วธุกาอ้าปากน้อยๆ เมื่ออีกสองคนก็บ้าจี้ตามเขาไปด้วย เดินตามหลังสามีผ่านจุดบริการลงไปยังทางลงแพ หญิงสาวหันหลังกลับไปมองคนทั้งคู่ พบว่าพวกเขาพากันปิดปากหัวเราะอย่างขำขัน
“กลายเป็นตัวตลกไปเลยทั้งคุณและฉัน” มีบ่นลอยๆ อยู่ข้างหลังสามี
“มีแต่คนจะอิจฉาล่ะไม่ว่า”
“ใครเขาจะมาอิจฉาเรากันล่ะ ไม่มีหรอก”
“มีสิ ก็คนที่ยังไม่มีคู่ยังไงล่ะ เอามานี่” วิเนตย์เอื้อมมือมาดึงกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากมือของภรรยา เมื่อเดินมาถึงบันไดไม้ที่วางพาดจากบนฝั่งไปยังบ้านพักบนแพ ซึ่งความชันของมันก็ทำให้เดินได้ลำบากอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าภรรยาจะหิ้วกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้ามาค่อนข้างเยอะจะเดินผ่านจุดนี้ไม่สะดวก
“ขอบคุณค่ะ” วธุกามองเขาแล้วยิ้มพร้อมเอ่ยคำขอบคุณ
“กลัวจะพลัดตกน้ำไปให้ปลามันแทะเล่นต่างหาก”
“บ้า” ตวัดตามองค้อนเขาแล้วก้มลงไปมองด้านล่าง มีปลาสีสวยว่ายน้ำไปมาเหมือนทุกวัน
“เอ้า มัวแต่มองปลาอยู่นั่นแหละ เดินลงไปก่อนผมเลยคุณวาท ห้องพักเราอยู่ฝั่งซ้ายมือสุดเลย หลังสุดท้าย”
“หลังสุดท้าย!”
“ใช่จะได้สงบไม่มีใครรบกวนไงล่ะ”
“เดินขาลากเลยนะนั่นคุณวิเนตย์ ทำไมต้องไปพักเสียไกลผู้ไกลคนขนาดนั้นด้วย วันก่อนลูกค้าก็บ่นว่าให้คนแก่มาพักหลังนั้นได้ยังไง ฉันต้องเดือดร้อนเปลี่ยนห้องที่อยู่ใกล้ๆ กับบนฝั่งให้ด้วยความสงสารคนแก่” หญิงสาวชะเง้อคอมองห้องพักหลังสุดท้ายที่เขาว่า มันช่างอยู่ไกลแสนไกลเหลือเกิน
“ก็ตอนจองเขาไม่ได้บอกว่าเป็นคนแก่มาพักนี่ ศิรดาก็คงจัดไปตามลำดับ คุณก็เดินออกกำลังกายบ้างจะได้แข็งแรงยังไงล่ะ”
“งั้นคุณก็หิ้วกระเป๋าไปให้ถึงห้องเลยนะ ฉันคงไม่ไหวหรอก” ‘แกล้งซะเลย อยากเลือกห้องนั้นทำไม’
“ครับคุณเมียเดินไปได้แล้วครับ แบกอะไรมาด้วยนี่หนักชะมัด”
“ติดโน้ตบุ๊กมาเผื่อเบื่อๆ”
“โน้ตบุ๊ก! บ้าหรือเปล่าคุณวาทมาฮันนีมูนแต่เอาโน้ตบุ๊กมาด้วยกะจะมานั่งคุยกับเพื่อนบนโลกออนไลน์แล้วไม่สนใจผัวอย่างผมเลยใช่ไหม มือถือก็เอามายังจะพ่วงโน้ตบุ๊กมาอีกทำไม” เสียงบ่นเหมือนคนกำลังหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
“เบาๆ หน่อยสิคุณ นี่หลังห้องแขกนะ” วธุกาทำหน้าเครียดหลังจากเดินผ่านหลังห้องลูกค้าบนแพ ซึ่งวิเนตย์ธาราต้องการมอบความเป็นส่วนตัวให้ลูกค้า โดยการสร้างทางเดินเอาไว้ด้านหลัง ส่วนด้านหน้าเป็นระเบียงบนแพของแต่ละห้อง มีเปลผูกกับเสาและเตียงไม้ไว้สำหรับลูกค้าได้พักผ่อน โดยที่จะไม่มีใครสามารถเดินผ่านหน้าห้องของแต่ละห้องได้ เว้นเสียแต่ห้องไหนที่จะมีบันไดขึ้นลงจากน้ำ ซึ่งเอาไว้สำหรับคนที่ลอยคอมาจากต้นน้ำจะได้กลับเข้าบนแพได้ แต่ขากลับก็ยังต้องเดินตรงทางเดินด้านหลังเหมือนทุกคน
“มีเมียบ้าๆ แบบคุณนี่ผมปวดหัวชะมัด” วิเนตย์บ่นไประหว่างเดินตามหลังภรรยา วธุกาลอบยิ้มอย่างชอบใจที่ทำให้เขาหัวเสียได้ ผ่านไปสักพักก็มาถึงห้องพักบนแพที่มีราคาแพงที่สุดในรีสอร์ตแห่งนี้ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดเพียงห้าห้องเท่านั้น
“กุญแจอยู่ในกระเป๋ากางเกงคุณช่วยล้วงหน่อยได้ไหม” ชายหนุ่มทำท่าเหมือนตัวเองกำลังถือกระเป๋าทั้งสองข้างไม่มีมือจะล้วงกระเป๋ากางเกง
“บ้าหรือเปล่าคุณวิเนตย์ คุณก็วางกระเป๋าลงสิเรื่องง่ายๆ ทำให้มันยุ่งยากไปได้ แปลกคน” หญิงสาวพูดแล้วก็ยืนกอดอกรอคอยการเปิดประตูของสามี
“นิดหน่อยก็ช่วยกันไม่ได้เลยนะคุณวาท” คนถูกรู้ทันปล่อยกระเป๋าในมือลงพื้นดังตุบ!
