“คุณไม่หนาวเหรอคะ ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวฉันจะได้ปิดคอมพ์” วธุกาเสียงสั่นนิดๆ
“ใส่ทำไมเสียเวลา รีบปิดแล้วไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้คุณวาท” เสียงของวิเนตย์เริ่มแข็งขึ้นพร้อมกับสายตาจ้องบังคับ วธุกากลั้นใจกดปุ่ม shut down แล้วปิดเก็บโน้ตบุ๊กของตนเองไว้ หันหลังกลับมาก็ต้องผงะกับภาพของสามีที่กำลังนอนกอดอกรออยู่บนเตียง หญิงสาวแทบเข่าอ่อนทันทีที่ผ้าขนหนูของเขากำลังเปลี่ยนรูปผิดร่างจากปกติตรงจุดยุทธศาสตร์ เหมือนกับว่ามันกำลังพร้อมเสียเหลือเกินสำหรับการออกสมรภูมิรบบนเตียงนอน
“คุณวิเนตย์”
“หืมว่าไง”
“เอ่อ คือว่าฉันมี เอ่อ”
“เมนส์มาว่างั้น ไหนผ้าอนามัย” สายตาของวิเนตย์บอกเต็มที่ว่าไม่เชื่อ
“ฮึ่ย! นี่คุณคิดอะไรบ้าๆ พวกนี้ออกมาได้ไงเนี่ย ฉันอยากจะบ้าตายจริงๆ เฮ้อ” คนพูดแทบจะจิกผมทึ้งศีรษะตัวเองเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“อ้าว ก็เห็นอ้ำๆ อึ้งๆ เอ่ออ่าอยู่นั่นแหละไม่ทันใจเดี๋ยวน้องผมก็คออ่อนก่อนพอดี” ไม่พูดเปล่ายังเหลือบตาต่ำลงให้วธุกามองตามไปด้วย และได้ผลเพราะหญิงสาวก็เหลือบตาตามอย่างไม่รู้ตัว
“เอะอะก็จะจับขึ้นเตียงท่าเดียวเลย กลัวใช้งานไม่คุ้มหรือไงก็ไม่รู้” หญิงสาวแดกดันเขาอย่างเจ็บใจ วิเนตย์กลับยิ้มกริ่มเหมือนคนถือไพ่เหนือกว่าในทุกๆ เรื่อง
“คุณวาท มานี่มามานั่งใกล้ๆ ผมมา” ชายหนุ่มดึงตัวของภรรยาเข้าไปกอดอยู่ด้านข้าง ใช้นิ้วดันคางมนให้เงยขึ้นมองสบสายตาของเขา
“เรายังเป็นข้าวใหม่ปลามันอยู่นะ ผมไม่ผิดปกติหรอกที่ต้องการทุกคืนแบบนี้ คุณสิไม่ยินดียินร้ายกับผมเลย คุณต้องผิดปกติแน่ๆ คุณวาท” ชายหนุ่มเบ้ปากนิดๆ ใส่คนในอ้อมกอด ผลที่ได้ก็คือการถูกปัดนิ้วออกจากคางแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง
“จะบอกให้นะคุณวิเนตย์ ผู้หญิงคนไหนก็ตามที่กล้าแต่งงานกับคุณ ผิดปกติแน่ๆ” ประชดทั้งเขาและตัวเอง
“คุณก็ค่อยๆ ปรับตัวไปสิ อีกหน่อยก็ชินไปเอง ผมไม่ใช่สามีใจยักษ์ใจมารนะผมดูแลคุณเป็นอย่างดีเลยล่ะ มีอาหารให้กินครบทุกมื้อมีอ้อมกอดอุ่นๆ พร้อมกับเซ็กซ์อันเร่าร้อนในทุกๆ คืน ใครที่ไหนจะอึดเท่าผม”
“คุณมันบ้า!”
