หญิงสาวไม่มีวันทำใจได้หรอกในเรื่องนี้ ในเมื่อเขาไม่ให้ยุ่งงานในบ้าน แต่ให้ออกนอกบ้านไปได้ เรื่องอะไรที่เธอจะอยู่ให้ชอกช้ำใจ วธุกาไม่มีรถขับ แต่หญิงสาวก็ยังมีเพื่อนสนิทที่พอจะขับรถมารับถึงรีสอร์ตแห่งนี้ได้เหมือนกัน
“แกออกมากับฉันแบบนี้คุณวิเนตย์เขาจะไม่โกรธเอาเหรอ เพิ่งแต่งงานเองนะ” นนท์นทีเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนประถมเอ่ยขึ้นระหว่างที่ขับรถพาวธุกาออกจากวิเนตย์ธารารีสอร์ตไป
“เขาคงไม่โกรธแกหรอกนนท์อย่าคิดมาก ฉันอยากหาที่สงบๆ พักสมองเสียหน่อย ขอฉันไปนอนที่รีสอร์ตของแกนะ”
“ยัยวาท แกพูดอะไรออกมา กลับไปนอนที่บ้านยายนวลน้อยยังจะดีเสียกว่ามานอนกับฉันนะ ฉันเป็นผู้ชายนะถึงจะเคยแก้ผ้าเล่นน้ำมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้ฉันโตเป็นผู้ชายเต็มตัวที่สำคัญหล่อมากด้วย”
“พอๆ เลิกบรรยายสรรพคุณตัวเองให้ฉันฟังได้แล้ว ฉันไม่ได้จะไปนอนกับแกแต่ไปนอนที่รีสอร์ตแก ขืนกลับไปบ้านนะมีแต่คำถามจากคุณป้าให้ปวดหัวหนักกว่าเดิมอีก”
“แหมเล่นคำซะด้วย เอาละๆ ฉันให้แกไปพักผ่อนได้ ค่ำๆ จะกลับไปส่งที่บ้านคุณวิเนตย์ แต่ไม่ให้ค้างคืนไม่อยากเป็นมือที่สามทำลายครอบครัวคนอื่น”
“แกไม่รู้อะไรแกไม่เข้าใจหรอกนนท์” วธุกายังไม่พร้อมจะบอกเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้เป็นเพื่อนได้รับฟัง หญิงสาวแค่อยากหลบไปพักหัวใจที่มันอ่อนล้าเหลือกำลังในยามนี้
“เอาไว้แกพร้อมเมื่อไหร่ค่อยอธิบายให้ฉันเข้าใจก็แล้วกัน” เห็นเพื่อนรักมีสีหน้าไม่สบายใจนนท์นทีก็ไม่อยากเซ้าซี้มากไปกว่านี้
“ขอบใจแกนะนนท์ที่เข้าใจ”
หญิงสาวใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการว่ายน้ำที่รีสอร์ตของนนท์นที โดยขอยืมชุดว่ายน้ำน้องสาวของเพื่อนสนิทมาสวมใส่ ซึ่งเจ้าของชุดตอนนี้ได้แต่งงานย้ายออกไปอยู่กับครอบครัวสามีในกรุงเทพฯ ได้หลายปีแล้ว เป็นหนทางระบายความเครียดอีกช่องทางหนึ่งของวธุกา
“จะว่ายน้ำเอาโล่หรือไงยัยวาท” นนท์นทีตะโกนถามเพื่อนรักอยู่ข้างสระว่ายน้ำ หลังจากเห็นหญิงสาวจ้วงว่ายแบบไม่คิดชีวิตเสียหลายรอบ คนในสระเลยหันทิศทางการว่ายกลับเข้าฝั่งแล้วขึ้นมานั่งอยู่บนเก้าอี้ริมสระด้านข้างเพื่อนชาย
“ฉันปวดหัวว่ะนนท์ แต่งงานทั้งทีกลับเจอสามีบ้าๆ อย่างคุณวิเนตย์ จะหย่าก็ไม่ได้ต้องรออีกหนึ่งปี” พูดไปพร้อมกับหยิบผ้าขนหนูมาซับเนื้อตัวไปด้วย
“ทำไมต้องปีหนึ่ง งง เดือนสองเดือนก็พอมั้ง”
“ไม่ได้หรอกปัจจัยมันมีเยอะทั้งฉันและเขา”
“มีอย่างนี้ด้วย”
“ฉันเพิ่งเข้าใจคำโบราณที่ว่า เลือกผัวผิดคิดจนตัวตาย ก็งานนี้แหละ”
“ขนาดนั้นเชียว ฉันก็บอกแล้วว่าให้ดูดีๆ นี่อะไรพอเขามาขอปุ๊บก็ตกลงแต่งปั๊บ มันก็ต้องมีบ้างที่ไม่เข้าใจกันเป็นธรรมดา ดูอย่างฉันสิยังไม่มีคู่ก็ยังอยู่ได้” แม้วธุกาไม่ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง แต่นนท์นทีก็พอจะเดาได้ว่าชีวิตคู่ของเพื่อนรักคงไม่ได้มีความสุขมากเท่าที่ควร