“ว้าย ลูกแม่พังหมดแล้วมั้งนั่น วางเบาๆ หน่อยไม่ได้เหรอคุณ”
“อ้อ ลืมว่ามีโน้ตบุ๊กด้วย” คราวนี้วิเนตย์ดูจะสะใจนิดๆ เขาไขกุญแจแล้วเสียบแถบแม่เหล็กเข้าที่ไฟในห้องก็สว่างขึ้นในทันที หันหลังกลับไปมองภรรยาซึ่งก้มลงหิ้วกระเป๋าของตัวเองขึ้นมากอดไว้แนบอก เดินเข้ามาภายในห้อง เหมือนกับกลัวว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ในนั้นจะถูกเขากระทำรุนแรงเหมือนเมื่อครู่นี้ ชายหนุ่มอดที่จะหัวเราะในท่าทีของภรรยาไม่ได้ เดินไปหิ้วกระเป๋าของตัวเองเข้ามาบ้าง
สภาพห้องของที่นี่ก็สมกับเป็นห้องสวีตราคาแสนแพง เตียงนอนขนาดเจ็ดฟุตสีขาวสะอาดสะอ้าน มีโซฟาเบดตัวใหญ่อยู่ปลายเตียง มีโต๊ะไม้ยาวสำหรับวางโทรทัศน์ขนาด 52 นิ้ว ภายในห้องน้ำก็มีอ่างสำหรับคู่รักไว้แช่น้ำอุ่น อันนี้ค่อยน่าสนใจหน่อยเพราะมีเหมือนบ้านหลังใหญ่เลย หน้าห้องก็เป็นประตูบานเลื่อนมีผ้าม่านยาวสีขาวที่ถูกรวบเอาไว้ทั้งสองข้าง วิวจากข้างในมองออกไปก็เห็นแม่น้ำสีเขียวมรกตตัดกับต้นไม้หนาตามองสูงก็เป็นท้องฟ้าสีสดใส อากาศของวันนี้ช่างดีงามจริงๆ
ชื่นชมความงามของห้องกับบรรยากาศเสร็จแล้ว วธุกาก็เดินมาจัดการกับเสื้อผ้าที่อยู่ในกระเป๋าของตัวเอง หญิงสาวหยิบโน้ตบุ๊กออกจากกระเป๋าเสื้อผ้าอย่างระมัดระวัง มันมีขนาดเล็กเลยสามารถใส่เข้ากระเป๋าฟองน้ำอันเล็ก และเข้ามาอยู่ในกระเป๋าใบนี้ได้ไม่ยาก
“เอาละคุณเมียครับ ช่วยทำหน้าที่ด้วยการเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ให้ผมด้วยนะครับ” วิเนตย์บอกคนที่ยืนก้มๆ เงยๆ หน้าตู้เสื้อผ้า วธุกาชะงักเล็กน้อยก่อนจะลงมือนำเสื้อแขวนใส่ตู้ต่อ
“ทำไมฉันต้องทำด้วยล่ะ”
“ก็มันหน้าที่ของคุณไม่ใช่เหรอ”
“ฉันว่าต่างคนต่างทำดีไหม”
“ถ้าเป็นเมียผมเขาก็คงทำให้” มือที่กำลังจะหยิบเสื้อในกระเป๋าขึ้นใส่ไม้แขวนเสื้อถึงกับชะงักงันแล้วหันหลังกลับไปมองคนที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียง เหมือนวิเนตย์จะรู้ตัวว่าได้หลุดปากอะไรออกไป สีหน้าของเขาแลดูเครียดขึ้นมานิดๆ
“ใช่สิ ฉันมันไม่ใช่เมียจริงๆ ของคุณนี่ งั้นก็คงไม่ผิดหากฉันจะไม่แขวนเสื้อใส่ตู้ให้คุณ” พูดแล้วก็ปิดตู้เสื้อผ้าลง ก้าวเท้าเร็วๆ ผ่านประตูบานเลื่อนไประเบียงหน้าห้อง
ประตูบานเลื่อนที่เปิดกว้างไว้ทำให้หญิงสาวยังอยู่ในสายตาของผู้เป็นสามี วิเนตย์นอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงมือก็กดรีโมตเลื่อนหาช่องรายการที่ตนเองไม่ได้สนใจอยากจะดูเลยสักนิด แต่ก็ต้องเปิดโทรทัศน์เพื่อให้บรรยากาศภายในห้องไม่เงียบจนเกินไป มองไปหน้าห้องพักอีกทีภรรยาคนสวยก็เอาตัวเองไปนอนอยู่บนเปลญวนเสียแล้ว
“จะหลับลงเหรอคุณวาท เรามาฮันนีมูนนะ” เขาเอ่ยลอยๆ ทว่าเสียงดังพอจะให้คนด้านนอกได้ยินด้วย คนบนเปลไม่ตอบอะไรออกมากลับปิดตาหนีเขาเสียดื้อๆ
“คุณวาทเข้ามาคุยกันก่อนดีไหม เราต้องอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืนเลยนะ คุณจะหนีหน้าผมเป็นเด็กๆ แบบนั้นไม่ได้”
“ฉันอยากอาบแดดตอนสายๆ”
“เชื่อตายล่ะ เข้ามาเถอะ เร็ว! อย่าให้ต้องออกไปอุ้มนะ” คราวนี้เปลที่ส่ายไปมาถึงกับหยุดกึก เพราะวธุกาใช้เท้าวางบนพื้นก้าวลงจากเปลอย่างขัดใจ