“โอ๊ย! จะมาหยิกผมทำไมนี่”
“ฉันเลยลืมเลยว่าจะคุยอะไรกับคุณ มัวแต่มาคุยเรื่องไร้สาระกันอยู่นี่แหละ”
“ไร้สาระที่ไหนสำคัญทั้งนั้น” สีหน้าของสามีเธอดูผ่อนคลายลงมากกว่าตอนกลางวันเป็นไหนๆ วธุกาเพิ่งเห็นเขายิ้มแบบสบายอกสบายใจก็ตอนอยู่บนเตียงนอนเดียวกันนี่แหละ
“ฉันว่าจะคิดเรื่องฮันนีมูนใหม่”
“คิดว่าไงล่ะคุณวาท” คราวนี้คนที่เอนหลังรีบยันศอกลงบนที่นอนแล้วเอียงหน้ามามองคนในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว
“ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ ไปวันๆ”
“หมายความว่า...” เขาเว้นคำพูดเอาไว้เพื่อรอฟังคำตอบจากปากของภรรยา
“ฮันนีมูนที่นี่ก็ได้ค่ะ” วธุกาเงยหน้าขึ้นตอบเขาอย่างอายๆ วิเนตย์ถึงกับฉีกยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ ก่อนจะขึ้นไปทาบทับอยู่บนร่างของภรรยา
“เอ่อ” ดวงตาสองคู่มองสบกัน เหมือนมีบางอย่างตรึงทั้งคู่เอาไว้ไม่ให้หันหนีไปทางอื่นได้ จากนั้นริมฝีปากหนาของผู้เป็นสามีก็ทาบทับลงบนกลีบปากนุ่มละมุนของภรรยา จุมพิตแสนหวานลึกล้ำมากกว่าครั้งไหนๆ ที่วธุกาเคยพบเจอ หญิงสาวเลื่อนฝ่ามือไปทาบแผ่นหลังหนาของสามีแล้วกอดเขาไว้ยามบทรักได้เคลื่อนผ่านในค่ำคืนนี้ อ่อนหวานนุ่มนวลและเร่าร้อนดุดัน จวบจนทุกอย่างแตกกระจายพร่างพรายยามได้ก้าวผ่านขอบฟ้าแสนงดงาม
ตื่นเช้าขึ้นมาวิเนตย์ก็ลุกออกไปทำงานก่อนภรรยาเหมือนทุกวัน วธุกาเป่าลมออกปากฟู่ใหญ่ตรงหน้ากระจก เมื่อหวีผมเรียบร้อยแล้ว การตัดสินใจฮันนีมูนกับเขาที่นี่ จะมีผลอะไรต่อชีวิตคู่แสนเปราะบางนี่ไหม บางครั้งก็ไม่อยากคิดถึงอนาคตที่มันมายังไม่ถึง ขอแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอคงมีแค่นี้ที่เธอต้องการ
เสียงกุกกักเหมือนคนทำอะไรบางอย่าง ดังออกมาจากห้องริมขวาสุด หัวใจกระตุกนิดๆ เมื่อนึกได้ว่าห้องนั้นเป็นของใคร แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็มีมากกว่า ภายในห้องถูกจัดเอาไว้อย่างเรียบร้อยราวกับมีคนอาศัยอยู่จริงๆ เตียงนอนเด็กสีชมพูหวานแหวว มีตุ๊กตาหลากหลายประเภทวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
“อ้าวคุณวาทเข้ามาทำไมคะ คุณวิเนตย์ห้ามคนอื่นเข้าห้องนี้นะคะ” น้ำเพลินตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นเธอยืนอยู่ในห้อง
“คนอื่น...อย่างนั้นเหรอเพลิน”
“เอ่อ เพลินขอโทษนะคะ เพลินไม่ได้หมายความถึงคุณวาทแบบนั้นนะคะ” น้ำเพลินรีบเอ่ยอย่างร้อนตัว สายตาก็มองแบบหวาดระแวงไปทั่วเหมือนกลัวว่าใครจะมาเห็นเข้า
“ไม่เป็นไรหรอกเพลิน ฉันก็แค่อยากรู้ว่าห้องนี้สามีของฉันเอาไว้ทำอะไร”
“เอ่อ เป็นห้องส่วนตัวมากๆ เลยค่ะ คุณวาทก็ออกไปก่อนนะคะเดี๋ยวคุณวิเนตย์จะได้ฆ่าเพลินตายพอดี” น้ำเพลินออกอาการหวาดกลัวจริงๆ วธุกาไม่อยากให้แม่บ้านสาวน้อยต้องลำบากใจจึงยอมจากไปแต่โดยดี
“ก็ได้ๆ” แต่ก่อนจะออกจากห้องไปสายตาก็ไปปะทะเข้ากับรูปถ่ายครอบครัวของเขา เพิ่งได้เห็นหน้าภรรยาและลูกที่จากไปของวิเนตย์ ช่างเป็นครอบครัวแสนอบอุ่น ภรรยาแสนสวยบุคลิกเป็นคนจิตใจดีกับลูกสาวหน้าตาน่ารัก ความผูกพันคงมากล้นจนวิเนตย์ไม่สามารถลืมพวกเขาได้ แม้ว่าวันเวลาจะผ่านมาถึงห้าปีเต็ม เจ็บแปลบๆ ในอกทั้งที่รู้มาก่อนหน้า แต่พอได้เห็นกับตาทุกอย่างก็เคว้งคว้างไปในทันที
