“ก็ถูกใช้งานหนักนี่ร่างกายเลยอ่อนแรง” อีกคนก็บ่นไปกินไปด้วย ได้ยินแล้วแทนที่จะโกรธแต่ชายหนุ่มกลับระบายรอยยิ้มเต็มใบหน้า ดูๆ ไปภรรยาของเขาก็น่ารักน่าเอ็นดูอยู่ไม่น้อย นึกว่าเขาจะต้องเจอกับผู้หญิงที่เอาแต่ปั้นหน้าเป็นผู้ใหญ่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา แต่ผิดคาดเหมือนกับว่าเขาได้ย้อนเวลากลับไปอยู่ในสมัยหนุ่มๆ อีกครั้ง ได้ต่อปากต่อคำหยอกเย้ากันบ้างบางเวลา
“คุณวิเนตย์! เอ่อ เสื้อผ้าฉันไม่ต้องก็ได้ค่ะ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วฉันเก็บเอง คุณก็มากินข้าวได้แล้ววางไว้นั่นแหละค่ะ” คนถูกห้ามเสียงดังรีบก้มลงมองผ้าชิ้นน้อยในมือ ดวงตาคู่คมเบิกโตอย่างตกใจรีบปล่อยบิกินีสีแดงเพลิงลงพื้นในทันที
“ผมเผลอไปนึกว่าของตัวเอง” แล้วเดินไปนั่งข้างๆ กับภรรยา ซึ่งตอนนี้จิกตามองเขา เหมือนกำลังต่อว่าเรื่องทิ้งบิกินีของตัวเองอย่างไม่แยแส
“ทำไมมองแบบนั้นล่ะ ผมไม่ได้ตั้งใจแล้วก็ไม่เก็บให้ด้วยไปเก็บเองเลย”
“ก็แค่บิกินีทำอย่างกับว่ามันน่ารังเกียจนักหนา ทำของเขาหล่นแล้วยังไม่เก็บอีก...เก็บเองก็ได้” วธุกาหน้างอหงิกลุกขึ้นยืน แต่กลับถูกสามีฉุดข้อมือเอาไว้เสียก่อน
“นั่งลง” เขาบอกเสียงแข็ง ก่อนจะฉุดหญิงสาวให้นั่งลงตรงที่เดิม แล้วเป็นฝ่ายเดินไปหยิบบิกินีทั้งสองชิ้นขึ้นแขวนไว้บนราวด้วยตัวเอง วิเนตย์เดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเองตวัดตาดุใส่ภรรยาเล็กน้อย
“พอใจหรือยัง”
‘แฮ่ ก็แค่แหย่เล่นๆ’ วธุกาไม่คิดว่าเขาจะจริงจังแบบนี้ ถึงกับทำหน้าไม่ถูกขยับปากเม้มเข้าออกอยู่สองสามที ก่อนจะกล้าเอ่ยคำว่า
“ขอบคุณค่ะ”
“กินข้าวได้แล้วคุณวาท วันนี้คุณอยากไปไหนก็บอกได้นะ เผลอแป๊บๆ ก็ผ่านมาสามวันแล้วเร็วจริงๆ” เขาพูดจบก็ตักข้าวใส่ปากไปด้วย
“ก็ไหนคุณบอกว่าอยากเอ่อ...” หญิงสาวหยุดเหมือนคิดว่าสมควรจะพูดดีไหม
“อยากอะไร” เขายิ้มล้อเหมือนรู้ความคิดของภรรยา
“อยากอยู่แค่ในห้องพักเฉยๆ ไง” วธุกาสะบัดเสียงใส่นิดๆ ยังจำคำพูดและการกระทำของเขาได้เป็นอย่างดี ยิ่งรอยจูบแดงๆ ตรงคอของเธอด้วยยิ่งตอกย้ำให้เห็นอย่างเด่นชัด จนต้องหาผ้าพันคอผืนน้อยมาพันปิดเอาไว้ และเพิ่งแกะออกตอนเดินเข้าห้องมา
“คุณก็ชอบใช่ไหมกับการที่เราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันภายในห้องแค่สองคน” วิเนตย์ก้มมองคนที่ก้มหน้าเอาช้อนเขี่ยข้าวในจานเล่น