“มีอะไรจะคุยกับฉัน” หญิงสาวไปยืนตรงหน้าของสามีด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“มาให้ผมกอดหน่อยสิ”
“ฮะ! ผีเข้าหรือเปล่าคุณวิเนตย์ บ้าหรือเปล่าจู่ๆ ก็จะมาขอกอดกันดื้อๆ แบบนี้” คนเป็นสามีไม่ตอบกลับลุกขึ้นนั่งแล้วเดินไปปิดม่านเข้าหากัน โดยเปิดไว้เพียงประตูบานเลื่อนเท่านั้น
“คุณวิเนตย์ยังเช้าอยู่นะ” ไม่แปลกที่วธุกาจะคิดแบบนี้ ก็ท่าทีของเขาดูชอบกลทำไมต้องปิดม่านตอนสายๆ อย่างนี้ด้วย
“คุณคิดไปถึงไหนคุณวาท ผมจะกอดคุณผมต้องโชว์ชาวบ้านชาวช่องเขาด้วยรึไง เผื่อมีใครโผล่หน้ามาเล่นน้ำตอนเช้าก็เห็นเข้าพอดีน่ะสิ ผมอยากมีความเป็นส่วนตัวเหมือนกันนะ”
“จะมีใครมาเห็นได้ยังไง เราอยู่ต้นน้ำห้องแรกของรีสอร์ต”
“ก็อาจจะเป็นรีสอร์ตของเพื่อนคุณก็ได้ เผื่อลอยคอเลยแล้วหลุดมานี่”
ตอนที่ : 16 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 4 “เว่อร์ไปแล้ว อ๊ะ!” วิเนตย์ดึงคนเถียงไม่หยุดเข้ามากอดแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มไปด้วยกัน วธุกาดิ้นขลุกขลักเพียงเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในอ้อมกอดของสามี หัวใจเต้นในจังหวะแรงเร็วด้วยกันทั้งคู่ จนไม่รู้ว่าเป็นเสียงเต้นของใครกันแน่ ชั่วอึดใจหนึ่งฝ่ายสามีก็กดจูบลงบนหน้าผากของภรรยาอย่างนุ่มนวล “ผมขอโทษที่พูดถึงเมียเก่าให้คุณได้ยิน ต่อไปนี้ผมจะไม่หลุดปากแบบนี้อีกแล้วคุณวาท” ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเขาพูดเรื่องนี้ออกมา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แบบคนเผื่อใจเจ็บไว้แล้ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวิเนตย์ ยังไงเสียเขาก็คือเมียคุณส่วนฉันก็แค่...คนอื่น” ขมขื่นอยู่ไม่น้อยที่ต้องเอ่ยคำนี้ออกมา คำว่า คนอื่น “อย่าพูดแบบนี้
ตอนที่ : 17 ฮันนีมูนจริง ๆ6ฮันนีมูนจริงๆ ในเมื่อตกปากรับคำกันเป็นมั่นเหมาะแล้ว วธุกาก็ไม่คิดทำตัวเองให้ทุกข์ใจมากไปกว่านี้ หญิงสาวหลับตาลงแล้วพยายามนึกไว้อยู่เสมอว่าเขาคือ สามี และจะเป็นไปจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เป็นอิสระหย่าขาดจากกันไป ท้องฟ้าสีสดใสเสียงน้ำไหลเอื่อยตามกระแสกับสามีที่ลอยตัวอยู่ด้านข้าง มีบางครั้งที่ตัวของวิเนตย์จะหลุดออกห่างไป เขาก็จะดึงข้อมือของเธอเอาไว้แทน “นานมากแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำแบบนี้” “ค่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน อยู่กับแม่น้ำทั้งทีกลับไปว่ายแต่ในสระ” หญิงสาวมองดูนักท่องเที่ยวที่มีบางส่วนลากกระเป๋ามารวมกันไว้ตรงแพใหญ่ส่วนกลาง เหมือนกำลังจะเตรียมตัวคืนห้องพักและเดินทางกลับกัน
ตอนที่ : 18 ฮันนีมูนจริง ๆ 2 “หยุด! เอาไว้ที่เดิมเดี๋ยวนี้คุณวาท” คนในอ่างก็ใช่จะยอมลุกยืนตามภรรยาแล้วดึงเสื้อคลุมเก็บไว้ที่เดิม “คุณเก่งนะ คุณรู้ด้วยว่าผมกำลัง...” เขากระซิบชมติดใบหูแล้วหอมแก้มนุ่มๆ เสียฟอดใหญ่ คนถูกหอมก็ผิวเนื้อแดงซ่านไปทั้งตัว วิเนตย์เห็นแล้วก็ครางฮือในลำคอถ้าไม่รู้อายุจริงของหญิงสาว เขาก็คงคิดว่าตัวเองได้เมียเด็กเป็นแน่แท้ เพราะไม่ว่าจะจับจะชิมตรงไหนก็หวานละมุนนุ่มลิ้นไปเสียทุกสัดส่วน กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ก็ร่วมหนึ่งชั่วโมง วิเนตย์เลยต้องโทรศัพท์สั่งให้คนงานนำอาหารมาเสิร์ฟที่ห้องพักแทน ระหว่างนั่งรับประทานมื้อเที่ยงตรงหน้าระเบียง วธุกาก็แทบไม่กล้ามองสบตากับสามีตรงๆ สักครั้ง ความขวยอายก่อเกิดขึ้นเพราะว่าก่อนหน้าในห้องน้ำนั้นเร่าร้อนจนเดือดพล่านกันเลยทีเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าร้อนผ่าวจนปรากฏเด่นชัดออกมาให้สามีได้เห็น