หนึ่งสัปดาห์ถัดมาก็เป็นวันที่ทั้งคู่จะได้ฮันนีมูนกันจริงๆ วธุกานั่งมองสามีซึ่งกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า มีค้อนเล็กๆ สำหรับการกระทำที่มองยังไงก็ขัดหูขัดตาไปเสียหมด เขาเลือกที่จะฮันนีมูนในบ้านของตัวเองแท้ๆ กลับต้องมาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าราวกับจะเดินทางไปที่ไหนไกลๆ เสียอย่างนั้น
“ทำไมจะต้องเก็บกระเป๋าด้วยคะ เดินลงไปพักที่แพแค่นี้เองไม่เห็นจะต้องทำให้มันสมจริงสมจังอย่างกับนักท่องเที่ยวมาจากที่อื่นก็ได้ คุณจะทำก็ทำไปคนเดียวเถอะฉันไม่บ้าตามหรอกนะ”
“ผมไม่ได้คิดจะทำให้สมจริงสมจังหรอกคุณวาท แต่ผมทำจริงๆ แล้วแน่ใจนะที่พูดออกมาแบบนั้น”
“ก็แน่ใจสิ” วธุกายักไหล่บอกสามี วิเนตย์ส่ายหน้าอย่างขำๆ
“ผมหวังดีหรอกนะคุณวาท จะบอกให้ว่าทำไมจะต้องเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแค่ไปบ้านแพตรงนี้ ก็เพราะว่าทางเดินขึ้นลงระหว่างที่นี่กับบ้านพักบนแพมันไกลกันพอสมควร แล้ววันหนึ่งคุณจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากันสักกี่รอบ ไหนจะเช้าสายบ่ายเย็นชุดเล่นน้ำตอนแพลากไปอีก เดินขึ้นเดินลงวันละหลายๆ รอบ ถ้าคุณไหวผมไม่ว่า” ชายหนุ่มพูดจบก็แบมือออกทั้งสองข้างใส่ภรรยา
วธุกานิ่วหน้าเล็กน้อยพลางคิดถึงเวลาที่เธอเดินขึ้นลงในแต่ละวัน มากสุดก็แค่รอบเดียวเท่านั้นแหละตอนเช้าๆ ที่ลงไปดูแม่น้ำด้านล่าง จากนั้นก็ไม่คิดขึ้นลงให้เมื่อยเท้าอีกเลย ‘เห็นจะจริงอย่างที่เขาว่า’ รีบรื้อหากระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง โดยที่คนเป็นสามีได้แต่อมยิ้มนิดๆ อย่างพอใจ
ไม่ช้าทั้งคู่ก็หิ้วกระเป๋าเดินลงจากบ้านไปยังบ้านพักบนแพ เดินผ่านพนักงานในรีสอร์ตก็พบแต่คนอมยิ้มไม่เว้นกระทั่งผู้จัดการของที่นี่และพนักงานต้อนรับอย่างศิรดา
“ไม่ต้องมายิ้มทั้งคู่นั่นแหละ” วิเนตย์แสร้งทำตาดุใส่ทั้งคู่
“ผมเปล่านะครับคุณวิเนตย์”
“ดาก็เปล่านะคะ”
“ผมไม่อยู่คุณก็ดูแลแขกของเราให้ดีๆ ด้วยล่ะคุณวัส ศิรดา”
“ครับ/ค่า”
ตอนที่ : 15 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 3 วธุกาอ้าปากน้อยๆ เมื่ออีกสองคนก็บ้าจี้ตามเขาไปด้วย เดินตามหลังสามีผ่านจุดบริการลงไปยังทางลงแพ หญิงสาวหันหลังกลับไปมองคนทั้งคู่ พบว่าพวกเขาพากันปิดปากหัวเราะอย่างขำขัน “กลายเป็นตัวตลกไปเลยทั้งคุณและฉัน” มีบ่นลอยๆ อยู่ข้างหลังสามี “มีแต่คนจะอิจฉาล่ะไม่ว่า” “ใครเขาจะมาอิจฉาเรากันล่ะ ไม่มีหรอก” “มีสิ ก็คนที่ยังไม่มีคู่ยังไงล่ะ เอามานี่” วิเนตย์เอื้อมมือมาดึงกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากมือของภรรยา เมื่อเดินมาถึงบันไดไม้ที่วางพาดจากบนฝั่งไปยังบ้านพักบนแพ ซึ่งความชันของมันก็ทำให้เดินได้ลำบากอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าภรรยาจะหิ้วกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้ามาค่อนข้างเยอะจะเดินผ่า