“ก็ไม่ได้ชอบ แต่ก็ดีกว่าอยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนคุย” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองเขา วิเนตย์เพิ่งสังเกตเห็นว่าภรรยาของตนมีลักยิ้มตรงมุมปากขวาเล็กๆ ริมฝีปากอิ่มเอิบน่าจูบเม้มเข้าออกเหมือนคนกำลังอยากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมเอ่ยมันออกมาเสียที
“มีอะไรอีกหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ คุณก็กินข้าวเถอะ ฉันว่าจะว่ายน้ำเล่นสักหน่อย”
“เที่ยงแบบนี้นี่นะคุณไม่กลัวดำเหรอคุณวาท ผมไม่ชอบผู้หญิงผิวคล้ำนะบอกไว้ก่อน ผมชอบขาวๆ อวบๆ” เขาพูดมาถึงตรงนี้ก็เป็นอันต้องหยุด เมื่อถูกสายตาของอีกคนจ้องมองมาเขม็งแล้วแบะปากใส่
“ทำอย่างกับตัวเองขาวตายเลย” นึกแล้วไม่มีผิดเขาเผลอพูดออกไปให้วธุกาได้ตอกหน้าจนหงายหลัง
“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมดูถูกคนผิวดำล่ะ ผมแค่อยากจะบอกว่าผมชอบผิวสีแบบคุณนี่ขาวอมเลือดฝาดเหมือนผิววัยรุ่นสาวๆ เลย ขืนลงไปในสระกลางแดดเปรี้ยงๆ แบบนี้ก็คล้ำหมดน่ะสิ” ชายผู้มีผิวสีแทนรีบแก้ต่างให้ตัวเอง แต่สิ่งที่วิเนตย์ได้รับกลับคืนมาคือความเงียบของภรรยาตลอดการรับประทานมื้อเที่ยง พออิ่มแล้ววธุกาก็เปลี่ยนเป็นชุดบิกินีกระโดดลงน้ำไปต่อหน้าต่อตาของเขาในทันที ไม่แม้แต่จะฟังเสียงห้ามปรามก่อนหน้าแม้แต่น้อย
‘นี่ใช่ไหมที่เขาว่า ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ คุณวาทนะคุณวาท’
แม้ในใจจะนึกตำหนิคนที่เพิ่งกระโดดลงสระว่ายน้ำไปเมื่อครู่นี้ แต่หัวใจของคนเป็นสามีก็เต้นแรงผิดปกติอยู่เหมือนกัน เนื่องจากสัดส่วนของภรรยานั้นช่างเย้ายวนสายตาเหลือเกิน ยิ่งเรียวขาสวยๆ ขาวๆ นั่นยิ่งน่าลูบ...หันซ้ายมองขวาว่าจะมีพนักงานผ่านมาทางนี้หรือไม่ โชคดีที่ไม่มีแต่ก็ใช่ว่าจะไว้วางใจได้ รีบกดโทรศัพท์มือถือหาเอกวัสเป็นการด่วน
“คุณวิเนตย์มีอะไรหรือเปล่าครับ ตอนนี้รีสอร์ตปกติดีทุกวันนะครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงฮันนีมูนต่อให้มีความสุขได้เลยครับ” ยังไม่ทันจะได้เอ่ยบอกอะไรปลายสายก็ทักทายเสียงดังฟังชัดอย่างรู้งาน
“ใครว่าผมจะถามคุณเรื่องงาน”
“เอ่อ ถ้างั้นเรื่องอะไรครับ” เอกวัสเสียงอ่อนลงเมื่อรู้ว่ากำลังถูกเจ้านายตำหนิกลายๆ
“ผมจะให้คุณไปสั่งคนงานทุกคนว่าสองวันนี้ห้ามเดินมาโซนห้องพักพูลแอคเซสเป็นอันขาด ยังไงก็ไม่มีลูกค้าอยู่แล้วใช่ไหมผมดูในข้อมูลแล้วไม่มีการจองสองวันนี้เลย”
“ครับไม่มีเลยครับ ห้องพักบนแพก็ไม่เต็มเหมือนกัน ว่าแต่ถึงกับห้ามเดินไปเลยเหรอครับมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ แล้วแม่บ้านที่จะไปเก็บชุดมาซักหรือพนักงานที่จะเอาอาหารไปให้ล่ะครับ” เอกวัสสงสัยขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ นึกได้ว่าทั้งคู่กำลังฮันนีมูนกันอยู่ คงไม่อยากให้ใครเข้าไปรบกวนเวลาส่วนตัว
