ!” วิเนตย์ตบโต๊ะพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้ๆ ภรรยา วธุกาผงะไปด้านหลังอย่างตกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของสามี นี่เธอพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ
“ใช่! ไปว่ายน้ำ ทำไมต้องเสียงดังด้วย” หญิงสาวทำใจกล้าสู้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังไม่ต่างไปจากเขา
“คุณออกไปกับผู้ชายทั้งที่เพิ่งแต่งงานกันได้วันเดียว คุณเอาอะไรคิดคุณวาท ยิ่งไปกว่านั้นคุณ ฮึ่ย! ยังมีหน้าไปใส่ชุดว่ายน้ำแล้วว่ายน้ำในบ้านของผู้ชายคนนั้นอีก คุณคิดที่จะไว้หน้าผมบ้างไหม!” ถึงบางอ้อก็คราวนี้ วธุกากลอกตากลับไปมาระหว่างซ้ายขวาและนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจให้ใจเย็นลง
“เผื่อคุณจะฟังไม่ชัด ฉันจะบอกอีกรอบนะคะคุณวิเนตย์ นนท์เป็นเพื่อนฉันเราคบกันมานานเป็นสามสิบปีแล้ว แล้วการที่เพื่อนไปหาเพื่อนสนิทของตัวเองมันเป็นการไม่ไว้หน้าคุณตรงไหน”
“ก็มันเป็นผู้ชายยังไงล่ะ” วธุกาได้ยินแล้วก็ลมออกหู อยากพ่นไฟใส่คนพาลไม่เลือกหน้าเสียจริงๆ แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะฉีกยิ้มกว้างผิดกับดวงตาที่มองนิ่งๆ
“คุณวิเนตย์” เรียกชื่อสามีด้วยเสียงลากยาว
“อะไร” อีกคนก็สะบัดเสียงใส่ราวหงุดหงิด วธุกายื่นหน้าไปใกล้ๆ เขาแล้วถามเสียงนุ่มเบาๆ
“คุณเคยมีเพื่อนไหม”
“นี่คุณวาทอย่ามาย้อนผมนะ” คนถูกถามตวาดกลับจนอีกฝ่ายต้องกลับไปนั่งตัวตรงอยู่ที่เดิม วธุกาเบ้ปากใส่เขานิดๆ แบบไม่ให้จับผิดได้ในทันที
“งั้นคุณก็อย่ามีเพื่อนผู้หญิงนะคะ อย่าไปมาหาสู่เพื่อนผู้หญิงด้วย เพราะถ้าคุณห้ามฉันไปหานนท์คุณก็ต้องห้ามตัวเองไม่ให้ไปหาเพื่อนผู้หญิงของคุณ แล้วก็นี่ไม่ใช่การหึงหวงแต่เป็นสิทธิส่วนบุคคล”
“จะมากไปแล้วนะคุณวาท”
“ไม่มากหรอกค่ะแฟร์ดีออก อ้อ ฉันเหนื่อยและหิวมากอยากจะไปอาบน้ำแล้วกินมื้อค่ำเร็วๆ ขอตัวก่อนนะคะคุณวิเนตย์” วธุกาเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้นยืน เดินขึ้นบ้านไปโดยที่ไม่คิดเหลียวหลังกลับมามองสามีอีก
หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าการโต้เถียงสามีในตอนนี้จะส่งผลต่อตัวเองในยามค่ำคืนอย่างไร วิเนตย์ไม่ได้ตามขึ้นมาเพื่อทะเลาะกันต่อเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้ในตอนแรก แม้แต่ตอนอยู่ในห้องอาหารเขาก็ยังยกจานข้าวมานั่งกินกับเธออย่างเงียบๆ ไม่พูดไม่จาทำเหมือนกับไม่ได้ทะเลาะกันมาก่อนหน้า และความนิ่งเฉยของสามีนี่แหละที่ทำให้หญิงสาวเกิดกลัวขึ้นมา รับประทานมื้อค่ำเสร็จวธุกาก็รีบกลับขึ้นห้อง ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วรีบหลับให้เร็วที่สุด ความนิ่งจนผิดปกติของเขามันแปลกชอบกล คิดไปคิดมาก็ผล็อยหลับลงไปในที่สุด