ตอนที่ : 16 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 4 “เว่อร์ไปแล้ว อ๊ะ!” วิเนตย์ดึงคนเถียงไม่หยุดเข้ามากอดแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มไปด้วยกัน วธุกาดิ้นขลุกขลักเพียงเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในอ้อมกอดของสามี หัวใจเต้นในจังหวะแรงเร็วด้วยกันทั้งคู่ จนไม่รู้ว่าเป็นเสียงเต้นของใครกันแน่ ชั่วอึดใจหนึ่งฝ่ายสามีก็กดจูบลงบนหน้าผากของภรรยาอย่างนุ่มนวล “ผมขอโทษที่พูดถึงเมียเก่าให้คุณได้ยิน ต่อไปนี้ผมจะไม่หลุดปากแบบนี้อีกแล้วคุณวาท” ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเขาพูดเรื่องนี้ออกมา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แบบคนเผื่อใจเจ็บไว้แล้ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวิเนตย์ ยังไงเสียเขาก็คือเมียคุณส่วนฉันก็แค่...คนอื่น” ขมขื่นอยู่ไม่น้อยที่ต้องเอ่ยคำนี้ออกมา คำว่า คนอื่น “อย่าพูดแบบนี้
ตอนที่ : 17 ฮันนีมูนจริง ๆ6ฮันนีมูนจริงๆ ในเมื่อตกปากรับคำกันเป็นมั่นเหมาะแล้ว วธุกาก็ไม่คิดทำตัวเองให้ทุกข์ใจมากไปกว่านี้ หญิงสาวหลับตาลงแล้วพยายามนึกไว้อยู่เสมอว่าเขาคือ สามี และจะเป็นไปจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เป็นอิสระหย่าขาดจากกันไป ท้องฟ้าสีสดใสเสียงน้ำไหลเอื่อยตามกระแสกับสามีที่ลอยตัวอยู่ด้านข้าง มีบางครั้งที่ตัวของวิเนตย์จะหลุดออกห่างไป เขาก็จะดึงข้อมือของเธอเอาไว้แทน “นานมากแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำแบบนี้” “ค่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน อยู่กับแม่น้ำทั้งทีกลับไปว่ายแต่ในสระ” หญิงสาวมองดูนักท่องเที่ยวที่มีบางส่วนลากกระเป๋ามารวมกันไว้ตรงแพใหญ่ส่วนกลาง เหมือนกำลังจะเตรียมตัวคืนห้องพักและเดินทางกลับกัน
ตอนที่ : 18 ฮันนีมูนจริง ๆ 2 “หยุด! เอาไว้ที่เดิมเดี๋ยวนี้คุณวาท” คนในอ่างก็ใช่จะยอมลุกยืนตามภรรยาแล้วดึงเสื้อคลุมเก็บไว้ที่เดิม “คุณเก่งนะ คุณรู้ด้วยว่าผมกำลัง...” เขากระซิบชมติดใบหูแล้วหอมแก้มนุ่มๆ เสียฟอดใหญ่ คนถูกหอมก็ผิวเนื้อแดงซ่านไปทั้งตัว วิเนตย์เห็นแล้วก็ครางฮือในลำคอถ้าไม่รู้อายุจริงของหญิงสาว เขาก็คงคิดว่าตัวเองได้เมียเด็กเป็นแน่แท้ เพราะไม่ว่าจะจับจะชิมตรงไหนก็หวานละมุนนุ่มลิ้นไปเสียทุกสัดส่วน กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ก็ร่วมหนึ่งชั่วโมง วิเนตย์เลยต้องโทรศัพท์สั่งให้คนงานนำอาหารมาเสิร์ฟที่ห้องพักแทน ระหว่างนั่งรับประทานมื้อเที่ยงตรงหน้าระเบียง วธุกาก็แทบไม่กล้ามองสบตากับสามีตรงๆ สักครั้ง ความขวยอายก่อเกิดขึ้นเพราะว่าก่อนหน้าในห้องน้ำนั้นเร่าร้อนจนเดือดพล่านกันเลยทีเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าร้อนผ่าวจนปรากฏเด่นชัดออกมาให้สามีได้เห็น
ตอนที่ : 1 กฎของเรา 1กฎของเรา ผู้หญิงอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้วยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรัก ขืนปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปตามธรรมชาติคานทองนิเวศน์คงได้ถามหา วธุกา จึงไม่ลังเลที่จะรับปากแต่งงานทันทีที่มีการสู่ขอเกิดขึ้น สิ่งใดก็แล้วแต่ที่จะทำให้ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่ ได้มีชีวิตครอบครัวแสนอบอุ่นหญิงสาวก็พร้อมจะตัดสินใจเลือกทางนั้นในทันที เว้นเสียแต่กฎบ้าบอคอแตกของเขานั่นแหละที่ทำให้เธอต้องหยุดเพื่อคิดสักนิดหนึ่ง ส่วนเขา วิเนตย์ ชายผู้ฝังความรักไปพร้อมกับภรรยาและลูกน้อยที่เสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อนจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบจึงไม่ต้องการอะไรในชีวิตอีก นอกจากปรารถนาจะปลดปล่อยความรุ่มร้อนในร่างกาย การแต่งงานคือทางออกเดียวของเขา เพื่อจะระบายสิ่งที่เก็บกักเอาไว้ห้าปีเต็มได้อย่างถูกต้อง หลังจากที่ตอบตกลงแต่งงานไปเมื่อวันก่อน วันนี้ตัวแทนจากฝ่ายชายก็เข้ามาพบนางอารตีผู้เป็นป้าของเธอ พร้อมกับการสนทนาที่ใช้เวลานานเกือบหนึ่งชั่วโมง กระดาษแผ่นหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้าของวธุกา หลังจากตัวแทนของฝ่ายชายได้กลับไปแล้ว “อะไรคะค