“ก็แกมีบ้านมีรีสอร์ตของตัวเอง ผิดกับฉันที่เป็นแค่ผู้อาศัยและกำลังจะถูกเจ้าของในอนาคตไล่ออกจากบ้านยังไงล่ะ”
“จะอะไรก็แล้วแต่แกก็แต่งงานกับคุณวิเนตย์ไปแล้ว ยังไงก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าเขาเป็นสามี วันนี้อาจจะไม่ได้รักกันแต่วันข้างหน้าก็ไม่แน่หรอก มีเวลาตั้งหนึ่งปีนะวาททำให้ผู้ชายสักคนรักฉันว่ามันน่าลองนะ”
“ทำให้ผู้ชายสักคนรัก พูดง่ายแต่ถ้าแกได้เห็นหน้าเขาจะพูดไม่ออกเลยทีเดียว”
“นอนเตียงเดียวกันทุกคืน มันต้องมีใจอ่อนบ้างแหละวาท” พูดถึงตรงนี้วธุกาก็เจ็บใจจี๊ดๆ ขึ้นมา
“เขายังรักเมียเก่าเขาอยู่อันนี้เขาพูดชัดเจนมาก ฉันไม่มีวันแทรกเข้าไปในหัวใจของเขาได้หรอกนนท์” นนท์นทีได้ยินแล้วก็ยื่นมือออกไปแตะหัวไหล่เพื่อนสาว
“พูดจาน่าสงสารมากคุณเพื่อนรัก อดทนไว้นะสักวันเขาต้องเห็นความดีของแกบ้างล่ะ”
“ฉันไม่ต้องการให้เขาเห็นความดีหรอกนนท์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องการอะไร มัน... เฮ้อ! งงว่ะนนท์ ตัวเองยังไม่รู้เลยว่าต้องการอะไรจากเขา แล้วจะไปทำอะไรได้วะ” หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าให้กับความรู้สึกของตัวเอง
“แกจะต้องการอะไรวาทก็แค่อยากหนีให้พ้นป้ามหาประลัยหรือไม่ก็อยากมีครอบครัวมีลูกน่ารักๆ แกเคยพูดบ่อยๆ ใช่ไหม ว่าแกอายุขนาดนี้ถ้าท้องก็อยู่ในวัยเสี่ยงเข้าไปแล้ว แกอยากมีครอบครัวมีลูกนั่นแหละที่แกเคยฝันเอาไว้ เพียงแต่มันคลาดเคลื่อนไปหน่อย”
“ครอบครัว ลูก สองสิ่งนี้นี่แหละที่เขาไม่ต้องการ มันเศร้าเนอะแต่ดูเหมือนแกจะเข้าใจฉันมากกว่าตัวฉันเองอีกนะนนท์” หญิงสาวมองเพื่อนอย่างซาบซึ้งใจ
“แน่นอนก็ฉันเพื่อนแก”
“ขอบใจนะที่ให้ฉันมาว่ายน้ำแก้เครียด แต่เดี๋ยวก็ต้องกลับไปทำหน้าที่เมียบนเตียงของเขาต่อ” ประชดไปเขาก็ไม่รับรู้อยู่ดี
“จ้า แม่เมียบำเรอสวาทจอมอสูรร้าย”
“เหมาะมากชื่อนี้” วธุกาชี้นิ้วใส่เพื่อนแล้วหัวเราะขื่นๆ ให้ตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วกระโดดลงสระว่ายน้ำไป อีกสักสิบรอบเธอถึงจะกลับขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ววานให้นนท์นทีขับรถไปส่งที่วิเนตย์ธารารีสอร์ต
รถของนนท์นทีแล่นเข้ามาจอดช่วงหกโมงเย็น มีหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบสองซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้จัดการของที่นี่ยืนอยู่ตรงจุดบริการ หันมามองทั้งคู่ที่กำลังโบกมืออำลากัน
“ไปไหนมาครับคุณวาท คุณวิเนตย์ถามหาใหญ่เลย” เอกวัสยิ้มให้ภรรยาของเจ้านาย ก่อนจะปรายตามองไปยังรถคันที่เพิ่งแล่นออกไปอย่างสงสัย
“ไปบ้านเพื่อนค่ะ”
“เหรอครับ อ้อ คุณวิเนตย์นั่งรออยู่ที่บ้านนะครับ”
“รอฉันเหรอคะ” หญิงสาวชี้นิ้วใส่ตัวเองแบบงงๆ แต่ก็อดตื่นเต้นนิดๆ ไม่ได้ที่สามีมีปฏิกิริยาต่อการหายไปของเธอ
