4
หัวใจว้าวุ่น
คนถูกกวนตลอดทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบากยากเย็น มือน้อยควานหาสามีด้านข้างก็เจอแต่ความว่างเปล่า วธุกาปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดตอนเช้าก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่ง มองดูพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างและยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าได้กอดใครบางคนมาตลอดทั้งคืน รีบสลัดความคิดนี้ออกจากหัวลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป
ชีวิตมันจะอยู่แค่นี้จริงๆ หรือ วธุกาเริ่มตั้งข้อสงสัยให้กับการใช้ชีวิตคู่ของเธอกับเขา เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ายามมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ในกระจกแผ่นใหญ่ตรงหน้า หญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากสวยอวบอิ่มกับดวงตาที่หวานซึ้งรับกับคิ้วโค้งพอเหมาะ ทุกอย่างลงตัวสวยตามฉบับสาวไทย วธุกามีความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม รูปร่างอวบอัดได้สัดส่วน เพราะการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันทำให้รูปร่างยังคงสวยงามอยู่แม้จะมีอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้ว ความจริงแล้วเธอไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้พบผู้ชายคนไหนที่ถูกใจมาก่อนหน้านี้ แต่บทจะพลาดก็ง่ายดายเหลือเกิน หญิงสาวมองโทรศัพท์มือถือแล้วรีบกดสายออกไปหายายนวลน้อย
“ว่าไงยัยวาทแต่งงานไม่กี่วันก็คิดถึงยายแล้วเหรอ” ยายนวลน้อยทักหลานสาวอย่างอารมณ์ดี พลอยทำให้วธุกายิ้มออกได้
“พูดแบบนี้คุณยายไม่คิดถึงวาทใช่ไหมคะ”
“คิดถึงสิ ว่างๆ ก็มาหายายได้นะ”
“ไปวันนี้เลยได้ไหมคะ”
“หืม มีอะไรหรือเปล่าวาท ไปอยู่กับคุณวิเนตย์ได้ไม่กี่วันก็จะกลับมาหายายแล้วเหรอ เดี๋ยวทางโน้นเขาก็จะเข้าใจผิดเอาหรอก” ผู้เป็นยายเอ่ยถึงความไม่เหมาะสม เพราะหลานสาวแต่งงานไปได้แค่สองวันเท่านั้นเองก็คิดจะกลับมาหาตนเสียแล้ว
“เขาไม่เข้าใจผิดหรอกค่ะคุณยายไม่ต้องเป็นห่วง ว่าแต่มีเรื่องหนึ่งที่วาทอยากถามคุณยาย”
“เรื่องอะไรพูดมาตอนนี้เลยก็ได้ ไม่ต้องถึงกับมาหายายก็ได้เกรงใจสามีวาท”
“คือว่า...วาท วาทอยากกลับไปทำงานที่รีสอร์ตของเราอีก คุณยายจ้างวาทเหมือนเมื่อก่อนได้ไหมคะ” วธุกาคิดอยู่นานกว่าจะกล้าเอ่ยเรื่องนี้กับยายนวลน้อย ซึ่งผลของการพูดก็คือความเงียบคล้ายอึดอัดใจของคนที่อยู่ปลายสาย
“คงจะไม่ได้หรอกวาท เพราะว่าหน้าที่ดูแลลูกค้าของรีสอร์ตเรา ยัยตีมอบหมายให้ยัยอรดูแลแทนวาทแล้ว เอาเงินเดือนส่วนนี้จ่ายยัยอร เพื่อที่จะได้มีคนสืบทอดกิจการในวันข้างหน้า” วธุกาได้ยินแล้วก็หันไปด้านข้างแล้วเป่าลมออกปากเสียยาวเหยียด ด้วยไม่อยากให้ยายนวลน้อยต้องได้ยิน