ตอนที่ : 2 กฎของเรา 2 “คุณยาย วาทไม่ค่อยอยากแต่งงานเลยค่ะ มันแปลกๆ ไงไม่รู้” “อ้าว แล้วกัน ไม่แต่งแล้วจะมีลูกเลี้ยงตอนแก่เหรอยัยวาท เป็นสาวโสดไปชั่วชีวิตมันไม่สนุกหรอกนะ” “วาทเลี้ยงตัวเองได้ค่ะคุณยาย สมัยนี้ผู้หญิงเราเก่งจะตายไปไม่ต้องง้อให้ใครมาเลี้ยงหรอกค่ะ” วธุกาไม่กล้าบอกผู้เป็นยายถึงกฎสามข้อโดยเฉพาะข้อที่สามของวิเนตย์ เกรงว่าท่านจะไม่เห็นด้วยแล้วเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตไป “อย่าคิดแบบนั้นสิวาท อนาคตวาทจะอยู่คนเดียวไปอย่างนั้นเหรอ ถ้าวาทแต่งงานยายก็ยังใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่ามีคนรับไปดูแลแล้ว ดีกว่าอยู่กับยัยตีมีแต่จะถูกโขกสับไปวันๆ ประสาทจะกินอยู่แล้วยายน่ะ มีเรื่องมาให้คิดอยู่ได้ไม่เว้นแต่ละวัน ตั้งแต่สาวยันแก่นิสัยมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย” ยายนวลน้อยพูดแล้วก็ส่ายหน้า เพราะว่าเป็นลูกในไส้ถึงได้รู้เห็นธาตุแท้ของนางอารตีมาตั้งแต่เล็กจนโต “คุณยายว่าวาทควรจะแต่งงานกับคุณวิเนตย์จริงๆ เหรอคะ” หญิงสาวถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ “สมควรที่สุดเลยล่ะวาทเอ๊ย อย่างน้อยๆ ก็จะได้มีสามีเป็นตัวเป็นตนมีคนคอยช่วยเหลือกันในวันข้างหน้า มีลูกคอย
ตอนที่ : 3 คืนวิวาห์2คืนวิวาห์ มหัศจรรย์พันลึกมากสำหรับงานแต่งที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ ก่อนหน้าที่จะมีวันนี้วิเนตย์ไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปหาเธอที่บ้านของยายนวลน้อยเลยแม้แต่วันเดียว วธุกานับหนึ่งถึงสิบทุกครั้งที่อยากจะขอยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้ พอมาคิดถึงเรื่องสินสอดที่ยายนวลน้อยรับมาแล้วก็ทำไม่ลงเลยจริงๆ ภายในงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายแขกเหรื่อก็มีเพียงแค่ญาติสนิทของคู่บ่าวสาวฝั่งละไม่กี่สิบคน ครั้งแรกที่หญิงสาวได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวแบบถนัดตาก็ในวันแต่งงานของตัวเองนี่แหละ อดยอมรับไม่ได้ว่าวิเนตย์เป็นชายไทยแท้ผู้มีใบหน้าเคร่งขรึม แววตาดุดันจนบางครั้งก็น่ากลัวจนเกินไป ตลอดเวลาที่อยู่ภายในงานเขาไม่ชวนเธอพูดสักคำเดียว แม้แต่รอยยิ้มนิดๆ ก็ยังไม่มี นี่มันงานแต่งประเภทไหนกันอยากรู้นัก แต่วธุกาก็มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะรักษาหน้าของทุกคนเอาไว้ ด้วยการนิ่งและเงียบจนกว่าจะได้ฤกษ์เข้าหอ และอยู่ด้วยกันสองต่อสองภายในห้องนอน “คุณเข้าใจกฎเหล็กสามข้อของผมดีหรือยัง” นี่คือคำพูดแรกของเจ้าบ่าวภายในห้องหอ เจ้าสาวคนงามถึงกับถอนหายใจเบาๆ ที่ได้ยิน “เข้าใจค่ะ” อา