“ครับบอกว่าถ้าเห็นคุณมา ก็ให้ไปหาอย่างเร่งด่วนเลยครับ เห็นตามหามาตั้งแต่ตอนเที่ยงกว่าๆ แล้ว”
“เร่งด่วน ท่าจะเรื่องใหญ่นะคะ” วธุกาทำตาโตเหมือนกับได้ยินเรื่องราวน่าตกใจ
“อันนี้ต้องลองเข้าไปดูเองนะครับ ปกติผมเองก็ไม่เคยเห็นคุณวิเนตย์เป็นอย่างนี้มาก่อนเหมือนกัน”
“ทำไมคะ อ้อ คุณชื่ออะไรนะคะฉันยังไม่รู้จักเลย เสียมารยาทจริงๆ” หญิงสาวเพิ่งนึกได้จึงรีบถาม ยอมรับว่าเคยเห็นหน้าค่าตาเขามาก่อนแต่ไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันจริงๆ
“ผมชื่อเอกวัสครับเป็นผู้จัดการที่นี่ เรียกคุณวัสเฉยๆ ก็ได้ครับคุณวาท” ส่วนอีกคนดูเหมือนจะรู้จักภรรยาเจ้านายเป็นอย่างดี
“ผู้จัดการคนเก่งของวิเนตย์ธารานี่เอง งั้นฉันไปหาคุณวิเนตย์ก่อนนะคะ สงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากพบเมียคนนี้นักหนา” วธุกาคิดไม่ออกว่าตัวเองจะต้องเผชิญหน้ากับเขาแบบไหน รีบสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เหมือนกำลังต้องการทำใจก่อนจะเดินเข้าไปในบริเวณบ้าน
“พี่วัสเจ้านายเราเป็นอะไรไปพี่ วันนี้ทั้งวันหงุดหงิดหัวเสียตลอดเลย เพิ่งแต่งงานได้วันเดียวแท้ๆ หน้างี้อยากจะหนีให้ไกลๆ เลย” ศิรดาเกาะขอบเคาน์เตอร์ถามเอกวัสเมื่อวธุกาเดินพ้นสายตาไป
“ไม่รู้สิดา พี่ว่านะสงสัยจะหาเมียไม่เจอเลยอารมณ์เสีย”
“ไม่จริงหรอก ตอนกลางวันยังพ่นไฟใส่คุณวาทอยู่เลย หาว่ายุ่งกับงานของแก คุณวิเนตย์นี่ก็แปลกเนอะ มีเมียแต่ไม่ให้เมียยุ่งกับงานของตัวเอง”
“ไม่ต้องแปลกใจหรอกดา เจ้านายเราเขาต้องการแค่เมีย” เอกวัสพูดแล้วก็อมยิ้มเดินจากไปอย่างเงียบๆ
“ต้องการแค่เมีย ทำไมต้องมีคำว่าแค่ด้วยพี่วัสบ้าหรือเปล่าเนี่ย” ศิรดามองตามหลังไปอย่างไม่เข้าใจ
ตอนที่ : 9 ชีวิตคู่หรือคี่ดี 4 ส่วนวธุกาที่กำลังจะเดินเข้าไปในบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ของสามี หญิงสาวมองเห็นเขานั่งอยู่ตรงระเบียงสายตามองเหม่อลงไปยังแม่น้ำด้านล่าง ที่มีบ้านพักบนแพของลูกค้าเรียงรายอยู่นับแปดสิบห้อง หญิงสาวเดินเงียบๆ ตรงไปหาเขาจนได้ระยะใกล้พอสมควร “คุณวัสบอกว่าคุณอยากเจอฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ” ถามพร้อมกับเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับสามี เขาผินหน้าดุๆ กลับมามอง สายตาจ้องเขม็งราวกับเธอไปทำเรื่องผิดอะไรมา “อะไรคะ” ถูกจ้องแบบไม่ละสายตาแบบนี้วธุกาเองก็เริ่มใจคอไม่ดีเท่าไหร่ ‘คนบ้าอะไรหน้าตาดุชะมัด’ “คุณหายไปไหนมาทั้งวัน รู้ไหมผมถามใครก็ไม่มีใครรู้” นั่นปะไรสิ่งที่เขาต้องการหาเรื่องเธอ หญิงสาวกลอ