“วาท มีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณยาย นั่งๆ กินๆ นอนๆ แล้วเหมือนคนไม่มีค่ายังไงไม่รู้ ก็คนมันเคยทำงานมาตลอดนี่คะ”
“ก็ช่วยงานสามีไปสิ รีสอร์ตเขาออกจะใหญ่โต ทำแบบนั้นมันถึงจะถูก ถ้ากลับมาช่วยงานยายนี่มันทำไม่ถูกนะยัยวาท คนจะครหาคุณวิเนตย์เขาได้ คิดอะไรไม่เข้าท่า” เสียงตำหนิแกมหวังดีของผู้เป็นยายทำให้หลานสาวถึงกับอมยิ้มนิดๆ
“ค่า วาทมันคิดไม่เข้าท่า เฮ้อ งั้นวาทไม่ไปหาคุณยายแล้วก็ได้เอาไว้สักอาทิตย์หนึ่งก่อนดีกว่า วาทคิดถึงคุณยายนะคะ” มีหยอดเสียงหวานตอนท้ายด้วย
“ยายก็คิดถึงวาทเหมือนกัน มีครอบครัวแล้วก็หมั่นดูแลเอาใจใส่สามีนะวาท ท่องคำว่า อภัย ให้มากกว่าคำว่า โกรธหรือโมโห นะลูก ไม่มีชีวิตคู่ไหนที่เขาสมบูรณ์แบบกันหรอก มันก็ต้องมีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่ยายเชื่อว่าวาทจะรับมือเรื่องพวกนี้ได้ คนดีย่อมได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทนเสมอนะวาท”
“วาทจะพยายามค่ะคุณยาย” แม้จะไม่รู้ว่าตนเองทำได้อย่างที่รับปากหรือเปล่า แต่วธุกาก็อบอุ่นในหัวใจทุกครั้งยามที่ได้ยินคำสั่งสอนจากปากของผู้เป็นยาย ฝ่ามือเหี่ยวย่นที่คอยวางทาบบนดวงหน้าช่างอ่อนโยนและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก อ้อมกอดของยายนวลน้อยคือที่สุดของชีวิตที่เธอไม่เคยได้รับจากคนที่ได้ชื่อว่า แม่
วางสายจากผู้เป็นยายแล้ววธุกาก็เลือกสวมใส่ชุดกางเกงยีนขายาวกับเสื้อยืดสีขาวมัดผมยาวเป็นหางม้า บุคลิกทะมัดทะแมงเหมือนตอนทำงานที่รีสอร์ตยายนวลน้อย วันนี้เป็นวันธรรมดาลูกค้าในรีสอร์ตไม่ได้เยอะเหมือนวันหยุดสุดสัปดาห์ วธุกาเดินไปยังห้องอาหารของลูกค้า เพียงได้เห็นสามีถือจานตักอาหารหญิงสาวก็หลบฉากไปมุมด้านข้างในทันที หัวใจเริ่มเต้นตึกตักๆ เพราะภาพอันวาบหวิวเมื่อคืนกำลังหวนมาให้รู้สึกอับอาย ‘เย็นไว้วาทๆ’
“เอ้า คุณวาทวันนี้ลงมาทานอาหารเช้าพร้อมคุณวิเนตย์เลยนะคะ” เสียงทักของพนักงานหญิงทำให้สามีของเธอรู้ตัวแล้วหันกลับมามอง วิเนตย์ยกมุมปากขึ้นนิดหนึ่ง ก่อนจะถือจานข้าวเดินไปวางลงบนโต๊ะริมหน้าผาที่ประจำของเธอ (คิดเองว่าประจำก็มาทีไรว่างทุกที)
“จ้า แล้วทำไมคุณวิเนตย์ของเธอถึงได้มาทานอาหารช้าล่ะ นี่มันจะแปดโมงแล้วนะ”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เห็นแวะมาหลายรอบแล้ว แต่เพิ่งตัดสินใจตักอาหารก็เมื่อกี้นี้เอง นี่จานค่ะคุณวาท” พนักงานหญิงพูดพร้อมกับหยิบจานใบใหญ่มาให้วธุกา
“ฉันกินข้าวต้มจ้ะ ขอบใจมาก” หญิงสาวยิ้มให้แล้วหยิบจานใบใหญ่จากมือของอีกคนนำกลับไปวางไว้ที่เดิม แล้วเปลี่ยนไปหยิบถ้วยมาตักข้าวต้มแทน
วธุกาถือถ้วยข้าวต้มอยู่นานก่อนจะเดินไปนั่งอยู่ฝั่งด้านข้างกับสามี เหลือบตามองจานข้าวของเขากลับพบว่ามันไม่ได้พร่องลงไปเลยสักนิดเดียว