ตอนที่ : 1 กฎของเรา 1กฎของเรา ผู้หญิงอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้วยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรัก ขืนปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปตามธรรมชาติคานทองนิเวศน์คงได้ถามหา วธุกา จึงไม่ลังเลที่จะรับปากแต่งงานทันทีที่มีการสู่ขอเกิดขึ้น สิ่งใดก็แล้วแต่ที่จะทำให้ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่ ได้มีชีวิตครอบครัวแสนอบอุ่นหญิงสาวก็พร้อมจะตัดสินใจเลือกทางนั้นในทันที เว้นเสียแต่กฎบ้าบอคอแตกของเขานั่นแหละที่ทำให้เธอต้องหยุดเพื่อคิดสักนิดหนึ่ง ส่วนเขา วิเนตย์ ชายผู้ฝังความรักไปพร้อมกับภรรยาและลูกน้อยที่เสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อนจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบจึงไม่ต้องการอะไรในชีวิตอีก นอกจากปรารถนาจะปลดปล่อยความรุ่มร้อนในร่างกาย การแต่งงานคือทางออกเดียวของเขา เพื่อจะระบายสิ่งที่เก็บกักเอาไว้ห้าปีเต็มได้อย่างถูกต้อง หลังจากที่ตอบตกลงแต่งงานไปเมื่อวันก่อน วันนี้ตัวแทนจากฝ่ายชายก็เข้ามาพบนางอารตีผู้เป็นป้าของเธอ พร้อมกับการสนทนาที่ใช้เวลานานเกือบหนึ่งชั่วโมง กระดาษแผ่นหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าของวธุกา หลังจากตัวแทนของฝ่ายชายได้กลับไปแล้ว “อะไรคะค
ตอนที่ : 2 กฎของเรา 2 “คุณยาย วาทไม่ค่อยอยากแต่งงานเลยค่ะ มันแปลกๆ ไงไม่รู้” “อ้าว แล้วกัน ไม่แต่งแล้วจะมีลูกเลี้ยงตอนแก่เหรอยัยวาท เป็นสาวโสดไปชั่วชีวิตมันไม่สนุกหรอกนะ” “วาทเลี้ยงตัวเองได้ค่ะคุณยาย สมัยนี้ผู้หญิงเราเก่งจะตายไปไม่ต้องง้อให้ใครมาเลี้ยงหรอกค่ะ” วธุกาไม่กล้าบอกผู้เป็นยายถึงกฎสามข้อโดยเฉพาะข้อที่สามของวิเนตย์ เกรงว่าท่านจะไม่เห็นด้วยแล้วเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตไป “อย่าคิดแบบนั้นสิวาท อนาคตวาทจะอยู่คนเดียวไปอย่างนั้นเหรอ ถ้าวาทแต่งงานยายก็ยังใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่ามีคนรับไปดูแลแล้ว ดีกว่าอยู่กับยัยตีมีแต่จะถูกโขกสับไปวันๆ ประสาทจะกินอยู่แล้วยายน่ะ มีเรื่องมาให้คิดอยู่ได้ไม่เว้นแต่ละวัน ตั้งแต่สาวยันแก่นิสัยมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย” ยายนวลน้อยพูดแล้วก็ส่ายหน้า เพราะว่าเป็นลูกในไส้ถึงได้รู้เห็นธาตุแท้ของนางอารตีมาตั้งแต่เล็กจนโต “คุณยายว่าวาทควรจะแต่งงานกับคุณวิเนตย์จริงๆ เหรอคะ” หญิงสาวถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ “สมควรที่สุดเลยล่ะวาทเอ๊ย อย่างน้อยๆ ก็จะได้มีสามีเป็นตัวเป็นตนมีคนคอยช่วยเหลือกันในวันข้างหน้า มีลูกคอย