ตอนที่ : 10 หัวใจว้าวุ่น4หัวใจว้าวุ่น คนถูกกวนตลอดทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างลำบากยากเย็น มือน้อยควานหาสามีด้านข้างก็เจอแต่ความว่างเปล่า วธุกาปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดตอนเช้าก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่ง มองดูพื้นที่ว่างเปล่าด้านข้างและยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าได้กอดใครบางคนมาตลอดทั้งคืน รีบสลัดความคิดนี้ออกจากหัวลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป ชีวิตมันจะอยู่แค่นี้จริงๆ หรือ วธุกาเริ่มตั้งข้อสงสัยให้กับการใช้ชีวิตคู่ของเธอกับเขา เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่ายามมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ในกระจกแผ่นใหญ่ตรงหน้า หญิงสาวผู้มีใบหน้ารูปไข่ริมฝีปากสวยอวบอิ่มกับดวงตาที่หวานซึ้งรับกับคิ้วโค้งพอเหมาะ ทุกอย่างลงตัวสวยตามฉบับสาวไทย วธุกามีความสูง 165 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม รูปร่างอวบอัดได้สัดส่วน เพราะการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอในแต่ละวันทำให้รูปร่างยังคงสวยงามอยู่แม้จะมีอายุสามสิบห้าปีเข้าไปแล้ว ความจริงแล้วเธอไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่เลย เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้พบผู้ชายคนไหนที่ถูกใจมาก่อนหน้านี้ แต่บทจะพลาดก็ง่ายดายเหลือเกิน หญิงสาวมองโทรศัพท์มือถือแล
ตอนที่ : 11 หัวใจว้าวุ่น 2 “ชิมยังไงมันก็มีพลาดกันได้ตลอด ผมเลยต้องเผื่อเอาไว้ไง” “เอาตัวเองเป็นหนูทดลองนี่นะ” “ผมพอใจทำใครจะทำไม” “ใครจะไปทำอะไรเจ้าของรีสอร์ตล่ะคะ ไม่กล้าหรอก” วธุกายุติบทสนทนาด้วยการตักข้าวต้มเข้าปาก ตาก็มองดูการรับประทานอาหารของสามีไปพลาง ๆ มีบ่อยครั้งที่เขามองกลับมาแล้วเธอหลบตาไม่ทัน “อุ๊บ!” ข้าวต้มแทบจะไหลพรวดลงคอแบบไม่ได้กลืน รีบยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มในทันที “เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกคุณวาท ดูซิ เลอะปากไปหมดแล้วนั่น” ความใจดีของสามีก็เผยออกมา ในตอนที่เขาหยิบกระดาษทิชชูออกมาจากกล่อง แล้วเช็ดขอบปากให้อย่างลวกๆ นุ่มนวลเหรอ ฝันไปเถอะ “พอแล้วๆ กะจะต่อยปากกันหรือไงเช็ดแบบนี้” หญิงสาวรีบดึงมือสามีออกแล้วมองค้อนเขาเล็กน้อย “หวังดีแท้ๆ” ‘เก็บไว้ใช้กับตัวเองเถอะคนบ้า’ “คุณวิเนตย์ฉันมีเรื่องจะขอคุณ” วธุกาเขี่ยข้าวต้มในถ้วยไปมาระหว่างบอกเขา “เรื่องอะไร” วิเนตย์ถามกลับทั้งที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่ในปาก ออกจะไร้มารยาทสำหรับวธุกาแต่หญิงสาวกลับไม่ถือสาเขาแ
ตอนที่ : 12 หัวใจว้าวุ่น 3 มุมหนึ่งของรีสอร์ตเอกวัสกำลังรายงานสถานการณ์ของเช้านี้ให้เจ้านายฟังเหมือนทุกวัน แต่สายตาของวิเนตย์กลับไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขากำลังบอกเล่าแต่อย่างใด หนุ่มใหญ่ลองเบนสายตาตามก็พบว่าเจ้านายกำลังมองไปยังร่างสมส่วนที่กำลังเดินไปอีกทาง “คุณวิเนตย์...คุณวิเนตย์ครับ” “ว่าไงคุณวัสถึงไหนแล้วครับ” คนรู้ตัวว่ากำลังเหม่อลอยไปอีกทางรีบหันกลับมาแล้วทำหน้าปกติตามเดิม เอกวัสถึงกับอมยิ้มทันทีเพราะนานทีปีหนไม่เคยเห็นวิเนตย์เป็นอย่างนี้มาก่อน “ผมพูดจบแล้วนะครับ” “อะไรกันผมยังฟังไม่หมดเลย คุณพูดใหม่เลยแล้วกัน” ‘อ้าว ก็มัวแต่มองเมียอยู่นั่นแหละ’ เอกวัสค้อนเจ้านายเล็กๆ ก่อนจะเริ่มต้นรายงานสถานการณ์ประจำวันใหม่อีกรอบ วิเนตย์ชอบที่จะฟังจากปากของตนมากกว่าการอ่านจากเอกสารเป็นแผ่นๆ “มีเท่านี้ครับวันนี้ลูกค้าน้อย” “งั้นคุณวัสก็ไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ ผมไม่มีอะไรแล้ว” “ได้ครับ ว่าแต่คุณวิเนตย์จะไปฮันนีมูนวันไหนเหรอครับ ผมจะได้ดูวันพักร้อนของตัวเองไว้ก่อนเผื่อจะแพลนตรงกัน” “ฮั
ตอนที่ : 13 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน5แน่ใจนะว่าฮันนีมูน วธุกาได้ฟังแผนการฮันนีมูนของสามีแล้วก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ พ่อเจ้าประคุณช่างคิดออกมาได้ คนดีๆ ที่ไหนเขาจะทำกันแบบนี้ แผนการฮันนีมูนห้าวันสี่คืนของเขามันช่างน่าประทับใจมาก (อันนี้ประชด) วันที่ 1-2 พักที่ห้องสวีตบนแพ มีอาหารเช้าเย็นให้เป็นแบบบุฟเฟต์ ชมวิวแม่น้ำสวยๆ หรือไม่ก็ใส่เสื้อชูชีพลงไปลอยคออยู่หน้าที่พัก ช่วง 16.00 น. แพก็ลากเราไปไกลจากรีสอร์ตหนึ่งกิโลกว่าๆ แล้วปล่อยให้ลงน้ำลอยคอกลับมาที่พักอย่างสนุกสนาน&nbs
ตอนที่ : 14 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 2 “คุณไม่หนาวเหรอคะ ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเดี๋ยวฉันจะได้ปิดคอมพ์” วธุกาเสียงสั่นนิดๆ “ใส่ทำไมเสียเวลา รีบปิดแล้วไปขึ้นเตียงเดี๋ยวนี้คุณวาท” เสียงของวิเนตย์เริ่มแข็งขึ้นพร้อมกับสายตาจ้องบังคับ วธุกากลั้นใจกดปุ่ม shut down แล้วปิดเก็บโน้ตบุ๊กของตนเองไว้ หันหลังกลับมาก็ต้องผงะกับภาพของสามีที่กำลังนอนกอดอกรออยู่บนเตียง หญิงสาวแทบเข่าอ่อนทันทีที่ผ้าขนหนูของเขากำลังเปลี่ยนรูปผิดร่างจากปกติตรงจุดยุทธศาสตร์ เหมือนกับว่ามันกำลังพร้อมเสียเหลือเกินสำหรับการออกสมรภูมิรบบนเตียงนอน “คุณวิเนตย์” “หืมว่าไง” “เอ่อ คือว่าฉัน
ตอนที่ : 15 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 3 วธุกาอ้าปากน้อยๆ เมื่ออีกสองคนก็บ้าจี้ตามเขาไปด้วย เดินตามหลังสามีผ่านจุดบริการลงไปยังทางลงแพ หญิงสาวหันหลังกลับไปมองคนทั้งคู่ พบว่าพวกเขาพากันปิดปากหัวเราะอย่างขำขัน “กลายเป็นตัวตลกไปเลยทั้งคุณและฉัน” มีบ่นลอยๆ อยู่ข้างหลังสามี “มีแต่คนจะอิจฉาล่ะไม่ว่า” “ใครเขาจะมาอิจฉาเรากันล่ะ ไม่มีหรอก” “มีสิ ก็คนที่ยังไม่มีคู่ยังไงล่ะ เอามานี่” วิเนตย์เอื้อมมือมาดึงกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากมือของภรรยา เมื่อเดินมาถึงบันไดไม้ที่วางพาดจากบนฝั่งไปยังบ้านพักบนแพ ซึ่งความชันของมันก็ทำให้เดินได้ลำบากอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าภรรยาจะหิ้วกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้ามาค่อนข้างเยอะจะเดินผ่า