ตอนที่ : 4 คืนวิวาห์ 2 “อย่ามาโวยวายใส่ผมนะคุณวาท ผมไม่ชอบผู้หญิงสติไม่ดีที่อะไรนิดอะไรหน่อยก็เอาแต่กรี๊ดๆ ใส่กันแบบนี้ มันน่ารำคาญรู้ไหม” ‘ผู้หญิงสติไม่ดี?’ คนถูกตำหนิอ้าปากเหวอชี้นิ้วใส่ตัวเองแบบอยากจะกระโดดถีบเจ้าบ่าวในคืนเข้าหอเสียเหลือเกิน ‘เย็นไว้วาทๆ’ ได้แต่ท่องสามคำนี้ไว้ในใจ แล้วดวงตาคู่สวยก็ต้องเบิกโตขึ้นเมื่อเจ้าบ่าวของตนเดินตรงดิ่งเข้ามาหา “เดี๋ยว! คุณจะทำอะไร” “ก็คุณช้าผมจะถอดให้เอง” วธุกาถูกดันตัวลงไปนอนอยู่บนเตียงขณะที่เขาจับโน่นพลิกนี่หาบางอย่างอยู่ ไม่ช้าซิปที่ฝังอยู่ด้านหลังชุดก็ปรากฏให้เขาได้รูดลงอย่างง่ายดาย “อย่าดิ้นสิ” เสียงดุไม่ได้ทำให้เจ้าสาวที่กำลังดิ้นหนีไปมาหยุดได้ หนักเข้าเจ้าบ่าวก็เอาเนกไทที่รูดทิ้งเมื่อครู่มามัดมือของหญิงสาวเอาไว้ “คุณวิเนตย์นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอยังไง มามัดฉันทำไม!” “ใครใช้ให้คุณดิ้น” “โธ่...คุณวิเนตย์อย่ามัดฉันสิ แล้วก็อย่าถอดด้วย อะ...อ๊าย!” ไม่ทันแล้วชุดเจ้าสาวถูกถอดออกจากปลายเท้าและหล่นลงไปกองอยู่บนพื้น เหลือเพียงผ้าลูกไม้ชิ้นน้อยแสนบางเบา แค่เหลือบตาขึ้
ตอนที่ : 18 ฮันนีมูนจริง ๆ 2 “หยุด! เอาไว้ที่เดิมเดี๋ยวนี้คุณวาท” คนในอ่างก็ใช่จะยอมลุกยืนตามภรรยาแล้วดึงเสื้อคลุมเก็บไว้ที่เดิม “คุณเก่งนะ คุณรู้ด้วยว่าผมกำลัง...” เขากระซิบชมติดใบหูแล้วหอมแก้มนุ่มๆ เสียฟอดใหญ่ คนถูกหอมก็ผิวเนื้อแดงซ่านไปทั้งตัว วิเนตย์เห็นแล้วก็ครางฮือในลำคอถ้าไม่รู้อายุจริงของหญิงสาว เขาก็คงคิดว่าตัวเองได้เมียเด็กเป็นแน่แท้ เพราะไม่ว่าจะจับจะชิมตรงไหนก็หวานละมุนนุ่มลิ้นไปเสียทุกสัดส่วน กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ก็ร่วมหนึ่งชั่วโมง วิเนตย์เลยต้องโทรศัพท์สั่งให้คนงานนำอาหารมาเสิร์ฟที่ห้องพักแทน ระหว่างนั่งรับประทานมื้อเที่ยงตรงหน้าระเบียง วธุกาก็แทบไม่กล้ามองสบตากับสามีตรงๆ สักครั้ง ความขวยอายก่อเกิดขึ้นเพราะว่าก่อนหน้าในห้องน้ำนั้นเร่าร้อนจนเดือดพล่านกันเลยทีเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งหน้าร้อนผ่าวจนปรากฏเด่นชัดออกมาให้สามีได้เห็น
ตอนที่ : 17 ฮันนีมูนจริง ๆ6ฮันนีมูนจริงๆ ในเมื่อตกปากรับคำกันเป็นมั่นเหมาะแล้ว วธุกาก็ไม่คิดทำตัวเองให้ทุกข์ใจมากไปกว่านี้ หญิงสาวหลับตาลงแล้วพยายามนึกไว้อยู่เสมอว่าเขาคือ สามี และจะเป็นไปจนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เป็นอิสระหย่าขาดจากกันไป ท้องฟ้าสีสดใสเสียงน้ำไหลเอื่อยตามกระแสกับสามีที่ลอยตัวอยู่ด้านข้าง มีบางครั้งที่ตัวของวิเนตย์จะหลุดออกห่างไป เขาก็จะดึงข้อมือของเธอเอาไว้แทน “นานมากแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำแบบนี้” “ค่ะ ฉันเองก็เหมือนกัน อยู่กับแม่น้ำทั้งทีกลับไปว่ายแต่ในสระ” หญิงสาวมองดูนักท่องเที่ยวที่มีบางส่วนลากกระเป๋ามารวมกันไว้ตรงแพใหญ่ส่วนกลาง เหมือนกำลังจะเตรียมตัวคืนห้องพักและเดินทางกลับกัน
ตอนที่ : 16 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 4 “เว่อร์ไปแล้ว อ๊ะ!” วิเนตย์ดึงคนเถียงไม่หยุดเข้ามากอดแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มไปด้วยกัน วธุกาดิ้นขลุกขลักเพียงเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในอ้อมกอดของสามี หัวใจเต้นในจังหวะแรงเร็วด้วยกันทั้งคู่ จนไม่รู้ว่าเป็นเสียงเต้นของใครกันแน่ ชั่วอึดใจหนึ่งฝ่ายสามีก็กดจูบลงบนหน้าผากของภรรยาอย่างนุ่มนวล “ผมขอโทษที่พูดถึงเมียเก่าให้คุณได้ยิน ต่อไปนี้ผมจะไม่หลุดปากแบบนี้อีกแล้วคุณวาท” ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเขาพูดเรื่องนี้ออกมา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แบบคนเผื่อใจเจ็บไว้แล้ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวิเนตย์ ยังไงเสียเขาก็คือเมียคุณส่วนฉันก็แค่...คนอื่น” ขมขื่นอยู่ไม่น้อยที่ต้องเอ่ยคำนี้ออกมา คำว่า คนอื่น “อย่าพูดแบบนี้