ด้านคนเป็นสามีเมื่อจัดการดูแลความเรียบร้อยของรีสอร์ตหมดทุกอย่างแล้วก็กลับเข้ามาภายในบ้าน ความเงียบสงัดทำให้เขาต้องกวาดสายตามองหาภรรยา เมื่อมั่นใจว่าวธุกาไม่ได้อยู่ชั้นล่างวิเนตย์ก็จัดการปิดไฟหมดทุกดวงแล้วขึ้นบันไดไปชั้นสอง ตรงไปยังห้องนอนใหญ่ของตนเอง เปิดประตูเข้าไปก็พบภรรยาของตนกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เขาเลือกที่จะเปิดไฟดวงเล็กเพื่อไม่ให้คนหลับรู้สึกตัวตื่น
‘ทำให้ผมโมโหแล้วยังมีหน้ามานอนสบายใจอยู่คนเดียวนะคุณวาท’
วิเนตย์มองคาดโทษก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ใช้เวลาในนั้นไม่นานนักก็กลับออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูพันตัวแค่ผืนเดียว แปลกใจเล็กน้อยที่วธุกายังคงนอนหลับสนิทลงได้ทั้งที่เขาอาบน้ำเสียงดังพอสมควร ยืนมองคนหลับแล้วมุมปากก็ยกขึ้นนิดๆ มือกอดอกเอาไว้หลวมๆ ลูกน้องกับลูกค้าเป็นร้อยเป็นพันยังเอาอยู่ นับประสาอะไรกับเมียแค่คนเดียวจะทำไม่ได้
“หืม อย่าสิ” คนหลับพึมพำเมื่อผ้าห่มคลุมตัวถูกดึงออกเบาๆ หญิงสาวก็ดึงกลับขึ้นมาห่มใหม่อีกรอบ แต่ก็ต้องถูกดึงออกไปอีกครั้งอย่างน่ารำคาญใจ
“บอกว่าอย่าไง” คิ้วเริ่มขมวดแน่นดวงตาเริ่มกะพริบปริบๆ ก่อนจะลืมขึ้นมาอย่างงัวเงีย วธุกาแทบกรี๊ดลั่นบ้านเมื่อมองลงด้านล่างกลับเป็นศีรษะของสามีที่กำลังยกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนเขาจะไม่สนใจรับรู้ว่าเธอตื่นแล้วด้วย
“คะ...คุณวิเนตย์ คุณทำอะไร” วธุกาใช้มือยันที่นอนขึ้นมาดูเขา พอเห็นเท่านั้นล่ะ เธออยากจะบ้าตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่า ลักหลับ
“ผมเห็นคุณหลับเลยไม่อยากปลุก” คำตอบของเขามันน่าถีบกระเด็นยิ่งนัก
“ฉันอยากนอนคุณก็นอนเถอะนะ เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อย เอ่อ ทำกันก็ได้” วธุกากลั้นใจบอกเขา สายตาก็พุ่งมองตรงมือของเขาที่กำลังนวดคลึงบางอย่างอยู่
“พะ…พอก่อนนะคุณวิเนตย์ อื้อ!”
“คุณเคยได้ยินไหมคุณวาทว่าเวลาคนหิวก็ต้องกิน ไม่งั้นก็อดอยากปากแห้งตายกันพอดี คำขอของคุณไม่เป็นผล นอนลงที่เดิมนะครับเดี๋ยวผมจัดการเอง” พูดเท่านั้นเขาก็ก้มลงจัดการกับสิ่งที่มือกำรวบต่อ
“คุณวิเนตย์ อื้อ!”
วธุกาสะดุ้งแล้วทิ้งตัวลงนอนตามเดิม ไม่ได้ทำเพราะคำสั่งของเขา แต่เป็นเพราะร่างกายไม่อาจต้านทานรสชาติสวาทที่เขากำลังปรนเปรอให้ได้ และมันก็กำลังมากขึ้น มากขึ้น จนอยากจะกรีดเสียงร้องออกมาให้สาสมกับความรู้สึก
‘ไอ้ที่นิ่งๆ มาตลอดนี่จะเอาคืนตอนนี้ใช่ไหม บ้าที่สุด!’
กว่าบทรักของสามีเธอจะจบลงเนื้อตัวก็เจ็บเคล็ดยอกไปหมด วธุกาลืมตาโพลงมองเพดานไม้สีน้ำตาลอย่างเหม่อลอย โดยมีสามีที่ตอนนี้เหงื่อผุดเต็มตัวนอนแผ่หลาอยู่ด้านข้าง ผ้าห่มคลุมกายสักนิดก็ไม่คิดทำ ยังมีเสียงหอบหายใจเหนื่อยๆ ของเขาให้ตระหนักถึงเรื่องที่เพิ่งจบลงเมื่อครู่ วธุกาหน้าร้อนผ่าวเพราะเขาทำมากกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาตั้งหลายท่า ใช่ หลายท่า อ๊ายยย!