ตอนที่ : 16 แน่ใจนะว่าฮันนีมูน 4 “เว่อร์ไปแล้ว อ๊ะ!” วิเนตย์ดึงคนเถียงไม่หยุดเข้ามากอดแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มไปด้วยกัน วธุกาดิ้นขลุกขลักเพียงเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในอ้อมกอดของสามี หัวใจเต้นในจังหวะแรงเร็วด้วยกันทั้งคู่ จนไม่รู้ว่าเป็นเสียงเต้นของใครกันแน่ ชั่วอึดใจหนึ่งฝ่ายสามีก็กดจูบลงบนหน้าผากของภรรยาอย่างนุ่มนวล “ผมขอโทษที่พูดถึงเมียเก่าให้คุณได้ยิน ต่อไปนี้ผมจะไม่หลุดปากแบบนี้อีกแล้วคุณวาท” ดวงตาคู่สวยกะพริบถี่ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้ยินเขาพูดเรื่องนี้ออกมา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แบบคนเผื่อใจเจ็บไว้แล้ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวิเนตย์ ยังไงเสียเขาก็คือเมียคุณส่วนฉันก็แค่...คนอื่น” ขมขื่นอยู่ไม่น้อยที่ต้องเอ่ยคำนี้ออกมา คำว่า คนอื่น “อย่าพูดแบบนี้
ตอนที่ : 61 แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ (จบ)23แวมสกาว ดวงใจของพ่อแม่ แวมสกาวสาวน้อยในวัยสี่ขวบกลายเป็นขวัญใจของทุกคน เด็กน้อยโตขึ้นมากับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินเหตุ หรือว่าเป็นที่ตัวเด็กเองที่ชอบการรับประทานอาหารเป็นที่สุดก็ไม่รู้ จึงทำให้กลายเป็นเด็กตัวอ้วนปุ๊กลุกเกินกว่าปกติ วธุกาเองก็ตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่าวาทตามความต้องการของสามี ในขณะเดียวกันก็เรียกเขาสั้นๆ ว่าคุณเนตย์เหมือนกัน วันนี้วธุกาได้พาลูกสาวไปเยี่ยมเยียนนนท์นทีตั้งแต่ช่วงสายแล้ว เที่ยงนี้วิเนตย์จึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง หลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็เดินเข้าไปในห้องรับแขก เพื่อที่จะเอนหลังตรงโซฟา แต่แล้วสายตาของชายหนุ่มก็มองไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะในห้องร
ตอนที่ : 60 ปล่อยวาง 3 วธุกาเปลี่ยนชุดเป็นบิกินีสีแดงเพลิง เป็นชุดเดียวกับที่เคยใส่ตอนฮันนีมูนครั้งแรก ส่วนสามีของเธอก็เดินไปปิดม่านตรงหน้าบ้านพักไม่ให้คนข้างนอกมองผ่านเข้ามาได้ ปิดไฟตรงหน้าบ้านให้เหลือเพียงโคมสลัวๆ แสงนวลตา ในบ้านหากลูกร้องก็สามารถได้ยินเสียงได้เช่นเดียวกัน เมื่อพร้อมเสร็จสรรพทุกสิ่งอย่าง ภรรยาคนงามก็เดินลงไปแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก มีน้ำผลไม้วางไว้บนขอบสระพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มของสามี มองเห็นเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วแล้วหัวใจของภรรยาอย่างเธอก็เต้นแรง “กินเบียร์ก่อนไหมคุณวิเนตย์ มีของว่างด้วยนะคะ” พยายามเบี่ยงความสนใจไปที่เครื่องดื่มและของว่าง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาเสียเลย เพราะเขาเดินลงสระว่ายน้ำและตรงดิ่งมาหาเธอในทันที