ตอนที่ : 3 คืนวิวาห์2คืนวิวาห์ มหัศจรรย์พันลึกมากสำหรับงานแต่งที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ ก่อนหน้าที่จะมีวันนี้วิเนตย์ไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปหาเธอที่บ้านของยายนวลน้อยเลยแม้แต่วันเดียว วธุกานับหนึ่งถึงสิบทุกครั้งที่อยากจะขอยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้ พอมาคิดถึงเรื่องสินสอดที่ยายนวลน้อยรับมาแล้วก็ทำไม่ลงเลยจริงๆ ภายในงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายแขกเหรื่อก็มีเพียงแค่ญาติสนิทของคู่บ่าวสาวฝั่งละไม่กี่สิบคน ครั้งแรกที่หญิงสาวได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวแบบถนัดตาก็ในวันแต่งงานของตัวเองนี่แหละ อดยอมรับไม่ได้ว่าวิเนตย์เป็นชายไทยแท้ผู้มีใบหน้าเคร่งขรึม แววตาดุดันจนบางครั้งก็น่ากลัวจนเกินไป ตลอดเวลาที่อยู่ภายในงานเขาไม่ชวนเธอพูดสักคำเดียว แม้แต่รอยยิ้มนิดๆ ก็ยังไม่มี นี่มันงานแต่งประเภทไหนกันอยากรู้นัก แต่วธุกาก็มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะรักษาหน้าของทุกคนเอาไว้ ด้วยการนิ่งและเงียบจนกว่าจะได้ฤกษ์เข้าหอ และอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้องนอน “คุณเข้าใจกฎเหล็กสามข้อของผมดีหรือยัง” นี่คือคำพูดแรกของเจ้าบ่าวภายในห้องหอ เจ้าสาวคนงามถึงกับถอนหายใจเบาๆ ที่ได้ยิน “เข้าใจค่ะ” อา
ตอนที่ : 4 คืนวิวาห์ 2 “อย่ามาโวยวายใส่ผมนะคุณวาท ผมไม่ชอบผู้หญิงสติไม่ดีที่อะไรนิดอะไรหน่อยก็เอาแต่กรี๊ดๆ ใส่กันแบบนี้ มันน่ารำคาญรู้ไหม” ‘ผู้หญิงสติไม่ดี?’ คนถูกตำหนิอ้าปากเหวอชี้นิ้วใส่ตัวเองแบบอยากจะกระโดดถีบเจ้าบ่าวในคืนเข้าหอเสียเหลือเกิน ‘เย็นไว้วาทๆ’ ได้แต่ท่องสามคำนี้ไว้ในใจ แล้วดวงตาคู่สวยก็ต้องเบิกโตขึ้นเมื่อเจ้าบ่าวของตนเดินตรงดิ่งเข้ามาหา “เดี๋ยว! คุณจะทำอะไร” “ก็คุณช้าผมจะถอดให้เอง” วธุกาถูกดันตัวลงไปนอนอยู่บนเตียงขณะที่เขาจับโน่นพลิกนี่หาบางอย่างอยู่ ไม่ช้าซิปที่ฝังอยู่ด้านหลังชุดก็ปรากฏให้เขาได้รูดลงอย่างง่ายดาย “อย่าดิ้นสิ” เสียงดุไม่ได้ทำให้เจ้าสาวที่กำลังดิ้นหนีไปมาหยุดได้ หนักเข้าเจ้าบ่าวก็เอาเนกไทที่รูดทิ้งเมื่อครู่มามัดมือของหญิงสาวเอาไว้ “คุณวิเนตย์นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอยังไง มามัดฉันทำไม!” “ใครใช้ให้คุณดิ้น” “โธ่...คุณวิเนตย์อย่ามัดฉันสิ แล้วก็อย่าถอดด้วย อะ...อ๊าย!” ไม่ทันแล้วชุดเจ้าสาวถูกถอดออกจากปลายเท้าและหล่นลงไปกองอยู่บนพื้น เหลือเพียงผ้าลูกไม้ชิ้นน้อยแสนบางเบา แค่เหลือบตาขึ้
ตอนที่ : 5 คืนวิวาห์ 3 บทรักของวิเนตย์คล้ายคนตายอดตายอยากมาอย่างยาวนาน วธุกาเหลือบตาลงด้านล่างมองคนตัวใหญ่ที่กำลังทำตัวเป็นทารกดูดนมมารดา รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ตรงที่ถูกเขาดูดดึงจนแข็งขืน ได้แต่ยกมือขึ้นไปวางบนหัวไหล่ของเขาแล้วดันออกเบาๆ แต่ก็ถูกเขาปัดออกอย่างนุ่มนวลและแนบเนียนเป็นที่สุด หญิงสาวอยากปล่อยเสียงโฮออกมานักในตอนนี้ ครั้งแรกมันไม่ได้อ่อนหวานน่าละลายใจเลย กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเป็นที่สุด เป็นเพราะไอ้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าวนี่แหละ ที่ตะกละตะกลามเหลือเกิน “คุณวิเนตย์ อื้อ!” เขาจูบหน้าท้องแบนราบลงไปจุ่มปลายลิ้นตรงหลุมสะดือ ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นด้านบนแล้วเปิดลิ้นชักออกมา กว่าจะรู้ว่าเขาทำอะไรวธุกาก็หน้าชาเจ็บจุกไปถึงขั้วหัวใจ ในคืนเข้าหอเขากำลังสวมถุงยางอนามัย! ‘แต่ผมไม่ต้องการแม่ของลูก หรือเพื่อนคู่ชีวิตที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า’ สวมเสร็จก็หันมามองเธอ ซึ่งตอนนี้แววตาคงรื้นไปด้วยหยาดน้ำใสๆ เต็มสองข้าง มันห่อเหี่ยวและรู้สึกเศร้าเหลือเกินในตอนนี้ เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอคิดสิ่งใดอยู่ในใจ “เราคุยกันแล้วคุณเองก็รู้” และเขาเล
ตอนที่ : 18 ฮันนีมูนจริง ๆ 2 “หยุด! เอาไว้ที่เดิมเดี๋ยวนี้คุณวาท” คนในอ่างก็ใช่จะยอมลุกยืนตามภรรยาแล้วดึงเสื้อคลุมเก็บไว้ที่เดิม “คุณเก่งนะ คุณรู้ด้วยว่าผมกำลัง...” เขากระซิบชมติดใบหูแล้วหอมแก้มนุ่มๆ เสียฟอดใหญ่ คนถูกหอมก็ผิวเนื้อแดงซ่านไปทั้งตัว วิเนตย์เห็นแล้วก็ครางฮือในลำคอถ้าไม่รู้อายุจริงของหญิงสาว เขาก็คงคิดว่าตัวเองได้เมียเด็กเป็นแน่แท้ เพราะไม่ว่าจะจับจะชิมตรงไหนก็หวานละมุนนุ่มลิ้นไปเสียทุกสัดส่วน กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ก็ร่วมหนึ่งชั่วโมง วิเนตย์เลยต้องโทรศัพท์สั่งให้คนงานนำอาหารมาเสิร์ฟที่ห้องพักแทน ระหว่างนั่งรับประทานมื้อเที่ยงตรงหน้าระเบียง วธุกาก็แทบไม่กล้ามองสบตากับสามีตรงๆ สักครั้ง ความขวยอายก่อเกิดขึ้นเพราะว่าก่อนหน้าในห้องน้ำนั้นเร่าร้อนจนเดือดพล่านกันเลยทีเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าร้อนผ่าวจนปรากฏเด่นชัดออกมาให้สามีได้เห็น
ตอนที่ : 17 ฮันนีมูนจริง ๆ6ฮันนีมูนจริงๆ ในเมื่อตกปากรับคำกันเป็นมั่นเหมาะแล้ว วธุกาก็ไม่คิดทำตัวเองให้ทุกข์ใจมากไปกว่านี้ หญิงสาวหลับตาลงแล้วพยายามนึกไว้อยู่เสมอว่าเขาคือ สามี และจะเป็นไปจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เป็นอิสระหย่าขาดจากกันไป ท้องฟ้าสีสดใสเสียงน้ำไหลเอื่อยตามกระแสกับสามีที่ลอยตัวอยู่ด้านข้าง มีบางครั้งที่ตัวของวิเนตย์จะหลุดออกห่างไป เขาก็จะดึงข้อมือของเธอเอาไว้แทน “นานมากแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำแบบนี้” “ค่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน อยู่กับแม่น้ำทั้งทีกลับไปว่ายแต่ในสระ” หญิงสาวมองดูนักท่องเที่ยวที่มีบางส่วนลากกระเป๋ามารวมกันไว้ตรงแพใหญ่ส่วนกลาง เหมือนกำลังจะเตรียมตัวคืนห้องพักและเดินทางกลับกัน
ตอนที่ : 16 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 4 “เว่อร์ไปแล้ว อ๊ะ!” วิเนตย์ดึงคนเถียงไม่หยุดเข้ามากอดแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มไปด้วยกัน วธุกาดิ้นขลุกขลักเพียงเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในอ้อมกอดของสามี หัวใจเต้นในจังหวะแรงเร็วด้วยกันทั้งคู่ จนไม่รู้ว่าเป็นเสียงเต้นของใครกันแน่ ชั่วอึดใจหนึ่งฝ่ายสามีก็กดจูบลงบนหน้าผากของภรรยาอย่างนุ่มนวล “ผมขอโทษที่พูดถึงเมียเก่าให้คุณได้ยิน ต่อไปนี้ผมจะไม่หลุดปากแบบนี้อีกแล้วคุณวาท” ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเขาพูดเรื่องนี้ออกมา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แบบคนเผื่อใจเจ็บไว้แล้ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวิเนตย์ ยังไงเสียเขาก็คือเมียคุณส่วนฉันก็แค่...คนอื่น” ขมขื่นอยู่ไม่น้อยที่ต้องเอ่ยคำนี้ออกมา คำว่า คนอื่น “อย่าพูดแบบนี้