“คุณวาท” วิเนตย์พลิกตัวมามองดูภรรยาที่คงจะอิ่มอกอิ่มใจกับบทรักแสนเร่าร้อนของเขาไปหมาดๆ
“คะ”
“อาบน้ำกันเถอะ จะได้นอนสบายตัวไง” เขายิ้มล้อคนที่นอนหน้างอหงิกเหมือนกำลังโกรธตนเองอยู่
“คุณไปอาบก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวฉันอาบทีหลัง”
“ได้ไง ไปอาบพร้อมๆ กันนี่แหละ”
“ทำไมต้องอาบพร้อมกัน” วธุกาหรี่ตามองเขาอย่างหวาดระแวง คนเป็นสามียิ้มนิดๆ ตรงมุมปากแล้วเลิกคิ้วขึ้นสูงทั้งสองข้าง ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ กระซิบเสียงแหบพร่าว่า
“ผมยังไม่อิ่ม”
“อ๊ายยย!” คราวนี้ไม่ต้องกรีดร้องอยู่ในใจแล้ว วิเนตย์รีบเอามือมาอุดปากภรรยาที่ร้องปานถูกเชือด แล้วลากลงจากเตียงตรงไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มจับคนที่โกรธจนตัวสั่นลงอ่างอาบน้ำ โดยมีตัวเขาตามลงไปติดๆ น้ำอุ่นถูกเปิดในระดับที่พอเหมาะ พอจะทำให้คนโกรธผ่อนคลายลงได้ ไม่มีถ้อยคำหวานหูให้กันและกัน มีเพียงอ้อมกอดแสนอบอุ่นภายใต้สายน้ำที่ไหลวนอยู่รอบกาย
“อย่าทำตัวเป็นผู้หญิงสติไม่ดีอีกนะคุณวาท บอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบ กรี๊ดๆ กันอยู่ได้บ้าหรือเปล่า” เขาตำหนิเบาๆ คนที่นอนกึ่งนั่งอยู่บนตัวของเขาได้แต่กลอกตาขึ้นลง ถ้าไม่ติดว่าที่ตรงนี้อุ่นสบายตัวละก็คงลุกขึ้นจากอ่างแล้วเดินขึ้นเตียงนอนไปตั้งนานแล้ว
ตอนที่ : 10 หัวใจว้าวุ่น4หัวใจว้าวุ่น คนถูกกวนตลอดทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบากยากเย็น มือน้อยควานหาสามีด้านข้างก็เจอแต่ความว่างเปล่า วธุกาปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดตอนเช้าก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่ง มองดูพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างและยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าได้กอดใครบางคนมาตลอดทั้งคืน รีบสลัดความคิดนี้ออกจากหัวลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป ชีวิตมันจะอยู่แค่นี้จริงๆ หรือ วธุกาเริ่มตั้งข้อสงสัยให้กับการใช้ชีวิตคู่ของเธอกับเขา เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ายามมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ในกระจกแผ่นใหญ่ตรงหน้า หญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากสวยอวบอิ่มกับดวงตาที่หวานซึ้งรับกับคิ้วโค้งพอเหมาะ ทุกอย่างลงตัวสวยตามฉบับสาวไทย วธุกามีความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม รูปร่างอวบอัดได้สัดส่วน เพราะการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันทำให้รูปร่างยังคงสวยงามอยู่แม้จะมีอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้ว ความจริงแล้วเธอไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้พบผู้ชายคนไหนที่ถูกใจมาก่อนหน้านี้ แต่บทจะพลาดก็ง่ายดายเหลือเกิน หญิงสาวมองโทรศัพท์มือถือแล