ตอนที่ : 15 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 3 วธุกาอ้าปากน้อยๆ เมื่ออีกสองคนก็บ้าจี้ตามเขาไปด้วย เดินตามหลังสามีผ่านจุดบริการลงไปยังทางลงแพ หญิงสาวหันหลังกลับไปมองคนทั้งคู่ พบว่าพวกเขาพากันปิดปากหัวเราะอย่างขำขัน “กลายเป็นตัวตลกไปเลยทั้งคุณและฉัน” มีบ่นลอยๆ อยู่ข้างหลังสามี “มีแต่คนจะอิจฉาล่ะไม่ว่า” “ใครเขาจะมาอิจฉาเรากันล่ะ ไม่มีหรอก” “มีสิ ก็คนที่ยังไม่มีคู่ยังไงล่ะ เอามานี่” วิเนตย์เอื้อมมือมาดึงกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากมือของภรรยา เมื่อเดินมาถึงบันไดไม้ที่วางพาดจากบนฝั่งไปยังบ้านพักบนแพ ซึ่งความชันของมันก็ทำให้เดินได้ลำบากอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าภรรยาจะหิ้วกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้ามาค่อนข้างเยอะจะเดินผ่า
ตอนที่ : 14 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 2 “คุณไม่หนาวเหรอคะ ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวฉันจะได้ปิดคอมพ์” วธุกาเสียงสั่นนิดๆ “ใส่ทำไมเสียเวลา รีบปิดแล้วไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้คุณวาท” เสียงของวิเนตย์เริ่มแข็งขึ้นพร้อมกับสายตาจ้องบังคับ วธุกากลั้นใจกดปุ่ม shut down แล้วปิดเก็บโน้ตบุ๊กของตนเองไว้ หันหลังกลับมาก็ต้องผงะกับภาพของสามีที่กำลังนอนกอดอกรออยู่บนเตียง หญิงสาวแทบเข่าอ่อนทันทีที่ผ้าขนหนูของเขากำลังเปลี่ยนรูปผิดร่างจากปกติตรงจุดยุทธศาสตร์ เหมือนกับว่ามันกำลังพร้อมเสียเหลือเกินสำหรับการออกสมรภูมิรบบนเตียงนอน “คุณวิเนตย์” “หืมว่าไง” “เอ่อ คือว่าฉัน
ตอนที่ : 13 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน5แน่ใจนะว่าฮันนีมูน วธุกาได้ฟังแผนการฮันนีมูนของสามีแล้วก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ พ่อเจ้าประคุณช่างคิดออกมาได้ คนดีๆ ที่ไหนเขาจะทำกันแบบนี้ แผนการฮันนีมูนห้าวันสี่คืนของเขามันช่างน่าประทับใจมาก (อันนี้ประชด) วันที่ 1-2 พักที่ห้องสวีตบนแพ มีอาหารเช้าเย็นให้เป็นแบบบุฟเฟต์ ชมวิวแม่น้ำสวยๆ หรือไม่ก็ใส่เสื้อชูชีพลงไปลอยคออยู่หน้าที่พัก ช่วง 16.00 น. แพก็ลากเราไปไกลจากรีสอร์ตหนึ่งกิโลกว่าๆ แล้วปล่อยให้ลงน้ำลอยคอกลับมาที่พักอย่างสนุกสนาน&nbs
ตอนที่ : 12 หัวใจว้าวุ่น 3 มุมหนึ่งของรีสอร์ตเอกวัสกำลังรายงานสถานการณ์ของเช้านี้ให้เจ้านายฟังเหมือนทุกวัน แต่สายตาของวิเนตย์กลับไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขากำลังบอกเล่าแต่อย่างใด หนุ่มใหญ่ลองเบนสายตาตามก็พบว่าเจ้านายกำลังมองไปยังร่างสมส่วนที่กำลังเดินไปอีกทาง “คุณวิเนตย์...