“อันนั้นข้อยกเว้น แต่คนอื่นห้ามเด็ดขาดเข้าใจไหม” ยิ่งเสียงเครียดๆ เป็นการย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งทำให้ผู้จัดการหนุ่มใหญ่ร้องอ๋อในใจทันที
“เข้าใจครับ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่าครับแหย่เท้าไปสักหน่อยก็ไม่ได้เลยเหรอครับคุณวิเนตย์”
“ไม่ได้! ผมสั่งคุณก็ทำๆ ไปเถอะ” เอ่ยเสร็จก็รีบเลื่อนหน้าจอตัดสายทิ้งเมื่อรู้ว่าปลายทางคงระแคะระคายบ้าง ถึงได้มีน้ำเสียงเย้าแหย่ตัวเองเล่น แล้วใครจะกล้าบอกล่ะว่ากลัวคนเห็นภรรยาตัวเองใส่ชุดนุ่งน้อยห่มน้อยแหวกว่ายอยู่ในสระว่ายน้ำ คนอื่นห้ามมองนอกจากเขาคนเดียว
‘ไม่ได้หวง แต่มันไม่เหมาะสมที่จะให้คนอื่นดู’ พยายามคิดให้ตัวเองแลดูปกติมากที่สุดหันหลังมาอีกทีภรรยาคนดีคนเก่งคนชอบขัดคำสั่งก็กลายเป็นมัจฉาแหวกว่ายไปมาอย่างสำราญใจ ผิวเนื้อขาวผ่องก็สะท้อนกลางแสงแดดตัดกับสีแดงของบิกินีสีแดงเพลิง ทำเอาคนยืนมองแสบหูแสบตาและแสบไปถึงหัวใจ รีบจัดการกับอาหารบนโต๊ะแล้วสวมกางเกงว่ายน้ำตามภรรยาลงไปในสระว่ายน้ำ
ตอนที่ : 20 ฮันนีมูนจริง ๆ 4 วธุกาเห็นสามีลงน้ำมาหญิงสาวก็จ้วงว่ายเข้ามาหาตรงบันไดปูนทางลง ซึ่งด้านหน้าของห้องจะเป็นแบบเปิดโล่งเดินลงสระว่ายน้ำได้เลย มองออกไปก็จะเป็นวิวของภูเขาและต้นไม้ที่ขึ้นหนาตา มองเห็นหลังคาของห้องพักบนแพแต่ไม่สามารถมองเห็นถึงแม่น้ำที่ไหลผ่านได้ ด้วยเหตุนี้นี่เองจึงทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้ามาพักที่นี่ในวันธรรมดา แต่สำหรับวธุกาแล้วเธอคิดว่าบรรยากาศที่นี่ก็ไม่เลวเหมือนกัน ออกจะสะดวกสบายไปเสียทุกอย่าง เงียบสงบไม่มีเสียงคนอื่นกระโดดน้ำตูมๆ เหมือนบ้านพักบนแพ “ผมกะว่าจะลงน้ำกันตอนค่ำๆ แต่คุณชิงลงเสียตอนเที่ยงกว่าๆ เลย” วิเนตย์พูดกับภรรยาที่ว่ายน้ำเข้ามาเกาะขอบบันไดซึ่งเป็นปูนหยาบสามชั้น “ไม่เห็นเป็นไรนี่คะว่ายตอนค่ำๆ อีกรอบก็ได้ ฉันสบายมาก ดีกว่าอยู่ในห้องเฉยๆ” เป็นไปได้เธออยากจะว่ายทั้งวันทั้งคืนจะได้ไม่ต้องเอาแต่ขลุกอ