ตอนที่ : 11 หัวใจว้าวุ่น 2 “ชิมยังไงมันก็มีพลาดกันได้ตลอด ผมเลยต้องเผื่อเอาไว้ไง” “เอาตัวเองเป็นหนูทดลองนี่นะ” “ผมพอใจทำใครจะทำไม” “ใครจะไปทำอะไรเจ้าของรีสอร์ตล่ะคะ ไม่กล้าหรอก” วธุกายุติบทสนทนาด้วยการตักข้าวต้มเข้าปาก ตาก็มองดูการรับประทานอาหารของสามีไปพลาง ๆ มีบ่อยครั้งที่เขามองกลับมาแล้วเธอหลบตาไม่ทัน “อุ๊บ!” ข้าวต้มแทบจะไหลพรวดลงคอแบบไม่ได้กลืน รีบยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มในทันที “เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกคุณวาท ดูซิ เลอะปากไปหมดแล้วนั่น” ความใจดีของสามีก็เผยออกมา ในตอนที่เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกล่อง แล้วเช็ดขอบปากให้อย่างลวกๆ นุ่มนวลเหรอ ฝันไปเถอะ “พอแล้วๆ กะจะต่อยปากกันหรือไงเช็ดแบบนี้” หญิงสาวรีบดึงมือสามีออกแล้วมองค้อนเขาเล็กน้อย “หวังดีแท้ๆ” ‘เก็บไว้ใช้กับตัวเองเถอะคนบ้า’ “คุณวิเนตย์ฉันมีเรื่องจะขอคุณ” วธุกาเขี่ยข้าวต้มในถ้วยไปมาระหว่างบอกเขา “เรื่องอะไร” วิเนตย์ถามกลับทั้งที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่ในปาก ออกจะไร้มารยาทสำหรับวธุกาแต่หญิงสาวกลับไม่ถือสาเขาแ
ตอนที่ : 12 หัวใจว้าวุ่น 3 มุมหนึ่งของรีสอร์ตเอกวัสกำลังรายงานสถานการณ์ของเช้านี้ให้เจ้านายฟังเหมือนทุกวัน แต่สายตาของวิเนตย์กลับไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขากำลังบอกเล่าแต่อย่างใด หนุ่มใหญ่ลองเบนสายตาตามก็พบว่าเจ้านายกำลังมองไปยังร่างสมส่วนที่กำลังเดินไปอีกทาง “คุณวิเนตย์...คุณวิเนตย์ครับ” “ว่าไงคุณวัสถึงไหนแล้วครับ” คนรู้ตัวว่ากำลังเหม่อลอยไปอีกทางรีบหันกลับมาแล้วทำหน้าปกติตามเดิม เอกวัสถึงกับอมยิ้มทันทีเพราะนานทีปีหนไม่เคยเห็นวิเนตย์เป็นอย่างนี้มาก่อน “ผมพูดจบแล้วนะครับ” “อะไรกันผมยังฟังไม่หมดเลย คุณพูดใหม่เลยแล้วกัน” ‘อ้าว ก็มัวแต่มองเมียอยู่นั่นแหละ’ เอกวัสค้อนเจ้านายเล็กๆ ก่อนจะเริ่มต้นรายงานสถานการณ์ประจำวันใหม่อีกรอบ วิเนตย์ชอบที่จะฟังจากปากของตนมากกว่าการอ่านจากเอกสารเป็นแผ่นๆ “มีเท่านี้ครับวันนี้ลูกค้าน้อย” “งั้นคุณวัสก็ไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ ผมไม่มีอะไรแล้ว” “ได้ครับ ว่าแต่คุณวิเนตย์จะไปฮันนีมูนวันไหนเหรอครับ ผมจะได้ดูวันพักร้อนของตัวเองไว้ก่อนเผื่อจะแพลนตรงกัน” “ฮั
ตอนที่ : 13 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน5แน่ใจนะว่าฮันนีมูน วธุกาได้ฟังแผนการฮันนีมูนของสามีแล้วก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ พ่อเจ้าประคุณช่างคิดออกมาได้ คนดีๆ ที่ไหนเขาจะทำกันแบบนี้ แผนการฮันนีมูนห้าวันสี่คืนของเขามันช่างน่าประทับใจมาก (อันนี้ประชด) วันที่ 1-2 พักที่ห้องสวีตบนแพ มีอาหารเช้าเย็นให้เป็นแบบบุฟเฟต์ ชมวิวแม่น้ำสวยๆ หรือไม่ก็ใส่เสื้อชูชีพลงไปลอยคออยู่หน้าที่พัก ช่วง 16.00 น. แพก็ลากเราไปไกลจากรีสอร์ตหนึ่งกิโลกว่าๆ แล้วปล่อยให้ลงน้ำลอยคอกลับมาที่พักอย่างสนุกสนาน&nbs