ตอนที่ : 15 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 3 วธุกาอ้าปากน้อยๆ เมื่ออีกสองคนก็บ้าจี้ตามเขาไปด้วย เดินตามหลังสามีผ่านจุดบริการลงไปยังทางลงแพ หญิงสาวหันหลังกลับไปมองคนทั้งคู่ พบว่าพวกเขาพากันปิดปากหัวเราะอย่างขำขัน “กลายเป็นตัวตลกไปเลยทั้งคุณและฉัน” มีบ่นลอยๆ อยู่ข้างหลังสามี “มีแต่คนจะอิจฉาล่ะไม่ว่า” “ใครเขาจะมาอิจฉาเรากันล่ะ ไม่มีหรอก” “มีสิ ก็คนที่ยังไม่มีคู่ยังไงล่ะ เอามานี่” วิเนตย์เอื้อมมือมาดึงกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากมือของภรรยา เมื่อเดินมาถึงบันไดไม้ที่วางพาดจากบนฝั่งไปยังบ้านพักบนแพ ซึ่งความชันของมันก็ทำให้เดินได้ลำบากอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าภรรยาจะหิ้วกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้ามาค่อนข้างเยอะจะเดินผ่า
ตอนที่ : 14 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 2 “คุณไม่หนาวเหรอคะ ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวฉันจะได้ปิดคอมพ์” วธุกาเสียงสั่นนิดๆ “ใส่ทำไมเสียเวลา รีบปิดแล้วไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้คุณวาท” เสียงของวิเนตย์เริ่มแข็งขึ้นพร้อมกับสายตาจ้องบังคับ วธุกากลั้นใจกดปุ่ม shut down แล้วปิดเก็บโน้ตบุ๊กของตนเองไว้ หันหลังกลับมาก็ต้องผงะกับภาพของสามีที่กำลังนอนกอดอกรออยู่บนเตียง หญิงสาวแทบเข่าอ่อนทันทีที่ผ้าขนหนูของเขากำลังเปลี่ยนรูปผิดร่างจากปกติตรงจุดยุทธศาสตร์ เหมือนกับว่ามันกำลังพร้อมเสียเหลือเกินสำหรับการออกสมรภูมิรบบนเตียงนอน “คุณวิเนตย์” “หืมว่าไง” “เอ่อ คือว่าฉัน
ตอนที่ : 13 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน5แน่ใจนะว่าฮันนีมูน วธุกาได้ฟังแผนการฮันนีมูนของสามีแล้วก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ พ่อเจ้าประคุณช่างคิดออกมาได้ คนดีๆ ที่ไหนเขาจะทำกันแบบนี้ แผนการฮันนีมูนห้าวันสี่คืนของเขามันช่างน่าประทับใจมาก (อันนี้ประชด) วันที่ 1-2 พักที่ห้องสวีตบนแพ มีอาหารเช้าเย็นให้เป็นแบบบุฟเฟต์ ชมวิวแม่น้ำสวยๆ หรือไม่ก็ใส่เสื้อชูชีพลงไปลอยคออยู่หน้าที่พัก ช่วง 16.00 น. แพก็ลากเราไปไกลจากรีสอร์ตหนึ่งกิโลกว่าๆ แล้วปล่อยให้ลงน้ำลอยคอกลับมาที่พักอย่างสนุกสนาน&nbs
ตอนที่ : 12 หัวใจว้าวุ่น 3 มุมหนึ่งของรีสอร์ตเอกวัสกำลังรายงานสถานการณ์ของเช้านี้ให้เจ้านายฟังเหมือนทุกวัน แต่สายตาของวิเนตย์กลับไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขากำลังบอกเล่าแต่อย่างใด หนุ่มใหญ่ลองเบนสายตาตามก็พบว่าเจ้านายกำลังมองไปยังร่างสมส่วนที่กำลังเดินไปอีกทาง “คุณวิเนตย์...คุณวิเนตย์ครับ” “ว่าไงคุณวัสถึงไหนแล้วครับ” คนรู้ตัวว่ากำลังเหม่อลอยไปอีกทางรีบหันกลับมาแล้วทำหน้าปกติตามเดิม เอกวัสถึงกับอมยิ้มทันทีเพราะนานทีปีหนไม่เคยเห็นวิเนตย์เป็นอย่างนี้มาก่อน “ผมพูดจบแล้วนะครับ” “อะไรกันผมยังฟังไม่หมดเลย คุณพูดใหม่เลยแล้วกัน” ‘อ้าว ก็มัวแต่มองเมียอยู่นั่นแหละ’ เอกวัสค้อนเจ้านายเล็กๆ ก่อนจะเริ่มต้นรายงานสถานการณ์ประจำวันใหม่อีกรอบ วิเนตย์ชอบที่จะฟังจากปากของตนมากกว่าการอ่านจากเอกสารเป็นแผ่นๆ “มีเท่านี้ครับวันนี้ลูกค้าน้อย” “งั้นคุณวัสก็ไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ ผมไม่มีอะไรแล้ว” “ได้ครับ ว่าแต่คุณวิเนตย์จะไปฮันนีมูนวันไหนเหรอครับ ผมจะได้ดูวันพักร้อนของตัวเองไว้ก่อนเผื่อจะแพลนตรงกัน” “ฮั