“ผมรอกินข้าวกับคุณอยู่” เขาพูดเหมือนรู้ความคิดของภรรยา วธุกายิ้มไม่ออกเพราะบอกความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ หน้าของสามีไม่ได้มีความยินดีหรืออยากรอคอยที่จะได้นั่งรอภรรยาเลยสักนิด
“ไม่ต้องรอก็ได้นี่คะ ฉันกินข้าวคนเดียวก็ได้”
“ใครว่าผมตั้งใจรอ แค่เห็นคุณก็เลยจำต้องรอเท่านั้นเอง กินข้าวเถอะคุณวาท เดี๋ยวผมจะต้องไปทำงานต่อแล้ว” เขาพูดแล้วใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกเข้าปาก วธุกามองดูอาหารของสามีก็พบว่าเขารับประทานหลากหลายอย่างมาก มีทั้งอาหารนานาชาติ ข้าวต้ม ผลไม้ และเครื่องดื่มเกือบทุกชนิดที่อยู่ในห้องอาหาร
“มีอะไร”
“คุณกินเยอะจัง”
“ไม่กินเยอะแล้วจะรู้รสชาติอาหารรีสอร์ตของตัวเองเหรอ คุณเองก็เถอะควรจะตักมาให้เยอะชิมรสชาติเผื่อลูกค้าด้วย เวลาเจออะไรผิดปกติจะได้บอกกล่าวทางห้องครัวได้ทัน”
“ฉันไม่ใช่หนูทดลองอาหารนะ คุณก็ให้แม่ครัวของคุณชิมไปสิคนออกเยอะแยะ”
ตอนที่ : 11 หัวใจว้าวุ่น 2 “ชิมยังไงมันก็มีพลาดกันได้ตลอด ผมเลยต้องเผื่อเอาไว้ไง” “เอาตัวเองเป็นหนูทดลองนี่นะ” “ผมพอใจทำใครจะทำไม” “ใครจะไปทำอะไรเจ้าของรีสอร์ตล่ะคะ ไม่กล้าหรอก” วธุกายุติบทสนทนาด้วยการตักข้าวต้มเข้าปาก ตาก็มองดูการรับประทานอาหารของสามีไปพลาง ๆ มีบ่อยครั้งที่เขามองกลับมาแล้วเธอหลบตาไม่ทัน “อุ๊บ!” ข้าวต้มแทบจะไหลพรวดลงคอแบบไม่ได้กลืน รีบยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มในทันที “เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกคุณวาท ดูซิ เลอะปากไปหมดแล้วนั่น” ความใจดีของสามีก็เผยออกมา ในตอนที่เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกล่อง แล้วเช็ดขอบปากให้อย่างลวกๆ นุ่มนวลเหรอ ฝันไปเถอะ “พอแล้วๆ กะจะต่อยปากกันหรือไงเช็ดแบบนี้” หญิงสาวรีบดึงมือสามีออกแล้วมองค้อนเขาเล็กน้อย “หวังดีแท้ๆ” ‘เก็บไว้ใช้กับตัวเองเถอะคนบ้า’ “คุณวิเนตย์ฉันมีเรื่องจะขอคุณ” วธุกาเขี่ยข้าวต้มในถ้วยไปมาระหว่างบอกเขา “เรื่องอะไร” วิเนตย์ถามกลับทั้งที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่ในปาก ออกจะไร้มารยาทสำหรับวธุกาแต่หญิงสาวกลับไม่ถือสาเขาแ
ตอนที่ : 12 หัวใจว้าวุ่น 3 มุมหนึ่งของรีสอร์ตเอกวัสกำลังรายงานสถานการณ์ของเช้านี้ให้เจ้านายฟังเหมือนทุกวัน แต่สายตาของวิเนตย์กลับไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขากำลังบอกเล่าแต่อย่างใด หนุ่มใหญ่ลองเบนสายตาตามก็พบว่าเจ้านายกำลังมองไปยังร่างสมส่วนที่กำลังเดินไปอีกทาง “คุณวิเนตย์...