ตอนที่ : 14 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 2 “คุณไม่หนาวเหรอคะ ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวฉันจะได้ปิดคอมพ์” วธุกาเสียงสั่นนิดๆ “ใส่ทำไมเสียเวลา รีบปิดแล้วไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้คุณวาท” เสียงของวิเนตย์เริ่มแข็งขึ้นพร้อมกับสายตาจ้องบังคับ วธุกากลั้นใจกดปุ่ม shut down แล้วปิดเก็บโน้ตบุ๊กของตนเองไว้ หันหลังกลับมาก็ต้องผงะกับภาพของสามีที่กำลังนอนกอดอกรออยู่บนเตียง หญิงสาวแทบเข่าอ่อนทันทีที่ผ้าขนหนูของเขากำลังเปลี่ยนรูปผิดร่างจากปกติตรงจุดยุทธศาสตร์ เหมือนกับว่ามันกำลังพร้อมเสียเหลือเกินสำหรับการออกสมรภูมิรบบนเตียงนอน “คุณวิเนตย์” “หืมว่าไง” “เอ่อ คือว่าฉัน
ตอนที่ : 15 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 3 วธุกาอ้าปากน้อยๆ เมื่ออีกสองคนก็บ้าจี้ตามเขาไปด้วย เดินตามหลังสามีผ่านจุดบริการลงไปยังทางลงแพ หญิงสาวหันหลังกลับไปมองคนทั้งคู่ พบว่าพวกเขาพากันปิดปากหัวเราะอย่างขำขัน “กลายเป็นตัวตลกไปเลยทั้งคุณและฉัน” มีบ่นลอยๆ อยู่ข้างหลังสามี “มีแต่คนจะอิจฉาล่ะไม่ว่า” “ใครเขาจะมาอิจฉาเรากันล่ะ ไม่มีหรอก” “มีสิ ก็คนที่ยังไม่มีคู่ยังไงล่ะ เอามานี่” วิเนตย์เอื้อมมือมาดึงกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากมือของภรรยา เมื่อเดินมาถึงบันไดไม้ที่วางพาดจากบนฝั่งไปยังบ้านพักบนแพ ซึ่งความชันของมันก็ทำให้เดินได้ลำบากอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าภรรยาจะหิ้วกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้ามาค่อนข้างเยอะจะเดินผ่า
ตอนที่ : 16 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 4 “เว่อร์ไปแล้ว อ๊ะ!” วิเนตย์ดึงคนเถียงไม่หยุดเข้ามากอดแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มไปด้วยกัน วธุกาดิ้นขลุกขลักเพียงเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในอ้อมกอดของสามี หัวใจเต้นในจังหวะแรงเร็วด้วยกันทั้งคู่ จนไม่รู้ว่าเป็นเสียงเต้นของใครกันแน่ ชั่วอึดใจหนึ่งฝ่ายสามีก็กดจูบลงบนหน้าผากของภรรยาอย่างนุ่มนวล “ผมขอโทษที่พูดถึงเมียเก่าให้คุณได้ยิน ต่อไปนี้ผมจะไม่หลุดปากแบบนี้อีกแล้วคุณวาท” ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเขาพูดเรื่องนี้ออกมา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แบบคนเผื่อใจเจ็บไว้แล้ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวิเนตย์ ยังไงเสียเขาก็คือเมียคุณส่วนฉันก็แค่...คนอื่น” ขมขื่นอยู่ไม่น้อยที่ต้องเอ่ยคำนี้ออกมา คำว่า คนอื่น “อย่าพูดแบบนี้
ตอนที่ : 17 ฮันนีมูนจริง ๆ6ฮันนีมูนจริงๆ ในเมื่อตกปากรับคำกันเป็นมั่นเหมาะแล้ว วธุกาก็ไม่คิดทำตัวเองให้ทุกข์ใจมากไปกว่านี้ หญิงสาวหลับตาลงแล้วพยายามนึกไว้อยู่เสมอว่าเขาคือ สามี และจะเป็นไปจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เป็นอิสระหย่าขาดจากกันไป ท้องฟ้าสีสดใสเสียงน้ำไหลเอื่อยตามกระแสกับสามีที่ลอยตัวอยู่ด้านข้าง มีบางครั้งที่ตัวของวิเนตย์จะหลุดออกห่างไป เขาก็จะดึงข้อมือของเธอเอาไว้แทน “นานมากแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำแบบนี้” “ค่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน อยู่กับแม่น้ำทั้งทีกลับไปว่ายแต่ในสระ” หญิงสาวมองดูนักท่องเที่ยวที่มีบางส่วนลากกระเป๋ามารวมกันไว้ตรงแพใหญ่ส่วนกลาง เหมือนกำลังจะเตรียมตัวคืนห้องพักและเดินทางกลับกัน