ตอนที่ : 11 หัวใจว้าวุ่น 2 “ชิมยังไงมันก็มีพลาดกันได้ตลอด ผมเลยต้องเผื่อเอาไว้ไง” “เอาตัวเองเป็นหนูทดลองนี่นะ” “ผมพอใจทำใครจะทำไม” “ใครจะไปทำอะไรเจ้าของรีสอร์ตล่ะคะ ไม่กล้าหรอก” วธุกายุติบทสนทนาด้วยการตักข้าวต้มเข้าปาก ตาก็มองดูการรับประทานอาหารของสามีไปพลาง ๆ มีบ่อยครั้งที่เขามองกลับมาแล้วเธอหลบตาไม่ทัน “อุ๊บ!” ข้าวต้มแทบจะไหลพรวดลงคอแบบไม่ได้กลืน รีบยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มในทันที “เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกคุณวาท ดูซิ เลอะปากไปหมดแล้วนั่น” ความใจดีของสามีก็เผยออกมา ในตอนที่เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกล่อง แล้วเช็ดขอบปากให้อย่างลวกๆ นุ่มนวลเหรอ ฝันไปเถอะ “พอแล้วๆ กะจะต่อยปากกันหรือไงเช็ดแบบนี้” หญิงสาวรีบดึงมือสามีออกแล้วมองค้อนเขาเล็กน้อย “หวังดีแท้ๆ” ‘เก็บไว้ใช้กับตัวเองเถอะคนบ้า’ “คุณวิเนตย์ฉันมีเรื่องจะขอคุณ” วธุกาเขี่ยข้าวต้มในถ้วยไปมาระหว่างบอกเขา “เรื่องอะไร” วิเนตย์ถามกลับทั้งที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่ในปาก ออกจะไร้มารยาทสำหรับวธุกาแต่หญิงสาวกลับไม่ถือสาเขาแ
ตอนที่ : 10 หัวใจว้าวุ่น4หัวใจว้าวุ่น คนถูกกวนตลอดทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบากยากเย็น มือน้อยควานหาสามีด้านข้างก็เจอแต่ความว่างเปล่า วธุกาปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดตอนเช้าก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่ง มองดูพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างและยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าได้กอดใครบางคนมาตลอดทั้งคืน รีบสลัดความคิดนี้ออกจากหัวลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป ชีวิตมันจะอยู่แค่นี้จริงๆ หรือ วธุกาเริ่มตั้งข้อสงสัยให้กับการใช้ชีวิตคู่ของเธอกับเขา เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ายามมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ในกระจกแผ่นใหญ่ตรงหน้า หญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากสวยอวบอิ่มกับดวงตาที่หวานซึ้งรับกับคิ้วโค้งพอเหมาะ ทุกอย่างลงตัวสวยตามฉบับสาวไทย วธุกามีความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม รูปร่างอวบอัดได้สัดส่วน เพราะการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันทำให้รูปร่างยังคงสวยงามอยู่แม้จะมีอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้ว ความจริงแล้วเธอไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้พบผู้ชายคนไหนที่ถูกใจมาก่อนหน้านี้ แต่บทจะพลาดก็ง่ายดายเหลือเกิน หญิงสาวมองโทรศัพท์มือถือแล