คุณวิเนตย์ครับ” “ว่าไงคุณวัสถึงไหนแล้วครับ” คนรู้ตัวว่ากำลังเหม่อลอยไปอีกทางรีบหันกลับมาแล้วทำหน้าปกติตามเดิม เอกวัสถึงกับอมยิ้มทันทีเพราะนานทีปีหนไม่เคยเห็นวิเนตย์เป็นอย่างนี้มาก่อน “ผมพูดจบแล้วนะครับ” “อะไรกันผมยังฟังไม่หมดเลย คุณพูดใหม่เลยแล้วกัน” ‘อ้าว ก็มัวแต่มองเมียอยู่นั่นแหละ’ เอกวัสค้อนเจ้านายเล็กๆ ก่อนจะเริ่มต้นรายงานสถานการณ์ประจำวันใหม่อีกรอบ วิเนตย์ชอบที่จะฟังจากปากของตนมากกว่าการอ่านจากเอกสารเป็นแผ่นๆ “มีเท่านี้ครับวันนี้ลูกค้าน้อย” “งั้นคุณวัสก็ไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ ผมไม่มีอะไรแล้ว” “ได้ครับ ว่าแต่คุณวิเนตย์จะไปฮันนีมูนวันไหนเหรอครับ ผมจะได้ดูวันพักร้อนของตัวเองไว้ก่อนเผื่อจะแพลนตรงกัน” “ฮั
ตอนที่ : 11 หัวใจว้าวุ่น 2 “ชิมยังไงมันก็มีพลาดกันได้ตลอด ผมเลยต้องเผื่อเอาไว้ไง” “เอาตัวเองเป็นหนูทดลองนี่นะ” “ผมพอใจทำใครจะทำไม” “ใครจะไปทำอะไรเจ้าของรีสอร์ตล่ะคะ ไม่กล้าหรอก” วธุกายุติบทสนทนาด้วยการตักข้าวต้มเข้าปาก ตาก็มองดูการรับประทานอาหารของสามีไปพลาง ๆ มีบ่อยครั้งที่เขามองกลับมาแล้วเธอหลบตาไม่ทัน “อุ๊บ!” ข้าวต้มแทบจะไหลพรวดลงคอแบบไม่ได้กลืน รีบยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มในทันที “เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกคุณวาท ดูซิ เลอะปากไปหมดแล้วนั่น” ความใจดีของสามีก็เผยออกมา ในตอนที่เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกล่อง แล้วเช็ดขอบปากให้อย่างลวกๆ นุ่มนวลเหรอ ฝันไปเถอะ “พอแล้วๆ กะจะต่อยปากกันหรือไงเช็ดแบบนี้” หญิงสาวรีบดึงมือสามีออกแล้วมองค้อนเขาเล็กน้อย “หวังดีแท้ๆ” ‘เก็บไว้ใช้กับตัวเองเถอะคนบ้า’ “คุณวิเนตย์ฉันมีเรื่องจะขอคุณ” วธุกาเขี่ยข้าวต้มในถ้วยไปมาระหว่างบอกเขา “เรื่องอะไร” วิเนตย์ถามกลับทั้งที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่ในปาก ออกจะไร้มารยาทสำหรับวธุกาแต่หญิงสาวกลับไม่ถือสาเขาแ
ตอนที่ : 10 หัวใจว้าวุ่น4หัวใจว้าวุ่น คนถูกกวนตลอดทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบากยากเย็น มือน้อยควานหาสามีด้านข้างก็เจอแต่ความว่างเปล่า วธุกาปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดตอนเช้าก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่ง มองดูพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างและยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าได้กอดใครบางคนมาตลอดทั้งคืน รีบสลัดความคิดนี้ออกจากหัวลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป ชีวิตมันจะอยู่แค่นี้จริงๆ หรือ วธุกาเริ่มตั้งข้อสงสัยให้กับการใช้ชีวิตคู่ของเธอกับเขา เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ายามมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ในกระจกแผ่นใหญ่ตรงหน้า หญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากสวยอวบอิ่มกับดวงตาที่หวานซึ้งรับกับคิ้วโค้งพอเหมาะ ทุกอย่างลงตัวสวยตามฉบับสาวไทย วธุกามีความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม รูปร่างอวบอัดได้สัดส่วน เพราะการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันทำให้รูปร่างยังคงสวยงามอยู่แม้จะมีอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้ว ความจริงแล้วเธอไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้พบผู้ชายคนไหนที่ถูกใจมาก่อนหน้านี้ แต่บทจะพลาดก็ง่ายดายเหลือเกิน หญิงสาวมองโทรศัพท์มือถือแล