ตอนที่ : 59 ปล่อยวาง 2 “อยากไหม จูบน่ะ” เจอคำถามจี้ใจดำกับสายตาประกายหยาดเยิ้ม วธุกาเลยต้องก้มหน้าลงต่ำจนปากนุ่มแตะกับริมฝีปากหนาของสามี เพียงเท่านั้นท้ายทอยของเธอก็ถูกเขารั้งเอาไว้แน่น แล้วแทรกชิวหาอุ่นซ่านเข้าหาอย่างรวดเร็ว จูบของเขาช่างหอมหวานละมุนละไม อ่อนนุ่มนาบเนิบตามความปรารถนา เนิ่นนานพอสมควรก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน ริมฝีปากของวธุกามันวับจนเขาต้องยกมือขึ้นเช็ดป้ายให้“หวานมากคุณวาท”“ปากคนนะคะไม่ใช่น้ำตาล” “เอางี้ดีไหมคุณวาท ครั้งนี้ถือว่าเรามาฮันนีมูนกันรอบสองดีไหม บรรยากาศให้ด้วยดูสิท้องฟ้าสีสวย ทะเลก็แสนงาม มีหาดทรายสีขาวนวลพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ให้นึกถึงวันที่เราฮันนีมูนกันคุณว่าไหม” “จะดีเหรอคะ” 
ตอนที่ : 58 ปล่อยวาง22ปล่อยวาง สองเดือนหลังจากนั้นวธุกาก็ได้รับข่าวร้าย บิดาของเธอได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งไม่ได้มีการแจ้งอาการป่วยของท่านมาก่อนหน้านี้ แต่มีโทรศัพท์มาที่บ้านยายนวลน้อยในวันที่ท่านเสียไปแล้ว นางอารตีบ่นแล้วบ่นอีกเพราะบิดาของวธุกาไม่เคยติดต่อมาถามไถ่ข่าวคราวลูกสาวเลย แต่พอเสียชีวิตลงฝ่ายภรรยาใหม่ก็โทรศัพท์มาบอกเสียอย่างนั้น “ไม่ตายก็ไม่โทรมานะคะคุณแม่ นึกว่าลืมเบอร์โทรไปแล้วที่ไหนได้... แสดงว่าตั้งใจทอดทิ้งยัยวาทชัดๆ” “เขาเป็นพ่อลูกกัน แกก็จะอะไรนักหนายัยตี”&
ตอนที่ : 57 ผลผลิตจากการขโมย 2 “มิน่าล่ะ ผมก็สงสัยทำไมคืนนั้นเมียผมถึงได้เร่าร้อนนักนะ รุกผมทั้งคืนเลย ที่ไหนได้ก็มีแผนอันพิลึกพิลั่นแบบนี้นี่เอง” เขาโคลงตัวไปมาเบาๆ พร้อมกับขำในเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต “ก็ต้องโทษคุณนั่นแหละที่ไม่ยอมมีลูกกับฉันเอง ก็เลยต้องใช้เล่ห์กลอุบายกันบ้าง มีเท่าไหร่ก็งัดใส่ทั้งหมด ดูซิ เคยอ่อยใครที่ไหนล่ะ แล้วยังจะทำเรื่องแบบนั้นอีก ไม่ด้านพอทำไม่ได้นะนั่น” หญิงสาวประชดประชันตัวเองไปพร้อม ดันตัวออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะได้มองสบสายตากับเขาได้ถนัด “ผมขอเดานะว่าความคิดนี้คุณนนท์นทีต้องมีส่วนร่วมด้วยใช่ไหม ลำพังคุณคงไม่คิดได้ประหลาดขนาดนี้” “ก็พูดไปนั่น ความจริงฉันตั้งใจจะไปขออสุจิที่โรงพยาบาล แต่นนท์เขาแนะ
ตอนที่ : 56 ผลผลิตจากการขโมย21ผลผลิตจากการขโมย เสียงร้องไห้กระซิกๆ ของคนที่อยู่หลังโต๊ะตรงจุดบริการ ทำให้วธุกาต้องชะโงกหน้าเข้าไปมองด้วยความสงสัย พบประชาสัมพันธ์สาวสวยของวิเนตย์ธารารีสอร์ตกำกระดาษทิชชูเพื่อซับคราบน้ำตาอยู่ ท่าทางเหมือนคนกำลังเสียอกเสียใจอย่างรุนแรง “ดาเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” วธุการีบเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้จักศิรดามาหญิงสาวก็ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ “ฮะ...ฮึก ฮือ คุณวาท ฮือๆ” คนร้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่อีกคน “แล้วกัน ยิ่งร้องใหญ่เ