คุณวิเนตย์ครับ” “ว่าไงคุณวัสถึงไหนแล้วครับ” คนรู้ตัวว่ากำลังเหม่อลอยไปอีกทางรีบหันกลับมาแล้วทำหน้าปกติตามเดิม เอกวัสถึงกับอมยิ้มทันทีเพราะนานทีปีหนไม่เคยเห็นวิเนตย์เป็นอย่างนี้มาก่อน “ผมพูดจบแล้วนะครับ” “อะไรกันผมยังฟังไม่หมดเลย คุณพูดใหม่เลยแล้วกัน” ‘อ้าว ก็มัวแต่มองเมียอยู่นั่นแหละ’ เอกวัสค้อนเจ้านายเล็กๆ ก่อนจะเริ่มต้นรายงานสถานการณ์ประจำวันใหม่อีกรอบ วิเนตย์ชอบที่จะฟังจากปากของตนมากกว่าการอ่านจากเอกสารเป็นแผ่นๆ “มีเท่านี้ครับวันนี้ลูกค้าน้อย” “งั้นคุณวัสก็ไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ ผมไม่มีอะไรแล้ว” “ได้ครับ ว่าแต่คุณวิเนตย์จะไปฮันนีมูนวันไหนเหรอครับ ผมจะได้ดูวันพักร้อนของตัวเองไว้ก่อนเผื่อจะแพลนตรงกัน” “ฮั
ตอนที่ : 13 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน5แน่ใจนะว่าฮันนีมูน วธุกาได้ฟังแผนการฮันนีมูนของสามีแล้วก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ พ่อเจ้าประคุณช่างคิดออกมาได้ คนดีๆ ที่ไหนเขาจะทำกันแบบนี้ แผนการฮันนีมูนห้าวันสี่คืนของเขามันช่างน่าประทับใจมาก (อันนี้ประชด) วันที่ 1-2 พักที่ห้องสวีตบนแพ มีอาหารเช้าเย็นให้เป็นแบบบุฟเฟต์ ชมวิวแม่น้ำสวยๆ หรือไม่ก็ใส่เสื้อชูชีพลงไปลอยคออยู่หน้าที่พัก ช่วง 16.00 น. แพก็ลากเราไปไกลจากรีสอร์ตหนึ่งกิโลกว่าๆ แล้วปล่อยให้ลงน้ำลอยคอกลับมาที่พักอย่างสนุกสนาน&nbs
ตอนที่ : 14 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 2 “คุณไม่หนาวเหรอคะ ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวฉันจะได้ปิดคอมพ์” วธุกาเสียงสั่นนิดๆ “ใส่ทำไมเสียเวลา รีบปิดแล้วไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้คุณวาท” เสียงของวิเนตย์เริ่มแข็งขึ้นพร้อมกับสายตาจ้องบังคับ วธุกากลั้นใจกดปุ่ม shut down แล้วปิดเก็บโน้ตบุ๊กของตนเองไว้ หันหลังกลับมาก็ต้องผงะกับภาพของสามีที่กำลังนอนกอดอกรออยู่บนเตียง หญิงสาวแทบเข่าอ่อนทันทีที่ผ้าขนหนูของเขากำลังเปลี่ยนรูปผิดร่างจากปกติตรงจุดยุทธศาสตร์ เหมือนกับว่ามันกำลังพร้อมเสียเหลือเกินสำหรับการออกสมรภูมิรบบนเตียงนอน “คุณวิเนตย์” “หืมว่าไง” “เอ่อ คือว่าฉัน
ตอนที่ : 15 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 3 วธุกาอ้าปากน้อยๆ เมื่ออีกสองคนก็บ้าจี้ตามเขาไปด้วย เดินตามหลังสามีผ่านจุดบริการลงไปยังทางลงแพ หญิงสาวหันหลังกลับไปมองคนทั้งคู่ พบว่าพวกเขาพากันปิดปากหัวเราะอย่างขำขัน “กลายเป็นตัวตลกไปเลยทั้งคุณและฉัน” มีบ่นลอยๆ อยู่ข้างหลังสามี “มีแต่คนจะอิจฉาล่ะไม่ว่า” “ใครเขาจะมาอิจฉาเรากันล่ะ ไม่มีหรอก” “มีสิ ก็คนที่ยังไม่มีคู่ยังไงล่ะ เอามานี่” วิเนตย์เอื้อมมือมาดึงกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากมือของภรรยา เมื่อเดินมาถึงบันไดไม้ที่วางพาดจากบนฝั่งไปยังบ้านพักบนแพ ซึ่งความชันของมันก็ทำให้เดินได้ลำบากอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าภรรยาจะหิ้วกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้ามาค่อนข้างเยอะจะเดินผ่า