ตอนที่ : 21 ฮันนีมูนจริง ๆ 5 วธุกาทำหน้าเซ็งถ้าเคยเป็นแฟนกันมาก่อนคงจะคิดเข้าข้างตัวเองได้ว่าเขาหึงหวงอย่างแน่นอน แต่ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาในตอนนี้คงไม่อาจคิดเป็นอื่นไปได้นอกจากเขาจะหวงก้างเท่านั้นเอง แหวกว่ายไปมาอยู่ในสระว่ายน้ำได้เพียงสิบห้านาที สามีของเธอก็เข้ามาประชิดตัวแทบไม่ห่าง “ทำไมไม่สิงร่างฉันเลยล่ะ” อดไม่ได้ที่จะประชดคนที่นัวเนียหนุบหนับอยู่ตลอดเวลา “ก็ตัวคุณนุ่มน่าจับไปหมด” “คุณเล่นมากอดฉันแบบนี้แล้วฉันจะเล่นน้ำยังไง” ปากบ่นเขาแต่มือก็ไม่ได้ผลักไสออกแต่อย่างใด “ก็เล่นด้วยกันนี่แหละคุณไปไหนผมไปด้วย ให้ขี่หลังด้วยนะใจดีสุดๆ” วิเนตย์หันหลังให้ภรรยาขี่หลังอย่างที่พูดจริงๆ วธุ
ตอนที่ : 22 ฮันนีมูนจริง ๆ 6 “เอ่อ คุณวัสค่ะ แกบอกว่ามื้อพิเศษเลยต้องจัดให้พิเศษหน่อย อ้อ มีไวน์ด้วยนะคะ” น้ำเพลินเดินออกไปนอกห้อง เปิดลิ้นชักรถเข็นแล้วหยิบขวดไวน์กับแก้วออกมาสองใบ “ฝากขอบคุณคุณวัสด้วยแล้วกัน” “ได้ค่ะ เพลินจะบอกให้นะคะ” น้ำเพลินยิ้มแฉ่งเพราะคิดว่าจะถูกตำหนิเพราะทำเกินหน้าที่ “ไปได้แล้ว” “ค่ะ” “โรแมนติกมากแต่ผมไม่จุดเทียนนะคุณวาท มองไม่เห็นกับข้าวเดี๋ยวก้างปลาติดคอ” วธุกามองค้อนสามีที่หยิบเทียนไขออกไปวางอีกทางหนึ่ง เดินไปหย่อนตัวฝั่งด้านข้างกับสามี มองดูอาหารมื้อพิเศษแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่
ตอนที่ : 23 ชีวิตคู่กับงาน7ชีวิตคู่กับงาน หลังจากวันฮันนีมูนผ่านพ้นไปแล้ว วธุกาก็ช่วยเหลืองานของสามีอย่างเต็มความสามารถของเธอ ให้การต้อนรับลูกค้าไม่ว่าจะไทยหรือเทศ หญิงสาวก็พร้อมให้บริการด้วยรอยยิ้มเสมอ จนเป็นที่คุ้นชินต่อสายตาของทุกคนภายในวิเนตย์ธารารีสอร์ตแห่งนี้ “ผมเพิ่งรู้ว่ารอยยิ้มของคุณวาททำให้ลูกค้าเขาจากอารมณ์บูดๆ เปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีขึ้นมาได้ เก่งจริงๆ” เอกวัสชื่นชมภรรยาเจ้านายซึ่งกำลังรับมือกับชาวต่างชาติ ที่กำลังอารมณ์เสียจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องพักไม่เย็น และระหว่างที่ช่างเข้าไปซ่อมหญิงสาวก็เข้าไปขอโทษพร้อมกับนำน้ำผลไม้เย็นๆ ไปให้ดื่มระหว่างรออีกต่างหาก “หน้าหม้อล่ะไม่ว่า” สายตาของวิเนตย
ตอนที่ : 24 ชีวิตคู่กับงาน 2 หญิงสาวแกล้งหลับกระทั่งสามีเดินออกจากห้องน้ำมา เขาสวมใส่เสื้อผ้าแล้วเดินมาหอมแก้มของเธออีกครั้งก่อนออกจากห้องไป วธุกาสะบัดผ้าห่มแล้วย่องตามเขาไปเงียบๆ แง้มประตูเพียงเล็กน้อยแล้วเลือกที่จะเดินไปยังห้องที่เขาเพิ่งเปิดประตูเข้าไป หญิงสาวเจ็บแปลบทุกครั้งที่รู้ว่าเขายังเดินเข้าไปทักทายภรรยาและลูกสาวที่จากไป แต่ก็ต้องฝืนปั้นหน้ายิ้มให้เขาในแต่ละวัน เธอไม่มีสิทธิ์ไปแตะต้องอดีตของเขา ไม่มีเลยจริงๆ ด้วยความอยากรู้ว่าเขาเข้ามาทำอะไรในห้องนี้ทุกๆ วัน จังหวะก็ช่างพอเหมาะเมื่อเขาไม่ได้ปิดประตูให้สนิท หญิงสาวแนบแผ่นหลังตรงข้างประตูห้องแล้วเงี่ยหูฟังว่าคนด้านในกำลังทำอะไรอยู่ “ว่าไงจ๊ะน้องเพียงหลับสบายดีไหม วันนี้พ่อหลับสบายมากเลยลูก” เสียงของคนด้านในดังแว่วเบาๆ ให้คนตรงประตูห้องได้ยิน 