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ
ตอนที่ : 55 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 3 หญิงสาวไม่อาจเห็นได้ว่าคุณหมอกับนางพยาบาลทำอะไรกับร่างกายของเธอ เพราะว่ามีผ้าคลุมกั้นไว้ไม่ให้มองเห็น แต่ว่าคำพูดของพวกเขาเหล่านั้นดังชัดเจนในความรู้สึก ถูกสั่งให้เบ่งคลอดเหมือนเบ่งอุจจาระ คิดแล้วก็ยังงงไม่หายมันเหมือนกันตรงไหน มือไม้เย็นเฉียบทั้งที่เครื่องปรับอากาศนั้นเปิดเบาๆ เบ่งไปก็เจ็บไป จนรู้สึกได้ว่าท่อนล่างชาไปหมดแล้วในตอนนี้ แต่แล้วคุณหมอก็เปล่งเสียงตื่นเต้นออกมา “หัวออกมาแล้วค่ะคุณแม่! ออกแรงเบ่งครั้งสุดท้ายเลยค่ะ เอ้าเบ่ง! อือ...อึ๊บ!” พรวด!!! รู้สึกเหมือนเธอจะได้ยินเสียงแบบนี้ จากนั้นความเจ็บทั้งมวลก็หายไป สิ่งแรกที่รับรู้ได้คือ โล่ง สักพักนางพยาบาลก็นำเจ้าตัวเล็กมาพร้อมเผยให้เห็นเพศอย่างชัดเจน “ผู้หญิงน
ตอนที่ : 54 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 2 ‘ยัยวาทแกจะไปซื้อของไว้ก่อนคลอดทำไม โบราณเขาถือ’ ผู้เป็นป้าบอกไว้เสียน่ากลัวในวันที่เธอไปเยี่ยมลูกชายของอรตี แต่มีหรือเธอจะไม่เตรียมของไว้ก่อน เพราะพอเข้าห้องคลอดไปแล้วใครจะไปซื้อของให้ลูก สามีของเธอก็ใช่ว่าจะเลือกของพวกนี้เป็นเลยทีเดียว คนเป็นแม่หาข้อมูลไว้เรียบร้อยและเตรียมพร้อมเสมอ เลือกเสื้อผ้าผ้าอ้อมในลวดลายที่เป็นกลางใส่ได้ทั้งชายและหญิง จากนั้นพอคลอดเสร็จแล้วค่อยไปเลือกซื้อใหม่อีกรอบ พอถึงเวลานี้จริงๆ จึงสะดวกและรวดเร็วมาก วิเนตย์สั่งงานเอกวัสเอาไว้พร้อมกับบอกว่าตัวเขาอาจจะอยู่โรงพยาบาลไปเลยหากวธุกาคลอดจริง จากนั้นก็พาภรรยาขึ้นรถขับไปโรงพยาบาลในตัวเมืองทันที ระหว่างทางคนท้องก็ไม่ได้มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด “คุณแน่ใจนะว่ามูกเลือดจริงๆ คุณวาท”&
ตอนที่ : 53 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ20ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ พอเริ่มเข้าเดือนที่แปดวธุกาก็น้ำหนักพุ่งพรวดจาก 48 กิโลกรัมช่วงก่อนท้อง มาเป็น 60 กิโลกรัมในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งคู่รอที่จะลุ้นเพศของลูกตอนคลอดเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะหญิงหรือชายพวกเขาก็รักไม่ต่างกัน ส่วนคนกำลังจะเป็นพ่อก็เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี คอยเตือนให้ภรรยานับช่วงเวลาที่ลูกดิ้นตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด หลังจากได้รับสมุดตารางบันทึกการดิ้นของทารกเอาไว้ในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าทารกที่อยู่ในครรภ์ยังปกติดีหรือเปล่า หากผิดปกติก็จะได้ไปพบหมอได้ทันเวลา “หลังกินข้าวเจ้าตัวเล็กดิ้นไปกี่ครั้งแล้วคุณวาท” วิเนตย์เดินเข้ามาถามหลังจากภรรยาเพิ่งรับประทานมื้อเที่ยงไปหมาดๆ คนท้องเลยหันไปหยิบสมุดตา