ตอนที่ : 16 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 4 “เว่อร์ไปแล้ว อ๊ะ!” วิเนตย์ดึงคนเถียงไม่หยุดเข้ามากอดแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มไปด้วยกัน วธุกาดิ้นขลุกขลักเพียงเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในอ้อมกอดของสามี หัวใจเต้นในจังหวะแรงเร็วด้วยกันทั้งคู่ จนไม่รู้ว่าเป็นเสียงเต้นของใครกันแน่ ชั่วอึดใจหนึ่งฝ่ายสามีก็กดจูบลงบนหน้าผากของภรรยาอย่างนุ่มนวล “ผมขอโทษที่พูดถึงเมียเก่าให้คุณได้ยิน ต่อไปนี้ผมจะไม่หลุดปากแบบนี้อีกแล้วคุณวาท” ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเขาพูดเรื่องนี้ออกมา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แบบคนเผื่อใจเจ็บไว้แล้ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวิเนตย์ ยังไงเสียเขาก็คือเมียคุณส่วนฉันก็แค่...คนอื่น” ขมขื่นอยู่ไม่น้อยที่ต้องเอ่ยคำนี้ออกมา คำว่า คนอื่น “อย่าพูดแบบนี้
ตอนที่ : 17 ฮันนีมูนจริง ๆ6ฮันนีมูนจริงๆ ในเมื่อตกปากรับคำกันเป็นมั่นเหมาะแล้ว วธุกาก็ไม่คิดทำตัวเองให้ทุกข์ใจมากไปกว่านี้ หญิงสาวหลับตาลงแล้วพยายามนึกไว้อยู่เสมอว่าเขาคือ สามี และจะเป็นไปจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เป็นอิสระหย่าขาดจากกันไป ท้องฟ้าสีสดใสเสียงน้ำไหลเอื่อยตามกระแสกับสามีที่ลอยตัวอยู่ด้านข้าง มีบางครั้งที่ตัวของวิเนตย์จะหลุดออกห่างไป เขาก็จะดึงข้อมือของเธอเอาไว้แทน “นานมากแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำแบบนี้” “ค่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน อยู่กับแม่น้ำทั้งทีกลับไปว่ายแต่ในสระ” หญิงสาวมองดูนักท่องเที่ยวที่มีบางส่วนลากกระเป๋ามารวมกันไว้ตรงแพใหญ่ส่วนกลาง เหมือนกำลังจะเตรียมตัวคืนห้องพักและเดินทางกลับกัน
ตอนที่ : 18 ฮันนีมูนจริง ๆ 2 “หยุด! เอาไว้ที่เดิมเดี๋ยวนี้คุณวาท” คนในอ่างก็ใช่จะยอมลุกยืนตามภรรยาแล้วดึงเสื้อคลุมเก็บไว้ที่เดิม “คุณเก่งนะ คุณรู้ด้วยว่าผมกำลัง...” เขากระซิบชมติดใบหูแล้วหอมแก้มนุ่มๆ เสียฟอดใหญ่ คนถูกหอมก็ผิวเนื้อแดงซ่านไปทั้งตัว วิเนตย์เห็นแล้วก็ครางฮือในลำคอถ้าไม่รู้อายุจริงของหญิงสาว เขาก็คงคิดว่าตัวเองได้เมียเด็กเป็นแน่แท้ เพราะไม่ว่าจะจับจะชิมตรงไหนก็หวานละมุนนุ่มลิ้นไปเสียทุกสัดส่วน กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ก็ร่วมหนึ่งชั่วโมง วิเนตย์เลยต้องโทรศัพท์สั่งให้คนงานนำอาหารมาเสิร์ฟที่ห้องพักแทน ระหว่างนั่งรับประทานมื้อเที่ยงตรงหน้าระเบียง วธุกาก็แทบไม่กล้ามองสบตากับสามีตรงๆ สักครั้ง ความขวยอายก่อเกิดขึ้นเพราะว่าก่อนหน้าในห้องน้ำนั้นเร่าร้อนจนเดือดพล่านกันเลยทีเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าร้อนผ่าวจนปรากฏเด่นชัดออกมาให้สามีได้เห็น
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ
ตอนที่ : 55 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 3 หญิงสาวไม่อาจเห็นได้ว่าคุณหมอกับนางพยาบาลทำอะไรกับร่างกายของเธอ เพราะว่ามีผ้าคลุมกั้นไว้ไม่ให้มองเห็น แต่ว่าคำพูดของพวกเขาเหล่านั้นดังชัดเจนในความรู้สึก ถูกสั่งให้เบ่งคลอดเหมือนเบ่งอุจจาระ คิดแล้วก็ยังงงไม่หายมันเหมือนกันตรงไหน มือไม้เย็นเฉียบทั้งที่เครื่องปรับอากาศนั้นเปิดเบาๆ เบ่งไปก็เจ็บไป จนรู้สึกได้ว่าท่อนล่างชาไปหมดแล้วในตอนนี้ แต่แล้วคุณหมอก็เปล่งเสียงตื่นเต้นออกมา “หัวออกมาแล้วค่ะคุณแม่! ออกแรงเบ่งครั้งสุดท้ายเลยค่ะ เอ้าเบ่ง! อือ...อึ๊บ!” พรวด!!! รู้สึกเหมือนเธอจะได้ยินเสียงแบบนี้ จากนั้นความเจ็บทั้งมวลก็หายไป สิ่งแรกที่รับรู้ได้คือ โล่ง สักพักนางพยาบาลก็นำเจ้าตัวเล็กมาพร้อมเผยให้เห็นเพศอย่างชัดเจน “ผู้หญิงน
ตอนที่ : 54 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 2 ‘ยัยวาทแกจะไปซื้อของไว้ก่อนคลอดทำไม โบราณเขาถือ’ ผู้เป็นป้าบอกไว้เสียน่ากลัวในวันที่เธอไปเยี่ยมลูกชายของอรตี แต่มีหรือเธอจะไม่เตรียมของไว้ก่อน เพราะพอเข้าห้องคลอดไปแล้วใครจะไปซื้อของให้ลูก สามีของเธอก็ใช่ว่าจะเลือกของพวกนี้เป็นเลยทีเดียว คนเป็นแม่หาข้อมูลไว้เรียบร้อยและเตรียมพร้อมเสมอ เลือกเสื้อผ้าผ้าอ้อมในลวดลายที่เป็นกลางใส่ได้ทั้งชายและหญิง จากนั้นพอคลอดเสร็จแล้วค่อยไปเลือกซื้อใหม่อีกรอบ พอถึงเวลานี้จริงๆ จึงสะดวกและรวดเร็วมาก วิเนตย์สั่งงานเอกวัสเอาไว้พร้อมกับบอกว่าตัวเขาอาจจะอยู่โรงพยาบาลไปเลยหากวธุกาคลอดจริง จากนั้นก็พาภรรยาขึ้นรถขับไปโรงพยาบาลในตัวเมืองทันที ระหว่างทางคนท้องก็ไม่ได้มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด “คุณแน่ใจนะว่ามูกเลือดจริงๆ คุณวาท”&
ตอนที่ : 53 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ20ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ พอเริ่มเข้าเดือนที่แปดวธุกาก็น้ำหนักพุ่งพรวดจาก 48 กิโลกรัมช่วงก่อนท้อง มาเป็น 60 กิโลกรัมในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งคู่รอที่จะลุ้นเพศของลูกตอนคลอดเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะหญิงหรือชายพวกเขาก็รักไม่ต่างกัน ส่วนคนกำลังจะเป็นพ่อก็เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี คอยเตือนให้ภรรยานับช่วงเวลาที่ลูกดิ้นตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด หลังจากได้รับสมุดตารางบันทึกการดิ้นของทารกเอาไว้ในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าทารกที่อยู่ในครรภ์ยังปกติดีหรือเปล่า หากผิดปกติก็จะได้ไปพบหมอได้ทันเวลา “หลังกินข้าวเจ้าตัวเล็กดิ้นไปกี่ครั้งแล้วคุณวาท” วิเนตย์เดินเข้ามาถามหลังจากภรรยาเพิ่งรับประทานมื้อเที่ยงไปหมาดๆ คนท้องเลยหันไปหยิบสมุดตา