ตอนที่ : 25 ที่ระบาย8ที่ระบาย ช่วงบ่ายวธุกาก็ขออนุญาตสามีไปหาเพื่อน โดยไม่ได้บอกเขาไว้ล่วงหน้าว่าให้นนท์นทีมารับถึงที่นี่ วิเนตย์เคืองทันทีที่ได้เห็นรถของนนท์นทีแล่นเข้ามาจอดภายในรีสอร์ต คิดไว้ว่าภรรยาจะให้เขาไปส่งที่โน่นเสียอีก แต่เพื่อมิตรภาพที่เพิ่งจะผูกสัมพันธ์ไปหยกๆ เมื่อเช้านี้ เขาจึงต้องพยายามเก็บกดอาการไม่พอใจเอาไว้ข้างใน “สวัสดีครับคุณวิเนตย์ แล้วยัยวาทอยู่ไหนล่ะครับ” นนท์นทีเดินเข้ามายกมือขึ้นไหว้เจ้าของบ้านตามมารยาท สายตาก็เหลียวหาเพื่อนตนเองไปด้วย “สวัสดีครับคุณนนท์นที เดี๋ยวให้คนไปตามให้นะครับ เชิญนั่งก่อนสิครับ” วิเนตย์ฝืนยิ้มให้เพื่อนของภรรยา ผายมือให้นั่งลงตรงเก้าอี้เสียก่อน 
ตอนที่ : 26 ที่ระบาย 2 การได้ว่ายน้ำเพื่อปลดปล่อยพลังงานไม่อาจทำให้วธุกาคลายความรู้สึกกังวลใจลงได้ แต่อย่างน้อยๆ ก็ทำให้เธออยู่ห่างกับเขาได้สักพักใหญ่ๆ สี่โมงเย็นกว่าๆ หญิงสาวก็ขอให้นนท์นทีไปส่งที่รีสอร์ตเหมือนตอนมา เดินผ่านจุดบริการก็เห็นเอกวัสกำลังเช็กเอกสารกับศิรดาอยู่ “อ้าวคุณวาทกลับมาแล้วเหรอครับ” หนุ่มใหญ่ส่งเอกสารในมือคืนศิรดาแล้วหันมาทักทายภรรยาของเจ้านาย “ค่ะคุณวัส” อีกคนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเนือยๆ “เอ่อ ผมมีอะไรจะถามนิดหนึ่งทางนี้ครับคุณวาท” เอกวัสพูดเหมือนมีลับลมคมใน รีบเดินนำหน้าไปตรงมุมลับสายตาผู้คน&n
ตอนที่ : 27 ที่ระบาย 3 วิเนตย์คอยดูแลหญิงสาวกระทั่งกินยาแล้วขึ้นเตียงนอนอีกรอบ ยังคงนอนเอนหลังอยู่ข้างๆ เพื่อรอดูว่าวธุกาจะมีอาการไข้ขึ้นมาอีกหรือเปล่า “ต้องกินยาอีกสี่ชั่วโมงนะ ผมกลัวคุณหลับแล้วไม่ตื่น” “ไข้ขึ้นแค่นี้คงไม่ต้องกินอีกก็ได้มั้งคะ” “ไม่ได้หรอก นอนเถอะเดี๋ยวได้เวลาแล้วผมปลุกเอง” “แล้วคุณจะนอนอยู่แบบนี้กับฉันเหรอคะ” หญิงสาวถามคนที่นอนใช้ศอกค้ำศีรษะตัวเองเอาไว้ แล้วจ้องต่ำมองตัวเธอที่แทบจะอยู่ในอ้อมกอดของเขาอีกที “นอนเถอะ” เขายิ้มนิดๆ ยกมือขึ้นลูบต้
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ
ตอนที่ : 55 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 3 หญิงสาวไม่อาจเห็นได้ว่าคุณหมอกับนางพยาบาลทำอะไรกับร่างกายของเธอ เพราะว่ามีผ้าคลุมกั้นไว้ไม่ให้มองเห็น แต่ว่าคำพูดของพวกเขาเหล่านั้นดังชัดเจนในความรู้สึก ถูกสั่งให้เบ่งคลอดเหมือนเบ่งอุจจาระ คิดแล้วก็ยังงงไม่หายมันเหมือนกันตรงไหน มือไม้เย็นเฉียบทั้งที่เครื่องปรับอากาศนั้นเปิดเบาๆ เบ่งไปก็เจ็บไป จนรู้สึกได้ว่าท่อนล่างชาไปหมดแล้วในตอนนี้ แต่แล้วคุณหมอก็เปล่งเสียงตื่นเต้นออกมา “หัวออกมาแล้วค่ะคุณแม่! ออกแรงเบ่งครั้งสุดท้ายเลยค่ะ เอ้าเบ่ง! อือ...อึ๊บ!” พรวด!!! รู้สึกเหมือนเธอจะได้ยินเสียงแบบนี้ จากนั้นความเจ็บทั้งมวลก็หายไป สิ่งแรกที่รับรู้ได้คือ โล่ง สักพักนางพยาบาลก็นำเจ้าตัวเล็กมาพร้อมเผยให้เห็นเพศอย่างชัดเจน “ผู้หญิงน
ตอนที่ : 54 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 2 ‘ยัยวาทแกจะไปซื้อของไว้ก่อนคลอดทำไม โบราณเขาถือ’ ผู้เป็นป้าบอกไว้เสียน่ากลัวในวันที่เธอไปเยี่ยมลูกชายของอรตี แต่มีหรือเธอจะไม่เตรียมของไว้ก่อน เพราะพอเข้าห้องคลอดไปแล้วใครจะไปซื้อของให้ลูก สามีของเธอก็ใช่ว่าจะเลือกของพวกนี้เป็นเลยทีเดียว คนเป็นแม่หาข้อมูลไว้เรียบร้อยและเตรียมพร้อมเสมอ เลือกเสื้อผ้าผ้าอ้อมในลวดลายที่เป็นกลางใส่ได้ทั้งชายและหญิง จากนั้นพอคลอดเสร็จแล้วค่อยไปเลือกซื้อใหม่อีกรอบ พอถึงเวลานี้จริงๆ จึงสะดวกและรวดเร็วมาก วิเนตย์สั่งงานเอกวัสเอาไว้พร้อมกับบอกว่าตัวเขาอาจจะอยู่โรงพยาบาลไปเลยหากวธุกาคลอดจริง จากนั้นก็พาภรรยาขึ้นรถขับไปโรงพยาบาลในตัวเมืองทันที ระหว่างทางคนท้องก็ไม่ได้มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด “คุณแน่ใจนะว่ามูกเลือดจริงๆ คุณวาท”&
ตอนที่ : 53 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ20ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ พอเริ่มเข้าเดือนที่แปดวธุกาก็น้ำหนักพุ่งพรวดจาก 48 กิโลกรัมช่วงก่อนท้อง มาเป็น 60 กิโลกรัมในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งคู่รอที่จะลุ้นเพศของลูกตอนคลอดเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะหญิงหรือชายพวกเขาก็รักไม่ต่างกัน ส่วนคนกำลังจะเป็นพ่อก็เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี คอยเตือนให้ภรรยานับช่วงเวลาที่ลูกดิ้นตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด หลังจากได้รับสมุดตารางบันทึกการดิ้นของทารกเอาไว้ในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าทารกที่อยู่ในครรภ์ยังปกติดีหรือเปล่า หากผิดปกติก็จะได้ไปพบหมอได้ทันเวลา “หลังกินข้าวเจ้าตัวเล็กดิ้นไปกี่ครั้งแล้วคุณวาท” วิเนตย์เดินเข้ามาถามหลังจากภรรยาเพิ่งรับประทานมื้อเที่ยงไปหมาดๆ คนท้องเลยหันไปหยิบสมุดตา