ตอนที่ : 55 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 3 หญิงสาวไม่อาจเห็นได้ว่าคุณหมอกับนางพยาบาลทำอะไรกับร่างกายของเธอ เพราะว่ามีผ้าคลุมกั้นไว้ไม่ให้มองเห็น แต่ว่าคำพูดของพวกเขาเหล่านั้นดังชัดเจนในความรู้สึก ถูกสั่งให้เบ่งคลอดเหมือนเบ่งอุจจาระ คิดแล้วก็ยังงงไม่หายมันเหมือนกันตรงไหน มือไม้เย็นเฉียบทั้งที่เครื่องปรับอากาศนั้นเปิดเบาๆ เบ่งไปก็เจ็บไป จนรู้สึกได้ว่าท่อนล่างชาไปหมดแล้วในตอนนี้ แต่แล้วคุณหมอก็เปล่งเสียงตื่นเต้นออกมา “หัวออกมาแล้วค่ะคุณแม่! ออกแรงเบ่งครั้งสุดท้ายเลยค่ะ เอ้าเบ่ง! อือ...อึ๊บ!” พรวด!!! รู้สึกเหมือนเธอจะได้ยินเสียงแบบนี้ จากนั้นความเจ็บทั้งมวลก็หายไป สิ่งแรกที่รับรู้ได้คือ โล่ง สักพักนางพยาบาลก็นำเจ้าตัวเล็กมาพร้อมเผยให้เห็นเพศอย่างชัดเจน “ผู้หญิงน
ตอนที่ : 54 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ 2 ‘ยัยวาทแกจะไปซื้อของไว้ก่อนคลอดทำไม โบราณเขาถือ’ ผู้เป็นป้าบอกไว้เสียน่ากลัวในวันที่เธอไปเยี่ยมลูกชายของอรตี แต่มีหรือเธอจะไม่เตรียมของไว้ก่อน เพราะพอเข้าห้องคลอดไปแล้วใครจะไปซื้อของให้ลูก สามีของเธอก็ใช่ว่าจะเลือกของพวกนี้เป็นเลยทีเดียว คนเป็นแม่หาข้อมูลไว้เรียบร้อยและเตรียมพร้อมเสมอ เลือกเสื้อผ้าผ้าอ้อมในลวดลายที่เป็นกลางใส่ได้ทั้งชายและหญิง จากนั้นพอคลอดเสร็จแล้วค่อยไปเลือกซื้อใหม่อีกรอบ พอถึงเวลานี้จริงๆ จึงสะดวกและรวดเร็วมาก วิเนตย์สั่งงานเอกวัสเอาไว้พร้อมกับบอกว่าตัวเขาอาจจะอยู่โรงพยาบาลไปเลยหากวธุกาคลอดจริง จากนั้นก็พาภรรยาขึ้นรถขับไปโรงพยาบาลในตัวเมืองทันที ระหว่างทางคนท้องก็ไม่ได้มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด “คุณแน่ใจนะว่ามูกเลือดจริงๆ คุณวาท”&
ตอนที่ : 53 ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ20ภารกิจของคุณแม่กับคุณพ่อ พอเริ่มเข้าเดือนที่แปดวธุกาก็น้ำหนักพุ่งพรวดจาก 48 กิโลกรัมช่วงก่อนท้อง มาเป็น 60 กิโลกรัมในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ทั้งคู่รอที่จะลุ้นเพศของลูกตอนคลอดเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะหญิงหรือชายพวกเขาก็รักไม่ต่างกัน ส่วนคนกำลังจะเป็นพ่อก็เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี คอยเตือนให้ภรรยานับช่วงเวลาที่ลูกดิ้นตามคำสั่งของคุณหมออย่างเคร่งครัด หลังจากได้รับสมุดตารางบันทึกการดิ้นของทารกเอาไว้ในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าทารกที่อยู่ในครรภ์ยังปกติดีหรือเปล่า หากผิดปกติก็จะได้ไปพบหมอได้ทันเวลา “หลังกินข้าวเจ้าตัวเล็กดิ้นไปกี่ครั้งแล้วคุณวาท” วิเนตย์เดินเข้ามาถามหลังจากภรรยาเพิ่งรับประทานมื้อเที่ยงไปหมาดๆ คนท้องเลยหันไปหยิบสมุดตา